51 ตอน ผ่านมาได้แล้ว
โดย Beloved_Moouan
“ทำไมครับ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไม” อิฐถามออกมาเสียงดังพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มไหลรินออกมา ตอนนี้เค้าแทบจะคลุ้มคลั่งตายแล้ว สวรรค์จะทดสอบความรักเค้าไปจนถึงไหนกัน อิฐได้แต่คร่ำครวญอยู่ในใจ
.
.
“ไอ้อิฐมึงให้ลุงหมอเค้าได้ทำหน้าที่ก่อนเว้ย มึงอย่าเพิ่งถามอะไรตอนนี้” ดินรีบเดินมาล็อกคออิฐเอาไว้เมื่อเห็นว่าอิฐเริ่มที่จะสติหลุดไปแล้ว ดินพาอิฐมาหยุดยืนอยู่ข้างๆกันกับวายุเผื่อว่ารุ่นน้องของเค้านั้นเกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมาวายุจะได้ช่วยได้อีกแรง
ระหว่างที่นายแพทย์คณินกำลังทำการรักษาให้กับข้าวปั้นด้วยการช็อกหัวใจด้วยไฟฟ้าอยู่นั้นทุกคนต่างก็ลุ้นและเอาใจช่วยอย่างใจที่จดจ่อ โดยที่อิฐ ฟ้าคราม ออกัส เบล วาริ และสายน้ำ นั้นต่างก็ร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ด้วยความสงสารคนที่ยังนอนไม่ฟื้นอยู่บนเตียง
จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงลุงหมอก็ถอดแผ่นนำไฟฟ้าออกจากตัวของข้าวปั้นเมื่อเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจบ่งบอกว่าหัวใจของข้าวปั้นนั้นกลับมาเต้นเป็นปกติดีแล้ว
“น้องเป็นยังไงบ้างครับ” อิฐที่เห็นดังนั้นรีบเดินเข้าไปถามทันทีพร้อมกับรีบเช็ดน้ำตาของตัวเองออกไปด้วย
“คนไข้ปลอดภัยแล้วนะไม่ต้องห่วงไม่มีอะไรแล้ว แต่ระหว่างนี้ลุงยังคงต้องใช้เครื่องวัดการเต้นของหัวใจให้กับคนไข้อยู่อาจจะถึงแค่พรุ่งนี้เช้าถ้าไม่มีอะไรผิดปกติ แล้วก็คนไข้อาจจะยังไม่ฟื้นในเวลานี้อาจจะเป็นพรุ่งนี้เช้าเลยก็เป็นได้” นายแพทย์คณินหันมาบอกกับอิฐ
“แล้วทำไมน้องถึงได้หัวใจเต้นเร็วผิดปกติได้ล่ะครับคุณลุง” ไฟถามลุงหมอของตัวเองขึ้นมาด้วยความสงสัย
“มันก็เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุนะ เช่น อาจจะเพราะตอนผ่าตัดเสียเลือดมากเกินไป หรือเลือดขึ้นไปเลี้ยงหัวใจไม่พอ แล้วก็ความวิตกกังวลความเครียดที่คนไข้มีก่อนผ่าตัดก็มีส่วนหากคนไข้มีมากจนเกินไป” นายแพทย์คณินอธิบายให้ทุกคนได้ฟังเพียงคร่าวๆซึ่งทุกคนก็พยักหน้าเป็นอันรับรู้ อิฐเองก็ถึงกับหน้าเศร้าลงทันทีนี่เองสินะที่น้องบอกเค้าตั้งแต่ก่อนเข้าห้องผ่าตัดว่ากลัว
