listen to this for your อรรถรสในการอ่าน

Novo Amor - State Lines

 

XIX

Physics, Drawing, Water

sds

Photo by Jason Abdilla on Unsplash

 


 

I've been awake in every state line

Dying to make it last us a lifetime

Trying to shake that it's all on an incline

Find me a way I'll be yours in a landslide

 


 

“โปรเจ็กต์...ใช่! โปรเจ็กต์!”

“...?”

“ซีแอลปล่อยเราแป๊บนะ เราจะโน้ตไอเดีย”

ถึงแม้ว่าจะยังมึนงง แต่คาร์ลอสก็ยอมปล่อยแขนจากเอว ให้ฮันได้ผละไปโน้ตบางอย่างลงเอฟอร์ส ไม่กี่วินาทีต่อมาถึงเริ่มได้สติ

“เธอได้ไอเดียโปรเจ็กต์...วิชาปรัชญาสมัยใหม่น่ะเหรอ?”

“ก็ใช่น่ะสิ ลืมไปแล้วเหรอว่าเรามาหาข้อมูลทำงานกันนะ ไม่ใช่เที่ยวเล่น”

“...” อัลฟาตัวสูงแอบชะงัก ก่อนจะเกาหัวแกรกๆ เพราะบอกตามตรงว่าวันๆ แค่คิดถึงแต่เรื่องของฮัน ไนท์ แค่นั้นเวลามันก็หมดไปทั้งวันแล้ว

ดังนั้น หลังจากไฮเปอร์ลูปมุ่งตรงลงเจนีวา ในหัวของอัลฟาหนุ่มจึงมีแต่ความคิดที่ว่า จะพาฮันไปเที่ยวที่ไหน วันๆ เราจะทำอะไรกัน จะบอกรักจังหวะไหน หรือแม้แต่จะทำเรื่องนั้นกันเมื่อไร คำว่ามาที่นี่เพื่อทำงานแทบไม่หลงเหลืออยู่ในหัว

“จู่ๆ ความคิดนี้มันก็เข้ามาในหัว อาจจะฟังดูแปลกแต่เราเชื่อว่ามันต้องออกมาดีแน่ๆ” ฮันยิ้มกว้าง “คิดอยู่นานเลย ว่าจะเอาวิชาที่เราทั้งคู่เรียนมาผนวกเข้าหากันอย่างไร้รอยต่อยังไงดี”

“ครับ” คาร์ลอสตั้งใจฟัง

“คนมักแยกวิทยาศาสตร์กับศิลปะออกจากกัน แทบจะเป็นหลักที่อยู่ขั้วตรงข้ามกันเลยใช่ไหมล่ะ แต่เรากลับมองว่าสองอย่างนี้เป็นสิ่งเดียวกัน...และผสมเข้าหากันอย่างสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว”

“...” อัลฟาตัวโตพยายามคิดตามสิ่งที่ฮันจะสื่อ

“เรากำลังคิดว่า...จะสร้างผลงานศิลปะในสไตล์เราด้วยวิธีการของซีแอล ซึ่งก็คือหลักฟิสิกส์”

“จะสร้างงานศิลปะ...ด้วยหลักฟิสิกส์?” คิ้วหนาขมวดมุ่น “เธอครับ ฉันไม่ถนัดเรื่องศิลปะ”

“ตอนนี้นายยังไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไงใช่ไหม อือ...จะยกตัวอย่างยังไงดีนะ” ฮันเกาแก้ม “นายลองดูผีเสื้อตัวนั้นสิ”

“...ครับ เธออยากได้เหรอ ฉันไปจับมาให้เอาไหม?” คาร์ลอสกำลังจะก้าวขา แต่ดีที่ฮันรั้งชายเสื้อไว้ทัน

“ไม่ใช่ว้อยยย ถ้าเข้าไปจับบุ่มบ่ามน้องได้ปีกหักกันพอดี วิธีรักษาธรรมชาติที่ดีที่สุด คือการไม่ไปยุ่งอะไรกับเขาเลย”

“แต่ตอนนั้นเธอยังจับฮันนี่สองมาเล่นกับฉันเลยนะ” น้องแมลงเต่าทองที่ฮันเคยเอามันไต่หลังมือมาเล่นสมัยตัวกะเปี๊ยกถูกยกขึ้นมา ฮันเบิกตาโต

“ก็! ก็ตอนนั้นเรายังไม่รู้ เรายังเด็กอะ!” ฮันมุ่ยหน้า สักพักถึงเพิ่งนึกได้ว่าออกนอกเรื่องมาไกลโข “เดี๋ยวนะ ซีแอลตั้งใจฟังที่เรากำลังจะอธิบายหน่อยสิ!”

“Yes, darling” คาร์ลอสกลับมาตั้งใจฟัง เพิ่มเติมคือโอบเอว

ก็ถ้ายืนห่างขนาดนั้นจะไปได้ยินได้ยังไงล่ะ จริงไหม :)

ฮันก็ไม่อยากจะบอกว่า หน้าน่ะ...ไม่ต้องโน้มลงมาจนแทบจะหายใจรดกันขนาดนี้ก็ได้เพราะมันทำให้เขาไม่มีสมาธิ แต่ก็ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดกับมนุษย์มือปลาหมึก

“ปกติแล้วคนมักคิดว่างานศิลปะต้องสร้างด้วยมือ ออกมาจากจินตนาการเท่านั้นถูกไหม แต่ถ้าเราใช้หลักวิทยาศาสตร์มาช่วยสร้างผลงานบ้างล่ะ ที่เราพูดถึงผีเสื้อตัวเมื่อกี้ น้องจะบินได้เร็วขึ้นหรือช้าลง เราอาจจะคิดแค่ว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติของผีเสื้อ แต่ที่จริงแล้วความเร็วการบินของน้องก็ต้องอาศัยหลักวิทยาศาสตร์ เช่น ความเร็วลม ทิศทางของลม บางทีน้องอยากไปดูดเกสรจากดอกไม้ดอกนั้น ต้องกระพือปีกแรงแค่ไหนในความเร็วลมเท่านี้ๆ เพื่อที่จะได้ไปดูดเกสรจากดอกที่ต้องการ กว่าจะไปถึงนี่ใช้เวลาเท่าไร เห็นไหม ธรรมชาติกับวิทยาศาสตร์เป็นของคู่กัน เหมือนสุนทรียศาสตร์กับตรรกศาสตร์เลย!”

“ครับ...ก็คือเธอจะวาดผีเสื้อด้วยความเร็วลม?”

“เราแค่ยกตัวอย่าง ที่จะสื่อคือ เรื่องสองเรื่องที่ดูจะเข้ากันไม่ได้ แท้จริงมันคือเรื่องที่ผสมผสานเป็นหนึ่งเดียวมาตั้งแต่โลกก่อกำเนิดสิ่งมีชีวิตแล้ว”

ศิลปะกับวิทยาศาสตร์ ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องที่เข้ากันได้ แต่มันกลับกลมกลืนไปด้วยกัน เหมือนโลกใบนี้

แท้จริงแล้วโลกไม่เคยมีหมวดหมู่ ประเภท หรือการแบ่งแยกลักษณะ สิ่งเหล่านั้นมีเพียงมนุษย์ที่ไปกำหนดมันขึ้น มนุษย์เกลียดและกลัวความไม่รู้ เมื่อไม่รู้ก็ต้องศึกษา จัดหมวดหมู่ให้สิ่งต่างๆ รอบตัวเพื่อการเรียนรู้ที่ง่ายขึ้นของตน

แต่โลกไม่เคยแบ่งแยก มีเพียงมนุษย์ที่ไปแบ่งมัน

เพราะโลกคือการรวมตัวกันของความหลากหลาย เพราะความแตกต่างหลากหลายจึงหลอมรวมให้เป็นโลกใบนี้

หากปราศจากความหลากหลายเหล่านี้

โลกจะยังเรียกว่าโลกได้อย่างไร

“AI ก็สร้างสรรค์งานศิลปะได้มาแล้ว นับประสาอะไรกับฟิสิกส์ควอนตัม...เราอยากเก็บภาพที่น่าประทับใจใส่ลงไปในผลงาน ให้เหมือนเป็นของที่ระลึกความทรงจำ แต่จะเปลี่ยนวิธีการสร้างงานนิดหน่อย จากวาดด้วยมือ...เราจะให้ซีแอลช่วยทำโปรแกรมด้วยควอนตัมคอมพิวเตอร์ ซีแอลว่าไง?”

