พี่นพอยากไปไหนรึเปล่าครับ ไหนๆวันนี้ก็ลางานทั้งวันแล้วนัทถามนพพรขึ้นมาระหว่างที่ขับรถออกมาจากบ้านของฟ้าคราม และยังจับมือของนพพรให้มาวางอยู่ที่หน้าขาของตัวเองและคลึงเล่นเบาๆไปด้วย

อืมมม...งั้นเราไปดูหนังแล้วพอตอนกลางคืนเราก็ไปเที่ยวผับกันมั้ย ไปแค่แป๊บเดียวก็พอ พี่ไม่ได้ไปดูหนังนานแล้วและพี่ก็ยังไม่เคยไปเที่ยวผับเลยสักครั้ง พี่อยากเข้าไปดูว่าข้างในมันเป็นยังไงเคยได้แต่ขับรถผ่านน่ะนพพรหันมาบอกกับนัทยิ้มๆอย่างเขินอาย เพราะด้วยอายุของเค้าแล้วถ้าจะบอกว่ายังไม่เคยได้เข้าผับเลยสักครั้งเป็นใครก็คงจะไม่เชื่อเป็นแน่

หึๆได้สิครับ งั้นเดี๋ยวเราไปดูหนังกันก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วค่อยออกมาใหม่นะครับนัทบอกออกไปพร้อมกับยกมือของนพพรขึ้นมาจูบลงไปที่หลังมือ หลังจากนั้นก็ใช้นิ้วหัวแม่มือของตัวเองคลึงเล่นไปมาตลอดทางที่ขับรถอยู่

นพพรหันไปมองหน้าด้านข้างของนัทตลอดทางที่ทั้งคู่อยู่บนท้องถนน เค้าต้องโชคดีขนาดไหนกันที่ได้มาเจอกับผู้ชายคนนี้ ผู้ชายคนนี้คือคนที่เข้ามาเติมเต็มความรู้สึกที่ขาดหายไปของเค้า ผู้ชายคนนี้มาทำให้เค้าได้รู้จักกับคำว่าอบอุ่นขึ้นมาอีกครั้ง ผู้ชายคนนี้เป็นคนหยิบยื่นมิตรภาพดีๆมาให้กับเค้าทำให้เค้าได้รู้จักกับทุกคน

ตอนที่เค้าเรียนอยู่นั้นเค้าแทบจะไม่มีเพื่อนที่สนิทเลย ด้วยความที่เหลือตัวคนเดียวและเงินที่มีอยู่อย่างจำกัด พอถึงเวลาเลิกเรียนเค้าก็ต้องไปทำงานพาร์ทไทม์จึงไม่ได้มีเวลาสนใจสิ่งรอบๆตัวมากนัก จนได้มาเจอกับอิฐเจ้านายที่แสนดีของเค้า ทุกอย่างในชีวิตของเค้าจึงค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ

นัทครับ จุ๊บ! ขอบคุณนะครับนพพรเรียกให้นัทหันมาระหว่างที่รถติดไฟแดง และพอนัทหันมาตามเสียงเรียก นพพรที่ปลดสายเบลล์รอไว้อยู่ก่อนแล้วก็โน้มตัวไปจูบที่ริมฝีปากของนัทและเอ่ยขอบคุณออกมา

นัทถึงกับนิ่งและสตั๊นท์ไปประมาณ 5 วินาที เพราะนี่คือครั้งแรกตั้งแต่เป็นแฟนกันมาที่นพพรจูบเค้า หรือจะเรียกว่านี่เป็นครั้งแรกของเค้าทั้งคู่ที่ได้จูบกันก็ว่าได้ ทั้งๆที่พวกเค้าก็คบกันได้เกือบๆจะ 5 เดือนแล้ว

เอ่อไฟเขียวแล้วครับนพพรรีบบอกเมื่ออีกคนที่ยังคงจ้องและมองหน้าเค้าอยู่แทบจะไม่กะพริบตาเลยทีเดียว

นัทเองก็ได้แต่ยกยิ้มที่มุมปากเพียงเท่านั้นและไม่ได้พูดอะไรออกมาให้อีกคนได้รู้สึกเขินอายไปมากกว่านี้ เพราะแค่นี้แฟนของเค้านั้นก็หน้าแดงหูแดงไปหมดแล้ว

...

