*สาโรช (คำไวพจน์) = ดอกบัว 

 

                  ความโอ่อ่าหรูหราของกาสิโนทำเอาลูคัสไม่กล้าเดินต่อ สีหน้าควบคุมไม่อยู่เมื่อเจอความอลังการ (ที่นักเขียนบรรยายไว้) ของจริง ด้านนอกตัวอาคารให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเยือนสกาล่า แสงสีแดงนีออนเป็นจุดเด่นตามทั่วพื้นที่ บรรยากาศคึกคักของผู้คนเข้ามาย่อมต้องเป็นลูกค้าระดับ VIP แน่ ๆ ลูคัสครุ่นคิดในใจจนไม่กล้าเข้าไปราวกับสถานที่สุดไฮโซทุกหนแห่งไม่เคยเหมาะกับตัวเขาด้วยซ้ำ ถึงกระนั้นยังไม่ทันได้มองทางอื่น มีเสียงทักจากลูกน้องคนหนึ่งขึ้นมา ลูคัสจึงกดอารมณ์ให้มั่นคงพร้อมหันไปหาคนนั้น

 

                 "วันนี้เป็นวันพิเศษครับ เกมเศรษฐีที่เป็นจุดเด่นของกาสิโนเรา"

 

                "มันคืออะไร" ลืมตัวเสียไม่ได้เผลอหลุดถามออกไปโดยแทบอุดปากไม่ทัน จินมองอาการเลิ่กลั่กของหว่องอย่างฉงนก่อนตัดทิ้งความรู้สึกออกไปเพราะคำตอบเจ้าตัว

 

               "คือ...หมายถึงฉันอยากเล่นน่ะ" 

 

 

 

               ลูคัสคิดถูกหรือไม่ที่หน้าด้านมาเสี่ยงตายท่ามกลางสายตาจับจ้องราวกับต้องการขยี้บดเกลือผสมผงชูรสแล้วเอาไปทิ้ง  หลายคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อหว่องตระกูลเวหา มาเฟียผู้ทรงอิทธิพลย่ามนี้ปรากฎตัวเป็นประจักษ์ มือหยาบกร้านลูคัสเริ่มสั่นเครือคล้ายตระหนก ลูกน้องหว่องได้ชี้นิ้วไปฝั่งขวามือพบกับม่านสีเขียวมรกตปกคลุมเด่นชัดพร้อมป้าย 'เกมเศรษฐี' จินมอบผ้าเช็ดหน้าสีครีมแก่ลูคัสเพราะเขาเหลือบเห็นเหงื่อไหลตามหน้าผาก ฝ่ามือสั่นระรัวและริมฝีปากซีด ลูคัสขอบคุณก่อนเดินเข้าไปนั่งเก้าอี้ในมุมที่ปลอดภัย (มั้งนะ?) 

 

              ตอนนี้ลูคัสเข้าใจอาการตอนได้นั่งลงเป็นผู้เล่นในเกมเศรษฐีแล้ว มันน่ากลัวจนแทบหยุดหายใจ จะหนีก็ไม่ได้ สบถออกมาก็ไม่ดี เกมชนิดนี้ในนิยายถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ผู้ใดชนะก็จะได้เงินแต่ละฝ่าย อีกอย่างนักเขียนไม่ได้บอกรายละเอียดลึกลงไปจึงไม่รู้วิธีว่ามันต่างหรือคล้ายตอนเขาเคยเล่นหรือเปล่า

 

             "นั่งนิ่งอยู่ได้ กลัวแพ้เหรอ"

 

               น้ำเสียงเย้ยหยันใครสักคนดังขึ้น ลูคัสหันศีรษะไปก็พบกับคนยักคิ้วกวน ๆ หวังให้ตัวเขาหมดความอดทน

 

               เป็นเหี้ยไรไอสัส มึงจะทำกูกลัวเพิ่มอีกเหรอ

 

