Day 08 - Ubuyashiki Kagaya

 

Prompt: “I’ m not doing that again”

 

Spoiled | TW | CW

 

TW : Self-Harm

*เนื้อหาสปอยตอนที่ 168 เล่ม 19 ค่ะ

 

1st Published : 27 MAR 2021

Rewrite : 18 OCT 2022

==========

 

และก็เป็นอีกครั้งที่เขานั้นรอดชีวิต... และต้องมองคนสำคัญหมดลมหายใจไปต่อหน้าต่อตาอีกครั้งหนึ่ง...

 

ชินาซึงาวะ ซาเนมิ เสาหลักวายุคนใหม่ของกลุ่มพิฆาตอสูรได้แต่คิดอยู่ในใจอย่างปวดร้าว

 

การต่อสู้กับอสูรข้างแรมที่หนึ่งนำพาตำแหน่งเสาหลักวายุมาสู่เขา บุคคลผู้รอดชีวิตและสังหารอสูรตนนั้นได้ หากต้องแลกมากับชีวิตของคุเมโนะ มาซาจิกะ... เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขา ที่เป็นประดุจพี่ชายและน้องชายของเขาในเวลาเดียวกัน

 

ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเคยคิดแต่เพียงว่า หากจะมีใครที่พลาดพลั้งก็คงจะเป็นคนเลือดร้อน มุทะลุ ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังอย่างเขา ขณะที่อีกฝ่ายมีทั้งความรอบคอบ ความเยือกเย็น และความสามารถในการประเมินสถานการณ์ที่สูงกว่าเขาอย่างเทียบไม่ติดน่าจะมีโอกาสรอดชีวิตมากกว่า...

 

แต่เพราะความอ่อนโยนนั่น...

 

บุคคลผู้ยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อปกป้องชีวิตเด็กผู้หญิงตัวน้อยที่เข้ามาขวางการโจมตี จนทำให้เสียหลักและถูกอสูรร้ายเล่นงานต่อหน้าต่อตาเขา...

 

ตำแหน่งเสาหลักที่มาซาจิกะหมายมั่นปั้นมือ จึงตกมาสู่มือคนที่ไม่คิดใฝ่ฝันถึงตำแหน่งนี้อย่างเขาแทน...

 

หากมาซาจิกะไม่สนใจเด็กผู้หญิงคนนั้น และลงมือจัดการอสูรตนนั้นเสียเอง ตำแหน่งเสาหลักอาจเป็นของเพื่อนรัก ซึ่งเขาคงดีใจกว่านี้มาก...

 

เพราะมาซาจิกะจะยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไป... และใช้ความสามารถช่วยเหลือผู้คนได้อีกจำนวนนับไม่ถ้วน...

 

สุดท้าย... เขาก็ปกป้องไว้ไม่ได้อีกแล้ว...

 

ซาเนมิใช้เวลาในการพักฟื้นร่างกายที่คฤหาสน์ผีเสื้อเฉกเช่นที่เป็นมาตลอด หากความรู้สึกของชายหนุ่มไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

 

หลายครั้งที่เขาได้ยินเสียงเปิดประตูห้องพัก เพียงเสี้ยวนาทีที่ซาเนมิหวังจะเห็นใบหน้าของเพื่อนรักที่คอยส่งยิ้มกวนประสาท ส่งเสียงทักทายเขาเหมือนทุกครั้งที่แวะมาเยี่ยมเยียนเขา

 

หากทุกครั้งที่นัยน์ตาสีม่วงอ่อนเหลียวหันตามเสียงฝีเท้าที่แว่วเข้าหู ภาพความว่างเปล่าที่เขาเห็นก็ยิ่งตอกย้ำความจริงเข้าลึกในจิตใจ

 

...ไม่มีคนที่ชื่อว่าคุเมโนะ มาซาจิกะ อยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว...

 

กว่าสองสัปดาห์ที่ซาเนมิได้แต่นอนจมอยู่ในห้วงแห่งความสูญเสีย คำสั่งเสียสุดท้ายของมาซาจิกะยังคงวนเวียนอยู่ในหัว จนไม่แยแสยามชิโนบุหรืออาโออิที่เข้ามาดูแลเขาในช่วงวันแรก...