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วลุงขอตัวก่อนนะมีอะไรก็โทรหาลุงได้ตลอดลุงพักอยู่ชั้นบนนี่เอง ไม่มีอะไรแล้วทำใจให้สบายนะอย่าเครียด” นายแพทย์คณินบอกกับไฟและหันมาบอกกับอิฐพร้อมกับยกมือขึ้นมาตบที่ไหล่เบาๆเป็นการปลอบ อิฐก็ได้แต่ยกมือไหว้ขอบคุณแต่ตาก็ยังคงมองไปที่เครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจแทบจะไม่กะพริบตาเลยทีเดียว
หลังจากที่ลุงหมอออกไปแล้ว ทุกคนก็พากันพูดปลอบใจอิฐและอยู่เป็นเพื่อนกันอยู่นานจนถึงเวลาประมาณสามทุ่มกว่าจึงขอตัวกลับไปที่โรงแรมที่พัก เพราะจะให้ค้างด้วยกันที่นี่ทั้งหมดก็คงจะไม่ได้ ในห้องจึงเหลือแค่ไฟ ดินและอิฐที่อยู่เฝ้าคนป่วย
“ไอ้อิฐมึงนอนพักบ้างสิวะ” ดินที่ตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำตอนตี 3 แต่ว่าเห็นว่าอิฐนั้นยังคงนั่งจ้องไปที่เครื่องอยู่อย่างนั้นตั้งแต่ลุงหมอออกไปแล้วจึงบอกรุ่นน้องขึ้นมา
“ผมนอนไม่หลับน่ะเฮียผมกลัว” อิฐบอกกับดินไปตามตรงหลังจากที่เค้านั้นนั่งจ้องตัวตัวเลขที่เครื่องผ่านมาเกือบจะสิบชั่วโมงแล้วโดยที่ไม่ยอมลุกไปไหนเลย เค้ากลัวว่าถ้าเกิดเค้าเผลอหลับไปและหัวใจของข้าวปั้นเกิดเต้นผิดเร็วผิดปกติขึ้นมาอีก เค้าอาจจะไม่ได้เจอน้องอีกก็เป็นได้ ดังนั้นเค้าจะไม่ยอมพลาดอะไรอีกแล้วทั้งนั้น
“มึงไปนอนไปเดี๋ยวกูดูน้องให้เอง” ดินเดินมาตบที่ไหล่ของอิฐเบาๆและขันอาสาที่จะช่วยดูข้าวปั้นให้เอง
“ไม่เป็นไร เฮียไปนอนเถอะผมยังไหว ขอบใจเฮียมากนะ” อิฐบอกกับดินไปแต่ก็ยังไม่ยอมละสายตาไปจากหน้าจอของเครื่องอยู่ดี
“ไอ้อิฐมึงอย่าดื้อเดี๋ยวกูกับไอ้ดินดูน้องให้เอง คนเรามันต้องนอนเว้ยมึงจะมานั่งอยู่อย่างนี้ได้ยังไง หรือว่ามึงไม่ไว้ใจพวกกู” ไฟที่ได้ยินเสียงคนคุยกันเบาๆจึงลุกขึ้นมาดู และก็ทันที่จะได้ยินที่ดินคุยกับอิฐ
“ไม่ใช่อย่างนั้นเฮีย ผมแค่…………..”
“กูสั่งให้มึงไปนอนไอ้อิฐ เดี๋ยวนี้” ไฟพูดเสียงดุขึ้นมาแต่ก็ไม่ดังมากนักพร้อมกับจ้องมาที่อิฐเขม็งจนอิฐเองก็ยังนึกกลัว เพราะไม่ค่อยได้เห็นไฟเป็นแบบนี้สักเท่าไหร่ส่วนมากไฟนั้นจะเป็นติดขี้เล่นซะมากกว่า
“งั้นผมฝากดูน้องด้วยนะเฮีย ถ้ามีอะไรต้องรีบปลุกผมเลยนะ” อิฐจำต้องเดินไปนอนที่โซฟาแต่โดยดีเมื่อเห็นว่าไฟนั้นยังคงจ้องมาที่ตัวเองไม่เลิก โดยที่ไม่ยอมเข้าไปนอนในห้องของญาติที่ถูกแยกไว้ต่างหาก ไฟกับดินเองก็ถึงกับส่ายหน้าให้กับความดื้อของรุ่นน้องคนนี้
“แล้วแม่งก็ยังดื้อ มึงดูดิ” ดินบอกกับไฟให้หันไปดูเมื่อเห็นว่าอิฐนั้นหลับไปแล้วในเวลาไม่ถึง 5 นาทีเลยด้วยซ้ำเมื่อหัวถึงหมอน