               นึกถึงไอดอลในใจเพื่อให้สงบลงก่อนมองกระดานตรงโต๊ะพร้อมของเล่นวางเดินรวมถึงลูกเต๋าสีใสทอง ขณะเดียวกันจินยังคงรอหน้าประตูจนกระทั่งได้ยินเสียงตึกตักจากฝีเท้าของคนที่จินรู้จัก 

 

               "มาทำอะไรที่นี่"

 

               "เอ่อ..คุณหว่อง มาเล่นเกมเศรษฐีครับ"

 

               วาววาขมวดคิ้วเข้าหากันคล้ายไม่เชื่อในคำพูดทว่ามันคือเรื่องจริง วาววาสังเกตเห็นหว่องนั่งตระหง่านตรงเหลือบหัวมุมโต๊ะเต็มตา ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเห็นเพื่อนที่สร้างเกมนี้กับเขาลงมาเป็นผู้เล่นเสียเอง คำว่าคาดไม่ถึงคงเป็นคำที่นึกได้บ่อย ๆ หว่องยกมือมาโบกแล้วส่งยิ้มให้ วาววาทักกลับไปแบบที่หว่องทำก่อนขบขันในใจ นึกสนุกกับการกระทำอันแสนประหลาดและน่าสนใจในเวลาเดียวกัน

 

              "ครับ..แล้วคุณวาววามาทำอะไรที่นี่"

 

              "ไม่รู้สิ อยู่ดี ๆ ก็อยากมา ดูท่าเกมบาคาร่าที่นิยมก็ต้องมาสนใจเกมเศรษฐีไม่น้อยเลยนะ"

 

              "คุณกับคุณหว่องก็รู้ดีว่าเพราะอะไร"

 

               ใช่ การเดิมพันนั้นในเกมนี้แทบพลิกวิกฤตเป็นโอกาส เกมเศรษฐีมีเพียงแค่วันที่ 25 และ 28 ของทุกเดือนเท่านั้น สีหน้าจากหว่องดูลำบากใจแต่ยากจะคาดเดาทำให้เขารู้สึกอยากมองต่อไปเรื่อย ๆ ว่าเกมจะจบลงอย่างไร 

 

               อาจตกมาเหมือนหมาหัวเน่าก็ได้

 

               ลูคัสไม่อยากเชื่อว่าแผนที่คิดไว้ดูจะล้มไม่เป็นท่าเสียแล้ว กลัวเหลือเกินว่าจะมีคนเห็นเขากำลังสติแตก สถานการณ์ในเกมลูคัสโดนยึดพื้นที่เกือบหมด โดยเฉพาะ 'เฮิง' คอยจับตาตลอดเวลา ลูคัสแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ แล้วถามว่าทำไมเขาถึงรู้ชื่อคนเหี้ยมโหดนี้เพราะสีหน้าอึนมึนของเขาเป็นจุดก่อให้เกิดควาทรู้สึกไม่พอใจ หลีกเลี่ยงไม่ได้หากต้องแนะนำตัวอีกครั้ง  'เฮิง' ลูกชายของไฉไล ศัตรูอันดับหนึ่งของหว่องและวาววา เป็นคู่ขัดขาสมัยไฉไลเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าจนถึงปัจจุบัน อาการปวดหัวคืบคลานเข้ามาลิ้มรสความรู้สึกจี๊ดจนอยากปล่อยน้ำตาให้ไหล เข--

 

              ทอยสี่แต้ม 

 

              เสียงกระซิบจากตำแหน่งไร้เงาบอกใบ้เขาผู้เดียวหลังผู้เล่นในเกมไม่ได้ตกใจเหมือนอย่างลูคัส ยกยิ้มมุมปากส่งไปให้เฮิงดั่งละครที่เคยดูก่อนเก็บความสงสัยไว้ว่าใครเป็นคนพูด แล้วตัดสินใจกำจัดทุกคนให้แพ้อย่างราบคาบโดยทอยลูกเต๋าให้ได้สี่แต้มอย่างใจนึกจริง ๆ 

 

             "ไอเหี้ยหว่อง!"

