Day 21 - Farewell

 

Prompt: “This, this makes it all worth it”

 

Spoilers | TW | CW

 

TW : Death, Blood, Violence

CW : (Mention) about Minor's Sexualisation

*เนื้อหาเชื่อมโยงกับตอนที่ 3 ของ KNY FF - In Time With You (Giyuu x Shinobu) ค่ะ

 

1st Published : 13 MAY 2021

Rewrite : 18 NOV 2022

 

==========

 

แต่สุดท้าย ความฝันก็คือความฝัน ความปรารถนาของข้าไม่เคยมีวันจะเป็นจริง คงเพราะพระเจ้าไม่อยากให้คนบาปหนาอย่างข้าได้มีความสุขเลยแม้แต่น้อย...

 

ทุกครั้งที่ชินาซึงาวะ ซาเนมิ นึกถึงวันนั้น หัวใจของเขาก็ราวกับถูกมีดกรีดเป็นเสี่ยง ๆ ไม่แพ้วันที่เกิดโศกนาฏกรรมที่พรากเหล่าน้อง ๆ และแม่ผู้แสนดีของเขาไป...

 

ครอบครัวที่ต้องพรากจาก...

 

เพื่อนรักที่จากไปเพราะพวกมัน...

 

หากครั้งนี้... เป็นเธอคนนั้น... คนที่ทำให้โลกของเขากลับมาสว่างไสวและเป็นเหมือนสิ่งยึดมั่นว่ายังมีอนาคตสำหรับเขาหลงเหลืออยู่...

 

แต่ท้ายสุด... เขาก็ต้องเสียเธอไปอีกคน...

 

เขาไม่อาจปกป้องเธอได้อย่างที่ใจหวัง...

 

ความฝันที่แหลกสลายเพียงแค่ชั่วพริบตา...

 

และเขาก็ต้องเสียคนสำคัญที่สุดไป... ด้วยน้ำมือของพวกมันเหมือนทุกครั้ง...

 

วันนั้น... เป็นวันธรรมดาวันหนึ่งที่ดูเหมือนไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ตัวเขาและโคโจ คานาเอะ มีเพียงภารกิจที่เป็นกิจวัตรประจำวันของเสาหลักในการออกล่าตระเวนพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างรับผิดชอบ และออกสืบข่าวเกี่ยวกับเหล่าสิบสองจันทราอสูรและราชันแห่งอสูรเท่านั้น ไม่มีภารกิจอื่นใดที่จำเป็นต้องเสี่ยงอันตรายเหมือนคราวที่ได้รับมอบให้ไปจัดการอดีตอสูรสิบสองจันทราตอนนั้น และภารกิจบนเขาเมื่อไม่นานที่ผ่านมา

 

ลางสังหรณ์ที่เคยทำเขาหวาดหวั่นดูจะจางหายไปด้วยไออุ่นของสายลมอ่อนโยนของฤดูใบไม้ผลิที่พัดผ่านมาทั้งฤดู เหลือทิ้งไว้เพียงความหวานฉ่ำของความรักระหว่างเขาและเสาหลักบุปผาที่นับวันยิ่งจะแน่นแฟ้นขึ้นตามเวลา

 

ความรักที่เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะมี...

 

ความสุขที่เขาไม่เคยคาดฝันว่าจะได้รับ...

 

คืนก่อนหน้า ซาเนมิยังแวะไปหาเธอคนนั้นที่คฤหาสน์ของเธอ ต่อปากต่อคำกับเด็กสาวผู้เป็นน้องร่วมสายเลือดของหญิงคนรักดั่งที่ทำประจำ ออกไปตรวจตราพื้นที่ที่ตนรับผิดชอบ ก่อนกลับมานั่งดูดาวในช่วงย่ำรุ่งและรอชมพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกันกับเธอเหมือนที่ทำเป็นประจำในช่วงหลัง

 

อากาศในเช้าวันนั้นแจ่มใสกว่าปกติ ท้องฟ้าของต้นหน้าร้อนสว่างสดใสไร้เมฆหมอกบัง สายลมที่พัดโชยไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป ความสงบรอบตัวและความสบายใจที่ได้รับทำซาเนมิเลือกที่จะพักผ่อนอย่างอ้อยอิ่งยังคฤหาสน์ผีเสื้อแทนกลับบ้านของตนเองตั้งแต่ช่วงสาย

 

โชคดีที่ช่วงสองสามวันที่ผ่านมาไม่มีคนไข้ใหม่ ๆ ที่ต้องเข้ามาให้เธอรักษาหรือดูแล เมื่อคานาเอะมอบหมายให้ชิโนบุพาเด็ก ๆ ในบ้านออกไปพักผ่อนและซื้อของใช้เข้ามา ซาเนมิจึงยอมตามใจคนรักของเขาโดยการนอนพักผ่อนที่คฤหาสน์ผีเสื้อแทน

 

เขามองหญิงสาวที่นอนหลับหนุนแขนเขาอย่างเป็นสุขด้วยแววตาเปี่ยมด้วยความรักและความอ่อนโยน รอยยิ้มจางที่ปรากฏบนใบหน้าของเธอสะท้อนว่าวันนี้เธอของเขาเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างเป็นสุขจริง ๆ

