Day 11 - Siblings

 

Prompt: “I told you so”

 

Spoiler | TW | CW

 

TW : Violence (Mention)

*เนื้อหาเชื่อมโยงกับตอนที่ 2 ของ KNY FF - In Time With You (Giyuu x Shinobu) ค่ะ และสปอยเนื้อหาบางส่วนของนิยายตอนผีเสื้อปีกเดียว (นิยายเล่มที่ 2 ด้วยนะคะ)

 

1st Published : 07 APR 2021

Rewrite : 25 OCT 2022

==========

 

นับตั้งแต่ที่เขารู้จักกับเธอมาระยะเวลาหนึ่ง โคโจ คานาเอะ มักมีอะไรที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงอยู่เสมอ

 

ชินาซึงาวะ ซาเนมิ ไม่เคยลืมความรู้สึกยามวินาทีแรกที่เขาลืมตาขึ้นมาเห็นเสาหลักบุปผา ใบหน้างดงามราวกับนางฟ้าเป็นสิ่งแรกที่เขาสะดุดตาจนเกือบลืมหายใจ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นนางพญามารยามสั่งขังเขาให้รักษาอยู่ ณ คฤหาสน์ผีเสื้อ

 

แต่นางพญามารในคราบนางฟ้าคนนั้น ก็เปี่ยมล้นด้วยความอ่อนโยนไม่แพ้มารดาผู้ล่วงลับ ความเป็นห่วงเป็นใยที่แฝงด้วยความอบอุ่นที่มีให้มาโดยตลอด เป็นดั่งแสงสว่างของฤดูใบไม้ผลิที่เป็นกำลังใจและปลอบประโลมเขาจนถึงทุกวันนี้

 

หากความปรารถนาเบื้องลึกของเธอที่เพิ่งแสดงออกมาให้เขาได้รับรู้ มันเกินสิ่งที่ใครจะคาดเดาได้... จนซาเนมิมั่นใจว่า หากมาซาจิกะยังมีชีวิตอยู่ก็คงตกตะลึงไม่แพ้กันกับเขาในตอนนี้

 

รอยยิ้มอ่อนโยนที่แสดงออกมา ผนวกกับนัยน์ตาที่ส่องประกาย สะท้อนให้เห็นว่าสิ่งที่เจ้าหล่อนพูดนั้นกลั่นมาจากใจของเธอจริง ๆ

 

“เจ้าว่าอะไรนะ!?”

 

ซาเนมิตัดสินใจเอ่ยถามซ้ำอีกครั้ง โดยหวังว่าเขาอาจจะกำลังเพ้อด้วยพิษไข้จนได้ยินไม่ถนัด หากเสาหลักบุปผาก็ยังคงแย้มยิ้ม แล้วเอ่ยประโยคเดิมออกมาอีกครา

 

“ฉันคิดว่า ถ้ามนุษย์สามารถอยู่ร่วมกับอสูรได้ก็คงดีไม่น้อยนะคะชินาซึงาวะคุง”

 

“เหอะ!” ถึงไม่ได้ตั้งใจทำตัวหยาบคายใส่เธอ หากซาเนมิก็สบถออกมาทันทีที่อีกฝ่ายพูดจบประโยค นัยน์ตาสีม่วงอ่อนกลอกตามองบนอย่างไม่อยากนึกเชื่อหูตัวเอง “ถ้ามันไม่คอยกินมนุษย์เป็นอาหารนะ...”

 

เป็นตลกร้ายที่สุดที่เขาเคยได้ยิน...

 

“ฉันรู้ดีค่ะว่าที่ฉันพูดมันอาจจะฟังดูประหลาด ทั้ง ๆ ที่ฉันเองก็สูญเสียครอบครัวจากอสูรเหล่านั้น แต่ฉันก็ยังหวังนะคะ ว่ามันจะมีวันที่มนุษย์สามารถอยู่ร่วมกับอสูรได้”

 

คานาเอะพูดอย่างอ่อนโยน ไม่มีเศษเสี้ยวของความโกรธแค้นหรือไอแห่งความชิงชังให้สัมผัสได้เลยแม้แต่น้อย ความเมตตาปรานีของเจ้าหล่อนดูท่าจะพุ่งเกินกว่าสามัญสำนึกของคนปกติทั่วไปที่จะเข้าใจได้ จนเขาได้แต่ฉงนระคนประหลาดใจ

 

ก่อนแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ... เมื่อระลึกได้ว่าอสูรคือสิ่งที่พรากทุกสิ่งไปจากเขาและเธอ...

