54 ตอน ติดกลิ่น
โดย Beloved_Moouan
“ปั้นครับ!! / ฟ้าครับ!!”
.
.
อิฐและดินเรียกชื่อคนรักออกมาเสียงดังแทบจะพร้อมกันทันที เมื่อทั้งคู่ได้เห็นผลของที่ตรวจครรภ์ที่อยู่ในมืออันสั่นเทาของตัวเอง
“ฮึก! เค้ามาแล้วใช่มั้ยครับ เค้ามาอยู่กับเราแล้วใช่มั้ยครับ” อิฐโผตัวเข้าไปกอดข้าวปั้นทันทีพร้อมกับน้ำตาลูกผู้ชายที่ไหลรินออกมาด้วยความดีใจอย่างบอกไม่ถูก ช่วงเวลาที่เค้ารอคอยมันได้สิ้นสุดลงแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาเค้าทั้งวิตกกังวลไปต่างๆนาๆ ว่าข้าวปั้นนั้นอาจจะไม่แข็งแรงพอ หรืออาจจะเป็นที่ตัวเค้าเองก็ได้ที่น้ำเชื้อของเค้านั้นยังไม่ดีไม่สมบูรณ์พอรึเปล่า
“ความพยายามของพี่อิฐเป็นผลแล้วนะครับ ขอบคุณนะครับที่มอบของขวัญชิ้นนี้ให้กับปั้น” ข้าวปั้นพูดบอกพร้อมกับลูบหลังปลอบว่าที่คุณพ่อขี้แยที่ตอนนี้ซบหน้าลงกับไหล่ของเค้าและร้องไห้ออกมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ข้าวปั้นใช้เวลาปลอบอิฐอยู่เป็นนานพอสมควรกว่าที่อิฐจะเรียกสติของตัวเองกลับคืนมาได้ ข้าวปั้นนั้นรู้ดีว่าอิฐนั้นอยากที่จะมีลูกกับตัวเองมากขนาดไหน และอิฐก็ยังกังวลอีกด้วยว่าข้าวปั้นอาจจะมีอะไรที่ผิดปกติก็เป็นได้นั่นคือสิ่งที่อิฐนึกกลัวที่สุด
“พี่ดินปล่อยฟ้าก่อนครับฟ้าหายใจไม่ออก” ฟ้าครามตบหลังของดินเบาๆเมื่อดินนั้นกอดเค้าเอาไว้แน่นจนเค้าหายใจแทบไม่ออก
“ขอโทษครับพี่ดีใจไปหน่อย จุ๊บๆๆ” ดินผละออกมาจากตัวของฟ้าครามด้วยน้ำตาที่เอ่อคลอและบอกขอโทษออกมาก่อนจะก้มลงไปจูบที่หน้าท้องแบนราบของฟ้าครามด้วยความดีใจจนเก็บอาการไว้แทบไม่อยู่ ฟ้าครามเองก็ได้แต่มองการกระทำของว่าที่คุณพ่อขี้เห่ออย่างยิ้มๆ
“จุ๊บ! แล้วนี่รู้กันตั้งแต่ตอนไหนกันครับมีว่าเจ้าตัวเล็ก” พอผ่านไปสักพักหลังจากที่ว่าที่คุณพ่อทั้งสองที่ดึงสติกลับมาได้แล้ว ดินก็ถามฟ้าครามออกมาและมีอิฐคอยนั่งพยักหน้าอยู่ข้างๆด้วย
“เพิ่งรู้กันเมื่อกี๊นี้เองครับ พอดีว่าพวกเราคุยกับน้องน้ำแล้วก็น้องกัสว่าเดี๋ยวนี้ง่วงนอนบ่อยแล้วก็อยากกินนู่นกินนี่เยอะแยะไปหมดน้องน้ำเลยลองเอาที่ตรวจครรภ์ที่ซื้อเก็บไว้มาให้พวกเราลองตรวจดูกัน ผลก็เลยออกมาอย่างที่เห็นนี่แหละครับ” ฟ้าครามบอกดินกับอิฐออกไปยิ้มๆ
ตอนที่เค้ารู้ผลว่าตัวเองท้องแล้วนั้นมือไม้ถึงกับสั่นไปหมดแทบจะก้าวไม่ออกเลยทีเดียว มันเป็นความดีใจที่ไม่สามารถจะบอกออกมาเป็นคำพูดได้เลย ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมาดินและตัวเค้าเองพยายามที่จะมีลูกด้วยกันตลอดจนในที่สุดก็ได้สมหวังกันสักที เค้ารู้ว่าดินนั้นกดดันและเครียดมากขนาดไหนเพราะเพื่อนๆทุกคนต่างก็ได้สมหวังกันไปหมดแล้ว ดินกลัวว่าลูกของตัวเองจะไม่ได้เกาะกลุ่มไปกับลูกของเพื่อนๆ ตอนนี้มันจึงเหมือนกับได้ปลดล็อกเลยก็ว่าได้