 

แม้บางครั้งเธอจะยังคงฝันถึงวันที่เสียพ่อและแม่ของเธอไป แต่ทุกครั้งที่เขากุมมือหรือโอบกอดเธอไว้ ไม่กี่อึดใจอาการเกร็งมือของเธอก็จะคลายลงกลับสู่ภาวะปกติ เหมือนกับที่เขาเริ่มรู้สึกหลับสนิทขึ้นแม้จะเป็นเพียงไม่กี่ชั่วยามสั้น ๆ ที่ได้ใช้เวลาร่วมกัน

 

รอยยิ้มอ่อนโยนผุดบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยแผลเป็นขณะใช้มือเกลี่ยเส้นผมที่ถูกลมพัดปลิวปรกหน้า รอยยิ้มที่บัดนี้เหลือเพียงเธอผู้นี้ที่ได้เห็น รอยยิ้มที่เกิดจากความสุขที่ได้จากการแบ่งปันเวลาสั้น ๆ ร่วมกันในแต่ละวัน

 

ความสุขของการได้เห็นเธอยิ้มทั้งยามหลับและยามตื่น...

 

ความสุขที่ได้มองตาของเธอและเห็นแววอ่อนหวานที่เต็มเปี่ยมด้วยความรักไม่แพ้กัน พร้อมสัมผัสอ่อนโยนและไออุ่นที่ได้รับ...

 

ความสุขยามเธอกระซิบเรียกชื่อเขา...

 

เพียงถ้าโลกนี้ไม่มีอสูร... เขาคงจะมีความสุขยิ่งกว่านี้ที่ได้ใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดากับผู้หญิงแสนวิเศษที่เข้าใจเขาและรักเขายิ่งกว่าใคร...

 

“แหม ๆ แอบฉวยโอกาสตอนฉันนอนอีกแล้วนะคะ...”

 

เสียงหวานเอ่ยเบาจนเกือบเป็นกระซิบขณะเขาจรดริมฝีปากแนบนัยน์ตาคู่สวย แววหวานระยับที่มองจ้องมาทำคนแอบขโมยจุมพิตหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอายขั้นสุด

 

“ทำยังกับเจ้าไม่ชอบ...”

 

ชอบสิคะ ไม่นั้นฉันคงลุกไปนานแล้วล่ะค่ะ”

 

“นับวันเจ้ายิ่งร้ายกาจขึ้นนะคานาเอะ...”

 

พอกันกับคุณนั่นแหละค่ะ~”

 

คานาเอะเอ่ยกระเซ้าขณะซุกตัวเข้าอ้อมแขนพลางกระชับมือโอบรอบกายให้แน่นกว่าเดิม อากัปกิริยาที่ทำคนแปลงร่างเป็นหมอนข้างให้อิงแอบใจเต้นระรัวกว่าปกติ

 

ไม่กลัวน้องของเจ้ากลับมาเห็นเหรอ...”

 

“กว่าเด็ก ๆ จะกลับก็ตั้งเย็นแน่ะค่ะ มีเวลาอีกตั้งนาน”

 

“เหอะ! แล้วถ้ามีใครเจ็บป่วยมาล่ะ”

 

“แหม ๆ คงไม่มีใครเดินเข้ามาโดยไม่ส่งเสียงเรียกหรอกนะคะ”

 

“...ก็เจ้าโทมิโอกะไง”

 

ประโยคที่ทำคนในอ้อมแขนของเสาหลักวายุหัวเราะเสียงใสออกมาเมื่อนึกถึงการปรากฏกายของโทมิโอกะ กิยู ที่ชอบปรากฏกายเงียบเชียบอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง ไม่ผิดอะไรกับที่ชิโนบุชอบทำ

 

หรือที่ถูก เสาหลักวารีผู้ถูกโคโจ ชิโนบุ น้องสาวของเธอแกล้งปั่นหัวให้กลายมาเป็นเครื่องมือคอยขัดจังหวะเธอกับคนรักของเธอนั่นเอง

 

“ฉันชักสงสารโทมิโอกะคุงแล้วนะคะ~”

 

“เหอะ ดูมันทำตัวสิ มีใครไม่เกลียดมันบ้างล่ะ”

 

ฉันกับชิโนบุไงคะที่ไม่เกลียด อ๋อ แล้วก็คงนายท่านอีกคนค่ะ”

 

คำตอบที่ทำเสาหลักวายุถึงกับตีสีหน้าตึงด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ยังคงกระชับร่างเธอไว้แนบแน่น จนคนขี้แกล้งอดไม่ได้ที่จะบีบจมูกคนขี้งอนอย่างมันเขี้ยว

 

“แหม ๆ ฉันเกลียดคนที่ทำให้น้องสาวฉันมีความสุขไม่ลงหรอกค่ะ แล้วโทมิโอกะคุงก็ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย นอกจากชอบโผล่มาไม่ดูจังหวะเท่านั้นเอง...”

