14 ตอน บทที่ 14 จังหวะนรก
โดย T.mines
บทที่ 14
จังหวะนรก
ทิวลิปสีเหลือง ดอกไม้แห่งความรักที่ไม่สมหวังหรือการถูกปฏิเสธ “ฉันคงไม่มีหวังแล้วจริงๆ”
วันจันทร์เช้าแห่งการเริ่มต้นของสัปดาห์ หนึ่งยังคงทำหน้าที่เดิมคือการขับรถไปส่งน้อง แต่ลดการซื้ออาหารเช้าไปฝากคนเก่งของเขา เพราะไอ้น้องคนอื่นมันโทรมาด่าว่าเอาหน้าอยู่คนเดียว ก็เล่นสลับกันโทรมาด่าไม่เว้นวัน ถ้าเป็นก่อนจะมีคนตัวเล็กมานั่งข้าง เขาคงไม่ถอย แต่พอดีมีสิ่งที่น่ารักน่าสนใจกว่า
“พี่หนึ่งครับ วีจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เพื่อน ๆ ฟังดีไหมครับ” เจ้าตัวเล็กถามระหว่างพวกเขาติดไฟแดง
“ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องเล่า เอาที่วีสบายใจ”
“แต่วีไม่อยากมีความลับกับเพื่อน กลัวว่ามารู้ทีหลังจะโดนดุเอาล่ะสิ ไนน์อาจจะรู้แล้วก็ได้ ทั้งพี่ทาซอท พี่ยอซอท พี่นานะ และพี่หนึ่งรู้แล้ว ไนน์จะไม่รู้ได้ไง”
หนึ่งเหลือบตาไปมองคนตัวเล็กแวบหนึ่ง และขับรถไปตามสัญญาณไฟเขียว “ไนน์ยังไม่รู้ครับเพราะไม่มีใครพูดเรื่องนี้ให้ฟังแน่นอน เอาตามหนูต้องการเลยค่ะ” พวกพี่ ๆ อย่างเขารู้ดีว่าถ้าเกิดน้องรัก รู้เรื่องที่เกิดกับเพื่อนตัวเอง คงไปตามเอาเรื่อง ไนน์เองมีนิสัยที่พี่อย่างเขาต้องยอม ถ้าสิ่งไหนคือของสำคัญ เจ้าตัวจะรักษามันยังอย่างดีไม่ยอมให้พังง่าย ๆ คนก็เฉกเช่นเดียวกัน ถ้ามาทำร้ายคงเอาเรื่องจนถึงที่สุด
ชายหนุ่มมาจอดส่งว่าที่แฟนของเขาตรงหน้าตึก วันนี้ต้องเข้าไปเคลียร์ออเดอร์ดอกกล้วยไม้ที่เข้ามาเยอะมาก ต้องยอมทำใจไม่ได้เดินไปส่งเหมือนทุกวัน
“วันนี้เลิกบ่ายสามใช่ไหมคะ เดี๋ยวพี่มารับนะคะ” หนึ่งคลี่ยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“ครับ พี่หนึ่งเลิกพูดคะขากับวีเถอะครับ วีรู้สึกแปลกยังไงไม่รู้ง่ะ” เจ้าเด็กน้อยเกาแก้มเขินอาย ใบหน้ามีสีชมพูระเรื่อ
“รู้สึกยังไงเหรอคะ บอกพี่มาหน่อยค่ะ” ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ หนึ่งหยอกซ้ำเข้าไปอีก เขาชอบเวลาคนตัวเล็กของเขาเขินจนแก้มแดง มันน่าฟัด
“ไม่คุยด้วยเล่า ไปแล้วนะครับ” เจ้ากระต่ายน้อยเป่าแก้มพองลมใส่คนขี้แกล้ง ยกมือไหว้ลาก่อนลงจากรถ
ชายหนุ่มตัวเล็กของกลุ่มมาถึงหลังสุด เขาส่งยิ้มให้หญิงสาวสองคนโบกมือเรียกเขา วีหย่อนตัวลงข้างเพื่อนสนิทอย่างไนน์
