12 ตอน บทที่12 (Nc)
โดย WonderM
แทนไทเสพติดกามารมณ์ขั้นหนัก
นั่นเป็นความลับแขนงหนึ่งที่ถูกติดตรึงในดวงจิตของชายหนุ่มวัยยี่สิบหกปี
แทนไทช่วยตัวเองหลายต่อหลายครั้งตั้งแต่เมื่อครั้นเยาว์วัย เขาทำมันทุกวันจนบางครั้งก็เจ็บแสบจนถลอกปอกเปิกไปทั่วทั้งหมด หากแต่กระนั้นความกำหนัดในตัวก็ไม่เคยเลือนลางจางหาย
ยอมรับก็ได้ว่าพรางตัวเข้าหอโคมเขียวไม่เว้นวาย แต่ขอชู้สามนิ้วยืนยันได้ ว่าไม่เคยปันใจให้ผู้ใดแม้ใครสักคน
กระทั่งสายธารเองก็เถอะ
มีเพียงเศษธุลีเสี้ยวเล็กๆในห้วงความคิด ว่าคงหลงไปบ้างแล้วแต่ไม่เลย เพราะคนที่ทำให้ใจสั่นไหวในวันนี้กลับกลายเป็นคู่หมั้นที่ตนไม่เคยเหลียวมองคนนั้น
หากแต่วันนี้ก็เหลียวมองแล้ว แม้จะสายไป
ชายหนุ่มนอนตรงเหยียดขาสองข้าง เหลือบดวงตาจ้องมองเพดานกว้างอยู่บนเตียงสูงใหญ่ บรรยากาศเงียบเชียบปลุกเร้าอารมณ์คุกรุ่นในห้วงนึกคิด แววตาครุ่นคิดถึงใบหน้าหวานเรียวเล็ก ของใครคนหนึ่ง สองมือกร้านหนาประสานรูดกำแท่งความเป็นชายขึ้นลงช้าๆจนมันแข็งตั้งขึ้นชูชัน ริมฝีปากชมพูซีดส่งเสียงซี้ดซ้าดครางถวิลหาถึงผู้ปลุกความกำหนัดเร่าร้อน
"อ่า รัญ.."
รสจูบแสนไร้เดียงสาในวันเม็ดฝนโปรยปรายยังคงติดอยู่ที่ปลายลิ้น หากได้ลิ้มลองอีกสักครั้งครา แทนไทสัญญาว่าจะดูดมันจนเปื่อย
ชายหนุ่มกัดริมฝีปาก ชักแท่งกลางลำตัวถี่ขึ้นพลางหายใจหอบหนัก ปลายเท้าทั้งสองข้างจิกลงบนผ้าปูกำมะหยี่สีขาวแน่น จนทำให้ความเรียบเนียนที่บ่าวไพร่ปูตรึงไว้กลับกลายเป็นความยับยู่ยี่
"รัญ.. ซี้ดดด"
พี่ชายคนโตที่เพิ่งตระหนักได้ว่าตนนั้นช่างโง่เขลา มีอาการตัวกระตุกสองสามครั้งก่อนจะปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาท่วมสองมือหนา น้ำรักจำนวนมากไหลหยดลงบนที่นอนขาวสะอาดเป็นรอยวงกว้าง บ่งบอกถึงความต้องการที่มากล้นแต่ไม่ได้ปลดปล่อยมานานนับ
หากแต่จริงๆก็แค่3-4วันเท่านั้น
แต่แล้วอย่างไร สำหรับแทนไทแล้วมันช่างนานนัก นานจนอยากจะฉุดคร่าเจ้าตัวดีต้นเหตุของเรื่องราวเหล่านี้แล้วหนีหายไปในป่าใหญ่ด้วยกัน จากนั้นจึงค่อยลงมือกระทำชำเราให้สาแก่ใจ ให้สมกับที่น้องทำเขาเสียใจและเสียน้ำตา
แค่นึกภาพก็ช่างหฤหรรษ์
'ก๊อก ก๊อก'
เสียงเคาะประตูยามวิกาลเป็นสิ่งที่แทนไทเกลียดเข้าไส้ คนบนเรือนย่อมรู้ดีแก่ใจว่าเป็นสิ่งไม่ควรพึงกระทำ เพราะฉะนั้นจึงหมายความได้ว่า ถ้าไม่ใช่เรื่องน่าอึ้งทึ่งจนเหลือใจ คนเคาะก็คงเดาได้ว่าตนต้องชะตาขาดแล้วกระมัง
ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่งสีหน้าหงุดหงิด เขาค่อยๆเอื้อมมือดึงกางเกงที่กองอยู่หว่างขาขึ้นมาใส่ ผูกมัดเชือกรัดรอบเอวตรวจตราจนเรียบร้อย แล้วจึงหยิบบรรดาผ้าห่มหนึ่งผืนและหมอนสองใบ ขึ้นมาปกปิดไว้ซึ่งตรงรอยคราบกามารมณ์
'แอ๊ด'
"คุณสายธาร ?"
