Day 15 - Clash

 

Prompt: “Not interested, thank you”

 

TW | CW

TW : Blood, Self-Harm

 

1st Published : 21 APR 2021

Rewrite : 06 NOV 2022

==========

 

ทันทีที่โคโจ คานาเอะ พูดกับเขาจบ เสียงหวีดร้องเรียกชื่อพี่สาวของชิโนบุ ก็ดังแว่วเข้าหูของเขา ท่าทีตื่นตระหนกของเจ้าหล่อนยามเห็นต้นแขนเสาหลักบุปผายังมีเลือดซึมไหลออกมาเป็นอะไรที่บีบคั้นจิตใจเขายิ่งกว่ายามที่เธอได้รับบาดแผลนั้น

 

เป็นครั้งแรกที่ชินาซึงาวะ ซาเนมิ นึกเห็นใจเด็กสาวร่างเล็กที่มักมีปากเสียงกับเขาอยู่เป็นเนืองนิตย์ ความรู้สึกเจ็บปวดที่เห็นครอบครัวที่รักยิ่งได้รับบาดเจ็บโดยทำอะไรไม่ได้ของเธอคงเหมือนกันกับยามที่เขาเห็นภาพน้อง ๆ หมดลมหายใจไปทีละคนสองคน

 

นัยน์ตาสีม่วงเข้มคู่โตบัดนี้คลอหน่วยไปด้วยหยาดน้ำตายามเจ้าหล่อนถลาเข้าไปปฐมพยาบาลผู้เป็นพี่สาวของเธอยิ่งตอกย้ำความรู้สึกโกรธเคืองในความอ่อนด้อยของเขาที่ปล่อยให้อสุรกายตนนั้นโจมตีเธอคนนั้นจนถึงเลือดตกยางออก

 

เพราะเขาปกป้องเธอไว้ไม่ดีเอง...

 

เด็กคนนี้ถึงได้เกือบสูญเสียพี่สาวร่วมสายเลือดเพียงหนึ่งเดียวของเธอไป...

 

ความขื่นขมต่อการตระบัดสัตย์ที่ได้ให้ไว้กับเธอระคนกับความเจ็บปวดที่ต้องเห็นผู้หญิงที่เขารักบาดเจ็บโดยที่ตัวเองปกป้องไว้ไม่ได้ ทำเขายอมปล่อยตัวตามมืออันคุ้นเคยกลับมายังคฤหาสน์ผีเสื้อที่เพิ่งจากมาเมื่อไม่กี่ชั่วยามก่อน

 

สภาพบาดแผลของเขาและคานาเอะที่แม้จะผ่านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นมาแล้ว ยังคงสร้างความตื่นตระหนกผู้ที่ได้พบเห็น หากความโกรธขึ้งที่แผ่ซ่านจากร่างของเสาหลักบุปผาผู้แสนอารี กลับสร้างความตกตะลึงแก่บรรดาเด็กสาวในคฤหาสน์ผีเสื้อ ด้วยบัดนี้ริมฝีปากสีชาดที่มักจะยิ้มแย้มให้ผู้อื่นกลับเม้มปากแน่น ราวกับระงับโทสะและความรู้สึกหลายสิ่งอันจวนเจียนจะปะทุขึ้นมา

 

กลายเป็นเด็กสาววัยย่างสิบสี่อย่างโคโจ ชิโนบุ ที่ต้องสั่งการให้คันซากิ อาโออิ จัดเตรียมน้ำชาร้อนและของว่างมาให้เสาหลักทั้งสองที่ยังคงหันหน้าไปคนละทิศ สภาพที่ยามปกติคงเรียกรอยยิ้มจากเด็กสาวร่างเล็กผู้กลายเป็นผู้บัญชาการชั่วคราวของคฤหาสน์ผีเสื้อแทนที่เสาหลักบุปผาที่ยังยืนเฉย ไม่มองหน้าใครแม้แต่คนเดียว

 

แต่ท่าทีของคนเป็นพี่ทำน้องสาวร่วมสายเลือดเป็นกังวลมากกว่าดีใจ ด้วยแทบตลอดชีวิต เธอไม่เคยเห็นพี่สาวคนนี้แสดงสีหน้าแบบนี้ให้ใครเห็น แม้แต่ยามที่ลงมือปราบอสูรร้าย หรือยามที่ต้องเห็นบิดามารดาถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา

 

“น้ำชาพร้อมแล้วค่ะ ท่านคานาเอะ ท่านเสาหลักวายุ....”

