กรี๊ดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!”

อ๊ากกกกกกกกกกกก!!!!!!!!”

เสียงกรีดร้องดังระงมไปทั่วบริเวณ ร่างสูงศักดิ์เรือนผมสีอาทิตย์อัสดงเท้าคางทอดสายตามองบรรยากาศอันมืดมนในอาณาจักรต่างแดนที่เขาถูกเชิญให้มาร่วมงาน รถม้าเดินทางออกจากอาณาเขตปกครองของเขาตั้งแต่เวลาบ่ายโมง เนื่องด้วยราชกิจในอาณาจักรที่มีมากมายเพราะเป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตทำให้ต้องเลื่อนกำหนดการออกเดินทางเวลาเช้าถัดมาจนถึงเวลาบ่าย และด้วยระยะห่างระหว่างอาณาจักรทำให้ใช้เวลาเดินทางมามากกว่าที่คิด ไม่แน่ว่าเขาอาจไปร่วมงานสาย แต่ก็ได้แจ้งข่าวไปทางโน้นแล้วว่าเขามีราชกิจมากมาย อาจเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองนี้ไม่ทันเวลา

เป็นงานที่แปลกจริง” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างสนใจ คนสนิทที่ติดตามมาด้วยก็เริ่มเอ่ยปากอธิบายข้อมูลที่ตนไปหาเตรียมไว้ให้เจ้าชายของตนได้ทราบพอประมาณ

ได้ยินมาว่าเป็นเทศกาลที่ขับไล่สิ่งชั่วร้ายให้ออกจากอาณาจักรพระเจ้าข้า พระโอรส” 

พระโอรส’ หันหน้ามาฟังด้วยสีหน้าราบเรียบ

จึงมีการแต่งกายให้น่ากลัวเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายนั้นพระเจ้าข้า” 

พลางหันไปมองข้างนอกหน้าต่างรถม้าซึ่งปรากฏผู้คนแต่งกาย บ้างก็เป็นอสุรกาย บ้างก็เป็นปีศาจในตำนานท้องถิ่น

แล้วชุดที่สั่งให้เตรียมไว้ล่ะ?” คนถามกอดอกแล้วเอนหลังพิงเบาะที่นั่งในรถม้าอย่างเมื่อยล้าที่ต้องนั่งรถม้ามานานหลายชั่วโมง

กระหม่อมเตรียมไว้ให้พระองค์ได้เลือกใส่สามสี่ชุดพระเจ้าข้า”

หากไปถึงก่อนเวลา เราจะไปทักทายองค์ราชาและราชินีก่อน แต่ถ้าหากไปไม่ทัน เราจะเปลี่ยนชุดแล้วค่อยเข้างานไปทีหลัง” รับสั่งเสียงเฉียบขาด ผู้ติดตามได้แต่ค้อมศีรษะรับคำสั่ง



 

โชคดีที่เขามาทันก่อนเริ่มงานไม่นานนักจึงมีเวลาเข้าไปทักทายองค์ราชาและราชินีแห่งโรโตเรีย พร้อมทั้งมอบของขวัญในฐานะตัวแทนแห่งแฟลร์รูจเพื่อแสดงความยินดีกับผลผลิตที่ได้ทำการเพาะปลูกมาทั้งปีที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

ผมขอแสดงความยินดีกับผลผลิตทางการเกษตรที่ประสบความสำเร็จ” คนพูดเผยยิ้มให้อย่างจริงใจแม้จะดูเย่อหยิ่งตามแบบฉบับของเจ้าตัว แต่องค์ราชาและราชินีนั้นสัมผัสได้ถึงความไม่เสแสร้งนั้นได้

ขอบคุณที่มาร่วมงานเฉลิมฉลองของอาณาจักรเรา ทางเราเองก็เพิ่งทราบว่าทางแฟลร์รูจเองก็มีการเก็บเกี่ยวผลผลิตเช่นเดียวกัน เจ้าชายอพอลโลจึงได้เดินทางมาถึงล่าช้า” องค์ราชาเอ่ยถามตามมารยาทเพื่อไม่ให้การสนทนาดูห้วนเกินไป

แฟลร์รูจเองก็มีการเพาะปลูกในหลายพื้นที่ของอาณาจักร ฤดูกาลก็มิได้ต่างกับที่โรโตเรียมาก ระยะเวลาการเก็บเกี่ยวจึงตรงกัน” เจ้าชายผู้เย่อหยิ่งเอ่ยอย่างราบเรียบและฉะฉาน “ได้ยินมาว่าที่นี่มีการเฉลิมฉลองเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกจากอาณาจักร”

เป็นไปตามที่ได้ยิน เจ้าชายอพอลโล ทางเราได้แจ้งไปแล้วว่าเทศกาลนี้จะมีการแต่งชุดแฟนซี...ว่าแต่เจ้าชายได้เตรียมชุดไว้หรือไม่?” ราชินีสอบถามอย่างเป็นกันเอง 

