24 ตอน XXII Somewhere in between
โดย FIT FOR FINE
Listen to this for your อรรถรสในการอ่าน
SYML - Where's My Love
XXII
Somewhere in between
Photo by Annie Spratt on Unsplash
I got a fear, oh in my blood
She was carried up into the clouds, high above
If you bled I'll bleed the same
If you're scared I'm on my way
Did you run away, I don't need to know
If you ran away, come back home
Just come home
“เราเป็นโซลเมทกัน”
“...”
“จะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ”
“...”
เสียงหนึ่งแว่วมา ภาพตรงหน้านั้นมืดมัว แต่ยังดีที่มีแสงสลัวจากหัวเตียงค่อยๆ เผยให้เห็นสิ่งรอบตัว เขากะพริบตาถี่รัว แต่ทุกอย่างก็ยังดูพร่ามัวมากอยู่ดี
ฮันยกมือนวดข้างขมับ รู้สึกปวดจี๊ดขึ้นมาอยู่เป็นระยะ ทั้งยังมีอาการหูอื้อและได้ยินเสียงแปลกๆ ชวนเวียนหัว
“อ้อ…กำลังเล่นบทบาทที่ได้รับมอบหมายอยู่สินะ เก่งนี่ เล่นได้สมบทบาทโอเมกาเจ้าน้ำตาแสนใสซื่อดี แต่หลังจากนี้คงไม่ต้องแสดงแล้ว”
ชายตัวสูงเดินมานั่งข้างเตียง เมื่อทุกอย่างเริ่มกระจ่างชัด มันก็ทำให้ฮันได้รู้ว่าคนที่กำลังพล่ามอะไรที่เขาไม่เข้าใจเลยสักอย่างคือคาร์ลอส
แต่เป็นคาร์ลอสในเวอร์ชันที่ต่างออกไป
ดวงตาคู่สวยที่เคยเปล่งประกายทอแสงยามมองมาที่เขา บัดนี้มีเพียงสายตาวาวโรจน์ ดุดัน ลุกโชนไปด้วยเพลิงแห่งความร้ายกาจ แต่ก็ซ่อนความเจ้าเล่ห์เอาไว้ไม่มิด อย่างที่ทราบกันดีว่าตอนเจอคาร์ลอสวัยหนุ่มครั้งแรก เขายังตกใจในความเหมือนตัวร้ายของอีกฝ่ายแทบแย่ แต่นี่มันยิ่งกว่าครั้งนั้นไปอีก
“นายพูดอะไร เราไม่เห็นจะ— อั่ก!!?”
!?!?! WHAT!!
ยังถามไม่ทันจบดี ฮันก็ต้องร้องลั่นเมื่อฝ่ายนั้นกระชากผมของเขาให้โงหัวขึ้นมามองหน้า ก่อนจะแสยะยิ้ม
“สมใจแล้วหรือยัง หึ…คงจะดีใจจนทนไม่ไหวเลยสินะ”
“...”
“...”
สองนัยน์เชื่อมสบ ความเงียบตลบอบอวล ความรู้สึกแสนประหลาดก่อตัว
ถ้าเป็นในนิยายยุคเก่า ฉากนี้คือจังหวะตกหลุมรัก ต่อให้พระเอกจะลงไม้ลงมือ ตบตี กระชากหัวนางเอก/นายเอก/ตัวเอกจนคอแทบหลุด แต่เมื่อได้สบตา ผิวเนื้อสัมผัส ฝ่ายถูกกระทำกลับหวั่นไหว ปันใจไปให้อย่างง่ายดาย
แต่นี่มัน 2221 แล้ว! ทำร้ายก็คือทำร้ายโว้ย! พระองพระเอกอะไร หยุดดด!
ดังนั้น ความรู้สึกประหลาดที่ว่า จึงหมายถึงความอยากกระชากหัวอีกคนกลับเสียมากกว่า
“ว้อทเดอะ—! เจ็บโว้ยยย ปล่อยๆๆ! มาพล่ามประหนึ่งตัวเองเป็นหมาป่าแสนเดียวดายอะไรแถวนี้วะ!”
เมื่อสมองประมวลผลว่านี่คือความฝัน ฮันก็เริ่มด่ากราด
“…?”
“คนจะหลับจะนอน มาแสดงละครอะไร ให้ได้นอนดีๆ สักคืนจะได้ไหม! ดูละครหลังข่าวมากไปเหรอพ่อคุณ ตื่นจ้ะ ตื่น! หัดดูช็องเรออื่นที่ไม่ใช่โอเมกาตบตีแย่งอัลฟาด้วย! พ่อคาร์ลอสในความฝัน จะฝันถึงที่รักสักที มาดีๆ ไม่ได้หรือไง ไปเอาคาร์ลอสเวอร์ชันนี้มาจากไหนวะ ฮัน ไนท์!”
“???”
“แล้วนี่มันฝันบ้าอะไร! ทำไมเจ็บขนาดนี้วะ เออ ปล่อยแล้วลุกออกจากเตียงไปนั่งดีๆ เลยนายอะ รู้ไหมว่าผมเราแค่จับนิดหน่อยมันก็ฟูแล้ว ถึงจะเป็นในฝันก็เหอะ ไม่จ่ายค่าทรีตเมนต์ก็อย่ามา—”
“หุบปาก!! พูดบ้าอะไรของมึง!”
คนที่ผละออกไปยืนตะคอกกลับเสียงดังลั่น หลังจากฟังฮันฉอดรัว
“…” ฮันเงียบของจริง แต่นั่งเท้าเอววีน ตาเขียวปั๊ด ถ้าเกิดมาเป็นไก่ เขาคงจิกอีกฝ่ายจนพรุน
ส่วนคนที่โดนมองด้วยสายตาแบบนั้นถึงกับไปไม่เป็น คิ้วขมวดมุ่น ท่าทางอึกอัก ปั้นหน้ายาก เหมือนไม่เคยพบไม่เคยเจอคนต่อปากต่อคำกับตนแบบนี้มาก่อน
“นายนั่นแหละหยุดจ้าสาว มาเอาไรเอ่ย หิวก็ไปหาอะไรกิน ปวดขี้ก็ไปเข้าห้องน้ำนะ แต่ก็ขอบใจที่มาเป็นเครื่องมือช่วยฝึกการด่าของเรา หลังจากไม่ได้ด่าใครมานานหลายปีจนต้องขัดสนิมกันมาเลยทีเดียว แต่อย่าให้ได้ปรี๊ดไปมากกว่านี้นะ พ่อจะด่าให้ยับ เอาให้คนที่จะต้องกลัวฝันร้ายนี้คือนายเลยคอยดู ถึงจะหน้าตาเหมือนซีแอลก็ใช่ว่าจะทำอะไรก็ได้ ซีแอลดีที่ใจใช่ใบหน้า— เอ้ย หมายถึง ซีแอลตัวจริงดีจากข้างในสู่ภายนอก ต่อให้จะหล่อเหมือนกัน แต่เราก็ไม่เอานายหรอกเว้ย!”
“ซีแอล?”
คาร์ลอสในความฝันขมวดคิ้ว ทวนคำ ซึ่งนั่นทำให้คนบนเตียงหัวเราะ
“ว้ายๆ คาร์ลอสตัวปลอมไม่มีชื่อเรียกแบบสนิทหรอกเหรอเนี่ย น่าสงสารจังเลย งั้นเราขอตั้งให้แล้วกัน…เอาอะไรดีนะ”
“…?”
