ตอนนี้มีเพียงลูคัส วาววา และจินไม่ได้ไปกัมพูชา ทั้งสามตัดสินใจแยกตัวจากสิงห์เพื่อเดินเตร็ดเตร่คลายตัวสักพักในยามเช้า ลูคัสได้แต่นึกสงสัยว่าทำไมวาววากับจินถึงดูไม่งัวเงียเท่าเขา ใบหน้าสะอาดสะอ้านราวกับเตรียมตัวมาก่อนหน้าทั้งที่แทบไม่ได้นอน (อย่างกับละครจริง ๆ) ส่วนเขาเรียกได้ว่าหาวแล้วหาวอีก หากเดินหลับตาได้เขาคงเลือกทำไม่รีรอ ลูคัสไล่อาการง่วงออกไป ลูบใบหน้าเพื่อให้กระเตื้องเล็กน้อยก่อนสัมผัสบางสิ่งที่คุ้นเคยดี

 

"สิวขึ้นเหรอเนี่ย.."

 

อันที่จริงพฤติกรรมหว่อง ลูคัสไม่รู้มากนักเพราะนักเขียน (อีกแล้ว) แต่พอคาดเดาจากการมาอยู่ในร่างและตอนคุยกับแทนได้ว่าช่างแตกต่างจนลูคัสแทบลมจับ

 

 เกินไปมุ้ย

 

"หว่อง" ลูคัสเงยหน้าพบวาววาเรียกหาและพยักพเยิดว่าจินอยากไปร้านสะดวกซื้อ เป็นโอกาสดีที่เขาจะไปซื้อของตามที่ต้องการ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ตั้งแต่มาอยู่ในร่างหว่อง ความระแวงก่อตัวขึ้นทุกวินาที

 

 

 

"หว่อง ยืนอึ้งอะไร" หลังจากแยกย้ายเลือกสินค้าของตนเองเพื่อหวังกลับมาจ่ายเงินทีเดียว จินยังคงเห็นหว่องยืนเหม่อตรงส่วนขนมและอาหารสำเร็จรูป พอพบสายตาเบิกกว้างและลุกวาวของหว่องทำให้เขารู้ว่าอีกฝ่ายกำลังตื่นเต้น

 

"จิน! อันนี้มันขนมสมัยเด็ก ๆ นี่ เราชอบกินมากตอนอายุ 10 ขวบ"

 

อะไรนะ

 

"แต่ขนมอันนี้เพิ่งมาใหม่.." ลูคัสรีบหยุดการกระทำก่อนกระแอมไอแสร้งพูดปดว่าจินหูฝาด

 

"เราหมายถึงเราเห็นเด็ก ๆ ชอบกินน่ะ"

 

กูลาออกจากการเป็นหว่องตอนนี้เลยได้ไหม

 

 

 

เมื่อทำธุระในร้านสะดวกซื้อเสร็จพบวาววายืนรอชมวิวตรงหน้า ไม่ทันตั้งตัวเผลอเดินเข้าชนหัวใส่เต็ม ๆ ส่วนจินเห็นว่าของจะร่วงเลยรีบหยิบถุงพลาสติกออกจากมือหว่อง จึงเกิดความโกลาหลชั่วคราวของเช้าวันใหม่ที่แสนทรหดสำหรับใครบางคน

 

"เจ็บไหม"

 

"เราสิต้องถามวาววา โดนหัวเขกขนาดนั้นทั้งที่เป็นความผิดเรา" จินสำรวจของภายในว่ามีอะไรเสียหายหรือไม่ เห็นท่าไม่มีตัดสินใจดูสถานการณ์สองคนตรงหน้า ตอนแรกว่าจะพูดขัดแต่ตอนนี้ขอเงียบต่อดีกว่า 

 

"แล้วเธอจะกลับไปนอนต่อหรือเปล่า"

 

ลูคัสส่ายหัวทันควัน ถ้าเขาไปนอนต่อในสภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัย เขาไม่แน่ใจว่าจะมีชีวิตรอดแล้วทำภารกิจหว่องให้สำเร็จได้ ทุกวันนี้เขาแทบพะวงจนบางทีอาเจียนออกมาในช่วงแรกบวกกับความเครียดสะสมทำให้ช่วงนี้ถ้าไม่มีอะไรเขาเลือกหลับเป็นตายท่าเดียว (ถ้าปลอดภัย)

