58 ตอน ตอนพิเศษ - ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 6 ทีม
โดย Beloved_Moouan
ตึก!! ตึก!! ตึก!!
“คุณพ่อคร้าบบ คุณลุงคร้าบบ กริชพร้อมแล้วครับ” เด็กชายกริชในวัย 5 ขวบวิ่งลงมาจากชั้นบนของบ้านด้วยความตื่นเต้น เพราะวันนี้เป็นวันที่ทุกคนจะได้ไปเที่ยวทะเลกันหลังจากที่รอให้โรงเรียนปิดเทอมมาหลายเดือน
“เบาๆ ฃครับลูกเดี๋ยวก็ตกบันไดกันพอดี” สายน้ำที่เดินออกมาจากครัวพร้อมกับวายุหันมาดุตัวแสบของบ้านที่ดูจะดีใจและตื่นเต้นจนเกินเหตุ
“กริชขอโทษครับคุณแม่ กริชรักคุณแม่นะครับ ฟอด!” กริชรีบเดินไปกอดแม่ของตัวเองเอาไว้และพูดอ้อนทันทีพร้อมกับเขย่งปลายเท้าและโน้มตัวสายน้ำลงมาหอมแก้ม กริชจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่โดนดุและจะเป็นกับทุกคนจึงไม่มีใครที่จะใจแข็งโกรธหรืองอนได้นานๆเลยเมื่อเจอลูกอ้อนของเจ้าตัวแสบเข้าไป
“หึๆ ตัวแสบ” วายุยื่นมือไปยีผมของลูกชายคนเล็กที่มีนิสัยขี้อ้อนเหมือนแม่ของตัวเองไม่มีผิดเพี้ยนด้วยความเอ็นดู
“มากันครบรึยังเฮีย” อิฐที่เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับข้าวปั้นและลูกๆของตัวเองอีก 2 คนคือข้าวจ้าวในวัย 5 ขวบและน้องข้าวหอมลูกสาววัย 3 ขวบ เอ่ยถามไฟที่นั่งเล่นกับน้องฟิล์มลูกชายคนเล็กของตัวเองอยู่
“เหลือไอ้ดินเห็นไอ้ผาบอกว่ารบกับลูกอยู่เพราะน้องแดนจะเอาเป็ดยักษ์ไปทะเลด้วย หึๆ” ไฟบอกอิฐออกมาขำๆ เพราะก่อนที่หินผาจะมาที่นี่ได้แวะไปหาดินที่บ้านก่อนแล้ว จึงได้เห็นพ่อลูกกำลังต่อรองกันอยู่เรื่องเป็ดตัวใหญ่ที่น้องแดนลูกชายคนเล็กของดินอยากที่จะเอาไปเล่นที่ทะเลด้วยแถมเจ้าตัวยังไม่ยอมที่จะให้ดินปล่อยลมออกให้มันแฟบลงอีกด้วยจึงกลายเป็นปัญหาใหญ่ระหว่างสองพ่อลูก
“หึๆ ไอ้เป็ดตัวสีเหลืองน่ะนะ ถ้าเอาไปสงสัยคงต้องเพิ่มรถไปอีกคัน” อิฐพูดออกมาขำๆเช่นเดียวกันเมื่อนึกถึงเป็ดตัวสีเหลืองใหญ่ยักษ์ที่สายน้ำซื้อให้กับหลานชายเพราะว่าหลานชายนั้นอยากได้ และเค้าก็รู้ดีว่าหลานชายของเค้านั้นคงจะไม่ยอมให้ดินปล่อยลมออกอย่างแน่นอน เพราะมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ดินปล่อยลมออกเพื่อที่จะเอาไปพับเก็บน้องแดนมาเห็นเข้าเลยร้องไห้แทบเป็นแทบตายเหมือนจะขาดใจอย่างไงอย่างนั้นและยังบอกอีกด้วยว่าพ่อเป็นคนฆ่าเป็ดตาย
