บทที่ 21 (NC)

ย้ายเข้าคอนโดคนพี่

 

คำเตือน

มีการบรรยายฉากการร่วมเพศระหว่างเพศชายกับชาย เหมาะสำหรับเยาวชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป หากไม่ชอบข้ามไปได้นะคะ

ดอกคาร์เนชันสีขาว ความรักที่บริสุทธิ์ ไร้เดียงสา อ่อนโยน

 

หนึ่งพาหนูวีไปเที่ยวกับเพื่อนจนเกือบทั่วเชียงใหม่ และก่อนพาคนอื่นรวมถึงน้องชายสุดรักไปส่งบินกลับกรุงเทพตั้งแต่เมื่อวาน ส่วนเจ้าตัวน้อยโดนแม่ของเขาขอร้องให้อยู่เที่ยวเล่นต่ออีกวัน และวันนี้เขาทั้งสองคนต้องกลับไปยังกรุงเทพ เพราะเย็นเมื่อวานทางบ้านของเจ้ากระต่ายน้อยได้โทรมาตามลูกชายกลับบ้านสักที

 

ชายหนุ่มกดจูบบนหน้าผากของคนรัก ปล่อยให้เจ้าตัวนอนต่อ วันนี้เขามีแผนสร้างความประทับใจแก่คนน้องก่อนกลับ เขาอยากให้วีนึกถึงและอยากกลับมาอยู่ในพื้นที่ของสองเรา

 

เขาอาบน้ำและลงมาด้านล่าง โดยเขาแอบสั่งหัวหน้าคนงานให้เก็บดอกยิปโซมาส่งตั้งแต่เช้า รวมไปถึงช่วยจัดพื้นที่ส่วนหนึ่งด้านหลังบ้านพักให้เต็มไปด้วยดอกไม้

 

ชายหนุ่มใช้เวลาไม่นานดอกไม้เล็กกลายเป็นมงกุฎขนาดพอเหมาะสำหรับคนตัวเล็ก เขาเอียงตัวเงยมองไปบนชั้นสองยังคงเงียบสนิท เขารีบเก็บกวาดหลักฐานลงถังขยะ และรีบตรงดูความเรียบร้อยหน้างานที่สั่งเอาไว้

 

คนตัวน้อยตื่นขึ้นมาควานหาคนข้างกาย เขาสัมผัสได้แต่ความเย็นบนผ้าคลุมเตียง เจ้าตัวน้อยยู่ปากคิดว่า คนพี่ตื่นนานแล้วไม่ปลุกกันบ้างเลย ปล่อยให้นอนคนเดียว เจ้าตัวลุกไปอาบน้ำและมาแต่งตัวในชุดเสื้อคอจีนสีชมพูแขนยาว กางเกงสามส่วนสีครีม เขาเดินลงมายังชั้นล่างก็ไม่พบเจ้าของบ้าน เจ้ากระต่ายน้อยขมวดคิ้วแปลกใจ ตั้งแต่เป็นแฟนกันพี่หนึ่งแทบไม่เคยห่างกายสักเซนขนาดจะไปเข้าห้องน้ำยังไปเฝ้าหน้าประตู พูดถึงเรื่องที่ไม่ยอมห่าง เจ้าตัวน้อยยืนเม้มปากหน้าเห่อร้อน เมื่อคืนพวกเขาทั้งสองแนบชิดกันแค่ภายนอก จนเขาอ่อนระทวยไปทั่วทั้งร่าง

 

“...” คนยืนเหมอสะดุ้งเมื่อรับสัมผัสจากชายคนรักเข้ามาโอบกอดทางด้านหลัง “ตกใจหมดเลยครับ” วีย้ายสายตาไปสำรวจ คนรักวันนี้แต่งตัวหล่อมาก ชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินพอดีตัวกางเกงขายาวสีดำเข้ารูป คนตัวเล็กยิ้มหวานมองคุณแฟนในคราบนายแบบ ไม่ว่าจะหยิบจับชุดไหนก็ดูดีไปสะหมด

