29 ตอน Day 29 - Last Mission
โดย rene_recluse
Day 29 - Last Mission
Prompt: “Back up!”
Spoiled | TW
TW : Violence, Blood, Characters' Death
Spoiled: KNY เล่มที่ 23 ค่ะ
1st Published : 11 JUN 2021
Rewrite : 07 DEC 2022
==========
นี่จะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเขา ในฐานะเสาหลักของหน่วยพิฆาตอสูร
ความอบอุ่นจากสัมผัสของโคโจ คานาเอะ ยังทิ้งร่องรอยไว้ตามตำแหน่งที่เธอกุมมือเขายามหมดสติไป ความอบอุ่นแบบเดียวกับที่เขาได้รับมาตลอด ที่กลายเป็นกำลังใจให้เขากลับมาปฏิบัติหน้าที่สุดท้ายในฐานะเสาหลักวายุให้สมบูรณ์
ใบหน้าของเหล่าผู้คนที่เขารักที่ได้เห็นในแม่น้ำหลังความตายเป็นดั่งพลังใจคอยผลักดันที่จะให้เขาสู้ต่อไป สู้เพื่อความฝันและความหวังของทุกคน
แม้จะต้องตายในวันนี้ แต่เขาจะต้องตายโดยปฏิบัติหน้าที่ให้เรียบร้อย เพื่อจะได้กลับไปเจอทุกคนอย่างเต็มภาคภูมิ
สองมือของชินาซึงาวะ ซาเนมิ เสาหลักวายุกำดาบนิจิรินไว้แน่นยิ่งกว่าทุกครั้ง ขณะเสียงการต่อสู้ระหว่างราชันอสูรและเจ้าเด็กคามาโดะยังคงได้ยินมาถึงตำแหน่งที่เขาอยู่ ก่อนจะได้เห็นการโจมตีของอิงุโระ โอบะไน ที่ร่วมต่อสู้กับเด็กคนนั้น
รอช้าไม่ได้ ต้องรีบไปเป็นกำลังเสริมให้แก่สองคนนั้น!
ซาเนมิค่อย ๆ ประคองร่างอันบอบช้ำจากการถูกซากอาคารถล่มทับจนหมดสติลงมายังชั้นล่าง ขณะสอดส่ายสายตามองหาเสาหลักคนอื่น ๆ หากยามได้วิ่งผ่านร่างไร้วิญญาณของเหล่าสมาชิกระดับล่างของหน่วยพิฆาตอสูรที่สังเวยชีวิตจากการถูกโจมตี ชายหนุ่มก็ได้แต่กัดกรามแน่นอย่างคั่งแค้น นัยน์ตาสีม่วงอ่อนฉายแววโรจน์ด้วยโทสะ พร้อมกับหัวใจที่เต้นรัวเร็วกับอุณหภูมิร่างกายที่เพิ่มสูงขึ้น
ความเจ็บปวดของร่างกายจากการถูกโจมตีดูเหมือนจะสลายไปชั่วคราวด้วยพลังแห่งความโกรธแค้นที่สะสม ทั้งชีวิตของครอบครัวที่ถูกคร่าไป ชีวิตของเพื่อนสนิทที่ต้องจบลงก่อนเวลาอันควร ชีวิตของบรรดานักรบแห่งเหล่าหน่วยพิฆาตอสูรที่ยอมสละชีพเพื่อกำจัดอสูรร้าย... และชีวิตของเธอคนนั้น
เสียงจู่โจมดังสนั่นที่บ่งบอกได้ว่ามุซันคงลงมือกับไม่เด็กคามาโดะก็เสาหลักอสรพิษยิ่งทำให้เขาเร่งรุดสอดส่ายหาฮิเมจิมะ เกียวเม หัวหน้าของกลุ่มเสาหลัก ใช้เวลาไม่นานเขาก็ได้พบ ถึงได้เห็นสภาพบาดเจ็บของอีกฝ่ายก่อนหมดสติไป หากสีหน้าซีดเผือดจากการเสียเลือดจำนวนมากและสภาพร่างของเสาหลักหินผาก็ทำเขาตะโกนลั่น
“ฮิเมจิมะซัง!”
