8ปีผ่านไป

ตระกูลสิงหเลิศเดชามีฐานะร่ำรวยมากขึ้นจากการค้าขายอัญมณีที่ปากน้ำ บุตรชายคนโตอย่าง 'แทนไท’ รับราชการเป็นนายตำรวจแม้จะเป็นเพียงร้อยเอกแต่ก็มีแววรุ่งเรืองก้าวหน้าด้วยเพราะเป็นข้าราชการชั้นดี กริยานอบน้อมเหมาะสมกับชาติตระกูลฝั่งพ่อ

‘รัญ’ บุตรชายคนสุดท้องผู้ซึ่งเป็นลูกติดของบ่าวหนุ่มในเรือนอย่าง 'สายธาร’ ที่ตอนนี้ได้ครองตำแหน่งเมียเอกของ 'ธานินทร์’ ก็ไม่น้อยหน้า ปัจจุบันเด็กหนุ่มอายุได้18ปีบริบูรณ์และได้เข้ามาบริหารกิจการประจำตระกูลอย่างเต็มภาคภูมิ อีกทั้งยังเป็นที่รักใคร่ของเหล่าบ่าวไพร่ในเรือน รวมไปถึงบุรุษใดก็ตามที่ได้พบเห็น เจ้าตัวมีกลิ่นบุหงารำไปเครื่องหอมที่ชอบทำยามว่าง ติดตลบอบอวลไปทั่วทั้งกาย อันบวกกับหน้าตาสะสวยงดงามราวนางบุษบาในวรรณคดีอิเหนานั้นแล้ว หัวกะไดเรือนสิงหเลิศเดชาก็ไม่เคยแห้งอีกเลย

มีเพียงก็แต่ลูกชายคนรองอย่าง 'ทศเทียน’ ที่แม้อายุจะย่างก้าวสู่23เข้าไปแล้ว แต่ก็ยังคงทำตัวเกกมะแหรกเกเร นอนตื่นสายตะวันโด่งเกือบเที่ยงวันอยู่ร่ำไป ทั้งยังปากร้ายไม่เอาการเอางาน วันๆ หนึ่งขลุกตัวอยู่แต่กับน้องชายคนเล็กราวกับลูกติดแม่ก็ไม่ปาน

 

“พ่อเทียนยังไม่ตื่นอีกหรือ”

ธานินทร์เอ่ยถาม 'ใบบัว’ บ่าวคนสนิทของ 'ชมนาด’ อดีตเมียเอกของตนเมื่อครั้งยังมีชีวิต ที่ตอนนี้กลายเป็นคนสนิทของทศเทียนลูกชายคนเดียวของชมนาดแทน 

ใบบัวอึกอักไม่ได้ตอบอันใด สายตาล่อกแล่กไปมาราวกับว่ากลัวเจ้านายจะจับพิรุธไม่ได้

ธานินทร์ส่ายหน้าเมื่อเห็นว่าไร้ประโยชน์จะเอาความกับบ่าวจึงเดินลุกตรงไปยังห้องนอนของลูกชายตัวดีเป็นเวลาบ่ายโมงกว่าแล้วแต่ก็ยังไร้วี่แววของเจ้าของห้อง ปกติจะต้องเดินโงนเงนออกมาตั้งแต่เที่ยงวันแต่วันนี้กลับเงียบเสียสนิท ผิดปกติเสียสิ้นดี

 

“พ่อเทียน ตื่นหรือยังลูก”

 

“....”

 

“พ่อจะเข้าไปแล้วนะ”

 

เมื่อครั้นเปิดประตู ธานินทร์ก็ต้องแปลกใจเป็นครั้งที่สองของวัน เมื่อพบว่าลูกชายตัวดีของเขานั้นไม่ได้อยู่ในห้องนอนเสียแล้ว

 

“ออกไปแต่เช้าแล้วค่ะคุณธานินทร์”

 

‘ชะเอม’ เมียบ่าวมารดาแท้ๆ ของ 'แทนไท’ คลานเข่าเข้ามาพร้อมกับถาดขนมหวานที่ตนลงมือเข้าครัวทำเองตั้งแต่ย่ำรุ่ง

 

“ออกไปไหนหรือแม่ชะเอม”

 

