ยามเช้าตรู่เริ่มต้นด้วยผู้มาเยือนบ้านหว่อง เฮิงวางของไว้ข้างตัวก่อนนั่งลงโซฟาบริเวณรับแขก เปลือกตาปิดกั้นภายนอกพร้อมถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า ความคิดมากมายในหัวจางลงมีเพียงสีขาวโพลน เมื่อคิดว่าอารมณ์มั่นคงจึงเปิดตาและพบบางอย่างกำลังจ้องหน้า

 

"ลูคัส!"

 

"อะไร! แค่นี้ตกใจแล้วเหรอ แล้วเฮิงกินข้าวยัง" เสียงสูงจนเขาตกใจว่าใครควรตกใจมากกว่ากัน เฮิงส่ายหัวเล็กน้อยและตอบกลับคำถามจากคนที่ยืนอยู่

 

"ยังนะ พอดีรีบกลับเลยไม่ได้กินอะไร"

 

"งั้นเดี๋ยวกินสุกี้กัน" ลูคัสขยิบตาส่งให้ก่อนเดินเข้าไปในครัว ความขี้เล่นอีกฝ่ายทำเอาเฮิงยิ้มโดยไม่รู้ตัว จนถึงตอนนี้เฮิงเพิ่งรู้สึกกับคำว่าปลอดภัย เพราะเหตุการณ์จับแก๊งค้ามนุษย์ทำเขาวิตกจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ บางครั้งเขาต้องแสดงว่าไม่รู้สึกแม้ในใจเกือบเขว ย้อนคิดให้ดีหากเขาไม่ออกจากชีวิตที่มีไฉไล เขาคงเป็นหุ่นเชิดให้กับมันชีวัน อีกอย่างชิชายังไม่กลับมาเพราะต้องจัดการรวบรวมคดีค้ามนุษย์ ส่วนเขากลับมาทีหลังเพื่อชะลอเวลาให้ไม่น่าสงสัย หากสลอนหน้าหนาเจอไฉไลในเวลานี้อาจโดนเค้นถึงตาย เขาจึงปล่อยให้แทนกับวาววาดำเนินแผนก่อน อย่างน้อยถ้าพ่อได้อะไรตามที่หวัง เขากลับไปก็คงไม่โดนอะไรมากนัก

 

"เฮิง มาช่วยเราทำหน่อย!"

 

เสียงลูคัสดูกระตือรือร้น เขาขานตอบกลับและลุกขึ้นเดินไปห้องครัว กลิ่นหอมจากซุปทำเขารู้สึกหิวเล็กน้อย ทว่ายังไม่พูดอะไรมีใครบางคนเดินเข้ามาขัดจังหวะราวกับจงใจ

 

"ไง น้องเฮิง"

 

แล้วยังมายกคิ้วกวนตีนใส่เขาอีก!

 

"ไร"

 

"ก็ถามไง แล้วฉันผิดอะไร"

 

"เหรอ ยังไม่ได้นะบอกว่าเธอผิด ร้อนตัวจัง" จินหน้าเหวอใส่ก่อนแยกเขี้ยวส่งท้ายแล้วไปหาลูคัส ทีแรกลูคัสให้เขาเข้ามาเพื่อช่วยทำอาหาร ทำไมคราวนี้ถึงเป็นจินที่ไปอยู่ตรงนั้น? เฮิงมองไปพบจินยิ้มมุมปากว่าตนชนะและหันกลับคลี่ยิ้มหวานปานน้ำผึ้งใส่ลูคัส เขาฟึดฟัดเล็กน้อย จำใจดูภาพบาดตา (นิดหน่อย) จนเตรียมสำรับสำหรับสุกี้เสร็จ

 

แต่เดี๋ยวนะ

 

"ลูคัส นี่มันจิ้มจุ่ม"

 

"เฮ้ย เฮิงเก่งอะ เราก็นึกอยู่นานว่าเรียกว่าอะไร"

 

น่ารักขนาดนี้แล้วเขาจะดุอีกคนได้ไง

 

"คุณเฮิงครับ ไปหยิบจานหน่อยสิครับ"

 

แต่คนนี้ขอให้เขาชนะบ้างเถอะ จะขัดอะไรนักหนา!

 

เสียงคิกคักเล็กน้อยหลุดรอดจากปาก เขาหันขวับยังเห็นจินล้อเลียนใส่ ตอนช่วยเหลือเขาจากอันตรายจินก็ดูดีอยู่หรอกแต่พอตอนชีวิตประจำวันเขาแทบอยากหยุมหัวอีกคนไม่มากไม่น้อย เมื่อนั่งได้ที่ทุกคนบนโต๊ะกินกันไร้เสียงพูดคุย เมนูเด็ดคือหมูหมักงาของลูคัสมันอร่อยจนเขาอดไม่ได้ต้องกินเรื่อย ๆ ส่วนลูคัสคอยตักหรือใส่อาหารลงไปเพิ่มตลอด หัวใจสั่นคลอนจนเขาคิดว่าสักวันต้องหลุดออกไป ไม่รู้ทำไมเขาถึงตกหลุมรักลูคัส

