9 ตอน ขอจีบ
โดย Beloved_Moouan
“ไอ้ดินตื่นได้แล้วโว้ย ว่าที่เมียมึงมาตามแล้ว”
“ไอ้ดินตื่น มึงได้ยินที่กูพูดมั้ยเนี่ย” เหนือยื่นเท้าไปถีบที่ขาของดินเพื่อปลุกอีกรอบ เนื่องจากคนที่นอนอยู่บนเตียงยังไม่มีทีท่าว่าจะขยับ
“มึงนอนหรือมึงซ้อมตายวะเนี่ยไอ้ดินตื่นได้แล้วโว้ย” เหนือพูดพร้อมกระชากผ้าห่มที่คลุมร่างของเพื่อนไว้อยู่ให้ออกไป
ส่วนทางด้านนอกที่นั่งกันอยู่ในห้องรับแขกถึงกับหันมามองหน้ากันเมื่อได้ยินเสียงของเหนือตะโกนเรียกดิน เพราะว่าเหนือนั้นไม่ได้ปิดประตูห้องตอนเดินเข้าไป
“น้ำว่าเราออกไปนั่งเล่นรอพี่ดินที่สวนกันดีกว่ามั้ยครับ เช้าๆแบบนี้อากาศกำลังดีเลย” สายน้ำที่เห็นสีหน้าของฟ้าครามไม่ค่อยดีนักจึงเอ่ยชวนขึ้นมา
“ก็ดีเหมือนกันครับ รบกวนด้วยนะครับ”
“ไม่เป็นไรเลยครับ น้ำเต็มใจ” สายน้ำพูดจบก็ลุกนำฟ้าครามเดินออกไป โดยมีอิฐอุ้มน้องของขวัญเดินตามออกไปพร้อมกับข้าวปั้นและเบลด้วย
“ไอ้เหี้ยดิน กูชักจะหมดความอดทนกับมึงแล้วนะ” เหนือที่ยังปลุกดินไม่สำเร็จก็เริ่มที่จะโมโห เพราะดินที่เริ่มรู้สึกตัวแล้วแต่ก็ดึงผ้าห่มกลับเอาไปคลุมตัวไว้เหมือนเดิม
“ไม่ตื่นเหรอวะ” หินผาเดินเข้ามาดูเมื่อเหนือเริ่มที่จะเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ
“เออสงสัยแม่งซ้อมตาย ยังไม่ทันได้อกหักเลย อ่อนฉิบ”
ตุ้บ!!
“โอ้ย!! ไอ้เหี้ยดินกูเจ็บนะโว้ย” เหนือพูดพร้อมกับลูบก้นตัวเองไปด้วย เพราะพอเหนือพูดจบก็โดนดินถีบจนตกเตียง หินผาได้แต่ยืนส่ายหน้าให้กับเพื่อนทั้งสองคน
“ไอ้ดินมึงลุกขึ้นมาอาบน้ำอาบท่าได้แล้ว น้องน้ำให้มาตามเห็นบอกว่าทำข้าวต้มไว้ให้มึงแล้วด้วย ถ้ามึงไม่ลุกขึ้นมากินน้องกูคงเสียใจแย่” หินผาพูดพร้อมกับหันไปยักคิ้วให้กับเหนือ เค้ารู้จุดอ่อนของดินดีอะไรที่เป็นเรื่องของน้องชายหรือว่าหลานสาวของเค้าดินมักจะยอมและโอนอ่อนอย่างง่ายดาย
พรึ่บ!!
