5 ตอน Day 05 - Kochou Kanae
โดย rene_recluse
Day 05 - Kochou Kanae
Prompt: “unacceptable, try again”
Spoiler | TW | CW
*เนื้อหาก่อนนิยายตอนสายลมนำทางค่ะ
1st Published : 17 MAR 2021
Rewrite : 11 OCT 2022
==========
หากคุเมโนะ มาซาจิกะ เป็นหนึ่งในมนุษย์ผู้แสนน่ารำคาญที่สุดในสามโลก... โคโจ คานาเอะ ก็คงเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งนี้ได้ไม่แพ้กัน...
ชินาซึงาวะ ซาเนมิ ได้แต่คิดพลางกัดฟันกรอดอยู่บนเตียง ณ คฤหาสน์ผีเสื้อ ขณะที่ฟังศิษย์ร่วมสำนักที่สถาปนาเป็นลูกพี่พล่ามถึงเหตุการณ์ที่ได้เจอในวันนี้
การที่ต้องนั่งทนมาซาจิกะเล่าถึงเหตุการณ์ที่ไปพบเจอมา ยิ่งสร้างความหงุดหงิดแก่เขาที่ติดแหง็กอยู่บนเตียงนี้มาย่างเข้าอาทิตย์ที่สามแล้ว
ร่วมสามอาทิตย์ที่เขาไม่อาจปฏิบัติภารกิจในฐานะนักล่าอสูรได้!
แม้จะได้รับรายงานจากไอ้ตัวจุ้นจ้าน ฉายาที่เขาเรียกมาซาจิกะอยู่ในใจหลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ยังไม่ปรากฏผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอสูรร้ายอย่างที่เขานึกหวั่น จนเขาไม่ควรกังวลว่าจะพลาดอะไรไป
ใช่... เขาไม่วิตกอะไรเท่าไรในตอนนี้ นอกจากความหงุดหงิดที่ทวีเพิ่มขึ้นทุกวันพร้อม ๆ กับคำถามที่ติดคาอยู่ในใจมาร่วมสองสัปดาห์
“แกว่างมากเหรอวะ ถึงมาเยี่ยมข้าได้ทุกวัน!”
ซาเนมิถามเสียงเข้ม ขณะนั่งฟังมาซาจิกะสาธยายถึงภารกิจเมื่อคืนอย่างออกรส หากดูเหมือนคนตรงหน้าท่าจะไม่สำเหนียกว่าเขาประชด เมื่อชายหนุ่มผมดำยังคงฉีกยิ้มแป้นแล้นให้เขาเหมือนเช่นทุกวัน
“ข้ากลัวแกเหงาไง แล้วก็เป็นหน้าที่ศิษย์พี่อย่างข้าที่ต้องมาดูแลอาการป่วยของศิษย์น้องอย่างแกว่ะ ทำไมหรือ มีปัญหาอะไรหรือซาเนมิ อ๋อ!เหงาสินะ!”
เจ้าตัวว่าพลางเอื้อมมือมาตบไหล่เขาอย่างจัง แรงตบที่แม้จะไม่หนักแต่ก็ทำให้คนที่ยังฟื้นตัวไม่ดีพอเกือบทรุดฮวบได้
“เหงาบ้านแกสิ! ข้าเห็นแกมาทุกวันเหมือนแกไม่ต้องออกปฏิบัติหน้าที่ ถึงได้ถามไงว่าว่างมากนักเหรอวะ!”
“โถ่ แกคิดถึงข้าก็บอกมาเถอะ อย่าทำอายไป!” มาซาจิกะหัวเราะหึ ๆ “เดี๋ยวเสร็จจากเยี่ยมแกข้าก็ไปละ คืนนี้ข้าต้องไปล่าตระเวนแถวป่าด้านทิศตะวันตกล่ะ”
คำตอบที่ไม่ได้ทำให้ความหงุดหงิดของชายหนุ่มผมขาวลดลง ตรงกันข้าม ท่าทียักคิ้วหลิ่วตาของมาซาจิกะยิ่งกวนประสาทของเขาให้ใกล้ขาดผึ่งเต็มแก่
“อะไรของแกอีกวะ!”