 

หรือเพราะตั้งแต่วันนั้น

 

"คุณเฮิงครับ เรื่องค้ามนุษย์เป็นยังไงบ้างครับ"

 

"จับตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว เหลือแต่สาวไปถึงพ่อของฉัน"

 

"งานหินเลยนะ" ลูคัสโพล่งขึ้นโดยยังเคี้ยวอาหาร

 

"อืม ฉันว่ารอดูเหตุการณ์จากคุณทีปกรและคุณวาววาสักพัก ถ้าเริ่มตอนนี้ฉันว่ามันจะแย่ไป"

 

"คุณเฮิงครับ รีสอร์ตของไฉไลขาดทุนใช่ไหมครับ"

 

"ก็ตั้งแต่พวกเราขายข้อมูลให้กับบริษัทอื่นก็ไม่ค่อยมีคนใช้บริการเท่าไรบวกกับรู้ว่าเป็นของสาโรชเลยไม่อุดหนุนกัน"

 

"..."

 

"อืม"

 

ดี 

 

 

เวลา 17.30 น. ตามนัดหมายเพื่อไปรับหลิง วาววายืนรออยู่หน้าประตูพร้อมกับรถยนต์ส่วนตัวของเขา สิ้นสุดการรอคอยพบหลิงสวมเสื้อกระโปรงสั้นผ้าซาตินสีไข่แขนยาว ส่วนเขาสวมเสื้อคอปกแขนยาวถูกพับไว้ครึ่งแขนสีขาวและกางเกงลำลองขายาว เนื่องจากงานแบรนด์เปิดตัวเสื้อผ้าไม่ทางการมาก พวกเขาจึงเลือกสวมชุดไม่เยอะเท่าไร 

 

"ขอโทษที่ให้รอนานนะคะ" หลิงมอบสัมผัสเล็กน้อยบริเวณแก้มวาววาสำหรับคำขอโทษ วาววาพยักหน้าเดินขึ้นรถ พวกเขามุ่งหน้าสู่โรงแรมระดับห้าดาวตามสถานที่งานจัดไว้ บรรยากาศภายในรถแม้ดูไม่มีอะไรแต่ความอึดอัดของหลิงเขารู้สึกได้ เมื่อหันกลับไปหลิงรีบทำตัวปกติและเฉไฉพูดคุยเรื่อยเปื่อย

 

"ฉันเพิ่งรู้ว่าคุณรู้จักกับคุณพิม"

 

"คุณพิมเป็นลูกค้า VIP เลยได้แวะเวียนทำความรู้จักบ้างน่ะ" วาววารู้ว่าหลิงกำลังสงสัยเพราะตอนแรกที่เขาชวนให้วาววาเป็นคู่ เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวาววารู้จักกับคุณพิม วาววาจึงเลี่ยงคำตอบให้ดูเหมือนว่ารู้จักกับพิมแค่ผิวเผิน 

 

"เธอไม่สบายหรือเปล่า"

 

"ฉันขอเร่งแอร์หน่อยนะ"

 

เพียงไปกี่วินาทีรถติดไฟแดงตรงถนนใหญ่ หลิงมองดูกิริยาของคนด้านข้างพบว่าไม่มีอะไรจึงเลื่อนมือวางนาบบนฝ่ามือวาววาอย่างจงใจ ยกนิ้วชี้แกล้งเขี่ยให้รู้สึก บรรจงเอนตัวขยับเข้าใกล้จนได้กลิ่นน้ำหอมที่พรมใส่ ฝ่ามืออีกข้างยกวางไว้สันกราม โยกตัวเข้าหาหวังประทับรอยจูบทว่าต้องหยุดไว้เมื่อวาววาหันหน้าหนีเพื่อขับรถต่อหลังจากไฟเขียวขึ้นตรงไฟจราจร

 

 

ทางเข้าภายในงานคึกคักไม่น้อย ความงดงามอย่างประณีตที่ตรงตามคอลเลกชัน I'Narcissistic สื่อถึงความงามและหลงตัวเอง ตอนนี้เป็นเวลาก่อนเริ่มงานไม่กี่ชั่วโมง วาววาและหลิงเดินไปบริเวณโต๊ะอาหารที่จัดเตรียม แสงไฟสีเหลืองนวลช่วยให้บรรยากาศเงียบสงบแต่คงไม่ใช่กับหลิง เขากำลังรู้สึกไม่ดี ไม่รู้ทำไมถึงเกิดขึ้นในตอนนี้ 

 

"คุณวาววา ฉันขอตัวสักครู่นะคะ"

 

"เชิญครับ" เสียงเดินจากเริ่มเบาลง บุคคลมาใหม่ได้เข้ามา แทนยกยิ้มทักทายหลังจากต้องทำตัวหลบ ๆ ซ่อน ๆ มานาน 

 

"มาสายนะเรา"

 

"คุณเตรียมไว้แล้วใช่ไหม"

