8 ตอน บทที่8
โดย WonderM
'ปึ้ก'
พัดเล่มใหญ่ที่ถูกโบกไปมากลางอากาศ ถูกสับลงบนฝ่ามือเล็กเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวเสียงดังลั่น คนตัวเล็กกล้ำกลืนคำหยาบคายนับล้านคำ หันกลับมาทำตาขวางเหลือบมองผู้มาเยือนด้วยใบหน้าขึ้นสีแดง เจ้าของร่างบางกำลังโมโหไม่มีชิ้นดี เมื่อได้พบว่าอีลูกหนี้ปัญญาอ่อนทำเรื่องให้ตนต้องเดือดเนื้อร้อนใจ
นางแจ่มนั่งคุกเข่าหมอบต่ำ มือขวาเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงฉานของอดีตผู้เป็นมิตร มันกัดริมฝีปากกลัวความผิด คิดอยู่เป็นนิจว่าหาก 'คนสั่งการ'ไม่ยอมช่วย มันจะปลงใจแฉเสียให้สิ้น
เอาให้ฉิบหายแม่งไปข้างเลย
"บ่าว.. บ่าวพยายามแล้วนะเจ้าคะ อ..ไอ้เทียนมันรู้ได้อย่างไรก็ไม่รู้ มันตามไปสั่งสอนบ่าวกับอีน้อยถึงเรือนเลยเจ้าค่ะ"
"..."
"ม..มันเอามีดตัดลิ้นอีน้อยด้วยเจ้าค่ะ!"
คนทำพลาดปั้นน้ำเป็นตัวขณะที่ตัวยังคงสั่นเทิ้ม เรื่องอะไรจะยอมรับว่าตัวเองเป็นคนทำ หากมันไม่ยอมบอกเสียอย่างแล้วใครจะมาแส่รู้
อีกอย่างตอนนี้
อีน้อยมันก็พูดไม่ได้แล้ว ..
แล้วก็กูนี่แหละที่ตัดลิ้นมันเองกับมือ !
"อ่อ..งั้นหรือ"
สายธารพยักหน้ายกยิ้มมุมปาก นัยน์ตาจ้องมองไปยังคนกล่าวอย่างไม่อาจคาดเดา เพียงชั่ววูบอีแจ่มคิดว่าตัวเองจะโดนจับได้ว่าปลิ้นปล้อนกะล่อนตอแหล แต่ไม่นานสีหน้าผู้เป็นนายก็แปรเปลี่ยนเป็นใสซื่อบริสุทธิ์ดังเช่นเดิม
"เอ้า นี่ค่าตอบแทนของเอ็ง เอาไปให้อีน้อยด้วย"
สายธารยื่นถุงกำมะหยี่สีแดงให้บ่าวรับจ้างด้วยท่าทางอ่อนโยน อีแจ่มลังเลมองซ้ายมองขวาก่อนจะตัดสินใจยื่นมือสากหนาไปรับอย่างเก้ๆกังๆ มันแง้มเปิดถุงดูเล็กน้อยแล้วจึงทำตาโตลุกวาว เงินทองมากมายพอที่มันจะใช้หนี้แล้วหนีไปตั้งตัว
"รีบไป"
สายธารว่าพลางโบกพัดในมืออีกครั้ง เจ้าตัวไม่ได้ว่ากล่าวหรือตำหนิติเตียนกระไรเพิ่มเติม อีแจ่มมองเห็นเช่นนั้นจึงรีบก้มลงกราบผู้ว่าจ้างแล้วจึงลุกเผ่นแน่บออกไปจากศาลาริมคลองด้วยความว่องไว
โชคดีฉิบหาย ! อีพวกผู้ดีหน้าโง่ !
