Day 18 - Serene

 

Prompt: “You don’ t see it?”

 

1st Published : 02 MAY 2021

Rewrite : 13 NOV 2022

==========

 

ฤดูกาลยังคงแปรผันไป จากใบไม้เปลี่ยนสีเข้าสู่กลางคิมหันต์

 

“ทำไมบาดเจ็บกลับมาได้ขนาดนี้คะ...”

 

นัยน์ตาสีชมพูคู่สวยมองบาดแผลฉกรรจ์ตามตัวของชินาซึงาวะ ซาเนมิ ด้วยความเป็นห่วง ขณะที่มือสาละวนใช้สำลีชุบยาฆ่าเชื้อเช็ดรอบ ๆ บาดแผลเหล่านั้นอย่างเบามือ ถึงคุ้นชินกับการทำหน้าที่ฝ่ายพยาบาลของหน่วยพิฆาตอสูรมาเป็นระยะเวลานาน แต่เธอก็ไม่อาจทำใจให้ชินชากับบาดแผลพวกนี้ได้

 

ยิ่งเป็นบาดแผลของคนที่เธอรัก โคโจ คานาเอะ ก็ยังคงเจ็บปวดทุกครั้งที่ได้เห็นบาดแผลสดใหม่ที่ทาบทับรอยแผลเป็นนับไม่ถ้วนบนร่างกายของเขา ริมฝีปากสีชาดสั่นระริกนิด ๆ เมื่อจินตนาการถึงความเจ็บปวดที่เขาต้องเผชิญมาตลอดชีวิต

 

เจ็บมากไหมซาเนมิคุง...”

 

“ไม่หรอก”

 

นับตั้งแต่วันที่เขาและเธอได้รับรู้ความในใจของกันและกัน เสาหลักวายุก็ทำตามสัญญาที่รับปากกับเธอไว้อย่างครบถ้วน ทั้งเลิกใช้เลือดหายากเพื่อล่ออสูร ทั้งยอมมาคฤหาสน์ผีเสื้อเพื่อให้เธอปฐมพยาบาลทันท่วงทีที่เสร็จภารกิจ

 

จนการมาเยือนคฤหาสน์ผีเสื้อของเสาหลักวายุ กลายเป็นกิจวัตรประจำวันที่อีกฝ่ายปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอมาตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา

 

บัดนี้ การที่ได้เห็นหน้าอีกฝ่ายแทบทุกวันกลายเป็นเรื่องที่เขาทั้งสองเคยคุ้น แม้ต่างคนจะมีภารกิจที่ต้องปฏิบัติเดี่ยว ๆ หากการได้เห็นอีกฝ่ายกลับมาถึงที่หมายแห่งนี้ในยามใกล้รุ่ง ก็หมายความว่าคนที่ต่างฝ่ายเฝ้ารอนั้นมีชีวิตรอดกลับมาอีกครั้ง...

 

นัยน์ตาสีม่วงอ่อนจับจ้องร่างบอบบางที่ยังสาละวนกับการพันแผลให้เขาอย่างอ่อนโยนระคนห่วงใย ร่องรอยความเหนื่อยล้าปรากฏให้เห็นบนใบหน้างดงาม กระนั้น นัยน์ตาคู่สวยของคนที่เขารักก็ฉายแววกังวลเฉกเช่นทุกครั้งที่เขาบาดเจ็บกลับมา

 

เขารอจนเธอจัดการบาดแผลของเขาเสร็จเรียบร้อย มือที่เต็มไปด้วยแผลเป็นจึงดึงรั้งร่างของคนรักมาชิดใกล้ แล้วใช้มือขวาแตะดวงหน้าที่อ่อนล้าอย่างทะนุถนอม

 

“อย่าทำหน้าแบบนี้สิคานาเอะ... ข้าปลอดภัยกลับมาแล้ว”

 

“แต่จะดีกว่านะคะถ้าคุณไม่ได้บาดเจ็บขนาดนี้”

 

“คราวหน้าข้าจะระวังกว่านี้แล้วกันนะ...”

 

มือหยาบกร้านของซาเนมิลูบศีรษะของอีกฝ่ายที่เอนซบแนบอกอย่างแผ่วเบา มีหลายสิ่งที่เขาค่อย ๆ เรียนรู้เกี่ยวกับผู้หญิงคนที่เขาเคยคิดว่าเจ้าหล่อนเป็นภูตผีปีศาจหรือไม่ก็เทพธิดาจำแลงมากกว่ามนุษย์ธรรมดาอย่างเขา

 

ความโอบอ้อมอารีที่มีเหนือคนปกติทั่วไป ความเมตตาที่มีให้ทุกคน รวมถึงหมู่มวลอสูร ไหนจะความทุ่มเทต่อหน้าที่ทั้งในฐานะนักดาบและฝ่ายพยาบาล...