 

“ทั้ง ๆ ที่ไอ้สวะพวกนั้นมันฆ่าครอบครัวของเจ้านะ!” ซาเนมิผรุสวาทก่อนที่จะห้ามตัวเองได้ทัน “ไอ้พวกระยำที่คอยเข่นฆ่าคนไปทั่ว คร่าชีวิตคนมากมาย เจ้าไม่คิดจะโกรธแค้นมันบ้างเหรอไง! ยังมีเมตตากับพวกมันได้ลงอีกเหรอ!พิลึกคน!”

 

มือเล็กที่ยังวางทาบบนอุ้งมืออันหยาบกร้านของซาเนมิบีบกระชับมือของเขาอีกครั้งหนึ่ง เป็นสัญญาณว่าเธอเข้าใจสิ่งที่เขาพูด หากแต่น้ำเสียงอันแสนอ่อนหวานก็ยังคงอธิบายเหตุผลในใจตนเองต่อไป

 

“ฉันเข้าใจดีค่ะ... ฉันไม่แปลกใจที่คุณจะโกรธเกลียดอสูรพวกนั้นมากกว่าใครทั้งหมด เพียงแต่ฉันแค่คิดว่าอสูรพวกนั้นครั้งหนึ่งก็เคยเป็นมนุษย์เหมือนพวกเรา แต่เพื่อความอยู่รอดทำให้พวกเขาจำเป็นต้องคร่าชีวิตมนุษย์เราไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันเองก็ให้อภัยไม่ได้เหมือนกันค่ะ”

 

เหตุผลที่ถูกถ่ายทอดสะท้อนแง่มุมอันแสนอ่อนโยนมากกว่าใครที่เขาเคยรู้จักมาชั่วชีวิต ความเมตตาที่คอยหล่อหลอมให้ผู้หญิงแสนดีคนนี้กลายเป็นผู้หญิงที่มีจิตใจสูงส่ง และเข้มแข็งยิ่งกว่าใคร

 

ความอ่อนโยนที่เป็นแสงสว่างนำทางให้แก่ชีวิตอันแสนมืดมนของเขา...

 

“สำหรับฉัน อสูรพวกนั้นน่าสงสารมากนะคะ ไม่มีทางเลือกให้ดำรงชีวิตด้วยวิธีอื่นได้ ไม่สามารถอยู่ใต้แสงตะวันได้ มีแต่ต้องใช้ชีวิตในมุมมืดและกระทำบาปเพื่อความอยู่รอด”

 

คานาเอะว่าพลางถอนหายใจยาว นัยน์ตาหันไปจับจ้องเงามืดจากแสงจันทร์ที่ทอดผ่านร่างของเธอทาบพื้นห้อง ขณะมือข้างที่เคยสัมผัสมือของเขาเมื่อครู่กำแน่น

 

“แต่ในเมื่อไม่มีทางเลือกอื่น ฉันจึงจำเป็นต้องสังหารอสูรตนนั้นอยู่ดีค่ะ เพื่อปลดปล่อยเขาจากบาปที่ได้ก่อ และเพื่อปกป้องชีวิตของใครอีกหลายคน”

 

ชั่วขณะหนึ่งที่น้ำเสียงของคานาเอะดูเด็ดขาดกว่าปกติ จนซาเนมิอดไม่ได้ที่จะลอบมองเสี้ยวดวงหน้าสะสวยซึ่งยังคงหลุบตาต่ำราวกับจมในห้วงภวังค์ ก่อนจะเบือนหน้าขึ้นมาสบตาเขา นัยน์ตาคู่สวยคู่ที่สะกดตาเขานั้นเปล่งประกายด้วยปณิธานจนหัวใจของเขาสะท้านไหวยิ่งกว่ายามครั้งแรกที่เขาได้สบตากับเธอ

 