“ดีจังเลยน้า~ แกเลยได้มีโอกาสเจอโคโจซังทุกวันเลย ข้าละอิจฉาจริงจริ๊ง” คนที่นับเขาเป็นเพื่อนฝ่ายเดียวทำสีหน้าเคลิบเคลิ้มจนเขานึกอยากใช้เท้ายันศิษย์พี่ผู้นี้ให้ตกเก้าอี้ให้รู้แล้วรู้รอด “ใครจะคิดเนอะ ว่าสาวสวยอย่างโคโจซังจะทั้งใจดี ทั้งเก่งขนาดนี้ แกโคตรโชคดีเลย...”
“เหอะ... ลองมาเจ็บแบบข้าสิวะ” ซาเนมิพึมพำในลำคอ “โชคร้ายสิไม่ว่า ผู้หญิงอะไรวะ จุ้นจ้านพอ ๆ กับแกเลย”
เขาอดไม่ได้ที่เอ่ยแซะทั้งมาซาจิกะและผู้หญิงคนนั้น ก่อนที่จะต้องนอนฟังวีรกรรมของเสาหลักบุปผาจากปากของมาซาจิกะเป็นรอบที่เท่าไรก็ไม่ทราบ
แม้ในครั้งแรกที่ซาเนมิได้ฟังเรื่องราวของโคโจ คานาเอะ เขาจะอดทึ่งไม่ได้ที่ผู้หญิงแสนสวยดูบอบบางคนนั้น นอกจากจะมีตำแหน่งเป็นถึงหัวหน้าฝ่ายพยาบาลของหน่วยพิฆาตอสูรแล้ว เธอยังควบตำแหน่งเสาหลักบุปผาของหน่วยพิฆาตอสูร และเป็นบุคคลที่ได้ตำแหน่งเสาหลักตอนที่มีอายุน้อยที่สุดในขณะนี้
แต่นั่นแหละ... ผู้หญิงอะไร วุ่นวายชะมัดยาด! แม่ของเขายังไม่วุ่นวายกับเขาขนาดนี้เลย!
ความประทับใจเริ่มแรกที่มีต่อนางฟ้าคนงามคนนั้นได้มลายหายไป กลายเป็นความปวดประสาทจากการที่ต้องคอยดื่มยาขมปี๋ทุกครั้งที่เจอดวงหน้าหวาน ๆ ยามมาตรวจอาการเขา แต่ก็ไม่อาจทำได้เมื่อเห็นรอยยิ้มอ่อนโยน จนต้องกลั้นใจดื่มให้จบ ๆ ไป
เอาเข้าจริง ความปวดหัวของเขาไม่ได้มาจากนิสัยของเจ้าหล่อนโดยตรงหรอก แต่ไอ้การที่มีให้ผู้หญิงคอยเปลี่ยนผ้าพันแผลที่ชายโครงให้ผู้ชายทั้งแท่งอย่างเขา มันทำให้คนที่คุ้นชินกับการทำอะไรด้วยตัวเองมาตลอดอย่างเขารู้สึกกระอักกระอ่วนปนเขินอาย แถมจนถึงตอนนี้เขาก็ยังคงไม่สามารถเลี่ยงปัญหาเวรตะไลนี้ได้...
เพราะคฤหาสน์บ้านี่มีแต่ผู้หญิง! ผู้หญิงทั้งนั้น! ให้ตายเถอะ!