 

คำเย้าแหย่ที่ทำซาเนมิได้แต่ถอนใจยาว ก่อนจะตัดสินใจชันตัวลุกขึ้นมาเพื่อเตรียมแต่งตัวเมื่อเห็นว่าเวลาผ่านล่วงไปถึงยามบ่ายแล้ว

 

คืนนี้จะออกล่าตระเวนไหม”

 

“ค่ะ ช่วงนี้ไม่มีคนไข้ให้ต้องรักษา ฉันเลยอยากออกตรวจความเรียบร้อยบ้างค่ะ”

 

สิ่งที่บั่นทอนความสุขในใจคงจะเป็นหน้าที่ที่ผูกรัดตัวเขาทั้งสอง หากก็เป็นหน้าที่ที่เขาและเธอเต็มใจทำ จนกว่าวันที่ความฝันของพวกเขาจะเป็นจริง...

 

โลกที่ไม่มีอสูรร้ายย่างกรายเข่นฆ่าผู้คน...

 

โลกที่น้อง ๆ ของเขาและเธอสามารถใช้ชีวิตโดยไม่ต้องระวังภัยจากอสูร...

 

โลกที่เขาทั้งสองสามารถใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาอย่างสงบสุขไปตราบจนชั่วสิ้นอายุขัย...

 

ท้องฟ้าที่เคยสดใสบัดนี้เริ่มถูกปกคลุมด้วยกลุ่มเมฆจนมืดครึ้ม บ่งบอกว่าคืนนี้คงมีพายุฝนพัดผ่านเข้ามา สภาพอากาศที่ดูไม่เป็นใจต่อการปฏิบัติหน้าที่ทำเขานึกห่วงหญิงคนรักขึ้นมา

 

“เมฆฝนตั้งเค้าแล้ว พักสักวันหน่อยไหม”

 

“ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ” คานาเอะว่าพลางยิ้ม แต่ครั้นเห็นวี่แววกังวลของอีกฝ่าย เธอจึงเป็นฝ่ายขยับเข้าไปกอดเขาจากด้านหลัง ก่อนซุกหน้าแนบชิดแผ่นหลังกว้างเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นนับไม่ถ้วน “หน้าที่ก็ต้องเป็นหน้าที่นะคะ ทุกครั้งฉันก็กลับมาอย่างปลอดภัย อย่ากังวลไปเลยนะซาเนมิ”

 

ความร้อนรุ่มจากลางสังหรณ์ส่วนลึกทำซาเนมิไม่คิดอยากให้เธอออกปฏิบัติภารกิจในคืนนี้ แม้จะรู้ว่าท้ายสุดคานาเอะก็คงปฏิเสธอีกตามเคย หากท้ายสุดจิตใต้สำนึกก็ชนะทั้งที่รู้คำตอบอยู่แก่ใจ เขาหันกลับไปรวบเธอไว้ในอ้อมกอดอีกครั้ง พร้อมกระซิบเสียงแผ่วข้างหูเธอ

 

“ไม่ได้เหรอ... คานาเอะ”

 

“เดี๋ยวชิโนบุก็กลับมาแล้วค่ะ” คานาเอะกระซิบตอบอย่างอ่อนโยนพลางกอดตอบ “อย่างอแงสิคะ~ เดี๋ยวกลับมาคืนนี้ฉันจะทำโอฮางิให้กินนะ~”

 

“...อื้ม”

 

ซาเนมิได้แต่พยักหน้า เก็บซ่อนความไม่สบายใจไว้ข้างใน ก่อนจะผละออกจากอ้อมกอดอันแสนอบอุ่น ลำแสงสีส้มที่สาดส่องต้องหน้าของเธอให้ดูเปล่งประกาย ขับรอยยิ้มบนดวงหน้าของคานาเอะให้ดูอ่อนหวานและอบอุ่นยิ่งกว่าทุกครั้ง

 

จนเขาอยากจะหยุดเวลานี้ไว้ชั่วนิรันดร์...

 

รอจนรับประทานอาหารเย็นเสร็จ ก่อนที่เขาและเธอจะแยกย้ายกันออกไปล่าตระเวนในพื้นที่ที่ตนรับผิดชอบ คานาเอะเขย่งตัวจุมพิตแผ่วเบาบนแก้มก่อนกระซิบข้างหู

 

แล้วเจอกันคืนนี้นะคะ...”

 

เธอว่าพลางส่งยิ้มสว่างไสว รอยยิ้มที่จะตราตรึงใจเขาไปอีกตลอดกาล

 

และนั่นคือรอยยิ้มสุดท้ายที่เขาได้เห็นจากโคโจ คานาเอะ ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่...

 

ผ่านไปจนถึงเกือบรุ่งสาง ซาเนมิก็เสร็จสิ้นภารกิจล่าตระเวนของตนเอง แต่เมื่อเขากลับมาถึงคฤหาสน์ผีเสื้อ ท่าทีตื่นตระหนกของชิโนบุเป็นสิ่งผิดปกติสิ่งแรกที่เขาสัมผัส

 

“ชินาซึงาวะซัง...” เสียงของเด็กสาวสั่นเครือขณะพุ่งตัวเข้ามาเกาะแขนเสื้อเขาด้วยมือที่สั่นเทา “นี่ท่านพี่ไม่ได้ออกไปกับคุณเหรอคะ!”