“คาร์ล…คาร์ลลี่ อ้อ รู้ละ คาร์ลลี่ไปขรี้นะ กร๊ากกกกกกกก ฮ่าๆๆๆ!”
พอว่าประโยคนั้นจบ ฮันก็ล้มตัวลงบนเตียง ทุบที่นอน หมอน ผ้านวมด้วยความสุดแสนจะรั่วกลั้วหัวเราะไม่ไหว ขำจนท้องแข็ง ขำจนน้ำตาเล็ด ขำม้วนหน้าม้วนหลังจนเหนื่อยขำต่อไม่ไหวแล้วนั่นแหละถึงได้หยุด
แต่เหมือนใครอีกคนจะไม่ได้ขำด้วย
บางทีฮันก็คิดนะว่าตัวเองน่ะฉอดเก่ง แต่ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะทั้งด่าเก่ง กวนประสาทเป็นชวนให้ปรี๊ดแตก น่าจะเพราะนอนไม่พอมาหลายคืนด้วย สกิลนี้มันจึงอัพเลเวลไปถึงขั้นด่าแล้วก็ขำกับมุกของตัวเองอีกทีแบบนี้
“ฮ่า...หะๆ เหน่ย” ขำจนหมดสภาพนอนแผ่ ถึงเพิ่งนึกได้ว่ามีคนยืนมองอยู่
“มึงเป็นบ้า...ไม่ มึงเป็นใคร”
“ฮัน อัลเลน ไนท์” ฮันนอนเกาพุงแกรกๆ เพราะขำเยอะจนเหงื่อออกมันเลยคันใต้ชายเสื้อ ก่อนจะเงยหน้ามองคาร์ลอสเวอร์ชันงงเป็นไก่ตาแตก
“อันนั้นกูรู้ แต่มึงไม่— ไม่เหมือน...”
“อ่อ จะบอกว่าเราไม่เหมือนตัวเราเองงั้นเหรอ หรือฝันบ้านี่มันคือโลกคู่ขนานที่มีคาร์ลอสเวอร์ชันชั่วร้ายที่หมายถึงร้ายจริงๆ ส่วนมีฮันเวอร์ชันที่เป็นน้องน้อยไร้เดียงสางั้นเหรอ ไม่หรอก เราว่าเราอยู่โลกไหนก็ไม่น่าจะไร้เดียงสา โอเค อาจจะมีโลกที่เราน่ารักหรือหล่อกว่านี้แหละ แต่จิตใจเปงคนรว้ายๆ หมดแน่นวล หน้าตามันแค่ของบังหน้าเฟร้ย เรื่องแบบนี้มีแค่ในนิยายเท่านั้นแหละ แถมต้องเป็นนิยายยุค 21 ด้วยนะ คร่ำครึขนาดนี้”
“หยุดพูดอะไรไร้สาระ—”
“มีเค้าความคล้ายกันอยู่นะเนี่ย คำก็ไร้สาระ สองคำก็ไร้สาระ ตัวเองมีสาระอยู่คนเดียวบนโลกเลยมั้ง จะบอกให้นะว่าซีแอลตอนแรกก็ปากสุนัขไม่รับประทานงี้แหละ แต่จิตใจข้างในจริงๆ แล้วเป็นคนนุ่มฟูมาก แค่ก่อนหน้านี้สิ่งเร้าจากโลกภายทำให้ซีแอลแสดงออกแบบนั้น แท้จริงแล้วคือต้าวหนุ่มนุ่มฟูที่เห็นยุงเกาะแขนก็ยังตบไม่ลง ถ้าไม่ใช่เราไปเห็นว่ายุงสองแม่ลูกกำลังดูดเลือดซีแอลอย่างเอร็ดอร่อยแล้วจะตบ— เอ้ย! แค่ปัดให้ ซีแอลก็คงไม่ยอมเป่ายุงที่ดูดเลือดใกล้หมดตัวออกไปหรอก”
“ใครมันคือซีแอล! มึงเป็นโซลเมทกู!” เสียงทุ้มตะคอกกลับ ดวงตาคู่คมวาวโรจน์ มือสองข้างกำแน่นเผยให้เห็นเส้นเลือดปูดโปน
“โว้ย เป็นแค่คนในความฝันทำไมมันน่ารำคาญขนาดนี้วะ ไม่เอาแล้ว รีบตื่นสักทีได้ไหมวันนี้ คาร์ลลี่ไปขี้นี่มันน่าหงุดหงิดจริงๆ” ฮันลองบิดแขนให้รู้สึกเจ็บ เผื่อว่าตัวเองจะตื่นจากความฝันนี้ แต่คืนนี้มันกลับยากกว่าทุกคืนที่ผ่านมา “ตื่น ตื่น ตื่นสักที! เฮ้อ...อยากรีบไปหาซีแอลแล้ว— แอ่ก?!!”
บ่นไม่ทันจบดี สองมือที่ใหญ่พอๆ กับหน้าเขาก็ตะปบลงมาที่ลำคอ แรงบีบกำมหาศาลทำให้ฮันตาเหลือก หูอื้อ หายใจไม่ออก
“มึง-เป็น-ของ-กู” เสียงทุ้มต่ำแสนเย็นเยือก ใบหน้าขาวซีดโน้มลงมาใกล้ จ้องลึกเข้าไปในตาของคนที่อ้าปากหาออกซิเจน
ฮันหน้าซีดเผือด เหงื่อซึมข้างขมับ พยายามจิกเล็บลงกับข้อมือหนา ทั้งผลักไส ทั้งไล่ตี ปัดป่ายหาตัวช่วยให้ออกไปจากสถานการณ์นี้ แต่ก็ไร้วี่แววรอดพ้น
“อ่อก— !!”
ฮันหายใจไม่ออก ลิ้นเริ่มจุกที่คอหอย ดวงตาเบิกโพลน ก้อนเนื้อในอกเต้นไม่เป็นส่ำ น้ำตาหลั่งรินรดหมอน น้ำลายไหลเลอะขอบปาก
ทุกอย่างมันเหมือนจริงเกินไป เหมือนจริงจนใจนึกกลัวว่านี่มันอาจจะคือความจริง ทุกอย่างตรงหน้าคือเรื่องจริง คนที่กำลังบีบคอเขาคือซีแอลตัวจริง และเขากำลังจะตายจริงๆ
หายใจไม่ออก…ช่วยด้วย!
เสี้ยววิก่อนที่สติของฮันจะดับหาย คนที่บีบคอเล็กกดกับเตียงด้วยแรงทั้งตัวพูดด้วยเสียงลอดไรฟัน
“มึงจะไม่ไปจากกู”
“…”
“จะไม่ไป...ไม่ไปไหนทั้งนั้น”
“...”
“จะต้องอยู่กับ— อยู่ด้วยกันตลอดไป...ตามที่สัญญากันไว้”
“...”
“ถ้ามึงหนี...กูจะตามหาจนกว่าจะเจอ จะตามล่าจนกว่ามึงจะหมดสิ้นหนทาง จะกักขัง...จนกว่าจะยอมจำนน”
“...”