“มึงกับกูโคตรโชคดีเลยที่ไม่ต้องมาเจออะไรแบบมัน ถ้าเป็นกูกูต้องคลั่งตายแน่เลยว่ะ” อยู่ๆไฟก็พูดขึ้นมาหลังจากที่นั่งกันไปได้สักพักและมองไปยังออกัสที่นอนอยู่เตียงริมสุดด้านใน
“อือ...ถ้าเป็นกูกูก็ไม่รู้ว่าจะควบคุมอารมณ์ตัวเองได้แบบมันรึเปล่า เฮ้อ!!” ดินพูดเห็นด้วยกับไฟและมองไปที่ฟ้าครามที่นอนหลับอยู่
“น้องปั้น ไอ้ไฟมึงรินน้ำไว้ให้น้องทีดิ๊” ดินพูดออกมาด้วยความดีใจที่เห็นว่าข้าวปั้นนั้นลืมตาขึ้นมาหลังจากที่เค้ากับไฟนั่งคุยกันไปเรื่อยๆด้วยเสียงที่ไม่ดังมากนัก เพราะกลัวว่าจะกวนคนที่นอนหลับอยู่
“น้องปั้นรู้สึกยังไงบ้างครับ เจ็บตรงไหนรึเปล่า ตรงหัวใจล่ะเจ็บมั้ยครับ” ดินถามข้าวปั้นขึ้นมารัวๆเมื่อเห็นว่าข้าวปั้นลืมตาขึ้นมาได้สักพักแล้วแต่ก็ยังดูงงๆอยู่
“ไอ้ดินมึงอย่าเพิ่งถามให้น้องกินน้ำก่อน” ไฟรีบเบรกดินทันทีเมื่อเห็นว่าเพื่อนตัวเองนั้นถามข้าวปั้นออกไปเป็นชุด
“เออๆโทษทีว่ะกูตื่นเต้นไปหน่อย กูดีใจแทนไอ้อิฐมัน” ดินบอกกับไฟและหันไปรับแก้วน้ำจากไฟมาไว้ในมือ
“เดี๋ยวน้องปั้นดื่มน้ำสักหน่อยนะครับ” ดินพูดพร้อมกับจ่อหลอดไปที่ปากของข้าวปั้นและช่วยยกหัวของข้าวปั้นขึ้นมานิดหน่อย ข้าวปั้นเองก็ยอมดูดน้ำจากหลอดแต่โดยดี
“พี่อิฐล่ะครับ” ข้าวปั้นถามหาอิฐทันทีที่ดื่มน้ำเสร็จพร้อมกับมองหาไปด้วยแต่ก็ไม่เห็น เพราะลำพังแค่ดินกับไฟก็บังตรงที่อิฐนอนอยู่จนมิดแล้ว
“พี่เพิ่งไล่มันไปนอนเมื่อกี๊น่ะ มันไม่ยอมนอนเลยตั้งแต่ที่น้องปั้นผ่าตัดเสร็จ” ไฟพูดบอกข้าวปั้นออกมาพร้อมกับเบี่ยงตัวให้ข้าวปั้นได้เห็นอิฐที่นอนหลับสนิทและลึกอยู่บนโซฟา
“นี่ปั้นเพิ่งตื่นเหรอครับตั้งแต่ผ่าตัด” ข้าวปั้นถามออกมาแต่สายตาก็ยังคงจับจ้องอยู่ที่หน้าของคนรักที่นอนหลับสนิทไม่รู้เรื่องอยู่
“น้องปั้นมีอาการหัวใจเต้นเร็วผิดปกติครับ ลุงหมอเลยต้องช่วยโดยการช็อกหัวใจด้วยไฟฟ้า หัวใจถึงได้กลับมาเต้นเป็นปกติได้ ไอ้อิฐนี่แทบจะคลั่งตายเลยล่ะครับ พอหลังจากนั้นมันก็ไม่ยอมลุกไปไหนเลยมัวแต่นั่งจ้องตัวเลขบนเครื่อง พวกพี่เห็นว่ามันไม่น่าจะไหวเลยไล่ให้มันไปนอนอย่างที่เห็นนี่แหละ น้องปั้นเองก็ทำใจให้สบายนะมันไม่มีอะไรแล้วเราก็ผ่านมันมาได้แล้ว ที่อาการของน้องปั้นเป็นแบบนี้ลุงหมอบอกว่าอาจจะมีส่วนที่น้องปั้นเครียดแล้วก็กังวลมากเกินไปก็เป็นได้ ถ้าน้องปั้นทำใจให้สบายไม่คิดอะไรมากร่างกายของเราก็จะแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆตามสภาพจิตใจของเราเอง” ดินบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ข้าวปั้นฟังก่อนที่จะพูดปลอบและพูดให้กำลังใจไปด้วย พร้อมกับมือใหญ่ที่ลูบไปที่ผมของข้าวปั้นอย่างเอ็นดู
