Day 25 - Miracle

 

Prompt: “Sometimes you can ever see” 

 

Spoiled

เนื้อหาต่อเนื่องกับนิยาย ตอน ตอนต่อของความฝัน (เล่มที่ 2) , เนื้อหาก่อน Day 6 ของฟิค In Time With You ของเราด้วยนะคะ

 

1st Published : 26 MAY 2021

Rewrite : 26 NOV 2022

==========

 

ผ่านมาจนเกือบปี สุดท้ายนอกจากเขาจะผลักไสเกนยะให้ออกไปจากหน่วยพิฆาตอสูรไม่ได้ น้องชายที่เหลือเพียงคนเดียวของเขายังกลายเป็นผู้สืบทอดของฮิเมจิมะ เกียวเม เสาหลักหินผาเสียอีก

 

ชินาซึงาวะ ซาเนมิ ไม่เคยเข้าใจการตัดสินใจของเสาหลักหินผาผู้ที่เธอคนนั้นเคารพรักรองจากนายท่านอุบุยาชิกิ คากายะ ได้เลย เท่าที่ทราบมา น้องชายของเขาไม่อาจใช้พลังปราณได้ดั่งเขาหรือเสาหลักคนอื่น...

 

นั่นหมายถึง น้องเขาไม่มีพลังที่จะต่อกรกับอสูรระดับบน ๆ ได้ และมีโอกาสที่จะเพลี่ยงพล้ำแก่อสูรได้มากขึ้น...

 

แต่ทุกสิ่งกลับไม่เป็นไปอย่างที่เขาคาดคะเน...

 

ประการแรก... สุดท้ายน้องเขากลับเป็นหนึ่งในผู้ที่สามารถเผชิญกับอสูรข้างขึ้นลำดับที่สี่และห้า และเอาชีวิตรอดกลับมาได้ครบสามสิบสองประการ... ขณะที่เขาจนบัดนี้ก็ไม่เคยได้มีโอกาสประฝีมือกับอสูรข้างขึ้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว

 

ประการที่สอง... นอกจากจะรอดจากอสูรข้างขึ้นมาได้ น้องเขายังเป็นหนึ่งในคนร่วมปราบอสูรข้างขึ้นที่ห้าร่วมกับเจ้าเด็กคามาโดะ ทันจิโร่ บุคคลที่เขาชิงชัง ผู้ละเลยกฎของหน่วยพิฆาตอสูร โดยนำพาน้องสาวที่เป็นอสูรเข้ามาปะปนกับผู้คนในหน่วย...

 

ประการที่สาม... อสูรผู้เป็นน้องสาวของเจ้าเด็กคามาโดะนั่น ช่วยร่วมต่อสู้กับน้องชายเขา และยังสามารถพิชิตดวงตะวันได้!

 

ความหวั่นไหวเข้าครอบงำจิตใจของชายหนุ่ม สั่นคลอนความเชื่อมั่นว่าอสูรทุกตนล้วนแล้วแต่น่ารังเกียจจากสิ่งที่เขาได้พบภายในระยะเวลาไม่ถึงปี การเข้ามายังหน่วยพิฆาตอสูรของน้องชายเขา เจ้าเด็กคามาโดะ เจ้าเด็กอางาซึมะ เจ้าเด็กฮาชิบิระ และน้องสาวบุญธรรมของเธอคนนั้น เปรียบเหมือนกับฟันเฟืองที่ทำให้เส้นด้ายแห่งโชคชะตาเปลี่ยนแปลง...

 

บัดนี้กลายเป็นมนุษย์ที่สามารถสู้และเอาชนะอสูรข้างขึ้นได้ อย่างที่ไม่เคยมี...

 

บัดนี้มีอสูรที่สู้ร่วมกับมนุษย์ และปกป้องมนุษย์ได้...

 

ความฝันที่เธอของเขาใฝ่ฝันมาทั้งชีวิต... กำลังจะเป็นไปได้...

 

หากเธอคนนั้น... ก็ไม่อาจเห็นได้ด้วยตาของเธอ...

 

ความสับสนที่ทำเสาหลักวายุไม่อาจข่มตาหลับลงได้ รู้ตัวอีกทีเขาก็เดินทางมาถึงสถานที่ซึ่งเขาแทบไม่ย่างกรายผ่านมาตลอดสี่ปี...

 

คฤหาสน์ผีเสื้อ สถานพยาบาลของหน่วยพิฆาตอสูร...

 

บ้านของเธอคนนั้น และเป็นที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำของเขาและเธออยู่ทุกหนแห่ง...

 

ฟ้ายังทันไม่สางดี หากความคุ้นเคยต่อสถานที่ก็ทำซาเนมิเดินมายังห้องพยาบาลที่เป็นห้องรวมได้ถูก ห้องที่เขาเจอกับเธอครั้งแรกยังคงเต็มไปด้วยเตียงเดี่ยวเรียงรายเหมือนเดิม หนึ่งในนั้นมีน้องของเขาผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนพักรักษาตัวอยู่...

 

ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำหัวใจคนเป็นพี่สั่นสะท้านยามได้เห็นสภาพร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลของคนเป็นน้อง... บัดนี้ไม่มีแล้วเด็กชายตัวเล็กที่คอยอ้อนให้พี่ชายอย่างเขาพาขี่หลังกลับบ้าน กลับมีแต่เด็กชายร่างสูงใหญ่ทัดเทียมเขาที่บาดเจ็บสาหัสจากการปฏิบัติภารกิจในฐานะนักล่าอสูรมา...

 

ทั้งที่ปรารถนาให้ใช้ชีวิตธรรมดา ทั้งที่อยากให้อยู่อย่างปลอดภัย ไม่ต้องเอาตัวเองมาเสี่ยงแบบที่เขาเป็นอยู่...

 

ทั้งที่ปรารถนาให้ได้ใช้ชีวิตอย่างคนปกติ มีคนที่รัก มีครอบครัว มีลูกหลานสืบต่อไป ความฝันที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเขาอีกแล้วในชาตินี้...

 

แต่ก็ยังกระโจนเข้าวังวนอันแสนเศร้านี้...

 

มือที่เต็มไปด้วยบาดแผลของชายหนุ่มสั่นระริก หมายจะสัมผัสศีรษะของน้องชาย สิ่งล้ำค่าที่ยังเหลืออยู่สิ่งเดียวในโลกอันแสนมืดมน... แสงสว่างสุดท้ายในชีวิตที่เขาปรารถนาปกป้องจนลมหายใจสุดท้าย...

 

“พี่จ๋า... ข้าขอโทษ”

 

เสียงพึมพำของเกนยะทำมือที่กำลังจะแตะลงบนเส้นผมหยักศกสีเข้มชะงักงัน คำพูดที่บ่งบอกได้ว่าน้องชายคงจะหลับฝันถึงอดีตสมัยที่ยังเป็นเด็กน้อย ทำชายหนุ่มสูงวัยกว่ากัดกรามด้วยอารมณ์อันท่วมท้น...

 

ความปรารถนาที่จะอยากเจอน้องชายร่วมสายเลือดที่ยังเหลือเพียงคนเดียว ปะปนกับความต้องการตามเจตนาเดิม คือการผลักเด็กคนนี้ออกไปจากวังวนที่เต็มไปด้วยเลือดและน้ำตาแห่งนี้...

 

เสียงฝีเท้าของคนจำนวนหนึ่งดังจากชั้นบนบ้านเป็นสัญญาณว่าเด็กน้อยตัวจ้อยสามคนในวันวานคงจะตื่นนอนแล้ว เสียงที่ทำให้คนที่ซึ่งยังลังเลตัดสินใจชักมือกลับและเดินออกจากห้อง ด้วยไม่อยากให้ใครมาเห็นว่าเขามายังที่แห่งนี้ หากก่อนจะเดินออกพ้นประตูบ้าน เขาก็เกือบชนเข้ากับหญิงสาวนัยน์ตาสีฟ้าที่เขาไม่ได้เห็นมาหลายปี คนที่กลายขึ้นมาเป็นผู้ดูแลหน่วยพยาบาลเคียงคู่กับเสาหลักแมลง

 

“เอ๊ะ อรุณสวัสดิ์ค่ะท่านเสาหลักวายุ” น้ำเสียงของเธอยังคงให้การเคารพเขาอย่างเคร่งครัดเหมือนที่ผ่านมา “มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ หรือจะมาพบท่านชิโนบุ”

 

“อ... อื้ม” ซาเนมิไม่มีทางเลือกนอกจากเออออตามที่อาโออิว่า “แต่ถ้าไม่อยู่ก็ไม่เป็นไร ข้าไม่ได้มีเรื่องด่วน

 

“ท่านชิโนบุไปพบนายท่านตั้งแต่เมื่อคืนค่ะ ท่านเสาหลักวายุจะรอพบไหมคะ ฉันจะได้จัดเตรียมอะไรให้รองท้อง”

 

“ไม่เป็นไร ช่างเถอะ ข้าไปล่ะ”

 

คำตอบพิลึกพิลั่นสร้างความสับสนให้แก่หญิงสาวนัยน์ตาสีฟ้า หากเธอก็ไม่มีเวลาให้คิดพิจารณาอะไรเพิ่ม ด้วยครั้งนี้มีคนป่วยรอให้รักษาหลายคน และสองคนในนั้นคือเสาหลักผู้ค้ำจุนหน่วยพิฆาตอสูร และอีกสองคนที่เหลือคือรุ่นน้องในหน่วยที่เพิ่งกำจัดอสูรจันทราข้างขึ้นได้... ความวุ่นวายที่ทำให้ต้องกล้ำกลืนความสงสัยในใจลงไป

 

เพราะหน้าที่หนึ่งเดียวที่ตนทำได้ ยังต้องดำเนินต่อไป...