พอหินผาพูดจบดินก็สะบัดผ้าห่มออกจากตัวแทบจะทันที จากนั้นจึงค่อยๆ ลุกขึ้นพร้อมกับเอามือมานวดที่ขมับ
“ทำไมกูคิดไม่ได้วะ ปล่อยให้กูเสียพลังงานอยู่ได้ตั้งนาน” เหนือที่ลุกขึ้นมานั่งที่เตียงแล้วพูดบ่นอยู่กับตัวเอง
“รีบตามออกมานะมึงมีคนรออยู่” หินผาพูดแล้วก็เดินออกไปพร้อมกับเหนือ ดินที่ฟังหินผาพูดแปลกๆแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร
ดินนั่งปรับจูนสติของตัวเองอยู่สักพักจึงเดินไปหยิบผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
“เป็นไงบ้างเฮีย” อิฐถามหินผาที่เดินออกมาพร้อมกับวาริแล้วก็เหนือ
“ตื่นแล้ว สงสัยจะปวดหัวหนักมึงเตรียมกาแฟดำไว้รอเลย” หินผาพูดขึ้นอย่างรู้ใจเพื่อนอย่างดิน
“แล้วนี่พี่ฟ้าทานข้าวเช้ามารึยังครับ ถ้ายังไว้ทานพร้อมกันเลยนะครับ น้ำทำข้าวต้มกุ้งไว้หม้อใหญ่เลยเช้านี้” สายน้ำเอ่ยชวนคนที่ได้แต่นั่งมองคนนั้นคนนี้คุยกัน
“พี่ยังไม่ได้ทานอะไรมาเลยครับ รบกวนด้วยนะครับ” ฟ้าครามตอบรับสายน้ำออกไป ตอนนี้เค้าเริ่มที่จะหายเกร็งบ้างแล้วเพราะว่าได้สายน้ำและเบลชวนคุยนู่นคุยนี่อยู่ตลอด ส่วนอิฐกับข้าวปั้นนั้นก็เล่นอยู่แต่กับหลาน
“ไอ้อิฐกาแฟดำให้กูหน่อยดิ๊” พอผ่านไปสักพักดินก็ส่งเสียงมาก่อนที่จะทันได้เห็นตัว
“เตรียมไว้ให้แล้วเฮียออกมาข้างนอกนี่” อิฐตะโกนบอกออกไป
ทันทีที่ฟ้าครามได้ยินเสียงของดินก็เกิดอาการเกร็งขึ้นมาอีกครั้ง เค้าไม่รู้ว่าตัวเองคิดถูกรึเปล่าที่มาหาดินถึงที่นี่ มันจะดูไม่ดีรึเปล่าเพราะว่าเค้าเองก็เป็นแค่เลขาของดินเพียงเท่านั้น ถึงดินจะขอจีบเค้าแล้วก็ตามที แต่เมื่อวานท่าทางของดินที่มีให้กับเค้าทำให้เค้าอดที่จะคิดไม่ได้ว่าดินอาจจะเปลี่ยนใจไปแล้วก็ได้
“ปวดหัวฉิบหายเลยว่ะ” ดินเดินออกมาด้วยการแต่งตัวที่ดูสบายๆ เค้าใส่กางเกงขาสั้นพอดีเข่าและเสื้อเชิ้ตแขนสั้น และผมที่ยังคงเปียกอยู่โดยยังมีผ้าขนหนูผืนเล็กว่าไว้ที่หัว ทุกอย่างพอมาอยู่บนตัวดินแล้วมันดูดีไปหมด ดูดีอย่างบอกไม่ถูกอาจจะเป็นเพราะด้วยรูปร่างที่สมส่วนของดินนั่นเอง ฟ้าครามเคยเห็นแต่ดินใส่สูทพอได้เห็นลุคนี้ของดินก็อดที่จะชื่มชมไม่ได้
“หนักเหรอเฮีย อ่ะนี่” อิฐถามขึ้นพร้อมกับยื่นกาแฟที่อยู่ในถ้วยที่เค้าเพิ่งไปชงมาให้กับดิน โดยที่ดินยังใช้มือขยี้ผ้าขนหนูผืนเล็กที่อยู่บนหัวอยู่ เลยยังไม่ทันได้เห็นว่ามีใครเพิ่มขึ้นมา
“อือ ขอบใจ” ดินยื่นมือมารับถ้วยกาแฟไว้พร้อมกับยกขึ้นดื่มทันที