ถ้าไม่ใช่เสาหลักบุปผาคนนั้น... ก็ยังมีคนที่คอยมายุ่มย่ามวุ่นวายกับเขาอีกห้าคน ได้แก่เด็กหญิงตัวน้อยสามคนที่วิ่งไปมาอยู่ในคฤหาสน์ผีเสื้อแต่เขาไม่รู้จักชื่อ เด็กสาวร่างเล็กแบบบางที่ชอบตีสีหน้านิ่งที่ชื่อโคโจ ชิโนบุ หรืออีกนัยคือน้องสาวร่วมสายเลือดของผู้หญิงคนนั้น และเด็กกำพร้าหน้าตาเคร่งขรึมที่ชื่อคันซากิ อาโออิ ที่เจ้ามาซาจิกะบอกว่าเป็นเด็กที่โคโจ คานาเอะ เก็บมาเลี้ยงไว้
ยังดี ที่ในบ้านหญิงล้วนแห่งนี้ มีเพียงน้องสาวบุญธรรมของเสาหลักบุปผาที่ชื่อซึยูริ คานาโอะ ที่ไม่ค่อยมาวุ่นวายกับเขาเสียเท่าไร... ซึ่งดีสำหรับเขา เพราะความที่อายุอานามของเด็กคนนี้ไล่เลี่ยกับเกนยะ น้องชายคนเดียวที่เหลือรอดของเขา การที่ต้องเห็นร่างเล็ก ๆ ในชุดฮากามะมีแต่จะทำให้เขานึกถึงเกนยะอย่างอดไม่ได้
ไม่รู้ป่านนี้น้องชายเขาทำอะไรหรืออยู่ที่ไหน แต่เขาก็หวังว่าน้องชายคนเดียวของเขาจะยังอยู่ดีมีสุขและปลอดภัยอยู่ในโลกข้างนอกอันแสนอ้างว้างนี้...
“สายัณห์สวัสดิ์ค่ะชินาซึงาวะซัง ได้เวลาทำแผลแล้วนะคะ”
ไม่ทันใด เด็กสาวร่างเล็กที่เป็นถึงน้องสาวร่วมสายเลือดของเสาหลักบุปผาคนนั้น คนที่เขาเฝ้าแอบขนานนามอยู่ในใจว่ายัยเด็กบ้านั่น เพราะนอกจากจะชอบทำหน้าบอกบุญไม่รับยามเห็นเขาแล้ว ยังมือหนักผิดกับเจ้าบ้านอย่างลิบลับ... ก็โผล่ร่างมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึมบอกบุญไม่รับตามประสาของเจ้าหล่อน พร้อมกับยัยเด็กอาโออิที่คอยเดินตามหลังถือชามใส่น้ำและผ้าสะอาดเตรียมมาเปลี่ยนให้เขา
พร้อมกับยาเวรตะไลนั่น...
“อ๊ะ นั้นข้าไปก่อนนะ ไว้พรุ่งนี้มาใหม่ สายัณห์สวัสดิ์นะ ชิโนบุจัง อาโออิจัง”
ซาเนมิหันขวับไปมองศิษย์พี่ที่ส่งยิ้มเผล่ให้เด็กสาวสองคนนั้นก่อนจะรีบเดินออกจากห้องไปราวกับนกรู้ด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ ที่ไม่รู้ว่ามาจากคำพูดยามบอกว่าจะมาใหม่พรุ่งนี้ของมาซาจิกะ หรือจากอาการบาดเจ็บเรื้อรังของเขาเอง
หรืออาจจะเหตุผลทั้งสองร่วมกัน ประกอบกับความรู้สึกเหมือนตกนรกเมื่อคิดว่าจะต้องดื่มยาเวรตะไลนั่นอีกครั้ง และโดนยัยเด็กมือหนักหน้ายักษ์สองคนทำแผลให้
พอกันที!
ซาเนมิพยายามกัดฟันข่มสติในใจ อดทนให้เด็กหญิงทั้งสองคนจัดการบาดแผลของเขาจนเรียบร้อย แต่ครั้นชิโนบุยื่นถ้วยยาที่บรรจุน้ำสีเขียวขุ่นจนข้นให้เขา ความอดทนของเขาตลอดกว่าสามอาทิตย์ก็ขาดสะบั้นลง
“ข้าไม่กิน!”