 

ไม่ทันที่ซาเนมิจะเริ่มต้นการฝึกฝีมือในช่วงบ่าย เขาก็ต้องพบกับแขกมาเยือนที่ไม่ค่อยจะคาดฝันเท่าไร เพราะรู้ดีว่าไม่นานเธอคนนี้ก็ต้องมาเหยียบยังบ้านของเขา หลังจากที่เขาบังเอิญไปเหยียบบ้านของเธอเมื่อตอนเช้า

 

รอยยิ้มอ่อนหวานหากดูว่างเปล่าของโคโจ ชิโนบุ ถูกส่งมาให้ พร้อมกับการโค้งศีรษะที่เขารู้อยู่แก่ใจว่าเจ้าหล่อนทำไปตามมารยาท ตามหน้ากากคนรักของเขาที่จากไป

 

“สบายดีนะ...”

 

“ค่ะ” เธอตอบพร้อมรอยยิ้มเหมือนทุกครั้ง “จริง ๆ ฉันแปลกใจมากที่คุณอุตส่าห์ดั้นด้นไปหาฉันถึงบ้านเมื่อเช้า ไม่ทราบมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ ชินาซึงาวะซัง”

 

“ช่างเถอะ ไม่มีอะไรแล้ว” ซาเนมิตอบห้วน ๆ ก่อนตัดบท “เดี๋ยวข้าซ้อมต่อล่ะ เจ้ามีธุระอะไรก็ไปจัดการเถอะโคโจ”

 

“แหม ๆ แต่ฉันมีธุระกับคุณค่ะชินาซึงาวะซัง” นัยน์ตาสีม่วงจ้องมองเขาอย่างท้าทาย “ไม่สิ ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณต่างหาก จะไม่เชิญฉันเข้าไปเหรอคะ”

 

ท่าทางดื้อดึงของหญิงสาวตรงหน้าที่เขาแทบไม่เห็นมันมากว่าสี่ปี ทำให้เสาหลักวายุต้องยอมแพ้ ได้แต่ถอนใจก่อนเดินนำเจ้าหล่อนเข้าไปยังห้องรับรองด้านหลังบ้าน

 

“ว่ามา” เขาเปิดประเด็นอย่างไม่รอช้า “ไหนว่ามีเรื่องจะคุยกับข้า”

 

“ฉันคิดว่าคุณทราบนะคะว่าฉันจะพูดอะไร ชินาซึงาวะซัง...” เธอเอ่ยยิ้ม ๆ แล้วจ้องนัยน์ตาเขาอย่างคนรู้เท่าทัน “ฉันอยากคุยกับคุณเรื่องชินาซึงาวะ เกนยะคุง... น้องชายคนเดียวของคุณค่ะ”

 

“มันไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับข้า!” ซาเนมิเอ่ยแทบเป็นเสียงตะโกน ขณะมือจิกกำแน่นเพื่อสงบสติอารมณ์ “คนไร้พรสวรรค์พรรคนั้นนะเหรอ เหอะ! ข้าว่าเจ้าคงจะวิปลาสแล้วนะโคโจ”

 

“คุณกำลังโกหกอยู่ค่ะ”

 

ชิโนบุเอ่ยขัดทันควัน คำพูดที่คนฟังได้แต่เจ็บปวด ความเหมือนระหว่างเขากับเกนยะมันชัดเจนเกินกว่าที่จะปฏิเสธได้ และเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าคานาเอะจะเคยเล่าเรื่องของน้องชายเขาให้เสาหลักแมลงผู้นี้ฟังมากน้อยแค่ไหน แต่กระนั้น เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เขาเห็นนัยน์ตาคู่ที่มักจับจ้องเขาด้วยความว่างเปล่ามีแววขบขัน ราวกับในที่สุดเขาก็ได้พบตัวตนของโคโจ ชิโนบุ ที่ทำหายไปหลายปีที่ผ่านมา

 

“ฉันรู้ คุณไม่ได้บังเอิญเดินผ่านมาแถวบ้านฉันแน่ค่ะ อันที่จริง คุณไม่ได้แวะผ่านมาที่นี่ร่วมสี่ปีแล้วนะคะ”

 

น้ำเสียงอ่อนหวานของเด็กเมื่อวันวานเต็มไปด้วยความเข้าใจ ความสูญเสียที่ทั้งสองคนได้รับมันเจ็บปวดจนยากที่จะลืมเลือนได้ คำพูดที่เรียกนัยน์ตาสีม่วงอ่อนของชายหนุ่มหม่นแสงลงอย่างเห็นได้ชัด

 

“ฉันแค่อยากจะบอกว่า อย่าได้ดูถูกเกนยะคุงเพียงเพราะเขาไม่อาจใช้ลมปราณอย่างชินาซึงาวะซังได้นะคะ”

 

“เจ้าไม่เข้าใจ...”