“นั่นคือคำที่ตัวฉันในความฝันพูดเหรอ” คาร์ลอสถามเสียงพร่า ริมฝีปากแห้งผากเพียงได้ฟัง คิ้วขมวดแน่น ยิ่งเห็นสีหน้าของคนรักที่ซีดเผือดก็ยิ่งจุกไปทั้งอก
“ใช่ จำได้ไม่เป๊ะหรอก แต่ประมาณนี้”
ภายในหอพักนักศึกษาแสนคับแคบ สุดท้ายแล้วฮันก็มานั่งอยู่บนเตียงของอัลฟาตาฟ้าเหมือนเมื่อวานและวันก่อน
จากตอนแรกจะออกไปทานมื้อเย็นแล้วก็ตรงไปส่งฮันที่หอพัก แยกย้าย และให้เวลาส่วนตัวกันและกันหลังจบวันที่เหนื่อยล้า เป็นคืนที่คาร์ลอสจะได้ปั่นงานอันคั่งค้าง ได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่มเพราะไม่ต้องควบคุมสมาธิระหว่างกอดร่างนิ่ม
กลับกลายเป็นเขาพาคนตัวน้อยกลับมาที่หอตัวเองพร้อมความกังวลใจ
ฝันที่มารังควานฮันนั้นไม่ดีเอาเสียเลย เขาอดหลับอดนอนได้ แต่ทนไม่ได้ที่ต้องรับรู้ว่าคนรักนอนไม่หลับเพราะฝันร้าย
ซึ่งฝันร้ายนั้นมีตัวเขาเป็นส่วนประกอบ
“ที่รัก รู้ใช่ไหมว่าฉันตัวจริงไม่มีทางพูดแบบนั้นแน่” คาร์ลอสกอบกุมฝ่ามือที่เล็กกว่าแน่นขึ้น
“เรารู้ แต่ฝันมันแค่...สมจริงเกินไป มันสมจริงถึงขนาดที่ว่าเรารู้สึกได้ถึงสัมผัสของนาย เสียงของนายที่ก้องอยู่ในหู อากาศมันเย็นเฉียบ ทุกอย่างมันน่าขนลุกไปหมดเลย มินนิโซตาที่ว่าหนาว ยังสู้กับฝันนั้นไม่ได้”
ฮันเล่าด้วยอาการปกติ น้ำเสียงก็ไม่ได้สั่นเครือหรือร้องไห้ แต่สีหน้าและแววตาคู่สวยนั้นหม่นลงจนอัลฟาตัวสูงต้องรวบร่างที่แทบจะขดกลับกระดองน้อยๆ เข้ามากอด
ก่อนจะแผ่ฟีโรโมนเวติเวอร์ในฤดูฝนออกมา ช่วยทำให้ฮันสบายใจและรู้สึกปลอดภัยยิ่งขึ้น
“ฉันช่วยอะไรเธอได้บ้าง ฉันต้องทำยังไง บอกทีที่รัก ให้ฉันทำอะไรก็ได้ที่จะช่วยเอาฝันร้ายนี้ออกไป”
ฝ่ามือใหญ่ลูบวนแผ่นหลังที่เล็กกว่าตนอย่างเห็นได้ชัด
ฮันก็ตัวเท่านี้…แม้เขาจะเชื่อว่าคนรักแข็งแกร่ง แต่ยิ่งแนบชิด ยิ่งเห็นถึงความต่างของฝ่ามือ แผ่นหลัง ลาดไหล่ เอวบางที่โอบรอบก็มิดแขนข้างเดียวของเขา
คาร์ลอสปฏิเสธความคิดตัวเองไม่ได้ว่าฮันก็บอบบางเพียงเท่านี้ ต่อให้จิตใจจะยิ่งใหญ่ดุจฟ้า เปี่ยมไปด้วยความดีเทียบท้องนภา แต่มันก็อดกระวนกระวายใจไม่ได้อยู่ดี ที่รู้ว่าคนรักต้องเผชิญกับสิ่งที่เขาไม่รู้ว่าจะช่วยอีกฝ่ายอย่างไร
“ขอแค่อยู่กับเราก็พอแล้ว”
“ครับ แน่นอนอยู่แล้วสิที่รัก ไว้งานฉันค่อยทำก็ได้ เธอต้องมาก่อน”
คาร์ลอสพูดแบบไม่ลังเล แต่คนที่แนบแก้มซบไหล่กว้างกลับสั่นหัวเบาๆ
“ซีแอลไปทำงานตามที่วางแผนไว้เถอะ เราขอแค่เห็นนายอยู่ใกล้ๆ แล้วก็ได้นอนกอดนายตอนหลับก็พอแล้ว”
“นอนกอดตอนหลับเท่านั้นหรอกเหรอ…”
“?” ฮันเอียงแก้มซบบ่า ช้อนตาด้วยความสงสัย
“แต่ฉันอยากนอนกอดเธอตอนนี้เลย” ว่าแล้วอัลฟาหนุ่มก็ทิ้งร่าง โดยที่ในอ้อมกอดมีโอเมกาตื่นตูม ฮันเบิกตาโตเพราะไม่คาดคิดว่าจะถูกจับกดลงเตียง
“แต่เบ๊บบบ โปรเจ็กต์กำลังรอนายอยู่นะ” ฮันตบหลังกว้างปุๆ
“ช่างหัวโปรเจ็กต์”
จบคำนั้น คาร์ลอสก็แปลงร่างเป็นหมาป่าในฤดูหนาว(?)ทำการกระโจนคลอเคลีย โลมเลียร่างนิ่ม เริ่มจากลำคอระหงที่เปิดทางรอคล้ายเชิญชวน ริมฝีปากของคนด้านบนร้อนผ่าวยามที่แนบกับผิวเนื้อเนียน จูบซับแผ่วเบาอยู่สองสามทีเพื่อรับกลิ่นชาคาโมมายล์ ก่อนจะแลบลิ้นเลียตามแนวขึ้นไปยังกกหู
เมื่อได้ยินเสียงหายใจที่เริ่มถี่กระชั้นของคนใต้ร่าง คาร์ลอสก็ทำการขบเม้มเบาๆ ไปตามผิวน้ำผึ้ง โดยที่จมูกและลิ้นก็ทำงานผสานกัน รวมไปถึงดวงตา
ในระหว่างที่เรียวปากบดลงผิวเนื้ออ่อนจนขึ้นสีระเรื่อ ลิ้นร้อนก็ดุนดันกดประสาน ปลายจมูกโด่งสูดหายใจเข้าออก ปล่อยลมร้อนกระทบผิว ดันมันไปตามต่อมฟีโรโมนเพื่อรับฟีโรโมนกระตุ้นอารมณ์ พร้อมดวงตาคมที่คอยมองปฏิกิริยาของคนใต้ร่างไม่วางตา
สิ่งแรกที่สังเกตได้เมื่ออีกฝ่ายเริ่มมีอารมณ์...ขนอ่อนลุกชัน เป็นปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายที่น่ารักจนอยากเลียให้ขนทั้งร่างหายลุก
พฤติกรรมต่อมา...คือการที่มือน้อยจิกกำอะไรสักอย่างจนแน่น คงไม่พ้นกำอะไรที่ใกล้ตัวที่สุดอย่างหมอน ผ้านวม แต่ส่วนใหญ่เห็นจะเป็นร่างกายของเขา
