9 ตอน บทที่9
โดย WonderM
ทศเทียนเกลียดตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจคิด ภาพตอนนั้นทำเอาเขาอยากจะปรี่เข้าไปกระชากพี่ชายคนโตสุด แล้วถามว่ามึงเป็นเหี้ยอะไรนัก แต่ก็ทำได้เพียงแค่ยั้งท่อนไม้ใหญ่ในมือไว้แล้วจำใจโยนมันทิ้ง
ยังไม่ใช่ตอนนี้
สองขายาวก้าวเคลื่อนไหวตามเส้นทางที่น้องคนเล็กสุดเดินย่ำหนี ไม่แน่ใจนักว่ารัญกำลังจะไปที่ไหน แต่ก็พอจะเดาได้จากนิสัยและท่าทางนั้น
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากำลังตามหาเขาอยู่
ทศเทียนหยุดกึกข้างเกวียนใหญ่เรือนอีน้อยที่ตนเพิ่งเดินจาก ก่อนจะใจแทบขาดเมื่อพบน้องนั่งยองห่อตัวกอดเข่าก้มหน้าซบดูพื้นปฐพี แผ่นหลังเล็กสั่นสะท้านคล้ายกำลังร้องไห้สะอื้นอยู่ ถึงแม้เสียงระงมจะถูกเสียงหยาดฝนกลบลงจนเสียหมด แต่ทศเทียนก็รับรู้ถึงความเสียใจนั้นเต็มอกจนแทบใจสลายตาม
อยากย้อนกลับไปฆ่ามันฉิบหาย
ทศเทียนถอดเสื้อนอกสีขาวผืนใหญ่ออกก่อนจะก้าวขาเดินไปยืนอยู่ข้างหลังคนตัวเล็กกว่า คนตัวสูงค่อยๆคลี่เสื้อตัวหนาออกเพื่อกางเหนือหัวของเจ้าตัวดี ตั้งใจว่าอยากจะชะลอหยาดน้ำฝนที่หยดลงตกมากระทบตัวน้องให้เบาบางลง
ด้านรัญเองรู้สึกได้ถึงการมาของอีกคน น้องค่อย ๆ เงยใบหน้าหวานเคล้าหยดน้ำตาขึ้นมามองคุณชายของเรือนด้วยแววตาแปลกประหลาดใจก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นตัดพ้อและน้อยใจช้า ๆ
ทศเทียนไม่ได้เอ่ยคำพูดอะไร
รัญก็เช่นกัน
ทั้งสองสบตากันเนิ่นนานอยู่อย่างนั้น ก่อนที่รัญจะเป็นฝ่ายหันตัวกลับมากอดขาของพี่ชายด้วยความอบอุ่นใจ
.
.
.
ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ ใครบางคนเคยกล่าวไว้เช่นนั้น ทศเทียนไม่เคยเชื่อในคำ ๆ นั้นจนกระทั่งได้เห็นน้องในวันนี้ รัญนั่งห้อยขาอยู่บนต้นไม้ใหญ่หลังจากดื้อด้านปีนป่ายขึ้นไปอยู่พักหนึ่ง เข่าด้านซ้ายมีรอยถลอกที่ทศเทียนไม่แน่ใจนักว่าน้องได้มาจากตอนไหน แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะจดจำใส่ไว้ในบัญชีสมองไว้ว่าอาจได้มาจากไอ้พี่ชายงี่เง่าเวรตะไลนั่น ..
สารเลว
ชั่วช้า
สามานย์
โง่เง่า
บรรลัย
เหอะ ด่าสิบปีก็ไม่หมด
"น้องจูบกับคุณแทน"
ทศเทียนขมวดคิ้วเงยหน้ามองเจ้าตัวดีที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัวรับ ครั้นจะแถสีข้างถลอกว่าไม่เคยรู้มาก่อน แล้วหลอกถามว่าบอกทำไม เจ้าตัวแสบก็ทำหน้าคล้ายจะร้องไห้อีกครั้ง
"อืม" ก็เลยตัดสินใจตอบไปแค่นั้น ตั้งใจว่าจะเพียงแค่รับฟัง ให้ไม่เจ็บช้ำใจกันไปเสียทั้งคู่
"น้องควรจะรู้สึกดี"
"..."
"แต่ไม่เลย"
"..."
