"เฮือก! ฝันเหรอวะ" ลูคัสสะดุ้งตื่นหลังจากหลุดภวังค์ฝันอันแสนประหลาดและตกใจไปพร้อมกัน ถอนหายใจเข้าออกก่อนจัดแจงตัวเองเพื่อเอนตัวหลับต่อ ความฝันก่อนหน้าที่นึกถึงทำเขาตกใจกับการกระทำของหว่องเป็นอย่างมาก มิหนำซ้ำเขายังด่าหว่องตามที่เคยนึกในใจมาตลอด หากเป็นไปได้เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้นเสียดีกว่า 

 

"หว่องตื่นได้แล้ว สายแล้วนะ"

 

เสียงจินปลุกขึ้นให้เขาล้มเลิกการหลับ เหลือบมองนาฬิกาพบว่าเป็นเวลาสามทุ่มกว่าแล้ว 

 

"ทำไม..สาย"

 

"ลืมแล้วเหรอ เราต้องไปหาคุณชิชา"

 

เดี๋ยว ตอนไหนวะ 

 

ความสับสนงุนงงก่อตัวในความรู้สึก พยายามหวนนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า ส่วนจินเห็นหว่องนอนอยู่ที่เดิมก็เรียกเพื่อให้ตื่นอีกครั้ง ลูคัสจึงลุกขึ้นแบบจำใจ เขาพอจำได้ว่าชิชาเข้าสู่วงการนี้เพื่อตามหาผู้มีพระคุณโดยหลักฐานมีเพียงแค่ถูกลักพาตัวไปที่กัมพูชา 

 

"เออ..จิน แล้วมีใครไปหาชิชาบ้าง"

 

"ทุกคนอยู่ที่นั่นหมดแล้วนะ เหลือแค่พวกเราและเฮิง"

 

ไม่รู้จักหลับจักนอนเลยจริงดิ เขาที่หลุดมาในโลกนิยายยังแทบหมดแรง 

 

"ฉันรู้ว่าเธอบ่นอะไร รีบไปทำธุระให้เสร็จได้แล้ว"

 

 

 

ลูคัสเดินมาที่รถด้วยท่าทางสะลึมสะลือหลังอาบน้ำเพียงเดินผ่านน้ำและแปรงฟัน เขาถูกจินจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อย หากภารกิจนี้จบลง เขาสัญญาว่าจะนำพวงมาลัยมาไหว้แน่นอน ยังไม่ทันอ้าปากหาว พบว่าเฮิงมายืนรอตรงนี้สักพักแล้ว ลูคัสแทบรีบกระตุ้นตัวเองเพื่อให้มีแรงทำงานทันที

 

"ลูคัส รู้ตัวบ้างไหมว่าโกหกไม่เนียน"

 

"อย่างกับตัวเองโกหกเนียนอย่างนั้นล่ะ" เสียงแซะนี้ไม่ใช่ของลูคัสแต่เป็นของจินที่กำลังเช็คสภาพรถยนต์อยู่ เฮิงเหลือบตามองบนด้วยความรำคาญก่อนขึ้นรถไปนั่งประตูหลังทางด้านขวา ลูคัสเองก็รีบเดินไปนั่งทางซ้าย จากนั้นไม่นาน จิน เฮิงและเขาเริ่มออกเดินทางในเวลาสามทุ่มสามสิบสองนาที

 

เมื่อความง่วงหายไป ลูคัสเริ่มวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง เขาจำได้ว่าเขาเคยไปสอบถามเรื่องชิชาเพิ่มเติมจากหว่องและแทน โดยผู้มีพระคุณนั้นทั้งคู่ไม่รู้ว่าเป็นใคร เพราะแทนบอกว่าไม่เคยนึกถึงเรื่องนี้ทำเอาเขาแทบอยากกรีดร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า ส่วนหว่องเองพยักหน้าเห็นด้วยตามที่แทนบอก แต่แล้วความหวังก็บังเกิดเมื่อ แทนยังพอจำปมของชิชาได้กระทันหัน

 

"ถ้าจำไม่ผิด โลเคชันที่โดนลักพาตัวคือทะเล เพราะผู้มีพระคุณชิชาเขาไปทำงานที่นั่นก่อนโดนลักพาตัวไป"

 

"เฮิง เราจะไปที่ไหน"

 

"พัทยา..ที่ไปที่นั่นเพราะมีพวกลูกน้องกลับใจอยู่แถวนั้นและเป็นที่ชิชาต้องการหาหายไปจากตรงนั้นด้วยเหมือนกัน" ลูคัสพยักหน้าอือออก่อนสะดุ้งโยงเมื่อเฮิงสงสัยอะไรบางอย่างจากตัวเขา 

 

"จิน ฉันถามหน่อยสิ เป็นคนจัดการภาษาอะไรทำไมลูคัสถึงไม่รู้เรื่อง"

 

"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะตั้งแต่ตื่นมา หว่องยังดูงงอยู่จนเธออธิบายให้เขาฟังนั่นแหละ ถึงเข้าใจ" 

 

