[KNY FF] - In The Remembrance of Her

 

Special Chapter 01 - Unfurling Stars

 

Spoiled :

เนื้อหาอยู่ระหว่าง Day 19 - 24 นะคะ

 

1st Published : 11 JUL 2021

Rewrite : 12 DEC 2022

==========

 

วันนี้ก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งวันธรรมดาของเขา...

 

ชินาซึงาวะ ซาเนมิ เดินมาถึงร้านโอฮางิเจ้าประจำที่เขาไม่ได้แวะมานานนับปี มองซ้ายมองขวาด้วยกลัวว่าจะมีใครที่เขารู้จักมาเห็น

 

ชายหนุ่มระบายลมหายใจเมื่อพบว่าไม่มีใครที่เขาคุ้นหน้าอยู่แถบ ๆ นั้น แม้ใจหนึ่งจะมั่นใจตั้งแต่เลือกร้านนี้เป็นร้านประจำเพราะเป็นร้านอันห่างไกลจากสถานที่ที่คนในหน่วยชอบไป อีกทั้งยังอยู่ห่างจากคฤหาสน์ของนายท่านอุบุยาชิกิ คากายะ...

 

และเธอเองก็ชอบร้านนี้มาก จนกลายเป็นร้านประจำของเธอไปโดยปริยาย...

 

ซาเนมิยืนลังเลใจด้วยคิดว่าควรหรือไม่ควรที่เข้าไปยังร้านนี้ดี จนไม่ทันสังเกตเห็นร่างเล็กจ้อยที่วิ่งสะเปะสะปะมาชนเขาเข้าจัง คราแรกชายหนุ่มเกือบจะตวาดแว้ดใส่คนผู้นั้น หากเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่ประทุษร้ายเขาอย่างไม่ตั้งใจ คำด่าก็ถูกกลืนหายเข้าลำคอไป ด้วยเด็กที่วิ่งมาชนเป็นลูกชายเจ้าของร้านขนมที่เขายืนอยู่ตรงหน้านี้เอง

 

“อ๊ะ พี่ชายหน้าบาก” เด็กน้อยวัยราว ๆ เจ็ดถึงแปดปีเรียกเขาทันทีที่เงยหน้าสบนัยน์ตาสีม่วงอ่อน ลูกค้าที่ดูน่ากลัวจนทำเขาเกรงขามยามแรกพบ แต่เมื่อเวลาผ่านล่วงเลยไป เขาก็ได้เรียนรู้ว่าแท้จริงแล้วชายผู้นี้มีเนื้อแท้เป็นคนอ่อนโยนกว่ารูปลักษณ์ภายนอก “สายัณห์สวัสดิ์ฮะ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”

 

“ทีหลังระวังตัวกว่านี้นะ”

 

ถ้อยคำห้วน ๆ จนฟังเหมือนอีกฝ่ายกำลังตำหนิเขา แต่สัมผัสจากฝ่ามือที่ตบลงบนหัวเบา ๆ บ่งบอกได้ว่าชายร่างสูงนัยน์ตาขวางนี้ไม่ได้อารมณ์เสียอย่างที่เห็นแต่อย่างใด

 

เด็กชายได้แต่ส่งยิ้มกว้างที่ทำอีกฝ่ายกระตุกมุมปากขึ้นมา รอยยิ้มไร้เดียงสาที่ทำให้ซาเนมินึกถึงเหล่าน้อง ๆ ที่จากไปในวัยอันไม่สมควร กับน้องชายคนถัดจากเขาที่จนบัดนี้ก็ได้แต่ทราบเพียงเลา ๆ ว่าไปอยู่กับญาติห่าง ๆ เท่านั้น

 

“ขอบคุณฮะ แล้วพี่ชายไม่เข้าไปในร้านเหรอ”

 

“ข้า...”

 

“มาเถอะฮะ ข้าเห็นท่านแม่บ่นถึงพี่ชายอยู่บ่อย ๆ”

 

เด็กชายตัวน้อยไม่รอคำตอบจากคนที่ยืนละล้าละลัง คว้าแขนอันเต็มไปด้วยรอยแผลของซาเนมิแล้วฉุดกระชากด้วยพละกำลังที่เด็กในวัยเดียวกันพึงมี ทำให้ชายหนุ่มต้องสาวเท้าตามอย่างช่วยไม่ได้

 

เสียงทักทายของเจ้าของร้านดังขึ้นก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเสียงอุทานอย่างดีใจทันทีที่เห็นเขา รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้ากลมแป้นของหญิงสาววัยกลางคนรูปร่างเจ้าเนื้อผู้เป็นเจ้าของร้านและมารดาของร่างจิ๋วที่จับมือเขาแน่นอยู่ ซาเนมิโค้งตัวลงเล็กน้อยเป็นเชิงทักทายอย่างเก้ ๆ กัง ๆ เมื่อนึกได้ว่าเขาไม่ได้แวะที่นี่มานานแสนนาน

 

นานนับเท่ากับการจากไปของเธอ...

