16 ตอน Day 16 - Confessions
โดย rene_recluse
Day 16 - Confessions
Prompt: “I never wanted anything else”
TW | CW
TW : Self-Harm
1st Published : 24 APR 2021
Rewrite : 09 NOV 2022
==========
ความเงียบเข้าปกคลุมห้องอีกครั้งหนึ่งทันทีที่สิ้นสุดคำถามของโคโจ คานาเอะ
นัยน์ตาสีม่วงอ่อนของชินาซึงาวะ ซาเนมิ เบิ่งกว้างอย่างตกตะลึงต่อคำถามจากเสาหลักบุปผา คำถามที่แสดงว่าเธอเข้าใจการกระทำตระบัดสัตย์ต่อคำสัญญาที่เขาเคยให้ไว้กับเธอเมื่อครึ่งปีก่อนที่ว่าจะไม่ใช้เลือดหายากของตนอีกต่อไป
ไม่หนำซ้ำ ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแต่เข้าใจการกระทำ เธอยังคงให้อภัยและไม่เคยถือโกรธในสิ่งที่เขาได้ทำอะไรบ้า ๆ และดูเหมือนจะเข้าใจดีว่าเขาทำไปทุกอย่างเพื่ออะไร
น้ำตายังคงรินไหลอาบแก้มของหญิงสาวคนสำคัญในชีวิต คนที่เขาไม่อยากให้มีภัยใดมาย่างกรายหรือเฉียดใกล้คนผู้นี้ได้แม้แต่ปลายก้อย
เขาช่างโง่เขลา ที่คิดว่าการผลักเธอออกไปจะเป็นการดีต่อเธอมากกว่าทนเห็นเขาผิดสัญญาซ้ำแล้วซ้ำอีก...
แต่กลับเป็นเขาเองที่ทำเธอเจ็บปวด...
ยิ่งกว่าที่ใครเคยทำ...
นัยน์ตาสีชมพูยังคงสบมองเขาเต็มเปี่ยมด้วยความในใจที่เธอไม่ประสงค์จะปิดบังอีกต่อไป ความนัยที่เขารับรู้แต่ไม่กล้าคาดหวังด้วยตระหนักในหน้าที่อันแสนอันตราย และความคิดที่ว่าผู้หญิงคนนี้อยู่ไกลเกินเอื้อม
เกินเอื้อมกว่าที่มือสกปรกของเขาจะแตะได้!
หากทันทีที่เธอเรียกชื่อของเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานอันสั่นเครือ กำแพงที่เขาเคยเพียรสร้างเพื่อปิดบังความรู้สึกข้างในเริ่มพังทลายลงไปพร้อม ๆ กับเจตนาที่ต้องการจะผลักเธอออกไปจากชีวิตของเขา
ผลักไสไล่มือที่คอยนำทางให้ออกไป โดยไม่สนใจความรู้สึกว่าแท้จริงเจ้าของมือแสนบอบบางที่คอยเกาะกุมเขาไว้ต้องเจ็บปวดแค่ไหน
เพราะเธอไม่เคยคิดที่จะผลักไสเขาออกไปไหนเลย...
“คุณกลัวว่าฉันจะถูกอสูรตนนั้นทำร้าย คุณเลยยอมใช้เลือดหายากเพื่อล่อให้เขามาจัดการคุณแทนฉัน...” มืออีกข้างของคานาเอะลูบไล้บาดแผลเป็นบนใบหน้าที่ถูกปกคลุมด้วยคราบเลือดอย่างไม่คิดรังเกียจ “คุณพร้อมเอาชีวิตคุณแลกเพื่อปกป้องฉัน จนลืมแล้วว่าฉันก็เป็นเสาหลักเหมือนกันนะคะ...”
