ตอนที่ 18 : ป่าาาาาาาาาาาาา

 

 

 

ฮุ่ยหมินที่ได้ยินคำว่า 'ราชันปราณขั้น 2 ก็ลืมตามองศิษย์ตัวโตที่เบิกตากว้างอ้าปากเหลอหลา ทุกคนที่ยังอยู่ต่างหันขวับไปทางคนที่ยืนปล่อยปราณเข้าลูกแก้ววัดพลัง 

'ศิษย์โรงรั้วดำคนนั้นถึงราชันปราณเลยรึ'

'เก่งกาจเกินไปแล้ว'

'เจ้าของโรงรั้วดำเป็นถึงเซียนเชียวนะ'

เสียงซุบซิบดังไปทั่วฮุ่ยหมินเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีจึงส่งสายตาไปทางกระบี่ปิงที่อยู่ในห่อผ้า จิตวิญญาณที่กำลังหลับฝันดีถึงกับสะดุ้งแล้วดิ้นทันที ผ้าที่พันไว้หลวมๆ ก็หลุดออกจากกันกระบี่สีดำเผยให้ผู้คนที่จ้องมองมาอยู่แล้วเพ่งมองเข้าไป 

'นั่นมันกระบี่ในตำนาน'

'ไม่มีกระบี่ไหนสามารถเป็นสีดำเงาแบบนี้นอกจากกระบี่ในตำนาน'

'ข้าจะส่งลูกหลานไปเรียนที่โรงรั้วดำ'

ข่ายฝานที่เห็นผ้าห่อกระบี่หลุดก็รีบก้มเก็บห่อทันทีกลัวคนเห็นแล้วจะเกิดปัญหาอย่างที่อาจารย์ตนเองว่า โดยไม่รู้เลยว่าผมหางม้าที่มัดรวบปิดท้ายทอยไว้ได้เปิดให้เห็นถึงพันธะระหว่างอาวุธกับเจ้าของเสียอย่างนั้น เด็กหนุ่มเงยหน้ามาก็เห็นใบหน้าเสียดายของหลายคน ข่ายฝานยกมือเกาหัวแล้วเดินไปรวมกับศิษย์พี่คนอื่นแทน 

 

หลังจากที่ศิษย์ในโรงรั้วดำได้เข้ามาในป่าก็ตกลงกันว่าจะแยกกันไปหากเกิดอะไรขึ้นก็ส่งสัญญาณพลุกันแทน ข่ายฝานที่แยกเดี่ยวออกมาก็ใช้วิธีกระโดดจากต้นไม้ต้นหนึ่งไปอีกต้นแทนการเดินทางบนพื้นที่เสี่ยงเจอผู้อื่น เด็กหนุ่มกวาดตามองไปทั่วและดมกลิ่นสมุนไพรหายากที่พี่หลิวหยางฝากหา ผลผนึกวิญญาณ รากแก่นกลาง และ บุปผาหมื่นจันทร์ 

แซ่ก

เสียงขยับก็พุ่มไม้ด้านหลังข่ายฝานดังขึ้น เด็กหนุ่มตีลังกาหันไปมองเห็นเงาดำเข้ามาใกล้ เท้าเตะกิ่งไม้อันเล็กไปทางเงาดำทันที

"โอ๊ย"

เสียงร้องดังขึ้นช่างคุ้นหูเสียจริง ข่ายฝานคิดก่อนจะเห็นหน้าคนที่ร้อง

"องค์รัชทายาท"

"เราเอง เจ้าเตะเสียเต็มแรง"

มือหยาบลูบรอยแผลจากกิ่งไม้ข่ายฝานกระโดดไปหาคนตัวเล็กกว่าตนเอง

"กระหม่อมขออภัย"

ว่าแล้วก็ล้วงยาของหลิวหยางออกจากกระเป๋าใส่ลงบนแผลอีกคน รัชทายาทร้องโอดโอยเบาๆ

"โอ๊ยๆๆๆๆ เจ้าใส่เบาๆไม่ได้รึไง ผิวเราผิวคนนะมิใช่ผิวจระเข้ โอ๊ยๆ"

 

"พระองค์ตามกระหม่อมมาทำไมพ่ะย่ะค่ะ"

คนตัวสูงเอ่ยถามระหว่างพันแผล รัชทายาทตัวน้อยยิ้มแผล่ 

"อยากไปกับเจ้าไง ไปเถอะ"

ข่ายฝานพยักหน้าแล้วเดินทางไปกับรัชทายาท 

 

...