 

“ค่ะ ฉันไม่เข้าใจ อันที่จริงฉันไม่เข้าใจการกระทำที่คุณพยายามผลักน้องชายคนเดียวออกมาเลยค่ะ ฉันสงสารเด็กคนนั้นที่ได้แต่รอว่าเมื่อไรพี่ชายแท้ ๆ ของเขาจะยอมรับเขาสักที”

 

ประโยคที่ทิ่มแทงใจเขาเข้าจัง มือสองข้างของซาเนมิบัดนี้สั่นสะท้านกับความจริงที่มันเป็น โชคชะตาที่ทำให้เขาต้องผลักไสคนที่เขารักอีกคนออกไปจากชีวิต... กับประโยคที่ดึงความทรงจำระหว่างเขากับพี่สาวของคนพูดในคืนวันนั้นให้หวนกลับมา

 

‘อย่าผลักไสฉันไปได้ไหม ซาเนมิคุง...’

 

เขาพยายามไม่มองหน้าคนที่จ้องมองเขาเขม็ง ไม่อาจทนเห็นเด็กคนนั้นใช้สายตาคล้ายเธอคนนั้นมองมาได้ คงได้แต่ข่มเสียงไม่ให้สั่นเครือแล้วตอบกลับไป

 

“เปล่าประโยชน์ เด็กคนนั้นใช้ปราณไม่ได้ เจ้าก็ย่อมรู้ดีแก่ใจว่าผลมันจะเป็นอย่างไร... โคโจ

 

“แบบที่คุณพยายามจะให้ฉันกลับไปเป็นคนธรรมดาตามความปรารถนาของท่านพี่เพื่อรักษาชีวิตของฉันใช่ไหมคะ” ชิโนบุเอ่ยเสียงขรึม “คราวนี้ฉันว่าฉันเข้าใจแล้วค่ะ... แต่ฉันว่าที่คุณทำคงเสียเปล่านะชินาซึงาวะซัง”

 

เจ้าหล่อนถอนหายใจออกมายาว ก่อนจะหันไปมองท้องฟ้าสีทึมของต้นฤดูหนาวที่อยู่ด้านนอกอย่างใช้ความคิด แล้วเอ่ยด้วยเสียงที่นุ่มนวลลงกว่าเดิม

 

“บางครั้งเราอาจได้เห็นปาฏิหาริย์จากสิ่งที่เราคาดไม่ถึงนะคะ ไม่สิ ตอนนี้เราได้เห็นแล้ว...” ชิโนบุเอ่ยนิ่ม ๆ ทิ้งช่วงให้คนฟังได้ขบคิดตาม “สิ่งที่เกิดขึ้นกับเนซึโกะจังนั่นก็เรียกว่าปาฏิหาริย์ค่ะ อสูรที่ไม่กินคน ไม่โจมตีมนุษย์ เอาชนะดวงตะวันได้ ไหนจะทันจิโร่คุง เซนอิทซึคุง อิโนะสุเกะคุงที่ร่วมกันเอาชนะอสูรข้างขึ้นและรอดชีวิตกลับมาได้... รวมถึงตัวน้องชายคุณด้วย... สิ่งที่แม้แต่ท่านพี่ของฉันยังไม่อาจทำได้ แต่เด็กพวกนี้กลับทำให้เราได้เห็นสิ่งที่มันไม่น่าจะเป็นไปได้แล้วนะคะ...”

 

คำพูดที่ก่ออารมณ์ความรู้สึกหลากหลายแก่ซาเนมิ ด้วยเป็นสิ่งที่เขาเฝ้าคิดวนเวียนมาตั้งแต่ได้ข่าวการปราบอสูรข้างขึ้นที่หกได้ กระนั้นก็ยังมีเรื่องที่ค้างคาใจอยู่

 

“พูดถึงไอ้เด็กคามาโดะกับไอ้เด็กอสูรนั่น... ข้าไม่เข้าใจ ทำไมเจ้าโทมิโอกะต้องคอยห้ามไม่ให้ฆ่าพวกมัน ทั้ง ๆ มันเป็นอสูร แล้วไอ้เด็กบ้านั่นก็ทำผิดกฎแท้ ๆ”

 

“คุณจะคัดค้านการตัดสินใจของนายท่านเหรอคะ”

 

“ไอ้อสูรตนนั้นมันเกือบโจมตีเจ้ากับยัยเด็กซึยูรินั่นนะ!” ซาเนมิตะโกนลั่นยามนึกถึงสิ่งที่โกโตเล่าให้ฟัง “ถ้ามันกินคน เจ้าก็จะโดนฆ่าได้ ยัยเด็กซึยูรินั่นด้วย!”