 

แต่นานวันที่ได้รู้จักกัน เขาก็ได้รับรู้ว่าเสาหลักบุปผาก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่มีอารมณ์ความรู้สึกอื่นนอกเหนือจากนางฟ้าที่มักสวมหน้ากากแห่งความอ่อนโยนหากเปี่ยมล้นด้วยความเข้มแข็งที่คนอื่นได้เห็น

 

ความอ่อนไหวและความอ่อนแอ ที่คงมีเขาเพียงคนเดียวที่ได้รับรู้และสัมผัสมานับตั้งแต่คืนนั้น...

 

“วันหลังไม่ต้องรอข้านะ เจ้าควรพักผ่อนให้มากกว่านี้”

 

“แต่ฉันอยากเห็นกับตาค่ะว่าซาเนมิคุงปลอดภัยดี...”

 

เสียงของเธอพึมพำแผ่วเบา ขณะขยับอ้อมแขนกอดร่างของเขาไว้ อากัปกิริยาที่ยังคงทำให้ใจของซาเนมิเต้นระรัวไม่ต่างจากตอนได้กอดเธอไว้ครั้งแรก หากเขาก็ไม่อาจขัดขืน ด้วยหวังว่าสิ่งนี้จะช่วยสร้างความอุ่นใจให้คนที่อยู่ในอ้อมกอดนี้

 

สำหรับเขาแล้ว โคโจ คานาเอะ ก็เป็นเพียงหญิงสาวที่ผ่านความทุกข์ยากมาไม่ต่างกับสมาชิกส่วนใหญ่ของหน่วยพิฆาตอสูรแห่งนี้ เพียงแต่เจ้าตัวเลือกจะทำตัวเป็นที่พักพิงให้ทุกคนที่ผ่านมา ด้วยความเข้มแข็งที่เป็นธาตุอันแข็งแกร่งเหนือความอ่อนโยนที่เป็นอาภรณ์ประจำตัว

 

ความเข้มแข็งที่จำต้องมีทันทีที่สูญสิ้นบิดามารดา ที่จำต้องเป็นหลักยึดให้น้องสาวที่เหลือรอดเพียงหนึ่งเดียว

 

หากเธอไม่เหมือนกับเขา เธอผู้นี้เลือกจะส่งต่อความอารีไปยังเด็กสาวกำพร้าอีกหลายคนที่ประสบชะตากรรมแบบเดียวกับเธอและชิโนบุ และโอบอุ้มทุกคนไว้แทนที่ครอบครัวของเด็กเหล่านั้นที่หาชีวิตไม่แล้ว

 

ทุกคนจึงคุ้นชินกับการพึ่งพาเสาหลักบุปผาผู้แสนอ่อนหวานคนนี้ และรั้งไว้เป็นหลักยึดไว้โดยไม่รู้ตัว... แต่เกือบลืมเลือนว่าเธอไม่มีใครอื่นให้ได้พึ่งพิง...

 

“เจ้าขึ้นไปพักได้แล้วนะ”

 

“ฉันเฝ้าคุณตรงนี้ไม่ได้เหรอคะ...”

 

“คานาเอะ... อย่าทำให้น้องของเจ้าเป็นห่วงสิ”

 

คำพูดที่คนฟังนิ่งเฉยขณะยังคงซบแน่นกับแผงอกกว้างของคนเจ็บ ไอร้อนที่เธอสัมผัสทำให้รู้ว่าบาดแผลของอีกฝ่ายส่อแววอักเสบหนักจนเธออดวิตกกังวลไม่ได้

 

“ข้าไม่หนีไปไหนหรอกน่า...”

 

คำพูดที่ราวกับรู้ทันความนึกคิดของเธอเรียกรอยยิ้มน้อย ๆ คืนมาบนใบหน้าของคานาเอะ ใช้เวลาอีกครู่หนึ่งกว่าเจ้าหล่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตา ความเหนื่อยอ่อนยังคงปรากฏให้เห็นบนใบหน้างดงาม แต่ร่องรอยความกังวลดูจะลดลงกว่าเมื่อครู่

 

ภาพสาวน้อยอ่อนไหวในห้วงรักแรกหายไป กลับมาเป็นเสาหลักบุปผาที่เต็มเปี่ยมด้วยความอ่อนโยนแต่เข้มแข็งที่ทุกคนชินตา

 

หญิงสาวผละออกจากอ้อมอกที่เริ่มร้อนระอุด้วยพิษไข้ แล้วใช้มือบอบบางสัมผัสใบหน้าคนเจ็บอย่างแผ่วเบา รอยยิ้มอ่อนหวานส่งให้เมื่อเห็นคนเจ็บเริ่มปรือตาจากฤทธิ์ยาที่เธอให้ไว้ก่อนทำแผล

 

“เดี๋ยวฉันขึ้นไปนอนก่อน แล้วตอนสาย ๆ จะมาเปลี่ยนผ้าพันแผลกับเช็ดตัวให้คุณใหม่นะคะ”

 

ถึงความเป็นห่วงจะยังเต็มเปี่ยมในใจ แต่บัดนี้เธออุ่นใจมากพอว่าเขาคนนี้จะยอมพักผ่อนแต่โดยดี และไม่ทำอะไรที่จะเป็นการเอาตัวเองไปเสี่ยงภัยทั้ง ๆ ที่บาดเจ็บอีกต่อไป... หรือจะหลบลี้หนีเธอไปอีก...