ผมเตรียมชุดมาเองแล้ว เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ผมขอตัวไปเปลี่ยนชุดจะได้เข้างานได้ตรงเวลา” เอ่ยอย่างกระชับ องค์ราชาแห่งโรโตเรียก็พยักหน้าเห็นด้วย เพราะเวลาเริ่มกระชั้นเข้ามาแล้ว



 

ภายในห้องรับรองขนาดกลางซึ่งใช้เป็นห้องแต่งตัวชั่วคราวของเจ้าชายอพอลโล แม้จะหยิ่งในศักดิ์ศรีและทะนงตนมากเพียงใด อพอลโลก็ไม่คิดขอยืมใช้ห้องที่ใหญ่กว่าเพื่อให้สมเกียรติของตน แม้มาในฐานะตัวแทนแห่งแฟลร์รูจ แต่ฐานันดรศักดิ์เป็นเพียงเจ้าชายองค์เล็กที่สำคัญน้อยกว่าเจ้าชายอันดับหนึ่งของอาณาจักร งานนี้เจ้าชายไดอาควรมา

เพราะไอ้ขี้ขลาดนั่นกลัวผีก็เลยไม่อยากมา เหตุผลบัดซบจริงๆ

ยังไม่ทันหายหงุดหงิดกับการที่ต้องสับตารางเวลาพักผ่อนเพื่อมาออกงานสังคมทั้งที่ไม่ใช่คนชื่นชอบงานแบบนี้ กลับต้องมาแทนพระเชษฐางี่เง่าของตนด้วยเหตุผลอันหาสาระมิได้ เมื่อดวงตาแห่งรพีจับจ้องไปที่ชุดแฟนซีที่เข้ากับธีมงานเทศกาล เสียงทุ้มก็ตวาดดังลั่นห้อง

เป็นข้ารับใช้ประสาอะไรไม่รู้จักรสนิยมของผู้เป็นนาย! อยากตายนักใช่ไหม?!” เสียงนั้นดุดันแข็งกร้าว ผู้ติดตามได้แต่ค้อมศีรษะขออภัยเป็นการยกใหญ่

ต้องขอพระทานอภัยพระเจ้าข้า ด้วยเวลาที่น้อยนิดทำให้กระหม่อม...”

หุบปาก!” เสียงเข้มตวาดลั่นก่อนจะผ่อนลมหายใจ “...ช่างเถอะ เวลามีไม่มากแล้ว มาช่วยฉันแต่งตัวเดี๋ยวนี้!!”

ใช้เวลาไม่นานนักในการเปลี่ยนชุดเพื่อให้เข้ากับธีมของงานเทศกาล แต่องค์ชายแดนสุริยานั้นใช้เวลาส่วนหนึ่งไปกับการตวาดตะคอกใส่ผู้ติดตามที่เตรียมชุดมาให้แล้วไม่ถูกใจพระองค์ สุดท้ายแล้วก็ยอมใส่ชุดที่คนสนิทเตรียมไว้ให้



 

ร่างสูงสง่าเดินเข้ามาในท้องพระโรงที่มีเจ้าชายต่างอาณาจักรเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทุกพระองค์ล้วนแต่งกายให้ตนดูน่ากลัวเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายดังที่ธีมงานกล่าวเอาไว้ แต่กลับมีบางพระองค์ที่พยายามจะแต่งกายให้ดูน่ากลัวน่าขนลุก ทว่ากลับดูน่ารักน่าชังแทน...

อ๊ะ นั่นพี่อพอลโลนี่นา!” เจ้าชายตัวเล็กที่ถูกพระญาติร่วมอาณาจักรอุ้มอยู่ เมื่อสังเกตเห็นคนรู้จักที่เพิ่งเข้างานก็เอ่ยทักทายและยื่นมือไปทันที พลางดิ้นๆ ตัวเล็กน้อยเพื่อให้หลุดจากอ้อมแขนของเจ้าชายซิริอุส เขาวิ่งดุ๊กๆ มาหาคนร่างสูงที่กำลังเดินมาหาทางนี้

โฮ่ นั่นโพรซิออนไม่ใช่หรือ?” เรียวปากขยับยิ้มเย่อหยิ่งขึ้นทักทายเจ้าชายตัวน้อย แล้วย่อเข่าลงเพื่อให้สนทนากันได้ง่ายขึ้น

ชุดอะไรเนี่ย เท่มากเลยครับ ผมอยากใส่บ้างจัง” ดวงตาแป๋วแหววนั้นมองอย่างชื่นชม คนถูกชมก็ยิ้มกว้างขึ้น