“นั่นไงพูดถึงก็มากันเลย” หินผาเห็นว่าดินเดินอุ้มลูกชายคนเล็กเข้ามาจึงบอกกับทุกคนโดยมีฟ้าครามและโดมลูกชายคนโตเดินตามหลังมา
“ไงวะ ได้ฆ่าเป็ดมั้ย” เหนือถามเพื่อนขึ้นมาขำๆ
“อือ กูฆ่าตายไปแล้ว แล้วก็ยัดเข้าหลังรถไปเรียบร้อยแล้วด้วย” ดินพูดตอบเหนือไปกวนๆพร้อมกับลูบหลังปลอบลูกชายคนเล็กวัย 3 ขวบที่ร้องไห้จนหลับคาอกเค้าไปแล้วแต่ก็ยังมีสะอื้นอยู่หน่อยๆ
“แล้วนี่หลานกูหายไปไหนอีก 2 คนวะ” ดินถามขึ้นมาเมื่อมองหาหลานสาวคนสวยอย่างของขวัญและกรแฝดคนพี่ลูกสาวและลูกชายของวายุและสายน้ำไม่เห็น
“นั่นไงมากันแล้ว กูเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่ะว่าใครเป็นพี่ใครเป็นน้องกันแน่วะ” เหนือพูดขึ้นเมื่อเห็นว่ากรนั้นเดินจูงมือพี่สาวลงมาจากชั้นบน
“ก็หลานสาวพวกมึงได้แม่มาเต็มๆเลยนี่หว่าทั้งรูปร่างแล้วก็หน้าตา” ไฟพูดขึ้นยิ้มๆและมองไปทางสายน้ำคุณแม่ตัวเล็กที่นั่งเล่นอยู่กับหลานสาวน้องวิวลูกสาวคนเล็กของหินผาและวาริอยู่
ตอนนี้ของขวัญอายุได้ 8 ขวบแล้ว และก็มีหน้าตาที่น่ารักน่ามองถอดแบบแม่สายน้ำของตัวเองมาอย่างไม่มีผิดเพี้ยนเลยทีเดียว จึงทำให้เป็นที่หวงแหนของลุงๆและน้องๆ ทุกคนเป็นอย่างมาก แต่ถึงแม้ว่าอายุจะมากกว่าน้องๆที่ห่างกันถึง 3 ปี แต่พอน้องๆเริ่มที่จะโตขึ้นก็เริ่มที่จะสูงทันเธอกันหมดแล้วแทบจะทุกคน โดยเฉพาะกรกับกริชนั้นดูเหมือนว่าจะสูงเลยของขวัญพี่สาวตัวเล็กไปแล้ว ตามด้วยว่าน เฟียส หมอก ข้าวจ้าว และโดม ที่ไล่ตามกันมาติดๆด้วยเหมือนกัน
“วันนี้หลานสาวลุงสวยจังเลยค่ะ ไหนมาให้ลุงชื่นใจหน่อยสิคะ” หินผาเอ่ยชมหลานสาวของตัวเองและกางแขนออกเพื่อรอรับ ของขวัญจึงปล่อยมือจากกรและเดินมานั่งลงที่ตักของลุงผาอย่างว่าง่าย
“ฟอด!! ได้ข่าวว่าหลานลุงมีหนุ่มๆมาตามจีบเยอะเลยเหรอคะ” พอหินผาพูดจบทั้งกร กริช ว่าน เฟียส ข้าวจ้าว หมอก และโดม ก็หันมามองหน้าพี่สาวตัวเองทันทีด้วยความหวง