 

คำพูดที่เป็นดั่งการสะท้อนจิตใจที่แท้จริงของเสาหลักวายุ ในความเชี่ยวกรากของความโกรธแค้น แท้จริงเขาผู้นี้ห่วงใยน้องของคานาเอะที่เหลืออยู่มากกว่าใครทั้งหมด ความเป็นจริงที่ทำให้ชิโนบุเริ่มเข้าใจสิ่งที่พี่สาวผู้ล่วงลับพยายามเพียรบอกถึงความอ่อนโยนยิ่งกว่าใครของชินาซึงาวะ ซาเนมิ

 

“จริง ๆ แล้วคุณแค่โกรธที่โดนทันจิโร่คุงใช้หัวโหม่งจนสลบใช่ไหมคะ” ชิโนบุเอ่ยพลางหัวเราะเบา ๆ ขณะเก็บความตื้นตันไว้ข้างใน แล้วคลี่ยิ้มอ่อนโยนออกมา “แต่สุดท้ายเนซึโกะจังไม่ได้ทำร้ายทั้งฉันหรือคานาโอะนะคะ และตอนนี้เราก็พิสูจน์ได้แล้วว่าเนซึโกะจังช่วยหน่วยพิฆาตอสูรของเราต่อกรกับอสูรมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว เปิดใจบ้างเถอะค่ะ ชินาซึงาวะซัง”

 

ไม่! ข้าไม่มีทางลืมว่าพวกมันทำอะไร ไอ้พวกอัปรีย์จัญไรนั่น!” เสียงของซาเนมิแตกพร่าด้วยความไหวสั่นจากสิ่งที่ได้ยิน ทั้งที่เสี้ยวของใจก็อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้เห็น หากความแค้นเคืองต่อสิ่งมีชีวิตโสมมเหล่านั้นฝังรากลึกเกินกว่าที่ใครจะเยียวยาได้ “มันพรากครอบครัวเจ้ากับข้า มันช่วงชิงชีวิตผู้คน... รวมถึงพี่สาวเจ้าด้วย!”

 

นัยน์ตาสีม่วงเข้มของเสาหลักแมลงหลุบลงต่ำทันทีที่ได้ยินประโยคสุดท้าย หากเมื่อเหลือบมองคนพูดที่บัดนี้ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านด้วยอารมณ์ ราวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสี่ปีก่อนเพิ่งผ่านไปไม่กี่ชั่วยาม เธอถึงได้เข้าใจ...

 

ใต้ความโกรธเกรี้ยวและความมุ่งมั่นต่อหน้าที่จนเกินมนุษย์ เสาหลักวายุยังคงจมอยู่กับความสูญเสีย... เหมือนกับที่เธอเป็น ความสูญเสียที่ทำให้เธอสูญเสียตัวตนของตัวเองไป

 

“คุณยังไม่ลืมท่านพี่อีกเหรอคะ...”

 

ประโยคที่เป็นยิ่งกว่าลิ่มตอกเข้าไปในแผล แผลที่ไม่เคยจางไปจากใจของคนฟัง ใช้เวลานานนับนาทีกว่าซาเนมิจะรวมสติได้ ก่อนเอ่ยตอบด้วยเสียงอันสั่นสะท้าน

 

“ใครจะลืมได้... ไม่สิ ไม่มีวันลืมได้ต่างหาก”

 

รอยยิ้มเศร้าปรากฏบนใบหน้าของชิโนบุ แม้จะรับรู้ความสัมพันธ์ของคานาเอะและคนตรงหน้ามาตลอด แต่เธอก็คาดไม่ถึงว่าซาเนมิจะรักพี่สาวของเธอได้มากขนาดนี้... มากยิ่งกว่าที่เธอจะเคยคิดฝันไว้ ทั้งที่เธอควรรู้มากกว่าใคร ด้วยอีกฝ่ายคอยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเธอมาโดยตลอดสี่ปี แต่เพราะเธอนึกแค่ว่าความรู้สึกระหว่างคนสองคนนั้นคงเป็นสิ่งที่จะค่อย ๆ จางหายไปตามกาลเวลา พร้อมกับที่ทุกคนคงลืมเลือนเรื่องของพี่สาวสุดที่รักของเธอไปในวันหนึ่ง...

 

ความรู้สึกที่นำพาใบหน้าและนัยน์ตาสีครามของใครเข้ามาในห้วงความคิด ความรู้สึกที่ทั้งอ่อนหวานแต่เจือด้วยความเจ็บปวดเมื่อได้มองนัยน์ตาคู่นั้น...

 

นัยน์ตาที่คอยจับจ้องเธอมานับแต่แรกพบ หากเธอเฝ้าปฏิเสธความจริงด้วยความแค้นจากความสูญเสียพี่สาวคนเดียวอันหยั่งรากลึกจนปิดตาและใจของเธอ...