นัทเข้าไปอาบน้ำก่อนเลยก็ได้นะครับ เดี๋ยวพี่ว่าจะทำอะไรกินรองท้องกันก่อนแล้วค่อยไปกันหลังจากที่ไปดูหนังกันมาแล้ว ทั้งคู่มาพากันมาแวะอาบน้ำแต่งตัวที่คอนโดของนพพรที่อยู่ใกล้กับผับที่พวกเค้าจะไปกันมากกว่า โดยที่นัทนั้นมีเสื้อผ้าติดอยู่ที่หลังรถเป็นประจำอยู่แล้วจึงไม่ใช่เรื่องยาก

นัทเองก็พยักหน้ารับและเดินตามนพพรเข้าไปในห้องนอน ที่เค้าเพิ่งจะเคยได้เข้ามาเป็นครั้งแรกแม้จะเคยมาที่ห้องของนพพรหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่เคยเข้ามาในห้องนอนสักที สายตาคมมองสำรวจไปรอบๆห้องนอนของแฟนตัวเองที่แต่งแบบเรียบง่ายและแทบจะไม่มีอะไรเลยนอกจากโต๊ะที่มีคอมพิวเตอร์ตัวใหญ่ตั้งอยู่เท่านั้นเอง

นี่ครับผ้าขนหนู แล้วก็แปรงสีฟันอยู่ในตู้ในห้องน้ำนะครับ ส่วนพวกสบู่ยาสระผมก็ใช้ของพี่ได้เลยนพพรเดินไปหยิบผ้าขนหนูในตู้และเดินมาบอกกับนัทที่ยืนมองทุกการกระทำของแฟนตัวเองอยู่ เค้ายังคงติดใจรสจูบของอีกคนไม่หายเลย ถึงแม้มันจะเป็นแค่สัมผัสบางเบาเพียงเท่านั้น แต่มันก็ทำให้เค้าคอยแต่จะมองไปที่ริมฝีปากบางที่คอยขยับขึ้นลงอยู่ตลอดเวลาเลย

พอตั้งสติได้นัทก็รีบสะบัดหัวตัวเองแรงๆ เพื่อขับไล่ความคิดที่มันกำลังคืบคลานเข้ามาในหัวของเค้าให้ออกไป ก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อหวังให้ความเย็นดับความฟุ้งซ่านของตัวเองออกไป

หืออ ผับนี้เหรอครับนพพรร้องออกมาพร้อมกับทำตาโต

พี่นพไม่ชอบเหรอครับ ถ้างั้นเดี๋ยวผมเปลี่ยนที่ก็ได้นะนัทถามขึ้นมาและทำท่าจะออกรถแต่ก็โดนมือของนพพรจับไว้ซะก่อน

ไม่ใช่ครับไม่ใช่ พี่แค่ไม่คิดว่านัทจะพาพี่มาที่ผับหรูขนาดนี้ นัทรู้มั้ยครับว่าพี่มองทุกครั้งที่พี่ขับรถผ่านเลย แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปเพราะไม่รู้ว่าข้างในเป็นยังไงบ้าง แล้วอีกอย่างพวกเครื่องดื่มก็น่าจะแพงมากด้วยนพพรพูดออกมาด้วยท่าทางที่ตื่นเต้นเหมือนเด็กๆ จนนัทอดที่จะยกมือของตัวเองมาจับหัวของนพพรโยกไปมาไม่ได้ โดยที่นพพรก็ไม่ได้ว่าหรือถืออะไร

หึๆ งั้นเราเข้าไปกันเถอะครับ เดี๋ยวดึกกว่านี้คนจะเยอะนัทเอ่ยชวนพร้อมกับเปิดประตูรถออกไป นพพรที่เห็นดังนั้นจึงเปิดประตูและตามนัทลงไปบ้าง

คุณนัทสวัสดีครับพอทั้งคู่เดินมาถึงหน้าประตูทางเข้า การ์ดที่ยืนประจำอยู่ที่หน้าประตูก็โค้งตัวให้กับนัทเล็กน้อยและกล่าวสวัสดีออกมา จนนพพรถึงกับคิ้วขมวดเข้าหากันทันที

ทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่มั้ยนัทเอ่ยถามออกไปในน้ำเสียงที่ดูนิ่งและดุดัน ไม่เหมือนกับน้ำเสียงที่ใช้คุยกับนพพรหรือรุ่นพี่ในกลุ่ม

ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับไม่มีปัญหาอะไร จะมีบ้างก็เล็กๆน้อยๆแต่คุณเมฆก็จัดการได้ครับการ์ดรายงานนัทออกไปตามความเป็นจริง และเมฆที่ว่าก็คือรุ่นพี่ที่นัทนับถือและไว้ใจได้ และยังเป็นผู้จัดการร้านที่คอยดูแลทุกอย่างแทนนัทอีกด้วย ซึ่งนัทเองก็จ่ายค่าตอบแทนให้แบบสมน้ำสมเนื้อเช่นเดียวกัน

ไปครับพี่นพเราเข้าไปข้างในกันดีกว่าพอคุยกับการ์ดด้านหน้าได้สักพัก นัทก็หันมาจูงมือนพพรเพื่อเดินเข้าไปข้างใน แต่นพพรก็ฝืนตัวไว้พร้อมกับจ้องมาที่หน้าของนัท

เดี๋ยวเราค่อยเข้าไปคุยกันข้างในนะครับ พี่นพอยากรู้อะไรผมจะบอกให้หมดเลยนัทหันมาพูดกับนพพรด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนผิดกับที่คุยกับการ์ดเมื่อสักครู่

การ์ดทั้งสองคนก็ได้แต่หันมองหน้ากันและรับรู้ได้ทันทีว่าผู้ชายหน้าออกไปทางหวานตรงหน้านี้คือคนพิเศษของเจ้านายของพวกเค้า เพราะนัทไม่เคยที่จะพาใครมาที่นี่เลย หรือต่อให้มีคนมาเสนอตัวก็ถูกนัทไล่กลับไปจนหมด ถึงขนาดเอาปืนมายิงขู่นัทก็เคยทำมาแล้ว เจ้านายของพวกเค้าถึงแม้ว่าอายุจะยังน้อยแต่ก็โหดใช่เล่น ไม่อย่างนั้นคงจะไม่สามารถมีสนามแข่งรถและผับเป็นของตัวเองตั้งแต่อายุขนาดนี้ได้หรอก

นัทพานพพรเดินผ่านฝูงผีเสื้อราตรีขึ้นมาบนชั้น 3 ของผับ ซึ่งเป็นห้องทำงานของตัวเอง พอมาถึงนัทก็พานพพรมานั่งลงที่โซฟาตัวใหญ่ที่อยู่ในห้อง

พี่นพมีอะไรจะถามมั้ยครับพอทั้งคู่ลงมานั่งที่โซฟากันแล้ว นัทก็ถามนพพรที่ยังคงนั่งมองหน้าเค้าอยู่

พี่อยากรู้จักนัทให้มากกว่านี้ครับ ตอนนี้เหมือนกับพี่รู้จักแค่ว่านัทเป็นนักศึกษาธรรมดาๆคนหนึ่ง แล้วก็เป็นรุ่นน้องของคุณอิฐเท่านั้นเอง นัทพอจะให้พี่รู้จักนัทมากกว่านี้ได้มั้ยครับนพพรพูดบอกนัทออกมาซึ่งนัทก็ยิ้มกลับไปให้ เค้าดีใจที่อีกคนอยากที่จะรู้จักตัวตนของเค้าให้มากกว่านี้ไม่ใช่แต่ว่าจะคบกันไปวันๆโดยที่ไม่เคยรู้เรื่องอะไรของกันและกันเลย

ผมเติบโตขึ้นมาโดยมีคุณปู่และคุณย่าเป็นคนเลี้ยงดูครับ เพราะตอนนั้นคุณพ่อและคุณแม่ของผมท่านแยกทางกันตั้งแต่อายุผมได้เพียง 3 ขวบเท่านั้นเอง และท่านทั้งคู่ต่างก็แต่งงานใหม่มีครอบครัวและมีลูกใหม่ด้วยกันทั้งคู่ แต่พอผมอายุได้ประมาณ 9 ขวบ คุณปู่ท่านก็มาจากไป ผมเลยต้องอยู่กับคุณย่าสองคนมาโดยตลอด แต่ผมก็ไม่เคยขาดความอบอุ่นเลยนะครับเพราะคุณย่าท่านให้กับผมได้ทุกอย่างเท่าที่ผมต้องการแม้กระทั่งความรักความอบอุ่นที่ผมไม่เคยได้จากพ่อและแม่เลย

