Day 23 - Kochou Shinobu

 

Prompt: “Do we have to?”

 

Spoiled

*เนื้อหาเชื่อมโยงกับตอนที่ 3 ของ KNY FF - In Time With You (Giyuu x Shinobu) ค่ะ

 

1st Published : 20 MAY 2021

Rewrite : 22 NOV 2022

==========

 

กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อที่คละคลุ้งกับกลิ่นดอกฟูจิ ภาพเพดานขาวโล่งสะอาดตาทำเขารู้ว่าบัดนี้เขากลับมายังบ้านของเธออีกครั้ง

 

ชินาซึงาวะ ซาเนมิ พยายามปรือตามองไปโดยรอบ แต่อาการบาดเจ็บทั่วร่างก็รั้งไม่ให้เขาขยับตัวไปไหนได้ คงได้ยินแต่เสียงพายุพัดที่ยังคงพัดหวีดหวิวไม่ซาลง กระนั้นเสียงพายุไม่อาจกลบเสียงพูดคุยของเหล่าน้อง ๆ ของเธอที่ดูจะกังวลกับอาการของเขาอยู่ไม่น้อย

 

เหล่าเด็กสาวทั้งห้าคนดูจะยังไม่ทันสังเกตว่าเขาฟื้นจากอาการสลบแล้ว ท่าทีหวาดกลัวของเหล่าเด็กน้อยตัวจ้อยทั้งสามทำเขาฉงนสงสัย เมื่อหนึ่งในเด็กกลุ่มนั้นกระตุกชายฮากามะของคันซากิ อาโออิ มาทิศทางที่เขานอนอยู่

 

“เอาไงดีคานาโอะ...” อาโออิหันไปปรึกษากับซึยูริ คานาโอะ ที่ยืนตัวเกร็งอยู่ข้าง ๆ ราวกับหาที่พึ่งสุดท้าย “ฉันเองไม่ได้เห็นท่านเสาหลักวายุอาการสาหัสขนาดนี้มานานแล้ว ฉันควรทำยังไงดี...”

 

คำพูดที่คล้ายกับการรำพันกับตัวเองมากกว่าถามคนข้างกายที่ยังคงตัวสั่นเทานิด ๆ นัยน์ตาสีชมพูที่ละม้ายคล้ายถอดแบบจากเธอคนนั้นกวาดมองเขาราวกับประเมินอะไรบางอย่างฉายแววไหววูบครู่หนึ่ง ก่อนมือเล็ก ๆ จะหยิบเหรียญที่เธอให้ไว้ออกมาจากกระเป๋าแล้วโยนขึ้นไป

 

ไม่ทันจะได้คำตอบ เสียงฝีเท้าแผ่วเบาก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงเปิดประตูบานเลื่อน ชายเสื้อคลุมฮาโอริที่แสนคุ้นตาทำหัวใจของซาเนมิกระตุกวูบ หากสัมผัสเย็นชืดของผีเสื้อโลหะที่ยังคงกำแน่นอยู่ในมือซ้ายนั้นตอกย้ำว่าไม่มีทางเป็นเธอของเขาแน่นอน

 

เพราะเธอไม่อยู่แล้ว... คานาเอะจากเขาไปแล้ว...

 

“ท่านชิโนบุ เอาอย่างไรดีคะ” อาโออิกระตุกชายเสื้อคลุมประมุขคนปัจจุบันของคฤหาสน์ผีเสื้อ “ดูเหมือนชินาซึงาวะซังจะกลับมาใช้เลือดหายากอีกแล้วค่ะ... เราต้องเตือนท่านเสาหลักวายุไหมคะ”

 

รอยยิ้มอ่อนโยนที่แทบไม่ผิดเพี้ยนกับคนจากไปปรากฏบนใบหน้าของเด็กสาว หากเงาผ้าม่านนั้นกลับทาบทับซีกบนของใบหน้าจนไม่อาจเห็นแววตาของเธอได้

 

“อย่าเลย... เตือนไปชินาซึงาวะซังก็คงไม่ฟังอยู่ดี”

 

น้ำเสียงแหลมใสที่มักเอ่ยจิกกัดเขาเป็นอาจิณไม่หลงเหลือให้คนฟังสัมผัสได้อีกต่อไป ด้วยบัดนี้น้ำเสียงของน้องสาวเธอผู้นั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยนปรานีไม่ต่างกับพี่สาวผู้ล่วงลับไปแล้วของเธอ

 

โคโจ คานาเอะ จากโลกนี้ไป ไม่เพียงพรากหัวใจของเขาให้แหลกสลาย...

 

แต่คงพรากตัวตนของเด็กสาวโคโจ ชิโนบุ จากไปอย่างสิ้นเชิง...