“ปั้นเข้าใจแล้วครับปั้นจะทำให้ตัวเองแข็งแรงเร็วๆนะครับ แล้วขอบคุณพี่ๆมากเลยนะครับที่อยู่เฝ้าปั้นแทนพี่อิฐ” ข้าวปั้นพูดและยิ้มออกมาเมื่อได้ยินในสิ่งที่ดินบอก คนรักของเค้านั้นคงจะทรมานมากแน่ๆที่เห็นเค้าต้องเป็นแบบนี้ เค้าจะต้องทำใจให้สบายและเข้มแข็งให้ได้มากกว่านี้เพื่อตัวเค้าเองและเพื่อทุกคนที่รักและหวังดีกับเค้า
“ดีมากครับ แล้วนี่เจ็บตรงไหนมั้ย รู้สึกผิดปกติตรงไหนรึเปล่าครับ” ดินถามข้าวปั้นออกมาด้วยความเป็นห่วง
“อืมม แค่รู้สึกเจ็บๆตึงๆที่แผลน่ะครับ นอกนั้นก็ไม่รู้สึกอะไรแล้ว” ข้าวปั้นบอกกับดินออกไปพร้อมกับหันไปมองตัวเลขบนเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ
“แล้วนี่อยากจะเข้าห้องน้ำหรืออะไรมั้ยบอกพวกพี่ได้นะไม่ต้องเกรงใจ” ไฟถามข้าวปั้นออกไปหลังจากที่คุยกันไปได้สักพักแล้ว
“งั้นปั้นขอเข้าห้องน้ำได้มั้ยครับ ปั้นอยากล้างหน้าแปรงฟันด้วยเดี๋ยวก็จะเช้าแล้ว” ข้าวปั้นบอกออกไปอย่างเกรงใจแต่เค้าก็อยากที่จะเข้าห้องน้ำจริงๆเพราะนี่ก็เกือบจะเช้าแล้วด้วย
“มาครับงั้นพี่ช่วยลุกไหวมั้ย พี่ว่าพี่อุ้มเราไปดีกว่า ไอ้ไฟมึงเข็นไอ้เครื่องนั่นมาแล้วก็น้ำเกลือด้วย” ดินค่อยๆอุ้มข้าวปั้นขึ้นมาจากเตียงอย่างเบามือ ส่วนไฟนั้นก็เดินไปเข็นเครื่องตรวจวัดและตามด้วยถุงน้ำเกลือพร้อมกับเดินตามดินที่อุ้มข้าวปั้นนำหน้าไป
ฟ้าครามที่นอนมองภาพเหตุการณ์ตรงนั้นอยู่ก็ถึงกับน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก มันทั้งดีใจที่เห็นว่าข้าวปั้นฟื้นแล้ว แล้วก็รู้สึกซึ้งใจกับมิตรภาพและความรักของทุกคนที่คอยช่วยเหลือกันโดยที่ไม่เกี่ยงว่าคนๆนั้นจะเป็นใคร
ความจริงเค้าตื่นตั้งแต่ได้ยินเสียงดินเรียกข้าวปั้นแล้ว แต่ก็ยังคงแกล้งหลับต่อเพราะกลัวว่าถ้าดินเห็นว่าเค้าตื่นขึ้นมา แล้วอาจจะเปลี่ยนมาเป็นดูแลเค้าแทนก็ได้ ดังนั้นเค้าจึงแกล้งหลับต่อและนอนฟังทั้งสามคนพูดคุยกันด้วยความรู้สึกอิ่มเอมที่หัวใจ และยิ่งได้เห็นว่าทั้งไฟและดินช่วยกันพาข้าวปั้นไปเข้าห้องน้ำเค้าก็ยิ่งรู้สึกดีเข้าไปกันใหญ่