รอยยิ้มแสนเศร้าที่ได้เห็นทำซาเนมิไม่อาจฝืนความรู้สึกตัวเองได้อีกต่อไป มือข้างขวาของเขาที่ยังว่างอยู่ค่อย ๆ เอื้อมไปจับมือซ้ายของเธอที่ยังคงกุมมืออีกข้างของเขาอย่างแน่นหนา
“ขอโทษ...”
“ฉันเสียใจมากนะที่ซาเนมิคุงทำเหมือนฉันเป็นตัวถ่วงของคุณ...”
คำพูดที่เสาหลักวายุได้แต่ส่ายหน้าอย่างร้อนรน ทำไมเขาไม่เคยคิดเลยว่าการกระทำของเขาจะทำให้เธอรู้สึกแย่ได้เพียงนี้
บัดนี้ซาเนมิไม่อาจสัมผัสได้ถึงความโกรธขึ้งจากตัวของคานาเอะได้อีกต่อไป คงเหลือแต่ความเสียใจและความน้อยใจที่เขาไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
“ข้าไม่เคยคิดแบบนั้น”
“ฉันทราบค่ะ... ฉันรู้ว่าคุณเป็นห่วงฉันมากแค่ไหน แต่มันทำให้คุณเสียสมาธิในการต่อสู้นะคะ แล้วถ้าซาเนมิคุงต้องเจ็บตัวเพราะมัวแต่ปกป้องฉัน... ฉันคงยิ่งเสียใจกว่าใครนะคะ”
คานาเอะว่าพลางดึงซาเนมิมานั่งตรงเก้าอี้ทำแผล แม้เจ้าตัวจะใช้ปราณห้ามเลือดแล้ว แต่ก็จำเป็นที่จะต้องได้รับการทำความสะอาดและเย็บแผลให้เรียบร้อย
“แล้วที่คุณเอาแต่บอกว่าคุณเป็นคนโหดร้าย คนโหดร้ายที่ไหนจะเอาตัวเองมาปกป้องคนอื่นคะ” น้ำเสียงของเธอยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ “คนโหดร้ายที่ไหนจะยอมบาดเจ็บเพื่อปกป้องชีวิตคนอื่น ทำไมซาเนมิคุงไม่ยอมรับสักทีละคะว่าจริง ๆ แล้วคุณเป็นคนที่อ่อนโยนมากกว่าใคร...”
น้ำตาของเธอหยุดไหลแล้ว หากนัยน์ตาคู่สวยคู่นั้นยังคงบวมช้ำ หยาดน้ำตายังคงเกาะตามแนวขนตายาวงอนให้เห็นขณะที่เธอค่อย ๆ บรรจงใช้ไหมเย็บปิดปากแผลตรงแขนซ้ายของเขาอย่างแผ่วเบาเหมือนเคย
“ฉันรู้นะคะ ที่ซาเนมิคุงพูดจาแบบนั้นกับฉันเพราะคุณพยายามผลักไสฉันให้ออกไปจากชีวิตคุณ ไม่ใช่เพราะคุณเกลียดฉันหรอกค่ะ แต่เพราะคุณทำเพื่อไม่อยากให้ฉันต้องเจ็บปวดเวลาที่คุณใช้เลือดหายากอีกใช่ไหมคะ”
คำถามที่ทำชายหนุ่มขบกรามแน่น สะกดอารมณ์เบื้องลึกลงไป ก่อนพยายามเอ่ยตอบเจตนารมณ์ที่เขามุ่งมั่นมาตั้งแต่วันที่สูญเสียครอบครัวเกือบทั้งหมดไปในวันนั้น
“ข้าไม่ต้องการอะไรอื่น นอกจากฆ่าอสูรให้หมดไปจากโลกนี้...”
เป้าหมายหนึ่งเดียวที่เขาเคยตั้งมั่น บัดนี้กลับสั่นคลอนด้วยผู้หญิงคนนี้ คนที่ฉลาดเฉลียว อ่อนโยน และเป็นคนที่เขารักที่สุด...