 

นัยน์ตาสีชมพูของเธอคนนั้นหันไปสบกับนัยน์ตาสีฟ้าเข้มของเด็กสาวกำพร้าที่เธอเลี้ยงมาไม่ต่างจากน้องสาวในไส้ นัยน์ตาที่ทอดมองเหล่าน้อง ๆ ของเธออย่างอ่อนโยนกว่าเมื่อครู่ หากริมฝีปากสีชาดก็ยังคงเม้มแน่นด้วยอารมณ์

 

“ขอบคุณมากจ้ะอาโออิ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้นะ....”

 

เด็กสาวผมแกละชะงักงันกับคำปฏิเสธอย่างชัดเจนจากประมุขของบ้าน นัยน์ตาสีฟ้ากลมโตของเจ้าหล่อนหันมาสบตากับนัยน์ตาสีม่วงของบุคคลผู้อาวุโสรองลงมา ไม่ทันที่ชิโนบุจะทันได้เอ่ยทักท้วงอะไร น้ำเสียงนุ่มนวลแต่เต็มไปด้วยความเด็ดขาดสมฐานะเสาหลักของหน่วยพิฆาตอสูรก็เอ่ยกำชับอีกครั้งนึง

 

“ขอพี่อยู่กับท่านเสาหลักวายุตามลำพังนะ มีเรื่องที่จะต้องสะสางกับเขาหน่อย รบกวนอาโออิและชิโนบุช่วยออกไปรอข้างนอกก่อนนะ ถ้าง่วงแล้วก็ขึ้นไปนอนได้เลยจ้ะ ไม่ต้องรอ...”

 

คำประกาศิตที่เด็กสาวทั้งสองมองหน้ากันอย่างไม่พอใจ หากไม่อาจทักท้วงได้ ทำได้เพียงจนใจเดินออกจากห้องปฐมพยาบาลตามคำสั่งแรกแต่โดยดี

 

แต่เมื่อประตูห้องปฐมพยาบาลปิดสนิทและมั่นใจว่าบุคคลในห้องไม่อาจรู้เห็นการกระทำของพวกตน เด็กสาวร่างเล็กหากสูงวัยกว่ารีบกวักมือเรียกเด็กสาวในผ้ากันเปื้อนให้เดินตามตนเข้าไปยังห้องตรวจอีกห้องที่อยู่ข้างกัน ก่อนจะเอาหูของตนแนบกำแพงให้ชิดที่สุดเท่าที่ตนจะทำได้ ไม่แยแสต่อคำสั่งที่สองที่ได้รับ

 

ด้วยความเป็นห่วงบุคคลผู้เป็นที่รักยิ่งของพวกเธอ...

 

แสงจันทร์เดือนเพ็ญสาดส่องช่องหน้าต่างต้องร่างทั้งสอง แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้อยู่ตามลำพังกับเธอคนนี้ หากห้องที่เคยคุ้นบัดนี้กลับปกคลุมด้วยความอึดอัดจนหายใจแทบไม่ออก ราวกับลมสงบก่อนพายุจะโหมพัด

 

นัยน์ตาสีชมพูอ่อนคู่นั้นทอดมองเขาด้วยสายตาที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนนับแต่รู้จักกัน ความรู้สึกที่ผสมปนเปจนไม่อาจแยกออกได้ว่าบัดนี้คนตรงหน้าอยู่ในอารมณ์ใด มันปะปนทั้งความโกรธขึ้งที่เขาไม่เคยได้สัมผัส ระคนความผิดหวังที่เขาหวั่นเกรง และเจือด้วยความเศร้าที่เขาไม่อยากเห็น

 

รวมถึงความอาวรณ์แบบเดียวกับที่เขาเห็นก่อนที่ชิโนบุจะมาถึง...