อพอลโลสวมชุดอันมีผ้าสีครีมพันรอบไหล่ขวาและชายยาวมาถึงเข่า มีเชือกเส้นหนาพันรอบเอว ทั้งยังเฟอร์หนังสิงโตที่มีหัวสิงห์ประดับอยู่บนไหล่ขวา เส้นผมสีอาทิตย์อัสดงถูกหวีเสยเปิดหน้าผากแล้วปัดไปทางซ้าย เครื่องประดับอัญมณีสีดำทั้งจี้สร้อยคอ ตุ้มหู แหวนที่ประดับนิ้วห้านิ้ว รวมทั้งปลอกแขนสีทอง ขับให้ดูสง่างามและลึกลับ รวมทั้งแผ่นอกที่ปิดไม่หมดเผยให้เห็นอกซ้ายที่มีรอยสักรูปราชสีห์และพระอาทิตย์ที่ดูน่าเกรงขาม ร่างกายสูงสง่าประดับเกราะบางส่วนที่รอบเอวและปิดแผ่นอกด้านขวา ยามขยับกายส่งเสียงกังวานของโลหะกระทบกันราวกับระฆังจากสรวงสวรรค์

ชุดนี้ไม่เหมาะกับเด็ก ใส่ชุดฟักทองน่ะเหมาะแล้ว” มือหนาอุ้มเด็กชายวัยแปดขวบแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ยื่นส่งให้คนที่เดินตามหลังเจ้าชายน้อยมา เจ้าชายร่างสูงโปร่งพระองค์นั้นก็ยื่นมือรับเจ้าชายน้อยอย่างรู้งานทันที 

ลูกพี่!” คนหนุ่มเรือนผมสีบลอนด์ทองสว่างประกายดาวเอ่ยเรียกด้วยรอยยิ้มแล้วเดินเข้าไปหาชายหนุ่มผู้เป็นดั่งราชสีห์ตัวโต 

หากเจ้าหญิงแห่งทรอยแมร์มาเห็นเข้าคงนึกเปรียบเทียบคนผมบลอนด์ว่าเหมือนสุนัขโกลเดนรีทีฟเวอร์ที่วิ่งมาหาเจ้าของ เพราะชุดสุนัขสามหัวที่เจ้าตัวสวมอยู่แทนที่จะดูน่าเกรงขามแต่กลับดูน่ารักเสียอย่างนั้น

เลิกเรียกแบบนั้นเสียที ไอ้บ้า” ปากกรรไกรก็ด่าฉับเข้าให้ แต่คนถูกด่าก็ยังยิ้มร่าเริงอย่างไม่ถือสา

ก็ไม่อยากเรียกว่า ‘อพอลโล’ ห้วนๆ นี่นา” คนพูดยิ้มแฉ่งพลางหันไปขอความเห็นกับเจ้าชายน้อยในอ้อมแขน “เนอะ โพรซิออน เขาเหมาะจะเป็นพี่ชายของฉันออก”

อื้อ ถึงจะดูดุแต่พี่อพอลโลก็เป็นคนดีนะฮะ” โพรซิออนตัวน้อยยิ้มแฉ่งอยู่ในอ้อมแขนของซิริอุส

ถึงชมไปฉันก็ไม่ให้อะไรตอบแทน” อพอลโลเอ่ยเสียงหน่าย

เพราะได้รู้จักกับเฮราเคลสตั้งแต่สมัยยังเด็กด้วยเหตุบางอย่าง พอพบกันในงานสังคมแบบนี้ทำให้พลอยรู้จักเจ้าชายแดนดวงดาวองค์อื่นๆ ตามไปด้วย และดูเหมือนเจ้าชายที่ยังเป็นเด็กจะชื่นชอบอพอลโลเสียเหลือเกิน โดยเฉพาะตัวเฮราเคลสเองและโพรซิออน ถึงแม้ซิริอุสจะทำหน้าเขม่นใส่เหมือนหมาหวงก้าง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าราชสีห์ เจ้าชายคนโตแห่งอาณาจักรเคเนสก็ไม่กล้าเข้ามาแย่งญาติผู้น้องไปดูแลเหมือนอย่างที่ทำกับคนอื่น

ท่ามกลางเสียงจอแจของบรรดาเจ้าชายที่พูดคุยพบปะกัน สายตาแห่งสุริยันก็สอดส่องมองหาอะไรบางอย่างเมื่อเดินออกห่างเจ้าชายจอมพลัง

ผมสีเงิน...

ดวงตาสีตะวันทอดสายตาไปเรื่อย หูนั้นก็เงี่ยฟังบรรยากาศโดยรอบเพื่อรับรู้ถึงความเป็นไปของสภาพแวดล้อม เพื่อเตรียมตัวให้ทันหากงานพิธีเริ่มต้นขึ้น

งานนี้ก็ไม่มาอีกแล้ว?

สีหน้าแสดงความผิดหวังเล็กน้อย แม้จะคิดไว้อยู่บ้างว่าคงหาโอกาสพบกันยาก เพราะตำแหน่งและราชกิจค่อนข้างแตกต่างกัน อพอลโลนั้นหากจะมีโอกาสออกงานสังคมบ้างต้องเป็นจังหวะที่พระเชษฐาติดราชกิจอื่นหรือมีเหตุผลงี่เง่าอย่างกลัวผีเลยไม่ยอมมาดังเช่นเทศกาลครานี้

ทันใดที่หางตา เขาพบบุรุษเรือนผมสีบลอนด์เงินเดินสวนกันไป ราชสีห์หนุ่มหันมองตามทันที บุรุษผู้นั้นสวมที่คาดผมรูปหูกระต่ายและผ้าคลุมสีขาวไล่โทนตรงปลายเป็นสีน้ำเงินประดับขนสัตว์ฟูฟ่อง

หรือว่า...!