 

“เปล่า เกิดอะไรขึ้น!”

 

“ปกติเวลานี้ท่านพี่น่าจะกลับถึงบ้านแล้ว... จนบัดนี้ยังไม่มีใครเห็นหรือได้ข่าวท่านพี่เลยค่ะ”

 

คำพูดที่มาพร้อมลมพายุพัดโหมกระหน่ำจนหัวใจของซาเนมิเต้นรัวด้วยความกลัว ก่อนจะทันได้ทำอะไร อีกาส่งสารของหน่วยพิฆาตก็บินโฉบมา พร้อมถ่ายทอดข่าวที่ทำให้เลือดของคนทั้งคู่เย็นเฉียบจนแทบเป็นน้ำแข็ง....

 

“โคโจ คานาเอะ กำลังปะทะกับอสูรข้างขึ้นที่สอง ขอกำลังเสริมด่วน!”

 

ประโยคที่เรียกเสียงกรีดร้องจากคันซากิ อาโออิ ที่ทรุดตัวเข่าอ่อนลงไปพร้อมน้ำตา ส่วนซึยูริ คานาโอะ ผู้แม้จะทรงตัวได้ หากนัยน์ตาเบิ่งกว้างอย่างตกตะลึง ขณะที่เขาหันไปสบตากับชิโนบุแล้วออกวิ่งไปตามทิศทางที่อีกาบินนำทางมาโดยไม่คิดชีวิต

 

หัวใจของซาเนมิบีบรัดยิ่งกว่าทุกครั้ง ความร้ายกาจของอสูรข้างแรมลำดับที่หนึ่งที่เขาเคยต่อกรมาก็เกินกว่าที่คนเพียงหนึ่งคนจะต้านทานได้

 

แต่นี่คืออสูรข้างขึ้นลำดับที่สอง...

 

สายฝนที่พรั่งพรูทำภาพเบื้องหน้าพร่าเลือน หากภาพในใจยามมือของอสูรตนนั้นทะลวงเข้าท้องของเพื่อนรักในวันนั้นยังชัดเจนแจ่มแจ้งราวกับเพิ่งเกิดเมื่อวันวาน

 

ต้องไปให้ทัน! ต้องไปให้ทัน!

 

ซาเนมิวิ่งสุดแรงที่ตนมีอยู่ โดยมีเสียงฝีเท้าน้องสาวเธอวิ่งตามมากระชั้นชิด จนกระทั่งอีกาพาเขามาถึงชานเมืองที่อยู่ไม่ห่างจากคฤหาสน์ผีเสื้อ เขารีบส่งสัญญาณให้ชิโนบุวิ่งไปทางซ้าย ขณะเขาวิ่งอ้อมไปทางขวา เพียงชั่วครู่ที่เขาจับกลิ่นอายที่ทำเขาขนลุกชันทั้งกาย

 

กลิ่นอายคาวเลือดและความตาย!

 

เขาเปลี่ยนทิศทางไล่ตามกลิ่นอายที่แสนขนลุกนั่น จังหวะเดียวกับที่ได้ยินเสียงกรีดร้องสุดชีวิตของเด็กคนนั้น ชั่วอึดใจ เสาหลักวายุก็วิ่งมาถึงที่หมาย...

 

ภาพที่เห็น เป็นยิ่งดั่งฝันร้ายใต้จิตสำนึกตลอดกาลของเขา

 

ซาเนมิปล่อยดาบในมือทิ้งทันทีที่เห็นคนรักของเขานอนอาบเลือดท่วมตัวในอ้อมแขนของชิโนบุที่ตะโกนเรียกชื่อเธอทั้งน้ำตา ลมหายใจของคานาเอะรวยรินขณะที่เรียกชื่อน้องสาวพลางเอื้อมมือสัมผัสหน้าที่เปรอะด้วยคราบน้ำตาของเจ้าหล่อนอย่างแผ่วเบา ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา เขารู้ดีว่านี่คงเป็นโอกาสสุดท้ายที่เธอจะได้พูด...

 

สุดท้าย... เขาปกป้องเธอไว้ไม่ได้!

 

ซาเนมิทรุดเข่าลงกับพื้นไม่ไกลจากจุดที่ดาบของเธอหัก หอบหายใจอย่างปวดร้าว ขณะที่พยายามสวดอ้อนวอนพระเจ้าที่เขาแสนจะชิงชังในใจทั้งที่รู้ว่ามันไม่มีความหวังอะไรหลงเหลืออยู่แล้ว

 

“ชิโนบุ...” เสียงสั่นเครือของเสาหลักบุปผาแผ่วเบายิ่งกว่าเสียงกระซิบเอ่ยกับน้องสาว “ออกจากกลุ่มพิฆาตอสูรซะ... ถึงจะพยายาม แต่ชิโนบุคง...”

 

ลมหายใจของเสาหลักบุปผาเริ่มขาดช่วงด้วยเปลวไฟแห่งชีวิตของเธอใกล้จะมอดดับ หากเธอก็พยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายบอกถึงความปรารถนาเบื้องลึกที่สุดที่เธอไม่เคยมีโอกาสพูดกับน้องสาวร่วมสายเลือดของเธอ...

