Day 19 - Sakura

 

Prompt: “I can’ t do this anymore”

 

1st Published : 06 MAY 2021

Rewrite : 16 NOV 2022

==========

 

เวลายังคงดำเนินต่อไป จนถึงวสันตฤดู

 

ชินาซึงาวะ ซาเนมิ สาวเท้าก้าวผ่านรั้วเข้ามายังบริเวณคฤหาสน์ผีเสื้อ สายลมเย็นสดชื่นของต้นฤดูใบไม้ผลิทำจิตใจของชายหนุ่มแช่มชื่นกว่าปกติเป็นพิเศษ ก่อนหยุดยืนอยู่ตรงหน้าต้นซากุระขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าของตัวบ้าน สายลมพัดพากลีบดอกซากุระให้ปลิวไสวจนแทบจะย้อมท้องฟ้าให้เป็นสีชมพูอ่อน ภาพอันงดงามตระการตาเกินกว่าจะหาเพียงหนึ่งถ้อยคำมาบรรยายได้

 

ทั้งที่ซาเนมิมาเยือนคฤหาสน์ผีเสื้อมานับครั้งไม่ถ้วน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสังเกตเห็นซากุระต้นนี้ ความสูงใหญ่ของต้นซากุระเป็นสิ่งที่สะดุดตาเขาก่อนสิ่งใด คะเนแล้วต้นไม้ต้นนี้คงมีอายุยืนยาวมานับหลายทศวรรษ

 

กระนั้น ภาพความงดงามของฤดูกาลที่ปรากฏเบื้องหน้าก็เรียกรอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ความบอบบาง ความอ่อนโยน หากแฝงด้วยความสง่างามของต้นซากุระที่เขาเห็นนั้นชวนนึกถึงสตรีคนหนึ่งที่อยู่ในหัวใจของเขาทั้งยามหลับและยามตื่น

 

โคโจ คานาเอะ เสาหลักบุปผาผู้เป็นเจ้าคฤหาสน์ผีเสื้อแห่งนี้...

 

และหญิงสาวผู้ครอบครองและเป็นเจ้าของหัวใจของเขา...

 

มือหยาบกร้านกระชับห่อของที่เขาบรรจงนำมาจากบ้านบัดนี้สั่นเทานิด ๆ ยามเกิดคำถามในใจว่าเธอจะชอบสิ่งที่เขาทำมาให้หรือไม่ ความหวั่นไหวในใจเรียกเลือดสูบฉีดขึ้นทั่วหน้าของซาเนมิ ก่อนคิ้วของเจ้าตัวจะขมวดแน่นเมื่อสัมผัสได้ถึงความผิดปกติในคฤหาสน์แห่งนี้...

 

คฤหาสน์ที่ปกติเต็มด้วยเสียงจ้อกแจ้กจอแจของเหล่าคนเจ็บและกลุ่มเด็กสาวที่อยู่ใต้การดูแลของเสาหลักบุปผา บัดนี้กลับเงียบกริบดั่งไร้ซึ่งผู้คน ความเงียบที่ทำหัวใจของเสาหลักวายุไหววูบ จนอดที่จะใช้มืออีกข้างกระชับด้ามดาบตรงเอวไว้ แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีทางที่อสูรจะเข้ามาทำอะไรที่แห่งนี้ได้ ด้วยดอกฟูจิที่ปลูกรายล้อมรอบคฤหาสน์แห่งนี้ไว้

 

ชายหนุ่มเหลียวซ้ายแลขวา พยายามสังเกตการณ์การเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตของใครสักคนที่ควรจะปรากฏกายให้เขาเห็น ไม่ว่าจะเป็นอาโออิที่ปกติจะคอยจัดแจงทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ในบ้านอยู่ ณ เวลานี้ หรือยัยเด็กหน้ายักษ์ผู้เป็นน้องสาวของเธอที่น่าจะปรากฏกายแทบจะทันควันทันทีที่เขาย่างเท้าเข้ามาพร้อมชักสีหน้าไม่พอใจอย่างออกนอกหน้า หรือเด็กสาวตัวกระจ้อยร่อยสามคนที่มักจะวิ่งวุ่นส่งเสียงจ้อกแจ้กให้พอได้ยิน

 

แต่บัดนี้ มีเพียงเสียงลมพัดเหล่าแมกไม้ให้เขาได้ยินเท่านั้น..