 

ไม่โวยวายยามที่ต้องดื่มยาที่รสชาติห่วยแตกเกินกว่าจะสรรหาคำมาบรรยาย...

 

ไม่ยอมแม้กระทั่งจะหันไปสบตาโคโจ คานาเอะ ที่เพียรเวียนมาดูอาการของเขาบ่อยที่สุดเท่าที่คนเป็นเสาหลักอย่างเธอจะทำได้ จนกระทั่งรับหน้าที่จิปาถะเล็กน้อยมาดำเนินการเองทั้งหมด

 

แม้จะยังมีอาการร้อนวูบและหัวใจสั่นยามได้ยินเสียงอ่อนหวานของเธอคนนั้น ยามได้รับสัมผัสอันแสนอ่อนโยนจากมือคู่นั้น แต่เขาไม่กล้าที่จะมองเธอได้เต็มสองตา... ไม่อาจสบตาผู้หญิงที่ใจดีและอ่อนหวานคนนั้น เพราะจะนึกถึงคำเตือนของเธอที่ให้เขาทำดีกับมาซาจิกะเข้าไว้

 

คำพูดที่เขาทำเพิกเฉยมาโดยตลอด...

 

หากตอนนี้ ต่อให้เขาอยากทำตามที่เธอพูดย้ำแค่ไหน มันก็ได้แต่สายไปแล้ว...

 

หากไม่ทันที่แผลเขาจะหายสนิทดี ก็ถึงการประชุมเสาหลักครั้งแรกของเขา

 

ภาพชายหนุ่มวัยไล่เลี่ยกับเพื่อนผู้จากไปช่างดูอ่อนแอผิดกับที่เขาคาดไว้ จนแทบไม่น่าเชื่อว่าบุคคลคนนี้จะเป็นถึงผู้นำองค์กรหน่วยพิฆาตอสูร ด้วยท่าทีที่ประจักษ์ต่อสายตา ทำให้เขามองว่าคนผู้นี้ไม่น่าจะมีแรงยกดาบขึ้นป้องกันตนเองได้ด้วยซ้ำ

 

ความตายของมาซาจิกะและผู้คนในหน่วยตั้งแต่การที่เขาเข้ามาอยู่ ณ องค์กรแห่งนี้ ทำเขาสั่นเทิ้มด้วยความโกรธเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เพื่อนรักของเขาจากไป

 

คนผู้นี้ยังคงยิ้มได้ โดยที่มือไม่จำต้องเปื้อนเลือด ไม่ต้องเอาตัวเองไปเสี่ยงภัยอย่างพวกเขา...

 

คนที่ออกคำสั่งที่นำไปสู่วาระสุดท้ายของมาซาจิกะ...

 

แทนการทำความเคารพเฉกเช่นเสาหลักคนอื่น ซาเนมิกลับแค่นเสียงหัวเราะเย้ยหยันโชคชะตาของพระผู้เป็นเจ้า ก่อนพุ่งถ้อยคำประณามจากก้นบึ้งของความเคียดแค้นและความโศกเศร้าใส่โดยไม่คิดจะห้ามปรามตัวเองแม้แต่น้อย

 

“แกนี่มัน... ช่างน่ารังเกียจเสียจริง ท่านอุบุยาชิกิ...”

 

ทันทีที่เขายิงคำพูดออกไป สัมผัสของมือที่แสนคุ้นเคยก็แตะลงยังแขนของเขาอย่างแผ่วเบาเป็นเชิงเตือนสติ หากนี่เป็นครั้งแรกที่เขาไม่ปล่อยให้สัมผัสอ่อนโยนของเธอผู้นี้เข้ามามีอิทธิพลเหนือจิตใจเหมือนทุกครา... เพียงแต่ไม่อาจหาญสะบัดมือข้างนั้นทิ้งดั่งใจปรารถนาได้

 

“ชินาซึงาวะ... ดูท่าจะไม่เข้าใจมารยาทในการพูดจาสินะ...”

 

น้ำเสียงของเสาหลักหินผา ฮิเมจิมะ เกียวเม เอ่ยประณาม หากผู้นำสูงสุดของหน่วยก็ยังคงยิ้มแย้มราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

ช่างเถอะเกียวเม ให้เขาพูดเถอะ ข้าไม่ถือสา...”

