19 ตอน บทที่16 (2/2)
โดย WonderM
**คำเตือน พาร์ทต่อไปนี้ประกอบไปด้วยการใช้ความรุนแรง เลือด และความตาย**
“ค..คุณเทียน..”
รัญริมฝีปากสั่นระริกตัวแข็งทื่ออยู่นิ่งเฉยราวกับหุ่น ในขณะที่ถูกโอบอุ้มขดตัวซุ่มอยู่ภายในอ้อมแขน
“ฮ่าๆๆ! อย่าทำกู โอ๊ย! อย่าทำกู!”
"หยุดนะ อย่าทำน้องกู! อย่าทำน้องกู!!!"
ครั้นเมื่อได้ยินเสียงร้องโอดโอยของพี่คนชายคนโต และเสียงของไอ้มิ่งที่ร้องโวยวายโหวกเหวก คนตัวเล็กจึงอ้าปากค้างตั้งสติได้
ตั้งใจจะฆ่ากัน ?
เจ้าตัวดีรีบขยับมือบางดันพี่คนรองถอยออกห่าง แล้วจึงก้มลงมองสำรวจตรวจทุกส่วนตามร่างกาย
ไม่มีบาดแผล
ไม่มีของเหลวสีแดงฉาน
แล้วก็ยังไม่รู้สึกเจ็บด้วยเช่นกัน
ทศเทียนนั่งนิ่งปล่อยให้คนน้องหยิบจับเนื้อตัวตามสะเปะสะปะ
ในขณะที่ธานินทร์เองก็รีบวิ่งไปรองรับร่างของใครสักคนหนึ่ง
เป็นคนที่เคลื่อนไหวมาตรงนี้ตั้งแต่ก่อนหน้า
เพื่อตั้งท่ากางแขนรับใบมีดคมแห่งบาปนี้
คนเดียวที่หันหน้าไปทางผู้ร้าย
คนเดียวที่รู้ใจและเข้าใจเจตนา
คนเดียวที่พร้อมจะลงนรกห่าเหวไปด้วยกัน !
“สายธาร! ไม่ ไม่! สายธาร” ธานินทร์กรีดร้องเสียงหลงหลังจากรับร่างกายหยาบช้าของคนรัก ที่มีมีดปักเกือบกลางหัวใจจนล้มหงายหลัง
เป็นเขานั่นเอง
คนนิสัยร้ายกาจคนนั้น
ที่แม้เรียวขาจะถูกเคียวเกี่ยวเฉี่ยวจนเนื้อหลุดออกจากกัน แต่ทว่าแรงใจก็ผลักดัน ลากเขาตรงดิ่งมารับคมมีดนี้อย่างได้ทันท่วงที
“พ่อ!”
กว่าที่หลานชายในสายเลือดอย่างรัญจะรู้ตัวและคลานเข่าเข้ามาหา สายธารก็กระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนแสนมากโข
“พ่อ ฮืออ .. พ..พ่ออย่าเป็นอะไรนะ ถ้าพ่อทิ้งรัญ ฮืออ ล..แล้วรัญจะอยู่กับใครจ๊ะ”
“อย่าเป็นอะไรนะสายธาร ฉ..ฉันจะตามหมอมาให้ เฮ้ย! พวกมึง!! ไปตามหมอสิวะ ไปตามหมอ!”
“พ..พอแล้ว”
เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายของคนที่รักเขาทั้งสองคน ล้วนทำเอาสายธารจุกอยู่ในอกเหมือนตกนรกจนมอดไหม้
ไม่ควรเลย ไม่ควรต้องมาร้องไห้โวยวายให้คนอย่างเขาเลย
“อ..อย่าร้อง”
เอ่ยปลอบประโลมทั้งสามีที่ไม่เคยรักและหลานรักที่เคยเลี้ยงดู ทั้งๆที่หายใจเริ่มจะติดขัด แต่ก็เพียรพยายามฉีกรอยยิ้มกว้าง แม้ว่าเลือดจะท่วมริมฝีปาก จนฟันสีขาวกลายเป็นสีแดงฉานน่าหวาดเกรง
“ฮืออพ่ออย่าทิ้งรัญนะจ๊ะ พ่ออย่าทิ้งรัญ” รัญฟูมฟายร่ำไห้เวทนาน่าสงสาร ด้านทศเทียนเองก็เบิกตากว้าง ตกตะลึงที่สายธารยอมรับความอาฆาตนั้นเป็นตัวตายตัวแทน
แน่นอนว่าเขาเกลียดสายธาร และตอนนี้ก็ยังคงเกลียด ทว่าบุญคุณในครั้งนี้ก็ช่างคณานับเหลือจะหาคำมาสรรเสริญ
ทศเทียนเอื้อมจับมือเรียวบางของรัญก่อนจะพยักหน้าลงเล็กน้อย คนตัวเล็กที่กำลังฟูมฟายหันมาสบตาเต็มใบหน้า ก่อนจะหลับตายอมรับความเป็นจริง
