บทลงโทษของบ่าวไพร่ละโมบโลภมาก คือการจับมันมาเฆี่ยนด้วยไม้หวาย100ครั้ง แล้วราดด้วยน้ำเกลือลงไปซ้ำ100ที หากแต่พอเป็นผู้มียศถาบรรดาศักดิ์แล้วนั้น บทลงโทษกลับกลายเป็นอะไรที่ง่ายดายนัก เช่นการถูกกักขังจองจำอยู่ในตัวเรือนสัก7-8วัน ให้พอกลบข่าวฉาวที่กำลังอบอวล

คนทำผิดแหกตาตื่นหลับตาลงอยู่ในห้องสบายใจเฉิบ ส่วนเหยื่อต้องมานอนเบิกตากว้างรับกรรม และไม่สามารถหยุดระแวดระวังเพื่อหลับตาได้ลง

 รัญเฝ้ามองไอ้มิ่งที่นั่งหัวเราะกอดเข่าตัวเองอยู่มุมห้องด้วยแววตาเศร้าสร้อย สองมือน้อยยกปิดปากเวทนาน้ำตาไหล คนตัวเล็กสะอึกสะอื้นจดจำเหตุการณ์ทุกอย่างตอนกลางวันได้ ว่าหมอวินิจฉัยกล่าวไว้ว่าบ่าวไพร่กลายเป็นบ้าตลอดกาล

ทศเทียนเกลียดทุกหยดน้ำตาของรัญ เกลียดไปกว่านั้นคือต้นเหตุที่ทำให้รัญต้องร้องไห้ แม้แทนไทจะยืนยันว่าเมาและตนนั้นไม่เคยตั้งใจ แต่ชายหนุ่มย่อมรู้ดีแก่ใจว่าพี่ชายโง่เง่านั้นทำไปเพราะอะไรกัน

"รัญ กลับเรือนกันเถิด" ทศเทียนย่างก้าวเงียบเชียบเข้าใกล้ชิดคนตัวเล็กกว่า ก่อนจะแตะฝ่ามือหนาลงบนบ่าปลอบประโลมอย่างบางเบา รัญชะงักไม่ได้ตอบกลับแต่พยักเพยิดหน้าขึ้นลงเบาๆ เป็นอันตกลงว่าไม่ได้คัดค้านอะไร

 

"ไม่!!!"

 

ไอ้มิ่งกรีดร้องจ้องมองเจ้านายสองคนดวงตาแทบถลนก่อนจะกระเสือกกระสนถลาวิ่งเข้าใส่ ทศเทียนเป็นฝ่ายที่ว่องไวจึงรีบดันน้องให้หนีหลบไป แล้วก้าวเท้าฉับไวมายืนแทนที่ในตำแหน่งนั้นแทบทันที

ไอ้มิ่งที่กำลังจะถึงตัวหยุดชะงักกลางคัน ก่อนที่มันจะทรุดตัวลงไปคลุกดินนอนดีดดิ้นร้องซ้ำๆว่ากลัว ๆ

 

"กลัว! กลัว!! ออกไป!! กลัว!"

 

"มิ่ง! มิ่ง!" 

 

รัญน้ำตาคลอเบ้าเป็นห่วงบ่าวไพร่ที่เคยเล่นด้วยเมื่อครั้งเยาว์วัย พอครั้นจะย่อตัวลงไปหาพี่ชายคนรองก็ดึงรั้งไว้ไม่ยอมปล่อยมือ

ทศเทียนกำข้อมือรัญไว้จนเนื้อขาวนวลขึ้นสี แววตาหนักแน่นบ่งบอกว่าจะไม่ยอมให้น้องไปเสี่ยงกับอะไรแล้วทั้งนั้น เขาพยักหน้าให้รัญเงียบๆอย่างเป็นอันรู้กันว่าจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเอง รัญเห็นดังนั้น จากที่ดื้อดึงงัดแกะข้อมือเป็นพัลวัน จึงยอมอยู่เฉยนิ่งงันสงบสติอารมณ์ลง

 

"มึงกลัวอะไรไอ้มิ่ง" ทศเทียนหันไปถามบ่าวไพร่เสียงเข้ม

 

"กลัว!! กลัวว!" ไอ้มิ่งยกนิ้วชี้เรียวสวยมือขวาขึ้นชี้ไปที่ทศเทียน แววตาตื่นตระหนก

 

"มึงกลัวกูทำไม"

 

"กลัว!! กลัวแล้ว กลัวแล้ว!!"