 

แม่ของเด็กชายกุลีกุจอพาเขามานั่งยังมุมโปรดด้านในร้าน มุมที่เมื่อมองลอดออกไปผ่านบานหน้าต่างจะเห็นสวนด้านหลังร้านที่เต็มไปด้วยกระถางดอกไม้หลากสีสัน ความสว่างสดใสกับวิวทิวทัศน์อันแสนงดงามจึงทำให้มุมนี้กลายเป็นที่โปรดปรานของคานาเอะไปโดยปริยาย

 

กลิ่นหอมของถั่วแดงและชาเขียวมัจฉะลอยต้องจมูก กลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของร้านนี้ที่ตัวเขาแสนโปรดปราน ด้วยเจ้าของร้านนี้ใช้กลีบดอกซากุระตากแห้งผสมลงในแป้งข้าวเหนียวให้ได้กลิ่นอายเฉพาะอย่างที่ร้านอื่นยากจะลอกเลียนแบบได้

 

รสชาติที่เขาไม่ได้ลิ้มรสมานานกว่าสองปีนำพาความทรงจำเก่า ๆ ให้หวนย้อนมา เสาหลักวายุมองออกนอกหน้าต่างขณะใจลอยไปถึงห้วงอดีต นัยน์ตาสีชมพูคู่สวยและรอยยิ้มอ่อนหวานของเธอคนนั้นยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำของเขามาจนถึงตอนนี้

 

ผู้หญิงที่เป็นดั่งดอกซากุระที่แสนอ่อนหวานแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเข้มแข็งยิ่งกว่าใคร ผู้หญิงที่อ่อนโยนดุจสายลมของต้นฤดูใบไม้ผลิ ผู้หญิงที่เป็นดั่งดวงดารานำทางเขาในยามค่ำคืนที่แสนมืดมน...

 

แต่ผู้หญิงคนนี้ก็จากไปไกลแสนไกล... ไปยังที่ที่เขาไม่อาจไขว่คว้าได้... ทิ้งให้เขาจมอยู่กับความเศร้าโศกและความเจ็บปวดจากการสูญเสีย กับบาดแผลที่ไม่มีวันสมาน

 

“ไม่ได้เจอชินาซึงาวะซังนานเลย คงสบายดีนะคะ”

 

“อื้อ”

 

ซาเนมิตอบรับเบา ๆ ขณะที่เจ้าของร้านทำท่าช่างใจราวกับจะถามไถ่ออกไปดีไหม แต่กลับเป็นเสียงเล็ก ๆ ของเด็กชายที่เอ่ยแทรกขึ้นมาอย่างไร้เดียงสา

 

“พี่ชายหน้าบากฮะ แล้วพี่สาวคนสวยไม่มาด้วยกันเหรอ”

 

หัวใจของชายหนุ่มกระตุกวูบเมื่อนึกถึงคนที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ กาลเวลาที่ผ่านมาสำหรับเขานั้นไร้ความหมาย ด้วยกาลเวลาของเสาหลักวายุแทบจะหยุดอยู่กับที่ตั้งแต่วันที่ฟ้าร่ำไห้เมื่อสองปีก่อน

 

วันที่โลกของเขาล่มสลายลงอีกคราหนึ่ง...

 

วันที่เขาต้องเสียเธอไปอย่างไม่มีวันกลับ...

 

หัวใจของเขายังคงเจ็บปวดจากการจากไปของเธอ เจ็บปวดจนเลือกที่จะไม่พูดถึงเธอหรือแวะไปที่คฤหาสน์ผีเสื้ออีกเลย จนบัดนี้เขายิ่งเชี่ยวชาญในการทำแผลให้แก่ตัวเองยิ่งขึ้นไปกว่าสมัยก่อนที่เขาจะเข้าร่วมหน่วยพิฆาตอสูรนี้เสียอีก

 

รอยยิ้มแสนไร้เดียงสาของเด็กชายถูกส่งมอบมาให้ แต่กลับไม่มีคำตอบใดหลุดออกจากปากของเขา เมื่อจะเป็นการตอกย้ำความเจ็บปวดจากการสูญเสีย

 

สูญเสียทั้งคนที่รักยิ่งกว่าชีวิต สูญเสียความฝันที่ทั้งสองมีร่วมกัน...