‘ฟุบ’
สายธารที่นอนหงายกระอักเลือดอยู่บนตักของธานินทร์ เหลือบมองรัญและทศเทียนที่หมอบกราบเขาอยู่แทบปลายตีนขาว ใบหน้าเรียวน้ำตารื้นเมื่อเห็นภาพทั้งสองคนก้มลงกราบอยู่หนึ่งครั้ง ก่อนจะเงยหน้าพนมมือค้างท่าเอาไว้ตรงปลายคาง
“ขอบคุณ” ทศเทียนพูดแค่นั้น แค่เท่านั้นที่ออกมาจากริมฝีปากของคนหยิ่งยโส แต่แค่เท่านั้นก็ทำเอาสายธารยกยิ้มพึงพอใจ
“ฮึก ข..ขอบคุณที่เลี้ยงดูรัญมาอย่างดีนะจ๊ะ” รัญพูดไปกลั้นเสียงสะอื้นไป จนสายธารต้องเอื้อมมือไปปลอบประโลมด้วยการแตะบ่าอย่างบางเบา
ด้านพระเสือเองก็ยังคงยืนอยู่ตรงที่เดิมท่าทางเคร่งขรึม หากแต่ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยกลับซ่อนความรู้สึกสับสน ปนเป ด่าทอ โทษตัวเองไปมาซ้ำๆ
ถ้าตอนนั้นเขาไม่ได้รักธานินทร์ หรือ สายฝน
ถ้าตอนนั้นเขาหลงรักเด็กผู้ชายคนหนึ่งท่าทางใสซื่อตรงนี้
ชีวิตหลังจากนั้นจะดำเนินต่อเช่นไรกัน..
จะกลายเป็นโศกนาฏกรรมเหมือนดั่งเช่นวันนี้ไหม..
“พ..พี่เสือ..”
พระเสือชะงักกับเสียงเรียกบางเบาของคนตรงหน้า ตกใจยิ่งกว่าเมื่อทุกสายตาล้วนจับจ้องมาราวกับคาดหวัง
“...”
ธานินทร์น้ำตานองหน้าจ้องมองอย่างเจ็บปวด
“พ…พี่เสือ อึก..” สายธารสำลักเลือดออกมาไหลเป็นทางยาว แต่ปากก็ยังพร่ำเรียกถึงคนรักอยู่ร่ำไร
“ข..” พระเสือตะกุกตะกัก เสียงพูดนั้นถูกกดทับอู้อี้หนักอยู่ในลำคอ
“พี่..ส..เสือ ฉันรัก..พ-”
“ขอโทษ..”
สิ้นสุดคำพูดเรียบง่ายของพระเสือ ธานินทร์ก็ปล่อยโฮราวกับสะกดกลั้นอารมณ์ไว้ไม่อยู่อีก เจ็บที่สายธารยังคงรักเสือ แต่ก็เจ็บที่เสือไม่เคยรักสายธารด้วยเช่นกัน
ความรักเจ้าเอย ใยเจ้าล้วนช่างเข้าใจยากยิ่งนักหนอ
“ฉ..ฉันไม่เคยโกรธพี่เลย..” สายธารฉีกยิ้มหวาน พูดตอบกลับด้วยน้ำเสียงโอนอ่อน
“...”
“ม..ไม่เค..ย..เลย”
“...”
"อย่าพูดอะไรอีกเลยสายธาร อย่าพูดอีกเลย" ธานินทร์ร่ำไห้พยายามคัดค้านวาจาจากคนในอ้อมอก เพราะยิ่งคนตัวเล็กเอ่ยปากมากเท่าไร ก็ยิ่งสำลักเลือดออกมามากเท่านั้น
“ฉ..ฉันม..องอะไร ม..ไม่เห็นเลย”
สายธารว่าพลางละสายตาออกจากพระเสือ อาการหายใจหอบหนักถูกเปลี่ยนเป็นลมหายใจสม่ำเสมอ คนตัวเล็กเหยียดยิ้มประดับใบหน้า แหงนดวงตาขึ้นมองดวงดาราจันทราสวย
ไม่อยากเลย ไม่อยากให้ใครต้องโศกเศร้าเลย
“ง่วงแล้ว .. ข..ขอนอนก่..อนนะ” พูดพลางน้ำตารินไหลออกจากเบ้าตาอาบทั้งสองแก้มขาว รัญยกมือขึ้นปิดปากกลั้นเสียงสะอื้นจนอกสะท้านทรงตัวแทบไม่ไหว หากแต่ข้างกายก็ยังมีร่างสูงใหญ่คอยปลอบประโลมกัน
แต่ธานินทร์และพระเสือต่างก็ไม่มีใครเคียงข้างแม้สักคน
และก็คงจะไม่มีอีกตลอดไป
เพราะทันทีที่แสงไฟสลัวจากเชิงเทียนของบ่าวไพร่ถูกสดับ ลมหายใจติดขัดของสายธารก็ถูกลบดับ จมปลักหายจากไปนิรันดร
Comments (0)