“ฟอดๆ พี่ดีใจมากๆเลยล่ะครับนึกว่าน้ำยาพี่จะมีปัญหาแล้วซะอีก กะว่าจะชวนไอ้อิฐไปตรวจพรุ่งนี้ซะด้วยซ้ำไป” ดินพูดออกมาทีเล่นทีจริง แต่มือก็ยังลูบวนอยู่ที่หน้าท้องของฟ้าครามไม่หยุด
“พรุ่งนี้เฮียกับพี่ฟ้าหยุดงานวันหนึ่งนะ ไปโรงพยาบาลกันพาปั้นกับพี่ฟ้าไปตรวจดูจะได้รู้ว่าท้องกี่เดือนแล้ว แล้วก็ฝากครรภ์ด้วยเลย” อิฐพูดออกมาพร้อมกับจับข้าวปั้นมานั่งที่ตักของตัวเองและลูบวนอยู่ที่ท้องที่ยังแบบราบของข้าวปั้นเล่นไปมา
“อือ กูกำลังจะบอกมึงพอดี ไปสายๆหน่อยก็แล้วกันไม่ต้องรีบจะได้นอนตื่นสายสักวันหนึ่ง ดีมั้ยครับ” ดินหันมาถามฟ้าครามและมองไปยังที่ตรวจครรภ์ที่เปื้อนขนมอยู่อย่างยิ้มๆด้วยความดีใจ
“ว่าไงพวกมึง สมใจแล้วสิ” ไฟพูดแซวขึ้นมาเมื่อเดินออกมาจากบ้านพร้อมกับออกัสและวายุที่เดินประคองสายน้ำออกมาด้วย เมื่อพวกเค้าปล่อยให้เพื่อนและรุ่นน้องได้ดีใจกันจนเต็มที่แล้ว
“สุดๆเลยเฮีย โคตรดีใจเลยว่ะ” อิฐพูดออกมาพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อคลอและพร้อมที่จะไหลออกมาอีกครั้งหลังจากที่เหือดแห้งไปแล้วรอบหนึ่ง
“น้ำว่าอิฐต้องแพ้ท้องแทนน้องปั้นแน่ๆเลย” สายน้ำพูดขึ้นขำๆเมื่อเห็นว่าเพื่อนตัวโตของตัวเองเตรียมตั้งท่าจะร้องไห้ขึ้นมาอีกแล้ว โดยที่ยังมีคราบน้ำตาเก่าติดอยู่ที่ใบหน้าอยู่เลย
“หืออ!! ทำไมเหรอครับ” ข้าวปั้นถามขึ้นและหันกลับไปมองหน้าคนรักที่กำลังยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาตัวเองอยู่อย่างลวกๆ
“ก็อาการแพ้ท้องมันมีตั้งหลายอย่างนะครับ ทั้งคลื่นไส้อาเจียน เหม็นอาหาร อยากกินนั่นอยากกินนี่ในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยชอบกิน แล้วก็ง่วงนอนบ่อย คนท้องบางคนก็อารมณ์อ่อนไหวง่าย ติดกลิ่นตัวของอีกคนอะไรประมาณนี้แหละครับ อย่างอิฐนี่อาจจะเป็นประเภทอารมณ์อ่อนไหวง่ายนะ” สายน้ำมองเพื่อนและพูดออกมายิ้มๆ เพราะคนอย่างอิฐถ้าไม่ถึงเหตุการณ์ที่เรียกว่ากดดันอารมณ์สุดๆอย่างตอนที่เกิดเรื่องขึ้นกับข้าวปั้น เพื่อนของเค้านั้นก็แทบจะไม่มีอารมณ์อ่อนไหวให้เห็นได้ง่ายๆหรอก
“ฮ่าๆๆ ไอ้อิฐเอ๊ยไอ้ว่าที่คุณพ่อขี้แย” ดินได้ทีจึงหัวเราะอิฐออกมาใหญ่ อิฐก็ได้แต่มองค้อนและหันไปกอดอ้อนเมียพร้อมกับซุกหน้าไปที่ซอกคอหอมของข้าวปั้นที่ช่วงนี้เค้าชอบดมเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