“ไม่ได้ค่ะ! ท่านพี่บอกว่าชินาซึงาวะซังยังไม่หายดี อย่างไรก็ต้องกินค่ะ!”
“พูดไม่รู้เรื่องหรือไงหา! ข้าบอกว่าไม่คือไม่! ข้าหายดีแล้ว! ไม่จำเป็นต้องกิน!”
ซาเนมิว่าพลางปัดแก้วแตกกระจาย แม้เสี้ยวหนึ่งของความคิดจะรู้สึกผิดยามเห็นสีหน้าตกตะลึงของเด็กสาวทั้งสอง แต่ความหงุดหงิดที่สะสมมาตลอดหลายวันก็เอาชนะจิตใต้สำนึกของเขา และหวังว่าการกระทำดังกล่าวนี้จะทำให้ทั้งคู่เลิกยุ่งกับเขาเสียที...
แต่ก็ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น...
“อาโออิ ไปเอายาถ้วยใหม่มาให้ชินาซึงาวะซังนะ เดี๋ยวฉันจะไปตามท่านพี่มา...”
ชิโนบุกัดฟันกรอดสั่งคนที่เด็กกว่า นัยน์ตาสีม่วงที่เปล่งประกายวาววับราวกับจะกินเลือดกินเนื้อจ้องมองเขา ยังไม่เลวร้ายได้เท่ากับประโยคสุดท้ายของเจ้าหล่อน...
บรรลัย!
ซาเนมิเหงื่อกาฬแตกพลั่ก ล่วงรู้โดยทันทีว่าหากยัยเด็กบ้าคนนั้นไปตามพี่สาวของเธอมาถึงเมื่อไร เขามีอันถึงจุดจบแน่...
นัยน์ตาสีม่วงอ่อนกวาดไปมาอย่างว่องไว ก่อนจะเห็นหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้ ถึงจะรู้ว่าเป็นความขี้ขลาด แต่เขาก็คิดว่าการหลบหนีออกไปคงดีกว่าอยู่ให้ถูกผู้หญิงแสนอ่อนโยนคนนั้นมองเขาด้วยสายตาอันผิดหวัง...
และเขาก็อยากจะออกจากที่นี่เต็มทน...
อนิจจา ซาเนมิลืมไปว่าแม้บาดแผลที่ซี่โครงเขาจะหายจนเกือบเป็นปกติแล้ว แต่ขาข้างที่หักของเขาคงยังไม่หายดีอย่างที่ใจเขาหวัง การเคลื่อนไหวของเขาจึงเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความทุลักทุเลกว่าที่เขาคาดคิด
ชั่วเสี้ยวนาทีที่ขาข้างที่หักของเขาพาดยังขอบหน้าต่าง พร้อมโบยบินไปสู่อิสรภาพที่เฝ้ารอ เสียงอันนุ่มนวลอ่อนโยนแต่ชวนขนลุกกลาย ๆ ประดุจคำทักทายของพญามัจจุราชก็ดังขึ้นอย่างแผ่วเบาแทบจรดข้างหูของเขา
“กำลังจะหนีหรือคะ ชินาซึงาวะคุง~”
ซาเนมิค่อย ๆ หันหลังกลับไปสบตาสีชมพูอ่อนที่บัดนี้แทบจะอยู่ใกล้จนนับเส้นขนตายาวงอนได้ ถึงจะไม่มีท่าทีโกรธขึ้งแสดงออกมา หากรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้างดงามกับสายตาที่มองจ้องเขม็งเขาก็ทำเขาเสียวสันหลังวาบอยู่ไม่น้อย
“ร... เรื่องของข้า เจ้าอย่ายุ่ง!”