ฮันยิ้มอย่างภาคภูมิในไอเดียของตัวเอง ส่วนคนฟังยิ้มตามเพราะความเชื่อมั่น เชื่อใจ และพร้อมสนับสนุน

“เธอว่าอะไรดี ฉันก็ว่าดี เอาตามนั้นครับ”

“ฮึ่ย ต่อให้ฉันจะชี้นกเป็นไม้ นายก็จะว่าดีตามทุกอย่างไม่ได้นะ เดี๋ยวเราเอาแต่ใจแย่ ถึงเวลานั้นกลับลำไม่ทันแล้วนะบอกไว้ก่อน”

“ก็ไม่เคยบอกว่าจะกลับ ทั้งกลับตัว...และกลับใจ” คาร์ลอสยกยิ้มชวนใจละลาย กระชับร่างคนตัวเล็กกว่า ยกมือสัมผัสแก้มเนียนแผ่วเบา “มาสร้างภาพน่าประทับใจของเรากันเถอะ ที่รัก”

เสียงทุ้มว่าจบก็ยกมือส่งสัญญาณให้กล้อง มันเริ่มนับถอยหลัง

แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังเริ่มนับไปข้างหน้า ตั้งแต่บัดนี้

 

αβΩ

 

“ฮัน...”

“หือ...”

“ฮัน...ไนท์”

“หือ? อ๊ะ—”

“ฮัน...อัลเลน...ไนท์”

“ทะ ทำไม...เรียกบ่อย— อื้อ”

เสียงทุ้มแหบพร่าคละเคล้าไปกับเสียงจูบ เสียงเนื้อผ้าเสียดสี และเสียงลมหายใจที่ขาดห้วง ทุกอย่างคร่าสติไปจากโอเมกากลิ่นชาคาโมมายล์

ก่อนหน้านี้ บนเทือกเขาพิลาทุสมีเรื่องให้ทำมากมาย วิวสำหรับถ่ายรูปสวยงามน่าหลงใหล มนุษย์เมืองหลวงตื่นเต้นกันใหญ่เพราะได้พบสิ่งที่ไม่เคยเห็นในชีวิตจริง บ้างก็วิ่งวุ่นถ่ายรูปเป็นพัลวัน บ้างก็ทำคอนเทนต์[1]ลงเมตาเว็บ แต่พวกเขาทั้งคู่กลับไม่ได้สนใจการเก็บภาพเพื่อเอาไปลงโซเชียลมีเดียนัก

แน่นอนว่าทิวทัศน์ยอดนิยมคือวิวที่เห็นทะเลสาบลูเซิร์นอย่างชัดเจน แต่ไม่ว่าจะไปยืนส่วนไหนก็สามารถเห็นทะเลได้แทบทุกส่วนอยู่ดี ถ้าจะบอกว่าฮันไม่รู้สึกกลัวเลยคงเป็นไปไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็รู้สึกปลอดภัยเมื่อมีคาร์ลอสอยู่ข้างกาย

น้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งอยู่ตลอดเวลา ผืนแผ่นดินที่มนุษย์ยืนย่ำถูกกัดกินอยู่ทุกวินาที น้ำแข็งขั้วโลกละลายกลายเป็นน้ำมากขึ้นทุกปี นานวันเข้าก็คงจะจมมหาสมุทรไปสักวัน แต่กลับไม่มีใครใส่ใจเพราะไม่ใช่เรื่องที่เปลี่ยนกันในวันสองวัน

จากแรมเดือน สู่แรมปี กว่าจะรู้ตัวว่าควรทำอะไรสักอย่างก็ตอนที่มนุษย์ล้นพสุธา ธรณีเริ่มไม่ปรีดา และภัยพิบัติก็ทวีขึ้นด้วยความโกรธเกรี้ยวโกรธา

ชายแดนใดเป็นบ่อต่ำก็ถูกสายน้ำกลืนกินทีละน้อย จนจมสู่บาดาลในที่สุด

แต่มนุษย์ยังต้องดำเนินต่อไป เมื่อสายเกินจะหยุดยั้ง จึงต้องใช้วิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย ผืนแผ่นดินประเทศใดที่รู้ตัวว่ากำลังจะจมในไม่ช้า ต่างเร่งสร้างกรรมวิธีเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ก่อให้เกิดการสร้างเมืองและที่อยู่อาศัยแบบลอยน้ำ

แต่ประเทศด้อยพัฒนาในยุคก่อนบ้างก็ยากเกินกว่าจะตามให้ทันโลก ผู้ใดที่ปรับเปลี่ยนตามโลกไม่ทัน...ก็ล้มหายตายจากไปพร้อมโรคันดรกัป[2]

ปัจจุบัน ผืนดินในหลายประเทศที่จมน้ำตามการคาดการณ์ของนักธรณีวิทยา แท้จริงแล้วคือแผ่นดินเทียมที่ถูกสร้างมาเพื่อให้ลอยตัวอยู่บนผิวน้ำ ไม่ว่าระดับน้ำจะขึ้นสูงหรือลดต่ำ แผ่นดินเทียมก็จะทำการปรับสภาพตามระดับน้ำ และลดแรงซัดของกระแสน้ำเพื่อให้ผู้คนสามารถอยู่อาศัยได้

เรื่องนี้ถูกวิจัยมาตั้งแต่ยุค 21 เพราะหลายคนเชื่อว่าสักวันมนุษย์จะถูกท้องทะเลกลืนกินไปจนหมด ซึ่งใครเล่าจะคิดว่า ‘สักวัน’ ที่หลายคนคาดไว้ จะเป็นระยะเวลาอันใกล้เพียงนี้

ยังดีที่ภูมิประเทศของสวิตเซอร์แลนด์ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง ปกคลุมไปด้วยหิมะเกือบทั้งปี(สมัยก่อนมีหิมะทั้งปี) แต่ถึงแม้จะไม่ใช่ประเทศที่ใช้นวัตกรรมแผ่นดินเทียม แต่ด้วยลักษณะภูมิประเทศเช่นนี้เองที่ทำให้เกิดทะเลสาบชื่อดังมากมาย เช่น ทะเลสาบซูริค ทะเลสาบเจนีวา ทะเลสาบลูเซิร์น ทะเลสาบลูกาโน

สำหรับคนที่ชื่นชอบทะเล สถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนแดนสวรรค์ มองไปทางไหนก็เห็นทัศนียภาพทางทะเลแบบพาโนรามา

แต่สำหรับฮันมันคือชาเลนจ์ใหญ่ ช่วงแรกคาร์ลอสพยายามยืนบังไม่ให้สายตาของฮันเห็นวิวด้านล่าง วงแขนกว้างจึงกอดหัวทุยเข้าอกตลอดเวลา แต่ฮันก็กำหมัดแน่น สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วบอกด้วยเสียงมุ่งมั่นว่าจะเอาชนะความกลัว

กว่าอัลฟาหน้าเครียดจะยอมปล่อย ก็ตอนที่ฮันบอกว่าหยุดรัดหัวตัวเองสักทีหายใจไม่ออก

ช่วงแรกโอเมกาน้อยก็ต้องเกาะหลังคาร์ลอสแล้วโผล่หน้าออกไปครึ่งหนึ่ง เหมือนลูกเล็กเด็กแดงขี้อายไม่กล้าสู้คน น่ารักจนอัลฟาตัวเขื่องใจเจ็บ อยากจับหอมหัวสักสามล้านรอบ

