รัญนอนไม่หลับ เหตุไฉนใยคนหัวถึงหมอนแล้วกรนครอก กลับกลายเป็นลืมตาสว่างโร่เนื้อตัวสั่นกระเส่า 

 

ลางไม่ดีเสียแล้วกระมัง

 

หรือว่าจะจับไข้กันหนา.. ?

 

คนตัวเล็กลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะเดินไปส่องกระจกหนาเขรอะบานใหญ่ข้างเตียงกว้าง สีหน้าท่าทางสะท้อนกลับบ่งบอกว่าไม่ค่อยดีนักสักเท่าไร เจ้าตัวดียกสองมือเรียวสวยลูบใบหน้า ใต้ตาดำคล้ำเป็นรอยลึกบุ๋ม เส้นผมยุ่งเหยิงไม่เรียงตัวสลวยสง่า ครั้นจะบอกว่าคล้ายคนโดนของก็คงไม่ผิดแปลก

 

ปั้ง ปั้ง ปั้ง !

 

รัญสะดุ้งตัวพลันเมื่อเสียงเคาะประตูดังลั่นถึงสามหน แต่หลังจากตั้งสติประคองตน จากขุ่นเคืองอารมณ์ก็แปรเป็นอภิรมย์ใจ เจ้าตัวดีแอบยกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย ครั้นเมื่อพินิจตริตรองได้ ว่าคนเคาะประตูแบบแข็งกะด้างในเรือนไทย ก็คงไม่พ้นผู้ชายที่มีนามว่าทศเทียน 

 

ใช่ .. ผู้ชาย

 

เจ้าตัวดีไม่ได้เรียกทศเทียนในใจว่าพี่ชายอีกแล้ว

 

 ปั้ง ปั้ง ! ปั้ง !

 

"ใจร้อนเสียจริง.. มาแล้วๆ ! " ประโยคแรกนั้นอุทานเบาๆด้วยความขันขำ ส่วนประโยคหลังนั้นป้องปากกู่ร้องให้ได้ยินเสียง

 

ไม่นานเจ้าตัวดีก็ก้าวเดินฉับๆ ไปยังเป้าหมายด้วยใบหน้าอบอวลรอยยิ้ม พลางนึกคิดจะแกล้งคนที่อยู่ภายนอกให้เกิดอารมณ์ฉุนเฉียวใจ

 

"ไม่เปิดดีไหมน้า ~"

 

รัญขำคิกคักพลางเขย่งเท้าเตรียมเอื้อมมือปลดกลอนประตูสูง

 

ปั้ง ! ปั้ง ! ปั้ง ! ปั้ง ! ปั้ง !  ปั้ง ! ปั้ง ! ปั้ง ! ปั้ง ! ปั้ง ! ปั้ง ! ปั้ง ! ปั้ง ! ปั้ง ! ปั้ง! 

 

แต่ครั้นพอสองมือเรียวสวยจะยื่นถึงกลอนประตูใหญ่ เสียงเคาะกลับสั่นไหวอึกทึกโครมครามน่าฉงน ส่งผลให้คนที่เอื้อมสองมือจับคลายกลอนตรงหน้าตน รีบชักกลับสู่อ้อมอกตนด้วยความตื่นตระหนกใจ

 

"นั่นใคร.." รัญเอ่ยถามเสียงสั่นระริก 

 

"...."

 

"ถามว่าใครไง.."

 

"...."

 

ไม่มีตอบกลับแม้แต่เสียงลมหายใจ เพราะแม้กระทั่งเสียงเคาะที่เคยดังก็เงียบสงัดไปในทันตา

ช่างดูน่าฉงนสนเท่ห์ต่อเจตนาสิ้นดี

รัญกลืนน้ำลายเสียงดังอึก สีหน้าหม่นหมองยิ่งเกิดอาการซีดเซียว คล้ายจะเป็นลมล้มลงยืนไม่ไหว แต่ครั้นเมื่อพอยืนสงบรวบรวมตั้งสติได้ เจ้าตัวก็รีบหันซ้ายขวาหาอาวุธภายในห้องตน

หมอนแข็งทรงสี่เหลี่ยมที่ผู้เป็นพ่อยกให้มา เป็นสิ่งเดียวที่เจ้าตัวดีกอบโกยคว้าขึ้นมาได้ รัญรู้ดีว่าช่างปัญญาอ่อนที่จะเอาหมอนไปสู้กับภัยอันตราย แต่ดูท่ามันจะกลายเป็นของที่แข็งที่สุดในบรรดาข้าวของที่รัญมี

 

"พี่เอง"

 

ขณะที่รัญกำลังตบตีกับความคิดตัวเองอยู่ เสียงคุ้นเคยก็เอ่ยดังขึ้นหากแต่แต่ละคำช่างสั่นไหว เจ้าตัวดีขมวดคิ้วแน่นอนว่าจำเสียงนั้นได้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจ ว่าเหตุใดต้องมาเยือนห้องตน

 

"คุณแทนหรือ..?"

 

"...."

 

"คุณแทน.."

 

ปั้ง ! ปั้ง ! ปั้ง ! ปั้ง ! ปั้ง ! ปั้ง ! ปั้ง !

 

"เปิดประตู !"

 

รัญตัวสะดุ้งโหยงกับเสียงเคาะซ้ำ ทั้งยังผวากับเสียงคำรามเฉกเช่นปีศาจร้าย เจ้าตัวดีเริ่มน้ำตาคลอ สองมือถือจิกหมอนในมือจนเป็นรอยลึกยวบลงไป ทำเฉกเช่นราวกับว่าหากประตูถูกเปิดออกเข้ามาได้ อาวุธชิ้นนี้จะทำอันตรายต่อผู้อยู่เบื้องหน้าจนตายคามือ

 

"ค..คุณแทนมีอะไร.."

 

รัญยังคงคุมน้ำเสียงและคำพูด หวังที่จะใจดีสู้เสือแม้จะตื่นกลัวมากแค่ไหน

 

"เปิดประตูสิวะ !"

 

"คุณแทนใจเย-"

 

"เปิดประตู!!"

 

ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง!

 

รัญหลับตาปี๋ รู้สึกกลัวเต็มทนกับความกักขฬะหยาบช้าของผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชายคนโตคนนี้ ซ้ำยังเป็นอดีตคนที่ตนเคยรักด้วยนั้นแล้ว

 

มันเกิดอะไรขึ้นกับคุณแทนสุภาพบุรุษผู้แสนดีกันแน่

 

เข่าสองข้างบนท่อนขาเรียวสวยค่อยๆทรุดนั่งลงจนติดพื้นไม้ สองมือน้อยยกขึ้นปิดกกหูถึงแม้จะสั่นไหว เจ้าตัวดีกัดฟันกลั้นเสียงสะอึกสะอื้นกลืนลงคอไป พลางอดที่จะคิดติเตียนถึงพวกบ่าวไพร่และคนบนเรือนไปไม่ได้ ว่าเสียงแสนจะดังหนวกหูมากมาย

 

ไฉนจึงช้าอยู่ไย

 

เหตุใดจึงไม่มา

 

คุณเทียน..