 

ความวิตกเริ่มบังเกิด จนซาเนมิตัดสินใจเสียมารยาทเดินดุ่มเข้าคฤหาสน์ผีเสื้อโดยไร้ซึ่งคนนำทางเหมือนเช่นปกติ ความเงียบกริบที่ทำหัวใจของชายหนุ่มสั่นไหวด้วยความเป็นห่วงคนรักและเด็ก ๆ ผู้เป็นครอบครัวของเธอ จนสาวฝีเท้าเร็วเกือบเป็นวิ่งเข้าออกตามห้องปฐมพยาบาล ห้องพักผู้ป่วย ห้องครัว...

 

ความว่างเปล่าอันเงียบสงัดที่เผชิญยิ่งทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงด้วยความหวาดกลัว หากก่อนจะตะโกนเรียกชื่อของคนรัก ร่างของเขาก็เกือบปะทะกับร่างเล็กของเด็กผู้หญิงวัยไล่เลี่ยกับเกนยะ บุคคลที่เขาไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์ด้วยมาก่อน

 

นัยน์ตากลมสีชมพูอ่อนละม้ายคล้ายเธอคนนั้นจับจ้องหน้าเขาดูสั่นเทานิด ๆ แต่อย่างน้อยการปรากฏกายของเด็กคนนี้ก็ทำให้เขาโล่งใจขึ้นมาหนึ่งเปราะ

 

“คนอื่นไปไหนกันหมด...”

 

เด็กสาวมองไปรอบด้านอย่างใช้ความคิด แต่เมื่อเขาถามย้ำอีกครั้ง เธอจึงค่อย ๆ เอื้อมมือที่สั่นระริกนิด ๆ หยิบเหรียญออกมาโยน กิริยาพิลึกพิลั่นที่ทำเขาชะงักงัน หากครั้นนัยน์ตาสีชมพูเห็นผลที่ออกมาที่ดูจะเป็นที่พอใจของเธอ จึงค่อย ๆ เอ่ยเสียงแผ่วเบาจนแทบกระซิบตอบคำถามของเขา

 

“พี่ชิโนบุ อาโออิ แล้วก็คนอื่น ๆ ไปซื้อของ ส่วนพี่คานาเอะคงอยู่ในห้องค่ะ”

 

คำบอกกล่าวที่ทำเสาหลักวายุถอนใจด้วยความโล่งอก แล้วเอ่ยขอบคุณซึยูริ คานาโอะ เบา ๆ แล้วมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่นำพาเขาสู่ห้องนอนของเธอ

 

เขาเคาะประตูเบา ๆ เป็นสัญญาณ หากเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับใด ความร้อนใจทำให้ซาเนมิเลือกจะผลักบานประตูเลื่อนออกโดยไม่รอความยินยอมจากเจ้าของห้องด้วยวิตกจนถึงขีดสุด

 

ภาพหญิงสาวผู้เป็นที่รักของเขานอนหลับทำเขาถอนใจออกมาอย่างโล่งอกอีกครั้งหนึ่ง ก่อนความกังวลจะพุ่งเข้าสู่จิตใจ เพราะตั้งแต่ที่ได้รู้จักกับคานาเอะ เขาไม่เคยเห็นเธอนอนยาวจนถึงช่วงใกล้เที่ยงเหมือนอย่างวันนี้

 

ซาเนมิหย่อนสะโพกนั่งข้างคนหลับ อาการกระสับกระส่ายของเธอบ่งบอกว่าคานาเอะคงกำลังฝันร้ายบางอย่าง เสียงละเมอแผ่วเบาที่พอจับใจความได้ว่าเธอคงฝันถึงเหตุการณ์คืนที่อสูรจู่โจมครอบครัวของเธอเมื่อหลายปีก่อน