“ไม่มีเลยค่ะกริชอ่ะมั่วลุงๆอย่าไปเชื่อนะคะ พี่ๆเค้าก็แค่ซื้อขนมมาให้ของขวัญแค่นั้นเองค่ะ” ของขวัญรีบพูดแก้ตัวทันทีเมื่อเห็นว่าน้องๆกำลังส่งสายตาทำลายล้างจ้องมาที่ตัวเองอยู่ ถึงแม้ว่าน้องๆของเธอนั้นเพิ่งจะได้ห้าขวบกว่ากันก็ตามแต่ตัวของแต่ละคนก็เลยเด็กที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันไปไกลแล้ว และด้วยความที่ทุกคนถูกลุงๆของเธอสอนมาตั้งแต่เด็กๆ น้องๆทุกคนจึงค่อนข้างที่จะหวงเธอมาก ยิ่งกรน้องชายคนรองของเธอด้วยแล้วนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะถึงเจ้าตัวจะไม่ค่อยพูดแต่ถ้าได้ลงมือทำแล้วล่ะก็รายไหนรายนั้นเลย ถึงขนาดขังรุ่นพี่ที่เอาดอกไม้มาให้เธอไว้ในห้องน้ำก็มี
“ดีแล้วค่ะยังไม่ต้องรีบมีนะแฟนน่ะ รอของขวัญโตเข้ามหาลัยหรือว่าเรียนจบก่อนแล้วค่อยคิดนะคะ” หินผาพูดบอกกับหลานสาวคนสวยของตัวเองด้วยน้ำเสียงที่นุ่ม
“แต่ลุงว่ารอให้เรียนจบแล้วทำงานก่อนดีกว่านะคะแล้วค่อยมี” อิฐพูดเสริมขึ้นมาด้วยท่าทางจริงจัง เพราะพอคุยกันถึงเรื่องนี้ทีไรลุงๆทุกคนจะต้องซีเรียสกันทุกที
“พ่อครับข้าวอยากเล่นน้ำทะเลแล้วครับ” หลังจากที่ได้ถกเถียงกันเรื่องแฟนของหลานสาวคนโตไปได้สักพักใหญ่ ข้าวจ้าวที่นั่งมองผู้ใหญ่คุยกันอยู่จึงเดินไปสะกิดบอกพ่อตัวเอง
“หึๆ ครับๆ ไปเดี๋ยวนี้แหละครับ ฟอด!” อิฐหันมาบอกลูกชายของตัวเองยิ้มๆพร้อมกับหอมไปที่แก้ม ถึงแม้ลูกชายของพวกเค้าจะเริ่มโตกันแล้วแต่พวกเค้าก็ยังเลือกที่จะหอมจะกอดอยู่เหมือนเดิมเพราะพวกเค้าคิดว่ามันเป็นการแสดงออกซึ่งความรักที่คอยมีให้กันนั่นเอง
...
“กรี๊ดดด!!! ทะเยๆ / เย้ๆ ไปเล่นน้ำกัน” พอทุกคนลงจากรถตู้ทั้งสองคันกันแล้วเด็กๆต่างก็ร้องกรี๊ดและร้องออกมาอย่างดีใจและพร้อมใจกันวิ่งตรงไปที่ทะเลทันทีโดยที่แม่ๆของเด็กๆนั้นยังไม่ทันที่จะได้ตั้งตัวด้วยซ้ำไป ทุกคนจึงได้แต่วิ่งตามหลังลูกๆของตัวเองไป
“ทะเยฉวยๆๆ หมากอยากเย่นทะเยค้าบ” น้องหมากลูกชายคนเล็กของเหนือที่ถูกพ่อตัวเองอุ้มเอาไว้อยู่หันไปบอกกับพ่อ เมื่อเห็นว่าพี่ๆและเพื่อนๆวิ่งไปที่ทะเลกันหมดแล้ว
“ฟอด! เดี๋ยวรอเย็นๆก่อนนะครับตอนนี้แดดร้อนเดี๋ยวน้องหมากจะไม่สบายนะครับ” เหนือบอกกับลูกชายคนเล็กของตัวเองที่เพิ่งจะตื่นจึงไม่ได้วิ่งไปกับเพื่อนๆและพี่ๆ
“โอเชค้าบ ไม่บายเน๊อะ” น้องหมากหันมาพูดกับพ่อของตัวเองอย่างว่าง่ายก่อนที่จะซบไปที่ไหล่ของพ่ออีกครั้งเพราะยังไม่ค่อยตื่นดีเท่าไหร่นัก
ตู้ม!! ตู้ม!! ตู้ม!!
“เฮ้ย!!”