ขานั้นก้าวเร็วกว่าความคิด เมื่อได้เข้าไปใกล้ก็สัมผัสได้ถึงไอเย็นสบายแผ่ซ่านออกมาจากบุรุษผู้นั้น มือหนาอุณหภูมิสูงกว่าคนทั่วไปคว้าหมับเข้าที่ต้นแขนของชายผู้เป็นเป้าหมายแล้วดึงรั้งไว้ไม่ให้เดินออกห่าง

โอ๊ย...”

แก...”

เมื่อมองเห็นหน้าอีกฝ่ายชัดๆ คนที่คว้าแขนไว้ก็ปล่อยทันทีพลางถอนหายใจทำสีหน้าผิดหวังเต็มแก่ เมื่อดวงตาสีฟ้าสวยมองเห็นคนที่มาคว้าแขนตน ใบหน้าหวานก็เผลอชักสีหน้าเล็กน้อยแสดงความไม่พอใจ

อพอลโล”

ชแตร์”

เจ้าชายทั้งสองยืนจ้องหน้ากันอย่างเงียบงันท่ามกลางเสียงจอแจของคนรอบข้าง ก่อนที่อพอลโลจะเป็นฝ่ายเปิดปากเอ่ยคำพูดออกมาก่อน

มาเพื่อคำอธิษฐานอีกแล้ว?” พูดสิ่งที่นึกออกเป็นอันดับแรกเวลาพบคนคนนี้ไม่ว่าจะงานไหนๆ

ใช่ ทุกคนในที่นี้ล้วนมีความปรารถนา” ชแตร์ตอบกลับเสียงราบเรียบ “ผมขอตัว...”

หมับ...

มือหนานั้นก็จับต้นแขนตำแหน่งเดิมรั้งไว้ คนจะไปย่นหัวคิ้วอย่างสงสัย ต่างฝ่ายต่างไม่ถูกกันแท้ๆ ทั้งที่เขาเป็นฝ่ายพยายามเลี่ยงไม่คุยต่อด้วย

แกเห็นใครที่มีสีผมเหมือนแกอีกไหม?”

คำถามนั้นทำให้คนที่เงียบขรึมอย่างชแตร์หลุดร้อง ‘ฮะ?’ ออกมาคำใหญ่

ฉันถามก็ตอบมาสิ” เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ฟังเหมือนประโยคคำสั่ง

ก็เห็นแต่สปิก้า...กับเจ้าชายวิม...” ตอบคำถามอย่างจนใจ ทำเหมือนเขาเป็นที่ปิดประกาศตามหาคนหายอย่างไรอย่างนั้น และชื่อที่เอ่ยมานั้นเจ้าคนถามจะรู้จักหรือเปล่าก็ไม่รู้ด้วย...

งั้นเหรอ” เพียงแค่สบตานิ่งๆ แล้วปล่อยมือจากแขนเรียวเมื่อได้คำตอบ แววตาดุดันจับจ้องเข้ามองลึกในดวงตาสีฟ้าเข้มประกายดารา ราวกับดาวฤกษ์ท่องไปในอวกาศ แม้สว่างเพียงไรก็ลึกล้ำจนไม่อาจมองเห็นตัวตน

นี่...” เมื่อเห็นอีกฝ่ายจ้องตาไม่วางขนาดนั้นก็รู้สึกขนลุกซู่อย่างประหลาด ราวกับจะถูกเนตรแห่งสุริยันนั้นแผดเผากายเนื้อไป “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัว...”

ทันทีที่พูดจบประโยค ทหารองครักษ์หน้าปราสาทก็วิ่งเข้ามารายงานอะไรบางอย่างอย่างรีบร้อนกับองค์ราชาและเจ้าชายแห่งโรโตเรีย อพอลโลหลุดจากภวังค์แล้วผินหน้าไปทางผู้เป็นเจ้าแผ่นดินนี้ เจ้าชายน้อยที่ยืนข้างกายมีสีหน้าตกใจทำอะไรไม่ถูก น้ำตาคลอหน่วยตาโตทั้งสองข้างนั้น ดวงเนตรสีตะวันจับจ้องมองสถานการณ์อยู่ตลอดและคิดว่าสิ่งที่ตนคิดนั้นถูกต้อง

ชแตร์ แกจงพาคนอื่นๆ ไปที่ปลอดภัย” ออกคำสั่งให้คนข้างๆ แล้วก็เดินฉับๆ ออกไปทางออกท้องพระโรงทันทีคนเดียว

เดี๋ยว! อพอลโล! นั่นนายจะทำอะไร?!” มือเย็นๆ ของชแตร์คว้าหมับที่ผ้าคลุมหนังสิงโตรั้งให้คนที่ตัวใหญ่กว่าหยุดเดิน

ถามอะไรโง่ๆ ก็จะไปจัดการปีศาจกินฝันน่ะสิ” อพอลโลชักสีหน้าใส่แล้วสะบัดผ้าคลุมให้หลุดจากมือของชแตร์ ขายาวๆ ก้าวลงบันไดอย่างเร่งรีบมุ่งหน้าไปยังทิศของทางที่เขานั่งรถม้ามา

เสียงกรีดร้องเมื่อตอนนั้นไม่ใช่ที่ประชาชนหยอกล้อกัน....