 

เช่นเดียวกับนัยน์ตาสีม่วงอ่อนมองตามหลังคนรักผู้ซึ่งเดินออกจากห้องไปด้วยแววตาเต็มเปี่ยมด้วยความอ่อนโยนอย่างที่แทบไม่มีใครเคยได้เห็น รอยยิ้มจางผุดขึ้นบนใบหน้าของเขา ถึงเธอจะไม่ได้กุมมือเขาจนหลับเหมือนที่เคยเป็น หากความอบอุ่นจากสัมผัสที่เธอทิ้งไว้สร้างความเชื่อมั่นว่าเขาจะยังมีเธออยู่เคียงข้าง

 

แม้คำว่ารักจะยังไม่ถูกเอื้อนเอ่ยออกมา แต่ทั้งสองก็ไม่เคยสงสัยถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายเลยแม้แต่ครั้งเดียว...

 

แม้จะไม่ได้อยู่เคียงข้างกัน แต่ทั้งสองก็สามารถหลับตาลงได้อย่างสบายใจกว่าที่เคยเป็นมาตลอดนับตั้งแต่สูญเสียครอบครัวไป...

 

ด้วยความเชื่อมั่นและความหวังที่ต่างฝ่ายต่างวาดฝันไว้... ว่าเขาและเธอจะมีกันและกันอย่างนี้ตลอดไป...

 

“เหอะ!” คำสบถแว่วต้องหูก่อนร่างเล็กแบบบางจะโผล่เข้ามาในห้อง “นี่ท่านเสาหลักวายุคนเก่งบาดเจ็บกลับมาจนต้องค้างที่นี่อีกแล้ว เหรอคะ...”

 

คำเสียดสีแทนคำทักทายที่ซาเนมิได้รับจากโคโจ ชิโนบุ ทำให้เขาได้แต่ผ่อนลมหายใจออกพลางเบือนสายตาไปอีกทางด้วยการไม่อยากต่อปากต่อคำกับเด็กหญิงผู้นี้

 

บุคคลเดียวที่เป็นอุปสรรคระหว่างความสัมพันธ์ของเขากับเสาหลักบุปผา คือน้องสาวร่วมสายเลือดเพียงคนเดียวของเธอ หนึ่งในคนสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดของเธอคนนี้

 

ตั้งแต่คืนวันที่เขาและเธอได้เปิดเผยความรู้สึกต่อกัน เด็กสาวร่างเล็กคนนี้แลดูจะเฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวระหว่างเขาและคานาเอะมาโดยตลอดอย่างแทบไม่ให้คลาดสายตา จนเรียกได้ว่าทุกครั้งที่เขาและเธอมีโอกาสอยู่กันตามลำพังเมื่อใด อีกไม่กี่อึดใจจะต้องปรากฏร่างของชิโนบุไม่ว่าจะโดยบังเอิญหรือตั้งใจก็ตาม

 

นอกจากเวลาที่เจ้าหล่อนเข้านอนแล้วนั่นแหละ...

 

“ชิโนบุ ทำไมพูดแบบนี้ล่ะจ๊ะ”

 

คำตัดพ้อที่ทำเด็กสาวร่างเล็กพ่นลมหายใจออกอย่างไม่คิดจะปิดบังความหงุดหงิด ด้วยความที่เช้าวันนี้ ทันทีที่เธอเปิดประตูห้องพักผู้ป่วย ก็ต้องเห็นภาพพี่สาวสุดที่รักกำลังปลดผ้าพันแผลให้คนที่เจ้าหล่อนหมายหัวว่ากำลังจะมาแย่งพี่สาวไปจากเธอ

 

ท่าทีที่สะดุ้งราวกับคนมีพิรุธ กับใบหน้าที่แดงก่ำของทั้งคู่ ทำให้เจ้าหล่อนรู้ได้ทันทีว่าเธอคงมาขัดขวางช่วงเวลาแสนหวานของคนทั้งสองอีกครั้ง

 

“หนูพูดความจริงค่ะท่านพี่ ต้องให้หนูนับไหมคะว่าชินาซึงาวะซังมาค้างที่นี่กี่ครั้งแล้วคะ”

 

“เหอะ นี่ถึงขนาดต้องนับเลยเหรอ!”

 

ซาเนมิอดประชดออกมาไม่ได้ ซึ่งก็เรียกให้คนตั้งแง่พยักหน้ารัว ๆ จนเขาได้แต่กัดฟันกรอด เพราะจนปัญญาที่จะโต้เถียง...

 

เพราะสิ่งที่ยัยเด็กคนนั้นพูดมาทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นความจริงที่เขาไม่อาจปฏิเสธได้...