“วีมาแล้ว วันนี้ไม่มีคนเดินมาส่งเหรอคะ?” จัสมินแซวเพื่อนตัวน้อย และถามถึงชายหนุ่มขี้หวง
“พี่หนึ่งต้องรีบไปทำงานต่อ แค่แวะมาส่งเฉย ๆ” วีตอบ
“โอ๊ะ! เดี๋ยวนี้อะไรก็พี่หนึ่งตลอดเลย ว่าแต่ขยับไปถึงขั้นไหนแล้ว” คิวหนุ่มลูกครึ่งยิ้มกรุ้มกริ่มแซว
“อะ อะไร ขยับอะไร ไม่มี! พี่น้องกันเหมือนเดิมแหละ” เพื่อนตัวเล็กพูดปฏิเสธอย่างเร็วแบบมีพิรุธสุด ๆ ท่าทางนั้นอยู่ในสายตาเพื่อนทุกคนอย่างเอ็นดู
“อืม พี่น้องก็พี่น้อง ถ้ามีคนมาได้ยินคงเสียใจ” น้ำเสียงเห็นอกเห็นใจจากเจโอ
“พอ ๆ เลิกแกล้งน้องวีได้แล้ว แล้ววันนั้นเป็นไงมั่ง หนึ่งแค่ส่งข้อความมาบอกว่าถึงห้องเรียบร้อยแล้ว พี่ชายของไนน์ ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีกับวีใช่ไหม?” ไนน์ถามพลางจ้องหน้ารอคอยคำตอบ
“...” คนตัวเล็กนิ่งเงียบลงไป ช้อนตาไปมองเพื่อนนั่งรอบตัว “หลังจากวีไปเข้าห้องน้ำ เราโดนลากไปอีกห้องและโดนลวนลาม แล้วก็...มอมยาด้วย” เจ้าตัวเล็กเล่าไปด้วยสีหน้าไม่สู้ดี สองสาวยกมือมาปิดปากอย่างตกใจ ส่วนอีกสามหนุ่มหน้านิ่งจนดูน่ากลัว เขารีบพูดต่อ “แต่พี่หนึ่งมาช่วยไว้ทันนะ วีเลยไม่เป็นไร”
“...” ทุกคนนิ่งเงียบในใจต่างพากันโทษตัวเองที่เพื่อนตัวน้อยเกิดเรื่องแต่พวกเขายังคงสนุกสนานกันอยู่
“วีขอโทษที่ดื้อไม่ยอมฟังทุกคนทั้งที่วีสัญญาไว้แล้ว ว่าจะกินแบบมีสติแต่ก็กินจนเมาและเกิดเรื่องจนได้” เจ้าตัวน้อยกล่าวโทษตัวเอง ยิ่งเพื่อน ๆ นิ่งเงียบ เขายิ่งรู้สึกผิดอย่างมาก
ไนน์ยกมือเบรกเจ้าตัวน้อยที่กำลังจะพูดต่อ เขาหยิบโทรศัพท์ต่อสายหาพี่ชายตัวเองพร้อมกับเปิดลำโพงให้เพื่อนคนอื่นฟังร่วมด้วย
[ครับคนเก่ง] หนึ่งรับสายระหว่างขับรถ เขาพอจะรู้ว่าคนตัวเล็กคงเล่าเรื่องให้เพื่อนฟัง
“เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นมาให้หมด” เสียงอันเย็นเฉียบจากน้องชาย หากเป็นเมื่อก่อนหนึ่งคงจะปวดใจ เมื่อน้องรักใช้น้ำเสียงแบบนี้กับเขา แต่ตอนนี้เขาเข้าใจว่าวีคือเพื่อนคนสำคัญ น้องคงไม่พอใจที่เขาปกปิดเรื่องเอาไว้
[วีเมาและโดนพาตัวเข้าไปในห้อง ตอนที่วีโดนบังคับให้ดื่มเหล้าเลยซัดไปหมัดนึง แล้วก็พาตัวออกมาครับ ให้หมอมาตรวจดูเรียบร้อยแล้วครับ และหมอบอกว่าไม่เป็นอะไร]
“แค่หมัดเดียวเหรอ สืบดูหรือยังว่าเป็นใคร จะจัดการยังไง” ไนน์แค่นเสียงถามพี่ชาย
[เรียบร้อยแล้วครับ แต่ติดปัญหานิดหน่อยพี่ขอเวลาจัดการก่อน]
“...”