 

แต่ว่า นายท่านคะ...”

 

น้ำเสียงของเธอทำพายุอารมณ์ของเขาสงบลงครู่หนึ่ง แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มเหมือนคนไม่เคยเจอความทุกข์ร้อน โทสะของซาเนมิก็กระโชกราวกับพายุไต้ฝุ่นห่าใหญ่

 

แสดงละครหน้าตายดีนี่! คิดว่านักดาบก็แค่หมากใช้แล้วทิ้งแท้ ๆ ไม่มีความรู้เกี่ยวกับอาวุธเลยแม้แต่น้อยใช่มั้ยล่ะ เห็นแว้บเดียวก็รู้แล้ว คนพรรค์นี้เนี่ยนะหัวหน้าของกลุ่มพิฆาตอสูร!น่ารังเกียจชะมัด! อย่าทำมาเป็นพูดดี!”

 

“ขอโทษนะ...”

 

ประโยคเดียวที่อุบุยาชิกิ คากายะ เอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา ถ้อยคำแสนอ่อนโยนทำซาเนมิไม่อาจตอบโต้อะไรได้ เปลวเพลิงแห่งความเคียดแค้นสงบลงราวกับถูกหยาดฝนแห่งความอารีดับสลาย สายตาที่เปี่ยมล้นด้วยความเมตตาที่มองมาสะท้อนความจริงใจของคนผู้นี้ จนสิ้นคำครหาว่าเหตุใดบุคคลตรงหน้าถึงได้รับความนับถือจากเหล่าเสาหลักของหน่วยพิฆาตอสูรอย่างเต็มท่วมท้น

 

“...ถ้าฝันกลายเป็นจริงได้ล่ะก็ ข้าอยากเป็นนักดาบที่แข็งแกร่ง ปกป้องชีวิตของผู้คนได้ด้วยตนเองเหมือนเช่นพวกเจ้า แต่ทว่า... ไม่ว่าอย่างไรก็เปล่าประโยชน์ ขอโทษที่ทำให้พวกเจ้าต้องพบเจอแต่เรื่องยากลำบาก หากพวกเจ้าเป็นหมากที่ใช้แล้วทิ้ง ข้าเองก็เป็นหมากที่ใช้แล้วทิ้งเช่นกัน...”

 

น้ำเสียงเยือกเย็นที่เอ่ยเป็นจังหวะจะโคน ไร้ซึ่งการปรุงแต่งหรือแก้ตัวให้รู้สึก สะท้อนความเมตตาที่แผ่ซ่านอย่างไม่มีที่สุด ทำเขารู้สึกจุกอยู่ในอก... คงได้แต่ยืนฟังคากายะถ่ายทอดความรู้สึกส่วนลึกของตนโดยไม่อาจปริปากพูด

 

“...มาซาจิกะเพิ่งตายไม่นาน แต่กลับโดนเรียกตัวมา ขอโทษด้วย สนิทสนมกันราวกับพี่น้อง คงขมขื่นสินะ...”

 

ชื่อคนเป็นเพื่อนที่ถูกเอ่ยขึ้นทำเขาสะดุ้งสุดตัว ด้วยไม่คาดคิดว่าคนผู้นี้จะจดจำชื่อของเบี้ยที่ใช้แล้วทิ้งอย่างพวกเขาได้

 

“ชินาซึงาวะคุง ตั้งแต่นายท่านขึ้นมาเป็นผู้นำ ท่านจดจำชื่อและช่วงชีวิตของนักดาบที่ตายไปได้ทั้งหมด...”

 

คานาเอะอธิบายเสียงแผ่วเบา หากแฝงด้วยความจริงจังยิ่งกว่าครั้งไหน ทำให้เขารู้ทันทีว่ามันเป็นเรื่องจริง ความขมขื่นรวดร้าวบีบรัดหัวใจของชายหนุ่ม นัยน์ตาร้อนผ่าวยามสำนึกได้ว่า ตนเองยังไม่สามารถจดจำชื่อของนักดาบคนอื่นที่สู้ร่วมกันจนตายจากกันได้ทั้งหมดแท้ ๆ

 

คงเป็นเขาที่ไม่เคยรู้อะไรเลยแม้แต่น้อย...