แทนไทเบิกตากว้างเมื่อครั้นเปิดประตูรับ
เหตุไฉนบุคคลที่ตนคิดว่าจะเป็นคนสุดท้ายบนโลกที่จะมาเคาะเรียก กลับกลายเป็นยืนจังก้าจ้องหน้าแววตาวิตกกังวลใจ
"มีอะไร" ชายหนุ่มเอ่ยถามพลางลอบมองซ้ายขวา ร้อยวันพันปีไม่เคยเลยที่จะมาเคาะเรียกกันซึ่งๆหน้า มีแต่จะลักลอบหากันในที่อโคจร
"รัญ.." สายธารหายใจหอบถี่ราวกับคนผ่านการใช้แรงกายมาอย่างหนักหน่วง แทนไทขมวดคิ้วทื่อเมื่อได้ยินชื่อคนรัก
"รัญทำไม"
"ร..รัญ"
"รัญทำไม!"
แทนไทกดเสียงเข้มน่าเกรงขามพลางเอื้อมสองมือหนาบีบเข้าที่บ่าของผู้เป็นแม่เลี้ยง
สายธารลอบเบ้ปากไม่พอใจก่อนจะปรับอารมณ์ใหม่ทำท่าตื่นตระหนกตกใจตามเดิม
"รัญ.."
"..."
"รัญหนีตามคุณเทียนไปแล้ว"
.
.
.
.
แทนไทสติขาดผึงทันทีที่ได้ฟัง เขาสอบถามบางอย่างให้แน่ชัดแค่คำสองคำ แล้วจึงเปิดลิ้นชักเอื้อมหยิบปืนพกประจำตัว ก่อนในที่สุดจะรีบวิ่งตรงดิ่งไปยังสถานที่ที่สายธารได้กล่าวบอกมา
กระท่อมปลายนา
สองคนนั้นนัดกันที่นั่นในยามกลางค่ำ ก่อนจะตกลงหนีกันในตอนรุ่งสาง
แทนไทรู้ได้ทันทีว่านั่นเป็นความจริง ก็แล้วทำไมถึงจะไม่รู้ล่ะ ในเมื่อครั้งตอนอาทิตย์อัสดงที่เลยผ่าน ข่าวว่าไอ้เทียนมันจะไปนอกเมืองโดยไร้รัญ เขาน่าจะเอะใจอยู่แล้วว่าไอ้เทียนน่ะหรือจะไปไหนไกลโดยไม่มีรัญ
ช่างเป็นแผนชั่วช้าสามานย์ยิ่งนักไอ้น้องชายสารเลว
พรากความรักจากพ่อกูไปแล้วยังจะพรากคนรักกูไปอีกหรือ
มึงไม่น่าเกิดมาเลยทศเทียน
แทนไทวิ่งฝ่าร่องดินร่องน้ำโดยไร้อาภรณ์ปกปิดสองเท้า แม้จะมีดินหยาบโคลนตมเลอะเต็มสองข้างตีน ซ้ำยังมีรอยขีดข่วนจากบรรดาเศษไม้ใหญ่ แต่นั่นไม่ก็สามารถระคายเคืองคุณชายสิงหเลิศเดชาได้อีก เขาหยุดการเคลื่อนไหวทุกอย่างลงเมื่อกระท่อมที่ว่าตั้งตระหง่านอยู่บริเวณข้างหน้า แทนไทกัดฟันใช้มือหนาเอื้อมหยิบจับปืนพกที่เหน็บไว้มา ก่อนจะตัดสินใจผลักประตูเข้าไปด้วยท่าทีร้อนรน
ณ ที่แห่งนั้นมีเพียงแค่แสงสว่างส่องจากเทียนไขเล่มเล็กๆ มันช่างดูสลัวราวกับจะมืดมนมากกว่าเฉิดฉาย บนแคร่กลางเรือนปรากฎร่างเล็กร่างหนึ่งนอนนิ่งสนิทหันหลังให้แก่คุณชาย ข้างกายมีเศษใบขีดเขียนสั้นๆได้ใจความ
เจอกันตอนรุ่งสาง
ทศเทียน
ยิ่งอ่านก็ยิ่งมีน้ำโหจนใบหน้าขึ้นสี แทนไทก้าวสองเท้าไปหยุดลงตรงหน้าแคร่ พลางยื่นสองมือหนาลูบไล้ไหล่บางด้วยความสับสน เหตุใดใยถึงจะทิ้งกันได้ลง ทั้งๆที่ตนนั้นมีดีกว่ามันทุกประการ
คนตัวสูงจ้องมองคนตัวเล็กกว่าที่เดาว่าคงกำลังนอนหลับไหล เขากัดริมฝีปากยับยั้งชั่งใจก่อนจะทนไม่ไหวขยับกายนอนลงแล้วสอดตัว
"รัญ.." แทนไทกระซิบข้างหูลมหายใจรดใกล้ลำคอระหง
"..."