ฟ้าครามที่นั่งอยู่ข้างๆ กับสายน้ำได้แต่มองการกระทำของดินอยู่อย่างลุ้นๆ
“เห็นไอ้ผาบอกว่าน้องน้ำทำขะ.......” ดินที่กำลังจะหันมาถามสายน้ำถึงกับต้องชะงักและหยุดลงทันทีเมื่อเห็นว่ามีใครนั่งอยู่ข้างๆสายน้ำ อาการปวดหัวที่มีอยู่แทบจะหายไปในทันทีที่เห็นใบหน้าสวยของใครอีกคน
ทุกคนที่เห็นดังนั้นและรู้หน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดีก็เริ่มทยอยลุกขึ้นกันอย่างเงียบๆและเดินเข้าไปด้านในตัวบ้านเพื่อให้ทั้งคู่ได้คุยและปรับความเข้าใจกันตามลำพัง
ทั้งคู่นั่งมองหน้ากันอยู่สักพักโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา พอได้สติดินก็รีบยกกาแฟขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดเพราะไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มจากตรงไหนดี มืออีกข้างก็ยังยีผ้าขนหนูเช็ดผมอยู่อย่างนั้น
“ฟ้าขอเช็ดผมให้พี่ดินได้มั้ยครับ” ฟ้าครามที่นั่งมองดินอยู่อย่างไม่กะพริบตาก็เอ่ยขึ้นเมื่อรวบรวมความกล้าได้แล้ว
“ครับ” ดินพูดพร้อมกับพยักหน้า เค้ายอมรับว่าตกใจและยังอึ้งอยู่เพราะไม่คิดว่าอีกคนจะมาหาเค้าถึงที่นี่
“ขอโทษนะครับ” ก่อนที่ฟ้าครามจะลงมือเช็ดผมให้ดิน เค้าก็เอ่ยขอโทษก่อนเพราะว่าดินนั้นแก่กว่าเค้า
“ฟ้ามาได้ยังไงครับ” พอผ่านไปสักพักดินก็ถามขึ้น โดยที่ฟ้าครามยังคงเช็ดผมให้กับดินอย่างเบามือ
“ฟ้าโทรไปถามแม่พี่ดินมาน่ะครับเลยรู้ ตอนแรกฟ้าไปที่คอนโดพี่ดินมาแล้วแต่ไม่เห็นรถ แล้วก็เลยวานให้พนักงานโทรไปที่ห้องแต่ก็ไม่มีใครรับ ฟ้าเลยตัดสินใจมาหาพี่ดินที่นี่ครับ ฟ้ามารบกวนพี่ดินรึเปล่าครับ” พอฟ้าครามพูดจบดินก็เอื้อมไปจับมือของฟ้าครามให้มานั่งข้างๆเค้า
“พี่ขอโทษนะครับที่พี่เอาแต่ใจมากไปหน่อย ทำอะไรเหมือนเด็กๆที่พอไม่พอใจอะไรก็โกรธไม่พอใจแล้วก็ยังไปพาลถึงคนอื่นอีกด้วย” ดินพูดโดยที่ยังไม่ยอมปล่อยมือนุ่ม
“ฟ้าก็ต้องขอโทษด้วยนะครับที่พูดปฏิเสธพี่ดินไปแบบนั้น ทั้งๆที่พี่ดินทั้งพูดทั้งขอร้องให้ฟ้ามาดูบ้านกับพี่ดินด้วยเฉยๆเอง” ฟ้าครามพูดด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิด เพราะอีกคนคงจะน้อยใจเค้ามากเมื่อคืนถึงได้ดื่มหนักขนาดนี้