“ฉันเชื่อมั่นเสมอค่ะว่าทุกคนล้วนแล้วมีความดีอยู่ในตัวค่ะ แม้ว่ามันอาจจะมองเห็นได้ยากหรือถูกบดบังด้วยความเลวร้ายที่เขาทำ... ฉันเลยหวังว่า วันหนึ่งเราก็อาจได้เจออสูรที่เอาชนะสัญชาตญาณกระหายเลือดของตนได้ สามารถอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้ และคอยช่วยเหลือผู้คนให้พ้นภยันตรายจากอสูรด้วยกันได้ค่ะ”

 

“เหอะ!ไม่มีทาง! ไอ้พวกสิ่งอัปรีย์โสมมพวกนั้นไม่มีวันที่จะเป็นอย่างที่เจ้าฝันได้หรอก โคโจ...”

 

เป็นครั้งแรกที่ซาเนมิเรียกหญิงตรงหน้าด้วยนามสกุล คำเรียกที่ทำให้จิตใจของคานาเอะสั่นไหวนิด ๆ จนอดไม่ได้ที่มองผู้ชายอารมณ์ร้อนที่มักลงเอยมาเป็นคนไข้ให้เธอรักษาอย่างอ่อนโยน แม้เจ้าตัวเพิ่งจะตราหน้าดูแคลนความเชื่อในส่วนลึกของจิตใจของเธอก็ตาม

 

“บางทีเราก็ต้องมีความหวังนะคะ ชินาซึงาวะคุง”

 

ถ้อยคำที่ทำให้ซาเนมิได้แต่พ่นลมออกมา หมดปัญญาที่จะโต้เถียงผู้หญิงคนนี้ในประเด็นนี้อีกต่อไป หากใจของเขาก็ยังคงติดอยู่กับคำถามที่รบกวนจิตใจของเขามาตลอดระยะเวลาหลายเดือน

 

“แล้วเรื่องน้องสาวเจ้าล่ะ...”

 

คำถามที่เรียกรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าของคานาเอะ ถึงมีหลายครั้งที่เธอไม่ค่อยชอบใจยามอีกฝ่ายเรียกน้องสาวร่วมสายเลือดของเธอว่าเด็กนั่น... แต่คำถามที่เสาหลักวายุเอ่ยถามก็สะท้อนจิตใต้สำนึกที่เจ้าตัวเฝ้าปิดบังไว้ให้เธอได้รู้สึก

 

“คำถามนี้ ฮิเมจิมะซังก็เคยถามฉันเมื่อตอนฉันขอเข้าร่วมหน่วยพิฆาตอสูรค่ะ” คานาเอะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ขณะหลับตารำลึกความหลังเมื่อหลายปีก่อน เหตุการณ์หลังจากที่เธอและชิโนบุเพิ่งสูญเสียบิดามารดาบังเกิดเกล้าไป “ฉันรู้ดีค่ะว่า สิ่งที่พวกฉันกำลังทำอยู่มันเหมือนเอาชีวิตทั้งฉันและชิโนบุมาเสี่ยง... แต่พวกเราก็เตรียมใจมาไว้นานแล้วค่ะ”

 

อีกครั้งที่คำตอบของเธอทำให้เขาพิศวง จนได้แต่มุ่นคิ้วแน่นอย่างไม่ชอบใจนัก อากัปกิริยาที่เรียกนัยน์ตาสีชมพูทอดมองคนเจ็บตรงหน้าด้วยแววตาอ่อนหวานและอ่อนโยนกว่าครั้งไหน

 

“ฉันเคยบอกชินาซึงาวะคุงนี่คะ ว่าคุณเป็นคนอ่อนโยนมาก อ่อนโยนมากจริง ๆ”

 

ถ้อยคำเอื้อนเอ่ยแผ่วเบาจนแทบเป็นเสียงกระซิบ หากดังกังวานในจิตใจ จนหัวใจของซาเนมิเต้นแรงกว่าเก่า ได้แต่หันซ่อนใบหน้าที่เริ่มเห่อร้อนโดยไม่อาจล่วงรู้ว่าเป็นเพราะพิษไข้หรือเพราะอะไรไปอีกทางที่ผู้หญิงคนนี้จะไม่อาจเห็นสีหน้าของเขาได้

 

ข้าเนี่ยนะ!”