 

คงเหลือแต่ความทรงจำของเขาที่ถูกปิดผนึกภายใต้หน้ากากแห่งความโกรธแค้นและความมุ่งมั่นที่จะล้างบางอสูร เพื่อสร้างโลกที่ปลอดภัยแก่น้องของเธอและเขาที่ยังเหลือรอด

 

หญิงสาวเจ้าของร้านดันหลังเด็กชายตัวจ้อยพลางกระซิบอะไรบางอย่าง ก่อนที่เธอจะถือวิสาสะนั่งลงตรงข้ามซาเนมิ

 

 

“เรื่องบางเรื่องมันไม่ง่ายเลยนะคะ” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวลอ่อนโยนดุจมารดาพูดกับผู้เป็นลูกชาย พร้อมกับมองชายหนุ่มที่ยังคงจมปลักกับความทรงจำสุดแสนพิเศษแด่ใครคนหนึ่งที่จากไป “ยิ่งเป็นคนสำคัญมากแค่ไหน มันอาจจะไม่มีวันที่เราจะไม่นึกถึงเขาหรือลืมเลือนเขาได้เลย”

 

ซาเนมิแหงนหน้าสบตาเจ้าของร้าน ผู้หญิงที่มีความคล้ายคลึงกับแม่ของเขาตรงที่เป็นมารดาผู้เลี้ยงดูบุตรห้าคนด้วยตัวคนเดียว หากแต่ต่างออกไปตรงที่สามีของเจ้าของร้านนั้นเสียชีวิตลงจากอุบัติเหตุอันแสนน่าเศร้าตอนที่บุตรชายคนเล็กและคนเดียวของเธอเพิ่งจะลืมตาดูโลกได้ไม่นาน

 

ตลอดเวลาที่เขาเป็นลูกค้าประจำของร้านนี้ เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนี้จะแสดงความทุกข์โศกออกมาให้เห็น คล้ายคลึงกับเธอของเขาที่มีแต่รอยยิ้มประดับใบหน้า หากรอยยิ้มที่ส่งมาตอนนี้ก็คงแฝงด้วยความเศร้าที่เขาไม่เคยเห็นเช่นกัน

 

“แต่ฉันแค่คิดว่า พ่อของเด็ก ๆ พวกนั้นอยากเห็นฉันเดินหน้าต่อไปมากกว่าค่ะ”

 

เธอจบประโยคทันทีที่บุตรชายของเธอวิ่งลงมาพร้อมกับกระดาษสี่เหลี่ยมผืนผ้าจำนวนหนึ่ง แล้วส่งมันให้เขาที่มองมาอย่างฉงน...

 

“ท่านแม่บอกว่า พี่ชายคงอยากมีเรื่องที่ขอพรกับพระเจ้าใช่ไหมฮะ ข้าเลยเอาทังซะขุมาให้”

 

นัยน์ตาสีม่วงอ่อนไหววูบ ด้วยเขาโยนคำอธิษฐานทุกสิ่งทิ้งไปพร้อมกับการตายของเธอ พร้อม ๆ กับความเชื่อในพระเจ้าที่แทบไม่เหลืออยู่ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธนัยน์ตาใสแจ๋วของเด็กชายที่มองมาด้วยความหวังได้ เขาจึงเอื้อมมือตบศีรษะเด็กชายอย่างแผ่วเบา พร้อมส่งรอยยิ้มอ่อนโยนที่แทบไม่เคยมีใครได้เห็น

 

“ขอบใจนะ แต่ข้าเขียนหนังสือไม่เป็น”

 

“นั้นเดี๋ยวข้าเขียนคำอธิษฐานแทนพี่ชายให้นะฮะ”

 

เด็กชายว่าพลางวิ่งตื๋อไปหยิบพู่กันและแท่นหมึก ตวัดลายมือโย้เย้จนแทบอ่านไม่ออกลงบนกระดาษ ทำซาเนมิได้แต่ขมวดคิ้ว หากเป็นสตรีวัยกลางคนที่ส่งยิ้มกว้างยามเด็กชายส่งกระดาษให้กับผู้เป็นมารดานำไปแขวนบนกิ่งไผ่

 

ถ้อยคำอธิษฐานที่ดูเละเทะหากกลั่นออกมาจากใจถูกแขวนไว้บนสุดของกิ่งไผ่หน้าร้าน ปลิวไสวไปกับสายลมต้นฤดูร้อน คำอธิษฐานที่พอเมื่อแกะลายมือได้ก็ทำให้เสาหลักวายุได้แต่กำมือแน่นอย่างสะท้านอารมณ์ หากไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาให้ระคายใจต่อความปรารถนาดีของเด็กน้อยผู้นั้น

 