พอเด็กๆทั้ง 10 คน วิ่งมาถึงตรงชายหาดต่างก็กระโดดลงน้ำกันทันทีอย่างไม่มีกลัว จนแม่ๆทุกต่างร้องออกมาเสียงหลงด้วยความตกใจ จะมีก็แต่น้องของขวัญและน้องกรเท่านั้นที่ไม่ได้วิ่งตามทุกคนมาด้วยเพราะช่วยพ่อกับลุงของตัวเองขนของลงจากรถอยู่
“น้องฟิล์มลูก” ออกัสรับวิ่งไปหาลูกชายคนเล็กทันทีที่เห็นน้องฟิล์มล้มลงและสำลักน้ำทะเลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ตู้ม!! กรี๊ดดด” เสียงกรี๊ดของน้องวิวและน้องข้าวหอมทำให้พี่ชายทุกคนหันไปมองทันที พอเห็นว่าน้องทั้งสองคนโดนคลื่นซัดจนล้มลงไปพี่ชายทั้ง 6 คนก็รีบวิ่งมาช่วยประคองน้องสาวทั้งสองคนยืนขึ้นทันที
“โอ๋ๆนะครับ ไม่เป็นไรแล้วนะครับ” ว่านรีบจูงมือน้องสาวของตัวเองขึ้นมาจากน้ำทันทีที่เห็นว่าน้องสาวของตัวเองยังมีสีหน้าตกใจอยู่และกอดปลอบไปด้วย โดยมีวาริยืนมองลูกทั้งสองของตัวเองอยู่ยิ้มๆ ตอนแรกเจ้าตัวกำลังจะเข้าไปช่วยลูกสาวคนเล็กแต่ว่านลูกชายคนโตก็เข้าถึงตัวน้องสาวก่อนเค้าซะอีก อีกด้านข้าวจ้าวเองก็จูงมือข้าวหอมขึ้นมาหาแม่ของตัวเองเหมือนกันเมื่อเห็นว่าน้องยังไอหน้าดำหน้าแดงอยู่
“น้องโดมครับพาน้องขึ้นมาได้แล้วครับเดี๋ยวน้องจะไม่สบาย ไว้เย็นๆเราค่อยมาเล่นกันใหม่นะครับ” ฟ้าครามบอกกับลูกชายคนโตของตัวเองที่คอยประคองน้องอยู่ไม่ห่างไปไหน
“ได้ครับแม่ ไปครับเดี๋ยวตอนเย็นเรามาเล่นกันใหม่นะครับ” โดมก้มลงไปบอกกับน้องชายของตัวเองที่ยังยืนทำตาละห้อยอยู่
“เอาพี่เปกก้าบๆมาด้วยนะ แดงอยากขี่พี่เปกในทะเย” น้องแดนเงยหน้าไปบอกกับพี่ชายของตัวเองด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
“ได้ครับ เดี๋ยวตอนเย็นพี่เอามาให้นะ” พูดเสร็จโดมก็เดินจูงมือแดนขึ้นมาจากน้ำทะเลทันที
“โอ้โห!! เละครับงานนี้ นี่ยังมากันไม่ถึงชั่วโมงเลย” ไฟพูดขึ้นยิ้มๆเมื่อเห็นสภาพของเด็กแต่ละคนที่เดินมายังบ้านพัก
“เร็วกันมากค่ะ แม่ๆนี่วิ่งตามกันไปไม่ทันเลย พอไปถึงก็ไปลอยคอกันอยู่ในทะเลเรียบร้อยแล้ว” เบลพูดขึ้นยิ้มๆอย่างไม่ซีเรียสอะไรเพราะเด็กๆถูกสอนให้ว่ายน้ำเป็นกันทุกคนตั้งแต่ยังไม่ขวบหนึ่งด้วยซ้ำไป และอีกอย่างก็มีพี่ๆคอยดูอยู่ด้วยเธอจึงไม่ค่อยจะเป็นห่วงมากนัก เพราะพี่ๆไม่มีทางปล่อยให้น้องคนใดคนหนึ่งเป็นอะไรไปอย่างแน่นอนเธอรู้จักเด็กๆดี
“หึๆ ลูกหมาทั้งหลายเข้าไปอาบน้ำกันก่อนเลยครับ เดี๋ยวถ้าไม่สบายจะหมดสนุกเอานะ” เหนือที่เดินออกมาจากบ้านพอเห็นเด็กๆจึงพูดบอกขึ้น โดยพี่ๆคนโตนั้นต่างก็วิ่งแยกย้ายกันไปอาบน้ำอย่างว่าง่าย จะมีก็แต่น้องเล็กที่ยังต้องให้แม่ของตัวเองคอยช่วยอยู่