 

นัยน์ตาสองคู่ของเด็กสาวที่ดูจะสังเกตความเปลี่ยนแปลงฉับพลันจับจ้องไปยังเจ้าของบ้านคนล่าสุดอย่างตกตะลึง ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาไม่กี่วันดูจะทำให้อาโออิหันมาสบตาคานาโอะอย่างหวั่นใจ ความเปลี่ยนแปลงที่ดูจะสร้างความไม่สบายใจให้คนใกล้ชิดชิโนบุมากกว่าจะเป็นผลดี

 

“แหม ๆ ดูท่าท่านเสาหลักวายุจะตื่นแล้วล่ะ” โคโจ ชิโนบุ ยังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงแบบเดียวกับเธอคนนั้น “เดี๋ยวอาโออิและคานาโอะพาซึมิ คิโยะ นาโฮะขึ้นไปนอนแล้วนอนได้เลยนะ ไม่ต้องรอฉัน พอดีฉันมีเรื่องต้องหารือกับชินาซึงาวะซังหน่อย”

 

รอยยิ้มอ่อนโยนที่กลายเป็นการกดดันให้เด็กสาวทั้งสองต้องทำตามโดยไม่อาจโต้เถียงได้ นอกจากไล่ต้อนเด็กสาวตัวจิ๋วทั้งสามคนที่ดูจะง่วงเต็มแก่ให้ออกจากห้องไป ทิ้งให้เขาอยู่ตามลำพังกับร่างจำแลงของเธอ... ร่างเล็กที่ใส่เสื้อคลุมฮาโอริของเธอ รอยยิ้มแบบเธอ แววตาที่มองเผิน ๆ ช่างเหมือนกันกับเธอ...

 

แต่ก็ไม่ใช่เธอ... นี่ไม่ใช่คานาเอะของเขา...

 

และก็ไม่ใช่เด็กคนเดียวกันกับที่เขาเคยขวาง...

 

“ข้ารู้ว่าเจ้าจะพูดอะไร...” เขาชิงตัดหน้า “แต่เจ้าห้ามข้าไม่ได้หรอกโคโจ ต่อให้พี่สาวเจ้าก็ห้ามข้าไม่ได้แล้วเช่นกัน”

 

“ฉันรู้ค่ะชินาซึงาวะซัง” เด็กสาวคนนั้นยิ้มอ่อนโยน แต่นัยน์ตายังฉายแววคั่งแค้นไว้จนไม่อาจปิดบังได้ “ฉันแค่อยากบอกว่า อย่าเพิ่งรีบตายนะคะ เรายังมีสิ่งที่ต้องสานต่อให้จบ คุณคงทราบนะคะ”

 

คำพูดหยอกเย้าปนจิกกัดที่ค่อยดูสมเป็นชิโนบุคนเดิม คำพูดที่สะท้อนเป้าหมายสูงสุดที่ทำให้เขายังเลือกจะมีชีวิตต่อไปแม้หัวใจจะแหลกสลายไปแล้วก็ตาม

 

ถึงความฝันของเขาไม่อาจเป็นจริงในชาตินี้ แต่เขายังทำให้โลกนี้เป็นที่ปลอดภัยสำหรับน้องของเขาและน้องของเธอ ซึ่งวันใดวันหนึ่งอาจสามารถใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาบนโลกอันแสนสงบสุขที่ไม่มีอสูรเข้าคุกคามเข่นฆ่าผู้คน ใช้ชีวิตอย่างคนปกติที่มีคนรัก มีครอบครัว มีความสุขตราบจนสิ้นอายุขัยของตน

 

“นั่นสินะ...”

 

ซาเนมิพึมพำ ขณะที่ชิโนบุเริ่มสาละวนจัดการบาดแผล นัยน์ตาสีม่วงเข้มไหววูบยามเห็นวัตถุที่สะท้อนต้องแสงจันทร์เป็นประกายในอุ้งมือซ้ายที่เปรอะไปด้วยเลือดของคนเจ็บ รอยยิ้มน้อย ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้า เป็นครั้งแรกที่เด็กสาวเริ่มเข้าใจสิ่งที่พี่สาวผู้ล่วงลับของตนพร่ำบอกเกี่ยวกับผู้ชายบ้าเลือดหากอ่อนโยนยิ่งกว่าใครคนนี้

 

รอยบาดแผลที่เต็มไปทั่วตัวเป็นเครื่องยืนยันถึงอุดมการณ์ของเสาหลักวายุ ความมุ่งมั่นที่ท่านพี่ของเธอทั้งรักและเป็นห่วง บาดแผลที่เพิ่งสมานอีกจำนวนหนึ่งก็ล้วนแต่บ่งบอกถึงเจตจำนงของการใช้ชีวิตของคนผู้นี้ ที่แม้แต่นายท่านอุบุยาชิกิก็คงไม่อาจห้ามปรามได้อีกต่อไป

 