ในที่สุดฮันก็กล้าเปิดตามองวิวรอบตัว ตอนแรกก็มีขาสั่น มือกำชายเสื้อคนข้างกายแน่น แต่เมื่อสายลมพัดผ่าน ลมธรรมชาติปะทะใบหน้า กลิ่นดิน กลิ่นหญ้า กลิ่นหอมของดอกไม้หลากชนิด และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง...กลิ่นลมทะเล

เสียงรอบตัวลดระดับอัตโนมัติจากโสตประสาท สิ่งที่โอเมกาผิวน้ำผึ้งรับรู้คือมืออุ่นที่คอยกอบกุม เสียงคลื่นซัดแต่ไกล ลมที่พัดเอาทุกกลิ่นธรรมชาติเข้าจมูก และดวงตาที่รับภาพสวยงามทั้งหมดเข้าสู่ใจดวงน้อย

สัมผัสทั้งห้าทำงานได้ดี เพิ่มเติมคือฮันเอาชนะความกลัวไปได้หนึ่งขั้น

ภายใต้ความน่ากลัวชวนฝันผวา เขาได้เห็นความสวยงามของท้องทะเล เหมือนกับที่คนอื่นเห็น

หยาดน้ำใสซึมหัวตา รอยยิ้มหวานประดับใบหน้า

สิ่งที่เราเคยกลัว...มันสวยงามมากมายขนาดนี้

การได้เห็นความสวยงามจากสิ่งที่เคยกลัว...มันดีขนาดนี้เลยสินะ

รอยยิ้มของฮันชวนให้คนข้างกันยิ้มตาม นัยน์ตาของคนตัวเล็กกว่าเป็นประกาย น้ำตาที่คาร์ลอสเชื่อว่ามันมาจากความปลื้มปิตินั้นช่างน่าเก็บเป็นที่ระลึกในความทรงจำ แก้มกลมที่ถูกเบียดด้วยรอยยิ้มกว้างนั้นไม่สามารถหาค่าใดเปรียบ

ดวงอาทิตย์เพิ่งผ่านพ้นหัว มันยังลงเงาไม่ทันเฉียงดี ทั้งคู่ก็จูงมือพากันเข้าที่พัก ซึ่งคนที่ดูจะเร่งรีบกว่าเพื่อนคือฮัน

ตอนแรกคาร์ลอสคิดว่าฮันอยากรีบกลับเพราะกลัวที่จะได้เห็นทะเลนานๆ

แต่ก้าวขายังไม่ทันพ้นขอบประตู ฮันก็เป็นฝ่ายดันคนตัวสูงกว่าชิดผนัง เขย่งตัวสุดปลายเท้า และรั้งคอเสื้อสีเข้มลงมารับจูบ

คนตัวสูงที่เป็นฝ่ายถูกรุกหนักตั้งตัวไม่ทันในจังหวะแรก แต่เรียวปากนุ่มใช้เวลาจูบไล่ได้ไม่นาน สัญชาตญาณอัลฟาก็ถูกปลุกขึ้น

แขนแกร่งรวบร่างโอเมกาตัวจ้อยเข้าเอว พลิกให้ฮันเป็นฝ่ายหลังชนกำแพง ก่อนจะรุกจูบคืนบ้าง โทษฐานเล่นกันแบบไม่ให้ตั้งตัว ฮันก็รู้จังหวะเป็นอย่างดี รีบตวัดแขนเกาะไหล่กว้าง ตวัดขารัดเอวสอบ ก่อนจะเผยอปากรับเรียวลิ้นอุ่นเข้ามาดูดกลืนอย่างใจอยาก

“อยาก...อยากมากเลย” ฮันว่าเสียงแหบพร่า

ซึ่งไม่ต้องถามต่อ คาร์ลอสก็รู้ว่าคนในอ้อมกอดหมายถึงอะไร

อัลฟาผมบลอนด์จูบซับตามแก้มนุ่ม ปลายคาง ลำคอระหง พึมพำแต่ชื่อของโอเมกากลิ่นชาคาโมมายล์

กระทั่งอุ้มร่างบางมาวางที่เตียง ทั้งฟัดทั้งซุกไซ้ ก็ยังไม่หยุดเรียกหาแต่ชื่อ ฮัน อัลเลน ไนท์

เจ้าของชื่อทั้งขวยเขิน แก้มและลำคอร้อนผ่าวจวนจะระเบิดเสียให้ได้ ยามที่มองร่างใหญ่กว่าละเลียดชิมแทบทุกส่วนของร่างกาย ราวกับการได้ทำแบบนั้นมันเป็นเรื่องโปรดปรานของอีกฝ่าย และถ้าจะให้ว่ากันตามตรง

ตอนนี้คาร์ลอสเหมือนสุนัขตัวใหญ่ที่เจ้าของสั่งให้เลียผิวเนื้อจนหมดจด

“ซีแอล...มัน ฮ— เราไปอาบน้ำกันก่อนดีไหม”

“เธออยากอาบน้ำก่อนเหรอ?” ในที่สุดคนตัวโตก็ยอมผละออกมา ให้ฮันได้หายใจหายคอ

“เราสกปรก” ฮันเหลือบมองสภาพตัวเอง

ชายเสื้อยืดของตนเลิกขึ้นเหนือแผ่นอก เผยให้เห็นตุ่มไตที่ชูชัน มันวาววับเพราะถูกเคลือบด้วยน้ำลายจากการดูดกลืนของคาร์ลอส เรียวขาเปลือยเปล่าของตัวเองที่แยกออกกว้าง มีร่างหนาแทรกอยู่กึ่งกลาง ซึ่งไม่รู้ตัวเหมือนกันว่ากางเกงขายาวของเขามันถูกถอดออกไปตั้งแต่เมื่อไร

และคนที่เคยปรามาสว่าเป็นลูกหมาตัวโต ตอนนี้กลายร่างเป็นหมาป่าไปตั้งแต่ตอนไหนแล้วก็ไม่รู้!

“เธอไม่สกปรก และไม่เคยสกปรก” ดวงตาอันแสนมุ่งมั่นมาพร้อมกับน้ำเสียงเข้มๆ เพื่อคัดค้านความคิดของฮัน ซึ่งมันทำให้คนตัวเล็กกว่าขอทุบอกหนาไปหนึ่งที

“บ้าเหรอ เราก็เป็นคนธรรมดานะเว้ย เจอแดด เดินเยอะ เหงื่อออก ก็ต้องสกปรกเหมือนคนทั่วไป จะอวยอะไรขออย่าเว่อมากได้ไหมพ่อคุณ”

“ก็เธอไม่เคยสกปรกเลยในสายตาฉัน...แค่พูดความจริงเอง ไม่ผิดนะ”

ถ้าให้นับคะแนนความอวย ความหยอด ความหวาน ก็ไม่รู้ว่าฝ่ายไหนจะชนะ เพราะผลัดกันได้แต้มอย่างสูสี

แต่คราวนี้คาร์ลอสถือว่าได้นะ

“ว้อย...” ฮันยกมือปิดหน้า “ถ้าเหม็นอย่ามาว่าทีหลังแล้วกัน”

“แต่ถ้าเธอไม่โอเค...” คาร์ลอสผละไปครุ่นคิดอยู่เสี้ยววิ ก่อนจะช้อนร่างปวกเปียกให้อยู่ในอ้อมแขน “ถ้างั้นเราก็ไปอาบน้ำด้วยกันเลยสิครับ”

ไหนๆ ก็จะต้องทำกิจกรรมที่พาให้เปื้อน ถ้างั้นก็ให้มันเปื้อนให้เสร็จในห้องน้ำเลยแล้วกัน :)

ตะวันเพิ่งจะคล้อยบ่ายได้ไม่ทันไร อาหารหรือก็ยังไม่ทันได้ตกถึงท้อง แต่ในเมื่อที่รักต้องการ เขาก็จะช่วยสนองให้ทุกความปรารถนา