ธานินทร์แปลกใจเป็นครั้งที่สามเมื่อได้ยินว่าทศเทียนออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้า เขาเริ่มขมวดคิ้วเป็นปม และยิ่งยุ่งเหยิงพันไปมา เมื่อต้องพบกับความแปลกใจครั้งที่สี่ห้าหกตามมาติดๆ

ชะเอมอมยิ้มก่อนจะเอ่ยตอบ

“ไปวัดกับพ่อรัญเจ้าค่ะ”

 

 

 

“มองหาพ่อมึงหรอวะไอ้กระจอก”

ทศเทียนถือท่อนไม้ใหญ่ไว้ในมือหนา พลางจ้องตา 'ไอ้อัคนี’ ลูกเจ้าของร้านทองในตลาดอย่างดุดัน อัคนีเองก็ถือมีดสั้นไว้ในมือและจ้องตาลูกชายคนรองแห่งเรือนสิงหเลิศเดชาอย่างอาฆาตแค้นเช่นกัน แม้ชายหนุ่มทั้งสองจะอายุเลยยี่สิบเข้าไปแล้ว แต่ก็เป็นศัตรูที่พร้อมจะฟาดฟัน และจ้วงแทงข้างหลังเมื่ออีกคนเผลอไผลได้ทุกเมื่อ

“กูมองพ่อรัญ เกี่ยวอะไรกับมึงด้วย”

อัคนีถ่มน้ำลายที่มีเลือดปนทิ้งลงบนพื้น เขาพลาดเองที่มัวแต่ละสายตาจากเจ้าของผิวสีขาวนวลอย่างรัญไปไม่ได้ จึงไม่ทันได้สังเกตุเห็นไอ้หมาหวงก้าง ทั้งที่ก้างก็ไม่ใช่ของมัน ฟาดท่อนไม้ใหญ่ในมือมาเต็มหลัง

รัญเป็นของกู

อัคนียกยิ้มเมื่อทศเทียนเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่อายปาก

“เหอะ”

“มึงยิ้มเหี้ยอะไร!”

เขาเป็นของพี่มึงนู่น

“....”

“ไอ้ขี้แพ้”

 

ทศเทียนหมดความอดทน นัยน์ตาลุกโชนเต็มไปด้วยเพลิงโทสะ เขาฟาดท่อนไม้ใหญ่ไปที่หัวอัคนีอีกครั้งด้วยหมายเอาเลือดชั่วมันออกบ้าง อัคนีหักหลับทันแต่ก็ถูกท่อนไม้นั้นตีเข้าที่มือจนมีดสั้นหล่นลงกับพื้นทศเทียนที่กำลังหน้ามืดเพราะความโกรธ ไม่ทันได้สังเกตุเห็นสีหน้าหวาดกลัวของศัตรู เขาตั้งใจจะฟาดลงไปอีกครั้งเพื่อดับอารมณ์ร้อนที่กำลังปะทุ อัคนียกมือปัดป้องไว้ที่หน้า หลับตาทั้งสองข้างลงสนิท ไม่ได้คิดว่าอีกฝ่ายจะคลั่งได้ถึงเพียงนี้

“พี่เทียน!”

ทศเทียนชะงักถือท่อนไม้ค้างไว้บนหัว อัคนีลืมตาขึ้นมอง เห็นทศเทียนแข็งทื่อไปดังนั้นจึงรีบลุกขึ้นออกห่างจากศัตรูตรงหน้าก่อนจะวิ่งหนีไปทันที

เสียงหวานอันคุ้นเคยของน้องชายคนเล็กราวกับเป็นหยดน้ำวิเศษช่วยดับกระหายเพลิงที่กำลังลุกโชนในใจของชายหนุ่มจนหมดสิ้น ทศเทียนเขวี้ยงท่อนไม้เปื้อนเลือดในมือทิ้งก่อนจะหันไปยิ้มให้คนตัวเล็กที่กำลังเดินมาด้วยท่าทีมีน้ำโหไม่น้อยเสียทีเดียว

“เสร็จแล้วหรือน้องรัญ”