 

              ขาลูคัสสั่นกระตุกจนเก็บอาการไม่อยู่เมื่อเฮิงทุบโต๊ะของกระจัดกระจายเพื่อเลี่ยงไม่ให้เผลอซัดหน้าคนตรงนั่งเหลือบหัวมุมอย่างใจนึก ไม่ทันเอ่ยพูดมีคนมากมายเข้ามาให้ตกใจเล่นก่อนชายตามองเห็นวาววาหยิบปืนมาจ่อใส่เฮิงทันทีพร้อมทั้งจินและลูกน้องที่เหลือ ลูคัสเม้มปากอึ้งกับปืนจริง ในใจอยากหยิบยาดมมาสูดดับความบ้าบิ่นกับสถานการณ์ที่ทุกคนพร้อมใส่ไฟได้ตลอดเวลา แอบแปลกใจกับวาววาผู้หักหลังหว่องในอนาคตมาช่วยหว่องในยามคับขันเช่นนี้ มันมีอะไรหรือเปล่า จุดประสงค์แอบแฝงเหรอ

 

             "ถ้าทำตัวกร่างก็ออกไป" วาววามองหน้าเฮิงราวกับจะฆ่าตรงนั้นก็ย่อมได้

 

             "มึงเสือ--"

 

            "หุบปากแล้วไสหัวออกจากกาสิโน ถ้าทำตัวเสล่อแบบนี้อีก กูไม่เอามึงไว้แน่"

 

            "ไอ้-- แม่งเอ๊ย พวกมึงต้องได้ตายอย่างหมาจนตรอก..จำไว้!" เฮิงพูดจบเดินกระแทกไหลวาววาโดยราวกับว่าเรื่องนี้ไม่มีทางจบได้ ลูคัสมองเฮิงเดินออกจากสถานที่แห่งนี้ ก่อนพบวาววาส่งยิ้มราวกับปลอบใจว่าไม่เป็นไรให้เขา

 

           "ขอบคุณนะครับ คุณวาววา"

 

           "เรียกวาก็ได้ ลืมอีกแล้วเหรอ"

 

            ก็ไม่ชินนี่หว่า

 

          ลูคัสลุกขึ้นขอตัวจากโต๊ะก่อนยืนประชันหน้าคุยกับวาววาจริงจัง ส่วนสูงหว่องและวาววาไล่เลี่ยกันรวมถึงใบหน้าแสนอ่อนโยนและดุร้ายของวาววาเป็นเสน่ห์เหลือล้นที่เขาเองห็นด้วยกับนักเขียนบรรยายไว้

 

         สวยมาก

 

        "หว่อง..เป็นอะไร"

 

        "เปล่า ๆ มีอะไรเหรอ"

 

       "ไปคุยข้างนอกเถอะ"

 

 

 

         บรรยากาศในยามค่ำคืนเย็นลงจนรู้สึกได้ถึงสายลมพัดอ่อนเข้ามาพลอยให้จิตใจลูคัสเริ่มสงบ ตอนนี้มีลูคัสกับวาววากำลังนั่งเหม่อในตอนกลางคืนอย่างไร้จุดหมาย 

 

        "ร้องไห้เหรอ" วาววาชี้ไปตรงน้ำตาก่อนคิดจะเช็ดน้ำตาให้

 

        ลูคัสตกใจการกระทำจนเผลอเขยิบถอยหนีทำให้วาววาชักมือกลับแล้วย้ำเตือนว่าลูคัสกำลังแสดงท่าทีเช่นไร หยาดน้ำตาไหลอาบแก้มตามวาววาพูดจริง ๆ ทว่าเขาไม่สนใจอะไรแล้ว หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังได้หลุดมาอยู่นี่ ยอมรับว่ากลัวจนแทบสติแตกในเมื่อเหลือแค่เขากับวาววาถึงรู้ว่ากำลังอยู่กับคนที่อันตรายต่อหว่อง ลูคัสพยายามเบนหน้าหนีไปทางอื่นก่อนชะงักและร้องไห้เสียงดังเมื่อได้ยินประโยคนี้