ซาเนมิถลาที่จะเข้าไปพยุงชายร่างสูงใหญ่กำยำที่เพิ่งปฐมพยาบาลเสร็จ แต่กลับถูกอีกฝ่ายปัดมือทิ้ง เสียงสายฟ้าคำรามที่เป็นการจู่โจมของเจ้าเด็กหัวเหลือง กับเสียงตะโกนของเจ้าเด็กหัวหมูป่ายิ่งกระตุ้นความโกรธแค้นให้เขามากขึ้น
“ไม่ต้องสนใจข้า รีบไปช่วยคนอื่นเถอะชินาซึงาวะ”
คำสั่งที่ทำให้เขาชะงักการกระทำทุกสิ่ง หากสิ่งที่เกียวเมพูดมาเป็นสิ่งที่ต้องทำในตอนนี้ ยิ่งช่วงเวลาที่ทุกอย่างมาถึงจุดวิกฤติ เขาไม่เหลือเวลาหรืออะไรให้ต้องลังเลแล้ว เสาหลักวายุรีบพยักหน้ารับคำสั่งของผู้อาวุโสกว่าก่อนจะรีบออกวิ่งไปสู่จุดที่ทุกคนกำลังต่อสู้อยู่
ก่อนจะถึงจุดหมาย เสียงหนึ่งก็เรียกเขาไว้ ภาพโทมิโอกะ กิยู เสาหลักวารีที่เขาเหม็นขี้หน้าในสภาพแขนขวาขาดสร้างความสะเทือนใจไม่น้อย หากแม้จะบาดเจ็บสาหัส แต่นัยน์ตาสีครามที่เคยไร้อารมณ์บัดนี้ฉายแววมุ่งมั่นไม่แพ้กับนัยน์ตาของเขา
“ข้า...”
“ไม่ต้องพูดมาก!” ซาเนมิคำรามพลางฉุดร่างของกิยูยืนขึ้น พร้อมกับโยนดาบที่หล่นอยู่ไม่ห่างให้อีกฝ่ายรับ “ข้าจะรีบไปก่อน แกรีบตามมา อย่าชักช้านะโทมิโอกะ!”
“ขอบใจ...”
คำขอบคุณที่เขารีบพยักหน้าขณะรวบรวมลมหายใจแล้วออกวิ่ง สภาพเสาหลักที่เขาเห็นแต่ละคนแทบไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้ได้อีกแล้ว หากกำลังใจที่ทุกคนหล่อหลอมจนเป็นหนึ่งเพื่อจุดหมายสูงสุดอันเดียวกันกลายเป็นพลังคอยผลักดันให้พวกเขามีแรงยืนหยัดขึ้นต่อสู้ได้
พลังใจที่เอาชนะกายภาพ...
พลังใจที่ทำให้ก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์…
พลังใจที่เป็นพลังให้เขาทุกคนก้าวต่อไป...
ภาพเด็กสามคนที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับเกนยะที่พยายามรับมือกับคิบุซึจิ มุซัน โดยไม่แยแสถึงสวัสดิภาพทำให้เขารีบเร่งฝีเท้า ไม่ทันจะถึงที่หมาย คันโรจิ มิซึริ ผู้ฝืนลุกมาทั้ง ๆ ที่เต็มไปด้วยบาดแผลสาหัสก็ใช้กำลังกายกระชากท่อนแขนอันแสนน่าแสยะของไอ้สัตว์ประหลาดนั้นไว้
“ทำตัวให้มันดี ๆ หน่อยสิ เจ้าบ้า!”
เจ้าหล่อนว่าพลางกระชากแขนข้างหนึ่งของมุซันออกมา การจู่โจมที่ทำให้ราชันอสูรชะงักงันก่อนจะโจมตีเสาหลักแห่งความรักอีกครั้ง เขารีบออกเพลงดาบฟันแขนอีกข้างของมันทันก่อนที่คิบุซึจิ มุซัน จะทันได้จู่โจมเด็กคามาโดะ แล้วรีบใช้ดาบตรึงแขนที่เหลือของเจ้าคิบุซึจิไว้ไม่ให้ขยับหนีไปได้
“ชินาซึงาวะซัง...”