กระดาษทังซะขุเปล่าหนึ่งแผ่นถูกจับใส่มือก่อนที่เขาจะออกจากร้านไป ขณะที่เด็กชายกวักมือให้เขาต้องก้มตัวลง ก่อนจะป้องปากกระซิบบอกบางสิ่งแก่ชายหนุ่ม

 

“ตอนข้ายังเขียนหนังสือไม่เป็น ท่านแม่บอกให้อธิษฐานในใจก็พอ พี่ชายหน้าบากลองดูนะฮะ”

 

รอยยิ้มไร้เดียงสาที่ทำให้ซาเนมิเจ็บปวดใจ แต่ครั้นจะไม่รับกระดาษใบจ้อยนั้นมาก็คงจะทำลายความรู้สึกของเด็กน้อยคนนี้ ชายหนุ่มได้แต่ตบหัวเด็กชายก่อนเอ่ยคำบอกลาแก่เจ้าของร้านแล้วรีบเดินออกจากร้านมาด้วยความร้าวราน ไม่สนใจเสียงเรียกไล่หลังและคำอธิษฐานบนทังซะขุแผ่นนั้น

 

'ขอให้พี่ชายหน้าบากและพี่สาวคนสวยมีความสุขมาก ๆ'

 

คำอธิษฐานของเด็กน้อยคนนั้นไม่มีวันเป็นจริง เพราะเธอคนนั้นไม่อยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว...

 

เช่นเดียวกับคำอธิษฐานของเขาก็ไม่เคยเป็นจริง... และไม่อาจเป็นจริง เมื่อไม่ว่ากี่ครั้งที่เฝ้าอธิษฐาน คำขอเหล่านั้นก็ไม่เคยสัมฤทธิผล...

 

เพราะพระเจ้าไม่เคยมีอยู่จริง...

 

ชายหนุ่มแค่นยิ้มอย่างเย้ยหยันในโชคชะตา หากพระเจ้ามีอยู่จริง ท่านคงชิงชังเขาจนพรากทุกสิ่งไปจากชีวิตเขา ทั้งครอบครัว ทั้งเพื่อนรักเพียงคนเดียว และเธอ...

 

เขาไม่เหลือคำอธิษฐานใดให้อ้อนวอนต่อพระเจ้า เว้นเพียงข้อเดียวที่คงเป็นจริงได้ด้วยน้ำมือของเขาเอง และเป็นสิ่งเดียวกับเหตุผลที่ทำให้เขายังทนมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้

 

ขอให้น้องของเขาและเธอได้มีชีวิตอยู่อย่างความสุขในโลกที่ปราศจากอสูร...

 

ซาเนมิกลับมาถึงคฤหาสน์ของตนอีกครั้งในยามใกล้หัวรุ่ง หากท้องนภายังคงมืดมิดพอที่จะเห็นหมู่ดาราพร่างพราวเต็มแผ่นฟ้ากว้างใหญ่ สายลมเย็นพัดกระดิ่งลมกระทบกันเป็นจังหวะจะโคนระคนกับเสียงจิ้งหรีดที่กรีดร้องเรไรทั่วบริเวณ

 

เสาหลักวายุทรุดตัวนั่งลงตรงชานนอกบ้าน พร้อมกับหยิบกระดาษทังซะขุแผ่นจ้อยจากในกระเป๋าเสื้อออกมา แล้วแหงนหน้ามองทางช้างเผือกที่ทอดยาวเป็นสายคล้ายแม่น้ำบนท้องฟ้าอันแสนมืดมิด บรรยากาศโดยรอบทำเขานึกถึงสมัยที่คานาเอะยังมีชีวิตอยู่ หลายครั้งที่เขาและเธอมักจะแอบพบเจอกันยังบ้านของเขาเพื่อใช้เวลาที่เหลืออยู่ในวันที่ไม่มีคนไข้หรือภารกิจอื่นใดนั่งดูดาวด้วยกันจนถึงตะวันขึ้น

 

ใบไผ่พัดหวิวตามสายลมทำเขาหวนคะนึงถึงบทสนทนาระหว่างเขากับเธอในกลางฤดูหนาวคืนหนึ่งที่ท้องฟ้ามืดมิดไร้แสงจันทร์ มีเพียงแสงดาราระยิบระยับที่เปล่งแสงไม่แพ้ประกายในนัยน์ตาของคานาเอะขณะชี้ทางช้างเผือกให้เขาได้เห็น

 

‘ซาเนมิคุงเคยได้ยินตำนานทานาบะตะไหมคะ’

 

‘ใช่ไอ้เรื่องเจ้าหญิงทอผ้างี่เง่ากับเจ้าชายเลี้ยงวัวโง่ ๆ นั่นเหรอ’

 

ซาเนมิแค่นเสียงตอบขณะลูบไล้เส้นผมยาวสลวยอย่างเบามือ น้ำเสียงกับปฏิกิริยาที่ขัดแย้งกันทำหญิงสาวที่พาดหัวหนุนตักหัวเราะออกมาเบา ๆ

 

‘แหม ๆ พูดแบบนี้โอริฮิเมะซามะกับฮิโกโบชิซังคงเสียใจแย่เลยนะคะ’

 

‘หรือว่าไม่จริง... เอาแต่ทำเรื่องไร้สาระจนโดนลงโทษแบบนั้น เหอะ!’