อาการของคนตรงหน้าสาหัสอยู่ไม่น้อย หากเมื่อชิโนบุจัดการบาดแผลของอีกฝ่ายเสร็จ ชายหนุ่มก็พยายามฝืนยันตัวที่จะลุกขึ้นมาโดยทันที อาการที่หากเป็นยามปกติก็จำต้องพักรักษากายอยู่ที่นี่ร่วมอาทิตย์ แต่ด้วยสีหน้าและแววตาที่สะท้อนความเจ็บปวดลึกล้ำต่อความจริงว่าพี่สาวของเธอจากไปอย่างไม่มีวันกลับแล้ว เธอจึงไม่อยากรั้งคนผู้นี้ไว้ให้ต้องเผชิญหน้ากับความทรงจำที่มีต่อคนผู้ล่วงลับที่ยังคงแฝงเร้นอยู่ในแทบทุกตารางนิ้วของคฤหาสน์แห่งนี้

 

“เดี๋ยวฉันจะจัดยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้คุณไปจัดการต่อนะคะ” ชิโนบุเอ่ยอย่างนิ่มนวล “ฉันเตรียมเผื่อไว้ให้ แต่ก็หวังว่าคุณคงไม่ต้องใช้มันบ่อยนะ แล้วก็อย่าลืมรักษาความสะอาดด้วยล่ะค่ะ อีกเจ็ดวันฉันจะไปตัดไหมให้นะคะ”

 

“ขอบคุณ...”

 

“ถ้ามีอะไรเร่งด่วนก็ส่งข่าวผ่านอีกาสื่อสาร หรือให้คาคุชิไปตามฉันได้ทุกเมื่อนะคะ” ชิโนบุเน้นย้ำยามนึกขึ้นมาได้ว่าเสาหลักวายุผู้นี้เขียนหนังสือไม่เป็น “อย่าได้เกรงใจค่ะ อย่างไรคุณมีอีกหลายสิ่งที่ทำได้ อย่าเพิ่งรีบด่วนเป็นอะไรไปจนกว่าหน้าที่ของเราจะเสร็จสิ้นเรียบร้อยนะคะ”

 

เด็กสาวว่าพลางเก็บเครื่องมือแล้วคำนับชายหนุ่มเป็นเชิงลา แล้วออกไปตามคาคุชิที่ยังประจำการรอคำสั่งให้จัดแจงพาเสาหลักวายุกับคฤหาสน์ของเขาให้เป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับเอ่ยย้ำให้ส่งคนเข้าไปดูอาการคนเจ็บวันละสามเวลา

 

รอยยิ้มอ่อนโยนหายวับทันทีที่เธอย่างเท้าเข้าห้องนอนอันว่างเปล่า ใบหน้าที่เห็นในกระจกเงาสะท้อนภาพเด็กสาวที่เต็มไปด้วยเพลิงโทสะแห่งความแค้น แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของคานาเอะที่บอกว่าชอบรอยยิ้มของเธอเหนือกว่าสิ่งอื่นใด ริมฝีปากบอบบางขยับแย้มจำลองรอยยิ้มของคนที่ล่วงลับมาพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มรินไหล

 

หากไม่มีเวลาให้ได้ลังเลอีก เด็กสาวหยิบดาบที่พาดอยู่บนโต๊ะออกมาหวดกับลม ด้วยพลังแห่งความมุ่งมั่นที่จะกำจัดสิ่งอัปรีย์พวกนั้นให้หมดสิ้นไปจากโลกนี้เป็นแรงขับเคลื่อนให้เธอยังคงยืนหยัดท่ามกลางความเศร้าโศกนี้ต่อไป

 

เพื่อสานต่อปณิธานของพี่สาวเธอ... เพื่อปกป้องอาโออิ คานาโอะ คิโยะ นาโฮะ ซึมิ และทุกคน...

 

เธอจะต้องเป็นที่พึ่งให้ทุกคนแทนโคโจ คานาเอะ!

 

เวลาผ่านไปรวดเร็วดั่งสายลมติดปีก ในที่สุดก็มาถึงวันที่โคโจ ชิโนบุ ในฐานะผู้สืบทอดของเสาหลักบุปผาผู้ล่วงลับ ก็ได้ขึ้นเป็นเสาหลักแมลงแทนที่พี่สาวที่จากไป และเข้าร่วมการประชุมเสาหลักอย่างเต็มภาคภูมิ

 

รอยยิ้มของเด็กสาวคงไว้ซึ่งความสงบนุ่มนวลเหมือนกับโคโจ คานาเอะ ไม่ผิดเพี้ยน รอยยิ้มอ่อนโยนที่บาดใจซาเนมิที่ได้แต่มองด้วยความเป็นห่วงระคนปวดร้าว ด้วยรู้อยู่แก่ใจว่าภายใต้หน้ากากอ่อนหวานของคนรักของเขา ก็เหลือเพียงแต่เด็กสาวที่แหลกสลายทั้งวิญญาณและจิตใจจากการจากไปของเธอคนนั้น