 

ริมฝีปากสีชาดเม้มแน่นอยู่ครู่ใหญ่ ลำนำลมฝนที่กระโชกราวกับโหมโรงบทเพลงแห่งพายุพัดผ่านลอดซี่หน้าต่างดังหวีดหวิวแข่งกับเสียงหัวใจของร่างทั้งสองที่ดังอยู่ในอกไม่แพ้กัน ก่อนหญิงสาวจะเอ่ยเสียงที่แม้จะเบาจนแทบกระซิบ แต่ก็เต็มเปี่ยมด้วยอารมณ์ยิ่งกว่ายามที่เขาไล่เธอกลับไปเมื่อช่วงหัวค่ำ

 

ทำไมถึงทำร้ายตัวเองอีกแล้วคะ ชินาซึงาวะคุง....”

 

“มันกงการอะไรของเจ้า!”

 

ซาเนมิแค่นคำพูดออกมา รู้แต่แรกว่าเธอคนนี้จะต้องพูดประโยคนี้ออกมา รู้แต่แรกว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำต่อไปคงทำร้ายจิตใจผู้หญิงแสนดีงามคนนี้ยิ่งกว่าครั้งไหน แต่มันอาจจะดีกว่าถ้าเขาจะยุติความสัมพันธ์สุดแสนประหลาดแต่เต็มเปี่ยมล้นด้วยความอ่อนหวานนี้ลงแต่เพียงเท่านี้

 

แม้จะเจ็บปวด... แต่ดีกว่าการที่เขาต้องผิดสัญญากับเธอซ้ำแล้วซ้ำอีก

 

ตราบใดที่เธอและเขายังต้องร่วมงานกันต่อไป ถ้าเพื่อให้เธอคนนี้ปลอดภัย เขาก็จะยอมใช้เลือดหายากเพื่อขจัดภยันตรายที่อาจย่างกรายมาถึงเธอได้...

 

ถึงจะทรมานแค่ไหน... แต่เขายอมให้เธอเกลียด ดีกว่าต้องเสียเธอไปตลอดกาล!

 

คานาเอะตกตะลึงกับวาจาหยาบกร้านของเขาตามคาด บัดนี้นัยน์ตาสีชมพูอ่อนคู่สวยนั้นจ้องเขาด้วยแววตาปวดร้าวอย่างที่ไม่เคยเป็น ไม่ต่างจากคนพูดที่เจ็บปวดราวกับใช้คมดาบกรีดหัวใจตัวเองให้เป็นริ้ว ๆ

 

“เพราะฉัน...”

 

เสียงนุ่มนวลที่ติดอยู่ในความทรงจำสั่นไหวยิ่งกว่าครั้งนั้น ความสั่นไหวที่เขาตัดสินใจระเบิดโทสะออกมาปิดบังความอ่อนแอในใจ

 

“เจ้าจะสนทำไม! ในเมื่อข้าเองยังไม่สน! ข้าไม่สนเลยว่าข้าจะเจ็บหรือจะตาย!ตราบใดที่ข้าสังหารอสูรพวกนั้นได้ ข้าก็จะทำ! ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อกำจัดมันให้สิ้นซาก! ไม่มีอะไรที่ข้าต้องเสียอยู่แล้ว!”

 

คำโกหกคำโตถูกโพล่งออกมา คำโกหกที่ตรงข้ามกับความอ่อนไหวในจิตใจ แต่เขาไม่อยากให้ความอ่อนไหวที่หลงเหลือพาเธอต้องเจ็บปวดด้วยการกระทำของเขาอีกแล้ว...