 

มือของเขาเขยิบเอื้อมไปลูบศีรษะของเธออย่างแผ่วเบา ขณะที่คานาเอะละเมอปลอบประโลมน้องสาวให้พ้นจากฝันร้าย ถ้อยคำรำพันว่าทุกสิ่งจะต้องเรียบร้อยอย่างที่เขาเคยได้ยินบ่อยในช่วงหลังเวลาที่เธอเผลอหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน

 

หากประโยคต่อมา เรียกนัยน์ตาสีม่วงอ่อนจ้องมองคนรักอย่างปวดร้าว ด้วยเสียงหวานละเมอเรียกชื่อเขาอย่างสั่นเครือ พร้อม ๆ กับหยาดน้ำตาที่รินไหล

 

“ซาเนมิ... อย่าไปนะ...”

 

ประโยคที่ทำให้คนฟันกัดกรามแน่น หัวตาร้อนผ่าวอย่างไม่อาจห้ามได้ การกระทำอันโง่เขลาของเขาในวันนั้นเพียงแค่ต้องการให้เธออยู่อย่างปลอดภัยกลับสร้างแผลใจให้คนที่เขารักมากกว่าที่เขาคิด

 

แม้เธอจะไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องในวันนั้นอีก แต่สิ่งที่เขาได้ทำลงไปทำให้เธอคงจะกลัวเขาออกไปจากชีวิตของเธออีกครั้ง... หรือไม่ก็กลัวที่จะสูญเสียเขาไปตลอดกาล...

 

ซาเนมิใช้มือที่หยาบกร้านประคองมืออันแสนอ่อนโยนของเธอเข้ามากอบกุมไว้แน่น มือคู่ที่คอยเป็นกำลังใจและคอยฉุดรั้งให้เขาในหลาย ๆ ครั้ง แท้จริงแล้วนั้นบอบบางกว่าที่ใครเห็น...

 

มือที่ต้องจับดาบเพื่อปกป้องคนที่เธอรัก มือที่คอยดูแลผู้คนในหน่วยพิฆาตอสูรให้หายจากอาการป่วยหรือบาดเจ็บ คือมือเดียวกับที่บิดเกร็งแน่นในอุ้งมือของเขา

 

ไม่เคยมีใครที่ได้เห็นความเจ็บปวดจากการต้องสูญเสียครอบครัวอันเป็นที่รัก ความเจ็บปวดที่ต้องยอมปล่อยให้น้องสาวร่วมสายเลือดคนเดียวเข้าสู่วังวนการต่อสู้ที่ไม่รู้จักจบ ความเจ็บปวดที่ต้องพบเห็นคนบาดเจ็บและคนตายไปต่อหน้าต่อตานับครั้งไม่ถ้วน ความเจ็บปวดที่เธอได้แต่ยอมรับไว้ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนสว่างไสว แล้วเก็บซ่อนมันไว้ลึกสุดโดยที่ไม่อยากให้ใครได้เห็น... นอกจากเขาคนนี้

 

เพียงเพราะไม่อยากให้ใครต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้...

 

เพียงเพราะต้องการเป็นที่พึ่งพิงให้ทุกคนที่แวดล้อมเธอ...

 

หลายครั้งที่เขาหลับสนิทลงได้ด้วยมือคู่นี้ คราวนี้ ขอให้มือของเขาเป็นฝ่ายปลอบประโลมยามที่เธอหลับใหล และเป็นที่พักพิงให้คนอ่อนล้าผู้นี้บ้างก็ยังดี

 

แม้จะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แต่ก็ขอให้เจ้าของมือคู่นี้ได้หลับอย่างเป็นสุข โดยที่ไม่ต้องนึกถึงเรื่องในอดีตอันแสนเจ็บปวด...

 

เพราะเขาจะอยู่ข้างเธอที่นี่ ตรงนี้ ไม่ไปไหนทั้งนั้น...