“ท่านพี่คะ เดี๋ยวหนูจัดการไอ้เจ้าคนพูดไม่รู้เรื่องคนนี้เองดีกว่าค่ะ”
เสียงยัยเด็กบ้าทำเขาคิ้วกระตุก แต่เมื่อสบนัยน์ตาสีม่วงที่ฉายแววมุ่งมั่นและถือดีเกินกว่าเด็กในวัยที่ควรจะเป็น ให้ชวนนึกถึงเขายามอยู่ในวัยเดียวกัน ซาเนมิก็ล้มเลิกความคิดอยากฟาดเด็กบ้าคนนี้ออกไปโดยทันที
“ไม่เป็นไรจ้ะชิโนบุ” คานาเอะเอ่ยกับน้องสาวเสียงอ่อนหวาน “เดี๋ยวชิโนบุออกไปดูคนไข้คนอื่นแทนพี่นะ พี่ขอเวลาคุยกับชินาซึงาวะคุงสักครู่...”
ดูท่ายัยเด็กชิโนบุจะไม่อยากปล่อยพี่สาวของเธอไว้กับเขาตามลำพัง หากครั้นเสาหลักบุปผาเอ่ยสำทับอีกรอบ เจ้าตัวก็ยอมแพ้ แต่ไม่วายเขม่นใส่เขาอีกครั้งก่อนเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้เขาเผชิญหน้ากับผู้หญิงคนนั้นตามลำพัง
ความเงียบแผ่เข้าปกคลุมทั่วห้องระยะหนึ่ง ก่อนเธอคนนั้นจะเป็นฝ่ายเอ่ยเสียงใส
“แหม~ ๆ ดูชินาซึงาวะคุงจะอยากออกจากที่นี่แล้วสิ ฉันเข้าใจถูกใช่ไหมคะ”
คำถามที่เจ้าตัวส่งมาเหมือนถามเรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไป ทำซาเนมิสงสัยว่าเธอจะถามไปทำไม ในเมื่อเธอก็ได้ยินเขาถามอยู่แทบจะทุกครั้งที่เขาเห็นหน้าเธอนั่นแหละ
“ข้าบอกเจ้ากี่ครั้งแล้ว...”
“และฉันก็บอกคุณกี่ครั้งแล้วนี่คะ ว่ายังไม่อนุญาตน่ะ”
“แต่ข้า...”
ก่อนที่เขาจะทันพูดจบ เจ้าหล่อนทรุดตัวลงจับข้อเท้าในส่วนที่เขาบาดเจ็บด้วยสีหน้าเคร่งขรึมกว่าปกติ แรงกดแม้จะไม่หนักมาก แต่เขาก็เผลอกัดปากด้วยความเจ็บปวด ซึ่งอากัปกิริยาของเขาก็ไม่แคล้วพ้นสายตาสีชมพูอ่อนคู่นั้นไปได้
เขาเห็นเธอถอนหายใจยาว แววตาที่มองเขาฉายแววอาทรระคนหนักใจ จนเขาไม่กล้าที่จะพูดอะไรมาก นอกจากยอมกะเผลกตามเธอกลับขึ้นเตียงผู้ป่วยแต่โดยดี
คานาเอะรอจนเขาดื่มยารสชาติน่าขยะแขยงแก้วนั้นจนหมด แล้วเอ่ยปากถามด้วยเสียงอันแผ่วเบา
“ไหนลองบอกเหตุผลให้ฉันฟังได้ไหมคะ ทำไมชินาซึงาวะคุงอยากรีบออกจากที่นี่ไปทั้ง ๆ ที่คุณยังไม่หายดีเลย”
คำถามที่ไร้คำตำหนิติเตียน จนซาเนมิได้แต่ก้มหน้ามองแก้วยาอย่างรู้สึกผิดที่ต้องทำให้เธอผู้นี้ลำบากใจ หากท้ายสุด ความปรารถนาของเขาที่อยากจะรีบกลับไปปฏิบัติหน้าที่ให้เร็วที่สุดก็เป็นฝ่ายชนะ
“ข้าหายดีแล้วน่า...”