รักจนไม่อาจทนเห็นเธอต้องเจ็บปวดเพราะเขา และไม่อาจที่จะปล่อยเธอไปเผชิญหน้ากับความตายได้...
“แค่นั้นจริง ๆ เหรอคะ...”
ประโยคคำถามของเธอนำถ้อยคำของมาซาจิกะกลับมาอีกครั้ง มาถึงจุดนี้เขาไม่สามารถปฏิเสธหัวใจได้อีกต่อไปว่าหญิงสาวตรงหน้าของเขาคือคนผู้นั้น คนแสนดีที่เข้าใจเขายิ่งกว่าใคร เข้าใจเขายิ่งกว่าตัวเขาเองด้วยซ้ำ
แต่เขาเป็นคนบ้าที่แสนโง่เขลา ที่ต้องทำให้เธอร้องไห้เพียงเพราะความคิดโง่ ๆ เพียงแค่ไม่อยากเห็นเธอเจ็บปวดเวลาเขาผิดคำพูดกับเธออีกต่อไป....
ไม่สิ เขาต่างหากที่ทนเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของเธอไม่ได้...
แต่ถ้าเป็นแบบนี้... เธอก็จะต้องเจ็บปวดเพราะเขาต่อไป...
แต่ถ้าเป็นแบบนี้... เขาก็อาจจะปกป้องเธอเอาไว้ไม่ได้...
ความสับสนทำซาเนมิได้แต่ก้มหน้า ไม่อาจสบนัยน์ตาที่ทอดราวกับรอคำตอบอะไรบางอย่าง... คำตอบที่เขารู้อยู่แก่ใจ และเขาก็รู้ว่าเธอก็รู้ดีมาตลอดไม่แพ้กัน...
“ฉันรู้ค่ะ รู้ว่าคุณทำทุกอย่างเพราะคุณเป็นห่วงฉัน แต่ฉันก็อยากให้ซาเนมิคุงรู้นะคะว่าฉันก็ห่วงคุณไม่แพ้กัน ฉันถึงไม่อยากเห็นคุณต้องเจ็บตัวเพราะคุณทำตัวเองอีกแล้วค่ะ...”
หญิงสาวว่าพลางวางเข็มลงกับโต๊ะ นิ้วเรียวของเธอลูบไล้บาดแผลที่เพิ่งเย็บเสร็จอย่างแผ่วเบา ก่อนขยับไปยังบาดแผลบริเวณอื่นที่เธอเป็นคนเย็บให้เขาทั้งหมดตลอดระยะเวลาที่รู้จักกันด้วยสีหน้าอันเศร้าหมองด้วยความเจ็บปวด
“ฉันอยากเห็นซาเนมิคุงคิดถึงตัวเองให้มากกว่านี้จะได้ไหมคะ...”
“ทำไมเจ้าต้องเป็นห่วงข้าขนาดนี้...”
ชายหนุ่มโพล่งออกไปก่อนที่จะห้ามตัวเองได้ทัน คำถามที่เรียกรอยยิ้มอ่อนหวานบนใบหน้างดงาม ก่อนเจ้าหล่อนจะเอ่ยต่อด้วยเสียงแผ่วเบาแทบเป็นเสียงกระซิบ
“แล้วทำไมคุณต้องปกป้องฉันถึงขนาดนี้คะ”
คำถามที่ทำหัวใจเขาเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ คำถามที่เขามีเหตุผลมากมายที่จะสามารถอธิบาย ซึ่งเธอก็ได้พูดไปเกือบทั้งหมดแล้ว
แต่ทุกเหตุผลที่เขาใช้ มีที่มาจากเหตุผลสำคัญหนึ่งเดียว...
“ข้า...”
ความรู้สึกปั่นป่วนในจิตใจจนซาเนมิสับสน ไม่อาจตอบโต้สิ่งอื่นได้ ด้วยนัยน์ตาคู่สวยที่มองสบมาบ่งบอกว่าเธอคนนี้รู้เหตุผลสำคัญของเขาแล้ว
เหตุผลเดียวกับที่เธอคอยเป็นห่วงใยทุกครั้งที่เขาบาดเจ็บกลับมา...