 

สัมผัสอ่อนโยนที่แตะแก้มของซาเนมิทำเขาสะดุ้งตื่นโดยฉับพลัน นัยน์ตาสีม่วงอ่อนกะพริบไปมาสองสามครั้งก่อนจับจ้องไปยังนัยน์ตาสีชมพูอ่อนที่มองเขาอย่างอ่อนโยน

 

“ทำไมมาแล้วไม่ปลุกฉันละคะ”

 

น้ำเสียงอ่อนหวานดังเข้าหู รอยยิ้มน้อย ๆ กับแสงอาทิตย์ยามบ่ายช่วยขับใบหน้าเจ้าหล่อนให้ดูสดใสกว่าเมื่อตอนเขามาถึง มือที่แตะไล้แก้มของเธอบัดนี้ไร้ซึ่งการบีบเกร็งเหมือนตอนที่เขาจับกุมไว้เมื่อครู่

 

“ข้าเห็นเจ้าหลับอยู่ เลยไม่อยากกวนน่ะ”

 

“เมื่อยมากไหมคะ”

 

“คงไม่มากไปกว่าตอนเจ้าเทียวเฝ้าข้าหรอกนะ...”

 

คำพูดที่เรียกเสียงหัวเราะน้อย ๆ ของเจ้าบ้านที่บัดนี้นัยน์ตาพราวระยับด้วยประกายแห่งความสุข ราวกับภาพหญิงสาวผู้เจ็บปวดกับการสูญเสียครอบครัวที่เขาเห็นเมื่อครู่เป็นเพียงภาพฝันกลางวันของเขาเพียงฝ่ายเดียว

 

สายลมอ่อนโยนพัดพากลีบดอกซากุระปลิวเข้าห้องมาตกใส่ผมของเธอ กลีบดอกไม้สีชมพูอ่อนจางบัดนี้แลดูโดดเด่นบนเรือนผมสีดำสนิททำให้ไม่ยากที่จะหยิบออกมา กิริยาที่เรียกรอยยิ้มอ่อนหวานของเธอ ก่อนจะเบือนหน้าหันไปมองทิวทัศน์นอกหน้าต่างอย่างอ้อยอิ่ง ท่าทีที่เขานึกรู้ทันความคิดของเธอก่อนที่เธอจะทันเอ่ยออกมา

 

“เดี๋ยวฉันขอเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเราลงไปดูดอกไม้กันนะคะซาเนมิคุง”

 

คำขอที่เขาไม่มีทางปฏิเสธได้ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์พยักเป็นเชิงรับรู้ก่อนหยิบห่อของที่เขาพกมาจากบ้าน แล้วหลบฉากออกมารอนอกห้อง

 

กลีบดอกไม้ที่แสนบอบบางยังคงอยู่ในอุ้งมือหยาบกร้านของเขา ที่บัดนี้บรรจงถือไว้อย่างเบามือที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดรอยช้ำ ความบอบบางที่ยิ่งสัมผัสยิ่งชวนให้นึกถึงเสาหลักบุปผาผู้แสนอ่อนโยนเหนือใครในโลกนี้

 

ใช้เวลาไม่กี่อึดใจ คานาเอะก็ปรากฏกายในชุดปกติเหมือนเช่นทุกวันก่อนนำพาเขาเดินไปยังเฉลียงหลังบ้าน สถานที่ในคฤหาสน์ผีเสื้อที่เขาทั้งสองสามารถมองเห็นความงดงามของฤดูกาลได้เป็นอย่างดี

 

“ซาเนมิคุง นั่นอะไรเหรอคะ”

 

“อ๋อ” เสาหลักวายุจำต้องปล่อยกลีบดอกซากุระที่ถือมาปลิวไปกับสายลม ขณะบรรจงแกะห่อผ้าออกมา “ข้าทำโอฮางิที่เจ้าอยากชิมมาให้ แต่ไม่รู้จะถูกปากเจ้าไหมนะ”

 

