ภาพสุดท้ายที่เขาเห็นคือลูคัสโดนยิงคลับคลาตอนหว่องถูกทำร้าย วาววาพยายามตั้งสติแม้ผ่านความเสี่ยงมากมายแต่กลับพะวงเพราะเหตุการณ์ทับซ้อนราวเดจาวู ทางด้านจินพยายามปฐมพยาบาลโดยห้ามเลือดของเฮิงบริเวณอก ตรวจสอบลมหายใจพบว่ายังมีจึงหาพลาสติกอุดบาดแผลเพื่อไม่ให้อากาศเข้า ส่วนจันทร์ดูแลทีปกรที่สาหัสเนื่องจากโดนเข้าสมอง อัตรารอดชีวิตอาจน้อยลงตามเวลา 

 

"ชิชา! มาดูคุณไฉไลที" จันทร์เงยหน้าพบชิชาวิ่งมาหา สุดท้ายพวกเขาได้รับการรักษาทัน อาการของทุกคนอยู่ในขั้นวิกฤตเพราะไม่มีใครลืมตาหรืออาการดีขึ้นสักคน

 

 

 

ตอนนี้หว่องรับรู้ร่างไร้สติของตนไม่มีลูคัสอยู่และอาการแสนสาหัสของแทนเป็นนัยสื่อว่าพวกเขากลับสู่มิติเดิม สิ่งหนึ่งที่เขาต้องทำคือการไปสถานที่จุดเริ่มต้น หว่องผลักประตูพบร่างคุ้นเคยนั่งนิ่งไม่ขยับ หว่องนั่งลงเก้าอี้พร้อมกระดาษบางอย่างส่งยื่นให้

 

"ฉากจบ นี่เธอเขียนเ--"

 

"คุณแทนเขียนขึ้นมาใหม่ครับ"

 

"..." เจ้าของสำนักอ้ำอึ้งเมื่อเห็นพลังงานบางอย่างจากคนตรงหน้า ยามพิจารณาเนื้อหาตอนจบ เขาถอนหายใจด้วยความปลง แม้ดูใจร้ายกับตัวละครแต่หากเป็นจุดประสงค์ของนักเขียนคงอาจเลี่ยงไม่ได้ 

 

"แน่ใจใช่ไหมว่าจะให้เป็นแบบนั้น"

 

"..." 

 

"คุณลังเลนะ อาคิรา"

 

เสียงฝ่าเท้าเดินวนดังเข้ามาไม่อาจทำใจให้สงบ คราแรกเขาไม่อยากทำตามคำขออีกฝ่ายเปลี่ยนเนื้อหาตอนจบแต่พอเข้าจริงเขาเข้าใจว่าทำไมตัวละครอย่างหว่องถึงมีจุดจบ เกิดความรู้สึกผิดจากการเคยด่าทอเรื่องเนื้อหาเพียงเพราะวายร้ายเกมเศรษฐีมีชีวิตขึ้นมา พอจบลงก็เป็นแค่นิยายเรื่องหนึ่ง

 

"ผมมั่นใจแล้ว"

 

"งั้นก็ดี คุณรีบไปหาคนที่คุณรักเถอะ ตอนนี้เขารอคุณอยู่"

 

ตอนนี้เขาขอทำเพื่อคนอื่นบ้างแล้วกัน

 

 

 

ภายนอกห้องผ่าตัดวาววากับจินนั่งรออย่างสงบ ผ่านไปราวกับฟ้าสางอรุ่งแต่ความจริงเพิ่งเที่ยงคืน ความรู้สึกมากมายถมเถจนว้าวุ่น จินเหลือบมองวาวววานั่งกอดอกและเอนตัวพิงผนังพร้อมสายตาเลื่อนลอย ถ้าคนอื่นไม่ทักหรืออะไร วาววาไม่แม้แต่จะปริปากบอก 

 

"คุณวาววาครับ คุณหว่องเคยเขียนจดหมายทิ้งไว้ ถ้าหากว่าเกิดอะไรขึ้นครับ" จินยื่นกระดาษส่งให้วาววา

 

[คุณวาววาครับ จดหมายฉบับนี้คงถึงมือคุณเมื่อผมมีอันเป็นไป ผมมีเรื่องอยากสารภาพคุณครับ คือผมไม่ใช่หว่องแต่เป็นคนที่เข้ามาอยู่ในร่างหว่องเพื่อทำภารกิจตามคำขอเจ้าตัว ภารกิจคือการที่คุณรักหว่องและปรับความเข้าใจรวมถึงรอดปลอดภัยจากตระกูลสาโรชและลดารัณ ก่อนหน้าเข้ามาอยู่ที่นี่ ผมซื้อหนังสือนิยาย 'วายร้ายเกมเศรษฐี' ของคุณแทนที่ประพันธ์ขึ้นมา หลังจากอ่านจบรู้ตัวอีกทีก็หลุดเข้ามาในนี้ ผมอยากขอบคุณที่คอยเชื่อใจและดูแลผม แม้บางเรื่องจะทำให้คุณหงุดหงิด อีกเรื่องที่ผมปรารถนาให้เป็นจริงคือการที่คุณรักคุณหว่องสุดหัวใจ ผมอยากให้คุณรับรู้ว่าคุณหว่องเองก็พยายามเพื่อเป็นคนที่ดีและอยู่เคียงข้างอย่างเหมาะสม เสียดายที่ผมไม่รู้ว่าจะได้บอกลาต่อหน้าตอนไหน เอาเป็นว่าผมขอบอกลาในนี้แล้วกันนะครับ หากตัวหว่องฟื้นแสดงว่าภารกิจสำเร็จแต่ถ้าไม่..ผมต้องขอโทษและเสียใจที่ทำตามความต้องการไม่ได้แต่ผมทำสุดความสามารถในฐานะตัวแทนหว่องแล้ว]

 

วาววาถอนหายใจเฮือกใหญ่จนจินมองการกระทำอย่างเงียบงันสะดุ้ง คิดไม่ถึงว่าจะมีโอกาสเห็นท่าทางยอมแพ้จากเจ้านาย วาววาหันหน้ามาพบจินจ้องมองไม่ไหวติ่ง ก่อนเบือนหนีไป เสียงตัดพ้อวาววาดังขึ้น

 

"ทำไม" 

 

"ครับ?"

