ยามใกล้รุ่งเริ่มปรากฏ เวลาตีห้าสี่สิบนาที ลูคัสลุกจากเตียงก่อนอาบน้ำแต่งตัวด้วยเสื้อยืดกางเกงวอร์มตามสไตล์ชอบใส่ประจำ วันนี้ลูคัสตั้งใจมาทำบุญตักบาตรในรอบห้าปี เหตุผลคืออยากทำมาตั้งนาน เพิ่งได้มีโอกาสจึงลงมือแบบไม่สนใจสิ่งใด สร้างความงุนงงให้กับจินอย่างมากหลังบอกว่าจะขอทำอะไรบางอย่างเป็นการส่วนตัวแล้วฝากจัดการงานทุกอย่างแทนเขาหนึ่งวัน ส่วนข้ออ้างคือการได้กลิ่นลางสังหรณ์จากตัวเองหลังได้เจอเฮิงมาเมื่อวาน

 

                   "..อายุ วณฺโณ สุขํ พลํ"

 

                   จบการทำบุญตักบาตร ลูคัสพบใครบางคนใส่ชุดสูท (ชุดอื่นไม่มีแล้วใช่ไหม) ดูท่าแล้วอาจเป็นคนรู้จักของตัวละครในนิยายจึงรีบเลี้ยวตัวหนีออกให้พ้นสายตา ทว่าคนนั้นเผอิญตาดีมาเห็นจนได้ ลูคัสจึงหันกลับแล้วทักทายตามมารยาท

 

                  "ว่าไง" 

 

                  ลูคัสส่งยิ้มแก้เก้อพยายามเก็บความอึดอัดโดยฉีกยิ้มพิมพ์ใจมากที่สุดเท่าที่มี เขาไม่รู้ว่าคนตรงหน้าตรงนี้คือใคร นึกยังไงก็นึกไม่ออกอยู่ดี 

 

                  "วันนี้เจอกันนะ...ลูคัส"

 

                  ลูคัสสลบไปทันทีเมื่อคนนั้นพูดจบ

 

 

 

 

                            ความตึงเครียดเข้ามาหมุนเวียนเล่นเมื่อได้รับข่าวสารว่าเกิดเหตุการณ์ส่งสินค้าอาวุธทางชายแดนผิดพลาด ตอนนี้กำลังโดนตรวจสอบไม่เว้นแต่ละคน หลิงรู้สึกกังวลหากมันรู้ต้นตอว่าใครเป็นคนรับจ้างหรือลูกค้าคนไหนร่วมมือกับเขา คราแรกหลิงไม่มีความรู้สึกอะไรกับอีแค่คนส่งสินค้าโดนด่านตรวจ พอทราบอีกข้อมูลหนึ่งว่านั่นคือใครแทบเป็นลมจับเสียทีเดียว

 

                          "ยังไงเอาเงินยัดก็จบแล้ว เพราะด่านที่จับไปคือพวกฝั่งเรา"

 

                          "หมายความว่าไง"

 

                          คนนั้นยกยิ้มมุมปากขบขันการกระทำของหลิงที่เต็มไปด้วยความวิตก ร่างสูงเดินไปทางด้านหลังหน้าต่างก่อนบอกเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ควรกังวลกับเหตุการณ์เหล่านี้

 

                         "งานราตรีสโมสรล่าสุดที่คุณเต้นรำกับคนนั้นด้วยไง" หลิงเลิกคิ้วเชิงสงสัยแต่คนนั้นไม่ได้ให้คำตอบเพิ่มเพียงบอกอีกประโยคแล้วเดินออกจากห้องไป

 

                         "คราวหน้าก็ระวังแล้วกัน"

 

                          ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว

 

 

 

 

                           ลูคัสลืมตาพบกับสถานที่แสนคุ้นเคย ลองตบหน้าตัวเองเรียกสติอีกครั้งแล้วลุกขึ้นกระโดดขึ้นโซฟาด้วยความดีใจแต่ทำได้ไม่นานเพราะมีคนทักให้ตกใจเล่นจนล้มลงพื้นอย่างเจ็บปวด 

 

                          "อะไรเนี่--คุณที่อยู่ตอนตักบาตรนี่"

 

                           "ดีใจจัง จำได้ด้วย ชื่อแทนนะ"

 

                            รู้ด้วยไงว่านี่จะถามชื่อ

 

                            ลูคัสนึกย้อนถึงตัวละครชื่อแทนก่อนร้องอ๋อแล้วเงียบฟังคนตรงหน้าพูดซึ่งแทนก็ยังนิ่งยืนอยู่ไม่พูดไม่จา

 

                            อะไรวะ งงเด้อ

 

                          "ก็มาทำความรู้จักผู้ช่วยส่วนตัวของลูคัสไง ฉันนี่แหละที่เป็นคนให้เธอเข้ามาในเรื่องนี้และบอกทอยสี่แต้ม"

 

                         สีหน้ายิ้มแย้มสดใสประดับใบหน้าคนที่เรียกว่าแทนและผู้ช่วยส่วนตัวทั้งที่ในนิยายเป็นฝ่ายตรงข้ามแท้ ๆ ทำไมมาเป็นผู้ช่วยได้ เดี๋ยวนะ..เขาบอกว่าเป็นคนพาลูคัสเข้ามาในนี้เหรอ 

 

                       "ขอโทษนะคุณแทน"

 

                       "..?"