"เพราะมัวแต่เป็นห่วงคุณเทียน"
คนตัวเล็กพูดเองเออเองอยู่ฝ่ายเดียวบนกิ่งไม้ใหญ่ ทศเทียนเหลือบมองคนใบหน้าเล็กกว่าว่าต้องการจะสื่อถึงสิ่งใดกันแน่
"รัญ.."
"น้องจำวันนั้นได้แล้วนะ"
หัวใจทศเทียนค่อยๆเต้นตึกตักเร็วขึ้น ราวกับนักโทษที่กำลังจะโดนจับได้
"วันไหน" เสียงหนาแห้งผากแบบไม่ได้ตั้งใจตอบโต้ไปอย่างคนหมดเรี่ยวหมดแรง
"วันที่น้องเป็นลม"
ชัดเจน
ทศเทียนกัดริมฝีปากแน่น อยากก้มลงไปกราบตีนเจ้าตัวดีเสียตอนนี้ให้แล้ว ๆ
"คุณเทียนชอบน้องตั้งแต่เมื่อไร"
จึ้ก
เสมือนธนูดอกที่หนึ่งพุ่งลงตรงกลางใจ คำถามง่ายๆแต่คมคายคล้ายใบมีดกรีดลงบนเนื้อหนัง ไม่คาดคิดเลยสักนิดว่าเด็กน้อยกะจ้อยร่อยขี้อายจะกล้าตั้งคำถามตรงเป็นไม้บรรทัดเช่นนี้
"รัญ.."
"แล้วชอบเพราะอะไร"
อ่า ..
ทศเทียนเหมือนคนตาบอดหูดับชั่วขณะ ไม่ทันตั้งรับจริงๆกับน้องเวอร์ชั่นคนจริงเช่นนี้ ปกติเป็นฝ่ายทำน้องเขินอายมาตลอด ตอนนี้น้องเล่นเขาคืนกลับเป็นสิบเท่าพันเท่าเลยทีเดียว
"..."
"ตอนนั้นน้องยอมให้คุณเทียนจูบ แปลว่าน้องชอบคุณเทียนด้วยหรือเปล่า"
ฉ่าา..
เร่เข้ามาเถิด ตรงนี้มาทศเทียนทอดขาย
เอาเลย เอาเขาไปตั้งกะทะทอดเสียเลย ให้ความเขินอายม้วยมลายกันไปข้าง
"น้องกำลังสับสน" รัญบอกกล่าวตรงๆ
"พี่รู้" ทศเทียนพยักหน้ารับ คล้ายคนจะคลั่งรักมากกว่าเดิม
"คุณเทียน"
"อืม"
"จูบกันอีกรอบดีไหม"
"รัญ"
ทศเทียนส่งเสียงตำหนิติเตียนเจ้าตัวดีว่าอย่าได้มาท้าทายเขาเลยเชียว แต่คนตัวเล็กกลับหัวเราะขบขันชอบใจไม่รู้สึกรู้สาอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่ด้วยท่าทางเริงร่า ทศเทียนยกยิ้มให้กับท่าทีเหล่านั้น รู้สึกปลื้มใจที่ได้น้องชายคนเดิมกลับมา
แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่คิดบัญชีกับแทนไท
หลังจากกล่อมคนตัวเล็กที่เอาแต่ดื้อด้านอยู่พักใหญ่ให้กลับเรือน แสงดวงอาทิตย์ก็เริ่มอัสดงลาลับขอบฟ้าไปเสียแล้ว ระยะทางที่เดินกลับไม่ได้ไกลอะไรมากนัก แต่ก้าวแต่ละก้าวช่างสั้นราวกับจงใจให้ถึงช้าลง
แน่นอนว่าใช่.. ทศเทียนตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น นั่นเพราะ
หนึ่งนั้นน้องกำลังขี่หลังเขาอยู่ในตอนนี้
สองเพราะน้องกำลังขี่หลังเขาอยู่ในตอนนี้
สามสี่ห้าก็เพราะน้องกำลังขี่หลังเขาอยู่ในตอนนี้
ไม่ใช่เรื่องง่ายกว่ารัญจะยอมสยบขึ้นหลังแต่เงียบๆโดยดี ต้องขอบใจข้อเท้าน้องที่ไม่รักดีที่สะดุดล้มลงตอนกระโดดลงจากกิ่งไม้สูงใหญ่
"ยิ้มกระไรคุณเทียน"
รัญจับสังเกตอาการคนพี่ได้ไม่ยากนักเพราะระยะห่างใบหน้าไม่ได้ไกลกัน เพียงแต่คนเป็นพี่ไม่ได้ชะงักตกใจหุบยิ้มหนีอย่างที่คาดคิดไว้ในหัว เพราะคนตัวสูงกลับเหยียดยิ้มมุมปากกว้างกว่าเดิมราวกับจงใจกวนประสาทกัน
"เปล่า"
"คุณเทียน"
"อืม"
"เจ็บขาจังเลย"
"ถึงเรือนแล้วพี่จะทายาให้"
"คุณเทียน"
"อืม"
"อย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะ"
"..."