 

"..." จินสังเกตว่ามีกลุ่มพยาบาลมาทางพวกเขา จึงปัดความสงสัยที่อยู่ในหัวออกไป

 

 

 

หลังผ่านไปสามวันจากเหตุการณ์นั้น จินมาเยี่ยมห้องผู้ป่วยหิรัญ อภิชาหรือเฮิงกำลังนอนมองนอกหน้าต่าง จินตัดสินใจเคาะประตูเพื่อขออนุญาตเข้าห้อง แน่นอนว่าเฮิงดูกลัวเสียงสักพักใหญ่ เขานำช่อดอกไม้และกระเช้ารังนกวางข้างเตียง สายตางุนงงส่งมาทำให้เขาเปิดปากพูด

 

"เป็นห่วงคุณเลยมาหา"

 

"อ๋อ..แล้ววาววาล่ะ"

 

"อยู่ห้องหว่องน่ะ คุณเฮิงครับ..มีผมคนเดียวหรือเปล่าที่รู้ช้าไป"

 

"อะไร"

 

"ความจริงที่ว่ามีคนชื่อลูคัสเข้ามาในร่างหว่องเพื่อทำตามคำขอและคุณแทนคนที่แต่งนิยายก็เข้ามา" เฮิงพยักหน้าว่าจินเข้าใจถูกทุกอย่าง จินถึงกลับถอนหายใจดังลั่นทำเอาหน้าบูดบึ้งของเฮิงมีรอยยิ้มเล็กน้อย จินเห็นดังนั้นจึงปั้นหน้านิ่งแล้ววกเข้าบทสนทนาเช่นเดิม หลังฟังข้อสงสัยและสันนิษฐานทั้งหมด เป็นไปได้ว่าร่างหว่องฟื้นขึ้นมาจะเป็นอาคิราตัวจริง

 

 

 

วาววานั่งมองร่างหว่องนานจนรู้ตัวอีกทีได้ยินเสียงเปิดประตูจากจิน สีหน้าของจินส่งคำถามมาทำให้ตระหนักว่าหว่องยังไม่ฟื้น สายตาอ่อนล้าของวาววาไม่รอดพ้นนัยน์ตาแหลมคมจากจิน วาววาจึงเฉไฉเปลี่ยนเรื่องไม่ให้บรรยากาศอึมครึมกว่านี้

 

"เฮิงเป็นไงบ้าง"

 

"ดีขึ้นแล้วครับ แล้วก็คุยเรื่องลูคัสนิดหน่อยครับ"

 

"เสียดายเหมือนกันนะ ที่ไม่ได้บอกลาลูคัสแต่ฉันก็ไม่ได้เจอหว่องคนเก่าที่ชอบหัวร้อนใส่ฉันนานเหมือนกัน"

 

รอยยิ้มวาววาขมขื่นยากต่อความรู้สึก ในหัวของเขาว่างเปล่าจนนึกอะไรไม่ออก ส่วนจินเองรับรู้ถึงความหม่นหมอง ยิ่งเป็นคนพูดน้อยอยู่แล้วกลับพูดแทบนับคำได้ ภาวนาต่อจากนี้ไม่มีเรื่องราวบ้าบอเข้ามาอีก หากเป็นไปได้ เขาก็อยากบอกลาคนที่มาเปลี่ยนแปลงชีวิตให้กับพวกเขา คนที่น่ารักและสดใสอยู่เสมอไม่ว่าจะเจออะไร มันทำให้เขารับรู้ว่าอีกคนพยายามมากแค่ไหน

 

"จิน..วาววา" เสียแหบพร่าและทุ้มต่ำทำให้ทั้งสองหันไปพบหว่องลืมตาสับส่ายคล้ายงุนงง หว่องพยายามเปลี่ยนท่านอนทว่ามีวาววาห้ามปรามไม่ให้ขยับตัวเพราะอาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นมาได้ จินรีบเดินไปที่โทรศัพท์เพื่อแจ้งผู้ป่วยให้หมอรับทราบ

 

"คิดถึง" หว่องเอื้อนเอ่ยราวกับออดอ้อน

 

"..."

 

"ตอบหน่อยสิ"

 

"อือ"

 

คิดถึงเหมือนกัน

 

TBC

ตอนต่อไปจะเป็นตอนสุดท้ายแล้วนะคะ ขอบคุณที่เดินร่วมทางมา 1 ปีเลยกับฟิคเรื่องนี้ จะมาบอกว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องสุดท้ายที่ไรท์จะเขียนนิยายนะคะ ไรท์จึงอยากเก็บความทรงจำทุกวินาทีที่เขียนและนักอ่านที่คอยให้กำลังใจเสมอ ขอบคุณที่สนใจและสนุกไปกับมันนะคะ ถึงจะน่าเสียดายที่จะไม่ไปต่อสายนักเขียนแล้ว แต่ไรท์ทำเต็มที่มากแล้วจริง ๆ ค่ะ แม้จะท้อหรือเหนื่อยมาก แต่การมาถึงจุดนี้ไม่ง่ายเลย ขอบคุณทุกคนมากนะคะ