 

“คุณอยากให้ฉันอธิบายไหมคะ~”

 

เสาหลักบุปผาหยอกล้อ หากปฏิกิริยาที่ได้กลับมาคือเสียงสบถไม่เบานักของเสาหลักวายุที่ยังคงเบือนหน้าหนีไม่สบตาเธอ

 

“คุณเป็นห่วงชิโนบุใช่ไหมคะ...”

 

“เรื่องอะไรที่ข้าต้องไปห่วงยัยเด็กนั่น!”

 

คำประชดประชันถูกกล่าวขานออกมาอีกครั้ง แต่อีกฝ่ายนั้นเลือกจะมองข้ามถ้อยคำที่ฟังไม่เข้าหูนั้นทิ้ง เลือกเก็บแต่ความปรารถนาดีที่ถูกส่งออกมาโดยที่เจ้าตัวพยายามซ่อนไว้ลึกที่สุดอยู่

 

“เพราะเป็นพี่น้องไงคะ... ฉันถึงรู้ว่าต่อให้พูดแค่ไหน ชิโนบุก็ไม่มีวันออกจากหน่วยพิฆาตอสูรนี้อยู่ดีค่ะ”

 

คานาเอะว่าพลางทอดสายตาไปยังประตูห้องที่ถูกปิดไว้ เสียงแว้ดของน้องสาวร่วมสายเลือดคนเดียวของเธอที่ตำหนิเสาหลักวารี โทมิโอกะ กิยู ที่ดูจะไม่ยอมกินยาแต่โดยดีดังก้องเข้ามาในห้อง ท่าทีของน้องสาวที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนทำเธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

 

“เด็กคนนั้นเป็นเด็กดื้อค่ะ ชินาซึงาวะคุงก็น่าจะเห็นแล้ว และเด็กคนนั้นก็เป็นคนที่เจ็บปวดที่สุดจากการสูญเสียพ่อแม่ของพวกเรายิ่งกว่าใคร... เพราะฉะนั้นต่อให้ฉันพูดอีกกี่ครั้ง ก็ไม่อาจเปลี่ยนใจชิโนบุได้อยู่ดี”

 

ถึงใบหน้าของคานาเอะจะยังเต็มเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม หากเงาไหววูบในนัยน์ตาคู่นั้นก็สะท้อนให้เห็นถึงความเจ็บปวดจากการสูญเสียครอบครัวที่รักไปเฉกเช่นกัน

 

แววตาปวดร้าวที่ไม่ต่างจากยามเขามองภาพสะท้อนของตนเองในกระจกเงา...

 

มือหยาบกร้านของซาเนมิเอื้อมออกไปโดยพลัน หากทันทีที่รู้ตัว ชายหนุ่มก็รีบชักมือกลับมากุมผ้าห่มแน่น แทนที่จะเอื้อมไปสัมผัสมืออันแสนอบอุ่นคู่นั้นดั่งที่ใจของตนปรารถนา

 

ปรารถนาที่จะปลอบประโลมคนที่เข้มแข็งหากอ่อนโยนคนนั้น... คนที่ยินดีแบกความเศร้าของตนไว้เพียงผู้เดียว

 

คนที่อยู่เพื่อเป็นหลักให้คนอื่น และไม่เคยผลักคนอื่นออกไปให้พ้นทางเหมือนที่เขาทำมา...

 

แม้จะจดจำคำพูดของเพื่อนรักที่บอกให้เขาใช้ชีวิตเพื่อตัวเอง หากมันควรแล้วหรือที่เขาจะใช้ชีวิตตามใจต้องการ ขณะที่คนสำคัญรอบตัวของเขากลับต้องจากไป...โดยไม่อาจได้ทำตามใจของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย

 

และมือของเขา... ก็ช่างสกปรกโสมมเกินกว่าจะไปสัมผัสมือคู่อบอุ่นอ่อนโยนและแบบบางคู่นั้นได้...

 

“ก็จริงของเจ้า น้องข้ากี่คนก็ไม่ดื้อเท่านี้...”