 

"เหรอ ดีๆปล่อยให้เด็กทั้งสองไปด้วยกันนั่นแหละ"

ร่างโปร่งในชุดสีดำปล่อยหลุดลุ่ยเผยเห็นไหล่บางปัดมือไล่แฝดชุดม่วงให้ไปพัก ดวงตากลมจ้องมองไปที่หน้าต่างไม้ที่เปิดไว้ ริมฝีปากเหยียดยิ้มหวานออกมา 

"ข้าพึ่งรู้ว่าฮ่องเต้มีอุปนิสัยสอดรู้สอดเห็นแอบฟังชาวบ้านเช่นนี้"

ปึ่ง!

องครักษ์เงาของฮ่องเต้กระแทกกำแพงโรงเตี๊ยมเข้ามาและจ่อดาบใกล้ใบหน้าที่คล้ายฮ่องเต้สองถึงแปดส่วน เรียกได้ว่าหากไม่รู้มาก่อนคงไม่ทราบว่าคนผู้นี้คือน้องต่างมารดาของบิดาฮ่องเต้ 

"สามหาวจริง อนุชาของเจิ้น"

เสียงของพี่ชายดังด้านหลังองครักษ์เงา 

"ข้าเคยบอกแล้วว่าถ้าหาวก็ไปนอน ท่านมิเคยจำมีอันใดกับข้ารึพี่ชาย โอ๊ะ มิใช่ๆ ฮ่องเต้"

ร่างโปร่งขยับดึงผ้าขึ้นมาคลุมไหล่ช้าๆแล้วยื่นไปยกจอกชามาดื่ม ใบหน้าฮ่องเต้แข็งกร้าว มือหนาคล้ายจะตวัดเข้ามาใกล้เพื่อทำอันตรายแต่ก็กระแทกไม่เข้าร่างกายนั้น คล้ายกับมีอะไรครอบอยู่ 

"นี่มัน"

"ของดีเลยใช่หรือไม่ท่านฮ่องเต้ ร่มบรรพกาลหนึ่งเดียวในยุทธภพพบเห็นไม่นานเมื่อสามหมื่นปีก่อน"

ฮุ่ยหมินกรีดนิ้วลากผ่านร่มข้างตัว ไม่ทันที่ฮ่องเต้จะกะพริบตาร่างโปร่งก็หายไป องครักษ์เงาเกร็งตัวหันซ้ายขวาป้องกันฮ่องเต้ 

"ออกมาจากที่ซ่อนเสียน้องเจิ้น เจ้าหนีไม่พ้นหรอก"

ฮ่องเต้พูดอย่างเย้ยหยันแม้ในใจจะกังวลกับพลังอีกคน เสียงหัวเราะดังขึ้นข้างหูทุกคน 

"ข้าถามท่านอีกครั้ง ท่านมีธุระอันใดกับข้า หากไม่ตอบข้าคงจำเป็นต้องให้สามีข้าเล่นกับท่าน"

"เจิ้นต้องการให้เจ้ายอมแพ้และพาศิษย์เจ้าออกจากเมืองนี้ ไม่อย่างนั้นเจิ้นจะฆ่าทิ้ง"

"โฮ่.. เก่งกาจจริงพี่ข้า เหตุใดต้องยอมแพ้เล่า หรือเป็นเพราะสิ่งนี้"

กระดาษสีน้ำตาลถูกโปรยลงมาจากบนเพดาน เมื่อฮ่องเต้เงยหน้าขึ้นก็เห็นน้องชายตนเองยืนห้อยหัวยิ้มให้ก่อนที่สติจะดับมืดลงไปพร้อมกับกระดาษสีน้ำตาลที่ลอยมาแปะหน้า 

'จากฮ่องเต้แคว้นทางใต้'

 

...