“ไม่น่าเชื่อเลยว่ะ ว่าพวกเราจะมีวันนี้กัน” ไฟพูดออกมาพร้อมกับลูบไปที่ท้องของออกัสที่เพิ่งจะนูนออกมานิดๆให้ได้เห็นเล่นไปด้วย
“อือ...โคตรไม่น่าเชื่อเลยว่ะว่าเมียพวกเราจะมาท้องพร้อมกันได้ กูไม่รู้จะขอบคุณอะไรดี ขอบคุณพวกมึงทุกคนก็แล้วกันที่เกิดมาเป็นเพื่อนกับกู แล้วก็ขอบคุณพรหมลิขิตที่ทำให้พวกเราได้มาเจอกับคนที่ใช่ ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้พวกเราได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์” ดินพูดบอกกับทุกคนพร้อมกับยกตัวฟ้าครามขึ้นมานั่งอยู่บนตักและซุกหน้าเข้ากับหลังของฟ้าครามและปลดปล่อยความดีใจความตื้นตันใจออกมาผ่านน้ำตาลูกผู้ชายที่ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยนัก
ฟ้าครามเองก็รู้สึกได้ถึงความเปียกชื้นที่ด้านหลังของตัวเองจึงได้แต่นั่งอยู่นิ่งๆ และลูบไปที่มือของดินที่วางอยู่ที่หน้าท้องของตัวเองไปมา ซึ่งทุกคนก็เข้าใจความรู้สึกของดินดีจึงไม่มีใครพูดอะไรออกมา ได้แต่นั่งปล่อยอารมณ์ความคิดของตัวเองไปอย่างเงียบๆ
…
“ปั้นไปเรียนไหวแน่เหรอครับ” อิฐถามข้าวปั้นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าคนรักนั้นใส่ชุดนักศึกษาเตรียมที่จะไปเรียนเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของการเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ของข้าวปั้น และวันนี้ไนท์ก็จะเป็นคนมารับข้าวปั้นไปที่มหา'ลัยเอง เพื่อที่อิฐนั้นจะได้ไม่ต้องขับรถวนไปวนมาเพื่อส่งข้าวปั้นเพราะว่าอิฐนั้นดูอาการยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
“ไหวสิครับ ปั้นแค่ท้องนะครับไม่ได้ป่วยซะหน่อย อีกอย่างปั้นก็แข็งแรงดีด้วย พี่อิฐเองเถอะครับไหวรึเปล่าหน้ายังซีดอยู่เลย ปั้นว่าวันนี้พี่อิฐพักอยู่บ้านสักวันดีมั้ยครับ” ข้าวปั้นเดินมาลูบที่ใบหน้าที่ซีดเซียวของอิฐด้วยความสงสารเพราะตั้งแต่เค้าท้องเข้าเดือนที่ 3 อิฐก็เริ่มแพ้ท้องแทนเค้าอย่างหนัก ทั้งเหม็นอาหารทั้งตื่นขึ้นมาอาเจียนตอนเช้ามืดทุกวัน แถมยังติดกลิ่นเค้าหนักมากอีกด้วย
ตั้งแต่วันที่รู้ว่าเค้าท้องเช้าวันรุ่งขึ้นพวกเค้าทั้ง 4 คนก็พากันไปตรวจที่โรงพยาบาลเดียวกันกับสายน้ำและได้ฝากครรภ์กับอาหมอที่เป็นอาแท้ๆของสายน้ำอีกด้วย โดยสายน้ำได้โทรบอกไว้ให้แล้วเพราะปกติแล้วอาหมอนั้นไม่ค่อยจะได้รับเคสคนไข้ด้วยตัวเองสักเท่าไหร่