เจ้าเด็กคามาโดะเรียกชื่อเขาขณะที่ไอ้อสูรนั้นนิ่งไป แต่เพียงชั่วพริบตา ส่วนที่เคยครั้งหนึ่งเป็นใบหน้าของคิบุซึจิ มุซัน ก็แปรสภาพเป็นปากที่เต็มด้วยคมเขี้ยวและเตรียมที่จะจู่โจมคามาโดะ ทันจิโร่ ด้วยความว่องไว
เพียงเสี้ยววินาทีก่อนคมเขี้ยวของราชันอสูรจะทันได้สัมผัสร่างเด็กคามาโดะ กลับเป็นอิงุโระ โอบะไน ที่พุ่งตัวเข้าขวางกลาง สละร่างรับการโจมตีแทน ถึงใจของซาเนมิจะเจ็บปวดกับภาพเพื่อนรักที่ถูกโจมตีเบื้องหน้าตรงหน้า หากแสงอาทิตย์ที่เริ่มไล้ผ่านเส้นขอบฟ้ามาต้องร่างก็เป็นสัญญาณว่าช่วงเวลาที่หมู่มวลมนุษย์เฝ้ารอใกล้เข้ามา
“เช้าแล้ว! โจมตีต่อไป! อดทนเข้าไว้!”
ซาเนมิตะโกนสั่งเด็กที่เขาเคยปรามาสในความอ่อนแอ เด็กที่ครั้งหนึ่งสร้างความไม่พอใจแก่เขาด้วยการพกอสูรมาปะปนในหมู่มวลมนุษย์ กับใช้หัวโขกเขาจนสลบ
หากเด็กคนนี้และน้องสาวของเจ้าตัว กลับเป็นกุญแจหลักในการช่วยปราบราชันอสูรตนนี้ ปาฏิหาริย์ที่พวกเขารอมาเนิ่นนานกำลังจะเป็นจริงในวันนี้! ที่นี่!
พระอาทิตย์ค่อย ๆ ทอแสงผ่านหมู่เมฆสลัว กระนั้นราชันอสูรยังไม่สิ้นฤทธิ์เดชในทันที การโจมตีระลอกสุดท้ายที่พัดร่างเขาและอิงุโระ โอบะไน ให้กระเด็นออกจากทาง คงเหลือแต่ทันจิโร่ที่บัดนี้เหลือเพียงแขนขวาแขนเดียวที่ใช้ยึดดาบนิจิรินเอาไว้ ส่วนแขนซ้ายของเด็กหนุ่มขาดกระจุยไปพร้อมกับการโจมตีครั้งก่อน ความมุ่งมั่นที่ส่งผ่านนัยน์ตาอันกล้าแกร่ง แม้ร่างกายใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้วก็ตาม
ไม่ทันที่เขาจะเข้าไปช่วย เจ้าโทมิโอกะ กิยู ก็โผล่มาพร้อมกับใช้แขนซ้ายที่เหลืออยู่ช่วยเด็กหนุ่มผู้นั้นจับดาบตรึงร่างมุซันเอาไว้ ความมุ่งมั่นที่อยากเอาชนะราชันอสูรเปลี่ยนดาบของเด็กผู้นั้นให้เป็นสีแดงชาด ทำราชันอสูรถึงกับกระอักเลือดออกมา ก่อนจะใช้พลังเฮือกสุดท้ายขยายกายเนื้อของมันออกมาเพื่อปกป้องตัวเอง
เปลือกนอกที่คล้ายเด็กทารกขนาดยักษ์ผลักเสาหลักวารีให้กระเด็นออกไป หากกลับดูดร่างของคามาโดะ ทันจิโร่ ที่ไม่ยอมปล่อยมือออกจากดาบไว้ แล้วพยายามดิ้นรนคลานหนีไปยังใต้ร่มเงาที่จะบดบังแสงตะวันที่เริ่มสาดส่องทำลายล้างร่างนั้นไว้