[เรื่องนี้พี่คุยกันแล้ว น้องวีให้พี่เป็นคนจัดการทั้งหมดเลยครับ] ไนน์เสตามองเพื่อนตัวเล็กที่นั่งพยักหน้าหงึก ๆ เห็นด้วยกับคำพูดของพี่ชายเขา
“คงรู้นะว่าจะจัดการยังไง กล้ามายุ่งกับเพื่อนรักของไนน์”
[แล้วตอนนี้วีเป็นไงมั่งครับ โดนเพื่อนคนอื่นดุไหมครับ] เสียงถามด้วยความเป็นห่วงจนคนอื่นที่กำลังเป็นห่วงน้องน้อยของกลุ่มเบ้หน้า เพราะความเสียงสองของอีกคน
“อะ คุยกันเองแล้วกัน” เจ้าของโทรศัพท์ดันเครื่องมือสื่อสารให้คนที่พี่ชายเขาถามหา ไนน์กลอกตาใส่เพื่อนคนอื่น ส่วนอื่นพยักหน้าตอบกลับ
“พี่หนึ่ง...” เสียงละห้อยเรียกชื่ออีกคน
[ไม่โดนดุใช่ไหมครับ ถ้าจะดุ บอกให้มาดุพี่แทนนะ] เสียงบอกคนตัวเล็กอย่างนุ่มนวล
“ไม่มีใครดุเลย เอาแต่นิ่งเงียบไม่ยอมพูดอะไรกับวีเลย” คนตัวเล็กฟ้องคนพี่ เบะปากใส่คนนั่งฟังร่วมด้วย
“...” คนอื่น
“หนึ่ง คงไม่มีใครดุน้องวีของหนึ่งหรอกและจะไม่ดุด้วย จัดการเอาเองนะทั้งสองคน คนนอกไม่ยุ่งแล้ว” ไนน์พูดแทรกระหว่างบทสนทนาของพี่ชายและต่อด้วยคำพูดของคิวเสริมตาม “จะดูอยู่ห่าง ๆ แบบห่วง ๆ”
คนอื่น “เน้อ...”
“เง้อ...” เสียงร้องจากตัวเล็ก
[งั้นพี่ไม่กวนแล้ว เจอกันตอนเย็นนะคะ] ตามด้วยเสียงหัวเราะ
“ครับ”
หลังจากวางสายจากคนพี่ เจ้าตัวน้อยไม่ทันจะพูดอะไรก็มีเสียงดัง ปัก! ปัก! จากด้านข้าง
“มึง...คะขามาค่ะ” จัสมินแซวน้องน้อยของกลุ่มพร้อมกับมือตีแขนไนน์ด้วยอาการเขินอายแทนเพื่อน
“มึง...กูอยากมีมั่ง ไนน์ขาสนใจจีบกูไหม ผัวรวยกูชอบค่ะ” เมเปิ้ลยกมือไปหาชายหนุ่มและส่งสายหวานให้ด้วย
“เมเปิ้ลไหนมึงบอกไม่นิยมเอาเพื่อนทำผัวไง” คิวว่าขัดขึ้นมา
“อะ ไอ้นี่ขัดกูจัง” หญิงสาวย่นจมูกไม่พอใจใส่หน้าชายหนุ่ม
“พอพวกมึงเลิกตีกัน” เจโอยกมือสงบศึก “สรุปเรื่องนี้วีจะให้พี่หนึ่งเป็นคนจัดการใช่ไหม” ร่างบางพยักหน้า “แล้ววีโอเคกับเรื่องที่เกิดขึ้นไหม”
“เราโอเคแล้ว พี่หนึ่งดูแลเราอย่างดี ไม่ต้องห่วง” เจ้าตัวน้อยตอบอย่างมั่นใจและยิ้มกว้างให้แก่เพื่อนคนอื่น
“งั้นพวกเราก็สบายใจ ต่อไปนี้วีมีอะไรบอกกันนะ อย่าเก็บไว้คนเดียว ถึงจะมีคนคอยช่วยแล้วก็ตาม เรา จัส คิว เจโอ และไนน์ พวกเราทุกคนอยู่ข้าง ๆ วีเสมอ” เมเปิ้ลบอกกับเจ้าตัวน้อยมือ ยกไปยีหัวจนยุ่งเหยิง