และพอผลตรวจออกมาพวกเค้าก็ได้รู้ว่าข้าวปั้นนั้นท้องได้ 7 สัปดาห์ และฟ้าครามนั้นท้องได้ 8 สัปดาห์แล้ว ซึ่งก็ห่างกันเพียงแค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น ซึ่งนั่นก็เป็นแค่การตรวจและการคาดคะเนโดยคร่าวๆของอาหมอเท่านั้นเอง เพราะทั้งคู่เป็นผู้ชายจึงไม่สามารถตรวจได้แน่นอนและแม่นยำเหมือนกับผู้หญิง
นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาได้สองเดือนแล้ว ตลอดสองเดือนที่ผ่านมาอิฐก็พาข้าวปั้นไปทำงานด้วยเกือบทุกวันเพราะอิฐนั้นติดกลิ่นของเมียมากและอาการก็ทำท่าว่าจะหนักขึ้นทุกวันอีกด้วย แต่ก็จะมีบ้างบางวันที่ข้าวปั้นอยากที่จะอยู่บ้านเฉยๆ อิฐก็จะพาข้าวปั้นไปฝากไว้ที่บ้านของสายน้ำเพราะที่นั่นคนเยอะและยังได้อยู่เป็นเพื่อนคุยกับสายน้ำที่ตอนนี้ท้องได้เจ็ดเดือนแล้ว
“วันนี้พี่ไม่เข้าไม่ได้หรอกครับเพราะพี่มีประชุมด้วย ครั้งที่แล้วก็ถูกยกเลิกไปแล้ว” อิฐบอกกับข้าวปั้นออกไปเมื่อข้าวปั้นบอกให้ตัวเองนั้นพักอยู่บ้านสักวันหนึ่ง พร้อมกับดึงข้าวปั้นให้มานั่งที่ตักและซุกหน้าเข้าที่ซอกคอหอมของเมียทันที จนข้าวปั้นได้ยินเสียงสูดหายใจดังฟืดฟาดอยู่ที่ซอกคอของตัวเองเสียงดัง
“งั้นเดี๋ยวตอนเที่ยงปั้นไปกินข้าวด้วยดีมั้ยครับเดี๋ยวปั้นจะสั่งยำเจ้าที่ปั้นชอบมาให้กิน พร้อมกับซื้อมะม่วงไปให้ด้วย” ข้าวปั้นพูดขึ้นอย่างเอาใจเพราะอิฐนั้นแทบจะแตะหรือกินอะไรไม่ได้เลยนอกจากของที่ออกเปรี้ยวๆเพียงเท่านั้นเอง
“ดีครับพี่จะรอนะครับ เดี๋ยวก่อนไปปั้นหาเสื้อที่ปั้นใส่แล้วมาให้พี่ตัวหนึ่งนะครับพี่จะเอาไปที่ทำงานด้วย” อิฐบอกเสียงอู้อี้กับอยู่ที่ซอกคอของข้าวปั้นและใช้จมูกโด่งถูไถไปมาจนข้าวปั้นต้องเอียงเปิดคอให้ อิฐเพิ่งจะรู้เดี๋ยวนี้เองว่าการติดกลิ่นของอีกคนนั้นมันเป็นหนักขนาดนี้เลย เพราะเค้าเคยนึกหัวเราะตอนที่สายน้ำนั้นท้องน้องของขวัญและพกเสื้อของวายุไปเรียนและยังนั่งดมทั้งวันอีกด้วย และตอนนี้เค้าก็กำลังเป็นแบบนั้นอยู่ เพราะถ้าไม่ได้สูดกลิ่นกายของข้าวปั้นเค้าจะเวียนหัวและคลื่นไส้อยากที่จะอาเจียนขึ้นมาทันทีเลย ถึงแม้ว่าจะมียาแก้แพ้กินก็เถอะมันก็เพียงช่วยทุเลาลงได้บ้างแค่นั้นเอง
“หึๆ ได้สิครับ งั้นเดี๋ยวปั้นไปก่อนนะครับปั้นต้องไปดูน้องๆด้วย แล้วเดี๋ยวปั้นจะรีบไปหาที่ทำงานนะครับ จุ๊บ!” พูดเสร็จข้าวปั้นก็จูบไปที่ริมฝีปากหยักของอิฐที่ตอนนี้ค่อนข้างที่จะซีดลงไปเล็กน้อย และเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวเพื่อเอาเสื้อคลุมของตัวเองที่ใส่อยู่เป็นประจำมาวางไว้ให้กับอิฐ และทันทีที่ข้าวปั้นวางเสื้อลงบนเตียงอิฐก็รีบยกขึ้นมาดมเลยทันทีจนข้าวปั้นนึกเอ็นดูขึ้นมา
...