 

และยัยเด็กนั่น... ก็ดันเป็นน้องสาวของคนที่เขารักยิ่งกว่าสิ่งใด...

 

“เอาน่า ๆ อย่าทะเลาะกับสิ” คานาเอะพยายามอย่างยิ่งที่จะสงบศึกน้องสาวและคนรักของเธอ “เดี๋ยวชิโนบุไปดูนะจ๊ะว่าอาโออิทำข้าวกลางวันเสร็จยัง พี่เปลี่ยนผ้าพันแผลให้ซาเนมิคุงเสร็จแล้วจะรีบตามไปนะจ๊ะ”

 

คำสั่งที่ชิโนบุได้แต่อ้าปากพะงาบ ใจอยากจะค้านว่าเดี๋ยวนี้พี่สาวคนเก่งของเธอใช้เวลาเปลี่ยนผ้าพันแผลผู้ชายปากเปราะคนนี้นานขึ้นเรื่อย ๆ แต่พอคนเป็นพี่เอ่ยสำทับพร้อมรอยยิ้มหวานจนชวนขนลุกกลาย ๆ เด็กสาวร่างเล็กก็ได้แต่ขานรับก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไร

 

“น้องสาวเจ้าดูไม่ชอบใจนะ...”

 

คนบาดเจ็บเอ่ยออกมาทันทีที่เสียงฝีเท้าของเด็กสาวผู้นั้นลับหายไป ประโยคที่เรียกรอยยิ้มอ่อนหวานให้ปรากฏบนใบหน้าของคานาเอะ หากแววตาพราวระยับที่สบมาทำให้หัวใจของเขาทั้งเต้นระรัวอย่างไม่อาจหักห้ามใจได้

 

“แหม~ เดี๋ยวชิโนบุก็คงชินไปเองละค่ะ อดทนหน่อยนะคะ” คานาเอะว่าพลางบรรจงพันผ้าพันแผลผืนใหม่รอบกายของเสาหลักวายุ พลางหัวเราะออกมาเบา ๆ “แต่ฉันดีใจนะที่ซาเนมิคุงเอ็นดูชิโนบุขนาดนี้”

 

ประโยคที่ทำให้นัยน์ตาสีม่วงหันขวับไปมองคนพูดอย่างฉงนสงสัย แต่กลับไม่มีคำอธิบายเพิ่มอื่นใดจากเสาหลักบุปผาคนงามที่ยังค่อย ๆ บรรจงพันผ้ารอบกายของเขาจนเสร็จ ก่อนจะเอื้อมมือไปสัมผัสยังหน้าผากและซอกคอของคนเจ็บอีกครั้ง

 

“ยังมีไข้อยู่ นอนอีกสักรอบนะคะ ประเดี๋ยวฉันมาเฝ้า

 

“เจ้าน่าจะกลับไปพักไม่ดีกว่าเหรอ”

 

“ก็ถือว่าพักระหว่างเฝ้าคุณไงคะ...” เสาหลักบุปผาเอ่ยเสียงแผ่วเบา พลางเอื้อมมือไปกอบกุมมือที่ยังระอุด้วยพิษไข้ของคนป่วย “ได้ไหมคะ ซาเนมิคุง...”

 

ประโยคออดอ้อนที่ทำความอดทนของคนฟังขาดกระจุย แต่ก่อนจะทันดึงร่างบอบบางของเธอเข้าสวมกอดดั่งใจปรารถนา บานประตูก็ถูกเปิดออก พร้อมการปรากฏกายของคนที่เขาไม่คาดไม่ฝันว่าจะต้องเห็นหน้ามันตั้งแต่หัววัน

 

ใบหน้าไร้อารมณ์ของเสาหลักวารี โทมิโอกะ กิยู ผู้เดินทะเล่อทะล่าเข้าห้องมา ไม่แยแสว่ากำลังขัดจังหวะสำคัญของเขาและคานาเอะ จนทำให้เสาหลักวายุถึงกับตะคอกออกมาด้วยความขัดใจ

 

“โทมิโอกะ! แกมาทำบ้าอะไรที่นี่วะ!”

 

“โคโจ... คนน้อง ให้มารอที่นี่”

 

ชายหนุ่มอีกคนตอบเบา ๆ น้ำเสียงเรียบเฉยที่คนฟังรู้สึกเหมือนถูกกวนประสาทเข้าอย่างจัง ถึงจิตใต้สำนึกจะรู้ว่าคนพูดไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่อย่างใดก็ตาม... หากอคติที่สะสมก็ทำให้ซาเนมิอดโมโหไม่ได้อยู่ดี

 

ยิ่งได้เห็นใบหน้ากวนประสาทของน้องสาวของเธอคนนั้น... ที่ส่งยิ้มเยาะเย้ยเจาะจงมาที่เขาขณะเดินตามหลังเจ้าคนไร้อารมณ์ที่ถือดีว่าตัวข้าอยู่เหนือชาวบ้านเข้ามา ความหงุดหงิดของคนป่วยก็พุ่งขึ้นสูงสุด

 

ยัยเด็กบ้า!