เหตุผลเดียวกับที่เธอคอยกุมมือเขาไม่ห่างยามป่วย...
เหตุผลเดียวกับที่เธอไม่เคยปล่อยมือของเขา ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง...
เหตุผลเดียวกับที่เธอโกรธที่เขาทำร้ายตัวเอง...
เหตุผลเดียวกับที่เขาพร้อมเอาตัวเข้าแลก เพื่อให้เธอคนนี้ปลอดภัยจากภยันตรายทุกสิ่งที่เข้ามาแผ้วพาน...
นัยน์ตาทั้งสองข้างของเธอแม้ยังคงแดงก่ำและช้ำจากการร้องไห้ แต่หากส่องประกายวาววับสะท้อนอารมณ์อ่อนหวานของความในใจที่ไม่อาจปิดบังอีกต่อไป
“ที่ฉันคอยเป็นห่วงคุณ ก็คงเป็นเหตุผลเดียวกับที่ซาเนมิคุงคอยปกป้องฉันมากขนาดนั้นไงคะ...”
คำตอบที่ทำหัวใจเขาเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ ประโยคความนัยว่าเธอรู้ดีว่าเขาคิดอะไรอยู่ และเธอก็อยากให้เขาได้รู้ว่าเธอนั้นคิดแบบเดียวกับเธอ
ความรู้สึกที่เขาไม่คิดไม่ฝันว่าจะเกิดขึ้นกับเขาได้ แต่ครั้นรู้ตัวมาพักใหญ่ เขาก็ไม่เคยคิดจะเอ่ยออกไปด้วยสำนึกได้ว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นั้นเหมือนเอาชีวิตไปแขวนไว้บนเส้นด้าย ที่พร้อมจะตกลงไปยังก้นเหวได้ตลอดเวลา
เขาถึงได้เพียรซ่อนความรู้สึกไว้ข้างในไว้คนเดียว แต่มันคงมากเกินกว่าที่เขาจะเก็บงำไว้ได้อีกต่อไป
“ที่คุณพยายามทำทั้งหมดในคืนนี้ แล้วซาเนมิคุงไม่คิดเหรอคะว่าฉันจะรู้สึกอย่างไร” น้ำเสียงอ่อนหวานสั่นเครือหากบางเบาจนเกือบเป็นการกระซิบที่ดังก้องในจิตใจของชายหนุ่ม “ฉันเจ็บปวดมากนะคะที่คุณพยายามทำแบบนั้น แต่มันไม่สำเร็จหรอกค่ะ เพราะสุดท้ายฉันก็เป็นห่วงคุณมากอยู่ดี”
พายุที่เคยเชี่ยวกรากพัดหวีดหวิวข้างนอกบัดนี้เหลือเพียงสายลมแสนอ่อนโยนพัดผ่านต้องกาย โอนอ่อนไม่ต่างจากความรู้สึกคนฟัง ความคิดที่เคยอยากผลักไสเธอออกไปจากชีวิตไม่หลงเหลือเศษซากให้รู้สึก คงเหลือแต่ความปรารถนาที่จะได้อยู่เคียงข้างผู้หญิงคนนี้ไปอีกนานแสนนาน
“ต่อให้คุณทำสำเร็จ ฉันรู้ค่ะว่าคุณก็คงเจ็บปวดมากพอ ๆ กับฉัน... หรืออาจจะมากกว่าที่ฉันต้องเจ็บปวดด้วยซ้ำไป...”
สองมือของคานาเอะค่อย ๆ กอบกุมมือของเสาหลักวายุไว้แน่นกว่าทุกครั้งที่เคยเป็นมา นัยน์ตาคู่สวยที่ทอดมองเขาเมื่อครู่บัดนี้หลุบลงครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับสบตาเขาอย่างเว้าวอน
“อย่าผลักไสฉันไปได้ไหม ซาเนมิคุง...”