ฮันรู้สึกมวนท้องน้อยอย่างบอกไม่ถูกเมื่อปลายเท้าแตะพื้นห้องน้ำเย็นเฉียบ คงเพราะเพิ่งจะเข้าห้องมาได้ไม่ทันไร อุณหภูมิภายในห้องพักจึงยังกระจายตัวได้ไม่ทั่วถึง แต่คาร์ลอสก็ไม่ได้ปล่อยให้ฮันยืนหนาวอย่างโดดเดี่ยวเสียเมื่อไร อัลฟาหนุ่มแค่ผละออกไปปรับเครื่องทำน้ำอุ่น เปิดโหมดที่เหมาะสำหรับคนขี้หนาว ใช้เวลาไม่ถึงสามวิก็หันกลับมาสบตากับคนที่ยืนบิดเป็นกุ้งลวก

อย่าลืมไปสิว่าตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวของฮันมีแค่เสื้อยืดนะ

คาร์ลอสไม่ทิ้งจังหวะนาน เขากระชากเสื้อตัวเองออกทางหัว...โชว์ฮัน

อือ ก็หล่อ ก็เออ หล่อวุ้ย เออรู้แล้วว่าหล่อ ไม่ต้องหล่อมากก็ได้ขี้เกียจอวย

“อะโด่ว รู้แล้วว่าหุ่นดี ไม่ต้องอวดขนาดนี้ก็ได้” ถึงฮันจะว่าอย่างนั้น แต่สายตาละจากลอนหน้าท้องที่เป็นลูกๆ นั้นไม่ได้เลย

ซึ่งเจ้าของเรือนร่างก็ดูจะรู้ดี เอื้อมไปคว้ามือนิ่มมาวางบนซิกซ์แพ็กตัวเอง

“อยากจับก็จับสิครับ” อัลฟาหนุ่มดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ยามที่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ หัวเราะทุ้มพลางกระซิบ “คุณเป็นเจ้าของมันนี่...ทุกอย่างของผมเป็นของคุณแล้ว จำไม่ได้เหรอครับ ฮัน”

สถานะก่อนหน้า : กุ้งลวก

สถานะในตอนนี้ : กุ้งลวก ลวก ลวก ถูกลวกจนสุกแล้วว้อยยย

ซึ่งแน่นอนว่าสถานะของกุ้งสดน่ะ ถ้าลวกมันในระยะแรก จากสีใสจะกลายเป็นสีส้ม ลวกนานอีกหน่อย จากสีส้มก็กลายเป็นสุก เนื้อเด้งพร้อมรับประทาน แต่ถ้ายังต้มมันต่อไปแม้ว่าจะสุกได้ที่แล้ว เนื้อก็จะกลายเป็นเปื่อยยุ่ย

ซึ่งฮันน่ะ เรียกได้ว่ายิ่งกว่าเปื่อย ยิ่งกว่ายุ่ย ยิ่งกว่าเหลว ยิ่งกว่าทุกสถานะของกุ้งตัวแดงที่ว่ามา

ใจดวงน้อยลอยฟ่องไม่ต่างจากสายน้ำที่คนตัวสูงกว่าเปิด ไอน้ำอุ่นๆ ลอยคลุ้งในห้องน้ำตู้กระจกที่ขนาดดูจะพอดิบพอดีสำหรับสองคน

ฮันถอดเสื้อตัวเองออกในจังหวะนั้น ส่วนอีกคนก็ถอดกางเกงตัวเอง โยนทิ้งไปไว้ข้างทางอย่างไม่มีใครสนใจ

ความอุ่นของน้ำที่พอดีสำหรับผิวถูกชำระล้างลงมา สองสายตามองประสาน ไม่ต่างจากสองดวงใจ

ฮันมองกิริยาของคนตัวสูง ทางนั้นเลียริมฝีปากที่แห้งผากเป็นระยะ เขามองไล่ลงมา เห็นใจกลางกายของอัลฟาที่ผงาดหัวรับ ไม่ต่างจากเขา

ฮันตัดสินใจหมุนตัวหันหลังอย่างเชื่องช้า แต่สายตายังไม่ละจากคนตรงหน้า มือข้างหนึ่งเกาะผนังกระจกของห้องน้ำ อีกมือเอื้อมไปแหวกแก้มก้นของตัวเอง เผยให้เห็นช่องทางด้านหลังที่หยาดเยิ้มไปด้วยน้ำรักโอเมกา

เพื่อแสดงให้เห็นว่าเจ้าตัว อยาก มากขนาดไหน

ภาพที่เห็นทำให้อัลฟาตัวสูงจวนเจียนจะคลั่ง น้ำอยากของเขาก็ผุดเคลือบทั้งแท่งลำไม่ต่างกัน มันปวดหนึบ ร้อนผ่าวราวแท่งตีเหล็ก ดั่งตราประทับร้อนที่ถ้าเอาไปนาบกับสิ่งใด สิ่งนั้นก็จะหลอมละลาย ในหัวอัลฟาหนุ่มจินตนาการออกมาเป็นฉากๆ ว่าต่อไปตนเองจะทำอย่างไรกับมนุษย์ยั่วสวาทตรงหน้าดี

จะจับปลายคางคนยั่วตาใสมาจูบ ดูดกลืนปลายลิ้นหวานจนครางระทวย เอาให้มือน้อยที่วางทาบกระจกต้องทุบเป็นการประท้วง

แขนขวาที่มีสร้อยข้อมือที่เขาทำให้ก็ชวนให้ใจเจ็บ

อยากทำให้สั่นไปทั้งตัว...เอาให้สร้อยข้อมือหลุด

หรือจะฝากร่องรอยไว้ให้ทั่วลำคอระหง ไหล่เนียน แผ่นหลังเล็ก เอาให้ทุกคนรู้ว่าคนตรงหน้ามีทาสประจำกายแล้ว และเจ้าทาสคนนี้มันก็หวงเจ้าของมาก อย่าได้สะเออะหรือเสนอหน้ามายุ่งกับเจ้าของหัวใจเขา

หรือว่าจะแหวกพวงก้นแน่นหนั่นนั่น ฝังใบหน้าลงร่อง ละเลงปลายลิ้นกลืนกินน้ำรักหอมหวานของเจ้าตัว ไม่ให้ต้องตกถึงพื้นหรือเสียของแม้แต่หยด จะกวาดควานช่องทางภายในที่แสนนุ่มหยุ่น กดย้ำๆ ทำซ้ำๆ ให้เจ้าของร่างยืนเกาะผนังไม่ไหว ต้องเสร็จสมอารมณ์หมายคาปากเขาไป

หรือทำอย่างไรก็ได้ให้เจ้านายของหมาตัวนี้ร้องครางจวนขาดใจ อยากเรียกหาแต่เขา เรียกใช้แต่เขา ขึ้นมาขย่มแต่ร่างเขา ใช้ร่างเจ้าทาสตัวนี้สำเร็จความใคร่ตนเองจนกว่าจะพึงพอใจ

“...”

“ซีแอล”

อยากทำให้ฮันติดร่างกายของเขา ใช้เขาเหมือนเซ็กซ์ทอย จนป่าวประกาศไปบอกใครต่อใคร ว่าจะไม่เอาคนอื่น...นอกจากเขา

“...”

“ซีแอล!”