ทศเทียนเปลี่ยนเรื่องยิ้มให้เด็กน้อยด้วยท่าทีอ่อนโยน ทิ้งคราบพญามัจจุราชเมื่อสักครู่ไปโดยปลิดทิ้ง แต่กระนั้นร่างบางก็ไม่ทีท่าว่าจะหยุดส่งสายตาเชิงดุใส่เขาเลย ทศเทียนยกยิ้มในใจ

ด้วยเพราะน้องรัญเป็นห่วงเขาแน่แท้ จึงได้มีสีหน้าท่าทางเช่นนี้

“ไหนคุณเทียนบอกจะไปเข้าห้องน้ำ”

รัญยืนเท้าสะเอวจ้องหน้าคนพี่อย่างเอาเรื่อง พลางลอบสำรวจอีกคนตั้งแต่หัวจรดเท้าเมื่อเห็นว่าไม่มีบาดแผลจึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

“พี่ก็มาเข้าห้องน้ำจริงๆ”

ทศเทียนมาเข้าห้องน้ำจริงๆ แต่ดันเจอศัตรูเก่าแก่กำลังลอบมองน้องรักตัวเองอยู่ไม่ไกล จึงเผลอหมั้นไส้คว้าท่อนไม้ข้างทางมาฟาดให้จำเสีย ว่าอย่าได้มายุ่งกับคนของทศเทียนอีก

“น้องจะฟ้องคุณพ่อให้โบยคุณเทียนหนึ่งร้อยหวาย”

“น้องจะทำพี่ลงจริงๆ หรือ”

ทศเทียนส่งสายตาออดอ้อนคนตัวเล็กอย่างที่เคยชอบทำ แล้วรัญก็มักจะใจอ่อนลงจริงๆ รัญอึกอักแพ้สายตาของพี่ชายคนรอง แต่ถึงกระนั้นก็ยังอยากให้ชายหนุ่มได้รับโทษเสียบ้าง จะได้ไม่ทำตัวอารมณ์ร้อนเช่นนี้อีก

“ถ้างั้นคุณเทียนต้อง..”

รัญไม่ทันจะพูดบทลงโทษใหม่จบประโยค ทศเทียนก็เอื้อมมือมาเช็ดเหงื่อบนใบหน้าเล็กอย่างอ่อนโยนทศเทียนไม่ชอบให้รัญต้องมีเหงื่อไคลมาเกาะแกะตามร่างกายหรือแม้กระทั่งฝุ่นไรก็ตามที ถ้าเขาสามารถปัดเป่ามันได้ เขาก็จะทำ เพื่อให้ผิวขาวนวลของน้องชายนั้นได้เปล่งประกายอย่างที่ควรจะเป็น

รัญเองได้แต่ยืนอ้าปากค้าง ตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก นับวันทศเทียนก็ยิ่งแสดงออกผิดปกติไปจากพี่ชายเรือนอื่นๆ เขาเคยถามเพื่อนว่าเรือนอื่นๆ นั้นพี่ชายทำตัวเช่นนี้หรือไม่ แน่นอนว่าคำตอบก็คือไม่เคยเลย

“พี่ต้องกระไรหรือ”

น้ำเสียงอ่อนหวานแหบพร่าถูกเปล่งออกจากปากชมพูระเรื่อเพื่อออดอ้อนน้องชายคนเล็กอย่างจงใจ ชายหนุ่มยกยิ้มน้อยๆ อยากจะดึงคนตรงหน้าเข้ามาหอมฟอดใหญ่ ไหนเลยจะอยากประทับรอยตราเพื่อแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของนั้นอีก

แต่ก็ทำไม่ได้ ทศเทียนได้แต่หักห้ามใจอยู่เงียบๆ เขาต้องการรอวันที่น้องจะรักเขาอย่างคนรักขึ้นมาบ้างเมื่อถึงคราวนั้นหลังน้องถอนหมั้นกับแทนไทแล้ว เขาจะได้เป็นเจ้าของที่ถูกต้องของน้องอย่างเต็มตัวและหัวใจเสียที

“น..น้องจะกลับเรือนแล้ว”

รัญเบิกตากว้างได้สติสะบัดหน้าออกจากมือหนาของพี่ชายคนรองทันที ทศเทียนได้แต่นึกเสียดายในใจ อยากจะสัมผัสใบหน้าคนน้องนานกว่านี้อีกสักหน่อย แต่ก็ยินยอมตัดใจ อดเปรี้ยวไว้กินหวาน พยักหน้าเบาๆ ให้รัญตกลงจะกลับเรือน