 

จุ๊บ หนึ่งกดจูบลงบนต้นคอ “ยืนคิดอะไรอยู่คะ จนไม่รู้ว่าพี่เดินเข้ามา หน้าแดงแบบนี้ คิดถึงเรื่องเมื่อคืนใช่ไหมคะ?” หนึ่งโน้มตัวไปกระซิบถามข้างหูคนตัวเล็กขบติ่งหู ยิ่งทำให้คนขี้เขินอยู่แล้วเขินหนักขึ้นไปอีก สีแดงลามไปยังใบหูและต้นคอ

“อื่อ..พี่หนึ่งล่ะ ไปไหนมาครับ”

หนึ่งจูบแก้มคนรักอีกครั้ง “ไม่บอกค่ะ แต่จะพาไปดู”

ชายหนุ่มปล่อยแขนโอบกอดย้ายไปจับและจูงมือน้อยเดินไปยังพื้นที่ทางด้านหลังไม่ไกลบ้านพักมากนัก เขาเดินนำหน้าและยังหันมาดูคนรักเขาเป็นระยะ ด้วยพื้นดินเปียกแฉะไปด้านน้ำค้างตกลงมาตั้งแต่เมื่อคืน จึงกลัวคนน้องจะลื่นล้ม

“ถึงแล้วครับ เดินเข้าไปอีกหน่อยนะคะ”

 

คนตัวน้อยเดินตามแรงจูงของคนตัวโต เขายังตกตะลึงในความสวยงามของทุ่งดอกทิวลิปสีขาวที่คนพี่บรรจงสรรค์สร้างเพื่อเขา ดอกทิวลิปอวดโฉมบานสะพรั่งสุดสายตาราวกับพื้นดินปูด้วยผืนผ้าสีขาว เขาไม่แน่ใจว่าพี่หนึ่งให้คนงานขนมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะเมื่อวานในช่วงเช้าเขายังตื่นขึ้นมาไม่เห็น และต้องขนมากี่โรงเรือนถึงได้เยอะขนาดนี้

 

“พี่หนึ่งสวยมากครับ” ร่างบางหันมาบอกคนรักด้วยแววตาทอประกาย

 

หนึ่งสวมมงกุฎช่อดอกยิปโซลงบนศีรษะคนรัก สีขาวจากดอกไม้ตัดกับผมสีน้ำตาลของเจ้าตัวเล็ก และยังเข้ากับเสื้อสีชมพูของน้อง ยิ่งน้องแต่งตัวในโทนสีหวานมันเหมาะกับความน่ารักสดใสอย่างมาก หนึ่งขยับตัวไปยืนซ้อนด้านหลังวี โอบกอดเอวจนแน่นและคลายออก จูบประทับขมับคนรักเขาอย่างหลงใหล

“ยิปโซฟิลล่าที่เรียกสั้น ๆ ว่ายิปโซ หรืออีกชื่อ Baby’ s breath เป็นดอกไม้ขนาดเล็กแสนน่ารักเหมือนหนูค่ะ ความหมายของยิปโซคือความบริสุทธิ์ ความจริงใจ และรักแรกพบ ถ้าเอามารวมเป็นช่อจะมีความหมายอีกอย่างคือรักนิรันดร์ วีคือรักแรกพบของพี่ ตั้งแต่ที่ได้เจอหนูพี่ไม่เคยลบใบหน้าแสนหวานจากสมองพี่ไปได้เลย

ดอกยิปโซเขามักจะเลือกเป็นมงกุฎสวมใส่คนรักในวันแต่งงาน ตอนนี้หนูสวมมันแล้ว ช่วยเป็นคู่ชีวิตของพี่ได้ไหม เป็นคนที่พี่จะได้รักทั้งชีวิต และมอบชีวิตนี้ไว้ให้กับวี”

 