 

"กูไม่ใช่มัน มึงไม่ต้องกลัว" 

 

"กลัว! ออกไป! กลัว!!"

 

"มิ่ง นี่รัญกับคุณเทียนเอง" ครั้งนี้รัญเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นเสียงโอนอ่อน ไอ้มิ่งหยุดชะงักคล้ายคนได้สติ ก่อนที่แววตาสีดำสนิทจะชำเลืองมองไปมา แล้วจึงทำท่าชักใหม่อีกครั้งครา

 

"รัญ กลับเรือนกันก่อน คุยเช่นนี้ก็ไม่ได้ความ"

 

"ต..แต่มิ่ง"

 

"พี่สัญญาจะหาทางรักษามัน"

ทศเทียนพยักหน้ารับปาก รัญจึงเป็นฝ่ายที่หยุดค้านแล้วยอมเชื่อถือ ทศเทียนเหลือบมองไอ้มิ่งเป็นครั้งสุดท้าย และไอ้มิ่งก็เช่นกัน เมื่อยามคนทั้งสองจ้องตากัน จึงเกิดเป็นประทุบางอย่างให้น่าอภิรมย์ใจ ใบหน้าหล่อเหลาของทศเทียนชะงักก่อนที่จะลอบเหยียดยิ้มเพียงน้อยนิด คนตัวสูงฉลาดพอที่จะไตร่ตรองความคิด จึงหันหลังกลับเอื้อมจูงมือรัญจากไปด้วยความเงียบงัน

ด้านไอ้มิ่งยังคงทำท่าชักดิ้นชักงอโหวกเหวกโวยวายไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลง มันก้มลงดึงทึ้งหัวตัวเองอยู่เช่นนั้นแม้นายสองคนจะเดินจากไป

แววตาตื่นตระหนกยังคงไม่เลือนลางจางหาย แต่แววตาเคียดแค้นใจถูกแทรกซึมเข้ามาโดยไม่ทันรู้ตัว

 

ชักต่อไปมิ่ง 

 

ชักต่อไป 

 

..

 

.

.

.

 

​​​​​บทลงโทษของผู้กระทำความผิดในครั้งนี้เป็นดั่งเช่นที่แล้วมา เพราะด้วยศักดินาและตำแหน่งที่ได้มาทำให้แทนไทแค่ถูกดุด่าแล้วจับคุมตัว

หมายถึงจับคุมตัวไว้ในห้องนอนบนเตียงสีขาวสบายอารมณ์

ธานินทร์ไม่ได้เฆี่ยนตีแทนไทอย่างที่บ่าวไพร่คนอื่นคิด แค่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขกระทำความผิด บทลงโทษที่เคยพินิจก็ไม่จำเป็นต้องดึงลงมาใช้ให้หมองมัว

คนถูกทำโทษนอนเอามือก่ายหน้าผากท่ามกลางความเสียงนินทาที่ไม่มีจริง ก่อนตัดสินความผิดเมียรักได้เอ่ยกระซิบว่าเป็นแผนของทศเทียนที่ตลบหลังมา

หากแต่ครั้งนี้แทนไทไม่ได้เชื่อเต็มร้อยสักเท่าไรนัก แต่ก็ยังมีข้อกังขาว่าเป็นไปได้ตามที่เขาสีข้างถลอกบอกกล่าว

นั่นก็เพราะมารดาเลี้ยงไม่มีเหตุผลใดจะต้องโกหกให้หมองช้ำน้ำใจกัน

หรือว่ามี

 

'ก๊อก ก๊อก'

 

เสียงเคาะประตูในเวลานี้สำหรับแทนคือเสียงสวรรค์ ด้วยเพราะบิดาฉุนเฉียวกันจนไม่ยอมให้ใครหน้าไหนเข้ามาใกล้เพื่อเปิดบทสนทนา