"ให้คะแนนความพยายามนะคะชินาซึงาวะคุง แต่ฉันคงรับเหตุผลนี้ไม่ได้ค่ะ เพราะเมื่อครู่คุณยังเจ็บข้อเท้าอยู่มาก ลองใหม่อีกครั้งไหมคะ"
คำอธิบายอย่างเป็นเหตุเป็นผลฉบับที่เขาเองก็ไม่สามารถหาข้อแย้งได้ ทำได้เพียงถอนใจยาว แต่ก็ไม่วายที่จะเอ่ยหน้าที่ที่เขาต้องกระทำ ที่เป็นดั่งคำปฏิญญานับแต่เขาเดินออกจากบ้านในคืนวันนั้น
“ข้ามีหน้าที่ต้องออกล่าอสูร... ไม่มีเวลามานอนโอ้เอ้อยู่นี่!”
ประโยคที่ทำให้เจ้าหล่อนคลี่ยิ้มอ่อนโยนหากเจิดจ้า จนเขาต้องเป็นฝ่ายหลบนัยน์ตาคู่สวยที่ส่องประกายคู่นั้นเอง
มันคงจะดีกว่านี้หากเธอมีท่าทีที่โกรธเคือง หรือเอ่ยปากตำหนิติเตียนเขา...
“เอาไว้ข้อเท้าคุณหายดีเมื่อไร เราค่อยมาว่าเรื่องนี้กันอีกทีนะคะ”
เจ้าหล่อนเอ่ยพลางหยิบขี้ผึ้งแก้ปวดบรรจงทาให้บริเวณข้อเท้าของเขา อันถือเป็นการยุติบทสนทนาโดยปริยาย ทำให้ซาเนมิได้แต่พ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิดที่อะไรไม่เป็นไปตามใจปรารถนา
หากสัมผัสอันแสนอ่อนโยนนุ่มนวล ก็ชวนเขาเผลอนึกถึงห้วงเวลาอันแสนสุขยามเยาว์วัย กับความอบอุ่นอย่างที่ไม่ได้สัมผัสมาแสนนาน
สัมผัสอันอบอุ่นกับสายลมที่พัดผ่านทางช่องหน้าต่างต้องร่างเขา ค่อย ๆ คลายความกังวลและนำพาเขาเข้าสู่ห้วงนิทราได้เต็มสองตาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันวิปโยควันนั้น...
สัมผัสที่จิตใต้สำนึกส่วนลึกได้แต่หวังว่าจะยังคงได้รับจากมืออันบอบบางหากมั่นคงของเธอผู้นี้ต่อไป
ความปรารถนาที่เขาไม่อาจล่วงรู้ได้ในเวลานี้... ด้วยรู้ดีว่ามันช่างดีเกินกว่าที่คนบาปหนาเยี่ยงเขาผู้นี้ควรได้รับเอาไว้
จากคนที่อยู่สูงเกินเอื้อม เกินกว่ามือสกปรกคู่นี้จะไขว่คว้าไว้ได้...