 

ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง บัดนี้เสาหลักวายุเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนีนัยน์ตาตัดพ้อของอีกฝ่าย ไม่อาจสบตานัยน์ตาที่ทรงอิทธิพลต่อเขายิ่งกว่าใครบนโลก

 

หากยังเป็นอยู่อย่างนี้ต่อไป เขาก็คงต้องทำเธอเจ็บซ้ำซากต่อไปเรื่อย ๆ

 

ถ้าคุเมโนะคุงยังอยู่...”

 

เพราะหมอนั่นมันไม่อยู่แล้วไง! มาซาจิกะตายไปแล้ว!ตายไปเพราะไอ้อสูรเวรตะไลที่เจ้าอยากญาติดีด้วย ข้าไม่ใช่เจ้านะโคโจที่จะได้เที่ยวมีเมตตากับไอ้พวกระยำที่คร่าชีวิตคนไปทั่ว!ไม่มีวัน!

 

ชื่อของเพื่อนรักผู้ล่วงลับทำซาเนมิกัดฟันกรอดอย่างปวดร้าว เพราะเขาเสียมาซาจิกะไปแล้ว เขาถึงไม่อาจเสียเธอได้อีกคน

 

ภาพเพื่อนรักยามถูกอสูรข้างแรมที่หนึ่งใช้มือทะลวงท้องยังคงติดตาจนถึงวันนี้ แต่ภาพยามที่เงาของอดีตอสูรข้างแรมที่หกตนนั้นเฉียดคอผู้หญิงแสนดีคนนี้ทำหัวใจของเขาแทบหยุดเต้น ความหวาดกลัวที่จะเสียเธอคนนี้หยั่งรากลงในจิตใจยิ่งกว่าครั้งสูญเสียครอบครัวทั้งหมดไปในคืนนั้น

 

แม้จะเจ็บปวดกับความสูญเสียครอบครัวไปเกือบทั้งหมด สูญเสียเพื่อนรักไปตลอดกาล...

 

แต่กับเธอคนนี้... คนที่เป็นแสงสว่างหนึ่งเดียวที่ยังเหลือ...

 

เขาไม่อาจจินตนาการถึงโลกนี้ที่ไม่มีเธอได้...

 

มันคงเจ็บปวดยิ่งกว่าตายทั้งเป็น!

 

ฟังข้าให้ดีนะโคโจ... เจ้าก็มีวิธีการของเจ้า ข้าก็มีวิธีการของข้า...” ซาเนมิสะกดน้ำเสียงตัวเองไม่ให้สั่นเครือ “เพื่อกำจัดไอ้พวกสัตว์นรกพวกนั้นให้สิ้นซาก ข้าจะทำทุกวิถีทาง ต่อให้ต้องกรีดเลือดอีกกี่ร้อยครั้งพันครั้ง ข้าก็จะทำ! ต่อให้ต้องกรีดเลือดจนตัวข้าตาย ข้าก็จะทำ! ต่อให้ข้าต้องตายไปตกนรกขุมที่ลึกที่สุด ข้าก็จะทำ!”

 

แม้จะพยายามอย่างถึงที่สุด แต่ซาเนมิไม่อาจสะกดกลั้นอารมณ์ที่สะสมมาตั้งแต่ยามอสูรกายตนนั้นบุกเข้าโจมตีเธอคนนี้ไว้ได้แล้ว พายุในใจของชายหนุ่มนั้นรุนแรงกว่าพายุที่พัดโหมภายนอก ด้วยโทสะและความกลัวที่เกิดขึ้นเพียงเพราะผู้หญิงคนเดียว

 

บัดนี้เขายอมทุกอย่าง... ยอมที่จะต้องเป็นปีศาจร้ายในสายตาของเธอ ยอมที่จะเป็นคนตระบัดสัตย์ที่เคยให้ ยอมที่จะถูกเกลียดชังน้ำหน้า ยอมที่นัยน์ตาคู่นี้อาจไม่หันมามองเขาอีกต่อไป...