"เป็นของพี่เถิดหนา" เสียงเบาบางลอยหายไปตามลมทว่าความปรารถนาลุ่มหลงกลับยิ่งทวีคูณ
ไอ้มิ่งนอนตะแคงข้างลืมตาโพลงท่ามกลางความหนาวเหน็บ แสงสลัวจากเทียนไขไม่อาจทำให้ทราบได้ว่าผู้มาเยือนใหม่เป็นผู้ใดกัน จวบจนกระทั่งมือหนาของเขาลูบไล้แผ่นอกและลมหายใจอุ่นรดลงตรงแผ่นหลัง ใบหน้าหล่อเหลาจึงค่อยปรากฎขึ้นเมื่อครั้นเอื้อมถอดกางเกงบางของตน ภาพนั้นจะติดตรึงในดวงจิตไอ้มิ่งไปอีกนานแสนนานเพราะมันทำเอาคนเป็นบ่าวเข่าอ่อนจนระทวย แต่ก็เพราะด้วยกลัวขี้กลากขึ้นบนหัวมากกว่าจะหลงคารม
คุณแทนไทนับเป็นผู้มีพระคุณ จะกลายเป็นเช่นนี้คงไม่ได้การ
ไอ้มิ่งพยายามส่งเสียงร้องห้าม แต่เพราะถูกปิดคาดปากไว้แน่นนัก เสียงที่ดังออกไปจึงกลายเป็นเสียงอื้ออึงคล้ายพึงพอใจเหมือนครางรับ
"อื้อออ อื้ออออออ"
"เงียบ!"
ยิ่งตวาดเสียงดังนักนายที่ตนเคารพรักก็ยิ่งกระชากดูดกัดอย่างทารุณ ไอ้มิ่งน้ำตาคลอเบ้าเพราะเจ็บปวดเหลือคณา ครั้นจะผลักไสให้ออกห่าง สองมือเรียวบางก็ถูกจับมัดรวบตึง
ไอ้มิ่งนึกโกรธสายธารจนดวงตาแทบถลน ยาที่โดนอีห่ากเฬวรากนั่นกรอกเข้าปากช่างแรงกล้าเกินทน กูต้องมากลายเป็นสนมนอนให้เจ้านายขืนใจก็เพราะมึง !
แทนไทบดจูบตรงลำคอระหงของร่างเล็กจนขึ้นสี เมื่อย่ำยีจนรู้สึกพอใจ จึงค่อยพลิกกลับอีกฝ่ายให้อยู่ในท่าหันหลังคล้ายท่าหมา ก่อนจะจับคนใต้ร่างแหวกถ่างขา ใช้แก่นกายตัวเองถูไถตรงช่องทางเข้าแล้วจึงจับยัดลงไปโดยไร้ตัวช่วยอย่างอื่นเลย
ความใหญ่โตคับแน่นในตัวคนใต้ร่าง จนไอ้มิ่งสั่นเทาจนแทบทนไม่ไหว
"โอ๊ยย อื้ออออืออ"
รัญในความคิดของแทนไทครางเสียงอื้ออึงยามเมื่อโดนขี่โยก แทนไทเหยียดยิ้มพึงพอใจกระแทกกระทั้นเอวสอบถี่ ก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือหนาไปบีบรัดคออีกคนจนเกิดเป็นความรุนแรงด้วยเพราะรสนิยม
ไอ้มิ่งตาเหลือกขึ้นซ้ำยังหายใจติดขัด ข้างบนโดนรวบตึงรัดด้วยมือหนา ส่วนข้างล่างโดนสอดด้วยท่าหมาจนจุกแสบ มันน้ำตาไหลพรากแต่ก็สุขสมเพราะลูกชายที่คอยเอนอ่อนบัดนี้กลับตั้งชูชัน
"รัญ ซี้ดดด"
"อ๊ะ .. อ๊ะะ"
"ในที่สุด เราก็เป็นผัวเมียกัน"
แทนไทครางชื่อคนที่ตัวเองคิดว่ากำลังทำรัก ฉับพลันไอ้มิ่งก็คิดได้ว่านี่มันผิด แต่ถึงกระนั้นเรี่ยวแรงของชายหนุ่มผู้ถูกวางยาหรือจะสู้ชายหนุ่มร่างกายกำยำสติครบถ้วนได้ มันต่อต้านสะบัดตัวหนีสองสามครั้งก่อนในที่สุดจะโดนฝ่ามือหนาตบเข้าที่ใบหน้าจนเกิดอาการชาและโดนตามมาบีบคอซ้ำจนสายตาพร่ามัว
สิ่งสุดท้ายที่ไอ้มิ่งเหลือบตามองเห็นก่อนจะหมดสติ คือใบหน้าหื่นกระหายของปีศาจร้ายในคราบเทพบุตรจอมปลอม มันสัญญากับตัวเองว่ามันจะจำสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ตลอดไป
เพื่อที่มันจะได้เอาคืน
.