ถ้อยคำสั่นเครือที่เป็นดั่งสายลมที่พังทลายกำแพงที่เขาเพียรสร้างขึ้นมาเพื่อปกปิดความรู้สึกของตน ความอดทนที่เคยมีขาดสะบั้น ด้วยบัดนี้เขาไม่สนที่จะควบคุมความรู้สึกของตนอีกต่อไป
สองแขนที่เต็มไปด้วยบาดแผลนับไม่ถ้วนของซาเนมิรวบร่างอันบอบบางของหญิงสาวตรงหน้าเข้าหาก่อนสวมกอดแนบแน่น มือที่โอบกอดร่างของเธอสั่นระริกด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่เขาไม่อาจเก็บซ่อนไว้
“ข้าไม่เคยอยากทำให้เจ้าเสียใจนะ...”
น้ำเสียงชายหนุ่มสั่นพร่า ปล่อยหยาดน้ำตาหยดลงบ่าของร่างบางในอ้อมแขน ความกลัวที่เขาเผชิญมาตั้งแต่เมื่อบ่ายเป็นยิ่งกว่าฝันร้ายที่เขาเคยฝัน ภาพยามเธอถูกอสูรโจมตีทำเขาเกือบใจสลาย เพียงพริบตาที่เขาคิดว่าเขาจะต้องสูญเสียเธอคนนี้ไปอีกคน โลกนี้ก็ไม่มีค่าอะไรสำหรับเขาอีกต่อไป...
แต่เป็นเขาเองที่ทำร้ายจิตใจเธอ ทำให้เธอคนนี้ต้องหลั่งน้ำตาด้วยการกระทำอันแสนโง่เขลาเพื่อผลักเธอออกไปจากชีวิต การกระทำที่เธอคนนี้ไม่เคยนึกต้องการเลยแม้แต่น้อย...
สำหรับเขาทั้งสอง โลกที่ไม่มีอีกฝ่ายอยู่ มันช่างเลวร้ายเกินกว่าที่อีกคนจะรับได้... ไม่ว่าจะเป็นการจากเป็นหรือจากตายก็ตาม...
“แต่ข้าทนเสียเจ้าไปไม่ได้จริง ๆ คานาเอะ...”
ถ้อยคำกระซิบข้างหูที่สั่นเครือจากความหวาดกลัวที่ครอบงำจิตใจของชายหนุ่ม เรียกอ้อมแขนของเธอค่อย ๆ โอบรัดร่างของเขาไว้แนบแน่นไม่แพ้กัน หยาดน้ำตาของเธอไหลซึมหยดลงบนแผงอกกว้างของเขา ขณะที่เธอพึมพำตอบด้วยเสียงแผ่วเบา หากสลักลึกลงในจิตใจของเขาไปตลอดกาล
“ฉันรู้ดีค่ะ ซาเนมิคุง ฉันรู้ดีมาตลอด อย่าไล่ฉันไปไหนอีกนะคะ...”