หลังจากที่จัดการเด็กๆให้อาบน้ำอาบท่ากันเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็พากันออกมาหาอาหารทะเลกินกันตามคำเรียกร้องของเด็กๆ และพอแดดร่มลมตกคุณพ่อคุณแม่ต่างก็พาลูกๆออกมานั่งเล่นที่ชายหาดเพื่อเล่นน้ำและเล่นก่อกองทรายกัน
“ไม่ไปเล่นกับเพื่อนๆแล้วก็น้องๆเหรอครับ” วายุถามลูกชายคนรองที่นั่งอยู่ข้างๆตัวเอง
“ไม่ครับ กรไม่ชอบเล่นกรขอนั่งดูดีกว่าครับ” กรหันมาตอบพ่อตัวเองยิ้มๆ
“กรมานี่เร็วมาเล่นน้ำกัน” พอนั่งไปสักพักของขวัญก็ขวักมือเรียกกรให้ลงไปเล่นน้ำด้วยกัน กรจึงลุกขึ้นไปทันทีโดยไม่มีท่าทีลังเลแต่อย่างใด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังบอกกับพ่อตัวเองอยู่เลยว่าไม่อยากเล่น วายุจึงได้แต่ยิ้มเมื่อเห็นลูกชายคนรองเดินไปหาพี่สาวอย่างว่าง่าย
“อ่ะมึง สักหน่อยมั้ย” ดินที่เดินออกมาจากในบ้านยื่นกระป๋องเบียร์ในมือมาให้กับวายุซึ่งวายุก็ยื่นมือมารับแต่โดยดี
“มึงว่าโตขึ้นไปลูกๆของเราจะเป็นยังไงกันบ้างวะ” หลังจากที่นั่งดูลูกๆของตัวเองเล่นน้ำและก่อกองทรายกับบรรดาแม่ๆอยู่ดินก็เอ่ยถามทุกคนขึ้นมา
“ก็คงจะเหมือนพวกเฮียๆแล้วก็พวกผมนี่แหละ ผมมั่นใจว่าพวกเราทุกคนจะต้องเลี้ยงลูกๆทุกคนให้เติบโตมาเป็นคนดีได้” อิฐพูดขึ้นโดยที่สายตายังคงจับจ้องไปที่ลูกๆและหลานๆของตัวเองทุกคนด้วยรอยยิ้มกว้าง
“กูก็คิดเหมือนอย่างไอ้อิฐนั่นแหละแต่ที่แน่ๆที่กูรู้ก็คือ ลูกๆของพวกเราจะไม่มีวันปล่อยมือจากกันเว้ย” ไฟพูดขึ้นในขณะที่สายตาของตัวเองนั้นจับจ้องไปที่ลูกชายคนโตอย่างเฟียสที่กำลังนั่งคุกเข่าลงและปัดทรายให้กับน้องแดนอยู่เนื่องจากน้องแดนนั้นวิ่งหกล้ม
“พ่อคะ ลุงๆคะไปเล่นน้ำกันค่ะของขวัญไม่ได้เล่นน้ำกับพ่อแล้วลุงๆนานแล้วนะคะ” ของขวัญเดินมาตามพ่อและลุงที่นั่งคุยกันอยู่ด้วยเสียงอ้อนๆ
“ไปเว้ยหลานอุตส่าห์มาตามปล่อยแก่หน่อยพวกมึง” เหนือที่ลุกขึ้นคนแรกหันไปบอกกับเพื่อนๆก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งลงทะเลไปหาลูกตัวเอง ซึ่งพอน้องหมากเห็นพ่อตัวเองก็ถึงกับร้องออกมาอย่างดีใจที่พ่อจะลงมาเล่นน้ำด้วย
“พ่ออุ้มๆ” น้องแดนที่นั่งอยู่บนเป็ดโดยมีฟ้าครามคอยช่วยประคองอยู่นั้น พอเห็นว่าพ่อของตัวเองเดินมาก็ร้องให้อุ้มทันที
“ฟอดๆ สนุกมั้ยครับคุณแม่คุณลูก” ดินที่พอเดินไปถึงก็หอมแก้มเมียและลูกทันทีก่อนที่จะถามขึ้นมา
