“กูเห็นกับตามึงเอ๊ย”

บ่าวสาวนางหนึ่งตบฉากเข้าที่เข่าจีบปากจีบคอพูดเสียงเจื้อยแจ้ว

“คุณเทียนกับคุณรัญจูบกันปานจะกลืนกิน จนคุณรัญเป็นลมเป็นแล้งยังไม่ฟื้นถึงตอนนี้ไงล่ะวะ”

“มึงก็หาพูดไปอีจัน”

ไอ้มิ่งบ่าวหนุ่มในครัวตอบกลับ มือไม้สาละวนกับการก่อฟืนทำอาหารเช้าให้นายในเรือนใหญ่

“บ๊ะ กูเห็นเต็มสองลูกกะตาเลยนะไอ้มิ่ง”

บ่าวสาวถลึงตาใส่อีกฝ่ายที่ไม่ได้มองมาที่หล่อนเลยแม้แต่นิด

“คุณรัญเป็นคู่หมั้นคุณแทน เธอไม่ทำเช่นนั้นหรอกอีจัน..ไร”

“เอ้าไอ้เวรนี่! เล่นกูซะแล้ว”

มิ่งยกถาดสำรับอาหารส่วนหนึ่งที่ทำเสร็จแล้วเดินหนีไปวางไว้บนโต๊ะใกล้ๆ เขาไม่ชอบการนินทาว่าร้ายใครโดยไม่มีหลักฐาน แต่อีจันก็ยังคงเดินตามหลังมาพูดปาวๆเหมือนแมลงหวี่ตอมใบหูไม่มีผิด

“อีจัน กูไม่ว่างมาฟังมึงตอแหลหรอกนะ”

มิ่งพูดเสียงเรียบเฉย

“มึงเชื่อกูสิ คุณเทียนอยากจะจับคุณรัญทำเมียจะตายห่า มึงสาบานสิว่าดูไม่ออ- โอ๊ย!”

พลันถาดใบใหญ่ที่ไว้ใส่รองถ้วยจานอาหารก็ฟาดเข้ามาที่หัวของอีจันโดยไม่ทันตั้งตัว บ่าวสาวยกสองมือตะครุบหัวตัวเองด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะหันกลับไปดูตัวการน้ำตาคลอเบ้า 

“พี่ใบบัว ฉันเจ็บนะ!”

ใบบัวยืนจังก้าเท้าสะเอวสีหน้าถมึงทึงเหมือนเพิ่งกินรังแตนมา หล่อนไม่พอใจที่อีคนชั้นต่ำกล้ามานินทานายน้อยของตน ยิ่งอีพวกปากไม่มีหูรูดอย่างอีจัน มันน่าใช้เข็มเย็บปาก ทั้งปากบนปากล่างให้ติดกันจนพูดไม่ได้ไปอีกตลอดชีวิต

“กูก็ตีให้มึงเจ็บ อีจัญไร มึงจะให้กูตีเองหรือจะให้กูบอกคุณเทียนมาจัดการมึง!”

“ไม่จ้ะไม่ พี่ใบบัว ฉันจะไม่พูดอีกแล้ว”

อีจันทรุดตัวคลานมากอดขาสองข้างของบ่าวยศสูงอย่างออเซาะ

โดนถาดแค่นี้กับโดนคุณเทียนลงหวาย มันยอมโดนถาดสิบทีก็ได้เอ้า!

“เอ้านี่ไอ้มิ่ง ต้มยานี้ให้คุณรัญด้วย เสร็จแล้วก็ยกขึ้นไป" 

ใบบัวยื่นห่อยาให้ไอ้มิ่ง ไม่สนใจอีจันที่กำลังฉอเลาะตอหลดตอแหล

"แล้วก็หุบปากพวกมึงไว้ให้มิด ไม่งั้นกูเอาพวกมึงตาย!” เมื่อกล่าวธุระเสร็จ ใบบัวจึงหันมายกมือขึ้นชี้หน้าอีจันและบ่าวไพร่บริเวณรอบๆไปมา บ่าวไพร่พากันพยักหน้าหงึกๆด้วยความหวาดกลัวรสหวายจากคุณเทียน ใบบัวส่ายหน้ารู้ว่าพวกมันสอดรู้แอบฟังมาตั้งแต่แรก

แหม ไอ้พวกนี้ แส่ซะไม่มี

ไอ้มิ่งขมวดคิ้วชำเลืองมองอีจันเมื่อใบบัวย่ำเท้าเดินออกไป ครั้นพอใบบัวไปจนพ้นสายตา อีจันก็หลุดหัวเราะทิ้งคราบบ่าวผู้ถูกกระทำมาสวมบทนกแก้วนกขุนทองพูดไม่หยุดแทน หล่อนจ้องมองไอ้มิ่งกลับอย่างสาแก่ใจความแสนรู้ของตัวเอง