ความพยายามของเหล่าคาคุชิที่หยุดยั้งไม่ให้ไอ้อสูรตนนั้นหนีไปทำซาเนมิรีบลุกขึ้นและจับดาบมากระชับ เลือดขึ้นหน้าเมื่อเห็นไอ้อสูรในคราบเด็กยักษ์ทุบรถคันหนึ่งให้แหลกสลาย และบัดนี้กำลังพยายามผลักรถรางที่เหล่าคาคุชิใช้ขัดขวางอยู่
ความพยายามที่จะเป็นฝ่ายสนับสนุนในยามที่เสาหลักหมดแรงจะสู้ แม้จะไม่อาจจับดาบได้ หากความร่วมใจของทุกคนหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียว เพื่อจบสิ้นทุกสิ่งให้ได้ในวันนี้ ความพยายามที่เขารีบใช้ปราณวายุกระบวนที่เก้าเข้าจู่โจมเพื่อช่วยโค่นล้มราชันแห่งอสูรให้ได้ แม้ท้ายสุดการจู่โจมนั้นจะทำให้เขาไม่สามารถออกปราณลดแรงกระแทกได้ทันท่วงที
“ไอ้บัดซบนี่! รีบ ๆ สลายหายไปซะ!”
ซาเนมิเค้นเสียงขณะพยายามลุกขึ้นมา ร่างที่บัดนี้อาบด้วยเลือดอย่างใกล้ถึงขีดจำกัดของชีวิต แต่โชคยังเป็นของพวกเขา เมื่อบัดนี้ฮิเมจิมะ เกียวเม ตวัดโซ่และใช้กำลังทั้งหมดร่วมกับคาคุชิตรึงรั้งไม่ให้คิบุซึจิ มุซัน หนีไปไหนได้
“มันคิดจะมุดดิน... โจมตีลดแรงมุซันซะ!”
เสาหลักหินผาตะโกนสั่งการเมื่อร่างใหญ่ในคราบทารกพยายามที่จะขุดดินหวังลี้หลบ แม้ยากที่จะลุกขึ้นจากขีดจำกัดของร่างกาย หากพลังใจอันมุ่งมั่นก็ทำให้เขารวบรวมกำลังสุดท้ายที่มีจับดาบที่ตกอยู่ข้างตัวก่อนกระชับให้แน่น
‘อย่ายอมแพ้นะคะ อีกแค่นิดเดียว...’
เขาพยักหน้ากับเสียงกระซิบแผ่วเบาข้างหู ขณะมองหน้าโทมิโอกะ กิยู ใช้มือซ้ายที่เหลือเพียงมือเดียว และโอบะไนที่แม้สูญเสียการมองเห็นไปแล้ว ก่อนร่วมกันพุ่งเข้าโจมตีมุซันด้วยกำลังเฮือกสุดท้ายที่มี ฟาดฟันร่างยักษ์ที่พยายามดิ้นหนี
ชั่วขณะหนึ่งที่เขาคิดว่าทุกสิ่งคงจบสิ้นแต่เพียงเท่านี้ ด้วยโซ่ที่เกียวเมเหนี่ยวรั้งราชันอสูรไว้ขาดลง และตัวเขา โอบะไน และกิยูก็แทบไม่เหลือพลังให้ออกเพลงดาบได้อีก หากราวกับปาฏิหาริย์บังเกิด...
ไม่สิ ไม่ใช่ปาฏิหาริย์ แต่เป็นความร่วมมือร่วมใจของทุกคน...
ทั้งเสาหลัก ทั้งเจ้าเด็กคามาโบกะ ทั้งนักดาบคนอื่น ทั้งเหล่าบรรดาคาคุชิ...
เลือดกระฉูดออกจากร่างยักษ์นั่น ก่อนเจ้าตัวจะส่งเสียงร้องโหยหวนพร้อมกับ สลายร่างยามถูกแสงแรกของวันแผดเผา มอดไหม้ จนไม่เหลือแม้แต่ซากของสิ่งที่เคยเป็นราชันอสูรที่สร้างความทุกข์โศกให้แก่หมู่มวลมนุษยชาตินับพันปี
บัดนี้ฝันร้ายของทุกคนจบสิ้นแล้ว...