“ไม่เป็นไรครับไม่เป็นไร เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะครับ ที่พี่พูดว่าจะจีบฟ้าพี่พูดจริงนะครับ ที่ผ่านมาทั้งชีวิตของพี่ พี่ไม่เคยต้องจีบใครเลย พี่ยังไม่เคยมีแฟน พี่เลยไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มหรือจะต้องทำยังไงก่อนดี พี่ก็แค่ทำตามความรู้สึกของตัวเองก็เท่านั้น พี่ขอโทษนะครับถ้าพี่ทำให้ฟ้าต้องลำบากใจเพราะพี่” ดินพูดพร้อมกับใช้นิ้วโป้งลูบวนอยู่หลังฝ่ามือของฟ้าครามไปมา
“ไม่เลยครับฟ้าไม่เคยต้องลำบากใจเพราะพี่ดินเลย ฟ้าเองก็ยังไม่เคยมีแฟนเหมือนกัน ที่ผ่านมาฟ้าก็เอาแต่เรียนอย่างเดียวจนไม่มีเวลาที่จะมาสนใจเรื่องอะไรแบบนี้ ฟ้าก็เลยไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไงเหมือนกัน” ฟ้าครามพูดขึ้นเสียงเบาๆพร้อมกับก้มหน้าหลบสายตาคมที่มองมายังเค้าอยู่อย่างเป็นประกาย พี่ดินคนเดิมของเค้ากลับมาแล้วสินะ
“พี่ขอถามอะไรฟ้าสักอย่างได้มั้ยครับ” ดินพูดพร้อมกับช้อนคางคนที่นั่งก้มหน้าอยู่ให้เงยขึ้นมาสบตากับเค้า ฟ้าครามก็ได้แต่พยักหน้าตอบ
“ฟ้ารู้สึกยังไงกับพี่ครับ ฟ้ารู้สึกเหมือนกันกับพี่รึเปล่า ฟ้ารู้สึกถูกชะตาแล้วก็ถูกใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกันเหมือนกันกับพี่มั้ยครับ ฟ้าชอบพี่เหมือนกับที่พี่ชอบฟ้ารึเปล่าครับ” ดินถามขึ้นรัวๆพร้อมกับจ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่เรียวสวย ทางด้านฟ้าครามเองก็พยักหน้าตอบดินช้าๆพร้อมกับหน้าที่เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ
“หึๆ ว่ายังไงล่ะครับ” ดินแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องเมื่อฟ้าครามพยักหน้าตอบ
“พี่ดินอย่าแกล้งฟ้าครับ” ยิ่งดินจ้องมองมาที่เค้าฟ้าครามก็ยิ่งเขินจนตอนนี้หูและคอเริ่มที่จะแดงไปด้วยแล้ว
“พี่แกล้งที่ไหนกันล่ะครับ ก็ฟ้ายังไม่ได้ตอบพี่เลยนี่นา” ดินที่เห็นคนที่เริ่มแดงไป ทั้งตัวแล้วก็นึกสงสาร แต่เค้าก็อยากที่จะได้ยินชัดๆจากปากของอีกคนมากกว่า
“ฟ้าก็รู้สึกเหมือนพี่ดินครับ ฟ้าชอบพี่ดินครับ” ฟ้าครามสูดลมหายใจเข้าลึกๆและกลั้นใจพูดออกไป
ฟอด!
“อื้อ~ ทั้งหอมทั้งนุ่ม แถมยังน่ารักอีกด้วย” ดินที่อดใจไม่ไหวจึงก้มลงไปฟัดแก้มแดงๆนั่น
“เพี๊ยะ! พี่ดินทำอะไรครับ ฟ้ายังไม่ได้อนุญาตเลยนะแล้วอีกอย่างเราก็ยังไม่ได้เป็นอะไรกันด้วย” ฟ้าครามที่หายตกใจจากที่ดินฉวยโอกาสหอมแก้มเค้าแล้ว ก็ฟาดฝ่ามือเล็กลงไปที่หน้าอกของดินและโวยวายขึ้นมา
“ก็ฟ้าอยากน่ารักแล้วก็น่าฟัดก่อนทำไมกันล่ะครับ พี่ก็อดใจไม่ไหวน่ะสิ” ดินพูดขึ้นแบบไม่ทุกข์ไม่ร้อนที่โดนฝ่ามือของฟ้าครามฟาดลงมา
“คนฉวยโอกาส ฟ้าไม่คุยด้วยแล้ว”
พรึ่บ!!