“กูบอกมึงแล้วใช่ไหมไอ้มิ่ง ว่าเรื่องจริง”

ไอ้มิ่งไม่ได้โต้ตอบสิ่งใดกลับ มันเพียงส่ายหน้าช้าๆ ด้วยความระอา

 

ร่างสูงร่างหนึ่งยืนกำหมัดนิ่งอยู่หลังประตูครัวด้วยความเงียบงัน นัยน์ตาลุ่มลึกสาดประกายเพลิงไฟลุกโชน คลื่นโทสะซัดสาดโถมด้วยความคับแค้นใจ

จะเอาอย่างนี้ใช่ไหมคุณเทียน

 

 

ทศเทียนเฝ้าดูแลรัญอยู่ปลายเตียงไม่ยอมห่างตั้งแต่เมื่อคืน ทั้งเรือนเงียบสงบไม่มีผู้ใดส่งเสียงพูดคุยน่ารำคาญหูที่ชานเรือนเหมือนอย่างเคย ธานินทร์และสายธารจะกลับมาวันมะรืน ส่วนแทนไทคลับคล้ายคลับคลาว่าจะกลับตอนรุ่งสาง แต่ก็ยังคงไม่ปรากฏตัว

ดีแล้ว

เขาอยากอยู่กับรัญสองต่อสองให้นานที่สุด ไม่รู้เลยว่าหากน้องฟื้นขึ้นมาแล้ว จะมีท่าทีต่อเขาอย่างไร จะเปลี่ยนไป หรือจะยังคงเดิม

ทศเทียนนึกโทษไอ้พวกบ่าวไพร่ที่ลักลอบได้เสียกันไม่อายฟ้าดินกลางป่าไพร เพราะพวกมันสองคน เขาถึงเลือดสูบฉีดขึ้นหน้าจนคุมสติไม่อยู่ จนถึงกับทำร้ายเด็กน้อยที่เฝ้ารอคอยเขาทั้งคืนได้ลงคอ

ไม่เคยคิดโทษตัวเองเลยแม้สักนิด

“บ่าวเอายาให้พวกนั้นต้มแล้วเจ้าค่ะ สักประเดี๋ยวคงยกขึ้นมา”

ใบบัวคลานเข่าเข้ามาเอ่ยวาจานอบน้อม ทศเทียนชำเลืองมองพลางพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะเบนสายตากลับมาจ้องมองใบหน้างดงามที่ยังคงนอนหลับไหลไม่ได้สติเช่นเคย

“คุณเทียนไปนอนพักก่อนก็ได้นะเจ้าคะ บ่าวจะเฝ้าคุณรัญให้เอ-"

ใบบัวหุบปากกลืนคำพูดทั้งหมดลงคอแทบไม่ทัน เมื่อพบกับสีหน้าของนายน้อยที่กำลังบ่งบอกว่าไม่ต้องมาแส่ หล่อนก้มหน้าลงเงียบๆเช่นเคย ด้วยเพราะรู้จักทศเทียนดี ก็เลี้ยงเจ้าตัวมากับมือตั้งแต่ยังแบเบาะ ใยจะไม่รู้ใจกัน

“มันมาหรือยัง”

ทศเทียนเอ่ยถาม ใบบัวส่ายหน้าค่อยๆ

“ยังไม่เห็นเลยเจ้าค่ะ”

“ถ้ามาแล้ว ไม่ต้องให้มันเข้ามา”

“เจ้าค่-”

“แล้วก็ออกไปได้แล้ว”

ใบบัวพยักหน้ารับก่อนจะคลานออกไปอย่างว่าง่าย แม้จะเลี้ยงมาเองกับมือ แต่หล่อนก็ไม่เคยจะขัดนายน้อยเลยแม้สักครั้งเดียว และนั่นคงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ใครๆก็ต่างกล่าวกันว่าชายหนุ่มคนนี้ช่างเอาแต่ใจและร้ายกาจ แตกต่างจากพี่ชายในสายเลือดราวฟ้ากับดิน

ทศเทียนเฝ้ามองใบหน้าที่หลับตาพริ้มด้วยแววตาอ่อนโยน ยกสองมือหนาของตนลูบหัวคนอีกฝ่ายไปมาอย่างทะนุถนอม ราวกับกลัวอีกคนจะแตกสลาย

“อย่าโกรธพี่เลย..รัญ”

 