ไม่ใช่ไม่ชอบใจ...ยินดีเลยต่างหากล่ะ
ลองคิดดูว่ายิ่งฮันรู้สึกมากเท่าไร มือที่เกาะไหล่เขาไว้ก็ยิ่งกำแน่นขึ้น ยิ่งรู้สึกเสียวซ่านก็เกือบจะจิกเล็บที่อีกฝ่ายพยายามตัดให้สั้นอยู่เสมอลงบนผิวเนื้อของเขา
ฮันไม่รู้เสียแล้วว่าอัลฟาตัวโตไม่ต้องการให้เจ้าตัวตัดเล็บทุกครั้งก่อนมาเจอกันก็ได้ เพราะอีกด้านของจิตใจ เขาอยากให้เล็บของฮันมันมาขีดข่วนบนร่างให้ได้เลือดเอาเสียบ้าง...ระบายความอัดอั้นลงบนร่างกายของเขาสิ
แต่คาร์ลอสไม่เคยพูด เพราะกลัวว่ามันจะดูแปลกเกินไป แค่นี้เพื่อนๆ ของเขาก็แทบจะตั้งฉายาไอ้ต้าวคลั่งรักให้ใหม่ไม่เว้นแต่ละวัน
คนที่ดูดเม้มไปตามลำคอระหงเหลือบมองอาการของคนที่ถูกสัมผัสตลอด เขายอมผละออกมาให้ฮันได้หายใจหายคอ แม้ว่าจะยังอยากซุกหน้าซอนไซ บางทีก็มีความคิดอยากจะขบกัดฝังคมเขี้ยวลงต่อมฟีโรโมนมากขนาดไหน แต่สมองก็ยังคอยย้ำเตือนว่านั่นจะทำให้คนรักเจ็บปวด
“ซีแอล...ไหนบอกว่าช่วงนี้งานเยอะไม่ใช่เหรอ ถ้าเราทำ— ทำกัน...ตารางงานที่วางแผนไว้จะเคลื่อนออกไปหรือเปล่า แล้วมันอาจจะไปหนักเอาทีหลังได้นะ”
“ไม่เป็นไรครับ ฉันมีหลายแผนมาก แค่นอน ‘กอด’ เธอสักคืน ไม่ทำให้แผนงานฉันพังหรอก”
“แต่...แต่—”
“ชู่ว...หรือฮันไม่อยากทำ? บอกฉันได้นะถ้าไม่โอเค ฉันแค่อยากให้เธอได้ปลดปล่อย ให้เธอได้ผ่อนคลายจากความเครียด ลบฝันร้ายบ้าๆ นั่นออกไป”
“...” ฮันเงียบไปอึดใจ ดวงตาคู่สวยหลุกหลิกเล็กน้อย
“ไม่เป็นไรที่รัก โอเค ฉันเข้าใจถ้าเธอไม่อยาก สั่งอาหารมากินกันเถอะ—”
“ซีแอล”
“Yes? darling.”
“หอนาย...เก็บเสียงหรือเปล่า” คำถามที่มาพร้อมสายตาไม่มั่นใจทำให้อัลฟาผมบลอนด์นิ่งไปนิด เพราะบอกตามตรงว่าเขาก็ไม่รู้
“Babe…you know what.” คาร์ลอสกระซิบ ล้มตัวลงนอนข้างกัน แต่เตียงมันเล็กไป เลยต้องกอดฮันแนบร่าง
“?” ฮันเลิกคิ้ว
“เราไม่จำเป็นต้องทำจนสุดทางก็ได้ หมายถึง...เธอแค่นอนเฉยๆ แล้วฉันจะ ‘ทำ’ ให้เธอผ่อนคลายเอง”
ฮันเลิกคิ้วขึ้น กำลังจะประมวลผลความหมายของคำว่านอนเฉยๆ แล้วอีกฝ่ายทำให้เขาผ่อนคลาย โดยที่ไม่ได้มีการสอดใส่แล้วจะเป็นอย่างไร ยังไม่ทันได้จินตนาการภาพ คาร์ลอสก็ถดตัวลงไปใต้หว่างขา ถกกางเกงพร้อมชั้นในของเขาออกไป กว่าโอเมกาน้อยจะรู้ตัว ด้านล่างก็โล่งจนรู้สึกหวิว
“แต่ว่าซีแอลจะปวด...ปวดเจ้านั่นนะ”
คาร์ลอสหัวเราะทุ้มน่าฟัง เมื่อสายตาของฮันหลุบต่ำมองเบื้องล่างของเขา
“อย่าห่วงเลย ‘เจ้านั่น’ ของฉันมีความอดทนสูง” อัลฟาหนุ่มพูดประโยคนี้ด้วยรอยยิ้มละมุน แต่ใจกลับเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ เพราะรู้อยู่แก่ใจว่า ‘เจ้านั่น’ ของตัวเองไม่ได้มีความอดทนไปมากกว่าของฮันเลย
ขนาดใช้ยาระงับ...เขาก็ยังไม่สามารถหักห้ามใจได้
ฮันไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้เขารู้สึกอยากจะมีเซ็กซ์กับคาร์ลอสในตอนนี้ ก้นบึ้งของจิตใจมันยังกังวลถึงฝันร้าย รู้อยู่ตลอดเวลาว่าคาร์ลอสในความฝันไม่ใช่คนเดียวกับคาร์ลอสตรงหน้า แต่มันห้ามความคิดประหลาดที่กำลังกัดกินความรู้สึกเชื่อมั่นไปไม่ได้
การที่กำลังจะมีเซ็กซ์กับซีแอล...มันคือการลบล้างความผิดหรือเปล่า
ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าความผิดอะไร ทำไมถึงรู้สึกผิด เขาทั้งคู่รักกันดี ไม่มีอะไรให้ต้องรู้สึกอย่างนั้นเลยสักนิด แต่ทำไม...
การปลดปล่อยความใคร่...มันคือการประชดความฝันหรือเปล่า
ประชดประชันความกลัว ทำให้คาร์ลอสตัวร้ายในความฝันได้รับรู้ว่าเขาไม่ได้กลัว เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับคาร์ลอสในความฝันเลย เพราะเขารักคาร์ลอสคนในความจริงมากที่สุด
ทุกอย่างมันตีกันในหัวจนฮันไม่ได้มีปฏิกิริยาโต้ตอบ ยามที่อัลฟาตาฟ้าเอ่ย
“ฮันครับ”
“...”
“ที่รัก เธอโอเคไหม?”
“หือ? ขอโทษที เมื่อกี้เรา...” ฮันยกมือจับหัวตัวเอง เขาหลับตาลงเพื่อตั้งสติ ก่อนจะว่า “ถ้าเราจะออนท็อปให้ ซีแอลโอเคไหม”
“...”