เพราะการแต่งกายให้น่ากลัวเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไปจากอาณาจักร ทำให้เกิดมีการแกล้งกันให้ตกใจบ้างเป็นธรรมดา แต่ทว่าตั้งแต่เขาเข้ามาในเขตตัวเมืองใกล้เขตพระราชฐานก็ไม่พบว่ามีประชาชนคนใดหยอกล้อแกล้งกันให้ตกใจจนต้องกรีดร้องดังที่ได้ยินเมื่อเขาเดินทางเข้าเขตของอาณาจักรโรโตเรีย

ตอนนั้นต้องใช่แน่ ฉันประมาทไป!



 

ทางด้านของชแตร์ เมื่อได้ยินสิ่งที่อพอลโลพูดก็เข้าไปหาองค์ราชาแห่งโรโตเรีย ปรากฏว่าสิ่งที่หัวหน้าองครักษ์รายงานมาป็นจริงดังที่อพอลโลพูดทุกประการ แถมทิศทางก็มาจากทางที่อพอลโลเพิ่งเดินไปเสียด้วย เหล่าเจ้าชายที่ทราบเรื่องก็จัดการแบ่งกลุ่มกันเพื่อช่วยเหลือประชาชนและปราบปีศาจกินฝัน

เหล่าปีศาจกินฝันบางส่วนได้เข้าล้อมปราสาทที่มีเจ้าชายอยู่จำนวนมาก ซึ่งเหล่าเจ้าชายก็ได้อาสาตนปราบไปได้จำนวนหนึ่งเพื่อเปิดทางให้เจ้าชายอีกกลุ่มได้ออกไปช่วยเหลือประชาชนและอพยพพาไปยังที่ปลอดภัย

ชแตร์!” เสียงเรียกของใครบางคนดังขึ้น เจ้าของชื่อหันไปมองตามต้นเสียงนั้น

เฮราเคลส!” ปรากฏร่างเจ้าชายผมสีบลอนด์ทองตัวโตวิ่งมาหาแล้วเหนื่อยหอบอยู่ตรงหน้า

ชแตร์ อยู่ที่นี่เองเหรอ ตามหาแทบแย่แน่ะ รีบไปที่ปลอดภัยเถอะ” มือหนาคว้าหมับที่ข้อมือของคนที่ตัวเล็กกว่าให้เดินตามเดินไป

แต่ว่า...” ชแตร์ขืนตัวไว้ก่อนแล้วมองไปยังทิศทางที่อพอลโลจากไป คิ้วบางขมวดเข้ากลางหน้าผาก ถึงไม่ถูกกันอย่างไรก็ไม่ใช่ว่าจะยืนมองเฉยให้อีกฝ่ายเดินเข้าหาความตาย

พวกอัลแตร์กับเวก้าออกไปคุ้มกันประชาชนที่ทิศตะวันตกแล้ว เราไปสมทบกับพวกเขานะ” เฮราเคลสดึงแขนเรียวเล็กนั้นให้เดินตามไป แต่ดูเหมือนอีกคนจะอยากไปทิศตรงข้ามแทน

ทางนั้นยังไม่มีคนไปดูแลเลย” เสียงเบาพูดแผ่วด้วยความกังวล “ผมเห็นมีคนเดินไปแค่คนเดียวเอง”

นายร่างกายไม่แข็งแรง จะไปสู้ปีศาจกินฝันได้ยังไง!” เฮราเคลสทำเสียงดุ 

มีเจ้าชายอีกคนอยู่ที่ตรงนั้น” ชแตร์เอ่ยเสียงแข็ง “ผมจะไปช่วยเขา!”

ชแตร์...” สีหน้าจริงจังทำเอาคนที่แสร้งดุปั้นหน้าเข้มต่อไม่ลง “ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปด้วย” 

มือข้างหนึ่งก็ช้อนร่างของอีกฝ่ายที่ดื้อรั้นจะไปช่วยขึ้นมาด้วยแขนข้างเดียว ชแตร์ร้องเหวอเมื่อจู่ๆร่างกายก็ลอยวืดขึ้นจากพื้น 

นี่ ปล่อยผมลงเถอะ!”