 

ขอแค่เธอปลอดภัย ต่อให้ต้องลงนรกขุมไหน เขาก็ยอม...

 

ทำไมพูดจาโหดร้ายแบบนี้อีกแล้วคะ...”

 

เสียงสั่นเครือของเธอดังขึ้น เสียงสั่นเครือบาดลึกยิ่งกว่าที่เคยได้ยินในเช้าวันนั้นทำหัวใจเขาสั่นสะท้าน จนเขาแทบล้มเลิกความตั้งใจแล้วให้หันกลับไปมองใบหน้าของเธออย่างที่จิตใต้สำนึกของเขาร่ำร้อง

 

เหอะ! ข้ามันคนโหดร้าย ไม่ใช่คนใจดีที่เที่ยวผูกมิตรกับใครไปทั่วนี่! กับอสูรก็ไม่เว้น!”

 

ไม่ค่ะ คุณไม่ใช่คนโหดร้าย แต่ฉันหมายถึง... ทำไมคุณถึงโหดร้ายกับตัวเองได้ขนาดนี้คะ...”

 

ถ้อยคำที่ทำเขาชะงักงัน หากไม่ทันจะได้ทำอะไรต่อ สัมผัสไออุ่นที่ขยับแทบมาชิดแผ่นหลังกว้างของเขาทำให้รู้ว่าเธอขยับเข้ามาใกล้เขามากกว่าเมื่อครู่ มากจนสามารถสัมผัสถึงลมหายใจที่เป่ารดแผ่นหลังของเขาเบา ๆ

 

บัดนี้เธอขยับมายืนเคียงกาย ประชิดจนแทบไม่มีช่องว่างขวางกั้น จนเขาต้องเบือนหน้าหนีไปด้านขวามือ ทิศทางเดียวที่เธอคนนั้นจะไม่อาจเห็นสีหน้าใดของเขา ทิศทางเดียวที่เขาจะไม่ต้องทนเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของเธอ

 

สัมผัสของมือที่เคยคุ้นค่อย ๆ แตะลงยังบาดแผลที่ถูกตกแต่งไว้ลวก ๆ ด้วยฝีมือของชิโนบุอย่างแผ่วเบา ก่อนมือคู่นั้นจะกอบกุมมือเขาไว้อย่างแน่น ราวกับกลัวจะถูกสลัดออกไปอีกครั้งหนึ่ง

 

“ที่คุเมโนะคุงไม่ชอบให้ชินาซึงาวะคุงทำแบบนี้ เพราะคุเมโนะคุงไม่อยากเห็นคุณต้องเจ็บค่ะ...”

 

คำพูดของเธอดึงย้อนความทรงจำที่มีร่วมกับคุเมโนะ มาซาจิกะ เพื่อนรักเพียงหนึ่งเดียว เพื่อนรักผู้จากไปไกลไม่เคยพอใจกับวิธีการนี้ของเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว คำเทศนามากมายที่เขาฟังจนแทบจะอุดหูเพราะเอือมระอา หากลึก ๆ ซาเนมิก็รู้อยู่เต็มอก ว่าทำไมเพื่อนรักคนนี้ถึงต้องคอยตักเตือนทุกครั้งที่เขาทำพฤติกรรมแบบนี้

 

ทุกครั้งที่เขากลับมาพร้อมกับบาดแผลนับไม่ถ้วน ยิ่งเป็นบาดแผลที่เขาสร้างขึ้นด้วยน้ำมือตนเอง ถึงมาซาจิกะจะโกรธเคืองเขามากแค่ไหน แต่นัยน์ตาที่ทอดมองมาก็เต็มไปด้วยแววอ่อนใจระคนห่วงใยแทบทุกครั้ง

 

ไม่ต่างจากที่เขามองเกนยะยามชกต่อยกับเด็กข้างบ้านเพื่อปกป้องน้อง ๆ คนอื่นในอดีต

 