“สนุกสิครับ คืนนี้ได้สลบกันเป็นแถวแน่ๆเลยล่ะครับ” ฟ้าครามตอบดินออกมายิ้มๆอย่างมีความสุข แต่สายตาก็ยังคงมองไปที่โดมลูกชายคนโตที่กำลังเล่นน้ำอยู่กับเพื่อนๆอยู่เรื่อยๆ
“ก็ดีสิครับ พี่จะได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง” ดินพูดออกมาและมองฟ้าครามอย่างต้องการสื่อความหมาย
“เพี๊ยะ!! พี่ดินทะลึ่ง หื่นด้วย” ฟ้าครามที่ได้ยินดินพูดออกมาอย่างนั้นก็ตีลงไปที่แขนของดินพร้อมกับใบหน้าที่แดงขึ้นมาทันที
“เพี๊ยะๆ พ่อลึ่งนะ หึ่งด้วย” น้องแดนตีพ่อตัวเองตามแม่แถมยังพูดตามแม่ตัวเองอีกด้วย จนดินกับฟ้าครามได้แต่หัวเราะออกมากับความที่ยังพูดไม่ค่อยชัดบางคำของลูกชายคนเล็ก
“คุงพ่อขา” ข้าวหอมที่เห็นพ่อเดินลงมาในน้ำก็ร้องเรียกทันทีพร้อมกับชูมือน้อยๆ ขึ้นให้พ่ออุ้ม
“ขา ว่ายังไงคะเจ้าหญิงของพ่อ เหนื่อยรึยังคะ ฟอด!” อิฐเดินลงไปนั่งในน้ำและอุ้มลูกสาวคนเล็กมานั่งที่ตักของตัวเอง
“ยางค่าา ข้าวหองชอบ ข้าวหองชอบทะเยค่าา” น้องข้าวหอมจีบปากจีบคอพูดบอกพ่อตัวเองโดยมีข้าวปั้นนั่งมองสองพ่อลูกนั่งคุยกันอยู่อย่างยิ้มๆ
“แล้วคุณแม่ล่ะครับ เหนื่อยรึยังครับ” อิฐหันมาถามข้าวปั้นที่นั่งมองตัวเองอยู่
“ไม่เหนื่อยเลยครับ ปั้นมีความสุขมากเลยนะครับ ขอบคุณพี่อิฐมากเลยนะครับที่คอยมอบความสุขให้กับปั้นอย่างไม่มีวันหมดเลย”
“จุ๊บๆ พี่เต็มใจครับ แล้วพี่ก็สัญญาว่าพี่จะทำให้ปั้นมีความสุขเพิ่มขึ้นในทุกๆวันที่มีพี่อยู่กับปั้นครับ” อิฐจูบไปที่ริมฝีปากของข้าวปั้นย้ำๆและบอกออกไป
“จู๊บๆค่า คุงพ่อขาจู๊บๆด้วยคนค่า” น้องข้าวหอมที่เห็นว่าพ่อของตัวเองจูบแม่จึงขอจูบด้วยคน
“หึๆ ได้สิคะ จุ๊บๆๆ ฟอดๆๆ” อิฐก้มลงไปจูบที่ปากเล็กของลูกสาวและฟัดไปที่แก้มยุ้ยจนน้องข้าวหอมส่งเสียงหัวเราะคิกคักออกมาเสียงดัง
พอทุกคนพากันเล่นน้ำกันจนสมใจแล้ว เหนือก็เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมาโดยการจัดการแข่งขันเล็กๆขึ้นมา โดยให้แต่ละทีมแข่งกันก่อกองทรายเข้าประกวดซึ่งทุกคนก็ต่างเห็นด้วยเพราะเป็นกิจกรรมพ่อแม่ลูกที่จะได้ทำด้วยกัน ซึ่งพอตกลงกันได้แล้วผู้เข้าแข่งขันทั้ง 6 ทีมก็ต่างแยกย้ายกันไปก่อกองทรายของตัวเองทันที
“ของขวัญอยากสร้างปราสาททรายของเจ้าหญิงค่ะ” ของขวัญบอกออกมาทันทีที่กำลังจะตกลงกันว่าจะก่อเป็นรูปอะไรดี
“แต่กริชอยากก่อเป็นรูปรถนี่นา” กริชแย้งขึ้นทันทีเมื่อตัวเองชอบรถมากกว่า