.
.
.
รัญใจเต้นสั่นระรัวเมื่อครั้นเห็นภาพตรงหน้าในยามรุ่งสาย บ่าวรับใช้ของสายธารกระวีกระวาดหน้าตาตื่นเพรียกหานายทุกคนตั้งแต่ไก่ยังไม่ทันขันโห่ ก่อนในที่สุดจะป่าวประกาศความอัปรีย์จัญไรของบุตรชายคนโต และนำพาครอบครัวใหญ่โขมาเป็นศักขีพยานถึงความต่ำตม
รัญกอดแขนพี่ชายคนรองที่ยืนอยู่ข้างกันแน่นด้วยเพราะเจ็บช้ำน้ำใจ และรู้สึกสะอิดสะเอียนกับภาพที่เห็น ทศเทียนเอื้อมมือหนาโอบกอดรัญมาไว้แนบอก พลางจ้องมองสองร่างบางหนาที่กำลังนอนกอดกันบนแคร่ในกระท่อมปลายนาด้วยแววตาเรียบเฉย ด้านธานินทร์เองลมแทบจับเมื่อเห็นว่าบุตรชายคนที่ตนโปรดปรานนัก กระทำการหยาบช้าอยู่ภายใต้จมูก
หากอยากได้ไอ้มิ่งเป็นเมียใยจึงไม่พาเข้าเรือนให้ถูกประเพณี มาแอบได้เสียกันไม่เลือกที่เหมือนเดรัจฉานให้อายบ่าวไพร่เพื่ออะไรกัน
บ่าวไพร่เกี่ยงกันอยู่นานนัก จนทศเทียนรำคาญหู เขาเลยพยักหน้าให้รัญบ่งบอกว่าไม่เป็นไร ก่อนจะเป็นฝ่ายอาสาเข้าไปปลุกพี่ชายที่น่าเวทนา ยิ่งเข้าใกล้เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าแทนไทช่างโง่เง่าน่าสมเพชเหลือคณาเต็มทน
'ซ่า'
น้ำเป็นสิ่งที่ทศเทียนเลือกใช้แทนคำพูดคำจา เอากันเหมือนหมาก็ถูกปลุกเหมือนหมานั่นย่อมถูกควร
คนที่สะดุ้งตื่นจากนิทราก่อนคือแทนไท เขาปรับสายตารับแสงจ้าจากดวงอาทิตย์ แล้วจึงค่อยจ้องมองทศเทียนด้วยแววตาเหยียดหยามเกินทน แต่ครั้นพอมองผ่านเลยไปเห็นอีกคน รอยยิ้มทั้งหมดก็หุบลงแทบไม่ทัน
"รัญ.."
"คุณแทน.."
"ทำไม.."
"คุณแทนทำกระไร.."
แทนไทชะงักหันกลับมาเปิดผ้าห่มบางที่ปกปิดใบหน้าคนข้างกาย ก่อนที่จะเบิกตากว้างตกใจกับสิ่งที่ตนทำลงไปตลอดทั้งคืน
รอยช้ำจ้ำเขียว รอยฟันกัด และรอยเลือดมุมปาก ทั้งหมดนั่นคือสิ่งที่เขาลงมือ แต่ที่สำคัญเลยก็คือ
นี่ไม่ใช่รัญ
Comments (0)