 

ซาเนมิตอบเมื่อนึกถึงตำนานที่มารดาของเขาชอบเล่าให้ฟังตอนที่เขายังเล็ก ตำนานแสนงี่เง่าที่เขาไม่เคยเข้าใจเหตุผลที่เจ้าหญิงทอผ้าและเจ้าชายเลี้ยงวัวถึงเลือกที่จะระเริงรักจนโดนลงโทษแบบนั้น ไม่เข้าใจที่ทั้งสองละเว้นจากหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

 

ไม่เข้าใจถึงความเสียใจยามที่ทั้งสองถูกเทพแห่งสรวงสวรรค์สั่งลงโทษ ให้ได้พบกันแค่ในวันที่เจ็ดเดือนเจ็ดเท่านั้น...

 

รอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏบนใบหน้างดงามของคานาเอะ ขณะที่เธอยกมือไล้ใบหน้าคมสันที่เต็มไปด้วยบาดแผลอย่างแผ่วเบา

 

‘แล้วถ้าเป็นซาเนมิคุง... ซาเนมิคุงจะรอไหมคะ’

 

คำถามที่เขาได้แต่มุ่นคิ้วด้วยความฉงน ขณะจ้องนัยน์ตาสีชมพูอ่อนที่บัดนี้ฉายแววเศร้าหมอง มือเล็กบางแต่สากกร้านจากการฝึกดาบเอื้อมมาจับมือของเขาอีกข้างไว้

 

‘ฉันคิดถึงท่านพ่อกับท่านแม่ฉันค่ะ...’

 

ประโยคที่ทำหัวใจชายหนุ่มสั่นสะท้าน ตำนานงี่เง่านั้นยังจบด้วยความหวัง...อย่างน้อยก็มีวันหนึ่งในหนึ่งปีที่คู่รักคู่นั้นอาจได้หวนกลับมาเจอกันบนทางช้างเผือก

 

ขณะที่พวกเขาไม่อาจได้พบเจอกับคนที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ... ต่อให้คิดถึงแทบตายก็ไม่อาจเป็นไปได้...

 

‘ไม่รู้สิ...” ซาเนมิพึมพำพลางเอื้อมมือไล้นวลแก้มของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา “แต่พ่อแม่เจ้าไม่มีเหตุอะไรให้ไม่ต้องพบหน้าเจ้านี่นา ไม่เหมือนกับข้า...’

 

ความจริงที่ยังคงหยั่งรากลึกลงในจิตใจของเขา ความจริงที่ว่าเขาไม่อาจปกป้องน้อง ๆ จากการถูกมารดาผู้กลายเป็นอสูรพรากชีวิตไป กับความจริงที่ว่าเขาเป็นผู้ลงมือสังหารมารดาด้วยมือทั้งสองข้างของตนเพื่อปกป้องน้องชายที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียวไว้

 

ความจริงที่เขาทอดทิ้งเกนยะไว้ ถึงจะเพื่อให้อีกฝ่ายได้มีโอกาสใช้ชีวิตที่ดีกว่าเขา... แต่เขาก็คงทำร้ายจิตใจของน้องชายที่เหลือเพียงคนเดียวไว้แสนสาหัสยิ่งกว่าใคร

 

‘ไม่หรอกค่ะ’ คานาเอะค่อย ๆ ชันตัวขึ้นมาก่อนสวมกอดร่างของเขาไว้แน่น ความอบอุ่นที่ได้รับทลายความหนาวเหน็บในจิตใจให้หมดสิ้น คงเหลือไว้แต่ความรักและความอ่อนโยนจากเธอคนนี้ ‘ฉันเชื่อว่าทุกคนรอคอยที่จะเจอซาเนมิคุงนะคะ...’

 

ประโยคที่ไม่เป็นความจริง เพราะท้ายสุดเมื่อเธอจากโลกนี้ไปอย่างไม่อาจหวนกลับมา จนถึงตอนนี้เขาก็ไม่เคยได้เจอเธออีก หรือฝันถึงเธอแม้แต่ครั้งเดียว

 

“ข้าเข้าใจแล้ว...”