 

"งั้นกลับที่พักเลย"

 

 

 

วาววานำเน็ตบุ๊กและโน้ตบุ๊กตัวใหม่ขึ้นมาเปิดข้อมูลที่เคยบันทึกไว้ เขาคิดมาตลอดว่าเขาตามทันและก้าวไกลกว่าศัตรูแต่ครั้งนี้กลับไม่ใช่ เมื่อเวลาไม่กี่ข้ามคืนก่อนวาววามาพัทยา เขาได้แวะพักในปั๊มเหลือบมองดูข่าวภาคค่ำจากโทรทัศน์ข้างร้านขายของพบมีการก่อจลาจล ความจริงถือเป็นเรื่องปกติสำหรับวงการนี้เพราะสิ่งใดคือการกระทำผลเสียต่อพลเมืองสิ่งนั้นคือผลดีต่อพวกเขาแต่การสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนโดยเป็นผู้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลสาโรชนั้น เขารู้เลยว่ามันกำลังเล่นตลกใส่พวกเขาอย่างแน่นอน

 

"โง่ชะมัด"

 

ลูคัสเกือบอุทานหยาบออกมาหลังได้ยินคำสบถของวาววา รีแอคชันจากอีกฝ่ายดูแรงพอ ๆ กับเรื่องค้ามนุษย์ที่กาสิโน จินหัวเสียไม่น้อยยามพิจารณาหลักฐานทั้งหมด ส่วนเขากำลังนั่งทื่อตื้อคิดอะไรไม่ออกทว่าแค่ช่วงเสี้ยววิที่เกิดความเงียบ

 

"ผมว่าพวกเราเงียบตัวก่อนดีกว่า ตอนนี้ดูท่าไฉไลเริ่มคุกรุ่นเต็มที อีกทั้งก่อนหน้ามันโทร.เข้าหาเฮิง มันคงตามสืบหาไม่ยากว่าตอนนี้เฮิงใกล้ชิดกับใครแต่ถ้าอยากกำจัดไปเราต้องฆ่าพวกนั้นตั้งแต่ต้นลม"

 

"ฉันเห็นด้วย ตอนนี้พวกเรารู้แค่สิ่งที่เราอยากรู้แต่ความจริงแล้วเราไม่รู้อะไรเลย"

 

"จินจำตอนที่ไฉไลโทร.หาเฮิงได้ไหม เราได้ยินเสียงตะกุกตะกักเหมือนกำลังรื้อของ"

 

"..."

 

"แต่เราเชื่อว่าต่อให้ไฉไลรู้ เฮิงกับคุณชิชาต้องมีแผนสำรอง อีกอย่างคุณแทนเป็นมิตรกับฝั่งสาโรชอยู่บ้าง ถ้าคุณชิชาตลบหลัง เราว่ามันเกินไป"

 

วาววาขมวดคิ้วอย่างหนัก การเคลื่อนไหวตัวของเขาควรหยุดนิ่งหรือเดินต่อ เมื่อแผนที่วางไว้ถูกชะงัก การเก็บตัวเพื่อเผชิญหน้าในปัญหาอนาคตมันคงดีกว่า

 

"แล้วกับคุณหลิงเป็นไงบ้างครับ" จินเริ่มซักถามต่อ

 

"ตามที่บอก ตอนนี้คงหัวเสียบ้างเล็กน้อย แต่ฉันสงสัยอย่างหนึ่ง หว่องชอบกินอะไร"

 

เดี๋ยว แล้วมาถามอะไรเขาตอนนี้

 

ลูคัสพยายามนึกเนื้อหาที่อ่านสุดความสามารถ สุดท้ายแล้วเขาจำเป็นต้องแก้ตัวน้ำขุ่นโดยบอกของตัวเองไปทั้งหมด ประเด็นไม่ใช่แค่คำถามเดียวแต่นี่สอบถามทุกอย่างที่เกี่ยวกับหว่อง บ้าไปแล้ว

 

"วาววาถามเราทำไมเหรอ"

 

"ก็แค่อยากรู้น่ะ"

 

"..."

 

"ทำไมเหรอ?"

 

 

TBC

 

กลับมาแล้วนะคะฮือ ขอบคุณสำหรับทุกการอ่านเลยจริง ๆ ค่ะ ;;-;;