คนตัวสูงรีบลุกขึ้นตรงไปเปิดประตูก่อนจะพบว่าเป็นคนที่ไม่คาดคิด 

เป็นสายธารที่ยืนตัวนิ่งสนิทแววตาครุ่นคิดดูท่าทีร้อนรน 

 

"อะไรอีก" คนตัวสูงเอ่ยถามเสียงเบื่อหน่าย 

 

"หนีไป"

 

"อะไร"

​​​​

"หนีไป คุณเทียนแจ้งตำรวจแล้ว"

 

"ผมก็เป็นตำรวจคุณสายธาร" แน่นอนว่าเขามั่นใจว่าเส้นสายจะรับฟัง

 

"ไม่"

 

"..."

 

"ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว"

สายธารมือสั่นยื่นบางอย่างให้แทนไท คนตัวใหญ่ขมวดคิ้วรับมาด้วยความฉงน ก่อนที่ไม่นานสองข้างดวงตาจะเบิกกว้างถลน และรู้สึกยืนแทบไม่ตรงไร้สิ้นเรี่ยวแรง

 

การออกจากราชการของข้าราชการตำรวจ

 

"ทำไม.."

 

"หนีไปซะคุณแทน"

 

"แต่.."

 

"หนีไป!"

 

แทนไทชะงักตัวสั่นเทิ้ม เสียงตะหวาดลั่นของสายธารบ่งบอกเขาว่านี่ไม่ใช่ความฝัน ทุกอย่างที่คิดและเคยลงมือทำดูเหมือนมันกำลังจะสนองคืน

ด้วยฝีมือของน้องชายในสายเลือดเพียงคนเดียว

แทนไทหายใจหอบหนัก เปิดลิ้นชักหาปืนพกที่ซ่อนเก็บไว้ จากชายผู้สูงส่งประดับยศมากมาย กลับกลายเป็นนักโทษชายผู้หลบหนีคดีชำเรา

สายธารเฝ้ามองบุตรบุญธรรมระคนตำแหน่งชู้ด้วยความพึงพอใจ ยิ่งสายข่าวที่เขาส่งไปยืนยันด้วยใจว่าไอ้มิ่งบ้าจริงก็ยิ่งเข้าทาง

ไม่มีใครขัดขวางหนี้แค้นนี้ได้แล้ว 

เหลือแค่รอเวลาให้ทศเทียนกับรัญได้กัน

แล้วให้บุตรชายคนโตกลับมาฆ่าฟัน

เป็นอันจบสิ้นภารกิจลง

 

ใกล้จะได้เจอกันแล้วนะพี่เสือ

 

.

.

.

 

20ปีก่อน

 

ธานินทร์ไม่เคยพบเจอใครหน้าตางดงามราวนางในวรรณคดีเท่านี้มาก่อน เขารู้สึกหลงรักหล่อนตั้งแต่แรกพบสบตาเมื่อครั้งเดินสวนกันยามรุ่งสาย แน่นอนว่าสั่งคนตามสืบภายในวันจนได้พบว่าหล่อนนั้นมีนามว่าสายฝน เป็นบุตรีคนโตของพ่อค้าขายขนมในตลาด

กลับกันแล้วเขานั้นเป็นถึงเศรษฐี มากมีด้วยยศถา หากแต่ตามจีบอยู่ร่วมเดือนได้เพียงแต่คำตอบว่าอย่างไรก็ไม่มีทาง เจ้าหล่อนบอกกล่าวด้วยข้ออ้างนานาประการว่าไม่ชื่นชอบผู้ชายมักมากในกามารมณ์

อ่อใช่สิ เข้าเขาเต็มๆเลยล่ะ

เมียเอก1

เมียรอง1

เมียบ่าวอีกนับสิบ

ลูกติดอีกสองคน

แต่แล้วอย่างไร มีมากได้ ก็ดูแลได้ทั่วถึงทุกคนเช่นกัน แต่สายฝนคงไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาทำ นางจึงไม่เคยชายตามอง

