ใบหน้าเผยความสุขสมจนกลบเรื่องราวเฮงซวยเมื่อกลางวันที่ผ่านมา ยิ่งเสน่ห์กลิ่นดอกพุดแสงอุษาทั่วห้องแล้ว ไม่รู้เช่นกันว่าจะหงุดหงิดไปเพื่ออะไร หลิงเดินตรงไปยังโต๊ะเครื่องแป้งเพื่อสำรวจความเรียบร้อยหลังอาบน้ำเสร็จ ย้อนนึกสัมผัสความอบอุ่นของอีกฝ่ายอย่างติดใจ ถึงจะผ่านไปแล้วแต่ราวกับเพิ่งได้รับไม่นาน อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคงเป็นแผนตายใจจากเขามันได้ผล ไฉไลต้องดีใจแน่เมื่อรู้ว่าวาววากำลังเข้าติดกับดัก ไม่รอช้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายทันที

 

"คุณหลิง คุ-" เขารู้ว่าต้องโดนไฉไลบ่นเรื่องนั้นแต่หลิงเลือกขัดทันทีเพื่อบอกความคืบหน้าในสิ่งที่สำคัญกว่า

 

"ฉันรู้ว่าสมควรโกรธแต่มันจะหายไปถ้าฉันได้บอกคุณ วันนี้ฉันได้ไปดินเนอร์กับคุณวิภาวัส" แล้วมันก็จริง เพราะไฉไลมีท่าทีสงบลง

 

"หึ ให้มันได้อย่างนี้สิ"

 

"คุณไฉไลไม่ต้องเป็นห่วง ยังไงตระกูลสาโรชจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งแน่นอน" บทสนทนาสั้น ๆ จบลงก่อนกดหมายเลขเบอร์โทรหาคนสำคัญอีกคน

 

ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่า-

 

"เป็นไปได้ไง ทั้งที่โทรหาได้ตลอดแล้วทำไม.." หลิงลองพยายามอีกครั้งทว่าผลลัพธ์ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เขาวางโทรศัพท์ลงทันทีด้วยความไม่พอใจ มันกล้าดีอย่างไรถึงสะเออะไม่ตอบรับสายจากนายจ้างอย่างเขา ผ่านไปไม่นานความหงุดหงิดถูกแทนที่ความงงงวย เมื่อหน้าต่างถูกปิดด้วยตัวเองไร้ซึ่งลมพัดหรือสิ่งของ หลิงชะเง้อมองก่อนเดินสำรวจก็ไม่พบความผิดปกติ บางทีอาจจะเป็นความปลอดภัยที่พักคอนโดของเขาไม่ดีพอหรือใครสักคนมาลอบฆ่าเข-

 

ไม่ทันได้คิดพบบุคคลนิรนามเขวี้ยงสิ่งของปริศนาเข้าใส่หาหลิงทันที หลิงเบี่ยงตัวหลบก่อนขวานหาปืนสั้นเพื่อป้องกันอันตราย สายตาเหลือบซ้ายขวาสำรวจสถานการณ์ก่อนเข้าสู่ภาวะปกติภายในพริบตา ตอนนี้เขายังจะตายไม่ได้

 

ใครกล้าทำหือรือโหดกับตระกูลลดารัณ นับตัวเลขทอยลูกเต๋าเข้าสู่นรกได้เลย

 

 

 

"เฮิง..ลุกไหวไหม" ลูคัสแตะตัวเฮิงเขย่าเล็กน้อยจนอีกคนรู้สึกตัว สีหน้าค่าตาจากบาดแผลและตาบวมจากการร้องไห้ทำเอาลูคัสเองยังปวดใจ ลูคัสจับมือเฮิงก่อนส่งยิ้มไปให้เพื่อต้องการปลอบโยน ส่วนเฮิงยังมีอาการสะลึมสะลือหลังงีบนอนบนเตียงได้สักพัก เมื่อลืมตาขึ้นมาพบว่าไม่ใช่บ้านตัวเองจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก 

 

"ขอบคุณนะ"

 

"มากินข้าวต้มก่อนค่อยนอนต่อ" แอบคาดหวังว่าจะเป็นข้าวต้มทำมือแต่ลูคัสก็คือลูคัส

 

"ลงทุนไปซื้อโจ๊กสำเร็จรูปมาเลยเหรอ"

 

"ก็แวะร้านสะดวกซื้อพอดี เลยซื้อมาให้ อีกอย่างเราเพิ่มไข่กับผักไปด้วย มากินก่อนค่อยพูด" ลูคัสรีบพูดทันควันเมื่อพบเฮิงทำสีหน้าคาดไม่ถึงของการกระทำอันเรียบง่ายจนน่าตกใจ ส่งยิ้มแก้เก้อก่อนตักโจ๊กคำโตให้เฮิง

 

"ลูคัส.."