 

ข่ายฝานหาสมุนไพรเจอแล้วสองอย่างขาดแต่บุปผาหมื่นจันทร์ ตามข้อมูลของหลิวหยางบุปผานี้ถูกปลูกโดยเซียนที่ครอบครองป่าทมิฬผืนนี้ บ้านของเซียนต้องผ่านถ้ำเหมันต์ เข้าไปในน้ำตกแห่งแสง และจะเจอบ้านหลังนั้น ปัญหาเลยคือตอนนี้ข่ายฝานเข้าถ้ำเป็นถ้ำที่ห้าแล้ว ยังไม่เจอถ้ำเหมันต์เลย ทั้งเขาและองค์รัชาทายาทนั่งกินข้าวในใบตองที่เขาเป็นคนพกมาบนต้นไม้ 

"ข่ายฝานเจ้าหาถ้ำอะไรรึ"

รัชทายาทเคี้ยวข้าวปรุงกับเนื้อไก่แก้มตุย

"ถ้ำเหมันต์พ่ะย่ะค่ะ"

คนตัวเล็กกว่าเลิกคิ้ว

"หาไม่เจอหรอก มีค่ายกลลวงตาไม่เคยมีใครหาเจอหรอก"

รัชทายาทว่าแล้วส่ายหัว ข่ายฝานก็จนใจจึงกำหนดจิตแทน

'ลุงปิง'

'ลุงบิดาเจ้าเถอะข่ายฝาน ข้าเป็นถึงกระบี่ในตำนาน'

เสียงแหลมดังในจิตพอให้ข่ายฝานยิ้มมุมปาก

'ขออภัย ท่านปิงท่านพอนำทางข้าได้หรือไม่'

'ได้ ไม่มีค่ายกลใดลวงตาข้าได้'

'ขอบคุณท่านมาก'

ข่ายฝานลืมตาขึ้นก็ตกใจเพราะคนตัวเล็กยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขามือเล็กสองข้างก็ชันบนหน้าขาของเขาอีก

"เหวออ พระองค์ทำอันใด"

คนตัวสูงร้องแล้วดันอีกคนให้ห่าง 

"ก็เจ้าจู่ๆก็หลับตาเดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวหุบยิ้มข้าคิดว่าเจ้าถูกอะไรเข้าสิงเสียอีก"

องค์รัชทายาทว่า แล้วกระโดดลงจากต้นไม้ ข่ายฝานถอนหายใจแล้วก็กระโดดลงตาม ก่อนที่ทั้งสองจะเดินทางต่อ ข่ายฝานเดินตามทางที่กระบี่ปิงบอกทั้งสองเดินทางด้วยความรวดเร็วขึ้นเพราะใกล้ค่ำแล้ว ในที่สุดข่ายฝานก็ถึงถ้ำเหมันต์อย่างที่ต้องการ ภายในถ้ำมีน้ำแข็งเกาะไปทั่วอากาศเย็น

"เจ้าเจอถ้ำเหมันต์จริงๆด้วย"

รัชทายาทพูดลอยๆแล้วเดินตามคนตัวโตที่พุ่งตรงไปทางที่มีแสงสว่างเรืองรอง ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นน้ำตกที่ตกลงจากหลุมเพดานสามหลุมสีทอง ไม่ทันจะพูดอะไรข่ายฝานก็กระโดดลงน้ำตกทันที 

"เฮ๊ย!!"

องค์ชายตัวน้อยรีบเอื้อมมือคว้าแต่ก็เสียหลักตกลงไปในน้ำตามข่ายฝานลงไป 

ตูม!! 

 

...