ร่างบางย้ายมือเล็กมาจับช่อมงกุฎบนหัว ค่อย ๆ พลิกตัวหันไปหาคนรัก มอบรอยยิ้มอันแสนหวานและสบตากับคนรัก เขาสัมผัสถึงความจริงใจและความรักจากสายตาผู้ชายคนหนึ่งมองมายังเขา แววตาอบอุ่นและมีเสน่ห์ทำให้คนอย่างเขาหลงรักซ้ำอีกรอบ

“วีรักพี่ครับ และพร้อมเป็นคู่ชีวิตกับพี่หนึ่งด้วยเช่นกันครับ” ร่างบางเม้มปากด้วยใบหน้าเห่อร้อนและกล่าวต่อ “วีขอฝากชีวิตต่อจากนี้ให้พี่หนึ่งดูแล อือ...เขินมากเลยพี่หนึ่ง...” เจ้าตัวน้อยพูดจบก้มลงไปซบพิงแผงอกของคนรักด้วยความเขินอาย

 

ชายหนุ่มเชิดปลายคางคนรักเงยหน้ามาสบตา เขาค่อย ๆ โน้มตัวลงไปทาบริมฝีปาก มอบจุมพิตอันแสนหวาน ละมุนละไมเจือปนไปด้วยความรักของเขาทั้งสองมอบให้แก่กันและกัน เขาทั้งสองจูบกันอยู่นานจนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ร่างสูงผละริมฝีปากออก แต่ยังคลอเคลียหยอกเย้าริมฝีปากอันบวมเจ่อของคนรัก จนเขาต้องตัดใจถอนออกไปอย่างเสียดาย

“ขอโทษด้วยนะคะพี่เตรียมแหวนไม่ทัน เอาไว้กลับไปค่อยไปเลือกด้วยกันนะคะ”

“ครับ...”

“ไปกันเถอะค่ะ พ่อกับแม่พี่น่าจะรอแล้ว”

 

หนึ่งย่อตัวลงนั่งยอง ๆ เอาฝ่ามือตบหลังบอกคนตัวเล็กให้รู้ว่าเขาจะให้ขี่หลังกลับบ้าน ร่างบางโถมตัวทาบหลัง หนึ่งช้อนแขนใต้ข้อพับและยกตัวคนรักขึ้น หนึ่งรับรู้แรงสะเทือนของใจเต้นแรงผ่านแผ่นหลัง ส่วนวีแนบตัวกับคนพี่เขาก็ได้สัมผัสสว่าหัวใจคนพี่เต้นแรงเหมือนกับเขาเช่นกัน เขาทั้งสองต่างพากันยิ้มกว้างให้กันและกัน

 

สนามบินเชียงใหม่ “แล้วมาหาแม่อีกนะลูก มาเที่ยวทุกเดือนก็ได้ อยากบินมาเมื่อไหร่บอกแม่นะครับ เรื่องตั๋วไม่ต้องห่วง ถ้าอยากมาด่วน แม่ให้เอาเครื่องไปรับมาได้นะลูก” เสียงบอกแก่ลูกชายคนใหม่ที่คุณนายไร่ดอกไม้หลงมากกว่าลูกชายแท้ ๆ ของตัวเธอ

“ครับแม่”

“โทรหาแม่บ่อย ๆ ด้วยนะ ถ้าแม่ว่างจะรีบไปหาเลยนะครับ ถ้าพี่หนึ่งแกล้งอะไรโทรมาฟ้องแม่นะลูก ไม่อยากให้ไปเลย ลูกชายที่น่ารักของแม่” หญิงวัยกลางคนกอดแขนอ้อนคนตัวเล็ก

“ครับ น้องวีจะโทรหาบ่อย ๆ เลยนะครับ ถ้าน้องวีไม่ยุ่งจะโทรหาทุกวันนะครับ” เจ้าคนตัวเล็กอ้อนกลับด้วยการกอดเอว

“น่ารักมากค่ะลูก”

 

ชายสองคนพ่อลูกนั่งมองคนรักของพวกเขาสองคนกอดรัดออดอ้อนกันและกัน คิ้วเริ่มกระตุกด้วยความไม่พอใจ แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะถ้าเข้าไปแยกออกจากกันคงโดนงอนแน่นอน