 

"ฮะ ว่าไง"

 

"ทำไมมันไม่เป็นแบบในละครบ้างล่ะ ที่ต้องเป่าก่อนและตักคำเล็ก ๆ น้อย ๆ จากนั้นตัวละครเอกสำลักเพราะร้อ-"

 

"อร่อยไหม" เฮิงหลับตาพิจารณาก่อนยกนิ้วโป้งว่าอร่อยส่งไป ลูคัสป้อนคำโตให้เฮิงจนหมดภายในเวลาไม่กี่นาทีด้วยความเหลือเชื่อ จินเดินเข้ามากะทักทายหว่องทว่าเหลือบเห็นใบหน้าเฮิงพองแก้มเล็กน้อยราวกับเป็นโมจิก้อนนุ่มอยู่ตรงแก้มคล้ายว่างอนคนนั่งป้อนข้าวอย่างหว่องอยู่ ทำให้จินขำออกมาจนทั้งสองหันไปมอง

 

"ขำอะไร"

 

"ตลก" ลูคัสขำออกมาแทบปิดปากไม่ทันเพราะคำตอบของจินมันโดนใจจนอยากทำเสียงแซวเหมือนตอนรวมกลุ่มกับเพื่อนแล้วเวลาพูดอะไรที่เข้าท่ามักจะมีปฏิกิริยาขึ้นมา เฮิงเห็นว่าไม่มีใครอยู่ฝั่งพวกตัวเองจึงมองตาขวางกลับไปจนในที่สุดก็เข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง

 

"เออนี่ ฉันพบรายชื่อชิชาในมือปืนรับจ้าง เหมือนคนนี้จะเก่งกาจพอตัวจนตระกูลลดารัณยอมเสนอของที่ประเมินค่าไม่ได้จากฮั้วประมูล" จินนำหลักฐานที่ได้มาแนบให้ลูคัสและเฮิงดู ลูคัสขบคิดในใจ รู้สึกว่ายังไม่คลาดเคลื่อนมากจนต้องเตรียมรับมือเป็นเท่าตัว ชิชาเป็นตัวละครที่มีความสามารถจนเขาเหมือนดูโง่ไปเลยในทันที แถมโปรไฟล์เด่นเท่าตัวเอก แต่คงเป็นวิถีคนร้ายสำหรับแทนเพราะกว่าจะโผล่ออกมาคือตอนใกล้จบ

 

"ไอ้พี่แทน เอาอีกแล้ว.."

 

"ลูคัสพึมพำอะไร" เฮิงซักถามเพื่อต้องการความแน่ชัดอีกครั้งแต่อีกคนที่งุนงงกับสรรพนามชื่อเรียกออกมาจากปากเฮิง

 

"เฮิง ทำไมเธอถึงพูดถึงหว่องว่าลูคัส?"

 

ซวยแล้วไง ลูคัสคิดในใจก่อนฟังคำตอบจากเฮิง 

 

"ก็อยากเรียก" จินเห็นท่าว่าจะได้รับคำตอบไม่แน่ชัดจึงมาคาดคั้นกับอีกคนแทน ลูคัสหัวเราะออกมาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ยังดีที่โชคชะตาอยู่ข้างเขาเพราะเสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ความสนใจไปอยู่ตรงจุดนั้นทันที วาววามองสามคนอย่างแปลกใจโดยเฉพาะจินจ้องเขม็งมาที่เขาอย่างไม่ลดละ 

 

"จิน เธออยากพูดอะไร"

 

"ทำไมเฮิงถึงเรียกหว่องว่าลูคัส"

 

"ก็.."

 

"..."

 

"ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงแล้ว"

 

​​

 

เหตุการณ์ก่อนหน้าเพียงแค่จินสงสัยยังทำเอาลูคัสอยากสลบไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น จนตอนนี้ทั้งสี่คนลงมาชั้นล่างแล้วออกไปข้างนอกนั่งคุยแผนการต่อ ไม่น่าเชื่อว่าทั้งสามคน จิน วาววาและเฮิงจะได้มีฉากมานั่งรวมตัววางแผนกำจัดศัตรู ซึ่งมันเปลี่ยนจากกำจัดหว่องเป็นคนอื่นแทนไงล่ะ

 

"เชี่ย.." เสียงอุทานจากลูคัสกับความคิดในใจของตัวเอง วาววาได้ยินเช่นนั้นจึงหันมามองเชิงว่ามีอะไร 

 

"วาววา..นั่นรอยลิปสติกไหม" ลูคัสหาทางออกด้วยการพบว่ามีรอยลิปสติกสีแดงสดประทับอยู่ตรงมุมปากเล็กน้อย นั่นก็หมายความว่าหลิงต้องยอมรับวาววาอีกครั้งแน่นอน (วาววาแซ่บมากจะบอกให้) แล้วหว่องจะรู้ไหมว่าวาววาทำไปเพราะอะไร ไม่ใช่ว่าจ- 

 

"หว่อง..ใกล้ไป" วาววาพูดขึ้นก่อนเห็นสีหน้าเลิ่กลั่กจากลูคัสราวกับทำตัวไม่ถูก ลมหายใจรดรินจนรู้สึกได้อีกทั้งจินและเฮิงยังต้องนั่งมองอึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้

 

"น่ารัก.."

 

เดี๋ยวนะ วาววาชมหว่องงั้นเรอะ?!

 

 

TBC