αβΩ
“กลับได้แล้ว ไอ้หนุ่ม” แซ่เสียงสุดมั่นใจมาพร้อมกับสัมผัสที่หัวไหล่ “จะกลับดีๆ หรือจะกลับทั้งน้ำตา”
มือเรียวที่ประดับด้วยเล็บปลอมแตะไหล่ของคนที่นั่งทำงานในห้องแล็บมาทั้งวัน ซึ่งเล็บปลอมนั้นก็แหลมปรี๊ดขนาดที่ถ้าเอาไปแทงใครคนนั้นต้องเข้าไอซียูสถานเดียว
และตอนนี้มันก็กำลังจ่ออยู่ที่คอหอยของเขา ผู้ที่นั่งหน้าเครียดมาทั้งวันแม้เพื่อนร่วมแล็บจะกลับไปพักผ่อนกันแล้วก็ตาม
“ทำไมพูดเหมือนลุง” ชายหนุ่มสวนกลับ
นอกจากจะไม่กลัวเล็บสีดำออมเบรเทา ตกแต่งด้วยลวดลายน่าเกรงกลัวดุจปีศาจของเอมิลี่แล้ว ลูคัสยังพูดด้วยความขบขัน
ที่จริงเอมิลี่ออกจากแล็บไปได้สักพักแล้ว แต่กลับมาอีกรอบเพราะลืมของ จนได้เห็นว่าคนเด็กสุดในกลุ่มยังนั่งหน้าเครียด จดจ้องกับหน้าจอคอมมาตั้งแต่บ่าย ดูท่าแล้วจะได้นิสัยหมกมุ่นกับบางสิ่งไม่พักเหมือนไอ้คาร์ลอสมา
“เอ็งจะได้กลับบ้านกลับช่องสักทีไง นี่จะนั่งใส่สูตรไปถึงชาติ—”
“เฮ้ย!!”
“ไอ้ฉิบหาย! ตกใจหมด มึงจะตะโกนทำไมไอ้ลูคัส!”
เอมิลี่เกือบแทงเล็บคมต่างมีดลงผิวเนื้อเด็กตรงหน้า ตัวก็ผงะแทบหงายเมื่อจู่ๆ ลูคัสก็ลุกพรวดจากเก้าอี้ อุทานลั่นพร้อมตบโต๊ะดังปึงใหญ่
“ผ่าน! มันผ่านแล้ว มันผ่านแล้วพี่!!”
“เชี่ยอะ—”
ในตอนแรกเอมิลี่ก็ยังไม่เข้าใจว่าอะไรผ่าน กระทั่งหันไปมองตามสายตาของลูคัสที่เบิกกว้างด้วยความตื่นตกใจ
บนหน้าจอประมวลผลตัวเลขความน่าจะเป็นที่โปรเจ็กต์จะผ่าน ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครคาดหวังให้มันถึง 100% ในเร็ววันนี้ เพราะแค่เขียนโปรแกรมให้ผ่านเกณฑ์ 95% ที่อาจารย์ตั้งไว้ยังยาก
แต่บนหน้าจอกลับปรากฏ
98.6513054%
“เชี่ย!! นี่มันเกือบ 99% ว้อทเดอะ— !?!” เป็นเอมิลี่ที่สบถเสียงดังลั่นอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ดันไหล่คนเด็กกว่าให้ห่างจากหน้าจอ “เป็นไปได้ยังไง เมื่อเช้ามันยังไม่ถึง 84% ด้วยซ้ำ!”
ลูคัสขมวดคิ้วอย่างคนคิดไม่ตก
“น่าจะเป็นเพราะสมการที่พี่คาร์ลอสให้มาเมื่อเช้า มันคือสูตรเก่าของเราที่ลองไปเทียบแก้กับสูตรใหม่ ผมถึงได้ลองใส่อะไรที่เราขาดไป จำครั้งที่เราไปดูงานอยู่เซิร์น ที่คนนำทัวร์ในห้องทดลองนั้นพูดได้ไหมพี่”
“เห็นมันไม่ชัดเจนนัก เพราะคุณไม่ทราบสถานะตั้งต้นของมันอย่างชัดเจน หรือก็คือ คุณลืมไปแล้วว่าหน้าตาของมันจริงๆ เป็นยังไง”
“ใครที่พอจะจำเหตุการณ์สักเหตุการณ์ในอดีตได้ ผลลัพธ์ที่ได้เห็นจะชัดเจนขึ้นเพราะรู้สถานะตั้งต้น”
“นึกถึงช่วงเวลาที่คุณอยากย้อนกลับไป หรือช่วงเวลาในอนาคตที่คุณอยากรู้เอาไว้ให้ดี”
“สถานะตั้งต้น”
“ใช่ พอจำได้ว่าเหลือสถานะตั้งต้น ผมเลยลองใส่เหตุการณ์จริงในอดีตไป แต่เป็นแค่เรื่องที่เกิดขึ้นไปเมื่อไม่นาน ความน่าจะเป็นเลยเป็นอย่างที่เห็น เหลือก็แต่ทดลองกับคนจริงแล้ว”
“บอกไอ้โจกับไอ้คาร์ลหรือยัง”
“จะไปบอกตอนไหน พี่ก็เพิ่งเห็นพร้อมกับผมเมื่อกี้”
“เออ แม่ง งั้นเรียกรวมเลย”
“แต่นี่ก็ค่ำแล้วนะพี่”
“แหม ทีเมื่อกี้กูบอกกลับบ้านแล้วมึงอยากกลับมากมั้ง พวกมันก็ใช่ว่าจะเป็นเด็กอนามัยนอนสามทุ่มซะที่ไหน”
“โอเค คืนนี้ไม่ต้องนงไม่ต้องนอน!” ลูคัสฮึดสู้
“เริ่ม” เอมิลี่เชียร์อัพ
ลูคัสกดเอฟอร์สส่งข้อความเร่งด่วนไปยังเพื่อนร่วมทีม ความคาดหวังว่าทั้งคู่จะตอบกลับมาด้วยความรีบร้อนเพราะเห็นสัญญาณสีแดง กลับเหลือแต่เสียงอีกาทิพย์ที่บินผ่านหัว
“...”
“อะไร ทำไมนิ่ง มึงกดส่งยัง”
“ส่งแล้ว ปกติแค่สีเหลืองบอกความคืบหน้าก็แทบจะกระโจนมาแล็บ แต่นี่สีแดงเลยนะ”
ลูคัสที่ปกติจะแต่งตัวและแต่งหน้าทำผมอยู่ทุกวันแม้ว่าจะยุ่งขนาดไหน วันนี้กลับไม่เหลือของตกแต่งร่างกายใดที่ดูแปลกตาไป บ่งบอกว่าเขาอยู่ในแล็บมานานมากจนพวกเครื่องประดับแฟชั่นกลายเป็นของเกะกะ ผมเผ้าที่เซ็ตมาลู่ลงตามแรงโน้มถ่วงโลก
สิ่งนี้สื่อว่าชายหนุ่มที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่มทุ่มเทให้โปรเจ็กต์มากขนาดไหน สมกับที่เหล่าพี่ๆ จองตัวดึงเข้าทีมมาตั้งแต่ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย
และทุกอย่างก็เข้าใกล้ความจริงขึ้นไปอีกขั้น
“ไอ้โจไม่เท่าไร แต่ไอ้คาร์ลไปไหน”
เอมิลี่ไม่แปลกใจที่โจเซฟจะยังไม่เห็นสัญญาณแดงแสดงถึงความเร่งด่วน เพราะรายนี้มันไปสุดทุกทาง เรียนหนักแต่เที่ยวหนักกว่า เมาหัวราน้ำที่ไหนก็นอนนั่น คนแบกกลับส่วนใหญ่ก็มีแต่เธอ
แปลกใจมากกว่าว่าพ่อหนุ่มผมบลอนด์ที่แทบจะใช้ชีวิตในแล็บไม่ตอบกลับมาในเวลาที่คาดไว้
ซึ่งแน่นอนว่าเอมิลี่ลืมไปอีกครั้ง ว่าชีวิตไอ้หนุ่มเย็นชาไม่เย็นชืดอีกต่อไป ตั้งแต่ที่มีหนุ่มหน้าดอกไม้มาเติมเต็มความหวานเข้าไป
“กลับกับพี่ฮัน”
“...กูไม่น่าถาม” เอมิลี่นวดขมับตัวเอง
“...”