“ผมว่าคงไม่ใช่คนตกกระป๋อง 1 อัตราครับ ผมเก่งไหมครับพ่อหาคนรักได้ถูกใจแม่” ลูกชายถามอย่างยียวนแก่บิดาตัวเอง

ผู้เป็นพ่อใบหน้ากระตุกในความกวน เท้ายังกระตุกตามไปด้วย แต่พวกเขาอยู่ในพื้นที่สาธารณะไม่เหมาะสมจะแสดงกิริยาแบบนี้ ค่อยคลี่ยิ้มบนมุมปาก “คงไม่แค่ฉันคงเดียวหรอกมั้ง กอดกันแน่นขนาดนั้น แต่ระวังดี ๆ น่ารักขี้อ้อนแบบนี้แม่แกจะไม่ปล่อยมาคืนแกง่าย ๆ" บิดายักคิ้วตอบกลับ

หนึ่งหน้ากระตุก เขาลืมคิดข้อนี้ “พ่อ ผมว่าเรามาร่วมมือแยกสองคนนี้กันเถอะ พ่อได้แม่คืน ส่วนผมก็ได้น้องคืน”

ชายวัยกลางคนมองหน้าลูกชายอย่างจริงจัง ยกมือจับ “ดีล”

“น้องวีขา ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้วค่ะ” หนึ่งบอกแก่คนรักของตัวเอง

“ที่รัก ลูก ๆ ต้องไปขึ้นเครื่องแล้วค่ะ เอาไว้วันหลังจะพาไปหานะคะ” พ่อของชายหนุ่มใช้เสียงหวานบอกแก่ภรรยาของเขา แตกต่างจากน้ำเสียงเย็นชาเวลาพูดกับลูกชาย

“ไปเถอะ เราต้องเข้าไปข้างในแล้วค่ะ” หนึ่งลุกไปจับมือคนรักให้ออกจากอ้อมกอดมารดาของเขา

“สวัสดีครับคุณแม่ สวัสดีครับคุณพ่อ” คนตัวเล็กยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง

 

ชายวัยกลางคนวางมือบนหัวลูกคนใหม่ด้วยความเอ็นดู “ตอนนี้วีถือเป็นคนของศิริกิจวัชรโชติคนหนึ่งนะลูก ถ้ามีใครมาพูดหรือทำอะไรให้เราไม่สบายใจบอกพี่หนึ่งหรือใครก็ได้ในบ้านเรา ทุกคนจะถือว่าเป็นธุระแทนวีได้หมด แต่ถ้าพี่เขารังแก วีไปฟ้องเจ้าไนน์นะ คนนั้นปราบได้ทั้งบ้าน” บิดากลั้วยิ้มและยักคิ้วให้ลูกชาย

“...” ลูกชายตวัดสายตาไปมองบิดาขวับ แนะจุดอ่อนของลูกแบบนี้ได้ไงพ่อ

“ขอบคุณครับคุณพ่อ” เจ้าตัวยกมือไหว้ขอบพระคุณในความหวังดีและห่วงใยอีกครั้ง

“หนึ่งอย่าลืมพาน้องไปหาปู่ด้วยนะ” บิดาเน้นย้ำเรื่องสำคัญแก่บุตรชาย

“ครับพ่อ...ผมพาน้องไปก่อนนะครับ สวัสดีครับแม่สวัสดีครับพ่อ” ลูกชายทั้งสองยกมือไหว้ลาบิดามารดาและพากันเข้าไปรอเวลาขึ้นเครื่อง ลากพาคนรักของเขาหนีมารดาอย่างเร็ว

 