 

ข่ายฝานที่ลืมตามาพบว่าตนเองนอนอยู่บนพื้นหญ้าโดยมีคนทับอยู่บนตัว มือหนาดันรัชทายาทให้ออกจากตัวเอง ดวงตาคมกวาดตามองทั่ว เห็นพื้นหญ้ากว้างใหญ่และบ้านหลังหนึ่งมีลักษณะคล้ายกระท่อม ข่ายฝานลองเขย่าตัวของรัชทายาทเบาๆแล้วอีกคนไม่ตื่นจึงอุ้มขี่หลังและเดินไปยังกระท่อม 

"มีใครอยู่มั้ยขอรับ"

ข่ายฝานตะโกนเข้าไปด้านใน เด็กหนุ่มถือวิสาสะเดินเปิดประตูกระท่อม พบว่ามีชายแก่นั่งกินซุปเต้าหู้อยู่ ใบหน้าของชายชรายิ้มแย้มสดใสแล้วผายมือไปยังที่นั่งตรงข้าม ข่ายฝานงุนงงแต่ก็ค่อยพยุงรัชทายาทให้อิงกำแพงแล้วไปนั่งแต่โดยดี 

"ไม่เจอคนอื่นมานาน เจ้าเป็นคนแรกในรอบห้าร้อยปีที่ข้าเคยเจอ โฮ๊ะๆ"

ชายชราเอ่ยแล้วกินซุปต่อ

"ขอรับ"

"มาหาข้าหรือหลงทางมาเล่า"

ชายชราถาม ข่ายฝานที่นั่งอย่างอึดอัดก็ตอบ

"มาหาท่านขอรับ"

ชายชราพยักหน้า 

"มีอันใดรึ"

"ข้ามาตามหาบุปผาหมื่นจันทร์ขอรับ"

ชายชราเลิกคิ้วแล้วไม่ตอบอันใด จนกระทั่งซุปหมดถ้วยชายแก่ทำท่าจะลุกข่ายฝานรีบลุกไปพยุงคนแก่ทันทีด้วยความเคยชินที่ทำกับแม่ตน ดวงตาเหี่ยวย่นหรี่มองความเคยชินแล้วยังคงเงียบ ยอมให้คนหนุ่มพยุงมือของชายชราสั่นเล็กน้อยทำให้ปัดโดนกระบี่ปิงโดยไม่ตั้งใจ 

"กระบี่ดี"

ชายชราชม แล้วเดินออกจากกระท่อมข่ายฝานเดินพยุงตามทั้งสองเดินไปด้านหลังกระท่อม มีแปลงผักขนาดใหญ่ยิ่งกว่าขนาดวังในเมืองหลวง ข่ายฝานอ้าปากค้าง

"เจ้าเดินหาดูนะ ข้าปักป้ายไว้"

ชายชราชี้ไปที่แปลงผัก ข่ายฝานหันไปมองอย่างงงงวยแล้วยอมเดินไปดู

"เดี๋ยวเจ้าหนุ่ม ฝากกระบี่เจ้าไว้ที่ข้าก็ได้"

ชายชราว่า ข่ายฝานลังเลแล้วหลับตาลง

'ท่านปิง'

'ข้าได้ยินแล้ว ฝากไว้ที่เซียนคนนี้เถอะ เขาไม่อันตรายหรอก'

หลังจากตกลงกับอาวุธตนเรียบร้อย ข่ายฝานยอมปลดกระบี่แล้วยื่นให้ชายชรา แล้วเดินไปดูแปลงผักทันที 

 

"เขาเป็นเด็กดีจริงนะ" 

ชายชราเอ่ย เหลือบมองกระบี่ที่กลายเป็นชายหนุ่มในชุดคอเต่าจีนสีดำ 

"ดีในแบบที่ไม่เจอเสียอีก เป็นไงบ้างตาเฒ่า"

ปิงเอ่ยถาม'เจ้าของคนเก่า'ของตนเอง ดวงตาเรียวรีจ้องมองความชราของอีกคนด้วยความเห็นใจ

"ก็ดีตามประสา ไม่นานคงต้องปลดตนเองขึ้นไปบนสวรรค์เสียแล้ว"

ชายชราว่า มือเหี่ยวย่นชี้ไปยังทิศทางหนึ่งบนฟ้าก่อนจะเอ่ยกับอาวุธเก่าของตนเบาๆ

"ตามข้าไปด้วยละ"

จิตวิญญาณกระบี่ในตำนานหัวเราะในลำคอแล้วคืนร่างเป็นกระบี่อีกครั้ง 

 

___________________________________________________________

 

ปริศนาเยอะจังเยยอ่าาาาาาาา อะไรก็ไม่รู้