ถึงจะคอยช่วยมารดาและน้อง ๆ ทำขนมที่เป็นของโปรดของเจ้าตัวมาตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย แต่เขาก็ไม่ได้มีโอกาสได้ทำขนมนี้เองมานับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมในวันนั้น หากยามคานาเอะเอ่ยปากว่าอยากชิมขนมที่เขาโปรดปราน เขาจึงได้ลองกลับมาทำของชอบของเขาในรอบหลายปีให้เธอได้ชิม

 

ชายหนุ่มกลั้นหายใจยามที่อีกฝ่ายลิ้มรสโอฮางิคำแรก แต่เมื่อเธอหันมาส่งยิ้มให้พร้อมกับรับประทานชิ้นที่สองโดยทันที ซาเนมิก็ค่อยผ่อนลมหายใจออกมา

 

อร่อยมากเลยค่ะ ฉันดีใจนะคะที่คุณอุตส่าห์ทำมาให้ทาน” เธอเอ่ยเสียงใส แล้วมุ่นคิ้วเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเธอลืมสิ่งสำคัญไป “ตายแล้ว ๆ นี่ฉันลืมชงชามาได้ยังไง รอตรงนี้ประเดี๋ยวนะคะ”

 

ไม่ทันที่เขาจะเอ่ยห้าม หญิงสาวเจ้าของบ้านรีบรุดเดินไปทางครัว ทิ้งให้เขานั่งชมดอกไม้ที่บานสะพรั่งเต็มสวนหลังบ้านอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะกลับมาพร้อมกับกาน้ำร้อนและแก้วชาสองใบ

 

“นี่ฉันเป็นเจ้าบ้านที่แย่มากนะคะ ปล่อยให้คุณอดน้ำมาตั้งนาน ถ้าไม่มีโอฮางิของคุณก็คงลืมไปเสียสนิทเลยค่ะ”

 

“ไม่เป็นไร ว่าแต่น้อง ๆ ของเจ้าไปไหนเกือบหมด”

 

“ฉันให้ชิโนบุพาเด็ก ๆ ไปซื้อของ กว่าจะกลับมาก็คงย่ำค่ำน่ะค่ะ”

 

เธอว่าพลางจิบชา ขณะที่เขาเริ่มรับประทานขนมโอฮางิบ้าง รสชาติหวานของถั่วแดงกวนตัดกับรสขมของชาเขียวที่เธอจัดเตรียมมาเป็นอย่างดี พลางมองกลีบดอกซากุระปลิวไสวลอยตามมากับสายลม บรรยากาศที่ราวกับอยู่ในห้วงฝันทำซาเนมิอดไม่ได้ที่จะแย้มริมฝีปากออกมา

 

รอยยิ้มที่ทำให้คนข้างกายยิ้มออกมาอย่างตื้นตัน ด้วยเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นอีกฝ่ายผ่อนคลายและเป็นสุขขนาดนี้ จนคานาเอะได้แต่ปรารถนา ขอเพียงให้คนข้างกายเธอยังคงมีรอยยิ้มอย่างนี้ไปอีกนานแสนนาน...

 

“ซาเนมิคุงชอบดอกซากุระมากเลยเหรอคะ”

 

“อื้อ” คำถามที่ทำเขาพยักหน้าโดยพลัน ทั้งที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองสนใจอะไรแบบนี้ แต่ดอกซากุระนั้นก็ทำให้เขาหวนคิดถึงคนที่เขารักยิ่งกว่าสิ่งใด “แล้วเจ้าล่ะ...”