จินบอดี้การ์ดส่วนตัวบินกลับมาล่วงหน้า ยืนรอรับพวกเขาทั้งสองคนตรงประตูทางออกของสนามบิน เจ้านายของเขาเดินจูงมือคนรักใบหน้าขึงขัง ตาขวางมองไปยังบรรดาบุคคลอื่นจ้องมองคนรักของตัวเอง ใบหน้าดูดุอย่างมากแต่สำหรับลูกน้องอย่างเขาที่ติดตามมาสิบกว่าปี มีแววตาอันมีความสุขอวดแฟนน่ารักและหวงไปพร้อม ๆ กัน

 

บอดี้การ์ดหนุ่มลอบถอนหายใจ ตอนนี้งานไอ้จินงอกเต็มอัตราคือเขาต้องคอยติดตามคนรักของเจ้านายอย่างแน่นอน แต่ก็ต้องเข้าใจเจ้านาย เพราะตัวเองคือคนได้รับความไว้ใจที่สุด ส่วนบอดี้การ์ดคนอื่นที่ไม่โตมาด้วยกันคุณหนึ่งไม่ให้มาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวอย่างเขา

ช่วงคุณหนึ่งหนีไปพักผ่อนที่เชียงใหม่ พอเจ้านายคืนดีกับคนรักเท่านั้นแหละโดนสั่งบินกลับด่วน มาจัดการย้ายของในห้องคุณวีมายังคอนโดของคุณหนึ่งรวมถึงเรื่องเอกสารการโอนคอนโดชั้น 12 ที่ซื้อไว้ตอนช่วงไปกีดกันคุณวีกับน้องชายสุดรักเปลี่ยนชื่อเจ้าของทันทีเมื่อมาถึงพร้อมส่งมอบ

“สวัสดีครับคุณหนึ่ง คุณวี การเดินทางเป็นไงบ้างครับ” เขารับกระเป๋าสองใบไปลากแทนและพาไปยังรถ

“สวัสดีครับพี่จิน” คนตัวเล็กส่งยิ้มหวานอย่างสดใสให้แก่ชายหนุ่มบอดี้การ์ด

“หนูวีคะ ไม่ต้องไปแจกยิ้มค่ะ” เสียงดุเบาๆ จากเจ้านาย

“ทำไมครับ? ไม่ได้เหรอนี่พี่จินเองนะครับ” คนตัวเล็กเอียงคอถามกะพริบตาปริบๆ ใคร่สงสัย

“...ค่ะ”

แพ้แล้วครับคุณหนึ่ง เจอลูกอ้อนแบบนี้ จินแอบหัวเราะในใจ เหมือนเจ้านายจะอ่านความคิดเขาได้ ตวัดสายตามาเชือดเฉือนทันที

“เอกสารการโอนคอนโดครับ ทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว เหลือแค่ให้คุณวีลงลายเซ็นอย่างเดียวครับ” จินหยิบแฟ้มเอกสารจากเบาะด้านหน้าส่งไปยังด้านหลังแก่เจ้านาย

“...” คนตัวเล็กขมวดคิ้ว “ลงลายเซ็น? หมายความว่าไงครับ?”

“แค่ลงชื่อตรงนี้ค่ะ” หนึ่งยัดปากกาใส่มือเจ้ากระต่ายน้อยใบหน้ายังงุนงง ถึงแม้จะขมวดคิ้ว แต่เจ้าตัวจรดปากกาลงชื่อตามที่เขาบอกโดยไม่ระวังตัวเลย

หนึ่งพับแฟ้มและส่งให้จิน “เอาไปจัดการต่อเลย”

“ครับคุณหนึ่ง”

“พี่หนึ่ง! อธิบายให้ฟังหน่อยครับ” เขาเองเพิ่งรู้สึกตัวว่ากระทำอะไรลงไป แต่ตัวเขาเองเชื่อว่าคนรักของเขาไม่มีเจตนาร้ายอย่างแน่นอน

“พี่โอนคอนโดให้หนูค่ะ คอนโดห้องตรงข้ามไงคะ”

คนตัวเล็กตาโต “โอนให้วีทำไม วีไม่เอา” เจ้าตัวน้อยโวยวายอย่างไม่พอใจ เขาคบกับพี่หนึ่งด้วยใจ ไม่ได้หวังเรื่องพวกนี้