สายธารใช้สายตาลึกล้ำจ้องมองตามหญิงสาววัยเกือบกลางคนไปจนลับตา ทั้งบ้าเงิน บ้าอำนาจและสามารถทรยศเพื่อนตัวเองได้ลง
ไม่มีอะไรดีเสียเลยยกเว้นปาก กะอีแค่ว่าจ้างให้ไปป่าวประกาศว่ารัญเป็นคนสองใจก็ไม่ได้เรื่อง
แล้วกูจะเก็บมึงไว้ทำไมอีแจ่ม
"พวกมึงสองคน รู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไง"
สายธารเอ่ยเสียงเรียบเฉยบอกกล่าวบ่าวสนิทสองคนที่ตามรับใช้ มันสองคนขานรับด้วยความภักดีก่อนจะพากันลุกขึ้นเดินตามเส้นทางที่อีแจ่มใช้เมื่อสักครู่อย่างเชี่ยวชำนาญการ
ก็นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เพิ่งจะมาตามเก็บกวาดเสียหน่อย
สายธารยกแก้วชาร้อนบนโต๊ะกลางศาลาขึ้นมาจิบช้าๆ ดวงตาสีดำเหม่อมองกระแสน้ำลำคลองด้วยความอารมณ์ดี
ไม่นานเสียงเพลงก็ถูกบรรเลงจากริมฝีปากคนตัวเล็กเบาๆ มันถูกขับขานไปยังทั่วคุ้งน้ำดูน่าขนลุกแปลกประหลาดพิกล
ราวกับเป็นเสียงเปรตโหยหวนจากชั้นต่ำสุดของนรกภูมิ
"ฮึม ฮือ ฮึม ฮึม ฮืออ ~ (เสียงฮัมเพลง)"
.
.
.
จะอีกกี่สิบปี รัญก็ยังคงไร้ความสามารถในการจดจำเส้นทางเดิน คนตัวเล็กมัวแต่ห่วงหนีบ่าวไพร่อย่างใบบัว มารู้ตัวอีกทีรอบข้างทางที่เดินไปก็มีแต่ป่าไผ่ไร้เงาคน
บรรยากาศแสนวังเวงน่าขนลุกทำใจเอาร่างบางต้องกอดอกกลบความหนาวเหน็บ รัญเหลือบมองขนบนแขนเล็กของตัวเองที่กำลังตั้งชูชันด้วยความหวาดกลัว ไม่รู้เลยว่าควรจะก้าวต่อไปหรือถอยหลังกลับ ยืนนิ่งทะเลาะกับตัวเองสักพักก่อนจะถอนหายใจแล้วตัดสินใจที่จะไปต่อ
กลัวน่ะกลัว
แต่ก็ห่วงคุณเทียนมากกว่า
'ซ่าาา'
เหมือนฟ้าเป็นใจหรือผีสางที่ไหนบันดาล รัญเงยหน้าจ้องมองเมฆก้อนใหญ่ที่ลอยผ่านพร้อมสาดหยาดฝนลงมากระทบดินด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
เทวดาเจ้าเอ๋ย หรือท่านยังเห็นข้าน้อยกลัวไม่พอหรือ ?
คนตัวเล็กคว่ำปากกำคอเสื้อสีขาวบางของตัวเองแน่น ก่อนจะค่อยๆเพิ่มกำลังฝีเท้าวิ่งหาที่หลบฝน เพื่อจะได้หาที่นั่งลงพักผ่อนหย่อนใจ รัญวิ่งไปพลางนึกก่นด่าตัวเองไปอยู่ในใจ ว่าตนนั้นไม่น่ายกเสื้อคลุมหนาให้มิ่งเอาเสียเลย ไม่เช่นนั้นตนก็คงพอจะมีผ้าหนาคลุม บรรเทาอาการหนาวเหน็บจากเม็ดฝนลงได้บ้าง
รัญวิ่งมาสักพักใหญ่ก่อนจะพบกระท่อมเล็กๆหลังหนึ่งบริเวณข้างทางเนิน คนตัวเล็กย่องเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะต้องเบิกตากว้างแปลกใจเมื่อได้พบว่า มีบุคคลที่แสนคุ้นเคยนั่งหลบฝนอยู่เช่นกัน
"คุณแทน?"
เจ้าของชื่อนั่งเหยียดหลังตรงแววตาสุดจะหยั่งถึง เขาค่อยๆหันมามองรัญก่อนจะยกยิ้มให้คู่หมั้นอย่างเป็นปกติ
แทนไทไม่ได้มีท่าทีแปลกใจตอบรับเลยแม้สักนิด ยามเมื่อรู้ว่าผู้มาเยือนใหม่เป็นน้องชายคนเล็กสุดของเรือน
ราวกับเขารู้อยู่ก่อนแล้วว่าน้องจะมา
"..."