 

“สุดท้าย ท่านพี่ก็พูดถูกนะคะ... มนุษย์สามารถอยู่ร่วมกับอสูรได้จริง ๆ” ชิโนบุพูดด้วยเสียงสั่นเครือ สองมือที่กำชายคลุมเสื้อฮาโอริแน่นสั่นระริกอย่างข่มอารมณ์ ทั้งความรู้สึกของเสาหลักวายุที่เธอเพิ่งรับรู้ และความรู้สึกบางอย่างในจิตใจของเธอต่อใครบางคนที่เป็นเหมือนตะกอนติดค้างในจิตใจ “ถ้าท่านพี่ได้เจอกับเนซึโกะจัง ท่านพี่คงมีความสุขมากใช่ไหมคะ ชินาซึงาวะซัง...”

 

“อื้อ...”

 

ซาเนมิพึมพำ น้ำตาที่เพียรกลั้นไว้มาตลอดค่อย ๆ เอ่อล้นไหลจนเขาต้องเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนีไปอีกทาง โดยไม่หันกลับไปมองน้องสาวของเธอที่บัดนี้ร่างกายสั่นสะท้านจากการสะอื้นไห้ต่อคนที่จากไป...

 

ความเจ็บปวดที่แม้กาลเวลาจะหมุนผ่าน แต่จนถึงตอนนี้เขาและน้องของเธอก็ยังไม่อาจก้าวข้ามผ่านพ้น...

 

ความเจ็บปวดที่ไม่อาจทำให้พวกเขาเดินหน้าต่อไปได้...

 

เขารอจนเสียงสะอื้นไห้จากเด็กเมื่อวันวานนั้นหยุดลง ขณะพยายามปรับสีหน้าให้กลับไปเป็นปกติยามเดินไปส่งเธอที่หน้าบ้าน นัยน์ตาของน้องสาวเธอยังคงแดงก่ำไม่ผิดอะไรกับเขา หากสีหน้าของชิโนบุก็กลับมาสงบเยือกเย็นเหมือนปกติที่เขาคุ้นมาตลอดสี่ปี ด้วยฝังความแหลกสลายไว้ภายใต้หน้ากากของคนที่จากไป

 

“เจ้าจะให้ข้าไปส่งไหม...”

 

“ไม่เป็นไรค่ะ คุณกลับไปซ้อมต่อเถอะ” เสาหลักแมลงว่าพลางโค้งศีรษะเป็นเชิงขอบคุณและเอ่ยลาไปพร้อมกัน “อ้อ ฉันเกือบลืมค่ะ”

 

แสงแดดยามเย็นส่องกระทบใบหน้าของชิโนบุที่บัดนี้แลดูซีดเซียวจนน่าวิตก ทำซาเนมิตกใจเมื่อสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงภายในระยะเวลาไม่นานที่ไม่ได้เจอหน้าน้องคนนี้ของเธอ...

 

“ฉันอยากให้คุณรู้ไว้ว่า” น้องสาวของเธอเอ่ยพลางยิ้ม ยิ้มที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าและอาวรณ์ที่เขาไม่เคยได้เห็นมาก่อน “ไม่มีน้องคนไหนจะลืมพี่ของตัวเองได้นะคะ ไม่มีแม้แต่วันเดียว ฉันไม่อยากให้คุณทำอะไรที่ต้องเสียใจในภายหลังค่ะ”

 

เขาได้แต่พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ หากก่อนที่ชิโนบุจะเดินลับไป ซาเนมิก็ไม่อาจห้ามตัวเองให้ตะโกนถามไถ่ออกมา

 

“ว่าแต่เจ้าสบายดีจริง ๆ นะโคโจ?!”

 

คำถามที่ไร้คำตอบ นอกจากรอยยิ้มแสนเศร้าจนคนมองได้แต่ใจหายระคนโกรธขึ้ง โกรธที่เด็กบ้านี่คงลงมือทำอะไรโดยไม่ปรึกษาใครอีกแล้ว

 

สภาพร่างกายที่ดูเปราะบางและซีดเซียวของชิโนบุรบกวนจิตใจเขาตลอดเวลาที่ปฏิบัติภารกิจในค่ำคืนนั้น ถึงรู้ดีว่าน้องของเธอคงไม่อยากให้เขาเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการตัดสินใจ หากเด็กคนนั้นก็เป็นน้องของคนที่เขารักที่สุด

 

คานาเอะ... น้องของเจ้าจะทำอะไรกันแน่!