 

“ซาเนมิ...” อุบุยาชิกิ คากายะ เอ่ยขึ้นพลางให้บุตรสองคนประคองร่างมายังชายระเบียง “เด็ก ๆ ของกลุ่มพิฆาตอสูรทุกคนเขียนจดหมายลาตายทิ้งไว้ เนื้อหาในจดหมายลาตายนั้นส่วนใหญ่คล้ายคลึงกันจนน่าประหลาดใจ มาซาจิกะก็เช่นกัน...”

 

จดหมายฉบับหนึ่งถูกส่งมาให้เขา มือทั้งสองข้างของชายหนุ่มสั่นระริกยามได้ยินคำอธิบายถึงเนื้อความในจดหมาย...

 

ความรู้สึกของคนเป็นเพื่อนที่ไม่เคยถ่ายทอดออกมา แต่บัดนี้เขาได้ล่วงรู้ในวันที่อีกฝ่ายจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เรียกน้ำตาของเขาเอ่อคลอเบ้าทั้งสอง...

 

หัวใจสั่นสะท้านยามได้รับรู้ว่า มาซาจิกะเห็นเขาเป็นเหมือนน้องชายที่จากไปด้วยฝีมืออสูร...

 

ความจริงที่เขาไม่เคยล่วงรู้เลยแม้แต่น้อย...

 

คำขอร้องสุดท้ายของผู้เป็นเพื่อนในจดหมาย สอดคล้องกับคำสั่งเสียสุดท้ายของมาซาจิกะ...

 

จงมีชีวิตอยู่ต่อไป... ก้าวข้ามความทุกข์ยากให้ได้...

 

หยาดน้ำร้อนรินไหลอาบใบหน้าของชายหนุ่มเป็นทาง โดยเจ้าตัวก็ไม่สนที่จะห้ามมันอีกต่อไป...

 

จวบจนการประชุมเสาหลักสิ้นสุดลง เขาก็ยังคงไร้ซึ่งคำโต้ตอบใด ๆ มามอบแก่เสาหลักเสียงและเสาหลักหินผาที่ตำหนิเขาถึงกิริยาเลวทรามของเขา

 

ไม่สนใจเสาหลักวารีที่มองเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉย...

 

หากเป็นคำพูดของเธอคนนั้น... ที่สั่นคลอนจิตใจของชายหนุ่มยิ่งกว่าคำตำหนิของใครทั้งปวง คำบอกกล่าวครั้งสุดท้ายของคนเป็นเพื่อน ผนวกความรู้สึกผิดต่อสิ่งที่เขาทำลงไปด้วยโทสะแห่งความสูญเสีย

 

นี่เขาทำบ้าอะไรลงไป!

 

รู้ตัวอีกที เขาก็ชกต้นไม้อย่างแรงเพื่อระบายอารมณ์ในใจ หวังให้ความเจ็บปวดทางกายกลบบาดแผลในจิตใจที่เกิดขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา

 

ก่อนจะรู้สึกเจ็บปวดตามใจหวัง สัมผัสละมุนอันคุ้นเคยก็แตะเข้าตรงมือข้างนั้นอย่างอ่อนโยน... โดยที่เขาล่วงรู้ว่าเป็นใครตั้งแต่ก่อนจะหันไปมองหน้าเธอ

 

หากเมื่อสบนัยน์ตาสีชมพูคู่นั้น ที่บัดนี้ฉายแววเจ็บปวดอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนก็บีบหัวใจเขาให้ปวดร้าวหนักกว่าเดิม...

 

ซาเนมิมองเสาหลักบุปผาค่อย ๆ หยิบผ้าเช็ดหน้าสีอ่อนซับเลือดที่ไหลซึมจากข้อนิ้ว แล้วบรรจงพันรอบมือของเขาอย่างเบามือเฉกเช่นทุกครั้ง

 

“...ทำไมทำอย่างนี้คะ ชินาซึงาวะคุง”

 

อีกครั้งที่เธอไม่เอ่ยตำหนิการกระทำของเขาในทันที จนเสาหลักวายุได้แต่เม้มปากแน่นอย่างรู้สึกผิด

 

“ขอโทษ...”