แต่แล้ววันที่ผมต้องสูญเสียก็มาถึงอีกครั้ง ตอนนั้นผมเพิ่งจะขึ้นชั้น ม.4 คุณย่าก็มาจากไปด้วยโรคประจำตัวที่รุมเร้าท่านมาหลายปี ท่านพยายามที่อดทนและต่อสู้กับมันจนถึงที่สุด เพราะท่านรู้ดีว่าถ้าท่านจากไปแล้วผมจะไม่เหลือใครอีก แต่แล้วท่านก็ไม่สามารถสู้กับมันได้ต่อไปอีก

มรดกของคุณย่าส่วนใหญ่จึงตกเป็นของผมและเป็นของคุณพ่อบางส่วน เพราะว่าพวกท่านมีลูกชายเพียงคนเดียวคือพ่อของผม คุณพ่อไม่ค่อยจะได้กลับมาหาคุณปู่กับคุณย่าเท่าไหร่นัก จะมีติดต่อมาบ้างก็นานๆครั้งคุณย่าท่านจึงโกรธพ่อของผมมาก หลังๆมาคือคุณย่าท่านประกาศเลยว่าไม่ให้คุณพ่อเหยียบเข้ามาในบ้าน เพราะตั้งแต่คุณพ่อมีครอบครัวใหม่ท่านก็แทบจะไม่ได้มาหาผมที่บ้านหลังใหญ่ของคุณปู่คุณย่าเลย หรือจะพูดให้ดีท่านคงลืมไปแล้วว่ามีผมเป็นลูกของท่านอีกคนหนึ่ง

ผมใช้เวลาอยู่เกือบปีกว่าที่จะทำใจได้ ยังดีที่มีเพื่อนที่ดีอย่างขนมพายที่คอยอยู่เคียงข้างคอยมาอยู่เป็นเพื่อนและให้กำลังใจมาโดยตลอด ผมจึงสามารถผ่านมันมาได้และพอเล่ามาถึงตรงนี้นัทก็ยิ้มขึ้นมาเมื่อนึกถึงหน้าของเพื่อนตัวเอง นี่ก็คือเหตุผลที่เค้าไม่เคยคิดที่จะรำคาญขนมพายเลยเวลาที่อีกคนพูดมากหรือพูดไม่หยุดเลย เพราะว่าเสียงเจื้อยแจ้วของเพื่อนร่างบางของเค้าคนนี้นี่แหละที่ทำให้เค้าสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาอันแสนยากลำบากนั้นมาได้

พอผมขึ้น ม.5 ผมก็เริ่มที่จะศึกษาเกี่ยวกับการลงทุนทำธุรกิจคอนโด เพราะผมรู้ว่าผมจะต้องอยู่ด้วยตัวเองให้ได้ จะมาหวังนอนกินเงินของคุณย่าที่ท่านทิ้งไว้ให้อย่างเดียวคงจะไม่ได้ เพราะเงินนั่นก็ต้องมีวันหมดไม่วันใดก็วันหนึ่งหากผมไม่คิดที่จะทำอะไรเลย

และพอผมใกล้จะจบ ม.6 ผมก็ทำธุรกิจแรกของตัวเองได้สำเร็จโดยมีอสังหาริมทรัพย์เป็นของตัวเองชิ้นแรกนั่นคือคอนโดที่ผมอยู่ในตอนนี้ ส่วนบ้านหลังใหญ่ก็นานๆถึงจะกลับไปซะทีแต่ก็ยังมีคนคอยดูแลอยู่ตลอด