 

นัยน์ตาของเขาเริ่มแสบร้อนขณะเอื้อมมือหยิบเครื่องประดับศีรษะของคานาเอะขึ้นมากำแน่น บัดนี้เขาเข้าใจความรู้สึกของเจ้าหญิงทอผ้าและเจ้าชายเลี้ยงวัวงี่เง่านั่นแล้ว

 

เข้าใจว่าทำไมคนบางคนถึงเลือกที่จะรอ... รอด้วยความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่าอย่างน้อยสักวันหนึ่งในหนึ่งปี จะมีวันที่เขาได้พบกัน...

 

แม้ในปีนั้นจะมีฝนตกหนัก แต่สองคนนั้นก็ยังมีปีต่อไปให้ได้เจอกัน...

 

ไม่เหมือนกับพวกเขาทั้งสอง... ที่ไม่มีวันได้พบกันอีกในชาติภพนี้

 

“แล้วเจ้าล่ะ ยังรอข้าอยู่หรือเปล่า... หรือมีแต่ข้าที่อยากเจอเจ้าฝ่ายเดียว”

 

คำตัดพ้อที่กลั่นออกมาจากจิตใจอันแหลกสลายยิ่งกว่าละอองดาวบนฟากฟ้า คำตัดพ้อที่มาจากจิตใจอันหวนคะนึงถึงคนที่ไม่อาจเจอได้อีกในชาตินี้ คนที่จากเขาไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมา...

 

ไม่กลับมาให้เห็นเป็นวิญญาณ... ไม่แม้แต่จะปรากฏกายให้เห็นในฝัน...

 

นัยน์ตาสีม่วงอ่อนหลุบลงอย่างอ่อนล้าด้วยหมดแรงทั้งกายและจิตใจ ปล่อยกระดาษทังซะขุให้ปลิวละลิ่วไปตามสายลม ปล่อยให้กระดาษแผ่นน้อยนำพาความเจ็บปวดของเขาลอยไปถึงคนบางคนที่อยู่ในห้วงความทรงจำทั้งยามหลับและยามตื่น

 

หยาดน้ำร้อนไหลรินจากนัยน์ตาที่ปิดลงจากความเหนื่อยอ่อน มือขวายังคงกำเครื่องประดับรูปผีเสื้อนั้นไว้แน่นแนบอกด้านซ้าย ตรงตำแหน่งที่ใกล้กับหัวใจที่สุด

 

ทั้งที่รู้ว่าคงเป็นไปไม่ได้ แต่เขาก็หวัง...

 

เขาอยากพบเธออีกครั้ง อีกแค่ครั้งเดียว...

 

ขออีกแค่ครั้งเดียวในชาตินี้...

 

ชายหนุ่มจมเข้าสู่ห้วงนิทราทั้ง ๆ ที่กำเครื่องประดับผีเสื้อตัวนั้นไว้แน่นเหมือนทุกค่ำคืน ไม่อาจได้เห็นดาวตกที่พาดผ่านฟากฟ้าราวกับตอบรับคำอธิษฐานจากจิตใจที่แหลกสลายของเขา

 

ไม่ทันได้รับรู้ถึงสัมผัสแสนอ่อนโยนที่ไล้เหนือใบหน้าตามรอยแผลเป็น สัมผัสจากคนที่เขาแสนคิดถึงที่แม้ไม่อาจปรากฏกายให้เขาได้เห็นในตอนนี้ พร้อมกับเสียงกระซิบที่มีเพียงสายลมและแมกไม้ยามใกล้รุ่งที่ได้ยินเหมือนเช่นทุกคืนวัน

 

ถ้อยคำกระซิบแผ่วเบา ที่หวังว่าเขาจะได้ยินในสักวันหนึ่ง... ที่ฝากไว้กับสายลมอ่อนละมุนดุจอ้อมกอดของเธอผู้นั้น

 

“ฉันอยู่กับคุณเสมอค่ะ... ซาเนมิ”

 

==========

Author's Talk 11 JUL 2021

สวัสดีค่า จบไปแล้วกับตอนพิเศษตอนแรกนะคะ

คนอ่านอาจตกใจที่จู่ ๆ ลัดคิวมาเขียนบทนี้ จริง ๆ ตอนแรกคิดว่าอาทิตย์นี้จะเป็นฟิคดิจิมอนค่ะ แต่ลืมไปว่าเออเนอะ มันมีเทศกาลทานาบาตะมา แล้วไม่แน่ใจว่ามีใครจำได้ไหมว่าเราเคยเปรย ๆ ว่ามีเนื้อหาที่ถูกตัดออกจากบทที่ 18 เดิมของเราค่ะ