หลายครั้งที่เขาลงเอยด้วยการวิวาทกับมาซาจิกะด้วยเรื่องการใช้เลือดหายากของเขา ราวกับการที่เขาทำตัวเองให้บาดเจ็บเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้คนอารมณ์ดีอย่างศิษย์พี่ของเขาลุแก่โทสะได้ไม่ต่างจากยามต้องฟาดฟันกับอสูรร้าย

 

เพราะอีกฝ่ายเป็นห่วงเขาไม่ต่างกับพี่ชายที่ห่วงใยน้องชายแสนดื้อดึง

 

นัยน์ตาสีม่วงอ่อนหุบลงอย่างเพียรสกัดกั้นหยาดน้ำตาที่จวนเจียนจะรินไหล ความทรมานจากการสูญเสียทุกคนไปด้วยฝีมือของอสูรยังคงเป็นเสี้ยนหนามในใจของซาเนมิ ไม่ว่าจะผ่านไปเนิ่นนานแค่ไหนก็ตาม

 

และที่จริงในตอนนั้น การที่เขาใช้เลือดหายากก็ไม่อาจช่วยชีวิตมาซาจิกะให้พ้นจากการจู่โจมจนถึงแก่ชีวิต...

 

“ส่วนฉัน... ไม่ใช่ฉันไม่ชอบทำแผลให้ชินาซึงาวะคุงนะคะ” สองมือที่กุมมือซ้ายของเขาไว้แน่นบัดนี้สั่นระริกกว่าครั้งไหน ๆ “แต่ฉันเจ็บปวดทุกครั้งที่คุณเจ็บตัวกลับมา ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม และพอรู้ว่าคุณต้องทำร้ายตัวเองเพื่อใช้เลือดหายาก... ฉันถึงได้เจ็บปวดยิ่งขึ้นไงคะ”

 

หยาดน้ำร้อนสัมผัสลงบนข้อมือของเขา ทำให้ชายหนุ่มสูญเสียการควบคุมตัวเองลงอย่างสิ้นเชิงจนต้องหันกลับมาเผชิญหน้าคนที่ยืนอยู่ด้านซ้ายของเขา สบตากับนัยน์ตาสีชมพูคู่สวยที่บัดนี้วาววับด้วยหยาดน้ำตาที่ไหลรินไม่ขาดสาย น้ำตาของเธอที่เขาแทบไม่เคยได้เห็นนอกจากเช้าวันนั้น หยาดน้ำตาที่ทำหัวใจของเขาเจ็บปวดยิ่งกว่าตอนที่อสูรตนนั้นพุ่งเข้าจู่โจมเธอ

 

“และยิ่งเจ็บปวดมากที่วันนี้คุณต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉัน

 

คานาเอะว่าพลางคลี่ยิ้มอ่อนหวานแสนเศร้าอย่างที่เขาไม่เคยได้เห็น พร้อมกับ ยกมือขวาเอื้อมสัมผัสใบหน้าด้านซ้ายของเขาที่ยังเต็มด้วยคราบเลือดอย่างแผ่วเบา ก่อนเอ่ยถ้อยคำที่ประดุจลูกศรทำลายล้างความตั้งใจที่จะตัดเธอออกจากชีวิตของเขาให้สลายลงในชั่วพริบตา

 

“คุณทำทั้งหมดไปเพราะต้องการจะช่วยฉันใช่ไหมคะ ซาเนมิคุง...”

 

==========

Author's Talk 21 APR 2021

จบไปแล้วนะคะกับ Day 15

ก่อนอื่นต้องถามว่า นั่งรถไฟเหาะสนุกไหมคะทุกคน ^^

เปิดมาอย่างดราม่า ซาเนมินี่ เห้อ บางทีก็น่าจับฟาดอยู่ไม่น้อยนะคะ คิดเองเออเออจริง ๆ คิดว่าจะผลักเค้าไปเพื่อความปลอดภัยของเค้า คิดว่าเค้าคงเกลียดที่ตัวเองใช้เลือดหายาก...

