3 ตอน ตอนที่ 3 เกมเศรษฐี
โดย chickipeach
*สาโรช (คำไวพจน์) = ดอกบัว
ความโอ่อ่าหรูหราของกาสิโนทำเอาลูคัสไม่กล้าเดินต่อ สีหน้าควบคุมไม่อยู่เมื่อเจอความอลังการ (ที่นักเขียนบรรยายไว้) ของจริง ด้านนอกตัวอาคารให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเยือนสกาล่า แสงสีแดงนีออนเป็นจุดเด่นตามทั่วพื้นที่ บรรยากาศคึกคักของผู้คนเข้ามาย่อมต้องเป็นลูกค้าระดับ VIP แน่ ๆ ลูคัสครุ่นคิดในใจจนไม่กล้าเข้าไปราวกับสถานที่สุดไฮโซทุกหนแห่งไม่เคยเหมาะกับตัวเขาด้วยซ้ำ ถึงกระนั้นยังไม่ทันได้มองทางอื่น มีเสียงทักจากลูกน้องคนหนึ่งขึ้นมา ลูคัสจึงกดอารมณ์ให้มั่นคงพร้อมหันไปหาคนนั้น
"วันนี้เป็นวันพิเศษครับ เกมเศรษฐีที่เป็นจุดเด่นของกาสิโนเรา"
"มันคืออะไร" ลืมตัวเสียไม่ได้เผลอหลุดถามออกไปโดยแทบอุดปากไม่ทัน จินมองอาการเลิ่กลั่กของหว่องอย่างฉงนก่อนตัดทิ้งความรู้สึกออกไปเพราะคำตอบเจ้าตัว
"คือ...หมายถึงฉันอยากเล่นน่ะ"
ลูคัสคิดถูกหรือไม่ที่หน้าด้านมาเสี่ยงตายท่ามกลางสายตาจับจ้องราวกับต้องการขยี้บดเกลือผสมผงชูรสแล้วเอาไปทิ้ง หลายคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อหว่องตระกูลเวหา มาเฟียผู้ทรงอิทธิพลย่ามนี้ปรากฎตัวเป็นประจักษ์ มือหยาบกร้านลูคัสเริ่มสั่นเครือคล้ายตระหนก ลูกน้องหว่องได้ชี้นิ้วไปฝั่งขวามือพบกับม่านสีเขียวมรกตปกคลุมเด่นชัดพร้อมป้าย 'เกมเศรษฐี' จินมอบผ้าเช็ดหน้าสีครีมแก่ลูคัสเพราะเขาเหลือบเห็นเหงื่อไหลตามหน้าผาก ฝ่ามือสั่นระรัวและริมฝีปากซีด ลูคัสขอบคุณก่อนเดินเข้าไปนั่งเก้าอี้ในมุมที่ปลอดภัย (มั้งนะ?)