แทนไทลอบมองห้องนอนของรัญผ่านทางหน้าต่าง เขายืนนิ่งอยู่ด้านใต้ตัวเรือนด้วยแววตาหยั่งลึกยากเกินจะคาดเดา ร่างสูงได้ยินทุกอย่างที่น้องชังของตนคุยกับบ่าวคนสนิท รวมทั้งได้ยินเรื่องทั้งหมดเมื่อคราวจะเดินเข้าครัวไปหาชะเอมมารดาของตน

ทศเทียนกำลังจะเปิดศึกกับเขาอย่างเป็นทางการ

“คุณแทน”

เสียงเบาบางของมิ่งปลุกแทนไทให้หลุดออกจากภวังค์ เขาหันไปมองบ่าวหนุ่มที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะเลื่อนสายตาลงมองถ้วยยาในมือเล็กด้วยความไม่ชอบใจ

“ส่งมา ฉันจะเอาไปให้เอง”

ไอ้มิ่งเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยแต่ก็ยินยอมส่งถ้วยยาให้เจ้านายของมันแต่โดยดี ด้วยไม่อยากจะแส่เรื่องของเจ้านายให้มากความ ครั้นนึกขึ้นได้จะเอ่ยปากบอกว่าเป็นของคุณรัญ นายของมันก็เดินตัวปลิวไม่หันกลับมาแยแสแม้เสี้ยวชายตา ไหนจะท่าทีมีน้ำโหจ้องมองหน้าต่างห้องนอนคุณรัญอยู่นานแสนนานนั่นอีก

ปากก็บอกว่ารักอย่างน้อง ไม่ใช่ว่าหลงรักน้องขึ้นมาจริงๆเสียหรอกหรือ

เอ๊ะ หรือจะแค่หวงก้างกัน

ไอ้มิ่งส่ายหน้าสะบัดความคิดเสือกเรื่องเจ้านายทิ้ง ก่อนจะเดินผิวปากไปทางสวนอย่างอารมณ์ดี

ช่างเถอะ คุณท่านกับเมียไม่อยู่ คืนนี้จะได้ลักลอบได้เสียกับบ่าวชายคนใหม่ในสวนที่ตนก็ไม่รู้ว่าชื่ออะไรเช่นกันอีกสักครา มิ่งไม่สนใจและไม่ใคร่รู้อะไรเพิ่มเติม มันรู้แต่เพียงว่า แซ่บมาก! ก็พอ..

 

แทนไทเดินถือถ้วยยาขึ้นเรือนไปด้วยสีหน้าหลากอารมณ์ เจ้าตัวพยายามปั้นหน้าปั้นตาให้เป็นปกติที่สุดก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แล้วจึงเปิดประตูเข้าห้องนอนของรัญไป โดยไม่สนใจเสียงคัดค้านของใบบัว

ทศเทียนเงยหน้าขึ้นมามองผู้บุกรุกด้วยความโมโห พลันก็ต้องโมโหหนักขึ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นถ้วยยาอยู่ในมือของพี่ชายคนโต

สองพี่น้องจ้องมองหน้ากันไม่ละสายตา ไม่มีถ้อยคำวาจาใดหลุดออกจากปากของทั้งสอง มีเพียงรังสีความจงเกลียดจงชังแผ่ซ่านจากสายตาของทั้งคู่

ใบบัวได้แต่อึกอักลนลานไปมา ไม่กล้าเอ่ยปากพูดสิ่งใดทั้งสิ้น หล่อนอยากจะเข้าไปเขย่าปลุกรัญให้ตื่นขึ้นมาเสียเดี๋ยวนี้

มีเพียงเจ้าตัวเท่านั้นที่สามารถห้ามทัพสองพี่น้องก่อนจะเกิดการนองเลือดขึ้นบนเรือนได้

“....” ทศเทียนเลิกคิ้วขึ้น ไม่ยอมพูด แบมือด้านขวาขึ้นพลางตวัดนิ้วขึ้นลง เพื่อบ่งบอกว่าให้ส่งถ้วยยามา

แต่แทนไทไม่ได้ทำตามนั้น เขาเดินไปวางถ้วยยาบนโต๊ะข้างรัญ ก่อนจะหันมาสวนหมัดหนักเข้าไปที่เบ้าหน้าน้องชายอย่างจัง

 

‘พลั่ก!’