 

ความคิดที่เวียนวนนำพาเขามาถึงยังบ้านพักกลางป่าใหญ่ สถานที่อยู่อาศัยของหัวหน้าเสาหลักของหน่วยพิฆาตอสูร ฮิเมจิมะ เกียวเม บุคคลเดียวที่อาจชี้ทางสว่างแก่เขาได้ ในฐานะคนที่รู้จักเธอและเด็กคนนั้นมานานแสนนาน... และในฐานะเสาหลักผู้รับน้องชายคนเดียวของเขาไว้ในฐานะผู้สืบทอด...

 

คนผู้เดียวที่อาจช่วยให้ความฝันของเขาและเธอยังคงเป็นจริงได้... แม้มันจะริบหรี่จนแทบไม่เห็นแสงสว่างแล้วก็ตาม!

 

ทันทีที่ทำความเคารพเสาหลักหินผา ซาเนมิจึงไม่รอช้าที่จะเอ่ยถามคำถามที่ค้างคาใจเขามาตลอดวัน

 

“ฮิเมจิมะซัง ท่านพอบอกได้ไหมว่าโคโจ... เสาหลักแมลง ยัยเด็กคนนั้นกำลังวางแผนทำบ้าอะไรอยู่!”

 

==========

Author's Talk 26 MAY 2021

จบไปแล้วกับ Day 25 นะคะ

ไม่รู้มีใครทายถูกไหมว่าเราจะพากระโดด timeline โดยเว้นช่วงประชุมเสาหลักในเนื้อเรื่องอนิเมะไปค่ะ XD

คือด้วยพล็อตกับคำที่วางไว้ เราเลยรู้สึกว่ามันเหมาะที่จะเปิดด้วยเหตุการณ์หลังที่น้องทันและน้องเกนสู้กับอสูรข้างขึ้นที่สี่ที่ห้านี่แหละค่ะ เพราะมันจะลงล็อกว่าพี่สาเองก็เริ่มสับสนต่อหนทางของตัวเองที่ดำเนินอยู่ ความเชื่อที่ตัวเองยึดติดอยู่

เพราะสิ่งที่น้องเนซึโกะร่วมทำมาจนถึงตอนนี้ มันคือการตอกย้ำว่าอสูรอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้จริง ๆ ตัวชิโนบุที่สนับสนุนสองพี่น้องคามาโดะมาแต่ต้นก็คงจะหยิบเรื่องนี้มาคุยกับพี่สาแน่นอนค่ะ

เลยได้โอกาสขยี้ท้ั้งเรื่องพี่สาแวะไปเยี่ยมน้องเกนยะตามนิยายเล่มสอง แต่พี่สาก็ไม่กล้าคุยกับน้องจนแล้วจนรอด ยังเลือกทางเดินเดิมอยู่ ไหนจะคำพูดของอาโออิที่บอกว่าเจอพี่สาด้วย มันเหมาะเจาะจริง ๆ ค่ะ

ชิโนบุแซวพี่สาถูกจุดมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ชิโนบุไม่เคยรู้เลย และเราคิดว่าชิโนบุไม่น่าจะรู้ก่อนหน้านี้ คือพี่สาฝังใจกับพี่เอะมากกว่าที่เธอคิดค่ะ

เรามองว่าชิโนบุอาจจะคิดว่าพี่เอะจากไปนานแล้ว พี่สาก็ไม่มีความจำเป็นต้องมาที่บ้านเธอแล้ว เหมือนมาก็กระตุ้นความเจ็บปวด แต่เพราะคำพูดพี่สาที่บอกว่าน้องเนเกือบทำอะไรชิโนบุกับคานาโอะ เราว่าชิโนบุคงตระหนักค่ะว่าพี่สาเป็นห่วงเธอมากกว่าตอนที่พี่เอะยังอยู่ด้วยซ้ำ

ชิโนบุคงเหมือนเป็นตัวแทนของคนอ่าน ที่ไม่เคยคิดว่าพี่สาจะรักพี่เอะได้ขนาดนี้ ซึ่งเราก็รู้สึกค่ะว่ามันไม่มีวันไหนที่พี่สาลืมพี่เอะได้เลย

และสิ่งที่ชิโนบุรู้ มันก็เหมือนกะเทาะเปลือกความรู้สึกบางอย่างที่เธอมองข้ามมันไปตลอด สำหรับคนอ่านฟิคกิชิเราแล้วคงเดาได้ค่ะ สองคนนี้บื้อจริงอย่างที่อ.เข้ว่านะคะ แต่การที่บื้อ ไม่ได้แปลว่าเค้าจะไม่รู้สึกหรืออะไรเลย

ในที่สุด เราก็ได้อยากเขียนมุมสะท้อนของคุณชิต่อพี่สามาก ที่ผ่านมาพี่สามองแต่มุมของพี่คนโตที่จะปกป้องน้องมาตลอด แต่ไม่ได้คิดเลยว่าน้องเองก็ไม่ได้อยากอยู่ห่างจากพี่ค่ะ

แต่นั่นแหละ พี่สาก็คือพี่สาเนอะ ต้องมาดูว่าแล้วทำไมพี่สาถึงไม่ทำ...