ตอนนี้ลูคัสเข้าใจอาการตอนได้นั่งลงเป็นผู้เล่นในเกมเศรษฐีแล้ว มันน่ากลัวจนแทบหยุดหายใจ จะหนีก็ไม่ได้ สบถออกมาก็ไม่ดี เกมชนิดนี้ในนิยายถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ผู้ใดชนะก็จะได้เงินแต่ละฝ่าย อีกอย่างนักเขียนไม่ได้บอกรายละเอียดลึกลงไปจึงไม่รู้วิธีว่ามันต่างหรือคล้ายตอนเขาเคยเล่นหรือเปล่า
"นั่งนิ่งอยู่ได้ กลัวแพ้เหรอ"
น้ำเสียงเย้ยหยันใครสักคนดังขึ้น ลูคัสหันศีรษะไปก็พบกับคนยักคิ้วกวน ๆ หวังให้ตัวเขาหมดความอดทน
เป็นเหี้ยไรไอสัส มึงจะทำกูกลัวเพิ่มอีกเหรอ
นึกถึงไอดอลในใจเพื่อให้สงบลงก่อนมองกระดานตรงโต๊ะพร้อมของเล่นวางเดินรวมถึงลูกเต๋าสีใสทอง ขณะเดียวกันจินยังคงรอหน้าประตูจนกระทั่งได้ยินเสียงตึกตักจากฝีเท้าของคนที่จินรู้จัก
"มาทำอะไรที่นี่"
"เอ่อ..คุณหว่อง มาเล่นเกมเศรษฐีครับ"
วาววาขมวดคิ้วเข้าหากันคล้ายไม่เชื่อในคำพูดทว่ามันคือเรื่องจริง วาววาสังเกตเห็นหว่องนั่งตระหง่านตรงเหลือบหัวมุมโต๊ะเต็มตา ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเห็นเพื่อนที่สร้างเกมนี้กับเขาลงมาเป็นผู้เล่นเสียเอง คำว่าคาดไม่ถึงคงเป็นคำที่นึกได้บ่อย ๆ หว่องยกมือมาโบกแล้วส่งยิ้มให้ วาววาทักกลับไปแบบที่หว่องทำก่อนขบขันในใจ นึกสนุกกับการกระทำอันแสนประหลาดและน่าสนใจในเวลาเดียวกัน
"ครับ..แล้วคุณวาววามาทำอะไรที่นี่"
"ไม่รู้สิ อยู่ดี ๆ ก็อยากมา ดูท่าเกมบาคาร่าที่นิยมก็ต้องมาสนใจเกมเศรษฐีไม่น้อยเลยนะ"
"คุณกับคุณหว่องก็รู้ดีว่าเพราะอะไร"
ใช่ การเดิมพันนั้นในเกมนี้แทบพลิกวิกฤตเป็นโอกาส เกมเศรษฐีมีเพียงแค่วันที่ 25 และ 28 ของทุกเดือนเท่านั้น สีหน้าจากหว่องดูลำบากใจแต่ยากจะคาดเดาทำให้เขารู้สึกอยากมองต่อไปเรื่อย ๆ ว่าเกมจะจบลงอย่างไร
อาจตกมาเหมือนหมาหัวเน่าก็ได้
ลูคัสไม่อยากเชื่อว่าแผนที่คิดไว้ดูจะล้มไม่เป็นท่าเสียแล้ว กลัวเหลือเกินว่าจะมีคนเห็นเขากำลังสติแตก สถานการณ์ในเกมลูคัสโดนยึดพื้นที่เกือบหมด โดยเฉพาะ 'เฮิง' คอยจับตาตลอดเวลา ลูคัสแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ แล้วถามว่าทำไมเขาถึงรู้ชื่อคนเหี้ยมโหดนี้เพราะสีหน้าอึนมึนของเขาเป็นจุดก่อให้เกิดควาทรู้สึกไม่พอใจ หลีกเลี่ยงไม่ได้หากต้องแนะนำตัวอีกครั้ง 'เฮิง' ลูกชายของไฉไล ศัตรูอันดับหนึ่งของหว่องและวาววา เป็นคู่ขัดขาสมัยไฉไลเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าจนถึงปัจจุบัน อาการปวดหัวคืบคลานเข้ามาลิ้มรสความรู้สึกจี๊ดจนอยากปล่อยน้ำตาให้ไหล เข--
ทอยสี่แต้ม
เสียงกระซิบจากตำแหน่งไร้เงาบอกใบ้เขาผู้เดียวหลังผู้เล่นในเกมไม่ได้ตกใจเหมือนอย่างลูคัส ยกยิ้มมุมปากส่งไปให้เฮิงดั่งละครที่เคยดูก่อนเก็บความสงสัยไว้ว่าใครเป็นคนพูด แล้วตัดสินใจกำจัดทุกคนให้แพ้อย่างราบคาบโดยทอยลูกเต๋าให้ได้สี่แต้มอย่างใจนึกจริง ๆ
"ไอเหี้ยหว่อง!"