แทนไทชะงักไปเล็กน้อยครั้นเมื่อมองต่ำลงไปจากใบหน้าสวยหวาน เสื้อสีขาวที่มีหน้าที่ห่อหุ้มปกคลุมร่างกายกลับไม่ได้ทำหน้าที่ของมันเสียแล้ว หยดน้ำจากละอองฝนสาดเข้าที่ลำตัวเรียวขาวจนผิวสีนวลของน้องเปียกโชกไปตั้งแต่เท้าจรดหัว เป็นภาพที่ทำเอาพี่ชายคนโตถึงกับต้องกัดริมฝีปากหนาเพื่อยับยั้งชั่งใจ
โครตน่า...
"คุณแทนมาทำอะไรที่นี่ ?"
คนตัวเล็กเอ่ยถามน้ำเสียงใสแจ๋ว ยามเมื่อเห็นว่าผู้เป็นพี่เอาแต่จับจ้องตัวเขาเอง จนดูเหมือนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ครั้นพอจะยกสองมือไปแตะวัดไข้ให้ แทนไทก็กลับสะบัดหัวหนี ไอ้คนเป็นน้องก็ได้แต่อ้าปากเหวอใบหน้าชาไปทั้งแถบ พลางนึกคิดว่าตนทำอะไรผิดไปจนคนเป็นพี่ไม่พอใจกัน
"พี่ไม่ได้เป็นกระไร"
แทนไทยกยิ้มมุมปากขยับตัวเลื่อนไปทางขวา ก่อนจะตัดสินใจใช้มือหนารั้งเอวผู้เป็นน้องดึงลงมานั่งที่ว่างทางด้านซ้าย
"อ๊ะ.."
รัญไม่ได้ทันตั้งตัวรับจึงยืนตัวแข็งทื่อไม่ยอมโอนอ่อนไปตามแรงดึง ก่อนในที่สุดจะตกใจร้องเสียงหลง เมื่อยามสองเท้าเล็กอลวนพันกันจนเซล้ม ส่งผลให้ศีรษะเรียวเล็กเอนเอียงไปกระทบใบหน้าของอีกฝ่ายจนเกิดเสียงโขกดัง
'กึ้ก'
"โอ๊ย !"
เป็นรัญที่ร้องออกมาเสียงดังสนั่น ในขณะที่ผู้เป็นพี่เงียบกริบถึงแม้ว่าตอนนี้เลือดกำเดาเขาจะกำลังไหลเป็นทางยาว รัญเอื้อมสองมือลูบหัวตัวเองด้วยความเจ็บปวด ครั้นจะหันไปคาดโทษคนพี่ก็ต้องตกใจเสียยิ่งกว่าเดิมยามเมื่อเห็นว่าแทนไทนั้นกำลังเลือดไหลไม่ยอมหยุด
"คุณแทน! คุณแทนเจ็บมากไหม น..น้องขอโทษ น้องไม่ได้ตั้งใจ"
คนน้องลุกลี้ลุกลนทำอะไรไม่ถูกจนมือไม้พันกันชุลมน รัญน้ำตาคลอรู้สึกผิดใช้มือเรียวเล็กของตัวเองลูบไปที่จมูกของอีกฝ่ายเบาๆเพื่อเช็ดเลือดสีแดงฉานออก
คนเป็นพี่ไม่ได้พูดหรือกล่าวตำหนิ เขานั่งนิ่งเงียบเฝ้ามองการกระทำเหล่านั้นด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบายนัก แทนไทไม่รู้ตัวเลยว่าแววตาอาลัยอาวรณ์กำลังถูกใช้เพ่งมองผู้เป็นน้อง ยิ่งยามมองใกล้ๆก็ยิ่งอยากครอบครองและได้น้องคืน
อยากได้..
อยากได้น้องคืนใจจะขาด..