 

ใบหน้าของทศเทียนถูกชกเข้าอย่างแรงจนทำให้ร่างกายเสียสูญกระเด็นล้มลงบนพื้นเพราะไม่ทันตั้งตัว ชายหนุ่มหันไปมองผู้ก่อเหตุก่อนจะกระตุกยิ้มขึ้นเบาๆ เมื่อได้พบว่าใบหน้าแสนเย่อหยิ่งนั้นแสดงอาการโทสะออกมา หลังมือหนาเอื้อมขึ้นมาเช็ดเลือดสีแดงที่ไหลซึมออกจากมุมปาก แล้วจึงถ่มน้ำลายทิ้งลงพลางจ้องตากลับอย่างไม่แยแส

“ทักทายได้ดีนี่พี่ชาย”

ทศเทียนไม่เคยเรียกแทนไทว่าพี่ชายเลยสักครั้ง นั่นจึงถือเป็นถ้อยคำจงใจ หวังทำให้คนตรงหน้าเพิ่มไฟโทสะมากยิ่งขึ้น

“จะเอาอย่างนี้ใช่ไหมคุณเทียน”

แทนไทก้มลงกระชากคอเสื้อของน้องชายขึ้นมาพลางกัดฟันกรอดสะกดเพลิงไฟที่กำลังจะปะทุขึ้นไว้ภายใน

“อ่อ รู้แล้วสินะ งั้นฉันคงไม่ต้องพูดให้มากความ”

ทศเทียนยักคิ้วให้อีกฝ่ายอย่างอวดดี อยากจะทำให้คนพี่ตบะคนดีแตกจนมือไม้สั่น

คนอย่างแทนไทก็เป็นได้แค่พญามัจจุราชในคราบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เท่านั้น

“ทำร้ายรัญทำไม!”

แทนไทตวาดเสียงดังลั่น จนใบบัวที่ทำได้แต่เฝ้ามองนายทั้งสองของตนทะเลาะกันตกใจจนตัวสั่นน้ำตาคลอ

ทศเทียนกัดริมฝีปากหนาตัวเองแน่นก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน นัยน์ตาสองข้างฉายแววรังเกียจเดียดฉันท์เต็มทน

“ถามตัวเองก่อนดีไหมเล่าคุณแทน ว่าทำอะไรไว้บ้าง”

“พี่ไม่เคยทำร้ายร่างกายรัญ!”

 

‘ถุย’

 

ทศเทียนถุยน้ำลายเปื้อนเลือดของตนใส่หน้าคนพี่อย่างไม่เกรงกลัว แทนไทเม้มปากเป็นเส้นตรงพยายามระงับความโกรธที่แทบจะกดไม่อยู่

“แต่ทำร้ายจิตใจรัญได้? ทุเรศว่ะ”

ทศเทียนพูดขึ้นมาน้ำเสียงเบาบางทว่าหนักแน่นจริงจัง

นัยน์ตาทั้งคู่ลุกโชนเต็มไปด้วยเพลิงโทสะ จ้องฟาดฟันกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร

คนหนึ่งเพียงต้องการปกป้อง

ส่วนคนหนึ่งต้องการสิ่งที่ถูกแย่งไปคืน

“อย่ามาลองดีกับพี่คุณเทียน”

แทนไทไม่ได้พูดปฏิเสธ เขากดเสียงเข้มขู่น้องชายอย่างไม่ไว้หน้า ไม่สนใจว่าตนเป็นเพียงลูกบ่าวและน้องเป็นถึงลูกคุณหญิงคุณนาย

ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว

“จะจับฉันเข้าตะรางหรืออย่างไรคุณตำรวจ”

ทศเทียนยิ้มเหยียดท้าทาย ให้มันรู้ไปว่าคุกจะเอาคนอย่างทศเทียนอยู่

แทนไทไม่ได้ตอบอะไรกลับ เขาเพียงปล่อยคอเสื้อน้องชายที่ขาดกระจุยจากแรงดึง พลางชำเลืองมองร่างบางที่ยังคงนอนหลับไหล แล้วจึงก้าวขายาวของตนเดินหนีออกจากห้องไป

นัยน์ตาสีนิลไม่เหลือคราบเทพบุตรแม้สักนิด มีเพียงแววตาของปีศาจร้ายที่ถูกปลุกขึ้นมาจากขุมนรกเท่านั้น

ต่อจากนี้ไป ตายเป็นตาย

 

ทศเทียนมองตามแผ่นหลังพี่ชายคนโตไปอย่างสมเพช เขายิ้มเย้ยหยันอย่างพึงพอใจที่ได้รับบาดแผลจากเหตุการณ์เมื่อครู่ เป็นแค่ลูกบ่าวจะมาทำอะไรคนอย่างเขาได้กัน ที่ยอมให้ต่อยโดยไม่โต้ตอบ ก็เพียงเพื่อแลกกับความเห็นใจของรัญเมื่อน้องฟื้นเท่านั้น

ไอ้โง่