พอขึ้นปี 1 ผมก็เริ่มทำธุรกิจสนามแข่งรถเพราะด้วยความชอบส่วนตัว แล้วก็ผับแห่งนี้ที่เพิ่งเปิดได้เมื่อต้นปีนี้นี่เอง แล้วก็ยังไม่มีใครรู้ด้วยพี่นพเป็นคนแรกที่ได้รู้และได้มาที่นี่ตลอดเวลาที่นัทเล่าถึงเรื่องชีวิตส่วนตัวของตัวเอง นพพรก็ตั้งใจฟังและมองสบตากับนัทตลอดเวลาด้วยแววตาที่สั่นไหวพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มเอ่อคลอ

เค้าคิวว่าชีวิตของเค้าดูโดดเดี่ยวและอ้างว้างมากแล้ว แต่มันเทียบไม่ได้กับเด็กที่พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่ยังเล็กโดยที่แทบจะไม่เคยได้รู้จักความรักและความอบอุ่นจากคนเป็นพ่อเป็นแม่เลย หนำซ้ำยังต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียวตั้งแต่อายุ 16 เค้าไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนัทถึงดูนิ่งและมีความเป็นผู้ใหญ่อยู่มากถึงขนาดนี้

หึๆ อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิครับ ผมไม่ได้เป็นอะไรแล้วพี่นพก็เห็น ทุกวันนี้ผมสามารถยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง มีธุรกิจเป็นของตัวเอง แล้วก็ยังมีครอบครัวใหญ่ที่คอยเป็นที่ปรึกษาและเป็นที่พักพิงให้กับผมทุกเวลาที่ผมต้องการ แถมยังมีคนรักที่แสนจะน่ารักอีกด้วย แค่นี้ชีวิตผมก็มีความสุขมากกว่าใครๆแล้วล่ะครับนัทพูดบอกออกมาจากใจจริงเพราะตอนนี้เค้ารู้สึกแบบนั้นจริงๆ

ตอนที่เค้าเริ่มที่จะเปิดสนามแข่งรถเค้าก็มีไปขอคำปรึกษาจากพี่ๆในกลุ่มและก็ได้คำแนะนำจากพี่ๆกลับมาอย่างมากมาย แถมยังได้รับความช่วยเหลือจากเหนือที่คอยวิ่งไปดูงานก่อสร้างให้ตลอด เพราะเค้าให้บริษัทของเหนือเป็นคนก่อสร้างสนามแข่งรถให้ และยังจะพี่ๆทุกคนที่คอยโทรมาถามไถ่เวลาที่เค้าไม่ว่างเข้าไปเจอ แม้กระทั่งวายุเองที่ดูเหมือนจะไม่สนใจใครก็ยังเอ่ยปากถามทุกครั้งที่เจอกัน นั่นทำให้เค้ารู้สึกว่าชีวิตนี้ไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่านี้แล้ว มีแต่จะได้รับความอบอุ่นจากพี่ๆและทุกคนรอบๆตัว จนในที่สุดธุรกิจของเค้าก็ค่อยๆเจริญเติบโตและประสบความสำเร็จโดยใช้เวลาไม่นานมากนัก

นัทเก่งมากเลยรู้มั้ยครับ เก่งจนพี่เทียบไม่ติดเลย เก่งจนพี่คิดว่าพี่ไม่...อุ๊บ...อื้ออยังไม่ทันที่นพพรจะพูดจบก็โดนนัทก้มลงมาประกบที่ริมฝีปากบางเสียก่อน

นัทใช้ริมฝีปากหนาของตนเองบดขยี้ไปที่ริมฝีปากบางของนพพรอย่างแรง อีกทั้งลิ้นร้อนของนัทยังค่อยๆไล่เลียมาตามขอบปากพร้อมกับดูดขบเม้มทั้งริมฝีปากบนและร่างสลับกันไปมา โดยที่ไม่ได้ล่วงล้ำเข้าไปด้านใน จนนพพรรู้สึกเจ็บบริเวณริมฝีปากไปหมด

จนเมื่อมือของนัทขยับขึ้นมาบดขยี้ไปที่ยอดอกของนพพรผ่านเนื้อผ้าบาง นพพรจึงเปิดปากร้องออกมาทันที นัทจึงถือโอกาสนี้ใช้ลิ้นหนาเข้าไปฉกชิมความหวานในโพรงปากและไล่ต้อนลิ้นเล็กที่คอยหลีกหนีหลบเลี่ยงเค้าอย่างไม่ประสา และยังดูดดึงลิ้นเล็กอย่างแรงจนทำให้นพพรรู้สึกแสบที่ปลายลิ้นขึ้นมาแปล๊บๆเลยทีเดียว 