 

“คนที่คุณควรขอโทษไม่ใช่ฉันค่ะ...”

 

“ข้ารู้...”

 

“ฉันเสียใจมากนะคะที่เห็นคุณพูดใส่นายท่านอย่างนั้น...” คานาเอะเอ่ยเสียงแผ่วเบาแทบเป็นกระซิบ ขณะค่อย ๆ ผูกปมผ้าเช็ดหน้าตรึงบาดแผลนั้นไว้ แล้วเงยหน้าขึ้นสบนัยน์ตาสีม่วงอ่อนของเขา “ทีหลังอย่าทำแบบวันนี้อีกนะคะ...”

 

“ข้าสัญญา ข้าจะไม่ทำอีก...”

 

ซาเนมิเอ่ยตอบเสียงแผ่วเบาไม่แพ้กัน คำมั่นสัญญาที่เขาตั้งใจจะให้ตั้งแต่ก่อนเธอเอ่ยปากด้วยซ้ำไป

 

“คุเมโนะคุง... ไม่อยากเห็นชินาซึงาวะคุงเป็นแบบนี้หรอกนะ” หญิงสาวตรงหน้า ใช้มืออีกข้างหนึ่งกอบกุมมือข้างที่เจ็บของเขาเข้าก่อนบีบเบา ๆ “รวมถึงฉันด้วยค่ะ”

 

สัมผัสอ่อนโยนกับความใกล้ชิดยิ่งกว่าครั้งไหน ทำชายหนุ่มหัวใจเต้นแรง แต่ก็พยายามที่จะเอ่ยถามโดยไม่ให้เสียงของตนสั่นไหวจนอีกฝ่ายจับสังเกตได้

 

“ไม่อยากเห็นแบบไหน...”

 

“ที่ชินาซึงาวะคุงเจ็บตัวตลอด ทั้งที่คุณตั้งใจและไม่ตั้งใจ...”

 

นัยน์ตาของเธอมองทอดมายังบาดแผลที่อยู่ตามตัวเขา ขณะนิ้วมือของเธอขยับไล้บนบาดแผลเป็นที่พาดผ่านไหล่ขวา ที่เธอเป็นผู้เย็บเองเมื่อหลายเดือนก่อน

 

“...รวมถึงที่ทำร้ายตัวเองด้วย”

 

ประโยคสุดท้ายที่ทำซาเนมิรู้สึกปวดร้าวจิตใจอีกครั้ง ได้แต่พึมพำชื่อเพื่อนสนิทออกมาเป็นครั้งแรกนับแต่อีกฝ่ายจากไป

 

“มาซาจิกะบอกมาสินะ...”

 

“ค่ะ...” เธอพยักหน้ารับ ก่อนเอื้อมมือมากอบกุมของเขาอีกครั้ง “คุเมโนะคุงไม่สบายใจทุกครั้งที่ชินาซึงาวะคุงใช้เลือดหายากเพื่อปราบอสูร ถึงจะได้ผลดี แต่มันเสี่ยงกับสุขภาพคุณมาก ฉันเองก็ไม่ชอบที่ต้องเย็บแผลให้ชินาซึงาวะคุงนะคะ เพราะคุณคงเจ็บอยู่ไม่น้อย...”

 

“ไม่หรอก เจ้ามือเบาจะตาย...”

 

ซาเนมิเผลอตอบก่อนจะห้ามตัวเองได้ทัน แต่มันอาจเป็นการดี เมื่อบัดนี้เขาได้เห็นรอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏบนใบหน้าของคานาเอะครั้งแรกของวัน

 

“ถ้าเช่นนั้น วันหลังฉันจะเย็บให้หนักมือขึ้นนะคะ ถ้าชินาซึงาวะคุงบาดเจ็บกลับมาเพราะทำตัวเองอีก”

 

ริมฝีปากของชายหนุ่มกระตุกยิ้ม รอยยิ้มที่มีครั้งแรกนับจากการจากไปของเพื่อนสนิทคนสำคัญ ขณะทอดมองรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้างามงด จนลืมเลือนที่จะดึงมือออกจากการกอบกุมของเธอผู้นี้

 

ด้วยบัดนี้ เหลือเพียงมือคู่นี้ที่เป็นดั่งแสงสว่างสาดส่องมายังโลกอันแสนมืดมนใบนี้ โลกอันโหดร้ายที่เขายังต้องใช้ชีวิตอยู่ต่อไป เพื่อหน้าที่และความฝันของเขาและเพื่อนรักที่ยังคงหลงเหลือไว้ให้ปกป้อง

 

เพื่อปกป้องเหล่าผู้คนให้รอดพ้นจากภยันตรายจากอสูรร้าย... ในฐานะหน้าที่เสาหลักของหน่วยพิฆาตอสูรแห่งนี้...