“ครับ?” ได้ยินเจ้านายเรียกก็ต้องรีบขานรับ

“เราเรียกตั้งหลายรอบ...หรือว่านายไม่อยาก—”

“อยาก! อยากครับอยาก อยากทำให้เธอทุกอย่างเลย” คาร์ลอสรีบเข้าไปประกบด้านหลัง แต่ยังไม่ได้ทำอะไรนอกจากแตะไหล่มน ปลายนิ้วโป้งกดนวดบริเวณต้นคอ ชวนให้โอเมกาน้อยสั่นไหว

แต่ไม่มีอะไรชวนให้สั่นไปกว่าแท่งร้อนที่แนบอยู่กับร่องก้นตอนนี้หรอก

ฮัน ไนท์เผลอกัดริมฝีปากล่างก่อนเผลอตัวพูด

“ใส่เข้ามาเลยได้ไหมนะ”

ไม่ว่าเปล่า ฮันยังขยับสะโพกเข้าไปนาบชิดความร้อนผ่านนั้น กระดกก้นขึ้นลงกะระยะว่าถ้าสิ่งนี้เข้าไปในร่าง...มันจะไปสุดที่ตรงไหน

ซึ่งแน่นอนว่าแม้จะเป็นเสียงพึมพำ แต่ยืนประกบกันปานนี้ คนด้านหลังจะไม่ได้ยินคงเป็นไปไม่ได้

“ใช่! ถุงยาง...ใช่ ฉันขอออกไปเอาถุงยางก่อนนะ”

“ซีแอล ไม่ต้อง” ฮันรีบคว้าแขนคนตัวสูงกว่า

คาร์ลอสขมวดคิ้ว ว่าหน้าจริงจัง

“เรื่องนี้เธอจะดื้อไม่ได้นะครับ มันไม่ใช่แค่เรื่องจะท้องไม่ท้อง ท้องยากท้องง่ายยังไงก็มีเปอร์เซ็นต์ท้อง ต่อให้ในอนาคตเธอจะอยากมีลูกอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่พร้อมก็คือยังไม่พร้อม ฉันต้องมีงาน มีเงิน เราต้องสร้างครอบครัวให้สมบูรณ์กันก่อนค่อยวางแผนมีลูกนะครับ”

“เราหมายถึง...”

“แล้วก็ฉันยังไม่ได้ศึกษาเรื่องการท้องของโอเมกาชายเลย ไหนจะตรวจสุขภาพร่างกาย เผื่อฉันเป็นโรคอะไร อาจจะเสี่ยงทำให้เธอติดไปด้วย เรื่องนี้เราต้องไปคุยกันรอบนอกนะครับ—”

แล้วทุกคำของอัลฟาหนุ่มก็ถูกกลืนลงคอไป เมื่อฮันย่อตัวไปล้วงบางอย่างจากกระเป๋ากางเกงของคาร์ลอสที่ตกอยู่ข้างพื้น

ยังไม่ทันได้ตั้งคำถาม ฮันก็ยื่นสิ่งนั้นมาให้คนที่วางแผนไปยันมีลูกด้วยกัน

“เราจะบอกว่า เราเอาถุงยางใส่กระเป๋ากางเกงนายไว้อยู่แล้ว ไม่ต้องออกไปเอา”

“...กางเกงฉัน?”

“ก็— ก็ตั้งแต่จังหวะจูบกันอยู่หน้าห้อง เราคิดว่ามันต้องได้ใช้แน่ๆ กลัวนายไปค้นแล้วมันจะเสียจังหวะ เลยยัดใส่กระเป๋ากางเกงนายมาตอนนั้น”

“...”

“ที่จริงเราพกใส่กระเป๋าไว้ตลอดอยู่แล้วล่ะ ไม่ต้องห่วง...ก็พวกเรามันวัยฮอร์โมนพลุ่งพล่านนี่เนอะ” ฮันเกาแก้มเขินๆ

พอคนตัวสูงรู้ว่าฮันเป็นฝ่ายเตรียมพร้อมไว้รออยู่แล้ว เขาก็พรูลมหายใจ ความร้อนระอุภายในตีขึ้นมาถึงลำคอและกกหู

“ให้ตายสิ”

“มาถึงขนาดนี้...ไม่ต้องเขินแล้วน่า”

“ฉันควรเป็นคนที่ต้องเตรียมพร้อมกับเรื่องแบบนี้”

“ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ยังไงเราก็ทำด้วยกัน มีความสุขด้วยกัน ฝ่ายไหนเตรียมก็ไม่สำคัญหรอก” ได้ยินคำสำคัญว่าไม่สำคัญ อัลฟาหนุ่มก็เผลอโพล่ง

“สำคัญสิ ก็ฉันมันเป็นทาส ทาสต้องเตรียมให้เจ้านาย!

“หะ หา...?”

“ฮัน...มันอาจจะฟังดูแปลกๆ แต่ฉันรักและเคารพเธอมาก จนบางทีก็แอบคิดว่าการมีเซ็กซ์กับเธอเป็นเรื่องผิดบาปหรือจะทำให้เธอแปดเปื้อน ฉันเทิดทูนเธอ เอาเธอไว้เหนือทุกสิ่ง ดังนั้น...ฉันอยากให้เธอสั่งฉัน” คาร์ลอสทาบฝ่ามือประสานกับมือฮันที่วางแนบกระจกห้องน้ำ

“สั่ง?” ฮันเลิกคิ้ว

“ครับ เธอต้องการอะไร...ขอแค่สั่งมา แล้วฉันจะทำให้ทุกอย่าง”

“ถ้างั้น...”

“ครับ ว่ามาได้เลย”

ฮันพิงหน้าลงกระจก ดึงมือที่ถูกกุมไว้ออก ไม่ต้องมองก็รู้ว่าคาร์ลอสกำลังทำหน้าฉงน แต่ไม่กี่วิต่อมา เจ้าของฟีโรโมนในหน้าฝนก็ต้องเลือดลมร้อนสูบฉีด เพราะโอเมกาน้อยกำลังใช้สองมือแหวกแก้มก้นตัวเอง...ก่อนจะช้อนตามอง

“Fuck me real hard, please.”

“Damn it!”

เมื่อได้รับคำสั่งแรกจากเจ้านาย ทาสตัวโตก็สบถเสียงดัง อยากจะจับแกนกายยัดเข้าช่องทางที่ขมิบรออย่างเชิญชวน แล้วสวนเอวจังหวะที่จะทำให้อีกฝ่ายไม่กล้ายั่วเขาแบบนี้อีก!

แต่แน่นอนว่าต่อให้อยากทำแบบนั้นขนาดไหน มันต้องขึ้นอยู่กับคำว่า ‘ต้องไม่ทำให้ฮันเจ็บ’

ถ้ายังมีสติดีอยู่อะนะ

ดังนั้น ร่างหนาจึงคุกเข่าลงกับพื้น ให้ใบหน้าอยู่ระดับบั้นท้ายกลม ส่งมือไปจับต้นขาอ่อนอย่างขออนุญาต เมื่อฮันยอมปล่อยมือที่แหวกเนินเนื้อแล้วยื่นก้นมาใกล้ใบหน้าเขามากขึ้น อัลฟาหนุ่มก็ขออนุมานเอาเองว่าฮันอนุญาตให้เขา ‘กิน’ ของเอร็ดอร่อย

เห็นท่าทีอดรนทนไม่ไหวของคนตัวเล็กเขาก็ไม่รอช้า เป็นฝ่ายแหวกก้นนิ่มออก บีบนวดเนื้อที่แสนเต็มไม้เต็มมือ ก่อนจะซุกใบหน้าลงไป

คาร์ลอสดุนดันปลายจมูกกับแก้มก้น กดจูบและดูดดุนมันเหมือนโมจิแสนอร่อย สายน้ำอุ่นๆ ไหลลงมาอีกครั้งเพราะฮันกดเปิด แต่คาร์ลอสไม่อยากให้สิ่งนั้นมาชำระล้างน้ำหวานจากช่องทางอุ่นออกไปให้เสียเปล่า

เรียวลิ้นหนารีบตวัดผ่านช่องทางด้านหลังในจังหวะนั้น ขนอ่อนทั้งร่างของฮันลุกชัน มาพร้อมกับเสียงครางหวานๆ ที่ทำให้เจ้าทาสได้ใจ ลงมือบีบนวดก้นนุ่มก่อนแหวกออกกว้าง แล้วสอดแทรกลิ้นร้อนเขาไปภายใน

เพียงเท่านั้นเรียวขาอ่อนก็สั่นไหว

“ยะ ยังไม่ได้ล้าง— อ๊ะ...” โอเมกาน้อยเอื้อมมือควานหาขวดสบู่เหลว อีกมือพยายามดันหัวสีบลอนด์ออก