นัทป้อนและดูดกินความหวานจากนพพรอยู่เนิ่นนานเลยทีเดียว จนกระทั่งนพพรทำท่าว่าจะหายใจไม่ออกนัทจึงยอมปล่อยริมฝีปากบางที่บัดนี้มันได้บวมเจ่อขึ้นมาเล็กน้อย

นี่คือการลงโทษนะครับที่พี่นพคิดจะพูดอะไรไม่ดีออกมา ถ้ามีครั้งหน้าอีกผมจะไม่หยุดการลงโทษไว้แค่นี้แน่รู้มั้ยครับ ผมโดนมาพ่อกับแม่ทิ้งมาแล้วรอบหนึ่ง รวมทั้งคุณปู่คุณย่าท่านก็ไม่อยู่กับผมแล้ว แล้วอย่างนี้พี่นพยังจะมาทิ้งผมไปอีกอย่างนั้นเหรอครับนัทพูดออกมาด้วยเสียงที่จริงจังและติดดุ จนเกือบจะเป็นเสียงที่คุยกับการ์ดเมื่อสักครู่ นพพรก็ได้แต่นั่งก้มหน้าไม่กล้าที่จะมองสบตากับนัทเลย เพราะนัทในตอนนี้นั้นดูน่ากลัวมากเลยทีเดียว

นพฟังนัทดีๆนะครับ นัทต้องการแค่คนที่จะเข้ามาเติมเต็มทุกอย่างในชีวิตให้กับนัท นัทไม่ได้ต้องการคนเก่งหรือคนที่จะต้องมีพร้อมครบทุกอย่างเพราะว่านัทมีมันครบหมดแล้ว นัทต้องการแค่คนที่นัทรักและคนรักนัทอย่างจริงใจก็แค่นั้นเอง ถ้านัทจะขอให้นพมาเป็นคนคนนั้นให้กับนัทจะได้รึเปล่าครับนัทปรับน้ำเสียงให้อ่อนลงเล็กน้อยและเปลี่ยนมาใช้สรรพนามเรียกชื่อแทนทั้งของตัวเองและของคนรัก เมื่อเห็นว่านพพรนั้นถึงกับสลดไปเมื่อเจอน้ำเสียงของเค้าเข้าไปก่อนหน้านี้

ตอบนัทก่อนครับ ไม่อย่างนัทจะไม่พาลงไปนั่งข้างล่างแล้วนะครับเมื่ออีกคนยังไม่ยอมตอบคำถามของเค้า เค้าจึงต้องหาวิธีมาหลอกล่อเพื่อให้อีกคนเลิกกลัว

ครับ พี่จะเป็นคนนั้นให้กับนัทเอง พี่ขอโทษนะครับที่พี่คิดอะไรไม่เข้าท่าทำให้นัทต้องผิดหวังในตัวพี่ ต่อไปนี้เราจะก้าวเดินไปด้วยกัน เป็นที่พึ่งของกันและกันและจะคอยเติมเต็มความรู้สึกที่ขาดหายไปให้กันนะครับนพพรตัดสินใจพูดบอกนัทออกมานั่นจึงทำให้นัทนั้นยิ้มกว้างออกมาได้ และดึงนพพรเข้าไปกอดไว้จนแน่นพร้อมกับโยกตัวไปมาด้วยความดีใจ

แล้วอย่างนี้เราจะลงไปข้างล่างกันได้รึยังครับพอผ่านไปสักพักนพพรก็เงยหน้าขึ้นจากอกของนัทและถามขึ้นด้วยดวงตาที่เป็นประกาย จนนัทอดใจไม่ไหวที่จะก้มลงมาจูบที่หน้าผากมน

จุ๊บ! หึๆอยากลงไปมากขนาดนั้นเลยเหรอครับ หืมม จุ๊บๆๆนัทถามพร้อมกับก้มลงมาจูบที่ปลายจมูกรั้นของนพพรเบาๆ นพพรเองก็ได้แต่พยักหน้าหงึกๆพร้อมกับส่งสายตาอ้อนมาให้กับนัท