 

รอยยิ้มที่ทำอุซุย เทนเง็น เสาหลักเสียงส่ายหน้าพลางส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างขัดใจ ส่วนฮิเมจิมะ เกียวเม เสาหลักหินผาได้แต่น้ำตาไหลพรากพลางสวดมนต์... ขณะที่นัยน์ตาสีครามของโทมิโอกะ กิยู เสาหลักวารีจับจ้องร่างเล็กของชิโนบุเบิ่งกว้าง ก่อนเจ้าตัวจะเม้มปากเป็นเส้นตรง แววตาที่ไม่เคยสะท้อนอารมณ์บัดนี้ไหวหวั่นด้วยความร้าวรานอย่างไม่อาจปิดไว้ได้ อาการที่เขานึกถึงคำพูดของคานาเอะที่เคยบอกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของน้องสาวเธอกับไอ้คนเย็นชาไร้อารมณ์คนนี้ บัดนี้ซาเนมิสิ้นข้อสงสัยต่อความรู้สึกของไอ้คนไร้อารมณ์ที่มีให้แก่น้องของเธอ...

 

ความเจ็บปวดที่เห็น เป็นความเจ็บปวดอย่างคนที่สูญเสียคนสำคัญยิ่งเท่านั้นที่จะแสดงออกมา...

 

บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยความอึดอัด ราวกับนั่งอยู่ในห้องปิดตายของวันอบอ้าวก่อนฝนจะเทกระหน่ำ ด้วยเหล่าเสาหลักถกประเด็นการไม่ปรากฏกายเป็นครั้งที่สองของเรนโงคุ ชินจูโร่ เสาหลักเพลิง ที่ยังจมดิ่งกับความเศร้าจากการสูญเสียภรรยาที่รักยิ่งไป ความสูญเสียที่ซาเนมิไม่เคยเข้าใจ จนกระทั่งการจากไปของเธอ...

 

ถ้อยคำอ่อนโยนที่นายท่านสอบถามชิโนบุเกี่ยวกับการหายตัวไปของอาโออิดูจะเรียกสติของเขาให้กลับคืนมา ความปวดร้าวแล่นเข้าสู่จิตใจเมื่อพบว่าเพียงชั่วเวลาไม่กี่เดือน น้องของเธออีกสองคนก็ดูจะจมดิ่งกับความโศกเศร้าต่อการเสียหลักยึดเพียงหนึ่งเดียวไป แม้จะคนละรูปแบบ หากก็สะท้อนความเจ็บปวดที่ต้องเสียเธอคนนั้น...

 

อันไม่ต่างอะไรกับเขา...

 

“ข้าทราบมาว่า อาโออิเหมือนไปฝึกอยู่ที่สำนักปราณวารีแห่งหนึ่งไม่ไกลจากที่นี่ อยากทราบไหม... ชิโนบุ

 

นัยน์ตาสีม่วงเข้มของเด็กคนนั้นไหววูบราวกับช่างใจ หากเพียงแค่กะพริบตา ริมฝีปากสีชาดก็คลี่รอยยิ้มอ่อนโยน แล้วส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ

 

“หากเป็นการตัดสินใจของอาโออิ ฉันคงไม่ขัดอะไรค่ะ เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อาโออิยังเป็นน้องสาว เป็นครอบครัวของฉันที่เหลืออยู่ค่ะ...”

 

ถ้อยคำสงบนุ่มนวล กับประโยคที่ราวกับกลั่นมาจากใจของเธอคนนั้นผู้จากไปทำซาเนมิตัวชาวาบ กำมือแน่นด้วยรู้ว่าบัดนี้เขาไม่อยู่ในฐานะที่จะขัดอะไรออกมาได้... หากคำตอบที่ได้ เขาก็เดาได้ว่าเด็กอาโออิวางแผนจะทำอะไร... และดูท่าชิโนบุคงรู้ดียิ่งกว่าใคร เพราะนั่นคือเหตุผลเดียวกันกับการที่เธอเลือกจะอยู่ ณ ที่นี่ในเวลานี้

 

นัยน์ตาที่มองไม่เห็นของนายท่านแลจะจับจ้องทั้งเด็กคนนั้นและเขาอย่างใช้ความคิด ก่อนจะเอ่ยปิดการประชุม ก่อนที่เขาจะทันได้คำนับเอ่ยลา อุบุยาชิกิ คากายะ ก็ขอให้เขาและเสาหลักหินผาอยู่ต่อ

 

ทันทีที่ลับสายตาและปราศจากการรู้เห็นของเหล่าเสาหลักที่เหลือ ผู้นำของหน่วยพิฆาตอสูรก็เปิดประเด็นอย่างไม่รอช้า

 

“เกียวเม... ซาเนมิ... คิดอย่างไรกับเรื่องของชิโนบุ...”