“คอนโดตรงนั้นเราสองคนไม่ได้อยู่ จะปล่อยทิ้งไว้เฉย ๆ ก็ไม่เกิดประโยชน์พี่เลยคิดว่าปล่อยให้เช่าหาเงินให้หนูกินขนมเล่นดีกว่าค่ะ”

“ทำแบบนั้นก็ได้ครับ แต่ทำไมต้องโอนให้วีด้วย” คนตัวน้อยยังไม่หยุดคาดคั้น จ้องหาชายหนุ่มเพื่อเอาคำตอบ

“คือ...พี่ไม่มีเวลาดู โอนให้วีเป็นผู้ดูแลแทนไงคะ” ร่างสูงตอบด้วยเสียงเบาแบบกลัวโดนโกรธ

ตาใสกลมโตหรี่มองอีกคนอย่างจับผิด “งั้นก็ได้ แต่ถ้าเงินเข้าแล้ววีจะโอนคืนพี่หนึ่งนะครับ”

“...” หนึ่งไม่ตอบรับเพียงยิ้มรับเฉย ๆ

จินนั่งฟังอยู่ด้านหน้าส่ายหัว ในความหลงแฟนของเจ้านาย อยากจะเปย์เขาแต่กลัวเขาไม่เอา เลยมัดมือชกยกให้แบบนี้ แพ้เมียทั้งพ่อทั้งลูกเลยบ้านนี้

 

ชายหนุ่มรับกระเป๋าจากบอดี้การ์ดตรงหน้าประตูห้อง และพาคนตัวเล็กเข้าไปด้านใน คอนโดพื้นที่ 200 ตารางวา ชายหนุ่มถือว่าตรงนี้คือพื้นที่ส่วนตัว บุคคลจะเข้ามายังตรงนี้จะมีเพียงแค่คนที่เขาไว้ใจเท่านั้น ส่วนการทำความสะอาดจะเอาคนมาจากบ้านใหญ่โดยนมแย้มเป็นคนจัดสรรหามา มีเพียงคนเดียวตรงหน้านี่แหละที่เขาอยากจะพามาตั้งนานแล้ว จนในที่สุดวันนี้ก็มาถึง

 

“ค่อยยังชั่วหน่อย เจอแอร์เย็นฉ่ำปอด” คนตัวเล็กบ่นกระปอดกระแปดกระพือเสื้อระบายความอบอ้าว แรงขยับของเสื้อเผยให้เห็นถึงแผ่นอกขาวเนียนและติ่งไตสีชมพูแบบวับ ๆ แวม ๆ หนึ่งกลืนน้ำลายก้อนเหนียวลงคออย่างลำบาก การอดทนต่อการกระทำของเจ้าตัวเล็กมันสิ้นสุดลงเมื่อเจ้าตัวขยับเข้ามาใกล้ขึ้น

 

“อะ!!” เสียงร้องตกใจของตัวน้อยถูกยกตัวลอยขึ้นมานั่งบนตู้รองเท้า

 

ชายหนุ่มป้อนจูบอันเร่าร้อนและวาบหวาม จูบที่เจ้าตัวน้อยยังไม่เคยได้สัมผัส เขาถูกจูบด้วยรสอันแสนหวานนุ่มนวลประดุจดั่งเขาคือคนรักอันบอบบาง แต่ในคราวนี้ริมฝีปากหนาทาบประกบราวกับหิวโหย ขบเม้มไปทั่วริมฝีปากเรียวลิ้นร้อนตวัดรัดลิ้นบาง กวาดต้อนไปยังทั่วโพรงปาก ชายหนุ่มผละริมฝีปาก

 

“แฮก ๆ” ร่างบางหอบหายใจราวโดนสูบวิญญาณ พยายามกอบโกยอากาศเข้าปอด “อือ...” ชายหนุ่มเข้าช่วงชิงริมฝีปากยังไม่อิ่ม ประกบจูบซ้ำไปอีกรอบ