“วันนี้คุณอิฐดูหน้าซีดๆนะครับ แพ้ท้องแทนน้องปั้นหนักเลยเหรอครับ” นพพรที่เห็นเจ้านายของตัวเองเดินหน้าซีดมาจึงถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง เพราะเค้าก็พอรู้เรื่องมาจากนัทคร่าวๆบ้างแล้ว
“ก็หนักพอสมควรเลยล่ะครับแต่อาหมอบอกว่าเดี๋ยวมันก็จะค่อยๆหายไปเองครับ ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง” อิฐตอบนพพรออกไปยิ้มๆเมื่อเห็นสีหน้าเป็นห่วงของเลขาที่ส่งมาให้กับเค้า
“งั้นเดี๋ยวผมตามเอาน้ำส้มเข้าไปให้ดีมั้ยครับ คุณอิฐจะได้สดชื่นขึ้นมาบ้าง”
“ก็ดีครับ เมื่อเช้ากินต้มยำที่ป้าเตือนทำมาให้พอกินไปได้แค่หน่อยเดียวก็ออกหมดแล้ว”
“งั้นคุณอิฐเข้าไปพักผ่อนก่อนเถอะครับอีกเกือบชั่วโมงถึงจะได้เวลาประชุมหรือคุณอิฐจะนอนพักก็ได้นะครับเดี๋ยวถ้าถึงเวลาผมจะเข้าไปตามเอง”
“ได้ครับ ขอบคุณพี่นพมากนะครับ ผมฝากด้วยนะ”
...
“สวัสดีครับพี่นพ”
“อ้าว! น้องปั้นไม่ได้ไปเรียนหรอกเหรอครับ”
“ไปมาแล้วครับแต่ว่านึกห่วงพี่อิฐขึ้นมาเลยขอตัวกลับมาก่อน อีกอย่างสองอาทิตย์แรกก็ยังไม่มีเรียนด้วยมีแค่กิจกรรมรับน้องอย่างเดียว แล้วนี่พี่อิฐเป็นยังไงบ้างครับ”
“น่าจะหลับอยู่นะครับเห็นบอกว่าพอได้น้ำส้มที่พี่เอาไปให้ก็เลยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยเลยจะขอพักอีกสักหน่อย แล้วนี่น้องปั้นเป็นยังไงบ้างครับ” นพพรถามและมองไปที่ท้องของข้าวปั้นซึ่งยังดูแทบไม่ออกเลยว่าท้องอยู่นอกจากจะดูมีน้ำมีนวลเพิ่มขึ้นมาเท่านั้นเอง คงเพราะข้าวปั้นนั้นเป็นคนค่อนข้างที่จะสูงโปร่งและใส่เสื้อตัวค่อนข้างที่จะใหญ่นั่นเอง
“ปั้นไม่มีอาการอะไรเลยครับพี่นพเพราะไปตกอยู่ที่พี่อิฐทั้งหมดเลย ปั้นเลยชิลเอามากๆเลยล่ะครับ นี่ปั้นยังนึกสงสารพี่อิฐอยู่เลยที่ต้องมาแพ้ท้องแทนปั้น” ข้าวปั้นพูดพร้อมกับทำหน้าเศร้า เพราะอิฐเองก็อดทนมากเลยทีเดียวไม่เคยปริปากบ่นให้เค้าได้ยินเลยแม้แต่คำเดียว ถึงแม้ว่าตัวเองจะหมดแรงหรืออาเจียนจนหน้าดำหน้าแดงยังไงก็ตาม