 

“พี่... อยากให้เธอมีความสุขแบบเด็กผู้หญิงธรรมดา... ใช้ชีวิตยืนยาวจนแก่เฒ่า พอ... ได้แล้ว... ล่ะ...

 

ไม่ค่ะ! หนูไม่ออกจากกลุ่ม! หนูจะฆ่าศัตรูของพี่ให้ได้!พูดสิคะ! ว่ามันเป็นอสูรแบบไหน...!” เด็กนั่นตะโกนกรีดร้อง พยายามคาดคั้นความจริงจากเธอที่บัดนี้หลั่งน้ำตาไหลรินพร้อมสายฝน “...พี่เป็นแบบนี้ จะให้หนูใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาได้ยังไง!”

 

ลักษณะของอสูรนั้นค่อย ๆ ถูกถ่ายทอดออกมาพร้อมลมหายใจที่ใกล้จะสิ้นสุด ถ้อยคำที่สลักลึกไปยังสมองของซาเนมิและชิโนบุ ศัตรูอาฆาตที่ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต ทั้งสองจะต้องตามล่าและจัดการมันให้ได้

 

“แต่เขาไม่มีความรู้สึกอะไรเลย... น่าสงสาร... น่าเวทนาเหลือเกิน...”

 

คำพูดที่สะท้อนความอ่อนโยนที่มาจากจิตใต้สำนึกของเธอ ความอ่อนโยนเหนือใครในโลกที่เขาตกหลุมรักผู้หญิงคนนี้... เป็นสิ่งเดียวกันที่กำลังจะพรากชีวิตของเธอไปจากเขาตลอดกาล...

 

“พอแล้วคานาเอะ...” ซาเนมิครางขณะขยับเข้าไปใกล้คนที่เขารักสุดหัวใจ “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เดี๋ยวข้ากับน้องของเจ้าจะพาเจ้ากลับบ้านไปรักษา...”

 

คำพูดที่เธอได้แต่ส่ายหน้า ด้วยรับรู้ถึงวาระสุดท้ายที่คืบคลานมาถึง นัยน์ตาสีชมพูคู่สวยเบือนมาสบกับนัยน์ตาของเขาผู้นั้นฉายแววรวดร้าวที่สุดที่เขาเคยเห็นมา เพราะรู้ดีว่าการจากไปของเธอย่อมสร้างบาดแผลที่ไม่มีวันสมานแก่คนที่เธอรักทุกคน ริมฝีปากสีชาดที่เปรอะเปื้อนเลือดพยายามขยับคำพูดสุดท้ายแด่ชายที่อยู่ในหัวใจของเธอมานานแสนนาน หากไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาได้แต่อย่างใด...

 

ขอโทษนะคะ...

 

เสียงอีกาประกาศการตายของเสาหลักบุปผาดังวังเวงไปทั่วบริเวณ พร้อมกับเสียงกรีดร้องจนแทบเสียสติของชิโนบุที่กอดร่างไร้ลมหายใจของเสาหลักบุปผาไว้กลางสายฝน ทำเหล่าคาคุชิและเสาหลักวารีที่เพิ่งเดินทางมาถึงชะงักงัน นัยน์ตาสีครามของชายผู้ไร้อารมณ์เบิ่งกว้างกับภาพที่ได้เห็นเบื้องหน้า พร้อม ๆ กับเสียงสะอึกสะอื้นของคาคุชิบางคนที่ได้เห็นภาพเด็กสาวที่หัวใจแหลกสลายจากการต้องเสียครอบครัวที่ยังเหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียว

 

หากกลับเป็นเสาหลักวายุ ที่ลุกขึ้นเดินเข้าไปราวกับคนไร้วิญญาณ แล้วปลดมือของชิโนบุที่ยังโอบร่างพี่สาวไว้อย่างแน่น แล้วช้อนร่างของเธอขึ้นมาโดยไม่สนอาการร้องไห้จนแทบขาดใจของเด็กสาวผู้นั้น หรือคำห้ามปรามของโกโต คาคุชิคนสำคัญ

 

รู้ตัวอีกที เขาก็พาเธอกลับมาถึงบ้านของเธอ ไม่สนเสียงกรีดร้องไห้ของเหล่าน้อง ๆ นอกสายเลือดที่ยามเห็นร่างไร้วิญญาณของเธอ...

 

รู้ตัวอีกที เขาก็อุ้มเธอเดินเข้าห้องพยาบาลในห้องที่เขามักใช้พักประจำ ห้องที่เป็นเหมือนสถานที่ที่เก็บความทรงจำล้ำค่าระหว่างเขาทั้งสองไว้...

 

รู้ตัวอีกที เขาก็วางร่างของเธอไว้บนเตียงอย่างทะนุถนอม เหมือนที่เป็นมาตลอด...