ก่อนที่ฟ้าครามจะได้เดินออกไปดินก็จับไปที่เอวบางและดึงร่างบางให้มานั่งเกยอยู่ที่ตักของเค้า”
“พี่ดินปล่อยนะครับ ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้ไปได้ครับเนี่ย เดี๋ยวใครมาเห็นครับ” ฟ้าครามพยายามที่จะแกะมือปลาหมึกออกจากเอวของตัวเอง แต่ก็เหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลสักเท่าไหร่
“ฟ้าต้องฟังพี่พูดก่อนแล้วก็ต้องตอบคำถามพี่มาก่อนครับพี่ถึงจะยอมปล่อย” ดินพูดขึ้นแถมยังใช้วงแขนแกร่งรัดเอวบางแน่นขึ้นกว่าเดิมอีก
“เฮ้อ! ครับๆตอบครับตอบ แต่พี่ดินปล่อยฟ้าก่อนครับฟ้าจะหายใจไม่ออกอยู่แล้วเนี่ย” ฟ้าครามที่ดิ้นจนเหนื่อยแล้วจึงต้องยอมแพ้ในที่สุด
ดินที่พอได้ยินฟ้าครามพูดบอกก็คลายวงแขนให้นิดหน่อยแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยแขนออกจากเอวบาง
“พี่ชอบฟ้านะครับ ชอบมากจริงๆชอบอย่างที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน จนพี่คิดว่าพี่อาจจะรักฟ้าไปแล้วด้วยซ้ำไป พี่รู้ว่ามันอาจจะเร็วไปที่พี่จะบอกกับฟ้าในตอนนี้ แต่พี่อยากจะขอให้ฟ้ารอดู ฟ้ายังไม่ต้องเชื่อในคำพูดของพี่ในตอนนี้ก็ได้นะครับแต่พี่จะทำให้ฟ้าได้เห็นเอง พี่อาจจะเอาแต่ใจไปบ้างในบางครั้งแต่พี่จะพยายามปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นนะครับพี่สัญญา พี่ดินคนนี้ขอจีบน้องฟ้าครามได้มั้ยครับ จุ๊บ!” ดินพูดจบก็กดจูบลงไปที่ท้ายทอยของฟ้าคราม พร้อมกับสูดเอาความหอมที่เป็นกลิ่นเฉพาะตัวของอีกคนเข้าไปจนเต็มปอด จนฟ้าครามถึงกับขนลุกซู่เลยทีเดียว
“ได้มั้ยครับคนดี พี่ดินขอจีบน้องฟ้านะครับ” ดินพูดขึ้นด้วยเสียงอ้อนๆพร้อมกับใช้จมูกถูไถไปมาอยู่ที่หลังของฟ้าคราม
“คะ ครับ จีบครับจีบ พี่ดินครับหยุดก่อนครับ” ฟ้าครามรีบตอบออกด้วยเสียงที่สั่นเครือพร้อมกับพยายามแอ่นอกหนีจมูกคมที่กำลังปัดป่ายไปมาอยู่ที่หลังของเค้า เพราะตอนนี้คนที่ขอจีบเค้าทำให้เค้าขนลุกและใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาอยู่แล้ว นี่ขนาดว่าแค่ขอจีบเค้านะแต่ถ้าเป็นแฟนกันแล้วเค้าไม่อยากจะคิดเลยว่าเค้าจะเปลืองตัวขนาดไหนกัน
“เฮียพาพี่ฟ้าไปกินข้าวได้แล้ว น้ำให้มาตาม” อิฐที่ส่งเสียงนำหน้าออกมาก่อนทำให้ฟ้าครามกระเด้งลุกออกจากตักของดินแทบจะทันทีที่ดินเผลอคล้ายอ้อมแขนออกจากเอวของเค้าจนดินถึงกับยิ้มขำ