รัญและทศเทียนแม้จะเดินกลับมาด้วยกันแต่ต่างคนต่างเงียบกันมาตลอดทาง เมื่อถึงเรือนสิงหเลิศเดชารัญจึงขอตัวไปอาบน้ำอาบท่า ส่วนทศเทียนถูกธานินทร์เรียกขึ้นมาคุยบนเรือน

 

“ลูกไปมีเรื่องมาอีกแล้วหรือ”

ทศเทียนขมวดคิ้วให้บิดา ไม่ได้คิดว่ารัญจะเป็นคนเอามาฟ้อง แต่กำลังคิดว่าบ่าวคนไหนในเรือนที่มันปากโป้งวิ่งแจ้นมาฟ้องบิดา ไอ้อัคนีเป็นถึงลูกชายเจ้าของร้านทองในตลาด ถ้ามีแผลติดตัวกลับเรือน แน่นอนว่าคนในตลาดย่อมลือกันอยู่แล้ว แส่เรื่องชาวบ้านเก่งกันนัก ช่างน่าตัดลิ้นทิ้งเรียงตัวเสียสิ้นดี

“ใครมันเอามาฟ้องพ่อล่ะ” ทศเทียนเหลือบมองบ่าวไพร่รอบตัวทีละคนด้วยความเย็นชา แม้7-8ปีมานี้ตั้งแต่รัญเข้ามาอยู่ในเรือน เขาจะลดฤทธิ์ลดเดชกับบ่าวไพร่ในเรือนลงไปบ้างแล้ว แต่กระนั้นหากมาแส่เรื่องของเขาก่อน เขาก็พร้อมจะกลับมาเป็นเสือร้ายขย้ำคนแส่ให้ตายอย่างไม่ปรานี

“พี่เอง”

ทศเทียนหันไปทางต้นเสียง บุรุษรูปงามรูปหนึ่งที่หน้าตาละม้ายคล้ายคลึงเขาแต่อยู่ในชุดตำรวจเต็มยศปรากฎตัวขึ้น ‘แทนไท’ ส่งยิ้มเบาบางให้น้องชายคนรองและบิดา ก่อนจะค่อยๆ คลานเข้ามาไหว้บิดาอย่างนอบน้อม

แส่ว่ะ”

ทศเทียนเอ่ยแขวะพี่ชายด้วยความเกลียดชัง หากรัญคือน้องรัก แทนไทก็คือพี่ชัง และแทนไทเองก็คงจะคิดอย่างนั้นเช่นเดียวกัน เพราะสองพี่น้องไม่เคยดีต่อกันเลยสักครั้งตั้งแต่ลืมตาดูโลกมา

“พ่อเทียน”

ธานินทร์ส่งสายตาปรามลูกชายตัวดีอย่างระอา สองพี่น้องเจอกันทีไร ต้องได้กัดกันเหมือนหมาทุกที หรือเขาจะมีบุตรชายเป็นหมาไปเสียแล้ว

“คุณเทียนต้องไปขอโทษคุณอัคนีที่ตลาด มิเช่นนั้น กิมเล้งมารดาของคุณอัคนีจะแจ้งตำรวจเอาความคุณเทียน”

แทนไทเอ่ยขึ้นมาเสียงเรียบ ไม่แม้แต่จะมองหน้าทศเทียน เขามองไปที่บิดา ราวกับจะพูดให้บิดาเอ่ยสั่งน้องชายตัวดีเร็วๆ ว่าจงไปขอโทษซะ

“เหอะ ฝันไปเถอะ มันก็ทำร้ายฉันเหมือนกัน ถ้ามันจะเอาความ ฉันจะเอาด้วย”

ทศเทียนเอ่ยอย่างไม่แยแสนัก เขาเองก็ถูกต่อยมาเหมือนกัน แม้ฝ่ายนั้นจะมีถึงมีดสั้นแต่กลับโง่งมโจมตีไม่โดนเอง จะโทษเขาฝ่ายเดียวได้เสียอย่างไร

“แต่สภาพที่พี่เห็น คุณอัคนีถึงกับเลือดตกยางออก แต่คุณเทียน”