 

แทนยกคิ้วเพื่อบอกว่าเตรียมไว้แล้ว อีกสักพักงานจะเริ่ม หลังจากเปิดตัวเสร็จหลิงคงขอตัวเพื่อมาหาจึงเป็นการดีที่จะได้แยกตัวทำภารกิจสะดวก หว่องโผล่อยู่ด้านหลังก่อนขอตัวสำรวจหลิงว่าเจ้าตัวกำลังทำอะไร เป้าหมายของหลิงคือห้องน้ำ สายตาแน่นิ่งลอบสำรวจการกระทำ หลิงหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรหาใครบางคน

 

"สวัสดีค่ะคุณไฉไล"

 

"ค่ะ งานนี้ไม่พลาดแน่" ผ่านไปห้านาทีหลิงกดวางสาย หันซ้ายหันขวาเพื่อดูว่าไม่มีใคร เขานำอุปกรณ์ดักฟังขึ้นมาไว้บริเวณอกด้านซ้ายดุจเครื่องประดับเสื้อผ้า หว่องขึ้นเสียงเฮอะกับแผนการโง่ ๆ ของหลิง ไม่คิดว่ามุขนี้ยังใช้อยู่ หว่องกระตุกยิ้มก่อนลอยตัวออกไปโดยไม่ลืมส่งสัญญาณให้อีกคนตระหนกเล่น

 

สนุกแน่งานนี้

 

 

เสียงปรบมือดังขึ้นกึกก้อง รวมถึงดาราและผู้มีชื่อเสียงมากมายอยู่ในงานนับไม่ถ้วน เหล่าโมเดลเรียงรายตรงบันไดงดงามก่อนเดินลงมาทีละคน แม้มือกำลังปรบแต่สายตาของวาววาจ้องหลิงไม่ขาดสาย สีหน้าพลันเปลี่ยนเป็นขมึงถึง ถือว่าใช้ได้ไม่น้อยหากไม่สังเกตดี ๆ การพลุบเข้าและออกในช่วงเวลานี้มันจับตาง่ายกว่าตอนช่วงสังสรรค์  เขาเลื่อนสายตาออกไปจับจ้องการแสดงตรงกลางเช่นเคย สุดท้ายแล้วพิมหรือพลิน อินทรมา เจ้าของแบรนด์ SolZ ออกมากล่าวทักทายเป็นอันจบงานเปิดตัวและถึงเวลา After Party

 

หลิงทำเป็นเดินดูเสื้อผ้าและเครื่องประดับอย่างสนอกสนใจโดยจุดประสงค์ต้องการให้ทีปกรเห็นเขาอยู่ในสายตาและก็ไม่พลาดเพราะเขาหันมาสนใจจริง ๆ

 

"สวัสดีครับคุณหญิง"

 

"ก็ว่าเกินไปนะคะ"

 

"สำหรับคุณหลิงอาจจะมากกว่าคุณหญิง เดี๋ยวเราไปนั่งคุยจิบไวน์ดีไหมครับ"

 

"ยินดีค่ะ" ว่าจบทีปกรพาหลิงไปยังที่นั่งที่เตรียมการไว้โดยหว่องมานั่งรอสักพักใหญ่ หลิงขอบคุณอีกครั้งที่ทีปกรเลื่อนเก้าอี้ให้ อีกทั้งไม่ลืมดอกไม้ช่อใหญ่สีขาว กลิ่นหอมลอยคละคลุ้งพลอยให้ใจรู้สึกดี ทีปกรส่งยิ้มให้ก่อนเปลี่ยนท่านั่งให้สบายขึ้น

 

"คุณมีอะไรอยากให้ผมช่วยเหรอครับ"

 

"พอดีฉันรู้สึกไม่ปลอดภัยเท่าไรน่ะค่ะ รวมถึงคุณวาววาก็ทำตัวแปลก ๆ ฉันเลยอยากให้คุณไปสืบได้ไหมคะ ว่าตอนนี้วาววากำลังทำอะไรอยู่"

 

"ผมนึกว่าคุณกับคุณวาววาเป็นแฟนกัน แล้วถ้าผมทำจะได้อะไรเหรอครับ" ทีปกรทำท่าคิดราวกับใช้ความคิดแต่ความจริงเขาหันมองหว่องจ้องหลิงไม่ไปไหน ดูทรงถ้าฆ่าตรงนี้ได้คงฆ่าแล้วแหละ

 

อย่างว่าหลิงก็น่ากลัวจริง ๆ ถ้าจะให้อภัยคงไม่มีวันนั้น

 

"ทุกอย่างที่คุณต้องการ"

 

"น่าสนใจดีนะครับ แต่คุณอยากให้ผมทำแค่นั้นจริง ๆ เหรอครับ"

 

"..."

 

"ข้อเสนอคุณมันดูไม่คุ้มน--"

 

"จับตาดูหว่องอีกคนค่ะ แต่คนนี้ขอเป็นพิเศษนะคะ"

 

 

TBC