 

หนึ่งย้ายริมฝีปากลากลิ้นเลียขบเม้มซอกคอขาว ๆ ตวัดเลียชิมขบกัด ลิ้นลากเลียไปยังซอกหูแหย่แยงหยอกเย้า เรียกเสียงครางจากคนตัวเล็ก ชายหนุ่มบดส่วนแข็งขืนถูไถไปกับสิ่งเดียวกันของร่างบาง มือหนาลูบไล้บีบขยำสะโพกอย่างเต็มแรง

 

“อ๊า! อือ...พะ พี่ น หนึ่ง อ้า...อืม...วี ต้องกลับบ้านนะครับ” เสียงครางปนคำพูดแทบจะฟังไม่ได้ศัพท์แก่คนพี่

 

“อืม..ค่ะ” เสียงขานรับจากชายหนุ่ม

 

ร่างสูงผละออกจากซอกคอ ยกชายเสื้อสีชมพูตัวบางขึ้นมุดหัวเข้าไปลงลิ้นรัวชิมติ่งไตสีชมพู มือหนาเขี่ยอีกข้างจนเป็นไตแข็ง ก่อนจะย้ายไปชิมอีกข้าง จนเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลาย คนตัวเล็กทนการปลุกเร้าอย่างร้อนแรงยกมือทั้งสองข้างกอดรัดศีรษะลูบไล้ระบายความเสียว

 

“อ้า อ๊า..พี่หนึ่ง วี สะเสียว...”

 

ชายหนุ่มย้ายมือไปยังข้อเท้าเล็กยกดันขึ้นมาไว้บนตู้ เจ้าคนตัวน้อยนั่งอยู่ในท่าแยกขาเป็นรูปตัวเอ็ม ร่างบางไม่รู้เลยว่ากางเกงเขาโดนถอดออกไปเมื่อไหร่ เขารู้ว่าท่อนล่างตัวเองเปลือยเปล่าเมื่อช่องทางด้านหลังสัมผัสกับความเย็นแอร์ภายในห้อง หนึ่งผละสายตามามองดูร่างบางในท่าทางที่เขาจัดให้น้องนั่ง เขายกมือมาเลียทั้งสายตาหื่นกระหายเล้าโลม และเจ้ากระต่ายน้อยสบตามองมายังคนรักของเขาด้วยดวงตาเปียกชื้น

 

“อืม...”

 

หนึ่งคุกเข่าแลบลิ้นเลียน้ำที่เยิ้มจากส่วนหัว ก่อนตวัดลิ้นเลียวนไปรอบ ๆ เปิดปากอ้าอมไปทั้งแท่ง ค่อย ๆ ขยับหัวขึ้นลงเป็นจังหวะ นิ้วกลางเรียวยาวถูไถช่องทางหลังมุดเข้าไปจนสุดก้านนิ้ว คนตัวเล็กถูกกระตุ้นทั้งส่วนหน้าและส่วนหลัง ร้องครวญครางอย่างเสียวซ่าน มือบางจิกลงบนบ่าของคนรักระบายความเสียว

 

“อ๊า.. พะ พี่หนึ่ง อ้า... อะ!”

 

หนึ่งขยับหัวขึ้นลงสอดคล้องกับจังหวะเข้าออกของนิ้วยาว จำนวนนิ้วเพิ่มขึ้นจนครบสาม หนึ่งงอปลายนิ้วให้ขูดไปตามผนังลำไส้ กดย้ำตรงจุดกระสัน

 

“วะ วี อ้า จะ..แตก..ละ แล้ว อ๊า!!!” เสียงกรีดร้องจนสุดเสียงผวากอดคนรัก พร้อมกับน้ำสีขาวอุ่นฉีดพุ่งในปากคนร่างสูง

 

หนึ่งขยับตัวลุกขึ้นคายของเหลวสีขาวขุ่นป้ายไปยังช่องทางรัก รูดซิปกางเกงควักแก่นกายอันใหญ่โตปวดบวมแทบจะระเบิดออกมาสวมเครื่องป้องกัน แล้วกดส่วนหัวไปยังช่องทางด้านหลัง สวบ!