แหะ ๆ เดิมเรากะให้พี่สากับพี่เอะนั่งดูดาว แล้วพี่เอะชวนดูทางช้างเผือกแล้วคุยเรื่องตำนานทานาบาตะค่ะ เพียงแต่พอถึงเวลาเขียนจริงมันจะทำให้เรื่องไม่ดำเนินเข้มข้นตามที่เราวางแผนไว้ เราเลยจำต้องตัดเนื้อหาส่วนนั้นออก แล้วโยกเรื่องคำอธิษฐานกับดาวตกไปอยู่ท้ายตอนที่ 20 แทนค่ะ

แต่สุดท้าย ด้วยเทศกาลทานาบาตะที่ผ่านมา เราเลยแบบ เออเนอะ ทำไมไม่ใช้เนื้อหาช่วงนั้นมาผนวกกับทานาบาตะ กับรอยต่อระหว่างบทที 23 และบทที่ 24 ให้เป็นประโยชน์ล่ะ...

ก็เลยออกมาเป็นบทพิเศษตอนนี้ที่ทุกท่านได้อ่านนี่แหละค่ะ XD ยังคงความแอ๋งไว้ถ้วนหน้า

ในจุดนั้นพี่สายังไม่ได้ฝันถึงพี่เอะเลยนะคะนับแต่พี่เอะจากไป จริง ๆ อยากเขียนฉากตัดพ้อเพิ่มจากตอนที่ 24 ที่พี่สาได้ฝันถึงพี่เอะครั้งแรก... กับเป็นการเฉลยไปในตัวว่าพี่เอะก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกับพี่สานี่แหละค่ะ เพียงแต่คงปรากฏกายให้เห็นเลยไม่ได้นี่แหละ

ลองปรากฏกายให้เจอสิ รับรองพี่สางอแงตามพี่เอะไปปรโลกแน่ค่ะ... Y_Y

(สำหรับคนที่งง timeline เหตุการณ์ช่วงนี้เกิดระหว่างบทที่ 23 - 24 นะคะ แต่ช่วง flashback คือระหว่างบทที่ 18 - 19 สังเกตได้จากพี่เอะยังเรียกพี่สาว่า "ซาเนมิคุง" อยู่ค่ะ)

และสารภาพอีกจุด... ชื่อบทก็มาจากเนื้อเพลงของ Gfriend อะเกนค่ะ Crossroads แนะนำให้ฟังนะคะ

บทพิเศษของฟิคนี้ยังไม่จบแค่บทนี้แน่ค่ะ อย่างน้อยคงมีสามบทแน่ ๆ ส่วนบทที่ทุกท่านรอคอย... บทที่ต้องติดบัตรอ่าน... มีนะคะ XD แต่อาจจะได้อ่านเร็วสุดก็คือเดือนหน้าเลย

ยังไงวีคหน้าเราคงขอเขียนฟิคดิจิมอนที่ติดพันมาตั้งแต่เดือนมีนาคมค่ะ กับอีกวีคถัดไปน่าจะเป็นคิวลงตอนพิเศษของฟิคกิชิก่อน

ทั้งนี้ แอบมีเรื่องมาแจ้งคุณผู้อ่านไว้เบื้องต้นสองเรื่องนะคะ

เรื่องแรก ในส่วนรวมเล่มของฟิคทั้งสามเรื่อง ได้แก่ฟิคกิชิ ฟิคนี้ และฟิคบ้านผีเสื้อของเราที่จะเริ่มลงในช่วงกันยายน ฟิค In Time With You จะเปิดให้จองเล่มในช่วงเดือนกันยายนนี้ค่ะ ส่วนฟิค In The Remembrance of Her จะเปิดให้จองประมาณเดือนพฤศจิกายน และฟิค The Tales of Butterfly Effects คงเปิดให้จองประมาณต้นเดือนมกราคมปีหน้าเลยค่ะ

อันนี้อาจจะต้องขอโทษที่ไม่ได้ให้เปิดรวดเดียวสามเล่มนะคะ ด้วยเราวุ่นกับงานประจำด้วย เลยอาจจะสะดวกทำได้ทีละเล่มค่ะ จะได้สะดวกกับการเก็บเงินด้วย

แต่ถ้าใครอยากประหยัดค่าส่ง ตอนจองอาจจะหมายเหตุให้เราส่งรวมพร้อมกันสามเล่มเลยก็ได้นะคะ ^^ หรือมีข้อเสนออื่นลองกระซิบบอกมาก็ได้นะคะ

เรื่องที่สอง เห็นสายลม เห็นดวงดาวแบบนี้ ไหนจะเพลง Gfriend ที่เรา hint ไว้ มันไม่น่าจะจบแค่ฟิคนี้แหละค่ะ แล้วก็ไม่ใช่จบในตอนพิเศษของเรื่องนี้แน่... จุ๊ ๆ ตอนนี้ใบ้ได้เบื้องต้นแค่นี้ค่ะ ^^