 

ซาเนมิค่อย ๆ ใช้มือปาดคราบเลือดที่เปรอะใบหน้าของคานาเอะออกอย่างแผ่วเบา ราวกับกลัวว่าเธอจะเจ็บไปมากกว่านี้ นิ้วมือหยาบกร้านสั่นระริกยามปัดป่ายเส้นผมที่ปรกหน้าของเธอให้เข้าที่ ก่อนจะเอื้อมมือไปกุมมือของเธออย่างทะนุถนอม

 

มือที่เมื่อไม่มีกี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ยังคอยกอดเขาไว้อย่างอบอุ่น พร้อมกับคำสัญญาที่เธอจะกลับมาอย่างปลอดภัย

 

สุดท้าย... เธอก็ไม่กลับมา

 

ดูเผิน ๆ เหมือนเธอเพียงแค่หลับไปเท่านั้น หากสัมผัสจากมือที่ค่อย ๆ เย็นลงไม่ผิดกับหัวใจของเขา เป็นเครื่องตอกย้ำว่า โคโจ คานาเอะ เสาหลักบุปผาผู้แสนอารีได้จากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ...

 

ไม่มีแล้ว มือที่แสนอ่อนโยนที่คอยทำแผลให้เขาทุกครั้งที่เขาบาดเจ็บ...

 

ไม่มีแล้ว มือที่แสนอบอุ่นที่คอยกุมมือเขายามเจ็บป่วย...

 

ไม่มีแล้ว มือที่จะคอยโอบกอดเขาด้วยความรัก...

 

ไม่มีแล้ว มือที่คอยเป็นหลักยึดและคอยนำทางให้แก่เขา...

 

น้ำตารินอาบแก้มของซาเนมิอย่างไม่ขาดสาย ก่อนชายหนุ่มจะระเบิดเสียงหัวเราะที่ราวกับเย้ยหยันความโหดร้ายของโลกใบนี้

 

สุดท้าย... พระเจ้าก็ไม่เคยฟังคำขอร้องของเขา!

 

เห็นใจกระทั่งอสูรจนนาทีสุดท้ายนะ สมเป็นเจ้าจริง ๆ”

 

เสียงหัวเราะเย้ยโลกที่สุดท้ายแปรเปลี่ยนเป็นเสียงสะอึกสะอื้นโหยหวนราวกับสัตว์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ความเป็นจริงที่พุ่งเข้าสู่จิตใจว่าเขาเสียเธอไปแล้วตลอดกาล บัดนี้ เขาจะไม่มีวันได้สบตากับผู้หญิงแสนดีที่ดึงเขาออกจากความมืดมนของโลกอันโสมมแห่งนี้

 

ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าความอ่อนโยนของหญิงสาวผู้นี้ จะนำมาสู่ความตายของเธอในวันหนึ่ง เพียงแต่ทำไม... ทำไมเขาไม่เคยขอร้องให้เธอใช้ชีวิตเยี่ยงคนธรรมดา...

 

ท้ายสุด... ความฝันของเขาทั้งสองก็ไม่มีวันเป็นจริงได้ในชาตินี้!

 

คงเพราะเขารักอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ของเธอคนนี้มากไป จนไม่กล้าที่จะเอ่ยปากขอสิ่งนั้น แม้รู้ว่าสุดท้ายมันอาจต้องแลกด้วยชีวิตของคนที่เขารักยิ่งกว่าทุกสิ่ง...

 

“นี่... ไอ้ที่เธอทำมาทั้งหมดมันคุ้มค่าเหรอคานาเอะ... ตอบข้าสิ!

 

ซาเนมิได้แต่พึมพำทั้งน้ำตาขณะซบมือของเธอไว้ เสียงสะอึกสะอื้นที่ดังแข่งกับสายฝนที่พรั่งพรูราวกับโลกใบนี้กำลังร้องไห้ให้กับการจากไปของผู้หญิงแสนดีคนนี้

 

บัดนี้ โลกของเขาก็กลับมามืดมนอีกครั้ง...

 

เพราะแสงแห่งชีวิตของเขาได้ดับสูญไปตลอดกาล ไปพร้อมกับลมหายใจของเธอผู้นั้น...

 

และดับไปพร้อมกับหัวใจอันแหลกสลายของเขา...

 

==========

Author's Talk 13 MAY 2021

สวัสดีค่ะ จบไปแล้วกับ Day 21 แล้วนะคะ

สารภาพบาปกันเลยดีกว่าค่ะ ตอนนี้มีใครเปียกปอนแล้วบ้าง... มีใครโกรธเราที่เลือกให้พี่คานาเอะถึงจุดจบเร็วกว่าที่หลายคนคาดไหมคะ...

จริง ๆ แล้ว ตั้งแต่เขียนเกือบทุกบทมา เราเสียน้ำตาตอนเขียนเกือบตลอดเลยค่ะ (อาจจะยกเว้นบทที่ 13 เพราะบทนั้นน่ารักมาก) โดยเฉพาะบทหลัง ๆ ที่ทุกคนกรีดร้องกับความหวานนั่นแหละค่ะ... เราร้องไห้หลังเขียนทุกครั้งเพราะรู้ว่าท้ายสุดทั้งคู่จะต้องจากลากันแบบนี้...