ใบ้ว่าในตอนหน้า คำพูดบางคำที่คุณชิพูดกับพี่สา มันก็จะย้อนกลับไปที่ตัวคุณชิเองนี่แหละค่ะ แต่จะเวย์ไหนเราก็ต้องมาลุ้นกันเนอะ

ท้ายสุดนี้ ขอขอบคุณคนอ่านที่น่ารักทุกท่าน ทุกกำลังใจที่ส่งมาในทุกช่องทาง ทุกคอมเมนต์ที่ได้รับ ขอขอบคุณท่านที่โดเนทมานะคะ ตกใจและดีใจมากค่ะ

ถ้าไม่น็อกและรอดจากงานวีคนี้ ก็น่าจะได้พบกับตอนที่ 26 ในวันเสาร์นี้ตามกำหนดเดิมนะคะ ^^ แล้วเจอกันค่ะ

Author's Talk 26 NOV 2022

สวัสดีค่า มาถึงคิวลงฉบับ Rewrite สำหรับรวมเล่มนะคะ เพื่อให้เนื้อหาออกมาสมบูรณ์ทีสุดเท่าที่เราจะทำได้ค่ะ

หลังจากพุธ - ศุกร์ หมดแรงไปเพราะอาหารเป็นพิษค่ะ วันนี้เริ่มกลับมาแล้ว แต่กองงานก็... หัวเราะทั้งน้ำตา ^^"

แต่ยังไง แพลนว่าวีคเอนด์นี้ทรีตเมนต์แอนโธ Days Rise, Nights Fall ต้องเสร็จค่ะ จะได้เริ่มงานช่วงที่ต้องการหนีความจริง

ใช่แล้ว มีเดทไลน์สองงานในเดือนหน้าค่ะ กรี๊ด ไม่นับผู้บริหารเห็นหน้าตอนก่อนประชุมวันพฤหัสบดี แล้วถามว่า "เล่มผลงานถึงไหนแล้ว" ฮื้อออออออออ

เอาล่ะ ถ้าทุกอย่างเสร็จในสิ้นปีนี้ก็คงดีนะคะ ปีหน้าจะได้ไม่ต้องพะวงเรื่องผลงานเลื่อนตำแหน่งละ แต่ประเมินแล้วยังไงก็คงลากยาวไปถึงมกราคมอยู่ดีค่ะ

ตอนนี้ เราลงสปอยตัวอย่างงานแอนโธออริโปรเจค #LetLoveBreakUsApart ของคุณInnara @herpensss แล้วค่ะ ของเราเป็นเรื่องสั้นชื่อ "เหลือเพียงรอยจารึก" (Timelapse) ค่ะ ดูรายละเอียดได้เลย <3

จั่วชื่อโปรเจคมาแบบนี้ น่าจะชินกับแนวแอ๋งละมุนของเรากันเนอะ (แต่รับรองว่าเรื่องนี้ไม่มีใครตายนะคะ : D)

อนึ่ง ใครที่พลาดงาน CA 7 แล้วยังอยากเก็บเล่มนี้ สามารถดูรายละเอียดเบื้องต้นของรวมเล่มทั้งสองเล่ม ฉบับปรับปรุงล่าสุด 15 OCT 2022 มาให้ได้ศึกษานอกเหนือจากตัวฟิคที่สามารถอ่านตอนหลังได้ใน ReadAWrite | Dek-D | ReadHaus นะคะ

รายละเอียด KNY FF - In Time With You #ห้วงเวลาของเราสอง (Tomioka Giyuu x Kochou Shinobu)

รายละเอียด KNY FF - In The Remembrance of Her #แด่เธอในความทรงจำนิรันดร์ (Shinazugawa Sanemi x Kochou Kanae)

ถ้าสนใจ จิ้มลิงค์สั่งจองด้านล่างได้เลยค่ะ หรือดูรายละเอียดพร้อมกรอกแบบฟอร์มได้ที่นี่นะคะ [Link]

แต่ทั้งนี้ ใครไม่สะดวกไม่เป็นไรนะคะ รับรองได้อ่านเนื้อหาเหมือนเดิม และในรูปแบบ Rewrite เหมือนกันค่ะ เพียงแต่อาจจะได้อ่านตอนพิเศษช่วงท้ายหลังจากเราส่งเล่มล็อตแรกนะคะ

หรือไม่ก็รอตอนเราเปิดพรีอีกรอบ ช่วงเราทำแอนโธ Days Rise, Nights Fall หรือเขียน KNY FF - The Tales of Butterfly Effects จบค่ะ ^^ ช่วงต้นปีหน้าอย่างเร็วเลย

แล้วเจอกันกับรีไรท์ตอนที่ 26 ในวันอังคารนะคะ อย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยค่ะ ^^