ขาลูคัสสั่นกระตุกจนเก็บอาการไม่อยู่เมื่อเฮิงทุบโต๊ะของกระจัดกระจายเพื่อเลี่ยงไม่ให้เผลอซัดหน้าคนตรงนั่งเหลือบหัวมุมอย่างใจนึก ไม่ทันเอ่ยพูดมีคนมากมายเข้ามาให้ตกใจเล่นก่อนชายตามองเห็นวาววาหยิบปืนมาจ่อใส่เฮิงทันทีพร้อมทั้งจินและลูกน้องที่เหลือ ลูคัสเม้มปากอึ้งกับปืนจริง ในใจอยากหยิบยาดมมาสูดดับความบ้าบิ่นกับสถานการณ์ที่ทุกคนพร้อมใส่ไฟได้ตลอดเวลา แอบแปลกใจกับวาววาผู้หักหลังหว่องในอนาคตมาช่วยหว่องในยามคับขันเช่นนี้ มันมีอะไรหรือเปล่า จุดประสงค์แอบแฝงเหรอ
"ถ้าทำตัวกร่างก็ออกไป" วาววามองหน้าเฮิงราวกับจะฆ่าตรงนั้นก็ย่อมได้
"มึงเสือ--"
"หุบปากแล้วไสหัวออกจากกาสิโน ถ้าทำตัวเสล่อแบบนี้อีก กูไม่เอามึงไว้แน่"
"ไอ้-- แม่งเอ๊ย พวกมึงต้องได้ตายอย่างหมาจนตรอก..จำไว้!" เฮิงพูดจบเดินกระแทกไหลวาววาโดยราวกับว่าเรื่องนี้ไม่มีทางจบได้ ลูคัสมองเฮิงเดินออกจากสถานที่แห่งนี้ ก่อนพบวาววาส่งยิ้มราวกับปลอบใจว่าไม่เป็นไรให้เขา
"ขอบคุณนะครับ คุณวาววา"
"เรียกวาก็ได้ ลืมอีกแล้วเหรอ"
ก็ไม่ชินนี่หว่า
ลูคัสลุกขึ้นขอตัวจากโต๊ะก่อนยืนประชันหน้าคุยกับวาววาจริงจัง ส่วนสูงหว่องและวาววาไล่เลี่ยกันรวมถึงใบหน้าแสนอ่อนโยนและดุร้ายของวาววาเป็นเสน่ห์เหลือล้นที่เขาเองห็นด้วยกับนักเขียนบรรยายไว้
สวยมาก
"หว่อง..เป็นอะไร"
"เปล่า ๆ มีอะไรเหรอ"
"ไปคุยข้างนอกเถอะ"
บรรยากาศในยามค่ำคืนเย็นลงจนรู้สึกได้ถึงสายลมพัดอ่อนเข้ามาพลอยให้จิตใจลูคัสเริ่มสงบ ตอนนี้มีลูคัสกับวาววากำลังนั่งเหม่อในตอนกลางคืนอย่างไร้จุดหมาย
"ร้องไห้เหรอ" วาววาชี้ไปตรงน้ำตาก่อนคิดจะเช็ดน้ำตาให้
ลูคัสตกใจการกระทำจนเผลอเขยิบถอยหนีทำให้วาววาชักมือกลับแล้วย้ำเตือนว่าลูคัสกำลังแสดงท่าทีเช่นไร หยาดน้ำตาไหลอาบแก้มตามวาววาพูดจริง ๆ ทว่าเขาไม่สนใจอะไรแล้ว หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังได้หลุดมาอยู่นี่ ยอมรับว่ากลัวจนแทบสติแตกในเมื่อเหลือแค่เขากับวาววาถึงรู้ว่ากำลังอยู่กับคนที่อันตรายต่อหว่อง ลูคัสพยายามเบนหน้าหนีไปทางอื่นก่อนชะงักและร้องไห้เสียงดังเมื่อได้ยินประโยคนี้
"จะร้องก็ร้องเถอะ ทำตัวเข้มแข็งจนบางทีฉันก็หมั่นไส้นะ"