“ไปพวกมึงไปเรียนครับ” เจโออัญเชิญเพื่อนทั้งหมดขึ้นไปเรียน เพราะมัวแต่คุยจนเกือบจะสาย
ช่วงใกล้สอบกลางภาค อาจารย์ที่สอนจบแล้ว ปล่อยให้นักศึกษาไปอ่านหนังสือทบทวน รวมถึงชั่วโมงของนักศึกษาวิศวกรรมเครื่องยนต์เข้ามาแค่ส่งงานในชั่วโมงสุดท้ายของวันนี้ และแยกย้ายกันกลับบ้าน
“พวกมึงไปไหนกันต่อไหม” คิวเอ่ยถามเพื่อนคนอื่น
“กูจะกลับไปนอน” ไนน์ตอบกลับ
“ส่วนกูก็จะไปนอนเอาแรงก่อนค่อยมาอ่านหนังสือต่อ” เจโอตอบ
“กูจะไปหาอะไรกินกับพี่หมอแล้ว กลับไปเตรียมอ่านหนังสือ” จัสมิน
“กูเหมือนพวกมัน นอนค่ะ” เมเปิ้ล
“เรารอพี่หนึ่งมารับ” น้องน้อยตอบมาแบบอ้อมแอ้ม ไม่บอกคนอื่นก็พอจะรู้
“งั้นเจอกัน” คิวเตรียมโบกมือลา
“เดี๋ยวไอ้คิว ตั้งแต่พรุ่งนี้มึงเตรียมตัวหอบเสื้อผ้าไปนอนคอนโดกู เพราะกูจะติวแมทให้มึง ตามด้วยฟิสิกส์ และเคมี ตลอดสัปดาห์นี้เลย” ไนน์คว้าคอเพื่อนตัวโตกว่าก่อนจะเดินหนีหายและออกคำสั่งต่อมา ความจริงแล้วคิวเรียนค่อนข้างดี ติดตรงที่พ่อหนุ่มลูกครึ่งไม่ค่อยสนใจ เขาถึงลากกลับมาเรียนตลอด
“เออ...” คิวขานรับอย่างรำคาญ แต่ก็ยอมทำโดยดี เพราะเข้าใจความเป็นห่วงของเพื่อน
“กูไปด้วยดิ ขี้เกียจอ่านคนเดียว” เมเปิ้ลได้ยินว่าไนน์กับคิวไปติวด้วยกันเลยขอไปด้วยคน
“มาดิ เอางี้ใครจะมาก็ได้เลยนะพวกมึง ส่วนรหัสเข้าคอนโดเดี๋ยวส่งเข้าไลน์แล้วกัน” เจ้าตัวกดส่งข้อความลงในกลุ่มของพวกเขา
“กูไปด้วย วันนี้ไปจะได้ไปขอคุณแฟนเลย” จัสมินเริงร่าบอกกับคนอื่น
“เจโอมึงไปด้วยดิ ไปช่วยกูติวด้วยคนเดียวคงไม่ไหวว่ะ วีไปด้วยไหม” ไนน์บอกแก่เพื่อนร่างสูง และถามกับเพื่อนตัวน้อย
“ได้มึงงั้นเจอกัน กูไปล่ะ” เจโอตอบรับและโบกมือลาหนีคนแรก
“กูไปด้วย” คิวหนีตามเจโอ
“กูไปด้วย...” เมเปิ้ลร้องบอกชายหนุ่มสองคนที่ปรี่ตัวหนีอย่างเร็ว
“แล้วเจอกันมึง ไปแล้วนะวี” สองสาววิ่งตามหลังสองหนุ่มไปยังลานจอดรถโบกมือ บ๊ายบาย สองคนที่ยังยืนคุยกันอยู่
“ดีเลย วีไปด้วยคนนะ” เจ้าตัวเล็กตอบกลับไปเช่นกัน
“วีรอหนึ่งใช่ไหม แล้วออกมาหรือยัง ให้ไนน์รอเป็นเพื่อนด้วยไหม” ไนน์วางมือบนหัวเจ้าตัวน้อยระหว่างพูดคุย
“อืม พี่หนึ่งออกมาแล้ว เดี๋ยวก็คงถึงแล้ว ไนน์กลับก่อนได้เลย”
“งั้นไปล่ะนะ” ชายหนุ่มร่างโปร่งเดินตามเพื่อนที่ทิ้งหายไปเป็นคนสุดท้าย