ไม่มีอีกแล้ว ค่ำคืนแห่งความหวาดผวาว่าชีวิตของคนที่รักจะต้องถูกพรากด้วยน้ำมืออสูร...
ไม่มีอีกแล้ว ค่ำคืนแห่งความกลัว กลัวว่าชีวิตของคนที่สำคัญยิ่งจะต้องสูญเสียไปจากการปราบอสูรร้ายพวกนั้น...
เสียงกรีดร้องไชโยของเหล่านักดาบคนอื่นและคาคุชิดังกระหึ่มทั่วบริเวณ แทบกลบเสียงสั่งการของนายน้อยอุบุยาชิกิ คิริยะ ที่บัญชาให้รีบปฐมพยาบาลคนเจ็บโดยด่วน
แต่มันก็พ้นจากหน้าที่ของเขาแล้ว... ภาระของเขาจบลงโดยบริบูรณ์แล้ว...
มือที่กำดาบแน่นมาเกือบตลอดเวลานับแต่เข้าร่วมหน่วยพิฆาตอสูรปล่อยดาบนิจิรินออกจากมือที่ไม่หลงเหลือเรี่ยวแรงใด ๆ หลงเหลืออยู่อีก ก่อนร่างอันเต็มไปด้วยบาดแผลนับไม่ถ้วนจะเซซวดทรุดลงกับพื้น...
ซาเนมิพยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายหันไปมองฮิเมจิมะ เกียวเม บุคคลที่เขาเคารพไม่น้อยไปกว่านายท่านอุบุยาชิกิ คากายะ ผู้จากไป อาการบาดเจ็บของหัวหน้าเสาหลักแห่งหน่วยพิฆาตอสูรสาหัสยิ่งกว่าเขา แต่ทันทีที่เห็นการส่ายศีรษะของเสาหลักหินผา เขาก็รู้ดีก่อนที่เจ้าตัวจะเอ่ยออกมา
“...ช่วยข้าไม่ได้แล้วล่ะ...” น้ำเสียงของเกียวเมอ่อนแรง บ่งบอกถึงวาระสุดท้ายที่จ่ออยู่แค่ปลายลมหายใจ “ไปช่วยพวกคนหนุ่มอื่น ๆ เถอะ... ขอร้องล่ะ นี่เป็นคำขอร้องครั้งสุดท้ายของข้า...”
ซาเนมิไม่อาจได้ยินเสียงพึมพำหลังจากนั้นของเกียวเม หากรอยยิ้มอ่อนโยนที่ปรากฏบนใบหน้า กับเสียงร่ำไห้ของเหล่าคาคุชิ เขาก็รู้ทันทีว่าเสาหลักหินผาได้จากไปอย่างสงบแล้ว
หันไปอีกทิศทางหนึ่ง ภาพโอบะไนที่ประคองร่างคันโรจิ มิซึริ พร้อมคลุมเสื้อให้ทำหัวใจเขารู้สึกโหวง รู้ดีว่าอีกไม่นานสองคนนี้คงหมดลมหายใจตามเกียวเมไป
“ถ้าเกิดใหม่ล่ะก็... ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์อีกล่ะก็” เสียงมิซึริดังขึ้นอย่างอ่อนแรง “ช่วยรับฉันเป็นเจ้าสาวได้มั้ย”
“แน่นอน ถ้าเธอไม่รังเกียจล่ะก็... จะต้องทำให้เธอมีความสุขให้ได้ คราวนี้จะต้องปกป้องให้ได้ ไม่ยอมให้ตายเด็ดขาด”
คำบอกรักของคนเป็นเพื่อนที่มีให้กับรักแท้หนึ่งเดียวของตัวเองทำเขาได้แต่เจ็บปวด เสียใจที่เพื่อนของเขาต้องเจริญรอยตามชะตากรรมเดียวกับเขา ระคนอิจฉาที่โอบะไนไม่ต้องอยู่อย่างทรมานจากการสูญเสียคนรักอย่างที่เขาประสบมาตลอดสี่ปี...