 

ซาเนมิตัดสินใจเอ่ยถึงน้อง ๆ ที่จากไปเป็นครั้งแรก เหล่าน้อง ๆ ทุกคนของเขาเหมือนล่วงรู้ถึงสถานการณ์อันยากลำบากของที่บ้านมาตั้งแต่รู้ความ รู้ถึงความทุกข์และความเจ็บปวดที่ต้องทนเห็นมารดาผู้อ่อนโยนถูกบิดาทำร้ายร่างกายนับครั้งไม่ถ้วน น้อง ๆ ของเขาทุกคนจึงเติบโตมาเป็นเด็กดีที่คอยเชื่อฟังพี่ชายคนโตอย่างเขามาตลอด

 

แต่เป็นเพราะพี่ชายคนนี้อ่อนแอเอง จึงไม่อาจปกป้องชีวิตน้อง ๆ ที่รักยิ่งไว้ได้...

 

คงเหลือแต่เกนยะ... น้องชายคนรองถัดจากเขา น้องชายที่เขาผลักไสไล่ส่งเพื่ออนาคตของเจ้าตัว...

 

เพื่อสานต่อฝันเดียวที่ยังเหลือของพี่ชายคนนี้... ที่ขอให้น้อง ขอให้ความหวังสุดท้ายของตนได้ใช้ชีวิตบนโลกนี้อย่างมีความสุขสืบไป

 

แล้วชินาซึงาวะคุงล่ะคะ” น้ำเสียงนุ่มนวลเอ่ยชื่อเขาอย่างแผ่วเบา เรียกให้เขาจำต้องหันสบตาเจ้าหล่อนอีกครั้ง “คุณจะปล่อยให้เรื่องของคุณกับน้องชายคุณเป็นอยู่อย่างนี้เหรอคะ ฉันคิดว่าน้องชายของคุณก็คงคิดถึงคุณมากไม่แพ้กับที่คุณคิดถึงเขานะคะ”

 

คำพูดของคานาเอะราวกับล่วงรู้ความนึกคิดข้างในของซาเนมิ ความปรารถนาที่จะได้เจอน้องชายคนนี้เป็นความปรารถนาหนึ่งเดียวที่เหลือติดอยู่ในก้นบึ้งของจิตใจมานับตั้งแต่วันนั้น

 

ป่านนี้เกนยะจะโตแค่ไหนแล้ว...

 

ป่านนี้เกนยะจะอยู่อย่างไร...

 

ป่านนี้เกนยะจะกินอิ่มไหม...นอนหลับไหม...เมื่อต้องอยู่คนเดียว

 

อยู่คนเดียวโดยไร้ทั้งมารดาและพี่ชายคนนี้คอยปกป้องคุ้มครอง...

 

หลายครั้งที่ซาเนมิอยากจะออกตามหาสิ่งล้ำค่าสิ่งเดียวที่ยังคงเหลืออยู่ในชีวิต หลายครั้งที่ชายหนุ่มแค่อยากจะได้เห็นหน้าน้องชายที่ยังเหลืออยู่ให้เต็มสองตา แค่อยากจะได้เห็นว่าน้องชายคนนี้ของเขาอยู่อย่างปลอดภัย และมีความสุขดั่งใจหวังไว้

 

รอยยิ้มอันไร้เดียงสาของน้องชายคนรองที่เขาปรารถนาปกป้องมาตั้งแต่ครั้งแรกที่สบตายังคงตราตรึงในใจทั้งยามหลับและยามตื่น น้องชายผู้แสนอ่อนโยนที่คอยช่วยพี่ชายคนโตอย่างเขาในการดูแลน้อง ๆ คนอื่น น้องชายผู้แสนดีที่คอยช่วยเหลืองานจิปาถะมารดาไปพร้อม ๆ กับเขา

 

แต่เป็นเขาเอง ที่ทำลายความสุขของน้องชายคนสำคัญคนนี้...

 

ทำลายคนที่พวกเขารักที่สุด ด้วยมือคู่นี้ของเขาเอง...

 

ถ้อยคำตะโกนด้วยความโกรธแค้นของเกนยะยังคงสลักลึกลงจิตใจเขามาตั้งแต่วันนั้น แต่ไม่เคยมีแม้แต่วินาทีเดียวที่เขาจะเกลียด โกรธ หรือโทษน้องชายคนนี้เลย

 

เป็นเพราะเขาเอง... ที่พรากคนสำคัญที่สุดจากชีวิตของเกนยะอย่างไม่มีวันกลับ...