"ทำไมไม่หยุดไหลเลย ทำยังไงดีคุณแทน บอกน้องสิ น้องจะทำ น้องไม่รู้วิธี"
คนตัวเล็กกว่าไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวว่ากำลังอยู่กลางไฟ ปากก็พร่ำเป็นห่วง ส่วนมือไม้ก็ไม่ยอมอยู่สุข รัญพยายามคิดหาวิธีล้านแปดอยู่ในหัวเพื่อหยุดอาการบาดเจ็บของพี่ชายคนโตสุด เป็นห่วงคนทางนี้น่ะใช่ แต่เผอิญตอนนี้เป็นห่วงคนทางนั้นมากกว่า ยิ่งฝนตกเสียด้วย..
คุณเทียนจะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้
"รัญอยากช่วยพี่หรือ"
แทนไทเอ่ยถามเสียงนิ่งเรียบ หากแต่แววตาวูบไหวสั่นคลอนราวกับกำลังออดอ้อนอยู่ภายใน
"ใช่ คุณแทนบอกน้องสิ"
คนตัวเล็กพยักหน้ารับจ้องหน้ากลับด้วยความแข็งขันพร้อมรับคำสั่งสอน แทนไทเหลือบมองใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำฝนดูน่าอภิรมย์ ก่อนจะแปรเปลี่ยนสายตาเป็นดุดันคมกริบยามเมื่อจ้องผ่านเลยน้องไป
แทนไทยกยิ้มมุมปากถือดี ก่อนจะยกสองมือหนาขึ้นมารั้งศีรษะรัญเข้ามาใกล้ใบหน้าตน แต่รัญชะงักขืนตัวไว้ไม่ยอมเอนอ่อนตาม น้องเบิกตากว้างกระซิบถามเสียงเบาด้วยความตกใจ
"คุณแทนจะทำอะไร.."
"น้องอยากช่วยพี่ไม่ใช่หรือ นี่ไงวิธี"
แทนไทตัดสินใจใช้เรี่ยวแรงกำลังทั้งหมดที่มี รั้งคอรัญเข้ามาอีกครั้งก่อนจะประกบริมฝีปากตัวเองลงไป รัญตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก ครั้นจะผลักออกคนพี่ก็เหมือนจะรู้ทันใช้มือหนาจับล็อคสองแขนไว้กับพื้น แทนไทส่งลิ้นเข้าไปสำรวจโพรงปากหวานของอีกฝ่ายจนรัญใบหน้าร้อนผ่าวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เขาตวัดลิ้นตัวเองเล่นกับริมฝีปากล่างของอีกคนก่อนจะกัดทำรอยลึกลงไปจนเป็นแผล รัญร้องครางออกมาด้วยความตกใจ หูสองข้างอื้อไม่ได้ยินแม้แต่เพียงหยดน้ำฝน ครั้นสติทั้งหมดจะดับสิ้นลง เสียงเพรียกหาของอีกคนก็ดังขึ้นทันตา
'น้องรักพี่หรือไม่'
ภาพอดีตไหลย้อนกลับสู่ห้วงคำนึงของคนเป็นน้อง เหตุการณ์ที่ลืมสนิทปรากฎขึ้นเป็นฉากๆราวกับเตือนใจว่านี่ไม่ใช่จูบครั้งแรกที่ได้เสีย
มันเป็นจูบครั้งที่สอง
จากพี่ชายคนที่สอง
แต่ทว่าความรู้สึกกลับแตกต่างออกไปจากนั้นโดยสิ้นเชิง ไม่ได้น่าโหยหาทำให้อ่อนยวบจนต้องเป็นลม แต่กลับรุนแรงและรู้สึกไม่ใช่จนขยะแขยง
ขยะแขยงกับคุณแทนเนี่ยนะ ?