พอเหลืออยู่คนเดียว เจ้าตัวน้อยรู้สึกเคว้งเหมือนกัน ปกติจะมีคนตัวสูงมารออยู่เสมอบางครั้งที่ไม่ได้มารอ เขาก็จะไปกับเพื่อนสนิทอย่างไนน์ หรือไม่ก็เดินร่วมทางไปกับเพื่อนเพื่อไปขับรถกลับคอนโด แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาจะมารับเขา เจ้าตัวเล็กพลันนึกเรื่องสนุกว่าจะไปยืนรอตรงลานจอดรถให้แปลกใจบ้างดีกว่า ร่างบางเดินอมยิ้มนึกถึงหน้าอีกคนจะตกใจหรือเปล่าที่เขาจะแอบไปจ๊ะเอ๋
ขาเล็กเดินไปหลบมุมลานจอดรถ ในรั้วมหาลัยมีต้นไม้อยู่เยอะ และลานมีการตกแต่งพุ่มไม้สูงให้สวยงามเหมาะสำหรับให้เขาหลบซ่อนตัว รอไม่นานก็มีรถเข้ามาจอดสองคัน และชายหนุ่มลงรถคนแรกคือพี่ชายของเพื่อนสนิทคือพี่ทู และจากอีกคันคือพี่ฮาจิ วีแน่ใจว่าทั้งสองต้องมาหาเพื่อนเขาแน่ คนตัวเล็กกำลังจะเดินเข้าไปบอกว่าเพื่อนของเขากลับไปแล้ว แต่ยังไม่ทันขยับออกไป รถของชายหนุ่มที่เขารอก็มาจอดเทียบกับสองคันก่อนหน้า และเจ้าตัวน้อยตั้งใจจะเซอร์ไพรส์ได้แต่แอบ และก็ไม่กล้าเข้าไปแทรกการพูดคุยของพี่น้อง
“ไอ้เชี่ยหนึ่งมาแล้ว” ทูบอกกับลูกพี่ลูกน้องเขา
ฮาจิยกนาฬิกามาดูเวลา “ยังไม่ถึงเวลาเบบี้กูเลิกเรียน” ฮาจิในชุดนักศึกษาปีสอง ชายหนุ่มที่อายุมากกว่าน้องชายเขาแค่ปีเดียว เขาอาศัยเวลาหลังเลิกเรียนมาหาน้องชายอย่างไนน์บ้าง ให้พวกคนพี่คนอื่นทำคะแนนไปเยอะแล้ว
“มึงสูบไหม?” ทูยื่นบุหรี่ให้น้องชายสูบฆ่าเวลาระหว่างรอน้องชายเลิก
“แล้วมึงล่ะเอาไหม?” ทูยื่นสิ่งเดียวกันที่ยื่นให้น้องชายแก่พี่ชาย
“...” ร่างสูงรับไปและจุดค่อย ๆ สูดควันเข้าปอด
“มึงก็มาหาเด็กเหรอไอ้หนึ่ง” ฮาจิถามขึ้นระหว่างการพูดคุยกันสามคนพี่น้อง
ถ้าเป็นเมื่อก่อนทั้งสามจะมาด้วยจุดประสงค์เดียวกัน สำหรับหนึ่งการมาหาตัวเล็กของเขาคือจุดประสงค์หลัก แต่ก็ไม่ลืมจุดประสงค์รองลงมาด้วย แต่คนน้องทั้งสองสนที่ไหน ดีซะอีกคู่แข่งลดไปหนึ่ง
“เด็กคนนั้นใครวะ” ทูถามขึ้นมา เขาได้ฟังเรื่องราวผ่านโฟร์น้องสาวคนรองที่อวดว่าไปกินเหล้ากับเพื่อนน้องชาย
“คนไหน?” น้องชายอย่างฮาจิถามขึ้นมาอย่างสงสัย ทั้งสามยังแข่งกันพ่นควัน โชคดีที่พวกเขาสูบเป็นลานจอดรถและช่วงเย็นที่มีนักศึกษาไม่พลุกพล่าน ไม่งั้นคงโดนมองแรงเพราะมาสูบในที่สาธารณะ
“คนที่มันแทบอุ้มออกไปจากผับไอ้แฝดเนี่ย” ทูกลั้วยิ้มบอกน้องชายอีกคนไป
“...”