"คุณเทียน"
"รู้แล้ว"
"คุณเทียน"
"อืม"
"มีอะไรอีกไหมที่ยังไม่ได้บอกน้อง"
ทศเทียนเกือบจะหยุดกึกกลางทางด้วยเพราะตกใจในคำถามเสียงใสใกล้ใบหู เขาพยายามจะเหลือบมองสีหน้าท่าทางของเจ้าตัวดีเพื่อพิจารณาระดับความจริงจังของคำถาม แต่ไม่ว่าหันอย่างไรก็ไม่อาจมองเห็น
ถ้าเช่นนั้นแล้วจะให้ตอบว่ากระไรกัน
มากมาย
หรือ
ไม่มี
"คุณเทียนได้ยินที่น้องถามหรือไม่"
"ไม่"
"คุณเทียนอ่ะ"
ทศเทียนตีความเอาเองว่านั่นคงไม่ใช่คำถามจริงจังกระไร ด้วยเพราะน้ำเสียงเง้างอนซื่อใสไม่ได้ใส่ระดับความจริงจัง
"แต่น้องรู้ใช่ไหม"
"หือ.."
"ว่าพี่ไม่มีวันทำร้ายน้อง"
เจ้าตัวดีขมวดคิ้วชะงักไปสักพัก ก่อนจะฉีกยิ้มตอบรับด้วยความสัตย์จริง
"รู้แล้ว.."
"..."
"น้องรู้อยู่แล้ว.."
.
.
.
แม้ในค่ำวันนี้บรรยากาศในเรือนจะผิดแปลกไปเสียจนคนที่ใหญ่โตสุดในเรือนอย่างธานินทร์จะรู้สึกฉงน แต่คนดำรงตำแหน่งเมียระคนสนมกลับนั่งตักข้าวเข้าปากด้วยความสบายใจยิ่งกว่าใครในตัวเรือน
รู้อยู่เต็มอกว่าเกิดอะไรขึ้น
ฉลาดขนาดนี้ทำไมจะไม่รู้กัน
แต่เพราะรู้จึงยิ่งสาแก่ใจ
แผนร้ายๆยิ่งถูกนับวันใกล้ระเบิดลง
พี่น้องฆ่ากันเอง อะไรจะสุขใจเท่านี้หนา
"พ่อพลาดอะไรไปหรือเปล่า"
ธานินทร์เลิกคิ้วเอ่ยสอบถาม หลังจากอึดอัดใจเนิ่นนานจนทนแทบไม่ไหว ลูกชายคนโตนั่งเงียบเป็นเป่าสาก ส่วนคนเล็กก็เอาแต่นั่งก้มหน้าไม่มองใครหน้าไหน ยิ่งไอ้คนรองนั้นยิ่งแปลก รู้ดีว่าปกติมันไม่ชอบหน้าพี่คนโตอยู่แล้ว แต่วันนี้เหตุใดถึงจ้องเสียเหมือนอยากจะฆ่าแกงกันให้ตาย
"กระไรหรือคุณพี่"
มีเพียงสายธารที่ดูไม่รู้ร้อนรู้หนาวเท่าไรนัก แววตากลมสวยเบิกขึ้นทำทีน่าฉงน ทำเป็นงงว่าตนไม่ได้รับรู้อะไร
ทุเรศ
ทศเทียนมองบนเหยียดริมฝีปากหนา อาหารคาวหวานที่แทบจะกลืนไม่ลงอยู่แล้วยิ่งคาคอจนอยากจะอาเจียรทิ้ง
"พ่อแทน"
"ครับคุณพ่อ"
"เป็นกระไร"
"ไม่มีกระไรครับคุณพ่อ" แทนไทส่ายหน้าน้อยๆยิ้มรับ
"พ่อรัญ"
"ค..ครับ" คนตัวเล็กไหวไหล่สะดุ้งเล็กน้อยยามเมื่อถูกขานชื่อ
"เป็นกระไร"
"ไม่ได้เป็นกระไรครับคุณพ่อ.." เจ้าตัวดีตอบเสียงเบาบาง พยายามฝืนยิ้มแหยจนใบหน้าเหยเก
"..."