เฮิงพยักหน้าเข้าใจก่อนหันมามองสีหน้าลูคัสที่กระพริบตาปริบ ๆ หวังเห็นอกใจเห็นใจ สุดท้ายแล้วเฮิงจึงหยิกแก้มอีกฝ่ายเป็นการลงโทษแทน 

 

ก็ยังดีกว่าโดนด่าล่ะวะ

 

 

 

 

กาสิโนในช่วงเทศกาลมักคึกคักมากกว่าวันไหน ๆ วาววาเดินสำรวจทั่วบริเวณเช่นเคยทุกครั้งเวลามาถึง โดยที่แปลกไปจากเดิมคือช่องแขนถูกหลิงกอดไม่ห่างกาย ทำเอาคนในนั้นเริ่มซุบซิบว่าหลิงอาจจะเป็นคู่นอนหรือคู่จริงของเขา บางทีวาววานึกหงุดหงิดที่ได้ยินเรื่องนินทราไม่ให้เกียรติเช่นนี้ ส่วนหลิงรู้ว่าวาววากำลังรู้สึกเช่นไรจึงยกแขนนำมือสัมผัสที่กรามเพื่อกรอบหน้างดงามของวาววาสนใจเพียงหลิงผู้เดียว

 

"ช่างมันเถอะค่ะ หลิงไม่เป็นอะไร"

 

ว่าจบวาววาพาหลิงมายังห้องส่วนตัวที่เขาและหว่องมักมาจัดการเอกสารหรือทำงาน บรรยากาศรอบห้องเป็นความโอ่อ่าหรูหรา ความกว้างและการตกแต่งพอคาดเดาได้ว่าพื้นที่ตรงนี้ต้องมีการใช้ประชุมและไว้ต้อนรับแขกสำคัญ วาววาปลดกระดุมจากเสื้อเบลเซอร์ออกเพื่อให้สบายต่อการนั่ง ส่วนหลิงเห็นว่าวาววานั่งลงแล้ว เขาจึงนั่งลงตามทางตรงข้ามบ้าง 

 

"นานแล้วนะคะ ที่ฉันกับเธอไม่ได้มาที่นี่ด้วยกัน" 

 

วาววาพยักหน้าก่อนรินเหล้า Jack Daniels ใส่แก้วให้ตัวเองและหลิง หลิงก้มหัวเล็กน้อยขอบคุณแล้วจิบนิดหน่อยเพื่อไม่ให้เสียมารยาท

 

"คุณหลิงได้ถูกรับเชิญไปงานเลี้ยงคุณไฉไลใช่ไหมครับ" 

 

"ใช่ค่ะ..แต่ฉันไม่รู้ว่าจะหาคู่ควงใครดี เลยคิดว่าถ้าฉันขอให้เธอไปด้วย คงไม่เสียมารยาทใช่ไหมคะ" หลิงไม่พูดเปล่า เขาเลื่อนมือมาวางต้นขาวาววาอย่างแนบเนียบ สัมผัสบางเบาจากอีกฝั่งเพื่อเชื้อเชิญเสน่หาบางอย่าง วาววารับรู้ได้ตั้งแต่ครั้งแรกพบกัน ตอนนี้ความรู้สึกเขาเปลี่ยนไปแล้วและเขาจะไม่เดินเข้าสู่หายนะอีก

 

"ยินดีถ้าเธอชวนฉันไป"

 

"งั้นถ้าเธอต้องการอะไร บอกฉันได้นะคะ ฉันลทำให้ได้ทุกอย่าง" 

 

"งั้นฉันขอถามอะไรบางอย่างสิ"

 

"..."

 

"เธอว่าคนเราจะรู้จักศัตรูของอีกฝ่ายจนถึงขั้นแนบชิดไหม"

 

และใช่..เขากลัวความคมคายของวาววามากที่สุด

 

 

 

 

อาการหาวนอนวกหาลูคัสอีกครั้ง คราวนี้เขาไม่สามารถฝืนตัวเองนั่งเหม่อมองถนนในยามค่ำคืนได้แล้ว สุดท้ายจึงปิดเปลือกตาแล้วนั่งนอนในสภาพเดิม เฮิงหันมามองพบว่าอีกคนหลับไปสักพักใหญ่ สุดท้ายเห็นแก่ท่านอนและความเจ็บปวดที่จะเกิดขึ้นทางร่างกายของหว่องจึงใช้ไหล่ของตนเองเป็นที่นอนให้หว่องชั่วครู่ 

 

"บ่นอย่างนั้น บ่นอย่างนี้ สุดท้ายก็หนีใจตัวเองไม่พ้น~"

 

"พูดมาก ฉันเห็นแก่สภาพของหว่องเถอะ"

 

"ผมพูดอะไรถึงคุณหรือยัง ก็ยังนี่ แล้วจะร้อนตัวทำไม" 

 

กวนตีน!

 

ก่อนเฮิงจะได้สบถใส่อีกคน เสียงสายเรียกเข้าขัดจังหวะไว้ชีวิตให้กับจิน เมื่อพบรายชื่อที่ปรากฏ พลันสีหน้าเดิมแปรเปลี่ยนเป็นตระหนกทันที 

 

"จิน..ช่วนฉันด้วย"

 

'ไฉไล'

 

 

 

TBC