นั่นแหละ ร้องไห้เหมียนหมาเลย
'เฮิง' ลูกชายของไฉไลตระกูลสาโรชมักทำการค้าอาวุธปืนในการส่งเข้า-ออก การปรากฎตัวของเฮิงในวันนี้สำหรับลูคัสถือว่าออกมาเร็วกว่าหลายตอนจากนิยายเดิมมาก ยามเผชิญหน้ากับตัวปัญหา สิ่งที่วางแผนไว้ของเขาทำให้รู้เลยว่าไม่ควรประมาทเด็ดขาด ถึงเช่นนั้นเขาเป็นแค่คนธรรมดาเพิ่งได้พักงานแต่กลับมาอยู่ในวังวนด้านมืดอย่างไม่เคยคิดจะเข้าไป ทำไมถึงต้องมีเรื่องบ้าบอนี้ด้วยแม้ตัวหว่องจะมีเงินมากมายแต่ไม่ใช่การมาหลุดอยู่ในร่างมาเฟียไหม
ช่วยเขาให้หลุดพ้นแล้วจะได้กลับไปที่เดิม
ลูคัสตาตื่นจนรีบเอาตัวไปมุดผ้าห่มด้วยความกลัวเสียงเดิมที่กาสิโนดังเข้ามาอีกครั้ง ทว่าได้ยินเพียงความเงียบงันเช่นเดิมราวกับเหตุการณ์นั้นไม่เคยเกิดขึ้น ลูคัสล้มนอนลงไปอย่างเหนื่อยใจ เมื่อไรจะถึงวันนั้น วันที่หว่องไม่ตายแล้วเขาได้กลับไปที่บ้านเหมือนเดิมสักที
เหลือบมองหนังสือนิยายอยู่บนโต๊ะด้วยความว่างเปล่า เขาอยากเลือกให้ตัวเองตายเพื่อไม่ต้องมาอยู่ที่นี่อีกแต่ก็ยอมแพ้ไม่ได้ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วจึงลุกมานั่งจดข้อมูลและวิเคราะห์ตัวละครเพื่อไม่ให้พลาดท่ากับสภาพแวดล้อมที่ไม่สามารถไว้ใจใครได้ทั้งนั้น
"สิ่งที่สำคัญสิ่งที่สุดคือการเปลี่ยนความคิดวาววาไม่ให้หักหลังหว่อง"
สิ่งผิดกฎหมายแต่ละอย่างเขาไม่เคยรู้ลึกเหมือนหว่องที่ชำนาญเลยสักนิด โชคชะตายังเข้าข้าง ในห้องส่วนตัวมีหนังสือเรียงรายเต็มไปหมดจึงพอได้ใช้เวลาในการศึกษาไม่น้อย ลูคัสพ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอกหลังได้เขียนบันทึกสรุปจุดสำคัญไว้แล้ว เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนซ่อนสมุดเอาไว้ในตู้เก็บช่องเล็ก ๆ เดินไปเปิดประตูก็พบกับจินในชุดนอนเต็มรูปแบบ
แล้วจินจะงงไหมนะ ที่เราใส่เสื้อยืดเกงวอร์มนอน
"คุณหว่องครับ..นี่ผลสรุปของกาสิโนวันนี้ครับ"
"ขอบคุณครับ เอ่อ..คุณจิน เราถามอะไรหน่อยได้ไหม" จินเงยหน้ามองก่อนพยักหน้ารับฟังกับความสงสัยของหว่อง
"คือเราอยากรู้ว่าตอนนี้มีใครอยากหักหลังเราอยู่บ้าง"
เป็นคำถามที่คาดไม่ถึงจริง ๆ
TBC
Comments (0)