มันเป็นช่วงเวลาที่แสนสั้นแต่ตราตรึง เหมือนดอกซากุระเลยนะคะ

หลายคนอาจจะตกใจว่าแม้กระทั่งตอนนี้เรายังขยี้เนอะ แถมขยี้ไปด้วยฉากสวีทหวานที่ยิ่งกว่าทุกตอน สารภาพเลยค่ะว่าได้อิทธิพลมาจากเพลง I don't want to miss a thing ของ Aerosmith ซึ่งครึ้มใจเปิดฟังไปตั้งแต่ช่วงเขียนบทที่ 18 แล้วค่ะ

และพบว่า... มันเป็นเพลงที่เหมากับคนคลั่งรักอย่างพี่สาจริง ๆ นะ แถมดูจากการกระเถิบความสัมพันธ์ของสองคนนี้ที่ไต่ระดับมาตั้งแต่บทที่ 17 เป็นต้นไป เราคิดว่า... มันใช่เลยละค่ะ

แรกสุดเราเวิ่นเว้อว่าอยากเขียนเป็น short story แยกออกมา แต่ด้วยข้อจำกัดเวลาเลยไม่สะดวก กับพออ่าน draft บท 21 ที่เตรียมไว้ ก็รู้สึกว่า เออ ทำไมไม่เอาจุดที่อยากเขียนมาใส่มันตอนต้นเรื่องเลยล่ะ... เพิ่มความแอ๋งและรถไฟเหาะเข้าไปอีก

ในส่วนความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ขออนุญาตครอบสปอยล์ไว้นะคะ เผื่อใครยังอยากเก็บความละมุนไว้ค่ะ

ส่วนตัวเราคิดว่าเค้าสองคนคงไปถึงขั้นนั้นแล้วล่ะค่ะ จริง ๆ ก็กระดากใจตรงอายุของทั้งคู่นิดนึง แต่ด้วยบริบทยุคนั้น เออเนอะ คนเค้ามีครอบครัวกันตั้งแต่ 14-15 ด้วยซ้ำ เลยคิดว่าคงไม่แปลกใจเท่าไรเหมือนกัน

ความตายมันเป็นอะไรที่ไม่มีใครตั้งตัวเลยค่ะ บางทีแค่ไม่กี่นาทีจริง ๆ แหละค่ะ บางทีไม่มีใครได้รู้เลยว่าการพบกันครั้งไหนจะเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับแต่ละคน

เราเพิ่งผ่านความสูญเสียกะทันหันมาช่วงเมษายนค่ะ แม้จะไม่ใช่ครอบครัวสายตรงของเรา แต่มันก็ช็อกและจุกไม่น้อย เลยยิ่งจินตนาการออกเลยว่า สำหรับพี่สา การที่ต้องเสียคนที่เพิ่งแยกจากกันไม่กี่ชั่วโมง ในวันธรรมดาที่ดูไม่มีอะไร มันเป็นอะไรที่แม้จะเตรียมใจอยู่ลึก ๆ แต่คงรับไม่ได้จริง ๆ ค่ะ

และนี่ก็คือจุด climax ของส่วนที่สองของเรื่องนี้แล้วค่ะ

สำหรับคนที่งง เหลืออีกตั้ง 11 ตอน จะมีประเด็นให้เล่นอีกเหรอ ตรงนี้แหละค่ะที่เราเลยตัดสินใจวางโครงเรื่องมาแบบนี้ ซึ่งต้องขอบคุณ prompt2020 ด้วยที่เอื้อคีย์เวิร์ดให้เหมาะกับการวางโครงแบบนี้มาก

ความตายไม่ใช้จุดสิ้นสุดของทุกสิ่งสำหรับเราค่ะ สิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่คือการจัดการกับการสูญเสีย ในเนื้อเรื่องหลัก เราคิดว่าทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าการตายของพี่คานาเอะนี่เป็นเหมือน butterfly effect ที่ส่งผลกระทบกับตัวละครทั้งทางตรงและทางอ้อมไปหลายคนเลยค่ะ

ไหนจะความสัมพันธ์ของคนที่ยังเหลืออยู่ มันยังมีอะไรที่ให้เราเขียนอีกมาก ซึ่งจากการพล็อตและการอ่าน fb 2 เรายิ่งรู้สึกว่าการตายของพี่คานาเอะไม่ใช่จุดสิ้นสุดอันน่าเศร้าของความสัมพันธ์ของซาเนคานาเนอะ จริงอยู่ที่ความฝันของพี่สาที่เค้าหวังจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับคนที่เขารักมันไม่มีทางเป็นจริงในชาตินี้แล้ว แต่การที่ออฟฟิศเชี่ยลออกมาคอนเฟิร์มเรื่องปฏิสัมพันธ์ระหว่างพี่สากับชิโนบุ มันเป็นอะไรที่เราเองก็รอที่จะเขียนมันอยู่ค่ะ

ทุกอย่างหลังจากนี้ มันคงเป็นการย้ำให้เห็นว่า พี่สาเป็นคนที่อ่อนโยนจริง ๆ อย่างที่พี่คานาเอะเห็นมาแต่แรก และคงสะท้อนว่าพี่สารักพี่คานาเอะแค่ไหน แม้เวลาจะผ่านไปก็ยังรักเหมือนเดิม

ไหนจะการตัดสินใจต่อเรื่องอื่น ๆ ของพี่สาอีก คิดว่าหลายคนอาจจะเดาได้ แต่เราก็ยังอยากเขียนมันออกมาอยู่ดีค่ะ