 

“ท่านพี่คะ ดูเหมือนท่านเสาหลักวารีจะบาดเจ็บกลับมาละค่ะ ช่วยรีบมาดูอาการหน่อยได้ไหมคะ”

 

ชิโนบุเกาะแขนผู้เป็นพี่พลางส่งเสียงเว้าวอนจนน่าหมั่นไส้ในสายตาของซาเนมิ แต่หากคนรักของเขาแลดูจะไม่คิดเช่นนั้น ด้วยคนเป็นพี่สาวคงส่งยิ้มละมุนอ่อนโยนพลางยกมือลูบหัวคนเป็นน้องอย่างแผ่วเบา

 

“ตายแล้ว ๆ นี่ชิโนบุเป็นห่วงโทมิโอกะคุงขนาดนี้เลยเหรอจ๊ะ”

 

ไม่ใช่แล้วค่ะ! ก็คนบาดเจ็บมา หนูก็ต้องรายงานท่านพี่เป็นปกติอยู่แล้วนี่คะ!”

 

“แหม ๆ แต่พี่ก็ไม่เคยเห็นชิโนบุเป็นห่วงใครออกนอกหน้าขนาดนี้น้า~”

 

คานาเอะหัวเราะเบา ๆ นัยน์ตาสีชมพูอ่อนส่องประกายระยับราวกับถูกใจกับปฏิกิริยาของน้องสาวร่วมสายเลือด จนคนบนเตียงผู้ป่วยได้แต่ฉงนกับท่าทีของหญิงคนรักที่กำลังทอดมองเสาหลักวารีด้วยท่าทีเอ็นดู... ชนิดที่เรียกว่าผิดปกติ

 

ขณะที่คู่กรณีอีกฝ่ายผู้ตกเป็นเป้าหมายของบทสนทนายังคงใช้นัยน์ตาจ้องเขม็งไปยังเด็กนั่นที่ยังออกอาการอาละวาดพี่สาวของเธออย่างไม่วางตา... จนซาเนมิได้แต่ครุ่นคิดว่าครั้งที่แล้วที่เขาเจอกิยูและชิโนบุอยู่พร้อมหน้า ไอ้คนไร้อารมณ์ก็ดีแต่จ้องหน้าเด็กบ้าคนนั้น ราวกับเห็นเขางอกออกมาจากหัวของเจ้าหล่อน

 

ประหลาด... ทั้งโทมิโอกะและยัยเด็กนั่นล้วนแล้วแต่พิลึกคน!

 

ความวุ่นวายที่แวดล้อมกับเสียงโวยวายชนิดตลาดแทบแตกของชิโนบุทำเขาเริ่มปวดหัวพร้อมกับเจ็บแผลขึ้นมาใหม่ จนต้องหลับตาอย่างอ่อนใจแม้จะยังอยากดูละครหลงโรงตรงหน้าอีกสักนิด อาการเหนื่อยอ่อนที่คานาเอะจับสังเกตได้เพียงเสี้ยววินาที จนต้องรีบรุดมาดูอาการคนเจ็บที่เริ่มส่อแววไข้กลับอย่างเป็นห่วง...

 

“ไหวไหมคะซาเนมิคุง...” เสียงอ่อนหวานของเธอเอ่ยขึ้น หยุดความโกลาหลในห้องได้ในชั่วพริบตา “ตายแล้ว ไข้สูงขึ้นกว่าเมื่อกี้มาก เดี๋ยวฉันเช็ดตัวให้นะคะ”

แล้วโทมิโอกะซังละคะ!”

 

“พี่ฝากชิโนบุดูโทมิโอกะคุงด้วยละกัน เท่าที่ดูคงไม่มีอะไรน่าห่วงเท่าไร ไม่เกินความสามารถของชิโนบุหรอกเนอะ”

 

คำสั่งที่ทำให้คนเป็นน้องสาวได้แต่อ้าปากค้าง แต่ไม่อาจทักท้วงได้เมื่อบาดแผลของคนที่เธอตั้งป้อมเป็นศัตรูสาหัสกว่าอย่างเห็นได้ชัด แม้จะไม่ถูกใจที่ไม่สามารถขัดจังหวะพี่สาวของเธอกับเสาหลักวายุนั้นได้ กระนั้นสำนึกในหน้าที่ก็ทำให้เด็กสาวเลือกจะถอนใจอย่างไม่สบอารมณ์แล้วหันไปมองคนป่วยอีกคนที่บัดนี้เบือนหน้าหนีไปทางอื่นอย่างหวาด ๆ แทน

 

“ทำแบบนี้แปลว่าอะไรคะ โทมิโอกะซัง!”

 

“เปล่า...”

 

“สรุปคุณมาที่นี่ทำไมคะ! ไหนว่าบาดเจ็บ! จะให้ฉันทำแผลให้ไหมคะ!”