 

ความเปลี่ยนแปลงอันน่าใจหายของเด็กผู้หญิงคนนี้ไม่แคล้วรอดสายตานายท่านผู้แสนอารีไปได้ ซาเนมิได้แต่ก้มหน้านิ่งเพราะไม่อยากเป็นผู้เริ่มเปิดประเด็นถึงความเปลี่ยนแปลงซึ่งบุคลิกของเสาหลักแมลงคนใหม่ผู้นี้ ปล่อยให้ฮิเมจิมะ เกียวเม ในฐานะคนที่รู้จักสองพี่น้องตระกูลโคโจมาอย่างยาวนานเป็นผู้เริ่ม

 

“ข้าไม่แปลกใจ... ในฐานะที่ข้าเป็นคนช่วยชีวิตสองพี่น้องโคโจเมื่อหลายปีก่อน สองคนนั้นผูกพันกันมากกว่าที่ใครคาดคิด” คำพูดไม่กี่คำที่สะท้อนถึงสายสัมพันธ์ระหว่างเสาหลักหินผา เสาหลักแมลง และเสาหลักบุปผาผู้ล่วงลับได้ถูกถ่ายทอดออกมา “นี่เหมือนจะเป็นทางเดียวที่เด็กคนนั้นจะยืนหยัดอยู่ต่อไปได้ เมื่อสิ้นพี่สาวที่เหลืออยู่คนเดียวไปแล้ว...”

 

“หมายถึง... การที่ชิโนบุยอมเสียตัวตน และแสดงออกด้วยบทบาทของคานาเอะเข้าไปแทนสินะ”

 

“ขอรับ” เสาหลักหินผาพยักหน้า น้ำเสียงของชายหนุ่มร่างใหญ่เจือด้วยความเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียเด็กสองคนที่เขาช่วยชีวิตไว้เมื่อหลายปีก่อนไปแทบจะพร้อมกัน หากต่างด้วยคนละวิถี “ข้าก็คงห้ามเด็กคนนั้นไม่ได้เช่นกัน... ไม่สิ ข้าไม่เคยห้ามเด็กคนนั้นได้เลยต่างหาก”

 

“แม้ว่ามันจะขัดกับเจตนารมณ์ของคานาเอะเหรอ เกียวเม...”

 

ชื่อของเธอทำให้ซาเนมิหันมองหน้าผู้นำของหน่วยพิฆาตอสูรโดยไม่รู้ตัว ใช้เวลาชั่วหนึ่งกว่าเขาจะประมวลผลได้ว่าอุบุยาชิกิ คากายะ คงจะเป็นอีกคนหนึ่งที่ล่วงรู้ถึงความปรารถนาที่แท้จริงของเธอผู้นั้น

 

“นายท่าน...”

 

“ใช่ ข้ารู้ซาเนมิ... ข้ารู้ว่าคานาเอะประสงค์ให้น้องของเธอทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดา โดยเฉพาะชิโนบุ...” นายท่านเอ่ยอย่างอ่อนโยนพร้อมรอยยิ้มเศร้าสร้อย “ข้ารู้ว่าคานาเอะไม่เคยอยากให้ชิโนบุต้องมาอยู่ในวังวนนี้ แต่ข้านับถือจิตใจเด็กผู้นี้ตั้งแต่สอบผ่านการเป็นนักล่าอสูรเมื่อหลายปีก่อน ทั้งที่ตัวเล็กกว่าใครก็ยังหาหนทางที่จะต่อสู้และไต่เต้าขึ้นมาเป็นเสาหลักจนได้...”

 

“ข้าเข้าใจขอรับ แต่จำเป็นด้วยเหรอที่ต้องทำตามคำสั่งเสียของเธอ” ซาเนมิพึมพำ เป็นเขาที่เข้าใจเด็กคนนี้ที่สุดในเวลานี้ ไม่ใช่เกียวเมหรือนายท่าน ไม่ใช่อาโออิหรือคานาโอะ เป็นเขาที่เข้าใจความแค้นที่ฝังลึกในจิตใจของเด็กสาวผู้แหลกสลายคนนี้ดีกว่าใคร “ข้าคิดว่า นี่เป็นทางที่โคโจ... เสาหลักแมลงผู้นั้นต้องเป็นคนตัดสินใจเอง”

 

“หมายความว่าเจ้าจะไม่ขวาง...” เกียวเมเอ่ยอย่างตกตะลึง “แม้มันจะขัดกับสิ่งที่คานาเอะต้องการหรือ ชินาซึงาวะ”

 

“ใช่...” เขาพยายามคุมเสียงไม่ให้สั่น มือสองข้างที่กำแน่นบนตักสั่นระริก บัดนี้เขาไม่สงสัยแล้วว่าบุคคลสองคนนี้ทราบความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคนที่จากไปแล้วแค่ไหน “แม้จะขัดกับสิ่งที่เธอต้องการ แต่มันเป็นสิ่งที่เด็กคนนั้นเลือกแล้ว...”