ดินกับไฟยืนรอข้าวปั้นอยู่ที่หน้าห้องน้ำเพื่อที่น้องจะได้จัดการทำธุระของตัวเองให้เสร็จ โดยที่ทั้งคู่ก็ไม่ทันได้ดูว่าอีกสองคนบนเตียงน้ำกำลังนอนยิ้มให้กับภาพที่เห็นตรงหน้า เพราะออกัสเองก็ตื่นขึ้นมาได้สักพักแล้วและทันที่จะได้ยินประโยคที่ไฟถามข้าวปั้นเรื่องเข้าห้องน้ำ ‘สามีเค้านี่ช่างน่ารักจริงๆ’ ออกัสได้แต่คิดชมคนรักอยู่ในใจ
“ค่อยๆนอนลงนะครับ ปรับเตียงหน่อยมั้ยจะได้ลุกขึ้นนั่งบ้าง” ดินบอกกับข้าวปั้นเมื่อเห็นว่าน้องนั้นดูสดใสขึ้นมามากแล้ว
“ก็ดีนะครับ ปั้นก็เมื่อยนอนแล้วเหมือนกัน ขอบคุณนะครับ” ข้าวปั้นบอกกับดินและหันไปขอบคุณไฟที่กดรีโมทปรับเตียงให้เค้าอยู่
“อ่ะนี่มือถือของปั้น มีอะไรก็บอกไอ้ไฟมันนะ พี่ขอไปล้างหน้าล้างตาบ้าง” ดินเปิดลิ้นชักและหยิบมือถือมาให้กับข้าวปั้น ก่อนที่จะขอตัวไปล้างหน้าล้างตาตัวเองบ้าง
“หืออ!! เมียตื่นนานแล้วเหรอครับทำไมไม่เรียกพี่ล่ะครับ จุ๊บๆเป็นยังไงบ้างครับเจ็บตรงไหนรึเปล่า” ไฟที่กำลังจะเดินไปเปิดม่านดูบรรยากาศข้างนอกในตอนเช้าตรู่แบบนี้ก็หันไปเห็นว่าออกัสนั้นมองมาที่ตัวเองอยู่พอดี จึงรีบเดินเข้าไปหาทันทีพร้อมกับจูบไปที่ริมฝีปากบางเป็นการรับอรุณ
“ก็เจ็บๆนิดหน่อยครับไม่มากเท่าไหร่แล้วก็ตึงๆน่ะครับ” ออกัสบอกออกไปเมื่อเห็นว่าไฟดึงกางเกงของเค้าลงมาเพื่อดูแผลที่มีผ้าก็อตปิดเอาไว้อยู่และลูบไปมาเบาๆ
“น้องปั้นเป็นยังไงบ้างครับ” ฟ้าครามที่นอนมองข้าวปั้นอยู่อีกเตียงก็ถามข้าวปั้นขึ้นมาจนออกัสและไฟหันมามองตาม
“พี่ฟ้าตื่นแล้วเหรอครับ ปั้นไม่เป็นอะไรแล้วครับ ตอนนี้เหลือแค่เจ็บๆตึงๆที่แผลแค่นั้นเองครับที่เหลือก็ปกติดี ขอบคุณนะครับ ปั้นคงทำให้พี่ๆต้องตกใจกันน่าดูเลยใช่มั้ยครับ” ข้าวปั้นหันมาคุยกับฟ้าครามพร้อมกับทำหน้าเศร้าอย่างรู้สึกผิดที่ทำให้ทุกคนต้องเป็นห่วง
“น้องปั้นไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้วล่ะครับ แล้วก็ไม่ต้องคิดมากนะครับไม่มีใครอยากให้มันเกิดหรอก ขอแค่น้องปั้นหายดีพวกพี่ก็ดีใจแล้วล่ะครับ ต่อไปนี้ก็แค่ดูแลตัวเองให้ดีแล้วก็อย่าคิดอะไรที่ทำให้เราต้องไม่สบายใจนะครับ” ฟ้าครามบอกข้าวปั้นออกไปและส่งยิ้มไปให้อย่างให้กำลังใจ พอดีกับที่ดินเดินออกมาจากห้องน้ำจึงเดินมาดูฟ้าครามและถามอาการ ซึ่งฟ้าครามก็มีอาการคล้ายๆกับออกัสและข้าวปั้น
“อื้อ...ปั้น” พอผ่านไปสักพักอิฐก็เริ่มที่จะขยับตัวและส่งเสียงออกมา และพอเจ้าตัวนึกขึ้นได้ว่าอยู่ที่ไหนและก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นก็รีบกระเด้งตัวขึ้นมาทันทีพร้อมกับร้องเรียกข้าวปั้นออกมาเสียงดัง จนข้าวปั้นที่นั่งเล่นเกมอยู่ถึงกับสะดุ้งตกใจจนมือถือเกือบจะร่วงตกจากมือ