 

“เหมือนฉันเลยค่ะ ยิ่งได้เห็นกลีบดอกซากุระปลิวตามลม ฉันว่าเป็นอะไรที่งดงามมาก” คานาเอะหันไปสบตาอีกฝ่าย “แต่ที่ดีกว่าคือ ฉันดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของซาเนมิสักทีนะคะ”

 

คำพูดที่คนฟังหัวใจเต้นระรัว จนต้องเบือนใบหน้าที่กำลังร้อนจนขึ้นสีเรื่อหนีไปอีกทาง ปฏิกิริยาที่ทำให้เสาหลักบุปผาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะสังเกตเห็นรอยช้ำบริเวณชายโครงของคนตรงหน้า

 

นั่นคุณไปโดนอะไรมาคะ”

 

“หืม” ซาเนมิมองตามทิศทางที่เธอชี้บริเวณชายโครงซ้าย ต้องใช้เวลาครู่หนึ่งกว่าที่เขาจะนึกออกถึงการปะทะกับอสูรรวดเดียวสามตัว “สงสัยจะได้มาตอนข้าสู้กับอสูรเมื่อสองวันที่แล้วมั้ง ข้าเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”

 

คำตอบที่ทำให้คานาเอะได้แต่นิ่วหน้าอย่างกังวล นี่คงเป็นสิ่งที่คนรักของเธอไม่เคยปรับปรุงตัวได้เลยแม้แต่น้อย ถึงเธอจะรักที่เขามุ่งมั่นต่อหน้าที่เหนือสิ่งอื่นใด หากจนแล้วจนรอด คนที่เธอรักก็ยังคงลืมเลือนที่จะระวังตัวเอง

 

สีหน้าของหญิงสาวทำให้ซาเนมิที่กำลังจะหยิบโอฮางิขึ้นมาทานอีกชิ้นถึงกับชะงักงัน ด้วยแววตาคู่สวยดูหม่นหมองจนน่าใจหาย

 

โกรธข้าเหรอ?”

 

“ไม่หรอกค่ะ เพียงแต่ฉันอยากให้คุณระวังตัวให้มากกว่านี้” เสียงของเธอฟังดูเศร้าสร้อยจนน่าใจหาย นัยน์ตาสีชมพูที่มองสบมาฉายแววเจ็บปวดอย่างปิดไม่มิด “เผื่อว่าวันหนึ่งฉันอยู่ทำแผลให้ซาเนมิคุงไม่ได้ต่อไปล่ะคะ...”

 

ประโยคที่ฟังดูเผิน ๆ เหมือนเป็นการตักเตือนของเธอที่คอยพร่ำบอกมาตลอด หากวันนี้คนฟังกลับรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว ราวกับถูกสายลมหนาวเข้าจู่โจมกะทันหัน

 

สายลมหนาวที่ชื่อว่าลางสังหรณ์ของอนาคตที่ใกล้!

 

“ชิโนบุ หรือแม้แต่อาโออิเองไม่ได้มือเบาอย่างฉันนะคะ...”

 

แสงยามเย็นที่ตกกระทบใบหน้าของคานาเอะ ทำให้เขารู้สึกเหมือนใบหน้าของอีกฝ่ายดูทั้งงดงามกว่าที่เป็น งดงามจนเหมือนจับต้องไม่ได้ ด้วยดวงหน้าอ่อนหวานถูกลำแสงสาดส่องจนโปร่งแสงจนคล้ายอีกฝ่ายจะพร้อมเลือนหายไปได้ในชั่วพริบตา

 

ความหวาดกลัวพุ่งเข้าจับจิตของชายหนุ่ม จนก่อนที่เขาจะทันรู้ตัว เขาก็รวบร่างบอบบางของอีกฝ่ายไว้แน่นยิ่งกว่าครั้งไหน ราวกับกลัวว่าร่างของเธอจะหายไปได้ในชั่วขณะ หายไปทันทีที่เขากะพริบตา

 

ราวกับว่านี่เป็นโลกแห่งความฝัน แล้วหากเขาลืมตาตื่นขึ้น เขาอาจจะไม่ได้เห็นเธออีกตลอดกาล...

 

“นั้นอยู่ทำแผลให้ข้าตลอดไปได้ไหม” เสียงของซาเนมิสั่นสะท้าน “ไม่สิ อยู่กับข้าตลอดไปได้ไหม คานาเอะ...”