==========
Author's Talk 24 APR 2021
จบไปแล้วกับ Day 16 แล้วนะคะ แป๊บ ๆ ครึ่งทางของฟิคนี้แล้วเนอะ
หวังว่าผู้อ่านคงจะชอบใจรถไฟเหาะขบวนนี้นะคะ : D
สารภาพเลยว่า ตั้งแต่เขียนมา บทนี้เป็นบทที่เราปรับจากเค้าโครงร่างเดิมของเรามากที่สุดแล้วค่ะ ไหน ๆ จะเล่นรถไฟเหาะทั้งที ตัดสินใจดึงอารมณ์ให้สุดไปดีกว่า ส่วนเนื้อหาที่เราเดิมตั้งใจเขียนไว้ ไม่ได้หายไปไหนแน่นอนค่ะ แต่ถูกจับไปรวบกับบทหน้าเลย คนอ่านจะได้ผ่อนคลายลงบ้าง... มั้งนะคะ : )
ในที่สุด... พี่สาก็พูดซักทีนะคะว่าห่วงเค้า โอ๊ย กว่าคุณพี่จะพูด พี่คานาเอะเสียน้ำตาไปแล้วเท่าไร บอกเขาแต่แรกดี ๆ สิคะว่าห่วงเขาแค่ไหนก็จบ
รู้สักทีนะคะ แม้ไม่มีคำพูดว่ารัก แต่สิ่งที่ทั้งสองคนเค้าปฏิบัติกัน มันใช่เพื่อนร่วมงานเหรอคะ เคร้ ๆ
คนนอกมองยังไงก็รู้ค่ะ ว่าคุณทั้งสองมีใจต่อกัน เป็นไงล่ะคะพี่สา เจอพี่คานาเอะย้อนถาม (และสารภาพไปในตัว) เลยรู้ตัวสักที
งวดนี้ขอยกความดีความชอบให้เพลงของ gfriend อีกแล้วค่า ใจร่ำ ๆ อยากจะบอกตั้งแต่ฟิคตอนที่แล้ว แต่คิดว่าควรมาบอกตอนนี้แทนดีกว่า
งานนี้ยกยอดให้ rough เป็นคีย์ที่เราใช้ในการเขียนฉากจับมือของสองคนนี้มาโดยตลอด สำหรับพี่คานาเอะ ความรู้สึกของพี่คานาเอะมันตรงกับท่อนฮุกของ rough เลยค่ะ ทุกสิ่งที่พี่เค้าทำ เค้าแค่ต้องการกุมมือพี่สาไว้ท่ามกลางโลกที่โหดร้ายนี้ไว้จริง ๆ ถึงได้เสียใจที่พี่สาพยายามสลัดมือเค้าออกไป ถึงแม้จะเพื่อตัวพี่คานาเอะเองนี่แหละค่ะ
แต่.... only 1 นี่ อยากให้อ่านเนื้อเพลงเลยค่ะ แทบจะแทนความรู้สึกพี่คานาเอะได้ทั้งเพลงเลย ต่อให้พี่สาผลักพี่คานาเอะไปแค่ไหน พี่คานาเอะเราเค้าดื้อไม่แพ้กันค่ะ เค้าไม่มีวันที่จะเปลี่ยนใจทิ้งมือคู่นี้ได้แล้วจริง ๆ
สองเพลงนี้คงยังมีผลกับฟิคเราไปจนจบเรื่องแน่ ๆ ค่ะ (มู้ดแอนด์โทนมันได้จริง ๆ)
เผื่อใครอยากอ่านความหมายเพลง ใส่ spoil ให้นะคะ
หลังจากนี้คงเข้าสู่โหมดฝนซาแล้วค่ะ ให้พวกเค้าทั้งสองได้เรียนรู้และหายใจหายคอกันบ้าง เพราะฉะนั้นตอนหน้าคงเป็นแค่นั่งรถไฟชมสองคนนี้ไปพลาง ๆ ค่ะ
แต่พายุฝนมันเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้นะคะ เพราะฉะนั้นระหว่างทาง เก็บความงดงามของความสัมพันธ์ไว้จะดีกว่าค่ะ ^^
ต้องขอบคุณสำหรับคอมเมนต์ตอนที่แล้วมาก ๆ นะคะ ดีใจมาก ๆ กับทุกเสียงตอบรับเลยค่ะ ไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม ตอนนี้รู้สึกอย่างไรลองเมาท์มอยให้ฟังหน่อยนะคะ อยากรู้เหมือนกันว่าคิดยังไงกับรถไฟเหาะขบวนนี้กันค่ะ ^^