 

                      "เอาผมเข้ามาทำเหี้ยไร! เฮงซวย!"

 

 

 

 

                     "หว่องล่ะ" วาววาถามจินด้วยความแปลกใจเมื่อเข้าไปไม่พบกับหว่อง สายตาว่อกแว่กของจินปรากฏเด่นชัดราวกับไม่รู้จะทำตัวอย่างไร ทั้งที่วางเพียงแค่ถามหาอีกคนปราศจากจุดประสงค์แอบแฝงนั่นทำให้วาววาตัดสินใจย้ำถามอีกครั้ง 

 

                   "เขาบอกว่าจะไปทำธุระส่วนตัว แล้วให้ผมมาทำงานแทนเขาหนึ่งวันครับ"

 

                   ถึงควรเข้าใจแต่ความรู้สึกผิดหวังถาโถมมากจนนิ่งงันไปชั่วครู่ วาววาขมวดคิ้วแน่นงงกับความรู้สึกในตอนนี้ว่ามันคืออะไรกันแน่ ทำไมเขาถึงรู้สึกเสียใจนิด ๆ 

 

                  "คุณวาวว่ามีอะไรหรือเปล่าครับ"

 

                  "รู้จักทีปกรหรือเปล่า"

 

                  "ผู้ส่งสินค้าอาวุธทุกชนิดของแนวหน้า ทำไมเหรอครับ"

 

                  "มันจะดีไหมถ้าเราจะก้าวเข้าสู่ธุรกิจพวกนี้"

 

                  "ผมว่าเรื่องนี้ให้คุณหว่องมาตัดสินใจเองดีกว่าครับ"

 

                  "จินคิดว่าไง"

 

                  "คิดเหมือนที่คุณหว่องคิดครับ"

 

                  กวนเหมือนเจ้านายตัวเองจริง ๆ

 

 

 

 

                 บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ต้มเสร็จแล้วถูกส่งให้กับคนบ่นโอดโอยหลังโดนลูคัสตีไปหลายทีถึงจะไม่หนักจนเจ็บแสบแต่แทนก็รู้สึกผิดอยู่ดีที่เอาตัวใครก็ไม่รู้เพิ่งอ่านนิยายจบแล้วเข้ามาในเนื้อเรื่องนิยายเล่มนี้

 

                 น่าสงสาร

 

                "อย่าคิดอย่างนั้นเชียวนะ ไม่ได้ขอสักหน่อยว่าอยากเข้าไป"

 

                 ลูคัสมองคาดคั้นแทนด้วยความหงุดหงิด ถึงเช่นนั้นกลิ่นน้ำซุปหอมกรุ่นทำให้รู้สึกผ่อนคลายลงมาบ้าง บรรยากาศในพื้นที่ที่เขาควรอยู่ทำให้เขาตระหนักและเข้าใจทันทีว่าการมีเหตุการณ์แบบนี้มันไม่สนุกสักนิด (ก็เว้นแต่ไปต่างโลกแล้วได้อยู่ประเทศหรือการเมืองดี) แถมต้องมาพัวพันกับสิ่งผิดกฎหมายยิ่งแล้วใหญ่ หากเป็นยุคของเขายังมีชีวิตอยู่อาจมีบางอย่างแก้เป็นถูกกฎหมายแล้วบางส่วนแต่นี่เขาแทบไม่รู้อะไรสักอย่างว่านิยายมันมีกฎกติกาต้องทำอย่างไรบ้าง 

 

               "อื้อ! อร่อยอะ ขอบคุณที่ทำอาหารอร่อย ๆ ให้กิน"

 

               "มันอร่อยของมันอยู่แล้วเถอะ ว่าแต่ทำไมผมได้กลับมาก่อน"

 

              "กลัวสภาพจิตใจเธอแย่น่ะสิ ขอโทษจริง ๆ ที่จำเป็นต้องขอคุณให้ทำอะไรพวกนี้ไป"

 

               "ก็มันเกิดขึ้นแล้วนี่ครับ แล้วนี่ผมต้องกลับเข้าไปอีกใช่ไหม" แทนพยักหน้าให้ราวกับตรงใจกับประโยคคนข้าง ๆ  

 

               "ที่คุณวางแผนไว้น่ะ มันไม่สูญเปล่านะ เชื่อมั่นในตัวเองหน่อย"

 

                ลูคัสไม่อยากเชื่อในคำพูดของแทนเท่าไร แต่จำเป็นต้องเชื่อเพราะแทนคือคนเดียวที่ลูคัสรู้สึกว่าสามารถทำให้เขาอยู่ได้ถึงตอนจบโดยไม่ตายเสียก่อน รอยยิ้มขบขันจากแทนถูกส่งมาบอกให้อีกฝ่ายขอพรห้าข้อในการต้องเข้าไปในนิยายอีกครั้ง 

 

               "ทุกทีมันต้องสามข้อไม่ใช่เหรอ"

 

               "เอาสิบข้อไหม"

 

               "งั้นขอให้ขอพรได้ตลอดการที่เข้าไปอยู่ในนั้น"

 

Tbc