สี่ปีที่แสนยาวนาน... ในที่สุด เขาคงไม่ต้องทรมานต่อไป...
บัดนี้โลกนี้คงจะสงบสุข เพราะอสูรที่เหลืออยู่คงจะสูญสลายไปในไม่ช้า...
อาโออิ คานาโอะ ซึมิ คิโยะ นาโฮะ เหล่าน้อง ๆ ที่รอดก็จะได้ใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดา ดั่งที่เธอปรารถนา...
ได้ใช้ชีวิตอย่างหญิงสาวทั่วไป... มีคนรัก มีครอบครัว อยู่ด้วยกันจนสิ้นอายุขัย
รอยยิ้มอ่อนโยนผุดบนใบหน้าที่อาบด้วยเลือดของซาเนมิ สายตาที่พร่าเลือนจากการเสียเลือด ไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดจากพิษบาดแผลอีกต่อไป...
ความตายที่เขาเคยชิงชังเพราะพรากทุกคนที่เขารักไปจากเขา ความตายที่เขาเลือกจะหันหลังเดินกลับมาเพื่อบรรลุหน้าที่ที่ได้สัญญาไว้...
บัดนี้เขาพร้อมแล้ว...
หมดสิ้นหน้าที่ที่ต้องทำในฐานะเสาหลัก หมดสิ้นหน้าที่ที่ต้องปกป้องผู้คน...
หมดสิ้นหน้าที่ที่ต้องรักษาตามความประสงค์ของเธอ...
เขาทำทุกอย่างครบถ้วนแล้ว...
ไม่ว่าจะเป็นสวรรค์หรือนรก... เขาก็พร้อมจะเดินก้าวต่อไป...
รอยยิ้มอ่อนโยนของคนที่เขาถวิลหาปรากฏในสติห้วงสุดท้าย รอยยิ้มอ่อนโยนที่สลักอยู่ในความทรงจำ รอยยิ้มที่เขาฝันถึงมาตลอด...
บัดนี้เขาพร้อมจะพบกับเธอแล้ว ไม่ว่าจะได้อยู่ด้วยกันอีกหรือไม่ แต่เขาก็ทำหน้าที่ของเขาได้อย่างสมบูรณ์แล้ว...
ทั้งในฐานะของเสาหลักวายุแห่งหน่วยพิฆาตอสูร และในฐานะพี่ชายคนโตที่ต้องปกป้องน้อง...
ไม่เหลือห่วงอันใดที่คอยรั้งเขาไว้ในโลกอันแสนเจ็บปวดนี้อีกต่อไป...
“สำเร็จแล้วนะ...”
ซาเนมิพึมพำให้คนที่จากไกลได้ยินก่อนหลับตาลงอย่างอ่อนล้า โดยหวังว่านี่จะเป็นการหลับตาครั้งสุดท้ายในชั่วชีวิตนี้...
เขาพร้อมจะไปพบทุกคนที่อีกฟากของแม่น้ำนั่นแล้ว...
ต่อให้ไม่ได้ไปอยู่ด้วยกัน... แต่เขาก็ขอเพียงภาวนาว่าชาติหน้าเขาจะต้องทำให้คนที่เขารักทุกคนมีความสุขให้จงได้...
แม้ในชาตินี้เขาไม่อาจปกป้องใครได้... แต่ถ้าชาติหน้ามีจริง เขาจะต้องปกป้องทุกคนให้จงได้...
...ในโลกที่ไม่มีอสูรมาย่างกรายคอยเข่นฆ่าผู้คนเหมือนในชาตินี้...