ไม่ใช่ฉากปิดไฟด้วยนะคะ 555555 แหม ๆ เรารู้นะคะว่ามีคนรอตอนพิเศษของพี่สาพี่เอะที่ต้องตรวจบัตรกันอยู่ XD

จริง ๆ คันปากอยากเล่าแล้วค่ะ แต่รอให้พร้อมกว่านี้ก่อนเนอะ ไม่แน่ว่าอาจจะมีคนเดาได้แล้วก็ได้นะคะ

ท้ายสุดนี้ ขอบคุณคนอ่านอีกครั้งนะคะ ช่วงนี้อาจจะมา ๆ หาย ๆ ไม่ได้ลงถี่วีคละสองตอนไปจนถึงอย่างน้อยก็เดือนหน้า ซิก ๆ งานเรารัดตัวมากค่ะ

อย่าลืมรักษาสุขภาพนะคะ ช่วงนี้สาหัสมาก เห็นยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตรายวันแล้วหดหู่มากค่ะ ทุกท่านดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตนะคะ

แล้วพบกันวีคหน้ากับฟิคดิจิมอนของเราค่ะ

Author's Talk 12 DEC 2022

สวัสดีค่า มาถึงคิวลงฉบับ Rewrite สำหรับรวมเล่มนะคะ เพื่อให้เนื้อหาออกมาสมบูรณ์ทีสุดเท่าที่เราจะทำได้ค่ะ

พรุ่งนี้วันทำงานอีกแล้วค่ะ ฮื้อ อยากมีวันที่ได้นอนอยู่บ้านเฉย ๆ ปล่อยใจว่างบ้างค่ะ แต่ก็รู้สึกว่างานไม่ค่อยคืบหน้าเท่าที่แพลนไว้อยู่ดี

เดี๋ยวช่วงกลางวีค จะทำฟอร์มแจกสคส.มาลงนะคะ แต่คงจะได้ส่งช่วงต้นมกราเลยค่ะ จนถึงสิ้นปีเรามีงานต้องเคลียร์หลายชิ้นมาก

ตอนนี้ เราลงสปอยตัวอย่างงานแอนโธออริโปรเจค #LetLoveBreakUsApart ของคุณInnara @herpensss แล้วค่ะ ของเราเป็นเรื่องสั้นชื่อ "เหลือเพียงรอยจารึก" (Timelapse) ค่ะ ดูรายละเอียดได้เลย <3

จั่วชื่อโปรเจคมาแบบนี้ น่าจะชินกับแนวแอ๋งละมุนของเรากันเนอะ (แต่รับรองว่าเรื่องนี้ไม่มีใครตายนะคะ : D)

อนึ่ง ใครที่พลาดงาน CA 7 แล้วยังอยากเก็บเล่มนี้ สามารถดูรายละเอียดเบื้องต้นของรวมเล่มทั้งสองเล่ม ฉบับปรับปรุงล่าสุด 15 OCT 2022 มาให้ได้ศึกษานอกเหนือจากตัวฟิคที่สามารถอ่านตอนหลังได้ใน ReadAWrite | Dek-D | ReadHaus นะคะ

รายละเอียด KNY FF - In Time With You #ห้วงเวลาของเราสอง (Tomioka Giyuu x Kochou Shinobu)

รายละเอียด KNY FF - In The Remembrance of Her #แด่เธอในความทรงจำนิรันดร์ (Shinazugawa Sanemi x Kochou Kanae)

ถ้าสนใจ จิ้มลิงค์สั่งจองด้านล่างได้เลยค่ะ หรือดูรายละเอียดพร้อมกรอกแบบฟอร์มได้ที่นี่นะคะ [Link]

แต่ทั้งนี้ ใครไม่สะดวกไม่เป็นไรนะคะ รับรองได้อ่านเนื้อหาเหมือนเดิม และในรูปแบบ Rewrite เหมือนกันค่ะ เพียงแต่อาจจะได้อ่านตอนพิเศษช่วงท้ายหลังจากเราส่งเล่มล็อตแรกนะคะ

หรือไม่ก็รอตอนเราเปิดพรีอีกรอบ ช่วงเราทำแอนโธ Days Rise, Nights Fall หรือเขียน KNY FF - The Tales of Butterfly Effects จบค่ะ ^^ ช่วงต้นปีหน้าอย่างเร็วเลย

แล้วเจอกันกับรีไรท์ตอนพิเศษ 2.1 ในวันอังคารนะคะ (คิดว่าพรุ่งนี้ยังน่าจะลงได้อยู่ค่ะ แต่พุธ-พฤหัสบดีน่าจะยุ่งบรรลัยมาก) อย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยค่ะ ^^