ตอนที่ 11 : เศรษฐีตระกูลเหวิน

 

 

ฮุ่ยหมินยืนข้างบ่อสระเลี้ยงปลาจินหลี่[๑๑] กับดอกบัวเวลานี้เป็นยามซวี[๑๒] ข้างกายเป็นร่างสูงเกือบสองเมตรใบหน้าหล่อเหลาชุดสีขาวขับให้ผิวขาวผ่องนั้นสว่างกว่าเดิมฮุ่ยหมินคิดในใจ 'ไม่พกโคมไฟก็พกลูกเทพแทนก็ได้' หลินอวิ๋นรินน้ำชาอย่างช้าๆราวกับไม่รีบ ข้างล่างมีพี่น้องสามจอคุกเข่าด้านล่าง 

"ตอนนี้ลูกชายทั้งสามของตระกูลเหวินเข้ามาเรียนในโรงรั้วดำจนครบแล้ว"

เวลาผ่านมาสามปีดีดัก ตระกูลเหวินส่งลูกหลานเข้ามาเรียนแต่พวกเขาต่างรอลูกชายที่เป็นรักของตระกูลเข้ามาเรียนจนครบ

หลักสูตรที่เคยทำไว้เมื่อสามปีก่อนนถูกปรับเปลี่ยนจากเรียนเพียงสามปี เป็นเรียน 5 ปี เพื่อสอนอย่างอื่นแด่เด็กๆอาทิเช่น มารยาทในวัง สี่ศาสตร์ที่บัญฑิตควรมี เป็นต้น 

ดังนั้นลูกชายของตระกูลเหวินที่ตอนนี้อยู่ในโรงรั้วดำที่ขยายพื้นที่จนไม่ต้องพึ่งโรงเตี้ยมรอบๆ เรียนหลักสูตรห้าปีทำให้เศรษฐีมีสิทธิเจอลูกชายทั้งสามแค่ช่วงปิดเทอมเท่านั้น และนั้นก็เป็นโอกาส ฮุ่ยหมินอัพเกรดคนงานให้กลายเป็นอาจารย์สอนวิชาต่างๆจนฮุ่ยหมินไม่ต้องลงไปสอนเองปล่อยให้อาจารย์เหล่านั้นสอนเอง 

"ภรรยา แค่ก ฮุ่ยเออร์ดื่มชา"

แกล้งเรียกดูออก ร่างโปร่งชุดสีม่วงเข้มจนแทบจะสีดำละสายตาจากปลาจินหลี่ไปที่คนที่อุปโลกน์ตัวเองเป็นสามีของผม ไอ้ลูกเทพตัวดีมันถือแก้วชาในมือตัวเองแถมตบเก้าอี้หินอ่อนสีขาวข้างตัว ผมไม่มีทางเลือกเลยดื่มชาในมือของลูกเทพนี่ ตาก็เหลือบมองเด็กสามจอที่ยังคุกเข่าอยู่สงสัยโดนทำโทษ 

 

...

 

ร่างท้วมลงพุงในชุดเสื้อคลุมตัวในนอนแผ่บนเตียงตั่ง รอบกายมีทั้งเด็กสาวและเด็กชายใบหน้าสวยหล่อที่ต่างหลับใหลไปด้วยความเหนื่อยจากการทรมานของเศรษฐีเหวิน ข้ารับใช้บางคนที่ร่วมเสพสังวาสด้วยหลับบนพื้น เงาดำหลังหน้าตาพาดผ่านเข้ามา เศรษฐีตัวโตไม่รู้ถึงความน่าอับอายที่จะเกิดขึ้นต่อตระกูลตัวเอง 

รุ่งเช้าของเมือง คนหาบเร่รีบเดินตามทางเพื่อไปตลาดแต่เช้า แต่สายตาเหลือบไปเห็นร่างท้วมของคนที่เก็บค่าส่วยตลาดเสมอนอนเปลือยบนพื้นทั้งตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำกามสีขาวรอบข้างมีบ่าวรับใช้จำนวนมากมายที่นอนซบอยู่ คนหาบเร่ตะโกนเสียงดังจนชาวบ้านหลายคนรีบเข้ามาเพราะกลัวมีเรื่องแต่ทุกคนกลับตกตะลึงกับภาพที่เห็น ไม่นานก็มีกระดาษโปรยไปทั่ว มีเพียงรูปเสพสังวาสระหว่างชายร่างอ้วนกับเด็กตัวน้อยเพศหญิงชายคละกันไป 

แม้เสียงจะดังแค่ไหนแต่เศรษฐีเหวินกลับไม่มีท่าทางจะตื่นเลย ชาวบ้านก็ไม่กล้าเข้าไปเพราะรังเกียจแต่ไปตามหมอหลิวหยางแทน หมอตัวเล็กไม่ได้มาคนเดียวพาเจ้าของโรงรั้วดำมาด้วย บัญฑิตร่างโปร่งในชุดดำใบหน้าดูฉลาดหลักแลหมช้างกายคือชายชุดขาวใบหน้างามล้ำดุจเซียนมือหนาถือร่มกางให้คนที่ตัวเล็กกว่า หมอหลิวหยางวิ่งมาแล้วชะงักทำหน้ารังเกียจเดียดฉันท์แก่ชายร่างอ้วน

"ข้าไม่รักษาให้เขา"

เกิดอะไรขึ้นกับหมอเทวดาใจดีอย่างหลิวหยาง ชาวบ้านต่างพากันซุบซิบ 

"ทำไมเล่า"