==========
Author's Talk 11 JUN 2021
จบไปแล้วนะคะกับ Day 29 ก่อนอื่นต้องขอโทษมาก ๆ นะคะที่มาลงให้แบบเลทกว่าปกติถึงสองวันเลย ช่วงนี้มีงานด่วนกับก็ยังคงมีเรื่องที่บ้านให้จัดการนิดหน่อยค่ะ
เรียกได้ว่า ทำเราไม่สามารถทรงตัวละครได้ถึงสองวันเต็ม ๆ จนเป็นเหตุให้ต้องดีเลย์การลงนี่แหละค่ะ ต้องขอโทษนะคะที่จำเป็นต้องผิดคำพูดกับคนอ่านทุกคนไว้ Y_Y
บทนี้ยิ่งทวีความหินยิ่งกว่าบทที่แล้วค่ะ แต่ก่อนอื่นต้องกราบขอโทษคนอ่านอีกรอบ ในบทที่แล้วเรามีตกหล่นข้อเท็จจริงนิดหน่อย เพิ่งมาเห็นตอนเขียนเมื่อคืน เลยทำให้มีแก้เนื้อหาบางส่วนนะคะ ได้แก่พี่สาไม่ได้หมดสติเพียงเพราะมุซันโจมตีค่ะ แต่ซากอาคารถล่มทับร่างพี่แกด้วย
โอ๊ย ยิ่งยอมใจพี่แกจริง ๆ ที่ยังลุกขึ้นมาพะบู้ต่อได้ แต่ทุกคนใน Final Act นี่บาดเจ็บปางตายทุกคนเลยค่ะ
จริง ๆ พาร์ตที่เราชอบที่สุดในตอนนี้คือการที่พี่สาโยนอคติที่มีต่อคุณกิและน้องทันลงไปอย่างสิ้นเชิงแล้วค่ะ แม้จะไม่ได้ออกมาเป็นคำพูด แต่การกระทำที่ฉุดคุณกิให้ลุกขึ้น หรือเข้าสู้ร่วมกับน้องทัน มันก็น่าจะชัดแล้วละค่ะว่าพี่สาคงไม่ได้มองน้องทันแย่แบบแต่ก่อนแล้ว
ยิ่งหลังกำจัดมุซันได้ เรามีความรู้สึกว่าพี่สาคงได้ทันเห็นทั้งคุณเกียวเม มิตจัง คุณโอบะไนหมดลมหายใจไปทีละคนค่ะ ซึ่งตอนนี้พี่สาก็พร้อมจะไปแล้วเหมือนกัน เพราะหน้าที่ในฐานะเสาหลักและในฐานะตามฝันของพี่เอะ พี่สาทำได้ครบถ้วนแล้วเนอะ...
ช่วงท้ายของฟิค เราว่าพี่สาที่ได้ยินคุณโอบะไนพูดกับมิตจังต้องคิดตามคำพวกนี้มากเลยค่ะ สิ่งที่พี่สา trauma มาตลอดก็คือเค้าไม่เคยปกป้องคนที่เขารักได้เลย
พี่สาตอนนี้เลยหวังแค่ ถ้าชาติหน้ามีจริง เค้าก็อยากปกป้องทุกคนที่เขารักให้ปลอดภัย และมีความสุขกว่าในชาตินี้ให้ได้ค่ะ...
แม้จะไม่ได้พบกันบนสวรรค์ก็ตาม...