คิดว่าตอนที่ 17 คงลงได้ตามปกติค่ะ แต่ขอเผื่อ 5% ว่าอาจจะมาช้า ยอมรับเลยค่ะว่าอาทิตย์ที่ผ่านมาเราไม่ค่อยได้พักผ่อนเท่าไรด้วยเรื่องที่บ้านกับงานประจำ ยังไงรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ
ขอบคุณสำหรับผู้อ่านที่น่ารักของเราทุกคน ทุกกำลังใจทั้งจากทางนี้หรือนอกรอบ ทุกคอมเมนต์ ทุกเสียงตอบรับนะคะ แล้วพบกับตอนที่ 17 วันพุธค่ำ ๆ ค่ะ ^^
Author's Talk 09 NOV 2022
สวัสดีค่า มาถึงคิวลงฉบับ Rewrite สำหรับรวมเล่มนะคะ เพื่อให้เนื้อหาออกมาสมบูรณ์ทีสุดเท่าที่เราจะทำได้ค่ะ
เมื่อวานต้องขอโทษจริง ๆ นะคะ ยังน็อกต่อเนื่องจากภูมิแพ้และไมเกรน ฮื้อ ขออภัยมาก ๆ เลยค่ะ
พรุ่งนี้ไม่แน่ใจว่าจะมาลงได้ไหม พอดีจะมีประชุมช่วงบ่ายค่ะ ถ้าเลิกเลทก็อาจจะต้องขอลงวันศุกร์แทนนะคะ
ตอนนี้ เราลงสปอยตัวอย่างงานแอนโธออริโปรเจค #LetLoveBreakUsApart ของคุณInnara @herpensss แล้วค่ะ ของเราเป็นเรื่องสั้นชื่อ "เหลือเพียงรอยจารึก" (Timelapse) ค่ะ ดูรายละเอียดได้เลย <3
จั่วชื่อโปรเจคมาแบบนี้ น่าจะชินกับแนวแอ๋งละมุนของเรากันเนอะ (แต่รับรองว่าเรื่องนี้ไม่มีใครตายนะคะ : D)
อนึ่ง ใครที่พลาดงาน CA 7 แล้วยังอยากเก็บเล่มนี้ สามารถดูรายละเอียดเบื้องต้นของรวมเล่มทั้งสองเล่ม ฉบับปรับปรุงล่าสุด 15 OCT 2022 มาให้ได้ศึกษานอกเหนือจากตัวฟิคที่สามารถอ่านตอนหลังได้ใน ReadAWrite | Dek-D | ReadHaus นะคะ
รายละเอียด KNY FF - In Time With You #ห้วงเวลาของเราสอง (Tomioka Giyuu x Kochou Shinobu)
รายละเอียด KNY FF - In The Remembrance of Her #แด่เธอในความทรงจำนิรันดร์ (Shinazugawa Sanemi x Kochou Kanae)
ถ้าสนใจ จิ้มลิงค์สั่งจองด้านล่างได้เลยค่ะ หรือดูรายละเอียดพร้อมกรอกแบบฟอร์มได้ที่นี่นะคะ [Link]
แต่ทั้งนี้ ใครไม่สะดวกไม่เป็นไรนะคะ รับรองได้อ่านเนื้อหาเหมือนเดิม และในรูปแบบ Rewrite เหมือนกันค่ะ เพียงแต่อาจจะได้อ่านตอนพิเศษช่วงท้ายหลังจากเราส่งเล่มล็อตแรกนะคะ
หรือไม่ก็รอตอนเราเปิดพรีอีกรอบ ช่วงเราทำแอนโธ Days Rise, Nights Fall หรือเขียน KNY FF - The Tales of Butterfly Effects จบค่ะ ^^ ช่วงต้นปีหน้าอย่างเร็วเลย
แล้วเจอกันกับรีไรท์ตอนที่ 17 ในวันพฤหัสบดีค่ำ ๆ นะคะ อย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยค่ะ ^^
Comments (0)