เป็นครั้งแรกที่รัญคิดว่าตัวเองเป็นบ้าไปแล้ว
ร่างเล็กเริ่มขยับดิ้นสั่นแรงยามเมื่อพี่ชายคนโตเริ่มสอดมือล้วงเข้ามาในเสื้อขาว แทนไทรับรู้ว่าน้องไม่ได้โอนอ่อนหรือรู้สึกหวั่นไหวก็ยิ่งมีน้ำโห เขาพยายามกดจูบอยู่อย่างนั้นไม่ยอมปล่อยน้องไปไหน จนในที่สุดรัญก็ทนไม่ไหวตัดสินใจใช้สองเท้าถีบเข้าไปที่ท้องของผู้เป็นพี่จนตัวแทบปลิว
"ค..แค่ก..แค่กๆ"
แทนไทก้มลงกุมท้องตัวเองด้วยความจุก เขาไอโขลกพลางเหลือบขึ้นมองน้องด้วยแววตาอ้อนวอน ทว่ารัญกลับส่งสายตาแข็งกร้าวมาให้อย่างไม่ไยดี คนตัวเล็กผละออกจากที่นั่ง ถอยหลังจนร่างกายพ้นจากชายคา รัญกลั้นเสียงสะอื้น ปล่อยหยาดน้ำตาให้สายฝนชะล้างทั้งหมดไป ริมฝีปากที่เป็นแผลจากการโดนกัดแสบจนทำร่างกายแทบสะท้าน แต่ผู้เป็นน้องกลับฝืนยืนนิ่งเฉยอยู่อย่างนั้นราวกับไม่รู้สึกรู้สา
"อย่า.."
รัญหอบหายใจถี่ พยายามกลืนเสียงสะอื้นลงลำคอระหง ยิ่งจ้องหน้าพี่ชายคนโตก็ยิ่งรู้สึกแปลกประหลาดไปจากนั้น
"อย่า..ทำแบบนี้อี-"
"อย่าไปเลยนะ"
แทนไทไม่ต้องการรับฟังคำปฏิเสธจากคู่หมั้นตรงหน้า เขาเอ่ยตัดบทขอร้องอย่างหมดสภาพผู้พิทักษ์ไพร่ฟ้าประชาชน
"ไม่ไปได้ไหม เป็นพี่ไม่ได้หรือ.."
รัญกลืนน้ำลายเสียงดัง กัดริมฝีปากบางของตัวเองแน่น คนตัวเล็กก่นด่าตัวเองอยู่ในใจว่าเป็นอะไรไปทำไมรู้สึกเช่นนี้
"น้องขอโทษ"
ขอโทษทั้งๆที่ไม่รู้ว่าตัวเองผิดอะไรเสียด้วยซ้ำ
"รัญ.."
"น้องต้องไปแล้ว"
รัญเอ่ยเสียงเรียบเฉย คนตัวเล็กเงยหน้าจ้องมองฝนที่ยังคงแรงขึ้นเรื่อยๆด้วยใจหวาดหวั่น ไม่ได้กลัวว่าตัวจะเปียกหรือบรรยากาศวังเวงอะไรอีกแล้ว เพราะตอนนี้สิ่งที่กลัวที่สุดคือ
ทศเทียนอยู่ที่ไหน
รัญเหลือบมองแทนไทเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะก้าวสองขาวิ่งฝ่าสายฝนไปโดยไม่ฟังคำคัดค้าน แทนไทกำสองมือแน่นด้วยความโมโห เขาหันไปยังหลังต้นไม้ใหญ่อีกทางที่บังเอิญได้เห็นก่อนจะตัดสินใจจูบน้องไป
แต่ทศเทียนไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว
แทนไทยกสองมือกุมหัวคิดแค้นน้องชายคนรอง สิ่งที่รัญแสดงออกมันคือความชัดเจนของความสัมพันธ์ระหว่างรัญและทศเทียนเต็มรูปแบบ
สองคนนั้นเป็นชู้กันแล้ว
แทนไทยังคงปักหลักฝังใจเชื่อในสิ่งที่ได้ฟังมา ไม่ได้คิดเลยว่าการกระทำตัวเองมันน่ารังเกียจจนทำให้ทุกอย่างออกมาเป็นเช่นนี้เลย
.
.
.
ทศเทียนยืนมือไม้สั่นแน่นอยู่ภายใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่ เสียงห่าฝนยังคงดังระรัวราวกับจะตอกย้ำเหตุการณ์ที่เพิ่งจะได้มองเห็น สายฟ้าด้านบนแลบแปลบสว่างไปทั่วทั้งฟ้าราวกับเป็นสัญลักษณ์อารมณ์ที่กำลังปะทุจากก้นบึ้งของจิตใจ
กูจะฆ่ามึง
กูจะฆ่ามึง
กูจะฆ่าพวกมึงทุกคน !
.
.
.
.
#คุณแทนทำน้องหรอ! นี่แหน่ะ !!!!!!
Comments (0)