จวบจน1ปีผ่านไป ยังคงติดตามจีบแม้ไม่มีท่าทีจะจีบติด กระทั่งเขาไปทำธุระหัวเมืองถึง2เดือน ครั้นพอกลับมาแล้วนางผู้ใฝ่หากลับเป็นฝ่ายเข้าหาเขาเสียอย่างนั้น และในที่สุดทั้งสองก็ได้กัน จนนางในฝันตั้งครรภ์ในเดือนเดียว

บุตรคนที่สามหากเป็นชายจะให้ชื่อทัดฟ้า หากเป็นหญิงจะตั้งว่าทอฝัน หากแต่ยังไม่ทันจะทราบเพศกัน นางในฝันก็หอบครรภ์หนีไป

ธานินทร์ใช้เส้นสายออกตามหาภรรยาจนได้พบ แต่ที่น่าตลกคือเขาได้ประสบอะไรมากกว่านั้น ทุกสิ่งสูญสิ้นสลายกลายเป็นพัลวัน ได้แต่ยินยอมปลดปล่อยกันตามยถากรรมที่ก่อตัว

เศรษฐีหนุ่มไม่ตามตื๊อสายฝนอีก ต่อให้จะได้ยินเสียงนินทาว่าทิ้งลูกเมียก็ไม่เคยสน จวบจนกระทั่งถึงค่ำคืนที่จนตายก็ลืมไม่เคยลง วันที่เจ้ากรรมมาเยือนบุกห้องกันถึงประตูนอน

 

"สายฝนมันท้องลูกใคร"

 

มีดเล่มหนาถูกจ่อเข้าที่คอขาว ผู้บุกรุกยามวิกาลปกปิดหน้าตาไว้อย่างมิดชิด ธานินทร์แค่นหัวเราะให้กับคำถามสิ้นคิด ก่อนจะยกยิ้มเหยียดให้รู้ว่าไม่ได้เกรงกลัว

 

"มึงมาถามกูทำไม"

 

"..."

 

"มึงรู้ดีแก่ใจว่ามึงทำอะไรไอ้เสือ"

ผู้ปกปิดใบหน้าชะงัก ก่อนจะยอมรับเอื้อมมือหนากระชากผ้าบนใบหน้าออก

"ลูกกู"

 

"..."

 

"หรือลูกมึง"

 

เสือเอ่ยถามเสียงสั่น 

 

"ไอ้เสือ"

 

"..."

 

"กูไม่เคยมีอะไรกับแม่สายฝนแม้แต่ครั้งเดียว"

 

โจรป่ามือไม้สั่นหมดภาพหัวหน้ากองโจรป่า มันน้ำตารื้นทว่าก็ยังคงไว้ด้วยท่าทางน่าเกรงขาม

 

"อย่ามาโกหกกู.."

 

"มึงไปถามแม่สายฝนซี้" ธานินทร์เสียงสั่นตาม เขารู้สึกว่าตัวเองโง่เง่าเต็มทนกับเรื่องราวบัดซบที่ถือกำเนิด ตัวเขาเองหรืออุตส่าสำนึกตนไถ่บาปด้วยการยอมรับว่าเป็นพ่อเด็กจนชาวบ้านพากันด่าปาวๆ แต่สาวเจ้านั้นกลับไม่เคยเลิกทะนงตัวยอมรับว่าทำผิดต่อเด็กในท้องและน้องชาย

 

"กูเชื่อมึงแล้ว"

 

"..."

 

"กูขอโทษ"

เสือปล่อยมีดเล่มหนาตกลงบนพื้นเสียงดังเคร้ง มันเข่าอ่อนระทวยทรุดลงนั่งเหมือนคนไร้สิ้นซึ่งเรี่ยวแรง

ธานินทร์ลอบมองอดีตเพื่อนรัก ด้วยความสงสารก่อนจะก้มลงตบบ่าเบาๆด้วยความเห็นใจ

"มึงทำแบบนี้ทำไมวะเสือ"

 

"..."