“หึ่ย!! คนเจ้าเล่ห์ คนฉวยโอกาส” ก่อนไปฟ้าครามยังอดที่จะโวยวายออกมาไม่ได้ พร้อมกับกระทืบเท้าเบาๆอย่างทำอะไรดินไม่ได้
“แหมๆๆ ที่นี้ล่ะยิ้มออก ทีเมื่อคืนล่ะก็อย่างกับสุนัขโดนเจ้านายทิ้ง” อิฐที่เดินสวนกับฟ้าครามออกมาพอเห็นหน้าดินก็อดที่จะแซวไม่ได้
ดินก็ได้แต่ยกไหล่ตอบกลับเบาๆพร้อมกับยกแขนขึ้นไปกอดคอรุ่นน้องและพากันเดินเข้าบ้านไป ตอนนี้ใครจะว่าอะไรเค้ายังไงก็ได้เพราะเค้าอารมณ์ดีที่ได้ดอมดมและได้สูดกลิ่นหอมจากกายของอีกคน
“พี่ฟ้ามาทานข้าวด้วยกันครับ” สายน้ำเอ่ยชวนทันทีที่เห็นฟ้าครามชะงักไปหน่อยหนึ่ง เพราะด้วยสมาชิกที่เพิ่มเข้ามาอย่าง ไฟ ออกัส ขนมพาย และนัท
“ครับ รบกวนด้วยนะครับ”
“อ้าวมากันแล้วเหรอวะ ฟ้าครับ นี่ไอ้ไฟเพื่อนพี่อีกคนบ้านมันอยู่หลังถัดไปนี่เอง แล้วนี่ก็ออกัสแฟนมัน ส่วนนี่ขนมพาย แล้วก็ไอ้นัท เพื่อนน้องวาริครับ ส่วนนี่ฟ้าครามเลขากูแล้วก็ว่าที่แฟนกูด้วย” ดินพูดจบก็หันไปยักคิ้วให้กับไฟ ไฟได้แต่ยิ้มกลับมา
“โอ้ยๆ ฟ้าหยิกพี่ทำไมครับ เจ็บครับเจ็บ” ฟ้าครามหันไปหยิกดินด้วยความหมั่นไส้ที่สั่งสมมาตั้งแต่เมื่อกี๊แล้ว ทำให้คนอื่นพากันหัวเราะตามไปด้วย
ฟ้าครามหันมายิ้มให้ทุกคนแหยๆที่เห็นทุกคนกำลังมองมาที่เค้ากับดิน
“ป่ะ ตัวเล็กครับไปกินข้าวกัน” วายุเป็นคนลุกขึ้นจากโซฟาเป็นคนแรกและเอ่ยชวนเมียตัวน้อยของตัวเอง ทำให้ทุกคนที่นั่งหัวเราะกันอยู่ทยอยลุกขึ้นเดินตามกันเข้าไปในครัว
ส่วนอิฐก็เดินแยกเข้าไปในครัวเพื่อไปยกหม้อข้าวต้มมา ทุกครั้งที่พวกเค้ามากินข้าวที่บ้านของวายุและสายน้ำพวกเค้าจะพยายามทำเองทุกอย่างโดยที่ไม่อยากที่จะรบกวนแม่บ้านของที่นี่มากจนเกินไปนัก เพราะพวกเค้าก็ใช่ว่าจะคนน้อยๆซะเมื่อไหร่กัน ถึงแม่บ้านจะบอกว่าไม่เป็นไรก็ตามที
อิฐและดินต่างก็บริการตักข้าวต้มกุ้งให้กับแฟนของตัวเอง เพราะทั้งคู่ยังใหม่และคงยังไม่ชินกับทุกคนมากนักอาจจะยังมีเขินๆอยู่บ้าง บรรยากาศในเช้าวันนี้เต็มไปด้วยความอบอุ่นใจและเสียงพูดคุยของทุกคน จะมีก็แต่ข้าวปั้นและฟ้าครามที่ส่วนมากจะเป็นผู้ฟังที่ดีซะมากกว่า ภาพและบรรยากาศแบบนี้ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยนักที่ทุกคนจะมารวมตัวกันได้ครบ จึงทำให้ต่างคนต่างสรรหาเรื่องที่จะมาคุยกันได้ไม่รู้จักจบจักสิ้น