“รำคาญพวกติดเมียโว้ย!!”
เห็นที นั่งทดลองคืนนี้คงมีแค่พวกเขาสองคน
αβΩ
“ได้ยินเสียงอะไรหรือเปล่า...อะ”
“เสียงเธอไงครับ”
“ซีแอล— ช้าหน่อย เราหายใจไม่ทัน”
“แค่จูบเธอยังไม่ไหว แล้วจะออนท็อปให้ฉันงั้นเหรอ คนเก่ง”
คะ คนเก่ง!?
คนที่ถูกจูบจนหน้าดำหน้าแดงตัวแข็งไปแล้ว เรี่ยวแรงที่จะปีนไปออนท็อปอีกฝ่ายน่ะหรืออย่าพูดถึง
“ยังไม่ถึงช่วงฮีทแต่แฉะได้ขนาดนี้เลยเหรอ...”
“!? กางเกง”
ฮันมีสติอีกทีก็ตอนที่นิ้วหัวแม่มือใหญ่กดช่องทางด้านหลัง เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากางเกงถูกดึงพ้นจากข้อเท้าไปตอนไหน และมันก็ถูกโยนไปตกอยู่ข้างเตียงราวกับเป็นที่ประจำ
โอเมกากลิ่นชาคาโมมายล์ได้ยินเสียงตื๊ดๆ หลายรอบติด แต่ดูเหมือนว่าคนด้านบนจะไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย ดวงตาสีฟ้าจับจ้องมายังเขา โฟกัสที่เขา...
...และกดสายตาของเขาไว้อยู่หมัด จนสมองไม่สามารถรับรู้สิ่งอื่นใดได้อีก
“อ้าขาสิครับ จะทำให้” คาร์ลอสตบสะโพกกลมเบาๆ เป็นการบอกให้เปิดทาง เพราะเขาต้องการจะมุดเข้าไปสำรวจความสวยงามของธรรมชาติ
“แต่เราก็อยากทำให้ซีแอลด้วย แบบนี้มันเหมือนเราได้รับคนเดียว ฟินคนเดียวเลย...ฮื่อ” ฮันยกมือปิดหน้า
พูดอะไรออกไปวะ ฟินคนเดียวอะไร!
“คนเก่งของฉัน ถ้าอย่างนั้นบอกมาสิว่าอยากได้แบบไหน” คาร์ลอสกดนิ้วโป้งเข้าไปในช่องทางระหว่างที่พูดคำนั้น นวดคลึงภายนอกสลับกับกดหยอกภายใน ได้ยินเสียงครางแผ่วลอดออกมา มองคนที่จะยกมือปิดหน้าไปทำไม่ก็ไม่รู้เพราะปิดยังไงก็ปิดไม่มิด “เธอแดงไปทั้งตัวแล้วที่รัก ไม่จำเป็นต้องปิดหน้าหรอก”
ฮันส่ายหน้าจนผมสยายไปทั่วหมอน
“นายอยากทำอะไรก็ทำเลย ไม่อยากให้เราช่วยก็แล้วแต่ ปล่อยน้องนายปวดไปแบบนั้นแหละ” โอเมกาน้อยยอมเปิดหัวเข่า อ้าขาออกกว้าง
ใจของอัลฟากลิ่นฝนมันอยากจะซุกหน้าลงไปเสียเดี๋ยวนั้น ถ้าไม่ติดว่าคิดอะไรออก ลิ้นร้อนแลบเลียริมฝีปากอันแห้งผากของตนเอง ก่อนสองแขนแข็งแรงจะโน้มโอบกระชับคนใต้ร่างแน่น แล้วพลิกให้อีกฝ่ายขึ้นไปอยู่ด้านบนแทน
ฮันตกใจได้ไม่นานก็ถึงบางอ้อ เมื่อส่วนหัวของเขาถูกหันให้ไปทางด้านล่างของคาร์ลอส ส่วนบั้นท้ายก็ตั้งโด่งอยู่เหนือใบหน้าคมคาย
...ท่า 69 ในตำนาน...
“ถ้าเป็นแบบนี้โอเคหรือยัง ฟินทั้งคู่ แถมเธอยังได้ออนท็อปด้วย” คาร์ลอสพูดด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี
ก็จะไม่ให้ดีได้อย่างไร ตัวเองนอนอยู่ด้านล่าง เห็นวิวทิวทัศน์ของก้นกลมอย่างเต็มตา รูจีบสีหวานฉ่ำแฉะ ส่วนอ่อนไหวด้านหน้าแดงเรื่อชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำอยาก
แต่ในขณะเดียวกัน มองลอดไปใต้ร่างน้อยที่พยายามพยุงตัวขึ้น ก็เห็นใบหน้าอ่อนหวานแดงซ่านอยู่เคียงคู่กับกลางกายของตัวเองที่เป่งนูนให้เห็นผ่านกางเกง ต่อให้เนื้อผ้าจะหนาขนาดไหนก็ไม่อาจปิดบัง ‘น้อง’ ที่ฮันชอบเรียกอันขึ้นรูปลำได้อย่างชัดเจนแบบนั้นหรอก
คาร์ลอสไม่รอช้า จัดการสอดแขนทั้งสองข้างล็อกบั้นท้ายกลม กระชับต้นขาที่มีเนื้อหนังเต็มไม้เต็มมือเข้ามาใกล้ใบหน้า ฮันยังไม่ทันได้เตรียมใจรับความเสียวซ่านที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้าก็ต้องเบิกตากว้าง เมื่อริมฝีปากและลมหายใจร้อนแนบชิดช่องทางด้านหลังขมิบถี่
“เฮือก! ซีแอล!” สติสัมปชัญญะที่มีอยู่เพียงเล็กน้อยแตกกระเจิง สัมผัสของฝ่ามือหนารูดรั้งแกนกายด้านหน้าไม่ชวนสั่นเท่าเรียวลิ้นร้อนที่ปาดข้างแก้มก้น ดีที่ยังไม่ได้สอดใส่อะไรเข้าไปในช่องทางฉ่ำแฉะรอรับการเติมเต็ม ฮันเกลียดร่างกายตนเองเหลือเกิน
มันจะอ่อนไหวไวต่อความรู้สึกอะไรขนาดนี้!
ฮันสูดอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ หยัดกายด้านบนด้วยสองแขนอันอ่อนระทวย จ้องเล็งไปยังกลางกายของคนตัวใหญ่ที่ยังสวมใส่กางเกงปิดมิดชิด แต่อะไรๆ ในนั้นมันดูอยากจะออกมาผจญโลกกว้างมากกว่า
ฮันรูดซิปกางเกงยีนส์สีเข้มด้วยความระมัดระวังแต่รวดเร็ว รั้งกางเกงชั้นในของคนใต้ร่างลง ส่วนนั้นก็เด้งผึงออกมาแทบตีแก้มเขาทันที
ร้อน
ถ้ากลิ่นฟีโรโมนยามปกติของอัลฟาหนุ่มคือเวติเวอร์ยามฝนตก ยามที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ใคร่ก็คงเป็นเม็ดฝนเดือด...อย่าให้ได้หยดรดรินร่าง เพราะอาจทำให้ร้อนรุ่มถึงตาย
ฮันไม่เคยถูกใครปล่อยฟีโรโมนใส่แล้วรู้สึกอยากปล่อยตัวปล่อยใจ โอนอ่อนมอบทั้งร่างกายและจิตใจให้เท่านี้
ดวงตาคู่สวยคลอเคลือบฉ่ำน้ำยามมองแกนกายของคนรัก เผลอไผลแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเอง...อยากเลีย
ไม่คิดอะไรต่อให้ฟุ้งเฟ้อ ฮันทำตามใจอยากทันที
สองมือกอบกุมส่วนร้อนผ่าวที่ตั้งชัน เล็งสายตาเข้าที่ปลายหัวบานสีเข้ม ก่อนจะส่งเรียวลิ้นสีแดงสดลงไปแลบเลีย
“ฮึ่ม! ที่รัก” คนที่มุ่นอยู่กับการชิมน้ำหวานในช่องทางรักตัวแทบกระตุก เขาจัดท่าทางแบบนี้เพื่อจะสปอยล์คนรัก ไม่ได้คาดหวังให้ฮันต้องปรนเปรอเหมือนที่ตนอยากทำให้อีกฝ่ายใจจะขาด ฮันจะทำอะไรกับร่างกายเขาก็ได้ หรือแค่นอนทับร่างเฉยๆ ให้เขาออรัลเซ็กซ์ให้ก็ยังได้
บอกไปใครจะเชื่อ เขาอยากให้ฮันบังคับจับร่างกายเขาตามใจอยาก อยากให้ฮันลงโทษเขาด้วยการปีนป่ายขึ้นมาเหยียบย่ำบนร่าง นั่งทับหน้าเขาด้วยบั้นท้ายอวบอั๋นของอีกฝ่าย แล้วดึงทึ้งหัวเขาให้ทำออรัลเซ็กซ์ให้เยี่ยงทาสกามราคะ
เป็นเอามากอย่างที่อีกฝ่ายว่าจริงๆ นั่นแหละ
คาร์ลอสไม่แน่ใจว่าตัวเองคลั่งรักเกินไปหรือแค่ชอบเซ็กซ์แบบตัวเองโดนควบคุมกันแน่
ฮันเห็นร่างหนากระตุกก็ได้ใจ ละเลงปลายลิ้นลงหัวบานหยักจนชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำลาย มือสองข้างทำงานรูดรั้งผสานกัน ริมฝีปากนุ่มจูบซับตามความยาว เหมือนคนละเลียดกินไอศกรีมในนาทีแรก ก่อนดวงตาดั่งน้ำทะเลจะวาววับในนาทีต่อมา
ปากกระจับอ้าออกกว้าง เก็บฟัน เปิดลำคอ แล้วค่อยๆ กลืนท่อนลำเข้าไป คนตัวสูงที่กำลังส่งปลายลิ้นเข้าช่องทางอ่อนนุ่มด้านล่างเริ่มตะหงิดใจ จนต้องหยุดชะงัก ชะโงกหน้ามองคนบนร่างที่กลืนกินส่วนแข็งจนปวดของตัวเองเข้าปาก
ความอุ่นของโพรงปากอุ่น ความชื้นแฉะของน้ำลาย เรียวลิ้นเล็กที่แค่เกี่ยวกระหวัดตอนจูบกับเขายังตะหวัดไม่ทัน ตอนนี้มันกำลังกลืนท่อนลำเขื่องคับปากลงไปเรื่อยๆ...จนถึงคอหอย
“ฮันหยุด! เธอจะสำลักเอานะถ้าเข้าไปลึกขนาด— !?”
มือหนาบีบก้นนุ่มจนเป็นรอยเมื่อฮันทำได้ดีเกินคาด ออรัลเซ็กซ์ที่ดีกว่าครั้งแรกมากจนหัวคิ้วขมวดเข้าหากันแน่น ใบหน้าหล่อเหลาแหงนขึ้นด้วยความเสียวซ่าน เผยให้เห็นสันกรามที่บดเข้าหากันจนนูน
แรงของฝ่ามือที่กระชับต้นขาแน่นทำให้ฮันรู้ว่าตัวเองมาถูกทาง ในใจยกยิ้มเบิกบานแม้ว่าจะอึดอัดคับแน่นจากความใหญ่ร้อนในโพรงปาก
ไม่เสียแรงที่ศึกษาการออรัลแบบ deep throat...ต้องขอบคุณเมตาเว็บ
ที่เขาพูดว่าอยากทำให้อีกฝ่ายด้วยเพราะไม่อยากได้รับอยู่ฝ่ายเดียวคือเรื่องจริงไม่ติงนัง
หลังจากที่เคยใช้ปากให้คาร์ลอสครั้งแรกที่สวิตเซอร์แลนด์ไป ฮันก็รู้ตัวเลยว่าเขาต้องกลับไปทำการบ้านเรื่องบนเตียงมาใหม่ เซ็กซ์ที่ดีต้องช่วยกันทั้งสองฝ่าย จะปล่อยให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องปรนเปรออีกคนอยู่ฝั่งเดียวไม่ได้ ยกเว้นว่าจะตกลงพร้อมใจใคร่ชอบในแบบที่ต่างออกไปอะนะ…
ซึ่งฮันรู้ได้ทันทีว่าที่คาร์ลอสชอบทำให้เขาก่อนเพราะอยากให้เขารู้สึกดี และรู้ว่าฝ่ายนั้นน่ะค่อนข้างจะเป็นเอามาก…คลั่งรักน่ะ
ไม่ได้ทำให้เขาเพราะเป็นการสนองความต้องการในรูปแบบแปลกใหม่แต่อย่างใด เพราะฮันค่อนข้างมั่นใจว่าคาร์ลอสไม่ใช่ประเภท BDSM ถ้าถามว่าดูจากอะไร…
ถามดีกว่าว่ามีอะไรให้ดูบ้าง เข้านอกออกในหอของอัลฟาหนุ่มจนแทบจะเป็นห้องของตัวเองก็ยังไม่เคยเห็นอุปกรณ์หรือของเล่นที่จะสื่อไปทางนั้นได้เลย แถมพวกเขายังคุยแบบดีพทอร์คกันอยู่เสมอ
ดีพทอร์คที่ไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องจ้ำจี้กันก็มีเหอะ! เห็นเป็นคนทะเล้นทะลึ่งตึ่งโป๊ะ ชอบแหย่ชอบแซวคนตัวโตกว่าให้เป๋แบบนี้ แต่เอาเข้าจริงก็อย่างที่เห็น…โดนเขาจับรูด จับดูด จับกด…ก็เป็นอันอ่อนระทวยเหลวเป๋วคาเตียงอย่างกับสสารแมว
ฮันบอกกับคาร์ลอสเสมอว่ามีอะไรในใจให้ระบายออกมา และคาร์ลอสคนพูดน้อยฝอยไม่เก่งเท่าเขาก็เริ่มพัฒนาขึ้นมากแล้ว เรียกได้ว่าแม้แต่ตอนเที่ยงกินอะไร ได้สารอาหารครบไหมก็ยังบอก
ดังนั้นอย่าว่าแต่ดีพทอร์คแล้วอีกฝ่ายไม่กล้าบอกความจริงเรื่องรสนิยมบนเตียงเลย เรียกได้ว่าไม่เหลืออะไรที่ฮันต้องรู้อีกแล้ว
ที่ขอออนท็อปก็เพราะมีคืนหนึ่งที่นอนจับมือกัน(?) จู่ๆ คุยกันอีท่าไหนไม่รู้ อัลฟาหนุ่มเผยออกมาหมดเปลือกว่าตัวเองชอบให้เขาย่ำยีอีกฝ่ายบนเตียงขนาดไหน
ขอโทษนะพ่อคุณ ไปนอนคิดมาใหม่นะว่าใครกันแน่ที่ย่ำยีใคร แค่นึกถึงคืนมีอะไรกันครั้งแรกยังปวดยอกเอวไม่ไหว
“ฉันชอบที่เธอสั่งฉัน ชอบที่เธอทุบตีฉันเวลาทำให้เธอเขิน แล้วที่รักพูดว่ายังไงนะ จะไม่ยอมให้ฉันออรัลให้เธออีกแล้วงั้นเหรอ? เธอหุ่นไม่เซ็กซี่ขนาดนั้นงั้นเหรอ? ไม่มีทาง เธอไม่เห็นจะตัวเหม็นตรงไหนเลย ต่อให้ไม่อาบน้ำสามวันก็ยังหอมเหมือนผ้าที่ซักเสร็จใหม่ๆ แล้วขนาดแต่งตัวเหมือนลุงจะไปตกปลาเธอยังทำฉันแข็งขนาดนี้เรียกว่าไม่เซ็กซี่? รู้ไหมว่าทุกครั้งที่ฉันมองเธอฉันคิดอะไร ที่รัก ฉันอยากให้เธอออนท็อปบนตัวฉัน บดก้นยั่วๆ นั่นอัดหน้าฉันทุกคืนก่อนนอน อยากให้เธอกระชากหัวฉันไปอมให้จนกว่าเธอจะเสร็จคาปากฉันด้วยซ้ำ!”