 

นัยน์ตาสีครามหลุบลงอย่างใช้ความคิด ก่อนจะหลุดประโยคที่ทำให้ความอดทนของคนฟังขาดสะบั้น

 

“เจ้ามือหนัก...”

 

“ว่าไงนะคะ!” ชิโนบุแหวเสียงเขียวแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ “ช่างมันก่อนละกัน เดี๋ยวฉันค่อยคิดบัญชีกับคุณทีหลัง ตามฉันมานี่ค่ะ!”

 

เด็กสาวร่างเล็กคว้าข้อมือคนที่นั่งนิ่งราวกับตุ๊กตาในศาลเจ้าก่อนฉุดกระชากเจ้าตัวให้ออกไปนอกห้อง เสียงโวยวายเล็กแหลมที่ต่อว่าอีกฝ่ายที่ปล่อยให้บาดแผลแห้งเกรอะกรังดังลอดมายังคนป่วยอีกคนที่ถูกจับเช็ดตัวเป็นครั้งที่สองของวัน ถึงไม่ได้ยินคำตอบของอีกฝ่ายชัด หากคำประชดประชันที่แว่วเข้าหู ดูท่าทีเด็กบ้านั่นคงไม่วายเหน็บแนมเขาอีกตามเคย

 

เสียงบ่นที่ยังคงแว่วมาเป็นระยะจนคานาเอะเช็ดตัวให้เขาใหม่เสร็จ กลับเรียกรอยยิ้มขบขันบนใบหน้าเจ้าบ้าน ชนิดที่เขาได้แต่มองกลับอย่างสงสัย

 

“ดูสนุกนะ...”

 

“คุณไม่เห็นจริง ๆ เหรอคะ...”

 

คำถามที่เป็นปริศนาของคานาเอะได้แต่สร้างคำถามแปลกประหลาดในใจเขา ยามได้เห็นนัยน์ตาที่ทอดมองข้ามผนังห้องอย่างอ่อนโยน ขณะที่น้องสาวของเธอแหวไอ้เจ้าคนไร้อารมณ์ที่ยังคงดื้อแพ่งไม่ยอมกินยา

 

“ฉันไม่ได้เห็นชิโนบุดูมีชีวิตชีวาแบบนี้มานานแล้วนะคะ นับแต่ท่านพ่อท่านแม่ของพวกเราจากไป...”

 

ใบหน้าที่หันกลับมาหาเขาแม้จะยังมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้า หากเป็นรอยยิ้มที่เจือความเศร้าจนเขาใจหาย เมื่อนึกถึงสายตาที่เต็มด้วยความมุ่งมั่นและถือดีเกินเด็กในวัยเดียวกันของชิโนบุที่สะดุดตาเขาตั้งแต่ครั้งแรก ๆ ที่ได้พบกัน นัยน์ตาสีม่วงของเด็กที่เขานึกขวางนั้นช่างเต็มไปด้วยไฟแห่งความเคียดแค้นไม่ผิดแผกกับเขาเลยแม้แต่น้อย

 

ขนาดเขาที่เป็นคนนอก ยังสัมผัสได้ถึงความโกรธแค้นต่อโชคชะตาจากร่างเล็กแบบบางของเด็กคนนั้น แม้จะขวางหูขวางตาแค่ไหน กระนั้นเขาก็ยังนับถือจิตใจที่มุ่งมั่นที่สามารถฟันฝ่าทุกสิ่งจนได้มาอยู่หน่วยพิฆาตอสูรตั้งแต่ยังไม่เข้าวัยรุ่น

 

ซาเนมินึกถึงถ้อยคำที่เขาเคยถามคานาเอะเมื่อนานมาแล้ว ตอนนั้นเขาไม่เคยเข้าใจถึงคำตอบอันแสนประหลาดของเธอได้เลย...

 

แต่ตอนนี้ รอยยิ้มที่ไม่อาจปิดบังความโศกเศร้าก็สะท้อนให้เห็นว่า แท้จริงแล้วเธอคนนี้เจ็บปวดมากแค่ไหนที่ต้องเห็นน้องสาวคนเดียวแบกความแค้นทุกสิ่ง ละทิ้งชีวิตแบบเด็กปกติ และเลือกเดินอยู่บนทางที่เต็มไปด้วยอันตรายเหมือนทั้งเขาและเธอ...

 

ทางที่ถ้าพลาดลงเมื่อไร อาจหมายถึงชีวิตที่ต้องดับสูญ...

 

มือของเขาดึงร่างของเธอเข้ามาสวมกอดอย่างทะนุถนอม หากมือที่โอบกอดตอบของคานาเอะนั้นสั่นระริก สะท้อนความหวาดกลัวต่ออนาคตที่มองไม่เห็นที่ยังคงเกาะกินขั้วหัวใจมาโดยตลอด...

 

อนาคตที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะจบลงอย่างไร...

 

ไม่รู้ว่าสุดท้ายชะตาชีวิตของเธอและเขาจะไปจบลงเมื่อไร และตรงไหน...