ฮุ่ยหมินถามเปิดทาง

"เขาข่มเหงข้าและน้องชายข้า ส่งข้าไปขายที่โรงประมูลและตัดลิ้นน้องชายข้าทิ้ง"

เสียงชาวบ้านฮือฮาขึ้นมาทันที ไม่นานเด็กชายตัวน้อยสามคนท่าทางอ่อนแอก็เดินออกมาข้างหลังบุรุษชุดขาว หลิวหยางรีบสวมกอดทั้งสาม 

"น้องชายแฝดสามของข้าเพียงแค่อยากช่วยข้าที่ป่วยจึงไปขอช่วยงานที่ระกูลเหวิน แต่กลับถูกข่มเฟงทั้งนายทั้งบ่าวไม่พอยังตัดลิ้นถอนฟันจนหมดปาก ได้เงินมาแค่ถุงยาห่อเดียว!"

เด็กชายทั้งสามอ้าปากให้เห็นว่าปากตัวเองไม่มีลิ้นจริงๆ บัณฑิตชุดดำเจ้าของโรงรั้วดำเดินขึ้นมาอีกก้าวจับร่างหมอหลิวให้ลุกขึ้นยืน

"ข้าจะทวงความยุติธรรมให้เจ้า"

ว่าจบมือขาวพ้นชายผ้าก็ตวัดไปทางเศรษฐีเหวินฉับพลันร่างอ้วนก็รีบตาตื่น ตกใจชาวบ้านที่มองมาอย่างรังเกียจและขยะแขยง พอมองที่ตัวเองก็พบว่าร่างเปลือยเปล่า ข้ารับใช้ก็นอนซบตามตัวชายอ้วนแหวร้องเสียงดังพยายามจะลุกหนีแต่ลุกไม่ได้

"เศรษฐีเหวิน หมอหลิวหยางศิษย์ข้าบอกว่าถูกท่านข่มเหงและขายไปที่โรงประมูลจริงหรือไม่"

"อะ..เอ่อ.."

ชายอ้วนยังต้นชนปลายไม่ถูกพูดไม่ออกแม้แต่ครึ่งคำ 

"เจ้าตัดลิ้นถอนฟันเด็กแฝดทั้งสามนี้จริงหรือไม่"

"ข้า...ไม่..เอ่อ"

"ข้าจะแจ้งทางการ"

ฮุ่ยหมินว่าแค่นั้น แล้วหมุนตัวกลับไปพร้อมเด็กๆปล่อยให้ชาวบ้านพากันซุบซิบและแพร่กระจายข่าวไปทั่วเมือง 

 

...

 

ช่วงเที่ยงวันทางการประกาศจับเศรษฐีเหวินและช่วยเลือเด็กๆในจวนเศรษฐี ชาวบ้านเล่าลือไปทั่วเมืองและลามไปเมืองอื่นบรรดาฮูหยินและลูกหลานต่างทนอับอายไม่ไหวหนีกลับตระกูลตัวเองจนหมด มีเพียงลูกชายสามคนในโรงรั้วดำที่ยังไม่รู้ข่าวคราวโลกภายนอก 

ชายร่างท้วมในชุดนักโทษผ้าป่านนั่งร้องไห้มุมหนึ่งในคุกเพราะถูกจำคุก 20 ปี คร่ำครวญถึงชีวิตตัวเองไม่รับรู้ว่ามีคนลอบเข้ามาในห้องขังสี่คน หลิวหยาง เจีย เจียง เจี้ยงต่างพยักหน้าให้กันแล้วเข้าไปล้อมชายร่างอ้วน 

ฮุ่ยหมินที่กึ่งนั่งกึ่งนอนบนชานระเบียงโรงรั้วดำชั้นห้า ชุดสีดำไหลไปมาเพราะร่างนี้นอนกลิ้งไปมาระหว่างรอศิษย์รักแก้แค้นอย่างสนุกสนานกับเจ้ากรรมนายเวร ไหปลาร้าขาวผ่องเย้ยพระจันทร์ที่แข่งเปล่งแสงความขาวสว่างทั้งสองก็ยอมแพ้ให้บุรุษชุดขาวที่เดินออกมาแทน หลินอวิ๋นในชุดสีขาวตัวในตัวเดียว ผมขาวปล่อยคลอเคลียใบหน้า ดวงตาคมฉ่ำไปด้วยน้ำตาจากการหาวเมื่อครู่ โดยรวมถือว่ายั่วยวนไม่น้อย 

"ภรรยาข้าง่วงนอน"

"บอกทำไม ไปนอนสิ"

ฮุ่ยหมินหยิบขนมผิงเข้าปาก ไม่สนใจ คนผมขาวทำหน้าไม่พอใจแล้วเดินไปนอนกอดเอวบางอีกคนแทน

"โอ้ย รำคาญณ ออกไป๊"

"ภรรยา ข้าง่วงจริงๆนะ ไม่ได้นอนกอดภรรยา หลินอวิ๋นนอนไม่หลับ"

เรื่องของมึงงงงงง กูจะรอลูกกู ปั้นมากับมือ 

"ภรรยา นะ"

ไม่

"ภรรยา"

ไม่โว้ยยย 

"ฮุ่ยเออร์คนดี หลินอวิ๋นอยากนอนกอดภรรยาจริงๆนะ"

...

"เออ ก็ได้'

 

 

...............................................................

 

[๑๑] จินหลี่ : ปลาคาร์ป

[๑๒] ยามซวี : 19.00-20.59 น.