 

"มึงแค้นที่กูไปชอบแม่สายฝนจนต้องไปพัวพันกับแม่สายฝนและน้องชายเขาขนาดนั้นเลยหรือ"

 

ผู้ถูกตำหนิเงยหน้าน้ำตาท่วม เสือพูดไม่ออกตะกุกตะกักอยู่ที่ลำคอระหง ช่างยากนักที่จะยอมรับว่าใช่ มันเป็นดังเช่นที่ว่า

เขากับธานินทร์เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นเด็ก จวบจนกระทั่งแตกหนุ่มแล้วนั่นแหละถึงมารู้ว่าความรู้สึกที่มีมันมากมายยิ่งกว่านั้น ครั้นพอจะสารภาพรักและยินยอมที่จะอยู่ด้วยกัน เจ้าสัวผู้เป็นพ่อก็ดันส่งภรรยาเอกให้เพื่อนตัวเอง

เสือเกลียดชมนาด แม่ของลูกชายคนรองของคนรัก หล่อนเป็นคนเย่อหยิ่งยิ่งนัก ทั้งยังจองหอง และอวดดี

เกลียดไปกว่านั้นคือบรรดาเมียอื่นที่ตามมา ธานินทร์กลายเป็นคนไม่รู้จักพอและมากด้วยเสน่หา แต่แล้วคนที่เกลียดที่สุดก็ปรากฎมา หญิงสาวไร้ราคาแต่หน้าตางดงามดั่งนางในวรรณคดี 

เสือไม่เคยเห็นธานินทร์เป็นเช่นนี้มาก่อน เขาจึงลอบเข้าหาทั้งพี่และน้องของตระกูลสายฝน และในที่สุดก็ได้ทำสิ่งแสนสิ้นคิดลง คือการปล่อยให้คนที่ตัวเองเกลียดเหมือนโคลนตมตั้งครรภ์บุตรให้เพียงคนเดียว 

แต่จะว่าไม่รักสายฝนก็คงไม่ถูกแล้ว เพราะนานมาแล้วกระทำโดยใช้อารมณ์และโทโส  หากแต่ตอนนี้ก็เริ่มปันใจให้ใหญ่โต จากความดีทั้งหมดทั้งมวลที่เจ้าหล่อนทำด้วยตัวเอง

ติดเพียงแค่คนน้อง

เขาพลาดเองที่ใช้โทสะนำทาง

ลุ่มหลงมัวเมาไปกิเลสตัณหาท้้งปวง

 

"มึงจะทำยังไงต่อ" ธานินทร์หมายถึงเสือจะทำอย่างไรกับคนน้องที่เขาเองก็ไม่เคยเห็นหน้าค่าตาเช่นกัน เศรษฐีหนุ่มรู้เพียงแต่ว่าวีรกรรมช่างแสบสันและคงช่างพยาบาทจองจำไม่น้อยหน้าไปกว่าใคร

 

"กูไม่รู้"

 

"เสือ"

 

"กูไม่รู้จริงๆ"

 

"มึงรักใครกันแน่"

 

"..."

 

"มึงรักแม่สายฝนใช่ไหม"  ธานินทร์เค้นเสียงหนักสอบปากคำ เสือชะงักแล้วจึงยอมพยักหน้ารับแต่โดยดี เศรษฐีหนุ่มลอบถอนหายใจหนัก คนที่เขารักรักกันเองต้องรู้สึกอย่างไรดี 

เคียดแค้นให้ทุกข์ทรมานแล้วลงท้ายเช่นเพื่อนรัก หรืออิ่มอกอิ่มใจยอมรับให้หลุดพ้นวงล้อกรรม

ธานินทร์ขอเลือกอย่างหลัง

 

"ให้กูช่วยมึงนะ"

 

"..." เสือเงยหน้ามองแววตาลึกล้ำยากจะหยั่งถึง

 

"ในฐานะเพื่อนไง"

 

"..."

 

ธานินทร์ยกยิ้มอ่อนโยนอย่างที่เคยทำยามเมื่อปลอบประโลมเพื่อนตรงหน้าตอนวัยเด็ก เขาก้มลงใกล้ใบหูกระซิบกระซาบบางอย่าง ก่อนที่ไม่นาน เสียงปืนดังลั่นจะดังมาจากตัวเรือน

 

"ลาก่อนว่ะไอ้เสือ"

 

 

 

 

#ใครฉลาดสุดในเรื่องคะ พูดดดดด

ตอบ ทุกคนยกเว้นแทนไทค่า (┛❍ᴥ❍)┛彡┻━┻