“ใช่คนนี้หรือเปล่าที่มึงตามจีบ และน้องแอบชอบที่รักของกู” ไอ้น้องชายที่มันรับรู้อยู่เต็มอก แต่แสร้งว่าทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร มันตั้งใจจะกวนบาทาพี่ชายอย่างเขาให้มากที่สุด ยังยกคิ้วกวนโมโหใส่มาอีก
“เออ” หนึ่งกระชากเสียงตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์
เขาประกาศให้พวกน้องในบ้านรู้แล้วว่าเขาจะมากันคนตัวน้อยออกจากน้องชายคนเล็ก ในฐานะพี่ชายคนโตผู้ที่เสียสละ แต่พวกมันก็รับรู้แล้วว่าเขากันไม่ไหวแล้ว กันใจเขาเองเนี่ยไม่ให้หลงรักเจ้ากระต่ายน้อย
“แล้วแม่งจะเป็นไงวะ มันเหมือนเส้นตรงเลยว่ะ มึงชอบน้องน้องชอบไนน์แต่ไนน์ชอบกู” ทูพูดด้วยความมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าน้องชายสุดที่รักชอบตัวเองมากกว่าพี่คนอื่น
“...” ฮาจิส่ายหัวในความมั่นหน้าเข้าข้างตัวเองสุดของพี่ชายคนที่สอง
“สัสทู อย่าคิดไปเองว่าไนน์คนเก่งของกูชอบมึง อย่างที่มึงบอกเส้นทางความรักของกูเหมือนเส้นตรง แต่กูจะสร้างจุดตัด ไม่ก็หาทางให้วนกลับมาหากูให้จนได้” พี่ชายคนโตของบ้านยักคิ้วอย่างภูมิใจให้น้องทั้งสอง
“...”
“แต่สิ่งที่กูกับน้องเหมือนกันอย่างหนึ่งคือ ไนน์ และกูจะใช้ประโยชน์ตรงนี้แหละ คนอย่างกู ถ้าคิดจะครอบครองใคร กูจะหาทางเอามาจนได้ว่ะ” รอยยิ้มร้าย ๆ ผุดที่มุมปาก
“มึงมันไอ้คนเจ้าเล่ห์ ราชสีห์ใส่ชุดหมาป่าห่มทับด้วยหนังแกะ” ทูชื่นชมพี่ชายด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
“แล้วสรุปคือ มึงใช้เบบี้กูเป็นเส้นทางเข้าหาน้องเหรอวะ มึงแม่งเลวใช้ได้นะเนี่ย” คำด่าที่พูดในรูปแบบคำชมคงไม่เกินบรรดาพี่น้องบ้านนี้หรอก
“...” คนยืนเป็นเป้าด่าของน้องชายไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
“เออ ไอ้จิมึงคงยังไม่รู้ใช่ไหม มันแม่งลงทุนซื้อคอนโดทั้งชั้น และย้ายตัวเองไปอยู่ห้องตรงข้ามน้องเลยนะ”
“กูก็ต้องสร้างสิ่งที่กูควบคุมได้ขึ้นมา สร้างพื้นที่กูจะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับเจ้ากระต่ายน้อยของกู เขตพื้นที่รัก สำหรับกู”
น้องชายทั้งสองถึงกับเบะปากใส่คนพี่
ร่างสูงบอกอย่างภาคภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน ในตอนแรกเขาเองต้องการ แค่ความปลอดภัยของตัวเอง เพราะจะได้ไม่ต้องมีบอดี้การ์ดมาคอยเฝ้า
“ไอ้หนึ่งมึงนี่สุด ๆ เลยว่ะ!” เสียงด่าหยุดชะงักลงพร้อมกับเสียงบางสิ่งที่เคลื่อนไหวหลังพุ่มไม้สูง
“เชี่ย! จังหวะนรกสัส!” คำสบถจากทู