"มองลูกเช่นนั้นหมายความว่ากระไร"
ทศเทียนโยนช้อนทิ้งอย่างไม่สบอารมณ์ ยามผู้เป็นพ่อส่งแววตาคมกริบคาดคั้นแต่ไม่ได้เอ่ยปากตั้งคำถามดั่งเช่นใคร ๆ
"แล้วพ่อเทียนไปทำอะไรมา"
"เหอะ" ทศเทียนเหยียดยิ้มพลางส่ายหน้าเบาๆ
อะไร ๆ ก็เขา โทษเขาเสียให้หมด
น่าเบื่อฉิบหาย
"รัญ เจ้าเทียนมันทำอะไรลูก" เมื่อรู้ว่าคาดคั้นกับลูกชายคนรองไม่ได้ ธานินทร์จึงหันไปบีบบังคับให้ลูกชายคนเล็กข้างๆให้ตอบแทน
รัญสะดุ้งเป็นครั้งที่สอง ยามเมื่อผู้คนทั้งโต๊ะจับจ้อง ใบหน้าใสค่อยๆเงยหน้ามองพี่ชายคนรอง ก่อนจะพบว่าทศเทียนนั้นจ้องมองเขาอยู่ก่อนแล้วเช่นกัน ทศเทียนยิ้มรับเบาๆ พลางทำปากขมุบขมิบจับใจความได้ว่า
ไม่ เป็น ไร
ไม่เป็นไรรัญ โทษพี่ได้เลย
ทศเทียนรักษาสัญญากับน้องเสมอ เมื่อน้องกล่าวว่าไม่ให้บอกใคร เขาเองก็จะไม่บอกใครทั้งนั้น แล้วก็ไม่คิดจะบอกอีหน้าไหนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
จะรับไว้ให้เอง
ความผิดทั้งหมด
เหมือนที่เคยทำ
"ค..คุณเทียน..
"..."
"คุณเทียนไม่ได้ทำลูก"
ทศเทียนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยยามเมื่อเจ้าตัวดีกล่าววาจาเช่นนั้น เขาจ้องมองรัญที่กำลังกัดริมฝีปากบางแน่น ส่วนมือเล็กสองข้างกำขอบชายเสื้อจนเป็นรอยยับยู่ยี่
น้องคิดจะทำอะไร ?
"แล้ว-"
"ลูกขอถอนหมั้นกับคุณแทนได้หรือไม่"
'เคร้ง'
แทนไทคว่ำจานข้าวตรงหน้าของตนทิ้งลงอย่างไม่ไยดี สายตาเกรี้ยวกราดจ้องไปที่รัญก่อนจะคว่ำโต๊ะทิ้งต่ออย่างไม่แยแส แม้กระทั่งธานินทร์ที่กำลังอ้าปากค้างเขาก็ไม่สนใจ คนตัวสูงกำมือสองข้างแน่นจนเส้นเลือดขึ้นเป็นรอยทางยาว แล้วจึงหันมาชี้หน้าน้องชายคนรองด้วยความโกรธแค้น
"เพราะมันใช่ไหมรัญ"
"..."
"เพราะไอ้เหี้ยนี่ใช่ไหม !"
"ตายแล้วคุณแทน" สายธารเอ่ยเสียงตื่นตระหนก พลางยกมือซ้ายขึ้นมาทาบปิดริมฝีปากปกปิดรอยยิ้มชั่วร้ายไว้ใต้ฝ่ามือ
เอาอีก เอาอีก !