 

น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาจนเหมือนไม่ใช่เสียงของเขา คำตอบที่เกียวเมทำท่าจะค้าน หากอุบุยาชิกิ คากายะ ยกมือขึ้นปรามแล้วเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นเอง

 

“ข้าเข้าใจ... จริง ๆ ทั้งสองก็เป็นห่วงชิโนบุไม่แพ้กัน ข้ายินดียิ่งนัก แต่เป็นอย่างที่ซาเนมิว่า นี่เป็นเรื่องที่ชิโนบุต้องตัดสินใจเอง และข้าก็เห็นด้วยกับเกียวเม ข้าไม่คิดว่าจะมีใครห้ามปรามเธอได้เช่นกัน...” ผู้นำหน่วยพิฆาตอสูรเอ่ยพลางถอนใจยาว “และนี่อาจเป็นความเห็นแก่ตัวของข้าเอง แต่ข้าเชื่อในความสามารถพิเศษของชิโนบุ ปาฏิหาริย์ที่พวกเรารอคอยมานานแสนนานอาจจะสำเร็จด้วยฝีมือของเด็กคนนี้ก็ได้”

 

ทันทีที่พูดจบ คากายะหันไปส่งสัญญาณให้เสาหลักหินผาออกไป ก่อนจะยื่นซองที่จั่วหัวด้วยลายมือของเธอผู้เป็นที่รักให้แก่เขา

 

“ข้าคงไม่ต้องอธิบายว่านี่คืออะไรนะซาเนมิ” นายท่านเปิดประเด็นอย่างอารี “ว่าแต่เจ้าคงสบายดีนะ”

 

“ขอรับ...”

 

“เจ้าเป็นอีกหนึ่งคนที่คานาเอะรักและเป็นห่วง และข้าก็เชื่อว่าเจ้ารู้อยู่แก่ใจว่าเธออยากเห็นเจ้ามีความสุขมากแค่ไหน” รอยยิ้มอ่อนโยนถูกส่งให้อีกครั้ง “ไม่ว่าจะเลือกที่จะเป็นนักล่าอสูรต่อไป หรือจะกลับไปเป็นคนธรรมดาอย่างที่ลึก ๆ คานาเอะคงประสงค์อยากให้เจ้าได้ทำ ข้าก็จะไม่ขัดขวาง...”

 

มือไม้ของซาเนมิสั่นระริกยามหยิบคำสั่งเสียสุดท้ายของเธอคนนั้นเข้าแนบอก คำถามของนายท่านผู้แสนอารีแม้จะทำให้จิตใจที่มั่นคงไหวสั่นชั่วขณะ แต่เมื่อนึกได้ว่าคนรักของเขาต้องสละชีวิตไปเพื่ออะไร สิ่งที่เกิดขึ้นของเสาหลักเพลิง ท่าทีของเด็กคนนั้น ยิ่งทำให้เขาตัดสินใจได้ในชั่วพริบตาโดยปราศจากความลังเล

 

“ข้ายังมีหน้าที่ต้องทำต่อขอรับ... ในฐานะเสาหลักวายุ

 

การเปลี่ยนแปลงของเด็กชิโนบุนั่น... การละทิ้งหน้าที่ของเสาหลักเพลิงนั่น... เป็นเหมือนเครื่องเตือนสติถึงสิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่

 

หน้าที่ก็ยังต้องเป็นหน้าที่... ตราบใดที่อยู่ในตำแหน่งเสาหลัก เขาจะไม่ลังเลต่อหน้าที่ต่อไป...

 

จนกว่าจะปราบอสูรให้หมดลง... เขาจะยังมีชีวิตอยู่ แม้จะเจ็บปวดเจียนตายแค่ไหนก็ตาม...

 

หลังจากวันนั้น แทบไม่มีใครได้เห็นเสาหลักวายุย่างกรายไปเฉียดใกล้คฤหาสน์ผีเสื้ออีก แทบไม่มีใครได้ยินชายหนุ่มพูดถึงเสาหลักบุปผาผู้จากไป แทบไม่มีใครกล้าเอ่ยชื่อของโคโจ คานาเอะ ให้ชินาซึงาวะ ซาเนมิ ได้ยินอีก

 

แต่ทุกครั้งที่เข้านอน ไม่มีคืนไหนที่เขาจะหลับโดยไม่กำผีเสื้อประดับโลหะสีชมพูแกมเขียวนั้นไว้แน่น... พร้อมกับน้ำตาที่รินไหลถึงคนในใจที่ไม่อาจได้เจออีกในชาตินี้

 

มีเพียงหน้าที่เท่านั้น ที่คอยประคองหัวใจที่แหลกสลายให้ยังคงดำรงอยู่ได้ต่อไป...