 

แต่จนกว่าจะวันนั้น เขาจะยังคงจับมือของเธอคนนี้ไว้แน่น แม้จะรู้ว่าตลอดกาลอาจไม่มีอยู่จริงก็ตาม...

 

==========

Author's Talk 02 MAY 2021

จบไปกับ Day 18 แล้วนะคะ

เอ๊ะ สรุปตอนนี้เป็นการนั่งรถชมวิวหรือขึ้นรถไฟเหาะคะเนี่ย ^^" ตกใจเหมือนกัน ค่อนข้างต่างจากที่คิดไว้ แต่เราชอบนะคะ หลายรสดี

แอบสารภาพ บทนี้เป็นบทที่เรารื้อพล็อตเดิมออกมาจนเกือบหมดเลยค่ะ แทบไม่เหลือเค้าเดิมเลย จนแบบ ตอนแรกที่คิดว่าจะเป็นแค่นั่งรถชมความหวานเลยกลายเป็น... แหะ ๆ อย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ ช่วงท้ายคงมีอะไรสะกิดใจคนอ่านอยู่ไม่น้อย

(ก็หวานแหละนะ แต่ก็เห็นวี่แววพายุมาแล้วละเนอะ ^^")

บทนี้ยาวมากกกก ยาวจนตกใจเหมือนกันค่ะ แต่ด้วยความอยากเล่นประเด็นมุมอ่อนไหวของพี่คานาเอะ แล้วก็รู้สึกว่าถึงเวลาที่ต้องดึงประเด็นนี้ให้ชัดแล้ว มันก็เลยลงล็อกที่บทนี้แหละค่ะ

ไหนจะเปิดช่องเรื่องมุมมองความสัมพันธ์ระหว่างพี่สา-ชิโนบุ ความสัมพันธ์ของกิชิอีก ไหนจะมุมที่คานาเอะเริ่มเห็นอะไรในกิชิแล้วด้วย...

แต่พี่สายังไม่เห็นนะ พี่สาน่าจะบื้อเรื่องแบบนี้ค่ะ แต่พอเป็นเรื่องตัวเองคงไม่ค่อยบื้อเท่าไร เพราะพี่เอะเค้ารุกแรงอยู่ XD

การเขียนถึงพี่คานาเอะเป็นอะไรที่เราสนุกมากนะคะ เหมือนได้รู้จักตัวละครนี้ไปพร้อม ๆ พี่สาเลยค่ะ คานาเอะที่พวกเราติดตาคือคนที่อ่อนโยนแต่เข้มแข็งมาก เพียงแต่จริง ๆ แล้วพวกเราลืมไปนะคะว่าพี่คานาเอะเค้าแบกอะไรไว้เยอะกว่าที่หลายคนคิดจริง ๆ

ยิ่งพอมีความรักแล้ว พี่คานาเอะคงยิ่งกลัวการเสียพี่สาไปโดยไม่รู้ว่าเมื่อไรค่ะ การต้องเฝ้ารอคน ๆ หนึ่งกลับมาทุกวันมันก็เป็นอะไรที่เศร้าจริง ๆ แหละค่ะ สงสารเด็ก ๆ ทุกคนที่ต้องอยู่กับความเสี่ยงแบบนี้มาก

ส่วนของชิโนบุ มุมเรา เราคิดว่าพี่คานาเอะคงดีใจที่ได้เห็นน้องกลับมามีชีวิตชีวาเวลาอยู่กับกิยูแหละค่ะ มันเหมือนได้เห็นน้องได้ใช้ชีวิตสมวัยเค้าจริง ๆ ซักที (และใช่ เราเชื่อว่าพี่คานาเอะพร้อมเอาน้องบุถวายใส่พานให้น้องกิแล้วละค่ะ 5555)

รีแอคพี่สาตั้งแต่มีความรักนี่เป็นอะไรที่เรากรี๊ดสุดแล้วค่ะ โอ๊ย ใครจะไปคิดคะว่าพ่อหมาป่าเดียวดายจะนุ่มละมุน อ่อนโยนได้ขนาดนี้ ตอนบทที่ 17 ว่าหวานแล้วนะคะ บทนี้ตอนต้นคือแบบ... โอ๊ย สองคนนี้คือหวานจนมดไต่มากค่ะ

แต่ลึก ๆ ก็อย่างในช่วงท้ายแหละค่ะ การอยู่ในหน่วยพิฆาตอสูรนี่เต็มไปด้วยความไม่แน่ไม่นอนจริง ๆ Y_Y แต่ช่วงเวลาที่ทั้งสองเก็บเกี่ยวมันก็มีค่าสำหรับทั้งคู่แหละค่ะ

แต่ขำคุณกิยู ยังคงความเป็น mvp ไว้เต็มเปี่ยม มาแบบมึน ๆ ขัดเค้าแบบมึน ๆ แล้วก็ช่วยให้เค้าได้อยู่กันสองคนแบบมึน ๆ ไปนะคะ 555555 สมเป็นคุณกิของทุกคนจริง ๆ