แต่คาร์ลอสไม่ยอมถอยออกไปง่ายๆ แบบนั้นหรอก เพราะเขาจะ ‘ล้าง’ ช่องทางของฮันด้วยปากของเขาเอง พวกสบู่ไร้ค่าไม่มีสิทธิ์มาพรากเอาน้ำหวานของฮันไปหรอกนะ

ไม่รู้หรือไงว่ามันอร่อยขนาดไหน

เสียงกลืนน้ำอยากลงคอเป็นระยะทำให้ฮันตาพร่า คาร์ลอสเล่นละเลงลิ้นแบบไม่พักให้หายใจ แล้วลิ้นหรืออะไร ทำไมมันทั้งยาวและร้อนได้ขนาดนี้ แค่นี้ก็รู้สึกเสียวจนยืนแทบไม่ไหว แล้วอย่างนี้เขาจะทนกับแกนกายของอีกฝ่ายไหวหรือ

ฮันคิดไม่ตกระหว่างที่มือปัดป่ายไปทั่ว แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่การประคองร่างตัวเองให้ยืนไหว เอวส่ายไปมาพยายามหนีริมฝีปากร้อน แต่มือคู่นั้นก็ทำการล็อกไว้อย่างดีเสียเหลือเกิน เพราะตอนนี้สะโพกสวยทำได้แค่ส่ายวนรอบกรอบหน้าคม แต่ไม่สามารถถอยหนีออกมาได้

ในที่สุด จังหวะที่โอเมกาตัวจ้อยสั่นจนทั้งร่างแทบไหลลงไปกอง คาร์ลอสก็ยอมผละออกมา ฮันไม่รู้ว่าต่อไปอีกฝ่ายจะทำอะไร เขารับรู้เพียงแค่คนด้านหลังลุกขึ้นยืนแล้วเอื้อมไปหยิบอะไรบางอย่าง

กลิ่นหอมอ่อนๆ โชยมา ชวนให้หันกลับไปมอง

เผยเห็นคนตัวใหญ่กว่าบีบสบู่เหลวจนเต็มฝ่ามือ ก่อนจะถูวนไปตามร่างกายของตัวเอง ซึ่งการที่อีกฝ่ายทำแบบนี้นั้น...

มันโคตรฮอตเลยโว้ยยย

ฟองสบู่ฟูฟ่อง ยามที่มือใหญ่ปัดผ่านแผงอกตึงแน่น ลูบวนหน้าท้องเป็นลูก ก่อนจะเอื้อมลงไปชักรูดท่อนลำตัวเอง

“ขอฉันทำความสะอาดตัวเองก่อนนะ ที่รัก” คาร์ลอสพูดจบก็แนบจูบข้างกระหม่อม ส่วนฮันกลืนน้ำลายแล้ว กลืนน้ำลายอีก

ซึ่งเวลาปกติอัลฟากลิ่นเวติเวอร์ก็ฮอตปรอทแตกอยู่แล้ว ยิ่งมาเห็นตอนผมลู่ลงแนบกรอบหน้า เรือนร่างสูงใหญ่พราวไปด้วยหยดน้ำ ไหนจะฟองสบู่ไหลลื่นไปทั้งตัว โดยเฉพาะ...ส่วนนั้น

ฮันพลิกตัวกลับมา ก่อนจะว่าคำที่ทำให้คาร์ลอสชะงัก

“ที่รักบ้าอะไร”

“...ครับ?”

“ฉันเป็นเจ้านายไม่ใช่หรือไง”

“...”

“แล้วใครสั่งให้นาย ‘จับเจ้านั่น’ กันล่ะ” ฮันกดสายตามองต่ำ

ฝ่ามือใหญ่ปล่อยจากกลางกายตัวเองทันที

ฮันเห็นลูกกระเดือกของร่างหนาขยับเป็นลูกใหญ่ ฟันขาวจึงขบปากล่างน้อยๆ ก่อนจะกระดิกนิ้วเรียก คาร์ลอสรีบขยับเข้าไปหา แน่นอนว่าดวงตากลมโตยังจับจ้องอยู่ที่ส่วนนั้น

“ทำไมนายถึงชิงอาบน้ำก่อน” ฮันไม่ถามเปล่า เอื้อมมือไปจับท่อนเนื้อร้อนแล้วขยับขึ้นลงเบาๆ

“...อ่า”

“ตอบ”

“เพราะผมสกปรก”

“นี่นายจะบอกว่าฉันสะอาดอยู่แล้วงั้นเหรอ” ฮันเงยหน้าขึ้นสบตา มือก็ยังไม่หยุดชักรูดตามอำเภอใจ จะว่าไปมันขยับง่ายกว่าครั้งที่แล้วเยอะ คงเพราะน้ำอะไรต่อมิอะไรที่เคลือบอยู่ทั้งลำท่อนเลยทำให้มันลื่นกว่าปกติ

“ครับ...อา”

“งั้นก็รีบทำให้ฉัน ‘สกปรก’ เหมือนนายซะสิ” แล้วโอเมกาชาคาโมมายล์ก็ยกแขนคล้องคอแกร่ง เป็นจังหวะที่รู้กันว่าต่อไปอีกฝ่ายจะต้องอุ้มเขาขึ้น

ซึ่งคนตัวสูงก็ไม่รอช้า แกะซองถุงยางที่ฮันให้มา รีบสวมมันกับตัวตนที่ผงกหัวรอรับ ก่อนจะกระชับสะโพกกลมเข้าเอว

“อือ...” ฮันครางในลำคอเมื่อถูกแย่งชิงลมหายใจไปอีกครั้ง รอบนี้เจ้าหมาป่าที่เขาเลี้ยงไว้เริ่มออกลาย ตะโบมโลมเลียไปทั่วทั้งริมฝีปากและลำคอ แต่ไม่ยอมขบกัดให้เป็นรอย ทำเพียงจูบซับและดูดดุนเพียงแผ่วเบา ฮันว่าเสียงเครือ “ใส่เข้ามา”

คาร์ลอสดันหลังฮันแนบผนัง กระชับเอวและต้นขาแน่น เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่ทำอีกฝ่ายร่วง มือใหญ่กดปิดน้ำ เพราะกว่าพวกเขาจะเสร็จกิจ เห็นทีผิวเนื้อของคนรักจะเหี่ยวย่นเพราะแช่น้ำนานเกินไป

ฮันดูจะทนไม่ไหว และเขาก็ไม่อาจจะยื้ออีกต่อไป

“เกาะแน่นๆ นะครับ” เสียงทุ้มเอ่ย มือข้างหนึ่งดันต้นขาเนียนแยกออกกว้างกว่าเดิม ส่วนมืออีกข้างจับใจกลางกายจ่อช่องทาง

ก่อนจะเริ่มกดส่วนหัว

ฮันหายใจเข้าเฮือกใหญ่ ขนอ่อนลุกไปทั้งร่าง ปลายเท้าเหยียดเกร็งยามที่ความอึดอัดคับแน่นแล่นขึ้นมาถึงหัว

คาร์ลอสก็พรูลมหายใจไม่ต่างกันเมื่อรอบแรกเข้าไม่ได้ เขาจึงผละออกมา แล้วค่อยๆ พยายามกดอีกครั้ง ทำทุกอย่างด้วยความระมัดระวังและเชื่องช้าที่สุด เพราะนี่คือครั้งแรกของฮัน

“อะ...ซีแอล ซีแอล...”