 

        "จะร้องก็ร้องเถอะ ทำตัวเข้มแข็งจนบางทีฉันก็หมั่นไส้นะ"

 

         นั่นแหละ ร้องไห้เหมียนหมาเลย 

 

 

 

          'เฮิง' ลูกชายของไฉไลตระกูลสาโรชมักทำการค้าอาวุธปืนในการส่งเข้า-ออก การปรากฎตัวของเฮิงในวันนี้สำหรับลูคัสถือว่าออกมาเร็วกว่าหลายตอนจากนิยายเดิมมาก ยามเผชิญหน้ากับตัวปัญหา สิ่งที่วางแผนไว้ของเขาทำให้รู้เลยว่าไม่ควรประมาทเด็ดขาด ถึงเช่นนั้นเขาเป็นแค่คนธรรมดาเพิ่งได้พักงานแต่กลับมาอยู่ในวังวนด้านมืดอย่างไม่เคยคิดจะเข้าไป ทำไมถึงต้องมีเรื่องบ้าบอนี้ด้วยแม้ตัวหว่องจะมีเงินมากมายแต่ไม่ใช่การมาหลุดอยู่ในร่างมาเฟียไหม

 

         ช่วยเขาให้หลุดพ้นแล้วจะได้กลับไปที่เดิม

 

        ลูคัสตาตื่นจนรีบเอาตัวไปมุดผ้าห่มด้วยความกลัวเสียงเดิมที่กาสิโนดังเข้ามาอีกครั้ง ทว่าได้ยินเพียงความเงียบงันเช่นเดิมราวกับเหตุการณ์นั้นไม่เคยเกิดขึ้น ลูคัสล้มนอนลงไปอย่างเหนื่อยใจ เมื่อไรจะถึงวันนั้น วันที่หว่องไม่ตายแล้วเขาได้กลับไปที่บ้านเหมือนเดิมสักที

 

       เหลือบมองหนังสือนิยายอยู่บนโต๊ะด้วยความว่างเปล่า เขาอยากเลือกให้ตัวเองตายเพื่อไม่ต้องมาอยู่ที่นี่อีกแต่ก็ยอมแพ้ไม่ได้ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วจึงลุกมานั่งจดข้อมูลและวิเคราะห์ตัวละครเพื่อไม่ให้พลาดท่ากับสภาพแวดล้อมที่ไม่สามารถไว้ใจใครได้ทั้งนั้น

 

       "สิ่งที่สำคัญสิ่งที่สุดคือการเปลี่ยนความคิดวาววาไม่ให้หักหลังหว่อง"

 

        สิ่งผิดกฎหมายแต่ละอย่างเขาไม่เคยรู้ลึกเหมือนหว่องที่ชำนาญเลยสักนิด โชคชะตายังเข้าข้าง ในห้องส่วนตัวมีหนังสือเรียงรายเต็มไปหมดจึงพอได้ใช้เวลาในการศึกษาไม่น้อย ลูคัสพ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอกหลังได้เขียนบันทึกสรุปจุดสำคัญไว้แล้ว เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนซ่อนสมุดเอาไว้ในตู้เก็บช่องเล็ก ๆ เดินไปเปิดประตูก็พบกับจินในชุดนอนเต็มรูปแบบ

 

        แล้วจินจะงงไหมนะ ที่เราใส่เสื้อยืดเกงวอร์มนอน

 

        "คุณหว่องครับ..นี่ผลสรุปของกาสิโนวันนี้ครับ"

 

        "ขอบคุณครับ เอ่อ..คุณจิน เราถามอะไรหน่อยได้ไหม" จินเงยหน้ามองก่อนพยักหน้ารับฟังกับความสงสัยของหว่อง

 

        "คือเราอยากรู้ว่าตอนนี้มีใครอยากหักหลังเราอยู่บ้าง"

 

         เป็นคำถามที่คาดไม่ถึงจริง ๆ

 

TBC