วีเผลอขยับตัวจนมีเสียงดัง และรู้ว่าเขาโดนจับได้ ยอมก้าวออกมาจากที่ซ่อน คนทั้งสามมองมายังคนมาใหม่ ทูและฮาจิทั้งสองมองคนตัวเล็กขอบตาแดงก่ำ ส่วนพี่ชายเขามีสีหน้าตกใจ ก่อนจะปรับให้เป็นปกติส่งยิ้มให้คนตัวเล็ก เขาทั้งสองรู้กลาย ๆ ว่างานเข้าพี่ชายเขาเต็ม ๆ สาเหตุมาจากพวกเขาด้วย ทั้งสองตัดสินใจเลี่ยงออกมาให้คุยกัน แค่สองคนดีกว่าและไม่คิดจะพยายามช่วยแก้สถานการณ์แต่อย่างใด ทูขยับปากบอกพี่ชายเบา ๆ “พวกกูไปก่อนนะ”
ร่างบางที่ยืนฟังตั้งแต่ต้นจนจบ ร่างกายเขาเหมือนจะหมดแรงไป มืออันสั่นเทาไม่รู้ว่าด้วยความโกรธหรือความเสียใจ มันสับสนตีกันไปหมด เมื่อวานเขายังรู้สึกดีกับพี่หนึ่ง ผู้ชายที่ทำดีกับเขา คนที่ใจดีกับเขา คนที่ช่วยเหลือเขาในยามที่เขาเจอเรื่องราวอันแสนน่ากลัว คนที่ไม่ล่วงเกินเขาแม้จะมีโอกาสในหลาย ๆ ครั้ง คือคนที่เข้าหาด้วยจุดประสงค์คือ อยากให้เขาออกห่างจากน้องชายตัวเอง
“...” คนตัวน้อยมองคนตรงหน้าอย่างผิดหวัง เขาไม่แน่ใจว่าคนนี้กับคนเมื่อวานคือคนเดียวกันไหม หรือตลอดเวลาเขาไม่เคยรู้จักคนนี้เลย
หนึ่งสูดหายใจเข้าปอด “วีครับพี่อธิบายเรื่องทั้งหมดได้นะครับ” หนึ่งก้าวเข้ามาประชิดจับมือคนน้อง
“อย่ามาจับ!” คนตัวเล็กกดเสียงต่ำพร้อมสะบัดมืออย่างสุดแรง
ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเลิกเรียนของนักศึกษาพอดี ต่างพากันเดินมายังลานจอดรถ ในขณะที่พวกเขาสองคนกำลังโต้เถียงกันเสียงดัง หนุ่มน้อยน่ารักของคณะกับหนุ่มนักธุรกิจชื่อดังเริ่มเป็นจุดสนใจ และเสียงซุบซิบพร้อมสายตาจับจ้องมองมายังพวกเขา
“วีครับเราไปคุยกันที่ห้อง” หนึ่งจับข้อมือของน้องออกแรงดึงพาตัวขึ้นไปยังรถที่จอดอยู่ห่างแค่ไม่กี่ก้าว
คนตัวเล็กออกแรงต้านการพาตัวมาขึ้นรถนั่นไร้ผล เขาเลยมานั่งในที่เดิมในเมื่อเช้า แต่ความรู้สึกในตอนนี้กับเมื่อเช้ามันต่างกันคนละขั้ว ความเงียบปกคลุมภายในรถอย่างมาก จนสามารถได้ยินแม้กระทั่งเสียงเครื่องปรับอากาศภายในรถ
รถมาจอดยังคอนโดที่พวกเขาทั้งสองอาศัย คนตัวเล็กเปิดประตูเดินลงไปจากรถโดยไม่รีรออีกคน ร่างสูงเดินตามไปติด ๆ ไร้การพูดคุยเหมือนดังเช่นเมื่อก่อน หนึ่งเอาแต่มองหน้าคนน้องที่ดวงตาแดงก่ำ เขารู้เลยว่าน้องต้องอดกลั้นไม่ร้องไห้ออกมาด้วยความผิดหวัง
คนตัวเล็กแตะคีย์การ์ดเดินเข้าไปยังห้องตัวเอง หนึ่งสืบเท้าเข้ามา เจ้ากระต่ายน้อยยืนหันหลังไม่ยอมหันมามองหน้า ชายหนุ่มร่างสูงได้แต่ยืนมองแผ่นหลังอันบอบบาง