แต่ตอนท้ายนี่สิ หึ ๆ พี่สาคะ คุณรู้จักโคโจ คานาเอะน้อยไป!!

เป็นบททะเลาะที่เรารู้สึกเหมือนเห็นสองคนนี้โต้เถียงกันนะ ตอนแรกคานาเอะโกรธจริง ๆ แต่คิดว่าคนอ่านน่าจะเดาความโกรธของคานาเอะได้นะคะ ไม่ใช่โกรธที่ซาเนมิผิดสัญญาแน่ ถ้าให้เราเดาความคิด พี่คานาเอะโกรธที่ซาเนมิเจ็บตัวอีกแล้ว และต้องเจ็บตัวเพราะเธอนี่แหละค่ะ

น่าจะพอเก็ตนะคะว่าทำไมเราเฝ้ารอการเขียนบทนี้มาก... ครบเลย ทั้งหมาบ้าสติแตก ทั้งพี่คานาเอะน้ำตาแตก ไหนจะฉากตอนท้ายที่แบบ... พี่สาคะ ยังมีชีวิตอยู่ไหม หัวใจวายตายไปยัง : D

ในมุมเรา ไม่แปลกใจเลยที่คานาเอะจะโกรธซาเนมินะ มันเหมือนไม่เชื่อใจกันเลยจริง ๆ รู้ว่าเป็นห่วง แต่เอาตัวเองเข้าแลกนี่มันก็เจ็บนะคะ

มาถึงจุดนี้ ทุกคนคงเดาได้อยู่แล้วนะคะว่าคานาเอะรู้สึกยังไงกับพ่อหมาป่าคนนี้... พี่คานาเอะ!! พี่บุกลุยอีกแล้วค่า!! เค้าเรียกชื่อพี่ซาเนมิแล้ว!! เราเป็นพี่สาเราก็ไม่สนแล้วค่ะจุดนี้ ใจอ่อนยวบเป็นเนยเหลวแน่

ยังไงต้องรอดูบทหน้านะคะว่าสองคนนี้เค้าจะว่ายังไงต่อ แต่เชื่อว่าน้องชิโนบุที่แอบฟังอยู่ต้องไม่ถูกใจสิ่งเหล่านี้แน่ค่ะ ^^

มีเรื่องแจ้งนิดนึงนะคะ

ช่วงนี้เราค่อนข้างวุ่นกับที่บ้านมาก (ถ้าคนตามทวิตน่าจะพอเห็นได้ว่าหนักอยู่) กับเสาร์อาทิตย์นี้เรามีฟอลโลว์อัพกับหมอทั้งสองวันเลยค่ะ เราเลยไม่แน่ใจว่าจะอัพบทที่ 16 ได้ทันวันเสาร์ไหม แต่ก็ไม่อยากข้ามไปถึงพุธหน้าเหมือนกัน เพราะไม่อยากให้คนอ่านลงแดงด้วย

เราจะพยายามโพสต์ตามกำหนดเดิมนะคะ แต่อาจจะมีโอกาส 30% ที่ลงไม่ทันวันเสาร์ ซึ่งยังไงจะพยายามลงให้ทันวันอาทิตย์นะคะ แต่ถ้าวันนี้เราสามารถเขียนบทที่ 16 เสร็จได้ (ซึ่งเริ่มเขียนละ) ก็คิดว่าลงได้ตามเดิมแน่ค่ะ

ยังไงส่งกำลังใจให้เราไฟต์กับวิกฤตช่วงนี้ด้วยนะคะ ^^

สุดท้ายนี้ ขอบคุณคนอ่านทุกคน ทุกกำลังใจ ทุกคอมเมนต์นะคะ ช่วงนี้แค่มีคนอ่านหรือคนร่วมหวีดกับเราก็เป็นอะไรที่ฮีลจิตใจเรามากแล้วค่ะ ^^ เป็นช่วงที่สาหัสสำหรับเราจริง ๆ แต่ได้เห็นคนสนุกกับการอ่านงานของเรา เราก็ดีใจมาก ๆ นะคะ