==========
Author's Talk 17 MAR 2021
สวัสดีค่า จบไปแล้วกับตอนที่ 5 นะคะ
บทนี้พี่สาก็ยังเป็นพี่สาค่ะ ยังคงมีความโวยวาย ปากแข็งตามสไตล์คนซึนแห่งเรื่อง แต่ก็เห็นนะคะว่าพี่สาเค้าแพ้ทางใครกันน้า... ฮิฮิ
ตลกร้ายของเราคือ ช่วงเราพล็อตบทตอนนี้ (ปลายมกราคม) เราประสบอุบัติเหตุนิ้วเท้าหักค่ะ 5555 เลยเข้าใจอารมณ์ความหงุดหงิดที่ต้องติดแหงกไปไหนไม่ได้
ข้อดีคือ ช่วงนั้นเรายัง wfh อยู่ เลยถือโอกาสดีปั่นฟิคกิยูxชิโนบุ in time with you จบในแปดวันแหละค่ะ ไม่นั้นไม่น่าเสร็จทันได้
แล้วตลกร้ายคือ วันนี้เนอะ เราเอาเท้าขวา (ข้างเดียวกับที่หัก) ซึ่งก็เล็บขบอยู่ ไปเตะกับมุมโต๊ะเก็บเอกสารค่ะ เลือกกระฉูดเลย สรุปคุณหมอเลยจัดการผ่าเอาเล็บออกบางส่วนไปเมื่อช่วงเย็นนี้เองค่ะ
(ยิ่งเก็ตความหงุดหงิดของพี่ซาเนมิเข้าไปใหญ่ 5555)
อนึ่ง เรื่องรีแอคคุณซาเนมิกับชิโนบุ มีประเด็นค่ะ อันนี้ขออุบยังไม่เฉลยนะคะ เพราะยังไงคงค่อย ๆ คลายมาทีละเปลาะแน่ ๆ ค่ะ
แต่ของอาโออิ คุณซาเนมิแกหงุดหงิดที่หน้าดุพอ ๆ กับน้องบุ กับฟีลลิ่งว่าอายุไล่ ๆ กับเกนยะ เห็นแล้วคิดถึงน้องชายค่ะ เลยไม่ค่อยอยากเห็นหน้าเท่าไร :P
ซึนจริง ๆ นะคะพ่อคุณ
ทีนี้ก่อนไป เรามีเรื่องต้องแจ้งคนอ่านทุกท่านนิดนึงค่ะ
จริง ๆ เดิมเรามีกำหนดผ่าตัดหนังตาเพื่อเปลี่ยนแนวขนตา (เพราะมันทิ่มตาเรา) กับจี้เอาขนตาที่งอกกลับทิศออกในวันที่ 12 เมษายน ที่จะถึงค่ะ แต่พอมันกลายเป็นวันหยุดราชการ เราเลยคิดว่าแพทย์คงจะเลื่อนวันผ่าตัดเราออกไป เลยทำให้ตอนแรกเราคิดว่าคงไม่น่าจะกระทบอะไรกับการเขียนฟิคของเรา (เว้นงานที่มันโถมมาช่วงนี้)
แต่ทีนี้ เมื่อวานเราไปพบคุณหมอมา สรุปคุณหมอได้คิววันที่ 29 และแนะนำว่าเราควรผ่าเลยค่ะ เพราะผ่านมาปีครึ่งแล้ว การถอนขนตาออกบางส่วนทำได้แค่บรรเทาอาการไปแต่ละเดือนเท่านั้น ยิ่งวันนี้เรามาบาดเจ็บเพิ่ม ทำให้เรากังวลว่าเราจะยังลงฟิคอาทิตย์ละสองตอนไหวไหม
บวกกับหลังจากนี้ไปจนถึงวันผ่าตัด เราต้องไปทำแผลที่โรงพยาบาลทุกวัน แล้วก็ต้องเตรียมตรวจโควิดก่อนวันผ่าตัดด้วยค่ะ เลยทำให้กังวลว่าจะแบ่งเวลาไหวไหม
ส่วนตัวเราจะชอบให้มีสต็อกในมือ 2-3 ตอนก่อนแล้วค่อยลงค่ะ แต่ตอนนี้เหลือแค่ 2 ตอนก็จะหมดสต็อกเราแล้ว
ด้วยเหตุนี้ ถ้าภายในวันเสาร์นี้เรายังเขียนเพิ่มอีกตอนนึงไม่เสร็จ เราอาจจะขออนุญาตงดการลงฟิคในวันพุธไปจนกว่าจะสิ้นเดือนมีนาคมนี้นะคะ ^^" ต้องขออภัยทุกท่านด้วย แต่ทั้งนี้ถ้าเราสามารถเขียนได้ตามที่เรากำหนด ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไรค่ะ เดี๋ยวยังไงเราจะบอกตอนวันเสาร์นี้นะคะ