ตอนต่อไปก็ต้องมาลุ้นนะคะ ว่าพี่สาจะได้ไปสู่ปรโลกอย่างที่แกปรารถนาไหม เชื่อว่าคนที่อ่านมังงะก็รู้คำตอบดีอยู่แล้วละค่ะ
แต่ในคำตอบที่รู้กันอยู่แล้ว เหตุผลประกอบคำตอบก็เป็นสิ่งที่น่าติดตามนะคะ เราเองก็รอคอยที่จะได้เขียนตอนต่อไปแล้ว แต่ต้องเคลียร์งานวันพรุ่งนี้ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนค่ะ ^^
เพราะฉะนั้นบอกล่วงหน้าเลยค่ะว่า น่าจะมีโอกาสเพียง 20% ที่เราจะลงฟิคทันวันเสาร์นี้ แต่ไม่แน่นะคะ ถ้าทันเราจะดีใจมาก แต่ถ้าไม่ทันก็คิดว่าคงได้เจอกันภายในวันอาทิตย์นี้ละค่ะ
ท้ายสุดนี้ ขอขอบคุณคนอ่านที่น่ารักของเราทุกคนนะคะที่เข้าใจและให้กำลังใจ ทุกคอมเมนต์ ทุกฟีดแบคนะคะ เราดีใจมาก ๆ จริง ๆ แล้วก็ต้องขอโทษมาก ๆ ที่ต้องผิดสัญญาในวีคนี้ค่ะ
แล้วพบกันกับตอนที่ 30 ในสุดสัปดาห์นี้นะคะ เผื่อที่ว่างไว้ซัก 5% เผื่อเจองานค้าง ^^" อย่าลืมรักษาสุขภาพด้วยนะคะ
Author's Talk 07 DEC 2022
สวัสดีค่า มาถึงคิวลงฉบับ Rewrite สำหรับรวมเล่มนะคะ เพื่อให้เนื้อหาออกมาสมบูรณ์ทีสุดเท่าที่เราจะทำได้ค่ะ
เมื่อวานประชุมเสร็จถึงบ้านสามทุ่มครึ่งค่ะ เลยมิไหวจริง ๆ ต้องขออภัยที่มาลงในวันนี้แทนนะคะ
อยากกรี๊ดแบบ วีคนี้คือทำงานสี่วัน ประชุมสี่วัน (ห้านัด) ค่ะ 555555 เห็นน้ำตาในเลขห้านั้นไหม
แต่ยังไง จะพยายามดูแลสุขภาพนะคะ
ตอนนี้ เราลงสปอยตัวอย่างงานแอนโธออริโปรเจค #LetLoveBreakUsApart ของคุณInnara @herpensss แล้วค่ะ ของเราเป็นเรื่องสั้นชื่อ "เหลือเพียงรอยจารึก" (Timelapse) ค่ะ ดูรายละเอียดได้เลย <3
จั่วชื่อโปรเจคมาแบบนี้ น่าจะชินกับแนวแอ๋งละมุนของเรากันเนอะ (แต่รับรองว่าเรื่องนี้ไม่มีใครตายนะคะ : D)
อนึ่ง ใครที่พลาดงาน CA 7 แล้วยังอยากเก็บเล่มนี้ สามารถดูรายละเอียดเบื้องต้นของรวมเล่มทั้งสองเล่ม ฉบับปรับปรุงล่าสุด 15 OCT 2022 มาให้ได้ศึกษานอกเหนือจากตัวฟิคที่สามารถอ่านตอนหลังได้ใน ReadAWrite | Dek-D | ReadHaus นะคะ
รายละเอียด KNY FF - In Time With You #ห้วงเวลาของเราสอง (Tomioka Giyuu x Kochou Shinobu)
รายละเอียด KNY FF - In The Remembrance of Her #แด่เธอในความทรงจำนิรันดร์ (Shinazugawa Sanemi x Kochou Kanae)
ถ้าสนใจ จิ้มลิงค์สั่งจองด้านล่างได้เลยค่ะ หรือดูรายละเอียดพร้อมกรอกแบบฟอร์มได้ที่นี่นะคะ [Link]
แต่ทั้งนี้ ใครไม่สะดวกไม่เป็นไรนะคะ รับรองได้อ่านเนื้อหาเหมือนเดิม และในรูปแบบ Rewrite เหมือนกันค่ะ เพียงแต่อาจจะได้อ่านตอนพิเศษช่วงท้ายหลังจากเราส่งเล่มล็อตแรกนะคะ
หรือไม่ก็รอตอนเราเปิดพรีอีกรอบ ช่วงเราทำแอนโธ Days Rise, Nights Fall หรือเขียน KNY FF - The Tales of Butterfly Effects จบค่ะ ^^ ช่วงต้นปีหน้าอย่างเร็วเลย
แล้วเจอกันกับรีไรท์ตอนที่ 30 ในวันศุกร์นะคะ (พอดีพรุ่งนี้ประชุมเลิกห้าโมง คงถึงบ้าน 2-3 ทุ่มเลย แล้วศุกร์มีประชุมเช้าด้วยค่ะ) อย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยค่ะ ^^
Comments (0)