“…”
“เธออยากรู้อะไรอีก...”
“พอ เราไม่อยากลับลู้แล้ว...ฮื่อ”
ฮันจำได้ว่าหลังฟังจบ เขาได้แต่นั่งอ้าปากค้าง ก่อนจะยกมือมาปิดหู(ซึ่งค่อนข้างจะดีเลย์ไปมาก) มองคนที่ลงไปนั่งกองกับพื้นห้อง ส่วนเขานั่งบนเตียงเท่านั้นเพราะอีกฝ่ายเคยบอกว่าจะไม่ยอมให้เขาได้ตูดแตะพื้นเด็ดขาด ผู้ประเสริฐไม่ควรนั่งในที่ต่ำกว่าทาส
โอเค ฮันเคยคิดว่าคาร์ลอสแค่พูดขำๆ เล่นมุกอะไรแบบนั้น…แต่
“ห้ามพูดอะไรแบบนั้นอีกแล้วนะครับ เข้าใจไหม”
“ว้อทเดอะ…แล้วนี่นายจะน้ำตาซึมทำไม! โอเคๆ ไม่พูดแล้วก็ได้ โอ๊ยยย แฟนใครเนี่ยเป็นเอามากจริงๆ เลยโว้ยยย”
“ที่รัก…” เจ้าหมาตัวโตนั่งคุกเข่า ปากเบะคว่ำ หยาดน้ำใสซึมหัวตาน้อยๆ
“เออรู้แล้วๆๆ ถ้างั้นเราขอสั่งให้นายห้ามพูดอะไรแบบนั้นอีกเหมือนกัน เพราะมันขนลุกกก!”
“แบบนั้นคือแบบไหนครับ…บดก้นยั่วๆ ของเธอลงมาบนหน้าฉันน่ะเหรอ?” หมาไซเอียงคอ ทำหน้าฉงน ส่วนฮันคว้าหมอนมาอุดหูตัวเองก่อนจะร้องว้ากลั่นห้อง
นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมคืนนี้ฮันถึงยกประเด็นออนท็อปขึ้นมา ก็เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายน่ะชอบ…ถึงได้อยากเอาใจบ้าง แน่นอนว่าหลังจากดีพทอร์ค เขาก็ไปศึกษาวิธีดีพโธรท...วิธีกลืนเจ้านั่นให้ลงไปถึงคอโดยไม่สำลักน่ะ
ผลก็อย่างที่เห็น ทำให้คาร์ลอสประหลาดใจจนสมองขาวโพลน ทั้งรู้สึกดี ทั้งมันเขี้ยวเจ้าตัวแสบบนร่างที่อยากลองวิชา เรียนรู้มาแล้วก็ต้องนำมาปฏิบัติจริง แถมยังปฏิบัติได้ดีจนอยากจะตกรางวัลให้อย่างงาม
“เธออย่าหวังว่าจะได้นอนเลยคืนนี้!”
เป็นคำขู่ที่น่ากลัวไม่น้อย ทำเอาโอเมกากลิ่นดอกไม้ตัวสั่น
อย่างน้อยระหว่างพักยกขอจิบน้ำหน่อยได้ไหมนะ…กลัวว่าจะไม่มีแรงไปต่อทั้งคืนเอา
กิจกรรมบนเตียงดำเนินไปไม่ทันถึงครึ่งทาง คนที่อยู่อีกฟากในเขตมหาวิทยาลัยก็เริ่มหมดหวังที่จะตามตัว เห็นทีข้อความที่ส่งไป จะถูกเห็นก็ตอนเช้านู่นล่ะ…
เอฟอร์สที่ถูกโยนทิ้งไว้ข้างเตียงได้แต่กะพริบแล้วดับ กะพริบเตือนแล้วดับ ซ้ำๆ อยู่อย่างนั้นจนถ้าการแจ้งเตือนมีชีวิต มันคงจะน้อยใจเพราะเจ้าของไม่ได้สนใจใยดีมันเลย แถมเจ้าของมันยังตั้งค่าโหมดไร้เสียงไว้อีก
Red messages - unread
LUCAS - [ระบบมันบอกว่าทุกปัจจัยผ่านแล้วนะ ส่วนความน่าจะเป็นของโปรแกรมคือเกือบ 99%]
LUCAS - [เหลือแต่ทดลองจริง ถ้าผ่านแล้วก็เรียกศาสตราจารย์มาตรวจ]
LUCAS - [ถ้าอ่านแล้วอยากให้พวกพี่รีบมาที่แล็บนะ]
EMILY - [เดี๋ยวนี้เรียงความสำคัญใหม่หมดแล้วดิ]
EMILY - [เมียคือที่หนึ่ง ว่ะซั่น]
TBC
ตอนหน้า: ??
สามารถหวีด ร่วมพูดคุย แสดงความคิดเห็นผ่าน #IABOU
หรือเพื่อติดตามเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของนิยายเรื่องนี้ที่เราจะลงไว้ที่นั่นได้เลย!
ถ้าคุณชอบนิยายเรื่องนี้ โปรดแชร์ให้ผู้อื่นได้รับรู้ เพราะนั่นคือการซัพพอร์ตนักเขียนที่ดีมากอีกวิธีหนึ่งโดยที่คุณไม่ต้องเสียเงินเลยสักบาท
ด้วยรัก
แล้วพบกันตอนหน้า?
Comments (0)