“ครับ พี่อิฐ” และด้วยความเคยชินข้าวปั้นก็ขานรับอิฐกลับไปโดยอัตโนมัติเช่นเดียวกัน จนอิฐหันมามองตามเสียงเรียกและก็ต้องตาโตขึ้นมาทันทีที่เห็นว่าคนบนเตียงนั้นนั่งส่งยิ้มมาให้กับเค้าอยู่
“ปั้น” อิฐรีบดีดตัวลุกขึ้นมาทันทีและเดินมากอดข้าวปั้นเอาไว้ด้วยความดีใจ แต่ก็ไม่กล้าที่จะกอดแรงมากเพราะกลัวว่าน้องจะเจ็บแผล
“จุ๊บๆๆๆๆ พี่คิดถึงปั้นมากเลยรู้มั้ยครับ ทีหลังไม่เอาแบบนี้แล้วนะครับไม่หนีไปเที่ยวไหนแล้วนะครับ พี่แทบจะขาดใจตายให้ได้เลยรู้มั้ย” อิฐพรมจูบไปทั่วทั้งใบหน้าของข้าวปั้นด้วยความคิดถึงและพูดออกมาเสียงสั่นขณะที่ยังกอดข้าวปั้นเอาไว้แนบอก
“ปั้นอยู่ตรงนี้แล้วครับไม่ไปไหนแล้ว ถึงพี่อิฐจะไล่ยังไงปั้นก็ไม่ไปหรอกครับจะเกาะพี่อิฐเป็นปลิงอยู่แบบนี้แหละ” ข้าวปั้นพูดออกมาขำๆเพราะไม่อยากจะให้อีกคนรู้สึกเศร้าไปมากกว่านี้
“หึๆ เกาะให้แน่นๆเลยนะครับเด็กแสบของพี่ จุ๊บ!” อิฐยิ้มออกมาทันทีที่ได้ยินข้าวปั้นพูด และนี่ก็เป็นยิ้มแรกของเค้าในรอบสิบกว่าชั่วโมงที่ผ่านมาเลย
“แล้วนี่ปั้นตื่นนานแล้วเหรอครับทำไมไม่ปลุกพี่ล่ะครับ หืมม” หลังจากที่ขอตัวเข้าห้องน้ำไปจัดการทำธุระส่วนตัวของตัวเองจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว อิฐก็มานั่งเฝ้าข้าวปั้นอยู่ที่เดิมและถามขึ้น
“ก็ตื่นหลังจากที่พี่อิฐหลับไปได้ไม่นานหรอกครับ แต่พี่ดินกับพี่ไฟคอยดูปั้นอยู่ แล้วก็ยังใจดีอุ้มปั้นไปเข้าห้องน้ำด้วย แล้วพี่ไฟก็………………...” จากนั้นข้าวปั้นก็เล่าให้อิฐฟังเป็นฉากๆว่าดินและไฟนั้นทำอะไรให้ตัวเองบ้าง ส่วนอิฐก็หันไปมองรุ่นพี่ทั้งสองคนอย่างขอบคุณที่ดูแลคนรักของเค้าให้เป็นอย่างดีในระหว่างที่เค้าหลับอยู่
“ขอบใจนะเฮียดินเฮียไฟ” พอฟังข้าวปั้นเล่าเสร็จแล้วอิฐก็หันไปขอบคุณไฟกับดินที่นั่งคุยกับเมียของตัวเองอยู่
“ไอ้อิฐมึงอย่างมามองพวกกูด้วยสายตาแบบนั้นกูขนลุกไอ้ห่า” ไฟพูดขึ้นมาพร้อมกับทำท่าขนลุกไปด้วย และยังยื่นแขนไปให้กับออกัสดูว่าตัวเองนั้นขนลุกจริงๆอย่างที่พูดจนทุกคนถึงกับหัวเราะออกมา แต่คนป่วยทั้งสามคนก็ต้องพยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้เพราะยังเจ็บแผลผ่าตัดกันอยู่