 

==========

Author's Talk 27 MAR 2021

จบไปแล้วกับบทที่ 8 นะคะ ^^"

บทนี้รู้สึกยากมากกกก ยากตรงที่อารมณ์พี่สาแกหลากหลายมาก ทั้งเสียใจ ทั้งกราดเกรี้ยว ทั้งรู้สึกผิด ไหนจะความอ่อนหวานช่วงท้ายนี่ โอ้ เหมือนนั่งรถไฟเหาะเล่นเลยค่ะ

พี่แกสมเป็นเสาหลักวายุมาก ลมเพลมพัดสะใจสุด ๆ

บทนี้เป็นบทแรก ๆ ที่เราคิดถึงตอนที่อ่านมังงะจบอีกรอบค่ะ เพราะความที่ถูกคู่นี้ตกมาตั้งแต่บทสนทนาไม่กี่ประโยคนี่แหละค่ะ

เราประหลาดใจมาก คนอย่างซาเนมิ เกรี้ยวกราดมาขนาดนั้น แต่ยอมให้ผู้หญิงคนนึงแตะมือเฉย ๆ โดยไม่อาละวาดใส่ ไม่สะบัดออก...

เอ๊ะ... ยังไงนะ ชิปไหมไม่รู้ แต่คนผู้นี้ต้องมีอิทธิพลต่อพี่สาอย่างมากเลยละค่ะ

ยิ่งพออ่านสายลมนำทางเสร็จ... โอเค ชัดเจนมาก ยิ่งกว่าอิทธิพลละค่ะ : D แพ้ทางขั้นสุด เก็ตเลยว่าทำไมพี่สาถึงได้สยบต่อพี่ใหญ่แห่งบ้านผีเสื้อเข้าอย่างจังเลย

บวกกับพอวางโครงและเห็น prompt นี้ปุ๊บ รู้เลยค่ะว่า บทนี้ต้องอุทิศให้เหตุการณ์หลังที่พี่สาไปแว้ดใส่นายท่านนี่แหละ

เรารู้สึกว่าซาเนมินี่เป็นพวกเจ็บแล้วถึงจำนะ แต่กว่าจะมาเจ็บได้ ต้องผ่านการเรียนรู้ทั้งความสูญเสียหรือความรู้สึกผิดก่อนเนอะ ซึ่งจริง ๆ ก็เป็นอันตรายกับตัวพี่แกมากนะ เพราะถ้าเจอคนที่ไม่เข้าใจ อาจจะได้แลกหมัดก็ได้อยู่ค่ะ

จริง ๆ เราเข้าใจความสูญเสียของซาเนมินะ มันเป็นความสูญเสียที่ไม่ได้ตั้งตัว ความสูญเสียที่เกิดหลังจากเปิดใจให้มาซาจิกะแล้ว เพราะงั้นมันอิมแพคมาก จนไม่แปลกที่แกจะระเบิดลงได้ขนาดนี้

และยิ่งพอไปลงกับนายท่าน และรู้ถึงความเมตตาอารี ได้อ่านจดหมายลาตายของมาซาจิกะ มันคงตอกย้ำว่า จริง ๆ แล้วเป็นเขาแหละที่ไม่เคยรู้อะไรเลย

เพราะงั้น ทำดีกับคนที่อยู่รอบตัวเราตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่านะคะ ^^ แต่ดูจากเคสเกนยะแล้ว น่าสนมากว่าทำไมพี่สาเจ็บละไม่จำเลย...