ก็รีบอยู่ไม่ใช่เหรอ? นายเดินช้านี่นา” เฮราเคลสจัดท่าให้ชแตร์นั่งอยู่บนแขนข้างซ้ายของตนแล้วประคองเอวอีกฝ่ายด้วยมือขวา 

กะก็ใช่อยู่หรอกนะ...” หนุ่มที่ร่างบางกว่าก็ใช้สองมือเกาะเสื้อผ้าอีกฝ่ายเพราะไม่เคยชินกับการที่ถูกอุ้มในลักษณะแบบนี้ แม้ว่าจะอยากดิ้นให้อีกคนปล่อยแต่ในสถานการณ์นี้เขาเป็นห่วงอพอลโลมากกว่า

ทางนั้นใช่มั้ย?” ไม่รอคำตอบใดๆ เจ้าชายจอมพลังแดนดวงดาวก็วิ่งไปทางที่เจ้าชายแดนดาวตกเคยชี้ไปทันที



 

เคร้ง!

เสียงโลหะกระทบพื้นหินดังลั่นเนื่องจากดาบสีแดงเลือดเล่มโตถูกปีศาจร่างใหญ่ปัดป้องกันตนเสียจนกระเด็นหลุดออกจากมือของชายหนุ่มตัวโต

หึ ดูท่าจะแข็งแกร่งนะ เพราะเป็นเวลากลางคืนด้วย...

เจ้าของนัยน์ตาสีพระอาทิตย์จ้องไปทางปีศาจกินฝันตัวโตสุด เจ้านั่นแข็งแรงมากและสามารถผนึกพลังเวทของเขาไว้ได้ ทำให้ไม่สามารถใช้พลังไฟที่จะประกอบดาบเป็นดาบเพลิงได้อย่างที่เคยทำ

ร่างสูงใหญ่อาศัยจังหวะที่ปีศาจนิ่งเพราะได้ยินเสียงคนมาเพิ่มในการวิ่งไปหยิบดาบที่กระเด็นไปให้กลับมาอยู่ในมือ ไม่รีรอให้ปีศาจได้ตั้งตัวตั้งรับ ดาบสีเลือดเล่มใหญ่ก็ฟาดฉะเข้ากลางลำตัวปีศาจสีม่วง ร่างกายของมันสลายไปในทันที

อพอลโลล่อพวกปีศาจให้ออกจากพื้นที่ชุมชนเพื่อที่จะใช้พลังไฟในการจัดการพวกมันทีเดียว แต่ก็ถูกผนึกพลังเวทไปเสียก่อนจึงไม่ได้จัดการเสียที ทำให้ต้องใช้ดาบทำลายมันไปทีละตัวๆ แทน ก็นับว่าผิดแผนและทำให้เสียเวลาไปพอสมควร ยิ่งมืดก็ยิ่งมองเห็นยาก ยิ่งมืดปีศาจก็ยิ่งแข็งแกร่ง ทุกดาบที่ลงนั้นปราศจากความลังเล ปีศาจนั้นจึงสลายไปแม้ดาบเดียว ทว่าจำนวนก็ดูจะไม่ลดลงอย่างที่เจ้าชายแดนสุริยาต้องการสักเท่าไร

ต้องถ่วงเวลาอีกจนกว่าพลังไฟจะใช้ได้...

ยิ่งอพอลโลเหนื่อยมากเท่าไหร่ พลังไฟก็จะมีประสิทธิภาพลดลง รวมทั้งจะทำให้เจ้าตัวเจ็บปวดจากลิ่มที่หัวใจที่ใช้จำกัดพลังสร้างไฟนั้นอีก 

ยิ่งยืดเยื้อก็ยิ่งแย่

แต่เขาก็ไม่ต้องการให้ใครมาช่วยหรือโดนลูกหลงจากการต่อสู้ของเขา ต้องรีบทำให้จบโดยเร็วก่อนที่จะมีใครมา

พลั่ก!

เพราะความมืดทำให้อพอลโลหันกลับไปตอบโต้ปีศาจกินฝันตัวเล็กที่คอยก่อกวนเขาไม่ทัน ซ้ำยังโดนเจ้าตัวขนาดกลางพุ่งเข้าใส่จนกระเด็นไปชนกำแพงเมืองอีก

โชคร้ายที่กำแพงตรงนั้นค่อนข้างเก่า ทำให้มันถล่มลงใส่อพอลโลที่กำลังมึนพอดี

อพอลโล!!” 

เสียงตะโกนของใครบางคนทำให้เขาได้สติและขยับตัวหลบเศษอิฐที่ถล่มลงมาได้อย่างฉิวเฉียด แม้บางก้อนจะกระเด็นลงมาทับเท้าเขาบ้างให้ฟกช้ำอยู่หลายจุด มือหนาใช้ดาบใหญ่แทนไม้เท้าสำหรับยันตัวลุกขึ้น ความเจ็บแล่นแปลบเข้าที่ข้อเท้าซ้ายจนคนร่างใหญ่ขมวดคิ้วกัดฟันแน่น

แกมาทำไม?! ฉันบอกให้ไปที่ปลอดภัยไม่ใช่เรอะ!!!” เสียงทุ้มนั้นตวาดลั่นใส่คนร่างผอมบางที่วิ่งเข้ามาหาเพื่อดูอาการบาดเจ็บของเขา