พอช่วงสายๆเพื่อนๆก็มาหาทุกคนที่ห้องพร้อมกับกาแฟและขนมปังเต็มไม้เต็มมือไปหมด และต่างก็สอบถามอาการข้าวปั้นกันเป็นการใหญ่ด้วยความเป็นห่วง ข้าวปั้นนั้นก็พูดเจื้อยแจ้วเล่าให้ทุกคนฟังตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาเหมือนที่เล่าให้กับอิฐฟังเหมือนกับว่าเมื่อวานไม่ได้เกิดอะไรขึ้นกับตัวเองเลย
“ผมรู้เลยว่าทำไมเฮียถึงรักน้ำได้มากขนาดนี้” อิฐที่นั่งมองหน้าคนรักคุยกับคนนู้นคนนี้ทีด้วยใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้มก็เอ่ยพูดกับวายุขึ้นมา
“เราก็ทำได้แค่นี้แหละ คือรักเค้าให้มากๆซื่อสัตย์กับเค้าทำให้เค้าสบายใจเมื่ออยู่กับเรา เพราะว่าเค้ายังต้องเสียสละเพื่อเราอีกเยอะ ไหนจะตอนตั้งท้องตอนคลอดแล้วก็ยังต้องเลี้ยงลูกอีกกว่าที่จะโต เราแค่มีหน้าที่ทำงานหาเงินเลี้ยงดูครอบครัวมันเทียบอะไรไม่ได้เลยกับสิ่งที่คนรักของเราต้องอดทนผ่านมันไปให้ได้ กูถึงได้บอกให้มึงจำวันนี้ไว้ให้ดีๆ” วายุหันไปบอกกับอิฐพร้อมกับยกมือขึ้นมากอดคออิฐเอาไว้อย่างให้กำลังใจอย่างคนที่เคยผ่านจุดนี้มาแล้ว
“ผมรักพวกเฮียจังว่ะ” อิฐหันมาพูดและกอดไปที่เอวของวายุพร้อมกับเอาหัวซบไปที่ไหล่กว้าง
พลั่ก!!!
ตุ้บ!!!
"โอ๊ย!!!"
“ไอ้อิฐไอ้เหี้ยกูขนลุก ตัวเล็กครับมาหาพี่เร็วครับมากอดพี่หน่อย” วายุถีบอิฐลงไปนั่งกองกับพื้นทันทีที่โดนอิฐกอดแต่ก็ไม่ได้แรงมากนัก และร้องเรียกเมียตัวเล็กของตัวเองให้มากอดตัวเองเพื่อทับรอยของอิฐอย่างที่ชอบทำ ซึ่งสายน้ำก็เดินยิ้มมาและมากอดคนตัวโตเอาไว้อย่างรู้หน้าที่โดยมีคนอื่นยืนขำอยู่
“อะไรวะเฮียผมอุตส่าห์อยากแสดงความรักกับเฮียนะเนี่ย” อิฐลุกขึ้นยืนพร้อมกับพูดออกมาด้วยใบหน้าที่งอผิดกับภาพลักษณ์ของท่านรองประธานลิบลับ
“ฮ่าๆๆสม ตัวมึงอย่างกับควายเสือกไปกอดมัน หึ่ย!! เห็นแล้วกูยังขนลุกแทนเลยว่ะ” เหนือพูดออกมาขำๆและทำท่าขนลุกไปด้วย
“ปั้นดูสิครับ ไม่มีใครยอมรับความรักจากพี่เลยสักคนพี่น้อยใจได้มั้ยเนี่ย” พอเห็นว่ามีแต่คนหัวเราะเยาะตัวเอง อิฐจึงเดินไปอ้อนข้าวปั้นที่นั่งมองเค้าอยู่อย่างยิ้มๆ
“ไม่เป็นไรนะครับ ใครไม่รับเดี๋ยวปั้นรับไว้เองทั้งหมดเลยนะครับ”
“แหวะ!!” ทันทีที่ข้าวปั้นพูดออกมาทั้งเหนือ หินผา ดินและไฟก็พร้อมใจกันทำท่าจะอ้วก จนเกิดเสียงหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง จนทั้งออกัส ฟ้าครามและข้าวปั้นถึงต้องจับกุมท้องตัวเองเอาไว้เพื่อไม่ให้สะเทือนแผลที่ผ่าตัด หลังจากนั้นบรรยากาศภายในห้องก็กลับมาครึกครื้นอีกครั้งและมีแต่เสียงหัวเราะ หลังจากที่เมื่อวานได้ผ่านเรื่องร้ายๆกันมาแล้ว
Comments (0)