 

==========

Author's Talk 20 MAY 2021

สวัสดีค่ะ จบไปแล้วกับ Day 23 นะคะ ^^

ในที่สุดก็มาถึงจุดที่เราเห็นได้ชัดขึ้นแล้วค่ะว่า butterfly effects ที่พี่คานาเอะทิ้งไว้เกิดอะไรขึ้น

ตอนนี้ ชิโนบุกลายมาเป็นคนที่พวกเราคุ้นกันในมังงะและอนิเมะแล้วค่ะ คนที่มีรอยยิ้มประดับหน้า อ่อนโยน โอบอ้อมอารี... ชิโนบุที่สวมร่างของพี่คานาเอะไว้อย่างสมบูรณ์แบบแล้วนี่เอง

เชื่อว่าทุกคนที่เคยเห็นชิโนบุมาก่อน ไม่มีใครที่ไม่ช็อกแน่ค่ะ แม้แต่คุณอุซุยที่อาจจะไม่ละเอียดอ่อน แต่เขาเป็นนินจาเก่า เรื่องแบบนี้ไม่น่ารอดสายตานะคะ

ยิ่งคุณกิยู ตรงนี้น่าจะเห็นชัดและลิงค์ไปฟิคเก่าของเราชัดเจนแล้วค่ะว่าคุณกิเค้าเจ็บปวดที่เห็นชิโนบุเปลี่ยนไปในเวย์แบบนี้ค่ะ แม้จะใกล้เคียงกับคนในฝันของเขา แต่มันไม่ใช่เด็กที่เขารู้จักแต่แรกค่ะ... ใครยังไม่ได้อ่าน ไปอ่านได้เลยนะคะ Y_Y

แอบไม่แน่ใจเรื่องคำพูดของนายท่านกับคุณเกียวเมเหมือนกัน แค่คิดว่าคงจะออกมาลักษณะนี้แหละค่ะ เชื่อว่าสองผู้อาวุโสย่อมเห็นเหตุการณ์และประเมินสถานการณ์ความสัมพันธ์ของคนมาเงียบ ๆ ตลอดค่ะ

บทนี้เป็นบทที่สารภาพว่าเราเขียนด้วยความทรมานสุดค่ะ ทรมานแทนคุณเกียวเมที่เหมือนเสียพี่น้องโคโจไปพร้อมกันเลย คนนึงจากตาย อีกคนนึงกลายเป็นอีกคนที่เขาไม่รู้จักมาก่อน ยิ่งพี่สาคือ... บทที่แล้วแหลกสลาย บทนี้พี่สาก็คงเจ็บปวดกับทางเลือกของชิโนบุและอาโออิค่ะ แต่มันพ้นวิสัยที่เค้าจะทำอะไรได้แล้ว

แม้จะอยากให้เป็นไปตามที่พี่เอะปรารถนายังไง แต่พี่สาคงห้ามอะไรไม่ได้แล้วจริง ๆ ค่ะ เป็นประโยคที่เราเสียน้ำตามากที่สุดแล้วจริง ๆ เพราะด้วยสถานการณ์วงที่เราตามเข้ามาประจวบเหมาะ ยิ่งทำให้เราเข้าใจหัวอกพี่สาลึกซึ้งเลยค่ะ

ตลกเนอะ เราแพลนประโยคนี้ของพี่สาไว้ตั้งแต่เริ่มพล็อตฟิคช่วงมกราคม ไม่คิดว่าจะนั่งพิมพ์ประโยคเดียวกันในวันที่วงที่เราติ่งวงแรกแบบจริงจัง ประกาศไม่ต่อสัญญาท่ามกลางความคลุมเคลือ วงที่เราใช้เพลงเป็นหลักในการเขียนฟิคด้วย...

ตอนนี้ เราเข้าใจความแหลกสลายของชิโนบุ อาโออิ คานาโอะ และพี่สา อาจจะยิ่งกว่าตอนที่เราพล็อตฟิคช่วงแรกอีกค่ะ แม้มันไม่เหมือนกัน แต่พี่สาคงพูดประโยคนั้นด้วยความเจ็บปวดที่ใจอยากจะห้าม แต่ก็ต้องเคารพการตัดสินใจของคนที่เรารักและเป็นห่วงเนอะ

พอนั่งเช็ค timeline ชัด ๆ อีกที เราคิดว่าบทตรงนี้น่าจะประจวบเหมาะกับช่วงคุณพ่อชินจูโร่ไม่มาประชุมนี่แหละค่ะ และคงจะเป็นหนึ่งในตัวกระตุ้นให้พี่สาเดินหน้าต่อไปได้ แม้พี่เอะจะไม่อยู่แล้ว

การเดินหน้าต่อด้วยความแค้นนี่... เราเชื่อว่าพี่คานาเอะไม่อยากเห็นคนที่เธอรักต้องเดินหน้าต่อด้วยเหตุผลนี้เลยค่ะ มันเลยยิ่งทำให้เราเจ็บปวดกับทางเลือกของตัวละครมากขึ้นจริง ๆ