“ก็คือคุณแทนจะเอาฉันเข้าคุกให้ได้ใช่ไหม”

ทศเทียนเริ่มมีน้ำโหเมื่อพี่ชังอย่างแทนไทไม่ฟังที่เขาพูดเลย 

“พี่ไม่ได้เป็นคนอยากให้คุณเทียนเข้าคุก แต่คุณอัคนี”

ทศเทียนยกยิ้มเย้ยหยันก่อนจะกล่าววาจาดั่งมีดคม

“อย่ามาอ้างไอ้อัคนีหน่อยเลย อยากจะเอาฉันเข้าคุกเพราะจะได้ไม่มีก้างคอยหวงรัญล่ะสิ”

“คุณเทียน!”

แทนไทเหมือนโดนใบมีดนับล้านทิ่มแทงใจ รู้สึกเหมือนคำพูดของน้องชายสุดชังสะกิดโดนเศษเสี้ยวความรู้สึกริษยาที่ตัวเองไม่เคยมี ว่าที่แท้จริงแล้ว ที่ผ่านมานั้น ตนก็แอบรู้สึกอิจฉาน้องชายตนเองไปบ้างเหมือนกัน

แน่สิ เขาต้องทำทุกอย่างให้มียศถาบรรดาศักดิ์นำหน้าทศเทียน เพียงเพราะเป็นลูกบ่าว

และถึงแม้ได้หมั้นกับรัญ เด็กหนุ่มที่ใครต่อใครก็ต่างเลื่องลือขึ้นชื่อถึงความงดงาม แต่นับวันรัญกลับสนิทกับทศเทียนมากกว่าตัวเขาเองเสียอีก

“พอแล้วทั้งคู่เลย!”

ธานินทร์ลุกขึ้นตะคอกเสียงดังห้ามลูกชายทั้งสองคนก่อนที่จะมีมวยไปมากกว่านี้ เขาเริ่มปวดหัวข้างซ้ายดังตุบๆ ก่อนจะค่อยๆ ล้มลงบนพื้น เป็นแทนไทที่ไวกว่าเข้ามาประคองธานินทร์เอาไว้ได้ทัน ทศเทียนจ้องการกระทำทั้งหมดนั่นด้วยสายตาเหยียดหยามและดูถูก

“ถ้ามันอยากจะเอาฉันเข้าคุกนัก”

“...”

“ก็ให้มันมา”

ทศเทียนกล่าวทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะก้าวฉับๆ หนีลงกระไดไป พอดีสวนทางกับรัญที่กำลังวิ่งขึ้นมาด้วยความร้อนรนเพราะได้ยินบ่าวไพร่คุยกันว่าที่เรือนใหญ่กำลังมีเรื่อง

“พ..พี่เทียน มีเหตุอันใดกันหรือ”

รัญหอบหายใจถี่เพราะวิ่งมาไกลจากเรือนเล็ก แต่ก็ยังอุตส่าส่งสายตาเป็นห่วงมาให้ทศเทียน ทศเทียนจ้องลึกลงไปนัยน์ตาสีดำคู่นั้น ก่อนจะคว้าร่างบางของน้องชายมากอดเอาไว้ รัญอึ้งไปครู่นึงก่อนจะยกแขนสองข้างของตนกอดพี่ชายคนรองตอบกลับ พลางลูบหลังเบาๆ ด้วยความอ่อนโยน

“น้องอยู่นี่แล้ว”

“...”

“ไม่เป็นอะไรแล้วนะ”

ประโยคเดิมๆ ที่เคยเอ่ยกล่าวมาตลอด8ปีถูกนำมาใช้อีกครั้ง คราใดที่ถูกทำให้เจ็บช้ำน้ำใจ มีเพียงรัญเท่านั้นที่คอยปลอบประโลมเสือร้ายอย่างเขา

ทศเทียนกอดรัญแน่นขึ้นด้วยความรักอย่างสุดหัวใจ

โดยไม่รู้เลยว่าแทนไทที่มองมานั้นกำลังส่งสายตาต่อคนทั้งสองคนเช่นไร

 

คงถึงเวลาทวงสิ่งที่เป็นของเขาคืนเสียแล้ว