 

ด้วยมือคู่นี้ของเขาเอง... มือที่ควรปกป้องทุกคนกลับเป็นมือที่สังหารคนที่พวกเขาทั้งสองรัก...

 

เขาถึงไม่มีวันที่จะกลับไปเผชิญหน้าให้น้องชายที่เหลืออยู่คนเดียวต้องเจ็บปวดเหมือนที่ได้เห็นในวันนั้น!

 

เสียงคำรามราวกับสัตว์ป่าบาดเจ็บสาหัสจึงหลุดออกจากลำคอ ยามจ้องมือทั้งสองข้างที่บัดนี้สั่นระริกอย่างควบคุมตัวเองไม่อยู่ ก่อนคำที่เป็นดั่งความลับอันดำมืด การกระทำที่ดุจเป็นฝันร้ายที่คอยตามมาหลอกหลอนจากจิตใต้สำนึกเบื้องลึกที่สุดจะเล็ดหลุดออกจากปากโดยไม่อาจต้านทานได้อีกต่อไป

 

“ไม่หรอก... ไม่มีทาง... ฆาตกรอย่างข้าเนี่ยนะ!”

 

==========

Author's Talk 07 APR 2021

จบไปแล้วกับ Day 11 นะคะ ^^

บทนี้คุณซาเนมิเอาอีกแล้ววววว สวิงขึ้นลงอย่างสนุกสนานมากค่ะ สมเป็นเสาหลักวายุจริง ๆ แต่ชอบบทสนทนาของสองคนนี้ในบทนี้มากนะคะ มันเห็นนิสัยเบื้องลึกของสองคนนี้ได้สนุกสนานเลยค่ะ

ในบทนี้คิดว่าน่าจะถูกใจคนที่รอคอยดูความคิดของพี่คานาเอะนะคะ เราประทับใจความรู้สึกนึกคิดของเธอตั้งแต่ตอนอ่าน "ผีเสื้อปีกเดียว" มากค่ะ เป็นคนที่จิตใจดีและเข้มแข็งเกินกว่าใครจริง ๆ ค่ะ

จริง ๆ เพราะอ่านทั้งผีเสื้อปีกเดียวและสายลมนำทาง ทำให้เรามองเห็นความเชื่อมโยงของสองคนนี้ม้ากมากเลยค่ะ <3 คงจะเริ่มเข้าใจเรายิ่งขึ้นนะคะว่าทำไมเรากระโดดลงเรือนี้มาก ๆ

อย่างที่หลายคนคงได้สังเกตจากบทที่แล้วนะคะ ทั้งซาเนมิและคานาเอะแบกรับภาระในฐานะพี่คนโตไว้หนักหน่วงค่ะ แม้จะไม่ได้แสดงออก แต่สิ่งที่ทั้งสองคนแบกไว้ เรามองว่าเค้าเต็มใจแบกมันนะคะ เพียงแต่บาดแผลที่แต่ละคนได้รับมา กับพื้นเพนิสัยที่แตกต่างกัน เลยทำให้สองคนนี้แสดงออกกับน้องที่เหลืออยู่แตกต่างกันออกไป

คนหนึ่งผลักไส คนหนึ่งเก็บไว้ใกล้

แต่ทั้งนี้ก็เพื่อการปกป้องสิ่งที่ทั้งคู่หลงเหลืออยู่นี่แหละค่ะ

ช่วงที่เขียนบทนี้ เราไม่แปลกใจจริง ๆ นะคะที่ใคร ๆ จะรักพี่คานาเอะ โดยเฉพาะคุณสายลมแสนวู่วามของคนอ่าน แต่นั่นแหละค่ะ ของแบบนี้ต้องให้เวลาเจ้าตัวรู้สึกเองเนอะ