“ก็ได้ แต่ของขวัญจะไม่ให้กริชหอมแก้มของขวัญเดือนหนึ่งเลย จะให้แต่กรหอมคนเดียว” ของขวัญพูดออกจนแก้มพองลมและทำปากยู่
“ห๊ะ!! อะไรอ่ะกริชไม่ยอมหรอกนะ ก็ได้ๆปราสาททรายเจ้าหญิงก็ได้” พอได้ยินที่ของขวัญบอกออกมากริชก็ยอมทันทีเลยเพราะกลัวว่าจะไม่ได้หอมแก้มนุ่มๆหอมๆของพี่สาวนั่นเอง กรก็ได้แต่ส่ายหัวไปมาเมื่อได้ยินสองพี่น้องตกลงกันได้
“ฟอด! ฟอด! ขอบใจนะ” ของขวัญยื่นหน้าไปหอมแก้มกรและกริชคนละข้าง ก่อนที่จะเริ่มลงมือก่อปราสาททรายเจ้าหญิงกัน โดยที่วายุและสายน้ำคอยมองดูลูกๆที่ช่วยกันก่อกองทรายกันอยู่ยิ้มๆ
“น้องจะทำเป็นรูปอะไรดีคะ” ว่านถามหันไปถามน้องสาวของตัวเองที่กำลังทำท่าคิดหนักอยู่
“น้องอยากได้เจ้าหญิงเอลช่าค่า” ในที่สุดน้องวิวก็บอกพี่ชายออกมาด้วยรอยยิ้ม
“แต่พี่ว่ามัน.... โอ๋ๆ ครับเอลซ่าก็เอลซ่านะ” ตอนแรกว่านกำลังจะพูดว่ามันยากไปแต่ก็ต้องกลับคำทันทีเมื่อเห็นปากที่กำลังเบ้ออกของน้องสาวตัวเอง โดยมีหินผาและวาริกำลังนั่งขำพี่ชายที่โอ๋น้องสาวอยู่ เพราะว่านนั้นแสนที่จะตามใจน้องสาวและไม่เคยขัดเลยสักครั้ง
“พี่เฟี๊ยก ปั้งๆหุ่งยงนะ” ฟิล์มหันไปบอกกับพี่ชายตัวเองเมื่อพ่อและแม่ของตัวเองเตรียมตัวขุดทรายมาไว้ให้แล้ว
“ได้ครับ งั้นเดี๋ยวพี่ทำหัวแล้วฟิล์มทำขานะ โอเคมั้ยจะได้เสร็จเร็วๆ” เฟียสหันไปบอกกับน้องชายที่มองมายังตัวเองตาเป็นประกายอยู่
“โอเชเยย ปั้งๆขานะนี่ๆ” พอได้ยินพี่ชายบอกแบบนี้น้องฟิล์มก็รีบโกยทรายที่พ่อเตรียมไว้ให้มาโป๊ะๆกันไว้ทันที ซึ่งไฟกับออกัสเองก็ยังแอบลุ้นอยู่ว่ามันจะออกมาเป็นขาได้ยังไงกัน
“เราจะทำเป็นรูปอะไรกันดีครับ” เหนือถามลูกๆของตัวเองขึ้นมาทันทีที่เค้าและเบลช่วยกันโกยทรายเตรียมไว้ให้แล้ว
“หมอกอยากทำเป็นรูปบ้านเหมือนที่พ่อทำครับ ได้มั้ยครับ” หมอกเงยหน้าขึ้นมาถามพ่อและแม่ของตัวเองหลังจากที่นั่งคิดมาสักพัก
“ว่ายังไงคะ เราทำเป็นรูปบ้านอย่างที่พี่หมอกว่าดีมั้ยคะ” เบลหันไปน้องหมากลูกชายคนเล็กที่กำลังทำท่าครุ่นคิดหนักอยู่
“บ้างกะได้ แต่เอาฉะน้ามด้วยน๊า” ในที่สุดน้องหมากก็บอกกับทุกคนออกมาหลังจากที่ให้รอลุ้นกันอยู่สักพัก
“หึๆ ได้สิครับ งั้นเราลงมือกันเลยนะครับ” หลังจากที่เหนือบอกทั้งสี่คนพ่อแม่ลูกก็เริ่มลงมือกันทันที โดยที่เบลคอยช่วยน้องหมากขุดสระว่ายน้ำ และเหนือก็เริ่มช่วยลูกชายคนโตโดยการร่างแบบบ้านคร่าวๆไว้ให้
“ข้าวหองอยากทำหนมเค้กค่า” ยังไม่ทันที่จะมีใครได้ถามออกมาน้องข้าวหอมก็รีบเสนอออกมาทันที จนทุกคนถึงกับยิ้มออกมา