“อา...เจ็บไหม ผ่อนคลายหน่อยครับที่รัก” เข้าไปได้เพียงครึ่งลำ ฮันก็รัดตัวตนเขาแน่นจนขยับไม่ได้ มันทั้งอุ่น ทั้งแน่น ทั้งตอดรัด

อัลฟาหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกเพื่อตั้งสติ กดจูบข้างกระหม่อมเป็นการปลอบประโลม

ฮันส่ายหน้า น้ำตาคลอหน่วย

“ไม่เจ็บ...แต่แปลกมากเลย”

“มันอึดอัดใช่ไหม” เมื่อคาร์ลอสพูดสิ่งที่อีกฝ่ายน่าจะรู้สึก ฮันก็พยักหน้าจนผมพลิ้ว แขนยังกอดคอแกร่งแน่นไม่ต่างจากลูกลิง “แลบลิ้นหน่อยครับ”

ถึงจะอยากถาม ว่าสรุปแล้วเรายังสวมบทบาทเป็นเจ้านายและผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่ไหม แต่ฮันที่กระสันอยากไม่ไหวก็ได้แต่อ้าปากน้อยๆ พร้อมแลบลิ้นให้ตามคำขอ

แล้วคาร์ลอสก็จัดการดูดกลืนเรียวลิ้นเล็กจนช่องทางด้านล่างเริ่มผ่อนคลาย ฮันครางแผ่วในลำคอยามที่ความใหญ่โตคืบคลานเข้ามาทีละนิด

เมื่อไรจะสุดสักทีนะ

ฮันหลับตาพริ้มรับจูบหวาน ก่อนที่จูบหวานปานน้ำเชื่อมนั้นจะกลายเป็นจูบอันแสนร้อนแรง

“ฮะ…อื้อ!” ฮันลืมตาขึ้นมาอีกครั้งด้วยความสะดุ้ง เมื่อแท่งเนื้อร้อนในกายเริ่มขยับทุ้งเบาๆ หนึ่งครั้ง

ซึ่งเจ้าของขีปนาวุธในร่างก็เอาแต่ตวัดรัดเรียวลิ้นเขา ฮันกะพริบตาได้ไม่ถึงสองที คิ้วสวยก็ต้องชนกัน

“อะ อื้อ!”

เอวของเจ้าสุนัขตัวโตขยับอีกแล้ว และเหมือนข้างในมันจะไปชนเข้ากับอะไรบางอย่างที่ทำให้ฮันเสียวเกร็งไปทั้งร่าง

จังหวะนั้นคาร์ลอสลืมตา สองนัยน์เนตรจึงได้ผสาน

ฮันเห็นดวงไฟวาวโรจน์ในตาคู่นั้น มันทำให้เขาขนอ่อนลุกชัน รู้สึกหวิวไปทั้งท้องน้อย จวนเจียนจะไปถึงจุดสุดยอดให้ได้เพียงแค่สบตา

อัลฟาหนุ่มผละริมฝีปาก น้ำลายที่คละเคล้าไม่รู้ของใครเป็นของใครเลอะมายันปลายคาง คาร์ลอสทำเพียงแลบลิ้นเลียขอบปากตัวเอง

“ฮึ่ม...เธออย่ารัด” เสียงทุ้มแหบพร่าและห้วนกว่าปกติ มือหนาขยำก้นนุ่มจนล้นเต็มฝ่ามือ

ทำไมซีแอลดูแปลกไปนะ

แปลกแบบ...กร๊าวใจขึ้นอะ

“ระ เราเปล่า—” เสียงของโอเมกาผิวน้ำผึ้งขาดห้วง เมื่อคาร์ลอถอนกายออกจนเกือบสุด มันโหวงไปเสี้ยววิ ก่อนที่จังหวะต่อมาจะต้องร้องเสียงหลง “อ๊า!!”

ก็เพราะคาร์ลอสเล่นแทงเข้าไปทีเดียวมิดลำ!

“เจ็บไหม...แต่ถอยไม่ได้แล้วนะ เธอทำให้ฉันคลั่งเอง” อัลฟาหนุ่มถามคำถามที่ไม่รอคำตอบ เริ่มขยับเอวสวนกายเข้าออกจนฮันหัวสั่นหัวคลอน เรียวขาที่พาดท่อนแขนแข็งแรงชี้โด่เด่ไปมาไม่น่ามอง

แต่ในที่นี้ไม่มีใครมอง นอกจากคาร์ลอส โฮล์มส์

“มัน! ฮะ— อ๊า!...โดน ระ เรา...เราจะเสร็จ”

“ก็เสร็จไป...ใครห้าม” เสียงทุ้มต่ำกระซิบชิดหู ลมร้อนๆ รดรินจนผิวเนื้อบริเวณนั้นเป็นสีแดง ยิ่งเห็นแบบนั้น คาร์ลอสยิ่งขบกรามตัวเองแน่น

อยากขบ อยากกัด อยากดูดให้เป็นรอย

แต่ถ้าฮันไม่อนุญาต

“กัดเรา” เหมือนกับอ่านใจกันได้ ฮันเอ่ยเสียงสั่น น้ำหูน้ำตาไหลยามที่เสียวซ่านจับใจ ทุกครั้งที่คาร์ลอสกระทุ้งเอวเข้ามา มันโดนจุดกระสันภายในแม่นราวกับจับวาง จนร่างบางก็แอบคิด...

ราวกับช่องทางนี้เกิดมาเพื่อให้อีกฝ่าย ‘เอา’

หรือไม่ก็ลำแท่งของคาร์ลอสถูกสร้างมาเพื่อ ‘รู’ ของเขา

เพียงแค่คิด ฮันก็ตัวกระตุกแรง ช่องทางด้านหลังตอดรัดตุบๆ เรียกเสียงคำรามของอัลฟา และเมื่อคาร์ลอสเริ่มขบฟันลงมาที่ผิวเนื้อ เส้นประสาทส่วนรับความรู้สึกก็ราวกับระเบิดกระจุยกระจาย

ฮันถึงจุดสุดยอด...แม้ไม่ได้สัมผัสส่วนหน้า

“แฮก...แฮก” โอเมกาตัวจ้อยระเบิดกลิ่นชาคาโมมายล์แตกกระจายเต็มห้องน้ำ พอควบคุมลมหายใจได้แล้ว ถึงเพิ่งสังเกตได้ว่าทำไมของแข็งที่อยู่ในร่างมันยังไม่หดตัวลงไปสักที

ก็เพราะว่าฮันเสร็จ...แต่คาร์ลอสไม่ได้เสร็จ

“ถ้าฉันรัท เธอจะทำยังไง” คาร์ลอสกระชับสะโพกมน มองสภาพของคนรักที่หน้าท้องเลอะเทอะไปด้วยน้ำกามของตัวเองแล้วมันน่านัก

“หือ...ก็ ก็...รัทไปสิ” ฮันตอบตาแป๋ว นั่นทำให้อัลฟาตัวสูงพูดเสียงแข็ง

“ไม่ได้” คิ้วแทบผูกกันเป็นปม “ถ้าเกิดว่าฉันรัทขึ้นมา เธอจะทำยังไง”

เคร่งเครียดยิ่งกว่าตอบข้อสอบตรรกศาสตร์ ฮันพยายามคิดเพื่อหาคำตอบที่ดีกว่าการปล่อยให้อีกฝ่ายรัทไป “ขังนายไว้ในห้องดีไหม หรือเอายาแก้รัทมาฉีด แต่ไม่ว่าจะยังไงฉันก็เชื่อใจนายนะ”

“ที่รัก...แต่ฉันไม่เชื่อใจตัวเอง” ว่าจะไม่ทำให้ฮันต้องเจ็บ

“นายจะเครียดทำไม เรายังไม่เครียดเลย เพราะเราเชื่อใจซีแอล เรารู้ว่านายไม่ทำเราถึงตายหรอก”

“...”

“...?” อีกฝ่ายวางร่างเขาลง พลิกให้หันหลัง

“เพราะฉันคิดว่า...ฉันกำลังจะรัท” เสียงต่ำกระซิบข้างหู

ฮันเบิกตาโต กำลังจะอ้าปากพูดอะไร แต่ก็ไม่ทันแล้ว...เพราะมือใหญ่กระชับสะโพกเขาแน่น ก่อนจะสอดใส่แกนกายเข้ามาทีเดียวจนสุด และยังไม่เว้นให้พักหายใจหายคอ คาร์ลอสก็ขยับเอวรัวเร็วจนฮันหาที่เกาะแทบไม่ทัน

โอเมกาตัวจ้อยที่เพิ่งบอกว่าก็ปล่อยให้รัทไปครางเสียงหลง ก่อนที่ดวงตาและริมฝีปากจะเบิกกว้างเท่าไข่ห่าน เพราะ...