นี่สู้อยู่คนเดียวเหรอ?” คนผมเงินขมวดคิ้วพลางถอนหายใจ

ลูกพี่!! เป็นอะไรมากไหม?!” คนร่างโตอีกคนก็วิ่งเข้ามาสมทบหลังจากที่จัดการปีศาจที่มาทำร้ายลูกพี่ตนได้แล้ว แขนแกร่งนั้นแทบจะแบกคนเจ็บขึ้นบ่าโดยทันทีถ้าไม่โดนอีกคนเขกกบาลเสียก่อน

ตอนนี้สนใจปีศาจนั่นก่อน ฉันไม่เป็นอะไร” อพอลโลก้าวเท้าอย่างมั่นคงและใจเย็นเพื่อไม่ให้กระเทือนแผล คอนดาบขึ้นตั้งท่าเตรียมรับมือโดยไม่รีรอ “เจ้าตัวใหญ่นั่นสามารถผนึกพลังได้ ระวังด้วยล่ะ”

แม้ว่าเฮราเคลสจะเป็นห่วงลูกพี่แต่ก็ไม่สามารถห้ามอีกฝ่ายไม่ให้ต่อสู้ได้ จึงได้แต่พยักหน้าและหาอาวุธจำเป็นรอบกายสำหรับกำจัดปีศาจทันที คนตัวโตทั้งสองยืนบังชแตร์ไม่ให้เข้าร่วมต่อสู้ด้วยเพราะรู้ว่าคนร่างเล็กนั้นสุขภาพไม่แข็งแรง รวมทั้งความสามารถก็ไม่เหมาะที่จะต่อสู้กับปีศาจกินฝันด้วย

เกะกะจริง” อพอลโลบ่นเสียงดังขณะที่เข้ามาใช้ดาบจัดการปีศาจที่เข้ามาโจมตีชแตร์ แววตาดุดันนั้นแสดงถึงความไม่พอใจที่อีกฝ่ายมายืนเป็นตัวถ่วงพวกเขา

อย่าฝืนตัวเอง” ชแตร์หน้ามุ่ยเมื่อรู้ว่าช่วยอะไรทั้งคู่ไม่ค่อยได้จึงได้แต่เอ่ยปากบอกให้ระวังตนแทน

อ่อนแอก็หลบไปซะ” ไม่ว่าเปล่า มือก็ดันคนตัวเล็กให้เข้าไปหลบหลังกำแพง

ผม...” อีกคนก็ขืนตัวไม่ไปเพราะเป็นห่วงสองเจ้าชายที่รับมือกันเพียงสองคน

นี่ อย่าเพิ่งทะเลาะกันสิ มันมาเพิ่มแล้ว!!!” เฮราเคลสรีบห้ามทัพและชี้ปีศาจกินฝันที่ออกมาจากป่าจำนวนมาก “เยอะขนาดนี้ไม่ไหวแน่เลย”

อพอลโลนั้นก็เหนื่อยเต็มที ขนาดเจ้าชายจอมพลังก็ยังบอกว่าไม่ไหว นับประสาอะไรกับชแตร์ที่แม้ไม่ได้ออกแรงสู้ก็ยังหวาดหวั่น

ถ้าเกิดว่ามันเข้าเมืองไปได้ละก็...”

เฮ้ย แกเรียกดาวตกออกมาได้ไหม?” เจ้าของเรือนผมสีอาทิตย์อัสดงเอ่ยเรียกเจ้าชายแดนดาวตก

นายจะอธิษฐานเหรอ?” คนผมเงินขมวดคิ้ว ที่ผ่านมามีแต่ปฏิเสธไม่ขอดาวตกของเขาแท้ๆ

เปล่า ก็แค่...” ว่าพลางหันหน้าไปมองปีศาจกินฝันที่เริ่มมามากขึ้นเรื่อยๆ “ถ้าเป็นดาวตกธรรมดาก็กำจัดพวกนี้ง่ายเลยน่ะสิ เพียงแค่เล็งให้ถูก”

เอ๊ะ... ชแตร์ทำสีหน้าเหมือนเพิ่งนึกอะไรออก จะว่าไปก็เคยเรียกดาวตกมาขี่เล่น จะเรียกให้มาตกใส่พวกนี้อย่างนั้นเหรอ...