 

ร่างสูงออกแรงดันเข้าไปทีเดียวจนสุด หนูวีเอนตัวพิงผนังกรีดร้องตามด้วยใบหน้าเหยเกด้วยความจุกและคับแน่น เล็บกดจิกขอบตู้รองเท้า ชายหนุ่มใช้ลิ้นเลียหยดน้ำสีใสไหลอาบลงข้างแก้ม

 

เขารอให้คนตัวเล็กคลายช่องทางด้านหลังที่บีบรัด จากนั้นหนึ่งโยกขยับเอวเข้าออก กดส่วนหัวตอกย้ำจุดเสียวของคนตัวเล็ก ทุกครั้งเขาจะได้รับการตอดรัดแท่งร้อน

 

“อ๊า!! อ้า...”

 

“อืม... เสียวชิบ...อืม...”

 

เสียงครางแข่งกันอย่างเสียวซ่าน ลำตัวเสื้อผ้าเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ แอร์ที่เย็นจนฉ่ำปอดในคราแรกไม่หยุดความร้อนแรงของกิจกรรมเข้าจังหวะของพวกเขาได้ หนึ่งสอบเอวอย่างเร็วและหนักหน่วงจนเจ้าตัวเล็กโยกตัวไปตามแรงกระแทก ไม่นานร่างบางกรีดร้องจนสุดเสียง ปลายเท้าจิกเกร็งพร้อมกับของเหลวสีขาวขุ่นพวยพุ่งออกมาเลอะกล้ามท้อง เอนตัวพิงฝาผนังเหนื่อยหอบอย่างหมดแรง

 

“อ๊า!!...”

 

แรงตอดรัดบีบเกร็งจากช่องทางหลังช่วยส่งอีกคนให้ถึงฝั่งฝันเช่นกัน ลาวาสีขาวขุ่นฉีดพุ่งเข้าไปภายในร่างคนตัวเล็ก จนเต็มถุงยางอนามัยกักเก็บน้ำเชื้อของเขา

 

“อืม..”

 

หนึ่งคว้าตัวคนรักมาบดจูบอีกครั้งจนหนำใจ ประทับจูบลงบนหน้าผากเพื่อปลอบโยนเจ้าตัวน้อยที่เขาเผลอรุนแรง

 

“พี่รักวีนะคะ”

 

หนึ่งช้อนตัวคนรักของเขาในท่าลิงอุ้มแตงไปยังห้องน้ำ คนรักในสภาพหมดแรงเอียงตัวพิงซบคางเกยไหล่ และกอดอีกคนไว้อย่างหลวม ๆ หนึ่งชำระล้างทำความสะอาดช่องทางหลังจากการร่วมรักและส่วนแก่นกายน้อย จากนั้นพาไปยังเตียงนอนวางคนรักอย่างเบามือ

 

จูบซับขมับ “นอนพักก่อนนะคะ ใกล้ถึงเวลากลับบ้านพี่จะมาปลุกหนูเองค่ะ”

 

คนตัวเล็กต้องย้ายมานอนในที่ใหม่ เขาไม่คุ้นและด้วยอาการกลัวผีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เขาคว้าแขนชายคนรัก บอกด้วยเสียงแหบแห้ง “นอนกับวีนะครับ”

 

“...” หนึ่งขบกรามแน่นขึ้นรูป โดนยั่วตาใสอีกแล้ว เขาปีนขึ้นเตียงไปนอนกกกอดคนรักอย่างอดกลั้น

 

To be continued…

 

 

ฝากกดใจและคอมเม้นเล็ก ๆน้อย ๆ ด้วยนะคะ อีกไม้กี่บทกะจับจบแล้วค่ะ ฝากเอ็นดู ติชมนักเขียนตัวน้อยๆด้วนะคะ