“ตกลงมั้ยครับน้องข้าว” ข้าวปั้นหันไปถามลูกชายคนโตเพื่อถามความคิดเห็นถึงแม้จะรู้ว่าข้าวจ้าวนั้นตามใจและรักน้องมาก
“ได้ครับ ข้าวตามใจน้องครับ” และก็เป็นอย่างที่อิฐและข้าวปั้นคิดไว้ว่าข้าวจ้าวนั้นไม่เคยคิดที่จะขัดใจน้องสาวเลยสักครั้ง จากนั้นทั้ง 4 คนพ่อแม่ลูกจึงเริ่มลงมือกันก่อทรายให้เป็นรูปเป็นร่างขนมเค้กขึ้นมา
“น้องโดมน้องแดนอยากทำเป็นรูปอะไรดีครับ” ฟ้าครามถามความคิดเห็นของลูกชายทั้งสองคน
“โดมอยากทำเป็นโรงแรมของเราครับ” โดมบอกออกมาเมื่อนึกถึงตอนที่พ่อพาตัวเองไปทำงานด้วยที่โรงแรมจึงบอกแม่ออกไป
“ไม่อาวนะ แดงอยากทำพี่เปกนะ” น้องแดนพูดออกมาอย่างไม่ยอมแพ้
“แดนไม่อยากทำที่ทำงานพ่อเหรอ” โดมหันมาถามน้องชายด้วยสีหน้าจริงจังทันที โดยมีดินและฟ้าครามคอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ
“แต่แดงอยากทำพี่เปกด้วยนี่นา” น้องแดนก้มหน้าลงมองทรายและพูดขึ้นมาเสียงอ่อยๆพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มเอ่อคลอออกมา
“งั้นเราทำทั้งสองอย่างเลยดีมั้ย ทำเป็ดของแดนด้วย” โดมที่เห็นว่าน้องเริ่มจะร้องไห้แล้วจึงพูดขึ้นอย่างเอาใจ
“จริงๆนะ เอาพี่เปกด้วยนะ” แดนรีบเงยหน้าขึ้นเมื่อพี่ชายอนุญาตให้ทำพี่เป็ดได้แล้ว
“จริงๆสิครับ ไม่ร้องนะ ฟอด!” โดมยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้กับน้องชายและก้มลงไปหอมแก้มจนน้องแดนยิ้มออกมาได้
เมื่อทั้ง 6 ทีมตกลงกันได้แล้วว่าแต่ละทีมจะทำรูปอะไรกันดี ทุกทีมก็ต่างก้มหน้าก้มตาและตั้งใจกันก่อกองทรายของตัวเองกันอย่างขยันขันแข็งถึงแม้ว่ารูปร่างมันจะดูไม่เหมือนที่ตั้งใจกันไว้สักเท่าไหร่ก็ตามที จนในที่สุดทุกทีมก็ทำมันจนสำเร็จเสร็จสิ้นจนได้
พอก่อกองทรายกันเสร็จเป็นรูปเป็นร่างเรียบร้อยกันแล้ว ทุกคนก็ต่างพากันถ่ายรูปกับผลงานของตัวเอง โดยที่ไม่ได้มีการตัดสินตามที่เหนือได้บอกเอาไว้แต่อย่างใดเพียงแต่ทุกคนนั้นอยากที่จะหากิจกรรมทำกันก็แค่นั้นเอง ซึ่งเด็กๆเองต่างก็รู้สึกสนุกที่ได้มีโอกาสได้สร้างสรรค์ผลงานผ่านจินตนาการของตัวเองลงไปที่กองทรายกองนั้นที่ร่วมกันทำกับครอบครัว
........
ตอนพิเศษจบแล้วจ้า ขอขอบคุณทุกการติดตามนะคะ ไรท์ขอฝากนิยายเรื่องที่ 3 เรื่อง หลงคิดว่า...แค่เอ็นดู (รุ่นลูก) ด้วยนะคะ เรื่องนี้จะเป็นเรื่องของรุ่นลูกจากเรื่อง พี่ว๊ากเย็นชากับน้องลักยิ้ม และเรื่อง แอบรักพี่ว๊ากมาดนิ่ง ค่ะ ฝากกดติดตามกันไว้ด้วยนะคะ
Comments (0)