“พี่ไม่มีข้อแก้ตัวครับ พี่ยอมรับในตอนแรกที่เข้าหาวีเพราะสาเหตุนี้ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้วนะครับ” เขาเองโกรธตัวเองเหมือนกัน ไม่ยอมบอกกับน้องชัดเจน แค่คิดว่าสักวันจะบอกกับเจ้าตัว หรือไม่แค่รอจนวีรับรู้เอง
คนตัวน้อยหัวเราะสมเพชตัวเอง “ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนี้แล้ว แล้วยังไงครับพี่หลอกวีสำเร็จแล้วสิครับ พอใจหรือยัง หรือยังต้องรอให้วีรู้สึกชอบพี่ขึ้นมาแทนที่จะชอบไนน์ พี่ถึงจะพอใจใช่ไหมครับ” น้ำเสียงเย้ยหยันกับคนร่างสูง
“ความรู้สึกตอนนี้มันเหมือนตอนแรกที่พี่เจอวี พี่ชอบวีและตอนนี้พี่เริ่มมั่นใจแล้วว่าพี่รักวี” หนึ่งพร่ำบอกสิ่งที่อัดอั้นในใจกับคนตัวเล็กด้วยความหวังว่าวีพอจะเห็นใจเขาบ้าง
“พี่มาบอกแบบนี้กับผมได้ไง ผมจะบอกอีกทีนะ ผมชอบน้องชายพี่! ชอบไนน์! ชอบตั้งแต่แรก! และผมไม่ชอบพี่!!”
พอได้ยินสิ่งที่คนพี่พูด เขายิ่งเดือดดาล ยังจะโกหกหลอกลวงไปถึงไหน เห็นเขาเป็นเด็กน้อยที่จะตบหัวแล้วลูบหลังด้วยคำพูดหวานเขาก็ยกโทษให้ ใช่เขายังชอบไนน์อยู่ ยังชอบอยู่ ก่อนที่จะมีพี่เขามาแทรก และพี่หนึ่งจะไม่ได้รับรู้ถึงสิ่งนั้น
“ครับพี่รู้ แต่วีจะไม่ให้โอกาสพี่สักครั้งเหรอครับ” หนึ่งคร่ำครวญร้องขอโอกาสกับคนตัวเล็กของเขาอีกสักครั้ง
“ไม่!! ยังไงผมก็ไม่เปลี่ยนใจ”
“ครับ พี่เข้าใจแล้วครับ”
หนึ่งเชิดหน้าขึ้นค่อย ๆ หลับตาลงพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอด เขารู้ว่าคุยกับน้องตอนนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร น้องยังเต็มไปด้วยความโกรธ และเขายังไม่แน่ใจว่าคนตรงหน้าภายในใจมีเขาสักเศษเสี้ยวหรือเปล่า เขาไปจากตรงนี้สักพักก่อน
“พี่หนึ่งครับ” เสียงเรียกของคนตัวเล็กทำให้ร่างสูงหยุดชะงัก และคำพูดตามมาทำให้หนึ่งปวดใจที่สุด “หวังว่าเราคงจะเจอกันให้น้อยที่สุดแต่ถ้าไม่เจอกันเลยยิ่งดี เพราะตอนนี้พี่คือคนที่ผมเกลียดที่สุด” น้ำเสียงจริงจังและชัดเจนนั่นทำให้หนึ่งรู้ว่า เขาไม่ใช่คนที่น้องรัก เขาคือคนที่น้องเกลียด
To be continued…
น้องวีไม่ได้ใจร้ายกับพี่หนึ่งนะคะ น้องแค่โกรธพี่หนึ่ง น้องรู้สึกว่าตัวเองโดนหักหลัง เขาไว้ใจพี่ ตอนแรกเรื่องที่ไม่บอกเป็นลูกพี่ลูกน้องกับไนน์ แถมยังไปบอกกับคนอื่นว่ามากันให้เขาออกจากเพื่อนคนนี้อีก พี่หนึ่งใจร้ายที่สุด
ฝากกดหัวใจ และคอมเม้มเล็กๆน้อยๆให้ไรท์ด้วยนะคะ เจอคำผิดคำแปลก อ่านแล้วเจออะไรเพี้ยนๆบอกได้เลยน้าา เพราะตอนนี้ไรท์ก็เริ่มมึนแหละ
ติดตามข่าวสารและแจ้งอัพนิยายที่
TW @TYokmanee
Comments (0)