“น้องของขวัญขา เดี๋ยวลุงอิฐขอไปส่งน้าข้าวปั้นก่อนนะคะ แล้วเดี๋ยวลุงจะกลับมาเล่นกับหนูใหม่นะคะ จุ๊บๆ” ข้าวปั้นมองไปที่อิฐยิ้มๆเพราะอิฐที่กำลังนั่งคุยนั่งบอกกับหลานสาวตัวน้อยอยู่ราวกับว่าหลานสาวตัวน้อยจะฟังรู้เรื่องก็ไม่ปาน
“แอ๊ๆ” น้องของขวัญในวัยสองเดือนกว่าก็ยกไม้ยกมือปัดป่ายไปมาอยู่ที่หน้าของลุงอิฐพร้อมกับส่งยิ้มให้กับลุงอิฐจนโชว์เหงือกชมพู
“อยากไปกับลุงเหรอคะ เอาไว้หนูโตกว่านี้หน่อยนะเดี๋ยวลุงจะพาหนูไปทุกที่เลยดีมั้ยคะ”
“แอ๊ะๆ” น้องของขวัญเองก็ตอบรับลุงราวกับว่าฟังรู้เรื่อง
“ดีมากค่ะเด็กดี งั้นเดี๋ยวลุงมานะคะ จุ๊บ!” อิฐบอกกับหลานสาวและก้มลงไปจุ๊บที่หน้าผากของหลานสาว เห็นอย่างนั้นข้าวปั้นจึงหันไปบอกลาและยกมือไหว้สวัสดีรุ่นพี่ทุกคนและสัญญาว่าจะมาเที่ยวหาหลานใหม่
“ฟ้าอยากไปเดินดูบ้านกับพี่มั้ยครับ” ดินพูดชวนฟ้าครามขึ้นมาเพราะเมื่อวานนี้เค้าไม่มีอารมณ์ที่จะดูอะไรเลย แค่อ้างกับสายน้ำไปเท่านั้นเอง
“อ้าว แล้วเมื่อวานพี่ดินไม่ได้ดูหรอกเหรอครับ” ฟ้าครามถามขึ้นอย่างแปลกใจ
“ไม่ได้เข้าไปดูครับแค่เดินผ่านเฉยๆ ก็เมื่อวานมันไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรเลยนี่นา” ดินพูดพร้อมกับแกล้งทำหน้าเศร้าและพูดเสียงเบาๆ
“ครับๆไปดูบ้านพี่ดินกันนะครับ” ฟ้าครามที่เห็นและได้ยินเสียงของดินก็รีบพูดขึ้นทันที
พอได้ยินฟ้าครามพูดอย่างนั้นดินก็ฉีกยิ้มกว้างออกมาทันที และรีบลุกขึ้นก่อนที่จะจับจูงมือของฟ้าครามเดินออกไป
“กูเคยคิดนะว่าในบรรดาทุกคนในกลุ่มไอ้ดินนี่เป็นสุภาพบุรุษสุด แล้วก็เป็นคนที่เจ้าเล่ห์น้อยที่สุด กูว่ากูคงต้องคิดใหม่แล้วว่ะ” เหนือที่เห็นดินพยายามที่จะกอดเอวของฟ้าครามเดินออกไปจึงพูดขึ้น
“มึงเพิ่งรู้เหรอวะ ฮ่าๆๆ” พอหินผาพูดจบทุกคนก็พากันหัวเราะออกมา แม้กระทั่งน้องของขวัญที่อยู่ในอ้อมอกของพ่อตัวเอง
“รู้เหรอคะว่าลุงๆน้าๆ เค้าหัวเราะอะไรกัน หืมม ฟอดๆ” วายุใช้จมูกโด่งกดลงไปที่แก้มนุ่มของลูกสาวด้วยความมันเขี้ยว
“เอิ้กๆ” น้องของขวัญหัวเราะออกมาเสียงดังเมื่อคิดว่าพ่อเล่นด้วยกับตัวเอง ลุงๆน้าๆที่นั่งอยู่ก็ได้แต่นั่งมองสองพ่อลูกเล่นกันอย่างยิ้มๆ
Comments (0)