งั้นไปกันครับป่ะนัทที่ทนมองหน้าตาและสายตาอ้อนๆนั้นไม่ไหวก็รีบลุกขึ้นโดยเร็วจนนพพรถึงกับงงและตามไม่ทันเลยทีเดียว นัทคิดแต่ว่าถ้าขืนยังอยู่แบบนี้ต่อไปเค้าคงจะได้จับคนรักปล้ำเป็นแน่ อีกคนคงจะไม่รู้ตัวว่าหน้าตาและท่าทางของตัวเองในตอนนี้มันน่าจับมาฟัดมากแค่ไหน

นัทเดินโอบเอวนพพรลงมายังชั้นสองและเลือกที่นั่งโซน VIP โดยมีการ์ดคอยดูแลอยู่ห่างๆ นัทเลือกนั่งตรงที่สามารถมองเห็นด้านล่างได้ชัดเพราะอีกคนคงจะไม่ยอมถ้ามองไม่เห็นอะไรเลย

พอได้ลงมานั่งที่โซฟานพพรก็ทำท่าชะเง้อชะแง้ไปมาเพื่อที่จะดูบรรยากาศด้านล่าง ซึ่งท่าทางของนพพรในตอนนี้นั้นแทบจะดูไม่ออกเลยว่าเจ้าตัวเป็นถึงเลขาของผู้บริหารห้างดังและใครที่ได้เห็นนพพรในตอนนี้คงจะคิดว่านพพรนั้นยังเด็กกว่าเค้าเป็นแน่ เพราะนพพรนั้นยังดูหน้าเด็กอยู่เลยแถมผิวก็ยังเนียนใสมากอีกด้วย

นพดื่มอะไรดีครับ เคยดื่มแอลกอฮอล์รึเปล่านัทพยักหน้าให้เด็กเสิร์ฟเข้ามารับออเดอร์และหันไปถามคนที่นั่งอยู่ข้างๆที่ตอนนี้แทบจะไม่สนอะไรเลยนอกจากบรรยากาศด้านล่างอย่างตื่นตาตื่นใจ

อืมม ดื่มได้แค่นิดหน่อยครับ ขอแบบไม่แรงมากนักนะ นัทสั่งให้พี่เลยก็ได้ครับนพพรหันมาบอกกับนัทยิ้มๆ

งั้นเอาเป็นมาร์ตินี่มาสองแล้วก็คอสโมแก้วเดียวพอนัทหันมาบอกกับพนักงานเสิร์ฟที่ยืนรอรับออเดอร์อยู่

ระหว่างที่นพพรกำลังดูบรรยากาศรอบๆอยู่นั้น นัทเองก็คอยมองดูและสำรวจไปรอบๆด้วยเหมือนกัน เพราะเค้าจะเข้ามาที่นี่ไม่บ่อยมากนักอย่างมากก็แค่อาทิตย์ละครั้งเพื่อมาตรวจดูบัญชี ส่วนใหญ่แล้วเค้าจะให้พี่เมฆที่เป็นผู้จัดการร้านเป็นคนดูแลและมีอำนาจในการตัดสินใจแทนเค้าได้ทุกอย่างระหว่างที่เค้าไม่ได้เข้ามา

เมฆเป็นรุ่นพี่ที่เค้านับถือและเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก เพราะบ้านของเมฆอยู่ข้างๆกับบ้านของปู่และย่าของเค้านั่นเอง แต่พอเค้าย้ายออกมาอยู่คอนโดก็เลยไม่ค่อยได้เจอกันสักเท่าไหร่ ตอนที่จะเริ่มลงมือทำธุรกิจนี้ขึ้นมาอยู่ๆเค้าก็นึกถึงเมฆขึ้นมาเป็นคนแรก เพราะเค้าพอที่จะจำได้ว่าเมฆนั้นชอบทางด้านนี้อยู่แล้วและอีกอย่างเจ้าตัวก็ยังเคยบอกเค้าอีกด้วยว่าอยากทำงานที่เป็นอิสระโดยที่ไม่ต้องไปเป็นลูกน้องใครอย่างพวกมนุษย์เงินเดือนหรืออะไรทำนองนั้น เค้าจึงลองติดต่อไปซึ่งเมฆก็ดีใจมากและรับปากเค้าแทบจะทันทีทันใดเลย