อนึ่ง วันเสาร์เราจะติดภารกิจเป็นเพื่อนเจ้าสาวเพื่อนสนิทสมัยมหา'ลัย เพราะฉะนั้นกว่าจะได้ลงฟิคน่าจะห้าทุ่มเป็นต้นไป ไม่ก็เที่ยงคืนของวันอาทิตย์นะคะ ^^
ขอบคุณคนอ่านทุกท่าน ทุกกำลังใจ และทุกคอมเมนต์นะคะ พบกันวันเสาร์ดึก ๆ เลยค่ะ ^^
Author's Talk 11 OCT 2022
สวัสดีค่า มาถึงคิวลงฉบับ Rewrite สำหรับรวมเล่มนะคะ เพื่อให้เนื้อหาออกมาสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ค่ะ
ก็เสร็จสิ้นไปกับงาน CA7 แล้วนะคะ และเราก็ส่งเค้าโครงผลงานเพื่อเลื่อนตำแหน่งเรียบร้อยแล้วค่ะ ช่วงนี้ก็จะกลับมาแพคหนังสือส่งคนที่สั่งได้ปกติแล้ว กับลุ้นว่าพรุ่งนี้เราจะได้อยู่ในตำแหน่งเดิมหรือย้ายงานไปแผนกอื่นค่ะ
ถ้าโชคดีได้ย้ายจริง งานในความรับผิดชอบเราจะเบาลง (นิดหน่อย) อย่างน้อยก็จะไม่เครียดเท่านี้ และน่าจะมีเวลากลับมาเขียนอะไรได้มากขึ้นค่ะ แต่อาจจะไม่เท่าปีก่อนด้วยเรายังต้องเดินทางทำงานเฉลี่ยวันละ 4-5 ชม.อยู่ดี
แต่หลังจากจบอีกโปรเจคแอนโธออริเรา เราคงจะไปเขียนแอนโธเล่ม Days Rise, Nights Fall ก่อน แล้วมาตะลุยกับ KNY FF - The Tales of Butterfly Effects ค่ะ แต่คงจะได้ลงช่วงปีหน้าเลยค่ะ ขอให้เขียนจบก่อนเนอะ
และน่าจะหลังลง Rewrite เรื่องนี้ให้จบก่อนนะคะ
ใครที่พลาดงานนี้แล้วยังอยากเก็บเล่มนี้ สามารถดูรายละเอียดเบื้องต้นของรวมเล่มทั้งสองเล่ม ฉบับปรับปรุงล่าสุด 16 APR 2022 มาให้ได้ศึกษานอกเหนือจากตัวฟิคที่สามารถอ่านตอนหลังได้ใน ReadAWrite | Dek-D | ReadHaus นะคะ
รายละเอียด KNY FF - In Time With You #ห้วงเวลาของเราสอง (Tomioka Giyuu x Kochou Shinobu)
รายละเอียด KNY FF - In The Remembrance of Her #แด่เธอในความทรงจำนิรันดร์ (Shinazugawa Sanemi x Kochou Kanae)
ถ้าสนใจ จิ้มลิงค์สั่งจองด้านล่างได้เลยค่ะ หรือดูรายละเอียดพร้อมกรอกแบบฟอร์มได้ที่นี่นะคะ [Link]
แต่ทั้งนี้ ใครไม่สะดวกไม่เป็นไรนะคะ รับรองได้อ่านเนื้อหาเหมือนเดิม และในรูปแบบ Rewrite เหมือนกันค่ะ เพียงแต่อาจจะได้อ่านตอนพิเศษช่วงท้ายหลังจากเราส่งเล่มล็อตแรกนะคะ
หรือไม่ก็รอตอนเราเปิดพรีอีกรอบ ช่วงเราทำแอนโธ Days Rise, Nights Fall หรือเขียน KNY FF - The Tales of Butterfly Effects จบค่ะ ^^ ช่วงต้นปีหน้าอย่างเร็วเลย
แล้วอย่างไร มาพบกับรีไรท์ตอนที่ 6 ในวันพฤหัสบดีนี้นะคะ อย่าลืมรักษาสุขภาพกันทุกคนค่ะ ^^
Comments (0)