แต่เชื่อว่า ทุกการกระทำของคนแต่ละคน มันมีเหตุผลเบื้องหลังค่ะ เพียงแต่เหตุผลนั้นจะรับฟังได้มากน้อยแค่ไหน หรือเป็นเหตุผลไหมก็อีกเรื่อง

หลังจากนี้เนี่ย เราจะได้เห็นคุณพี่คานาเอะเข้ามามีบทบาทกับคุณซาเนมิมากขึ้นตามลำดับแล้วค่ะ จากบทนี้ก็น่าจะเห็นได้ชัดละว่า คนที่จะมามีอิทธิพลต่อซาเนมิอย่างชัดเจนก็คานาเอะนี่แหละ

มาตามเอาใจช่วยสองคนนี้กันต่อนะคะ

ขอบคุณคนอ่านทุกคน ทุกกำลังใจ ทุกคอมเมนต์ที่ได้รับนะคะ ดีใจมาก ๆ เลยค่ะ ^^ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดหรืองานด่วนอะไร พบกับตอนต่อไปวันพุธนี้ค่ะ

Author's Talk 18 OCT 2022

สวัสดีค่า มาถึงคิวลงฉบับ Rewrite สำหรับรวมเล่มนะคะ เพื่อให้เนื้อหาออกมาสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ค่ะ

พอเปิดมาพร้อมกับได้รับภารกิจใหม่ ช่วงนี้พรจะดูอ๊อง ๆ หน่อยนะคะ เพราะต้องส่งมอบงานเก่าที่รับผิดชอบไปพร้อม ๆ กับย้ายที่นั่ง เตรียมรับงานแผนกใหม่ด้วย กับกำลังรีไรท์โปรเจคแอนโธออริที่น่าจะมาเฉลย ๆ แย็บ ๆ ให้เห็นได้ช่วงเดือนหน้าค่ะ

กับรีไรท์เสร็จ อยากจะเขียนอะไรเบา ๆ (มั้งคะ) ในอีเวนต์ Readtober2022 ของ Readawrite ค่ะ เลยแพลนว่าอาจจะลงสลับ ๆ กับเรื่องนี้อยู่นะคะ

แล้วก็เตรียมพร้อมที่จะเขียนแอนโธพาร์ตของเราในเดือนหน้าค่ะ 5555 โปรเจคเยอะมาก เพราะจะต้องแบ่งเวลาทำเล่มประเมินเลื่อนตำแหน่งด้วยค่ะ แต่รอก่อนว่าจะมีใครทัดทานเค้าโครงผลงานไหม

ใครที่พลาดงาน CA 7 แล้วยังอยากเก็บเล่มนี้ สามารถดูรายละเอียดเบื้องต้นของรวมเล่มทั้งสองเล่ม ฉบับปรับปรุงล่าสุด 15 OCT 2022 มาให้ได้ศึกษานอกเหนือจากตัวฟิคที่สามารถอ่านตอนหลังได้ใน ReadAWrite | Dek-D | ReadHaus นะคะ

รายละเอียด KNY FF - In Time With You #ห้วงเวลาของเราสอง (Tomioka Giyuu x Kochou Shinobu)

รายละเอียด KNY FF - In The Remembrance of Her #แด่เธอในความทรงจำนิรันดร์ (Shinazugawa Sanemi x Kochou Kanae)

ถ้าสนใจ จิ้มลิงค์สั่งจองด้านล่างได้เลยค่ะ หรือดูรายละเอียดพร้อมกรอกแบบฟอร์มได้ที่นี่นะคะ [Link]

แต่ทั้งนี้ ใครไม่สะดวกไม่เป็นไรนะคะ รับรองได้อ่านเนื้อหาเหมือนเดิม และในรูปแบบ Rewrite เหมือนกันค่ะ เพียงแต่อาจจะได้อ่านตอนพิเศษช่วงท้ายหลังจากเราส่งเล่มล็อตแรกนะคะ

หรือไม่ก็รอตอนเราเปิดพรีอีกรอบ ช่วงเราทำแอนโธ Days Rise, Nights Fall หรือเขียน KNY FF - The Tales of Butterfly Effects จบค่ะ ^^ ช่วงต้นปีหน้าอย่างเร็วเลย

แล้วอย่างไร มาพบกับรีไรท์ตอนที่ 9 ในวันพุธนี้นะคะ อย่าลืมรักษาสุขภาพกันทุกคนค่ะ ^^