อย่าลืมรักษาสุขภาพด้วยนะคะ แล้วมาลุ้นกับตอนที่ 16 กันดีกว่า ซึ่งเราก็อดใจรอจะเขียนให้จบไม่ไหวแล้วเหมือนกันค่ะ ^^

Author's Talk 06 NOV 2022

สวัสดีค่า มาถึงคิวลงฉบับ Rewrite สำหรับรวมเล่มนะคะ เพื่อให้เนื้อหาออกมาสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ค่ะ

ไม่ชินกับการทำงานในวันเสาร์อาทิตย์ (ที่นอกเหนือจากงานเขียน) เท่าไรเลยค่ะ ^^" เหมือนห่างหายไปนานมาก แต่ก็เหมือนไม่ได้ทำอะไรมากเท่าไร เสียงซูมเดี๋ยวไม่ได้ยิน/เดี๋ยวดังจนปวดหูเลยค่ะ

แต่คิดว่าวีคนี้น่าจะเริ่มกลับเข้ารูปเข้ารอยแล้ว เว้นแต่พวกงานที่ได้รับมอบหมายใหม่ค่ะ นี่ย้ายแผนกครั้งแรกตั้งแต่เข้าทำงานมาเลย

ตอนนี้ เราลงสปอยตัวอย่างงานแอนโธออริโปรเจค #LetLoveBreakUsApart ของคุณInnara @herpensss แล้วค่ะ ของเราเป็นเรื่องสั้นชื่อ "เหลือเพียงรอยจารึก" (Timelapse) ค่ะ ดูรายละเอียดได้เลย <3

จั่วชื่อโปรเจคมาแบบนี้ น่าจะชินกับแนวแอ๋งละมุนของเรากันเนอะ (แต่รับรองว่าเรื่องนี้ไม่มีใครตายนะคะ : D)

อนึ่ง ใครที่พลาดงาน CA 7 แล้วยังอยากเก็บเล่มนี้ สามารถดูรายละเอียดเบื้องต้นของรวมเล่มทั้งสองเล่ม ฉบับปรับปรุงล่าสุด 15 OCT 2022 มาให้ได้ศึกษานอกเหนือจากตัวฟิคที่สามารถอ่านตอนหลังได้ใน ReadAWrite | Dek-D | ReadHaus นะคะ

รายละเอียด KNY FF - In Time With You #ห้วงเวลาของเราสอง (Tomioka Giyuu x Kochou Shinobu)

รายละเอียด KNY FF - In The Remembrance of Her #แด่เธอในความทรงจำนิรันดร์ (Shinazugawa Sanemi x Kochou Kanae)

ถ้าสนใจ จิ้มลิงค์สั่งจองด้านล่างได้เลยค่ะ หรือดูรายละเอียดพร้อมกรอกแบบฟอร์มได้ที่นี่นะคะ [Link]

แต่ทั้งนี้ ใครไม่สะดวกไม่เป็นไรนะคะ รับรองได้อ่านเนื้อหาเหมือนเดิม และในรูปแบบ Rewrite เหมือนกันค่ะ เพียงแต่อาจจะได้อ่านตอนพิเศษช่วงท้ายหลังจากเราส่งเล่มล็อตแรกนะคะ

หรือไม่ก็รอตอนเราเปิดพรีอีกรอบ ช่วงเราทำแอนโธ Days Rise, Nights Fall หรือเขียน KNY FF - The Tales of Butterfly Effects จบค่ะ ^^ ช่วงต้นปีหน้าอย่างเร็วเลย

แล้วเจอกันกับรีไรท์ตอนที่ 16 ในวันอังคารค่ำ ๆ นะคะ อย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยค่ะ ^^