แต่รับรองว่า บทหน้าจะยิ่งเห็นอะไรชัดเจนขึ้นมากค่ะ ^^

ส่วนคู่กิยูชิโนบุ นึกภาพคุณกิมึนไม่ยอมกินยาไว้ค่ะ ไม่แปลกใจที่น้องชิจะโวยวายเนอะ ไหนจะเจอคุณกิจ้องเอา ๆ แต่พอถึงเวลากลับดื้อ แหมะ พูดแล้วก็คิดถึงคู่นี้จังค่ะ หวังว่าจะได้มีโอกาสขยายความเพิ่มเติมจัง : D (แต่อย่าเพิ่งคาดหวังนะคะ 5555)

แล้วพบกับบทที่ 12 ซึ่งเป็น climax ส่วนแรกของเรื่องนี้ค่ะ แอบกระซิบว่าเป็นบทที่เราอยากให้ทุกคนได้อ่านจริง ๆ และแทบจะรอให้ถึงวันเสาร์นี้ไม่ได้แล้วค่ะ

ขอบคุณคนอ่านทุกท่าน ทุกกำลังใจ ทุกคอมเมนต์ทั้งในนี้หรือทางทวิตเตอร์นะคะ รักษาสุขภาพกันด้วยค่า แล้วพบกันวันเสาร์นี้ค่ะ ^^

Author's Talk 25 OCT 2022

สวัสดีค่า มาถึงคิวลงฉบับ Rewrite สำหรับรวมเล่มนะคะ เพื่อให้เนื้อหาออกมาสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ค่ะ

ช่วงนี้รีไรท์โปรเจคเรื่องสั้น #letlovebreakusapart อยู่ค่ะ (เฉลยเนียน ๆ) กับทำบรีฟสำหรับคอมมิชงานอาร์ต เป็นอะไรที่ท้าทายตัวเองเหมือนกัน เพราะไม่เคยบรีฟตัวละครออริมาก่อน

กับยังวุ่น ๆ กับการย้ายแผนกค่ะ แล้วก็เตรียมรับน้องโดยการเข้าร่วมงานประชุม วันเสาร์อาทิตย์ที่ 5-6 (หัวเราะทั้งน้ำตา) แต่ก็เป็นอะไรที่ห่างหายไปนานมากกับการประชุม on-site ในสถานที่ค่ะ

กับเสร็จงานนี้ เสาร์นี้เราอาจจะของดลงรีไรท์เรื่องนี้ เพื่อลง event #readtober2022 นะคะ

อนึ่ง ใครที่พลาดงาน CA 7 แล้วยังอยากเก็บเล่มนี้ สามารถดูรายละเอียดเบื้องต้นของรวมเล่มทั้งสองเล่ม ฉบับปรับปรุงล่าสุด 15 OCT 2022 มาให้ได้ศึกษานอกเหนือจากตัวฟิคที่สามารถอ่านตอนหลังได้ใน ReadAWrite | Dek-D | ReadHaus นะคะ

รายละเอียด KNY FF - In Time With You #ห้วงเวลาของเราสอง (Tomioka Giyuu x Kochou Shinobu)

รายละเอียด KNY FF - In The Remembrance of Her #แด่เธอในความทรงจำนิรันดร์ (Shinazugawa Sanemi x Kochou Kanae)

ถ้าสนใจ จิ้มลิงค์สั่งจองด้านล่างได้เลยค่ะ หรือดูรายละเอียดพร้อมกรอกแบบฟอร์มได้ที่นี่นะคะ [Link]

แต่ทั้งนี้ ใครไม่สะดวกไม่เป็นไรนะคะ รับรองได้อ่านเนื้อหาเหมือนเดิม และในรูปแบบ Rewrite เหมือนกันค่ะ เพียงแต่อาจจะได้อ่านตอนพิเศษช่วงท้ายหลังจากเราส่งเล่มล็อตแรกนะคะ

หรือไม่ก็รอตอนเราเปิดพรีอีกรอบ ช่วงเราทำแอนโธ Days Rise, Nights Fall หรือเขียน KNY FF - The Tales of Butterfly Effects จบค่ะ ^^ ช่วงต้นปีหน้าอย่างเร็วเลย

แล้วอย่างไร มาพบกับรีไรท์ตอนที่ 12 ในวันพฤหัสบดีนี้นะคะ อย่าลืมรักษาสุขภาพกันทุกคนค่ะ ^^