รอยยิ้มจางปรากฏบนใบหน้าของเจ้าชายแห่งมีเทียร์เวล

อา เข้าใจแล้วล่ะ” สีหน้าของคนตัวเล็กแสดงออกมาราวกับจะขอบคุณ แต่เจ้าตัวก็ปากหนักสักหน่อยกับคนที่ไม่ชอบขี้หน้าอย่างอพอลโล

ร่างสูงใหญ่เบือนหน้าหนีอย่างระอา มีพลังแท้ๆ แต่กลับใช้ไม่เป็น โง่จริงๆ ถ้าไม่บอกก็คงยืนนิ่งแบบนั้นเหมือนทุกที



 

เป็นไปตามคาด ดาวตกดวงเล็กของชแตร์สามารถกำจัดปีศาจกินฝันไปได้จำนวนหนึ่ง อีกส่วนก็ถูกเฮราเคลสจัดการไป เหลือปีศาจกินฝันไม่มาก ทำให้อพอลโลใช้มือซ้ายถือดาบและเริ่มสร้างไฟออกมายังมือขวา

ลูกไฟขนาดเล็กพุ่งออกมาจากมือของเจ้าชายแห่งแฟลร์รูจ มันแผดเผาปีศาจจนสลายไป เหล่าปีศาจนั้นตกใจกับพลังไฟอันรุนแรงนั้นได้ไม่นานนักก็พบว่าตนตกอยู่ในวงล้อมเปลวเพลิงที่เจ้าชายอพอลโลสร้างขึ้น

ถ้าใช้พลังนายจะ” ชแตร์ร้องเมื่อเห็นกองไฟขนาดใหญ่ แน่นอนว่าพลังขนาดนี้ย่อมสร้างภาระให้กับร่างกายของอพอลโลอย่างหนัก โดยเฉพาะลิ่มที่หัวใจ

หุบปากแล้วอยู่เฉยๆ ซะถ้าไม่อยากโดนเผาตาย” แม้จะยังยืนได้ด้วยตนเอง แต่สีหน้าก็ดูแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด

ใจร้อนเกินไป ถ้าเราค่อยๆ กำจัด

พูดมากน่ารำคาญ” เสียงทุ้มนั้นตัดคำพูดของคนที่กำลังจะตำหนิ ทำไมจะไม่รู้ว่าไอ้ที่บ่นๆ มานั่นน่ะจริงๆ ก็แค่เป็นห่วงเขา

ฟุ่บ...

เสียงเปลวไฟที่วูบดับลงจุดหนึ่งในวงล้อมทำให้เจ้าชายทั้งสามหันไปมองทันที น่าจะมีปีศาจสักตัวหลุดออกมาจากวงล้อมไฟ เฮราเคลสหยิบท่อนไม้แถวนั้นมาถือไว้ในมือเพื่อเตรียมจัดการ ทว่าอพอลโลไวกว่า...

พลั่ก!

มือหนาผลักชแตร์ให้ล้มลง ทำให้ปีศาจกินฝันที่กระโจนเข้ามาจากด้านหลังข้ามผ่านตัวเจ้าชายร่างเล็กไปแล้วเข้ามาตะครุบร่างของอพอลโลทันที 

มือนั้นคว้าดาบฟาดใส่ปีศาจแต่มันหลบไป ซ้ำยังโยนอพอลโลให้กระเด็นไปโดนซากกำแพงที่ถล่มลงมาก่อนหน้านี้ ศีรษะขององค์ชายแห่งแฟลร์รูจกระแทกเข้ากับอิฐอย่างจัง สติของเขาเริ่มเลือนราง

ลูกพี่!”

อพอลโล!” 

เสียงร้องนั้นทำให้ปีศาจเบนเป้าหมายไปหาเจ้าของเสียงแทน เฮราเคลสดันให้ชแตร์ไปอยู่ด้านหลังตน มือก็ถือท่อนไม้ในท่าตั้งรับ

เจ้าโง่เอ๊ย...อุตส่าห์ผลักให้หลบพ้นยังจะเรียกมันไปหาตัวเองอีก...

ภาพรอบข้างเริ่มบิดเบี้ยวและเลือนราง

ฉับพลันความเย็นยะเยือกก็แล่นเข้ามาตามสัมผัสที่ผิว อยู่ดีๆ ก็มีหิมะตกลงมาที่บริเวณที่พวกเขาอยู่ ปีศาจกินฝันนั้นถูกแท่งน้ำแข็งขนาดใหญ่ทิ่มทะลุแล้วสลายไป

เพิ่งมาถึงแท้ๆ ก็ต้องจัดการปีศาจเลยหรือ?” เสียงทุ้มต่ำนั้นบ่นเล็กน้อย

ปรากฏร่างสูงใหญ่ของชายผมสีเงินคนหนึ่งเดินตรงมาที่คนที่นอนบาดเจ็บอยู่ เขาย่อตัวลงแล้วมองหน้าอพอลโล ใบหน้าที่จ้องเขานั้นไม่ชัดเจน

ผมสีเงิน...ดวงตาสีแดง...

ตายรึยัง?”

แล้วสติของอพอลโลก็ดับวูบไป



 

โปรดติดตามตอนต่อไป...



 

เราตั้งใจจะให้อพอลโล ชแตร์ เฮราเคลสรู้จักกันอยู่ก่อนแล้วค่ะ แต่ในเกมตอนนี้ก็มีแต่อพอลโลกับชแตร์ที่รู้จักกันนะคะ คนอื่นๆ ยังไม่เคยเจอกัน /พายเรือผีอย่างมีฟามหวัง 555