 

==========

Author's Talk 06 MAY 2021

จบไปแล้วกับ Day 19 นะคะ ^^

บทนี้คงบอกไม่ได้แล้วละค่ะว่าเป็นการนั่งรถชมวิวเล่น แต่เชื่อว่าคนอ่านทุกคนคงได้เห็นความรักที่ลึกซึ้งระหว่างซาเนมิและคานาเอะมากขึ้นเนอะ

จะว่ายังไงดี มันเป็นความสวีทหวานที่ดูเศร้าสำหรับเรานะคะ แผลใจของสองคนนี้มันลึกจริง ๆ ยิ่งทั้งสองคนเป็นพี่คนโตของบ้าน ภาระความรับผิดชอบจึงหล่นมาให้สองคนนี้ได้แบกรับตั้งแต่อายุเพียง 13-14 ปีเองค่ะ

บทนี้เป็นความตั้งใจของเราที่อยากให้เห็นมุมกลับกันระหว่างซาเนมิและคานาเอะนะคะ ที่ผ่านมาเราชินกับการที่คุณพี่สาวบ้านผีเสื้อคอยเฝ้าเป็นห่วงพ่อหมาป่าเดียวดาย แต่จริง ๆ แล้ว คุณพี่เองก็มีอะไรที่แบกรับที่หนักหน่วงไม่แพ้คุณสาเหมือนกันค่ะ

ตรงนี้อาจจะตีความเกินเลยอฟช.ไป แต่เรารู้สึกว่าพี่คานาเอะแบกทุกอย่างไว้ใต้รอยยิ้มจริง ๆ ค่ะ ตอนบทที่ 18 ก็น่าจะได้เห็นการเกริ่นแล้วว่าพี่คานาเอะก็ยังเป็นแค่สาวน้อยอายุ 17 ที่แบกทุกอยางมาตลอด สิ่งที่เธอกลัวที่สุดตอนนี้ก็คงจะเป็นการที่ต้องเห็นชิโนบุเดินบนทางเดียวกับเธอ และการที่ต้องจากกับพี่สานี่แหละค่ะ

ไม่ว่าจะเป็นการจากเป็นหรือจากตาย ยังไงมันก็เจ็บปวดไม่แพ้กันนะคะ เพราะงั้นแม้จะปรับความเข้าใจแล้ว แต่ด้วยสถานการณ์ที่ทั้งสองเผชิญในฐานะเสาหลัก มันทำให้ลึก ๆ พี่คานาเอะเค้าคงกังวลไม่แพ้ที่พี่สากังวลนี่แหละค่ะ

มาถึงเรื่องดอกซากุระ จริง ๆ แล้วหลายคนอาจจะชินกับรูปเฮดของฟิคนี้เนอะ ซึ่งเป็นความตั้งใจของเราแต่แรกค่ะว่าจะต้องใช้ดอกซากุระเลย ทั้งสื่อการเริ่มต้นใหม่ การจากลา ซากุระที่เป็นทั้งดอกไม้ที่บอบบาง อ่อนโยน คล้ายพี่คานาเอะเลยนะคะ ช่วงเวลาที่ผลิบานอาจจะแสนสั้น แต่มันงดงามในความทรงจำของคนที่ได้เห็นเสมอค่ะ

ขอ spoil ส่วนที่เกี่ยวข้องกับมังงะตอน 204 นะคะ เผื่อใครอยากหลบสปอยเล่ม 23

ตอนหน้าเรามาลุ้นกันนะคะว่าพี่สาจะพูดอะไรต่อ ดอกซากุระก็จะยังอยู่กับเราไปอีกตอนนึง มันคงจะเป็นความหวานที่เจือความเศร้าจาง ๆ เหมือนตอนนี้แหละค่ะ