"พ่อแทน.." ธานินทร์ยังคงอ้าปากค้างกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า ราวกับว่าลูกชายสองคนถูกสลับร่างกัน
"นี่หรอวะ ร่างที่แท้จริงของคุณแทนไทผู้แสนดี ถุย"
ทศเทียนไม่ยี่หระแทนไทแม้สักนิด เขายกยิ้มถ่มน้ำลายท้าทายพี่คนโตอย่างสาแก่ใจ
"มึงเป็นเหี้ยอะไรชอบแย่งของๆกู"
แทนไทสติดับตรงปรี่เข้าไปกระชากคอเสื้อน้องชายคนรองด้วยความโมโห หากแต่ทศเทียนไม่ได้ปัดป้องอย่างที่ควรจะทำ เขากลับยิ้มชอบใจเลิกคิ้วข้างหนึ่งอย่างจงใจกวนประสาท
"พอแล้ว พอแล้ว ฮึก.."
รัญร้องไห้สะอื้น พยายามห้ามทัพด้วยแรงทั้งหมดที่มี เจ้าตัวดีตรงเข้าไปแทรกกลางหวังให้ทั้งสองแยกจาก แต่แทนไทไม่ยอมขยับ ทศเทียนจึงเป็นฝ่ายดึงรัญมากอดรั้งไว้
"น้องกับมัน.." แทนไทเว้นวรรคกลืนน้ำลายลงคอ ยากที่จะพูดในสิ่งที่คิดไว้นัก
"..."
"ได้กันแล้วใช่ไหม" แต่เขาจำต้องพูดเพื่อให้รู้กันไปข้าง
'เพี๊ยะ'
ทศเทียนคิดว่าตัวเองนั้นเร็วกว่าแสงแล้วในเรื่องการต่อสู้ทุกรูปแบบ หากแต่ครั้งนี้กลับเป็นฝ่ามือของรัญที่วิ่งนำหมัดหนาของเขาไปเสียไกล มันถูกกระทบฟาดลงบนใบหน้าของแทนไทจนขึ้นรอยสีแดง
"พอที.."
"..."
"น้องจะถอนหมั้นคุณแทน"
ทศเทียนเหลือบมองใบหน้าเรียวเล็กที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำตา รัญในเวลานี้สีหน้าท่าทางดูจริงจังผิดไปจากปกตินัก น้องไม่ได้ดูเจ็บปวดสักเท่าไร แต่คนที่ปานจะขาดใจกลับกลายเป็นพี่ชายหน้าโง่ตรงหน้า
แทนไทกัดริมฝีปากหนา แววตาดุดันวูบไหวไปช่วงหนึ่ง ก่อนในที่สุดเขาจะพยักหน้ารับช้าๆ แล้วจึงยอมเดินจากไปไม่ได้เอ่ยพูดอะไรแม้แต่คำเดียว
ทศเทียนคิดว่านั่นไม่ใช่การยอมแพ้
มันแค่กำลังหาแผนใหม่เข้าสู้อยู่
"ตายแล้ว" ทศเทียนชำเลืองมองสายธารที่พูดตายแล้วซ้ำๆ พลางแสดงท่าทางตกอกตกใจเหมือนละครลิงด้วยแววตาเบื่อหน่าย แล้วจึงหันไปมองธานินทร์ที่ยังคงอ้าปากค้างตื่นตระหนก ไม่สมกับการเป็นผู้นำเรือน ก่อนที่สุดท้ายสายตาทั้งหมดจะมาจบลงที่รัญ น้องยังคงตัวสั่น ยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว เจ้าตัวดีหันหน้าไปอีกทาง ทศเทียนจึงไม่รับรู้ว่าน้องนั้นอยู่ในห้วงอารมณ์ใดกันแน่
"รัญ.." ทศเทียนแตะไหล่น้องเบาๆ เมื่อเห็นว่าน้องไม่ได้ปัดป้องขัดขืนอะไร จึงก้าวเดินเข้าไปใกล้มากขึ้นกว่าเดิม
"คุณเทียน" รัญส่งเสียงกระซิบเบาๆให้เพียงพอแค่ได้ยินกันสองคน ทศเทียนชะงักก่อนจะตอบรับในลำคอ
"อืม.."
"พรุ่งนี้.."
"..."
"ทั้งตลาดต้องด่าน้องยับแน่เลย"
"อืม"
"..."
"ไม่เป็นไร"
"..."
"พี่จะตัดลิ้นพวกมันเสียให้หมดทั้งตลาดเลย"
Comments (0)