คิดว่าถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คงได้เจอกับบทที่ 19 ในพุธเช่นเคยนะคะ เพียงแต่คงไม่ได้ลงแต่หัวค่ำเท่าไรค่ะ ติดประชุมพอดี ^^" ไม่ก็อาจจะลงเลท ๆ หน่อยนะคะ บทหน้าสีสันอาจจะไม่ได้หวานเท่าบทนี้ แต่ก็ยังคงเต็มเปี่ยมด้วยความรักของสองคนนี้อยู่ค่ะ

สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณคนอ่านทุกท่าน ทุกกำลังใจ ทุกคอมเมนต์นะคะ ต้องขออภัยที่อาจจะตอบคอมเมนต์ช้าบ้าง อย่าลืมรักษาสุขภาพด้วยนะคะ แล้วพบกันวันพุธค่า

Author's Talk 13 NOV 2022

สวัสดีค่า มาถึงคิวลงฉบับ Rewrite สำหรับรวมเล่มนะคะ เพื่อให้เนื้อหาออกมาสมบูรณ์ทีสุดเท่าที่เราจะทำได้ค่ะ

ถ้าใครเห็นทวิตเราช่วงนี้ จะเห็นว่าเราเริ่มกลับมาไฮป์ซาเนคานาเอะมาก ๆ ค่ะ อาจจะเอ๊ะว่าแอบทำอะไรอยู่หรือเปล่า

จริง ๆ ก็คือใช่ค่า 5555 กำลังอยู่ในช่วงเขียน treatment #สายลมถึงดวงดาว ในโปรเจค KNY FF Anthology - Days Rise, Nights Fall #คืนผันวันผ่าน ค่ะ โปรเจคที่ดองไหไว้พักใหญ่ ๆ ค่ะ ช่วงนี้ schedule เราอาจจะเหมาะกับการเขียนเรื่องไม่ยาวด้วย เลยรีบเข็นโปรเจคนี้ก่อนค่ะ

แล้วจะได้พักไว้เตรียมรีไรท์ แต่ตัวเล่มอย่าลืมไปทวงถามผู้ร่วมโปรเจคก่อนนะคะ : D (จริง ๆ เรากลัวว่าปีหน้าจะงานชุกยิ่งกว่าปีนี้ค่ะ อะไรที่เราต้องทำโคกับคนอื่นเลยอยากจะรีบจัดการก่อน แต่เสร็จจากนี่ คงจะมีจัดเล่ม/พรูฟ #LetLoveBreakUsApart แล้วก็เตรียม treatment KNY FF - The Tales of Butterfly Effects นะคะ)

ตอนนี้ เราลงสปอยตัวอย่างงานแอนโธออริโปรเจค #LetLoveBreakUsApart ของคุณInnara @herpensss แล้วค่ะ ของเราเป็นเรื่องสั้นชื่อ "เหลือเพียงรอยจารึก" (Timelapse) ค่ะ ดูรายละเอียดได้เลย <3

จั่วชื่อโปรเจคมาแบบนี้ น่าจะชินกับแนวแอ๋งละมุนของเรากันเนอะ (แต่รับรองว่าเรื่องนี้ไม่มีใครตายนะคะ : D)

อนึ่ง ใครที่พลาดงาน CA 7 แล้วยังอยากเก็บเล่มนี้ สามารถดูรายละเอียดเบื้องต้นของรวมเล่มทั้งสองเล่ม ฉบับปรับปรุงล่าสุด 15 OCT 2022 มาให้ได้ศึกษานอกเหนือจากตัวฟิคที่สามารถอ่านตอนหลังได้ใน ReadAWrite | Dek-D | ReadHaus นะคะ

รายละเอียด KNY FF - In Time With You #ห้วงเวลาของเราสอง (Tomioka Giyuu x Kochou Shinobu)

รายละเอียด KNY FF - In The Remembrance of Her #แด่เธอในความทรงจำนิรันดร์ (Shinazugawa Sanemi x Kochou Kanae)

ถ้าสนใจ จิ้มลิงค์สั่งจองด้านล่างได้เลยค่ะ หรือดูรายละเอียดพร้อมกรอกแบบฟอร์มได้ที่นี่นะคะ [Link]

แต่ทั้งนี้ ใครไม่สะดวกไม่เป็นไรนะคะ รับรองได้อ่านเนื้อหาเหมือนเดิม และในรูปแบบ Rewrite เหมือนกันค่ะ เพียงแต่อาจจะได้อ่านตอนพิเศษช่วงท้ายหลังจากเราส่งเล่มล็อตแรกนะคะ

หรือไม่ก็รอตอนเราเปิดพรีอีกรอบ ช่วงเราทำแอนโธ Days Rise, Nights Fall หรือเขียน KNY FF - The Tales of Butterfly Effects จบค่ะ ^^ ช่วงต้นปีหน้าอย่างเร็วเลย

แล้วเจอกันกับรีไรท์ตอนที่ 19 ในวันอังคารนะคะ อย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยค่ะ ^^