คนเยอะเหมือนกันนะครับ ขนาดเพิ่งเปิดได้ไม่นานเองนพพรหันมาบอกกับนัทที่นั่งมองเค้าอยู่ก่อนแล้ว

ก็เรื่อยๆครับ คงจะเพราะที่นี่มีความปลอดภัยสูงคนเลยเลือกที่จะมาเที่ยวกันนัทบอกออกไปนพพรก็พยักหน้าตามทันที เพราะพอมองไปรอบๆแล้วก็เห็นการ์ดยืนอยู่แทบจะทุกจุด และการ์ดแต่ละคนนั้นก็ตัวอย่างใหญ่ด้วยกันทั้งนั้น ถ้าใครกล้ามีเรื่องกันคงจะได้ถูกจับโยนออกไปนอกร้านเป็นแน่

ลองดื่มดูนะครับว่าชอบรึเปล่า แต่ต้องค่อยๆจิบเอานะครับ เพราะถึงแม้มันจะกินง่ายแต่ถ้าคนที่ไม่ค่อยได้ดื่มก็เมาได้ง่ายๆเหมือนกันนัทยกแก้วคอสโมมาให้กับนพพรพร้อมกับพูดเตือนไปด้วย

อื้มม อร่อยมากเลยครับ หวานๆเปรี้ยวๆดูไม่ออกเลยนะครับว่าผสมเหล้าด้วยพอได้ชิมเข้าไปหน่อยหนึ่งนพพรก็บอกออกมาพร้อมกับทำท่าสูดดมเพื่อหากลิ่นของเหล้าไปด้วย จนนัทถึงกับยิ้มขำกับท่าทางนั้น

กลับกันรึยังครับ พรุ่งนี้นพยังต้องทำงานอีกนะนัทหันมาถามคนที่เริ่มออกอาการหน้าแดงแล้ว เพราะแก้วที่อยู่ในมือของนพพรนั้นเป็นคอสโมแก้วที่สามเข้าไปแล้ว

กลับเลยก็ได้ครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าตื่นไม่ไหวนพพรที่ยังแค่มึนๆอยู่นิดๆก็หันมาตอบนัท

หลังจากนั้นทั้งคู่ก็พากันเดินออกมาจากผับโดยใช้ประตูทางหลังร้านไม่เหมือนกับตอนแรกที่เดินเข้ามาทางประตูด้านหน้า โดยที่มีการ์ดคอยเดินตามมาส่งด้วย 2 คน

พอมาถึงคอนโดนัทก็พบว่าคนที่นั่งอยู่ข้างๆนั้นหลับคอพับคออ่อนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เค้าจึงจัดการอุ้มร่างบางไว้ในอ้อมอกและพาขึ้นไปยังห้อง หลังจากนั้นเจ้าตัวจึงกลับลงมาอีกครั้งเพื่อเอาชุดนอนและชุดที่จะใส่ในวันพรุ่งนี้ของตัวเองที่มีติดไว้ที่หลังรถอยู่แล้วอีกครั้งหนึ่งและจึงกลับขึ้นไปใหม่

หลังจากที่ขึ้นมาแล้วนัทก็เข้าไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายของตัวเองอีกรอบ ต่อจากนั้นจึงจัดการเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่ โดยการใช้ผ้าห่มคลุมตัวของนพพรเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองคิดล่วงเกินคนที่หลับอยู่นั่นเอง

ฝันดีนะครับ นัทรักนพมากนะครับ จุ๊บ!นัทก้มลงไปกระซิบบอกข้างๆหูของคนที่นอนหลับอยู่พร้อมกับจูบลงไปที่ริมฝีปากบาง หลังจากนั้นจึงสอดตัวเข้าไปนอนในผ้าห่มผืนเดียวกันกับคนรัก และดึงร่างบางเข้ามากอดไว้แนบอก ซึ่งนพพรเองพอได้รับรู้ถึงความอบอุ่นกับขยับตัวเข้าหาและซุกหน้าเข้ากับอกอุ่นของนัทด้วยเช่นเดียวกัน นั่นจึงทำให้นัทหลับตาลงพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า