“แต่เค้าว่ากันว่าคนที่แพ้ท้องแทนเมียเนี่ยจะต้องเป็นคนที่รักเมียเอามากๆเลยนะครับ พี่ว่าน้องปั้นน่าจะต้องภูมิใจนะครับ” นพพรปลอบข้าวปั้นเพื่อที่ว่าที่คุณแม่นั้นจะได้ไม่ต้องคิดมาก ข้าวปั้นเองก็ถึงกับหน้าแดงไปเหมือนกันเมื่อได้ยินที่นพพรพูดขึ้นมา
“งั้นปั้นขอตัวไปดูพี่อิฐก่อนนะครับ” หลังจากที่พูดคุยกันอยู่ได้พักหนึ่งข้าวปั้นก็ขอตัวเข้าไปดูอิฐ ซึ่งพอเจ้าตัวเปิดประตูเข้ามาก็เห็นว่าอิฐนั้นนอนหลับอยู่ที่โซฟาพร้อมกับเอาเสื้อคลุมของเค้าขึ้นมาคลุมไว้ทั้งหน้าอีกด้วย
“หายใจออกมั้ยนั่นน่ะ” ข้าวปั้นบ่นออกมาและเดินเข้าไปหาอิฐ และค่อยๆจับเสื้อคลุมของตัวเองให้ออกมาจากหน้าของอิฐ
“อื้อ...” พอกลิ่นที่ติดอยู่ที่จมูกจางหายไปเจ้าตัวก็หน้านิ่วคิ้วขมวดขึ้นมาทันทีพร้อมกับค่อยๆลืมตาขึ้นมา
“ขอโทษนะครับที่ปั้นทำให้พี่อิฐตื่น” ข้าวปั้นรู้สึกผิดขึ้นมาทันทีที่ทำให้คนรักตื่น แถมหน้าตายังบ่งบอกอีกว่าหงุดหงิดเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
“ปั้นเหรอครับ เที่ยงแล้วเหรอครับ” อิฐพูดพร้อมกับลุกขึ้นมานั่งและซุกหน้าเข้าหาซอกคอของข้าวปั้นเหมือนอย่างที่เคยทำทันที และสลัดเสื้อคลุมของข้าวปั้นให้ออกไปจากตัวทันทีด้วยเช่นกัน
“หึๆ ยังครับ ปั้นเป็นห่วงพี่อิฐน่ะครับเลยอยากมาดูว่าพี่อิฐไม่ได้เป็นอะไรมาก” ข้าวปั้นนึกขำขึ้นมาที่พออิฐเห็นหน้าเค้าก็ซุกหน้าเข้าหาและโยนเสื้อคลุมของเค้าทิ้งไปทันทีเลย
“ฟอดๆๆ ชื่นใจจังเลยครับ ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย” อิฐสูดดมกลิ่นกายของข้าวปั้นเข้าไปจนเต็มปอดพร้อมกับหน้าตาที่เริ่มดีขึ้นตามลำดับ
ก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!!