ยังไงก็อยากให้ตามกันไปจนจบเรื่องนะคะ อีกสิบเอ็ดตอนเนอะ ^^

ใครจะคิดคะว่าตัวละครที่ออกมาแว้ด ๆ ช่วงแรก จะมีหัวใจที่กว้างขวางและอ่อนโยนกว่าภาพลักษณ์ที่เราเห็นเนอะ แม้แต่เราเอง ยิ่งเขียนเราก็ยิ่งรู้สึกค่ะว่าคู่นี้เค้ารักกันมากจริง ๆ มากกว่าที่เราหวีดในช่วงแรกด้วยซ้ำไป

ท้ายสุดนี้ ขอขอบคุณคนอ่านที่น่ารักของเราทุกคน ขอบคุณที่ยังตามอ่านกันต่อนะคะ ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคอมเมนต์และพบกับตอนที่ 22 ในวันเสาร์นี้ค่ะ (หวังว่ากองงานจะไม่ทับตายก่อนนะคะ) อย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยค่ะ

Author's Talk 22 NOV 2022

สวัสดีค่า มาถึงคิวลงฉบับ Rewrite สำหรับรวมเล่มนะคะ เพื่อให้เนื้อหาออกมาสมบูรณ์ทีสุดเท่าที่เราจะทำได้ค่ะ

อะหือ วันนี้ใจหายใจคว่ำทั้งเรื่องสถานการณ์ทวิตเตอร์ สรุปจะได้ไปต่อหรือยังไงไม่รู้ แต่ใครไม่ชัวร์แวะมาตามในเพจเฟสและ ig ได้ก่อนนะคะ

เลยไปกึ่ง ๆ อัพเดทกับทีมงาน Days Rise, Nights Fall มา ฮื้อ กับคนที่โคงานช่วงนี้ด้วยค่ะ ฮื้อ สาปส่งอีลอน มัสก์ (เมาท์กับเพื่อนในรุ่นที่เพิ่งออกจากทวิตเตอร์ นางบอกว่าตามที่เห็นเลยค่ะ)

แต่ยังไง ก็ยังชอบ contact กับคนอ่านหรือแฟนด้อมในทวิตเตอร์นะคะ หาแพลทฟอร์มที่เราจะหวีดทุกสิ่งโดยไม่ต้องคีพลุคอย่างทวิตไม่ได้แล้วจริง ๆ (เฟสก็เต็มไปด้วยครอบครัว เพื่อนฝูง ที่ทำงาน ไอจีคือ... เออเนอะ ลงทีเพื่อนยังถามว่านี่ยังไม่ลืมพาสเวิร์ดเหรอ 55555)

ตอนนี้ เราลงสปอยตัวอย่างงานแอนโธออริโปรเจค #LetLoveBreakUsApart ของคุณInnara @herpensss แล้วค่ะ ของเราเป็นเรื่องสั้นชื่อ "เหลือเพียงรอยจารึก" (Timelapse) ค่ะ ดูรายละเอียดได้เลย <3

จั่วชื่อโปรเจคมาแบบนี้ น่าจะชินกับแนวแอ๋งละมุนของเรากันเนอะ (แต่รับรองว่าเรื่องนี้ไม่มีใครตายนะคะ : D)

อนึ่ง ใครที่พลาดงาน CA 7 แล้วยังอยากเก็บเล่มนี้ สามารถดูรายละเอียดเบื้องต้นของรวมเล่มทั้งสองเล่ม ฉบับปรับปรุงล่าสุด 15 OCT 2022 มาให้ได้ศึกษานอกเหนือจากตัวฟิคที่สามารถอ่านตอนหลังได้ใน ReadAWrite | Dek-D | ReadHaus นะคะ

รายละเอียด KNY FF - In Time With You #ห้วงเวลาของเราสอง (Tomioka Giyuu x Kochou Shinobu)

รายละเอียด KNY FF - In The Remembrance of Her #แด่เธอในความทรงจำนิรันดร์ (Shinazugawa Sanemi x Kochou Kanae)

ถ้าสนใจ จิ้มลิงค์สั่งจองด้านล่างได้เลยค่ะ หรือดูรายละเอียดพร้อมกรอกแบบฟอร์มได้ที่นี่นะคะ [Link]

แต่ทั้งนี้ ใครไม่สะดวกไม่เป็นไรนะคะ รับรองได้อ่านเนื้อหาเหมือนเดิม และในรูปแบบ Rewrite เหมือนกันค่ะ เพียงแต่อาจจะได้อ่านตอนพิเศษช่วงท้ายหลังจากเราส่งเล่มล็อตแรกนะคะ

หรือไม่ก็รอตอนเราเปิดพรีอีกรอบ ช่วงเราทำแอนโธ Days Rise, Nights Fall หรือเขียน KNY FF - The Tales of Butterfly Effects จบค่ะ ^^ ช่วงต้นปีหน้าอย่างเร็วเลย

แล้วเจอกันกับรีไรท์ตอนที่ 22 ในวันพรุ่งนี้นะคะ อย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยค่ะ ^^