คิดว่าตอนต่อไปน่าจะลงได้ตามปกตินะคะ แต่เผื่อไว้ 5% ถ้าเราติดงานด่วนหรืออะไร

สุดท้ายนี้ ขอบคุณคนอ่านที่น่ารักทุกคน ทุกกำลังใจ ทุกคอมเมนต์นะคะ ไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม เราดีใจมากที่ได้มีโอกาสรู้จักกับคนอ่านน่ารัก ๆ หลายท่านค่ะ อย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ แล้วพบกับตอนที่ 20 ในวันเสาร์นี้ค่ำ ๆ ค่ะ ^^

Author's Talk 16 NOV 2022

สวัสดีค่า มาถึงคิวลงฉบับ Rewrite สำหรับรวมเล่มนะคะ เพื่อให้เนื้อหาออกมาสมบูรณ์ทีสุดเท่าที่เราจะทำได้ค่ะ

ต้องขอโทษด้วยนะคะ เมื่อวานกลับมาน็อกไปยาว ๆ ตื่นมาอีกทีเลยเที่ยงคืนแล้วค่ะ สังเวชสังขารตนเองมาก

ช่วงนี้ยังเขียน treatment #สายลมถึงดวงดาว ในโปรเจค KNY FF Anthology - Days Rise, Nights Fall #คืนผันวันผ่าน จริง ๆ เป็นเหมือนอะไรที่เป็น what if หลังจากตอนที่ 21 เป็นต้นไปค่ะ เอ๊ะ ไม่ได้ใบ้หวยนะคะ XD แต่ในมุมเราเป็แบบนี้จริง ๆ

คู่พี่ใหญ่สองคนนี้เป็นอะไรที่เรารักมากจริง ๆ ค่ะ แล้วก็รักที่สองคนนี้เค้รักน้อง ๆ ของเขามากด้วย

ตอนนี้ เราลงสปอยตัวอย่างงานแอนโธออริโปรเจค #LetLoveBreakUsApart ของคุณInnara @herpensss แล้วค่ะ ของเราเป็นเรื่องสั้นชื่อ "เหลือเพียงรอยจารึก" (Timelapse) ค่ะ ดูรายละเอียดได้เลย <3

จั่วชื่อโปรเจคมาแบบนี้ น่าจะชินกับแนวแอ๋งละมุนของเรากันเนอะ (แต่รับรองว่าเรื่องนี้ไม่มีใครตายนะคะ : D)

อนึ่ง ใครที่พลาดงาน CA 7 แล้วยังอยากเก็บเล่มนี้ สามารถดูรายละเอียดเบื้องต้นของรวมเล่มทั้งสองเล่ม ฉบับปรับปรุงล่าสุด 15 OCT 2022 มาให้ได้ศึกษานอกเหนือจากตัวฟิคที่สามารถอ่านตอนหลังได้ใน ReadAWrite | Dek-D | ReadHaus นะคะ

รายละเอียด KNY FF - In Time With You #ห้วงเวลาของเราสอง (Tomioka Giyuu x Kochou Shinobu)

รายละเอียด KNY FF - In The Remembrance of Her #แด่เธอในความทรงจำนิรันดร์ (Shinazugawa Sanemi x Kochou Kanae)

ถ้าสนใจ จิ้มลิงค์สั่งจองด้านล่างได้เลยค่ะ หรือดูรายละเอียดพร้อมกรอกแบบฟอร์มได้ที่นี่นะคะ [Link]

แต่ทั้งนี้ ใครไม่สะดวกไม่เป็นไรนะคะ รับรองได้อ่านเนื้อหาเหมือนเดิม และในรูปแบบ Rewrite เหมือนกันค่ะ เพียงแต่อาจจะได้อ่านตอนพิเศษช่วงท้ายหลังจากเราส่งเล่มล็อตแรกนะคะ

หรือไม่ก็รอตอนเราเปิดพรีอีกรอบ ช่วงเราทำแอนโธ Days Rise, Nights Fall หรือเขียน KNY FF - The Tales of Butterfly Effects จบค่ะ ^^ ช่วงต้นปีหน้าอย่างเร็วเลย

แล้วเจอกันกับรีไรท์ตอนที่ 20 ในวันพรุ่งนี้นะคะ อย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยค่ะ ^^