แต่มันสมเหตุสมผลของตัวละครแต่ละคนจริง ๆ ค่ะ

ตอนหน้านี่ก็ต้องลุ้นแล้วค่ะว่าจะออกมารูปแบบไหน แต่เวลาคงจะก้าวกระโดดไปจากตอนนี้ มาลุ้นกันว่าพี่สายังจมปลักกับความเจ็บปวดแค่ไหน แต่ความเจ็บปวดที่พี่สาได้รับเนี่ย เชื่อว่าไม่ได้จางหายไปง่าย ๆ ตามเวลาที่ผันผ่านแน่นอนค่ะ

ไม่กล้ารับปากว่าจะเจอกันวันเสาร์ไหม แต่คิดว่าน่าจะทันนะคะ ช่วงนี้ค่อนข้างสาหัสทั้งงานและสภาพจิตใจ แต่ยังไงเราก็อยากทำตามที่รับปากกับตัวเองและคนอ่านทุกคนไว้ค่ะ ^^

ขอบคุณคนอ่านที่น่ารักของเราทุกคนนะคะ ขอบคุณที่บอกว่ารอได้ ขอบคุณที่ยังคอยตามอ่านฟิคแอ๋งฟิคนี้ ขอบคุณทุกคอมเมนต์ ทุกกำลังใจที่ส่งให้ในทุกช่องทางค่ะ

แล้วพบกับบทที่ 24 หวังว่าจะตามเวลาที่เราสัญญาไว้นะคะ ^^

Author's Talk 22 NOV 2022

สวัสดีค่า มาถึงคิวลงฉบับ Rewrite สำหรับรวมเล่มนะคะ เพื่อให้เนื้อหาออกมาสมบูรณ์ทีสุดเท่าที่เราจะทำได้ค่ะ

นี่เพิ่งวันอังคารเองเหรอคะ ยิ้มแห้งมาก กำลังรู้สึกว่าตัวเองกำลังเหนื่อยสะสมมาก ๆ อยู่ค่ะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโหลดงานด้วยหรือเปล่า หรือเป็นเพราะเราจัดการกับความรู้สึกตัวเองช่วงนี้ไม่ได้เท่าไรด้วยค่ะ

แต่จะพยายามกลับมาให้ได้ พร้อมกับซุ่มทำงานต่อไปนะคะ

ตอนนี้ เราลงสปอยตัวอย่างงานแอนโธออริโปรเจค #LetLoveBreakUsApart ของคุณInnara @herpensss แล้วค่ะ ของเราเป็นเรื่องสั้นชื่อ "เหลือเพียงรอยจารึก" (Timelapse) ค่ะ ดูรายละเอียดได้เลย <3

จั่วชื่อโปรเจคมาแบบนี้ น่าจะชินกับแนวแอ๋งละมุนของเรากันเนอะ (แต่รับรองว่าเรื่องนี้ไม่มีใครตายนะคะ : D)

อนึ่ง ใครที่พลาดงาน CA 7 แล้วยังอยากเก็บเล่มนี้ สามารถดูรายละเอียดเบื้องต้นของรวมเล่มทั้งสองเล่ม ฉบับปรับปรุงล่าสุด 15 OCT 2022 มาให้ได้ศึกษานอกเหนือจากตัวฟิคที่สามารถอ่านตอนหลังได้ใน ReadAWrite | Dek-D | ReadHaus นะคะ

รายละเอียด KNY FF - In Time With You #ห้วงเวลาของเราสอง (Tomioka Giyuu x Kochou Shinobu)

รายละเอียด KNY FF - In The Remembrance of Her #แด่เธอในความทรงจำนิรันดร์ (Shinazugawa Sanemi x Kochou Kanae)

ถ้าสนใจ จิ้มลิงค์สั่งจองด้านล่างได้เลยค่ะ หรือดูรายละเอียดพร้อมกรอกแบบฟอร์มได้ที่นี่นะคะ [Link]

แต่ทั้งนี้ ใครไม่สะดวกไม่เป็นไรนะคะ รับรองได้อ่านเนื้อหาเหมือนเดิม และในรูปแบบ Rewrite เหมือนกันค่ะ เพียงแต่อาจจะได้อ่านตอนพิเศษช่วงท้ายหลังจากเราส่งเล่มล็อตแรกนะคะ

หรือไม่ก็รอตอนเราเปิดพรีอีกรอบ ช่วงเราทำแอนโธ Days Rise, Nights Fall หรือเขียน KNY FF - The Tales of Butterfly Effects จบค่ะ ^^ ช่วงต้นปีหน้าอย่างเร็วเลย

แล้วเจอกันกับรีไรท์ตอนที่ 24 ในวันพฤหัสบดีนะคะ อย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยค่ะ ^^