เพี๊ยะ!

คาร์ลอสตีก้นเขา!

“หึ...”

ฮันได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของอีกฝ่าย ไม่มีจังหวะให้ถามอะไรทั้งนั้นเพราะทั้งร่างมันสั่นโงนเงนไปตามจังหวะกระแทกจากคนด้านหลัง เขารู้สึกเหมือนจะเสร็จอีกครั้ง...

“ซีแอล! เดี๋ยว— เรา อะ อ๊า...ฮะ! จะเสร็จ…จะ อ๊า!!”

เพี๊ยะ!

เฮือก!

ก้นอีกข้างถูกตี มันไม่ได้แรงจนเจ็บปวดชวนทนไม่ไหว แต่มันก็ไม่ได้เบาจนไม่รู้สึกอะไร ฮันไม่ปฏิเสธว่ามันแปลก...แต่ก็ไม่กล้ายอมรับว่าตัวเองชอบ

เพราะความรู้สึกแปลกใหม่นี้เองที่ทำให้ช่องทางด้านหลังตอดรัดรุนแรงขึ้น อัลฟาหนุ่มแผ่กลิ่นฟีโรโมนยามรัท มันหอมหวนชวนคลั่ง มันทำให้โอเมกาขาสั่น มันทำให้เขาอยากจะอ้าขาออกกว้างๆ แล้วให้อีกฝ่ายเสยแทงเข้ามาลึกขึ้นไปอีก

ฮันไม่อยากจะยอมรับ แต่ก็ไม่ขอปฏิเสธ...ว่าเขาไม่เคยร่านอยากขนาดนี้มาก่อน

คาร์ลอสหัวเราะในลำคออีกครั้ง ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก

“You fucking like it, huh?”

ไหนจะตอนที่คาร์ลอสใช้คำหยาบ...ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันทำให้เขารู้สึกมวนในท้องมากกว่าเดิม

ฮันน้ำตาคลอเบ้า ครางไม่ได้ศัพท์ เหลียวหลังกลับไป ก่อนจะร้องขอ

“Please…”

“Please what?”

“Slap me more...harder”

ฮันได้รับสิ่งนั้นตามคำขอ กี่รอบไม่อาจทราบได้ที่เสร็จแล้วเสร็จเล่า เสร็จจนไม่มีอะไรออกมาจากด้านหน้า ไหนจะข้างหลังที่ปล่อยน้ำอยากจนต้นขาเหนียวลื่น

อาจจะเป็นในตอนที่คาร์ลอสเปลี่ยนท่าให้เขา on top เหนือร่างหนา แต่เรี่ยวแรงหรือก็แทบจะไม่เหลือ จึงทำได้แค่ส่ายสะโพกวนไปมา แล้วก็โดนอีกฝ่ายขบกัดไหล่เป็นการลงโทษที่ขยับเอวไม่ได้จังหวะ

หรือจะเป็นในตอนที่เขาไหลลงไปกองกับพื้น แล้วอีกฝ่ายมาประกบทับด้านหลัง บดแท่งร้อนใส่จนเขาเสร็จแห้ง

หรือครั้งสุดท้ายจะเป็นตอนนั้นกันนะ ที่คาร์ลอสบังคับจับให้เขานั่งทับหน้าอีกฝ่าย แล้วสลับกันใช้ปากให้กัน แม้ว่าคนที่ส่วนใหญ่จะทำได้ดีกว่าจะเป็นคาร์ลอสก็เถอะ เพราะเขาเอาแต่อ้าปากคราง ไม่ได้อ้าปากอมให้สักที

ฮันเหนื่อยแทบสิ้น ร้องจนแทบไม่มีเสียงร้อง แต่อัลฟาที่รัทก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะแรงตก เอวคุณเขาเคยล็อกบ้างไหม หรือหลังเคยเคล็ดบ้างหรือเปล่า ทำไมมันถึงได้ซอยดีไม่มีตกแบบนี้นะ หรือไปกระเสี้ยนกระสันอยากมาจากไหนนักหนา เคยเป็นแต่หมาป่าผู้เดียวดาย ตอนนี้เป็นหมาป่าผู้ติดสัดหรือไงกันนะ

ลิ้นหนานี่ก็ปะไร อย่างกับหมาหิวโซ แทะโลมกัดกินเขาไปทั้งร่าง โดยเฉพาะหน้าอก...ที่ตอนนี้เป็นรอยขบเม้มจนแทบไม่มีพื้นที่ว่าง

ฮันคิดเพ้อ เพราะทุกจังหวะมันเหมือนความฝัน ความสุขเสียวซ่านมันพาให้สมองขาวโพลน ฟุ้งเฟ้อ แตกกระจาย ความคิดล่องลอยไม่เป็นกลุ่มเป็นก้อน

และสิ่งสุดท้ายก่อนที่ฮันจะสลบเหมือดคาอกแกร่งไป คือตอนที่คาร์ลอสอุ้มกระเตงร่างบางไปทั่วทุกมุมห้องน้ำ สอดใส่อย่างเอาเป็นเอาตาย สิ่งสุดท้ายที่เขารับรู้คือเสียงคำรามต่ำของอีกฝ่าย จังหวะถี่รัวช่วงสุดท้ายของเอวสอบ เสียงสบถก้องห้องน้ำ ความเบาโหวงของช่องทาง และความอุ่นร้อนที่ฉีดพ่นมาทั่วร่างกาย...และใบหน้า

อยากเห็นหน้าซีแอลตอนเสร็จจัง

ในขณะที่ในห้องน้ำเดือดระอุไปด้วยกลิ่นกามราคะ ด้านนอกที่ควรจะสงบเงียบ ก็มีเสียงเอฟอร์สของคาร์ลอสที่หล่นจากแขนไปตอนนัวเนียกันที่หน้าประตูเป็นระยะ มันดังต่อเนื่องทว่าไม่มีใครในห้องน้ำได้ยิน

ดังต่อเนื่องเกินสิบครั้งมันถึงหยุดไป ก่อนจะสั่นตามมาติดๆ เมื่อขึ้นข้อความจากคนที่พยายามติดต่อมานับชั่วโมง

[ถ้ามึงจะปาเอฟอร์สทิ้งขนาดนี้อะนะ]

[เรื่องด่วนเด้อค่า]

[ได้ข้อมูลมาแล้วนะ...ทางนั้นทำมันสำเร็จแล้ว แต่เขาไม่ประกาศ ไม่บอกใคร เหมือนมีอะไรลับลมคมในซ่อนอยู่ในองค์กร]

[ว่างแล้วรีบโทรกลับด้วย]

[และอย่าทำลูกกูตาย]

 

TBC

ไม่ชอบเขียนโป๊เลยฮะ เพราะมันโป๊ //ปิดหน้าเขินอาย (แต่ตอนเขียนเครียดแทบตาย)


สามารถหวีด ร่วมพูดคุย แสดงความคิดเห็นผ่าน #IABOU
หรือเพื่อติดตามเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของนิยายเรื่องนี้ที่เราจะลงไว้ที่นั่นได้เลย!

เชิงอรรถ

  1. ^ คอนเทนต์ (Content) คือสารแบบต่างๆ ที่ทำเพื่อส่งต่อให้ผู้รับสาร ปัจจุบันใช้กันอย่างแพร่หลายในบริบทของ “การสร้างเรื่องราว” ลงช่องทางสื่อโซเชียล เพื่อเพิ่มยอดการดู ยอดกดถูกใจ และอื่นๆ
  2. ^ โรคันดรกัป คือระยะเวลาที่เกิดโรคร้ายครั้งใหญ่