“เชิญครับ”
“คุณอิฐครับได้เวลาเข้าประชุมแล้วครับ”
“ครับ งั้นเดี๋ยวผมขอล้างหน้าล้างตาแป๊บนะครับ ปั้นไปกับพี่ด้วยนะครับ” อิฐไม่พูดเปล่าแต่ยังจูงมือข้าวปั้นเข้าไปในห้องด้านหลังซึ่งมีห้องน้ำอยู่ จนนพพรได้แต่ยิ้มขำกับท่าทางของเจ้านายตัวเอง
“ยังเวียนหัวอยู่รึเปล่าครับ” ข้าวปั้นถามขึ้นขณะที่กำลังใช้ผ้าขนหนูซับน้ำที่หน้าให้กับอิฐ
“ไม่แล้วล่ะครับ ส่วนมากอาการจะมาช่วงเช้าๆมากกว่า อาหารก็ไม่ค่อยเหม็นแล้วด้วยเพียงแต่มันกินไม่ค่อยลงน่ะครับ” อิฐบอกอาการตัวเองกับคนรักไป เพราะสีหน้าของข้าวปั้นนั้นดูยังมีความกังวลอยู่มากเลยทีเดียว
“ขอบคุณพี่อิฐมากเลยนะครับที่แพ้ท้องแทนปั้น ไม่อย่างนั้นปั้นต้องแย่แน่ๆเลยล่ะครับ” ข้าวปั้นยกมือขึ้นไหว้อิฐไปที่อกแกร่งอย่างน่าเอ็นดู
“ไม่เป็นไรครับพี่กลับทั้งภูมิใจดีใจแล้วก็เต็มใจที่ได้แพ้ท้องแทนปั้นนะครับ พี่คงจะทรมานมากกว่านี้ถ้าเห็นว่าปั้นเป็นคนแพ้ท้องสู้พี่ขอยอมเป็นซะเองดีกว่า พี่รักปั้นและลูกมากนะครับ จุ๊บ!” อิฐจูบไปที่หน้าผากมนของข้าวปั้นและใช้มือลูบไปที่ท้องที่นูนขึ้นมาของข้าวปั้นไปมาอย่างเบามือ
“เดี๋ยวปั้นเข้าไปประชุมกับพี่ด้วยนะครับ พี่กลัวว่าพี่จะเหม็นกลิ่นน้ำหอมของคนอื่นจนเวียนหัวแล้วอ้วกน่ะครับ” อิฐหันมาบอกกับข้าวปั้นเมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำกันแล้ว เพราะครั้งที่แล้วที่เข้าประชุมกันยังไม่ทันที่อิฐจะได้เข้าไปนั่งประจำที่เลยด้วยซ้ำเจ้าตัวก็ต้องวิ่งออกมาจากห้องแทบไม่ทันและอาเจียนออกมาจนหมดไส้หมดพุงกันเลยทีเดียว เพราะกลิ่นน้ำหอมของใครต่อใครนักก็ไม่รู้ที่ตีกันยุ่งไปหมด หลังจากวันนั้นมาอิฐก็ได้ให้นพพรแจ้งกับทุกแผนกไปว่า ถ้าวันไหนที่มีประชุมขอให้ทุกคนนั้นงดฉีดน้ำหอม ทุกคนก็เข้าใจได้ดีเพราะพอที่จะรู้ข่าวมาบ้างว่าท่านรองประธานนั้นกำลังแพ้ท้องแทนเมียอยู่
“หึๆ ได้ครับ” ข้าวปั้นได้แต่หันไปยิ้มกับนพพรเพราะถ้าไม่รับปาก ท่านรองคงจะไม่ยอมเข้าประชุมเป็นแน่
บรรยากาศในห้องประชุมวันนี้จึงเป็นไปอย่างราบรื่นเพราะท่านรองนั้นอารมณ์ดีเป็นพิเศษที่ได้เมียเข้ามาประชุมและนั่งอยู่ข้างๆด้วย ตอนแรกข้าวปั้นจะขอไปนั่งข้างหลังเพราะเกรงว่าจะเป็นการรบกวน แต่อิฐนั้นไม่ยอมเพราะว่าถ้าข้าวปั้นนั่งข้างหลังเจ้าตัวจะไม่ได้กลิ่น จนในที่สุดข้าวปั้นก็ต้องเป็นฝ่ายยอมซะเองเพราะว่าไม่อย่างนั้นก็คงจะไม่ได้เริ่มประชุมกันสักที ทำเอาพนักงานที่เข้าร่วมประชุมด้วยกันแอบอมยิ้มให้กับความน่ารักของคนทั้งคู่ เพราะปกติแล้วท่านรองของพวกเค้านั้นจะตีหน้านิ่งซะมากกว่าที่จะมีมุมอ้อนและมุมอ่อนโยนให้ได้เห็นอย่างเช่นในวันนี้
Comments (0)