ตอนที่ 12A : โรงรั้วดำนั้นมันโก้จริงๆ

 

 

ฮุ่ยหมินเดินง่วงเข้าโรงรั้วดำชุดสีดำคนเดียวที่เดินกางร่มทำให้ศิษย์แต่ะคนที่เดินสวนเตรียมกลับห้องต่างรีบทำความความเคารพ ร่างสูงในชุดสีขาวขลิบทองก็เดินอุ้มถุงผ้าเดินตามเป็นที่ชินตาสำหรับคนในรั้วดำ แต่ต่างเพียงมีเด็กหนุ่มตัวผอมเดินตามสายตาก็มองไปทั่ว โรงรั้วดำสมชื่อเพราะมีรั้วอิฐสีดำสูงกว่าชายสองคนยืนต่อกัน ภายในก็ตะการตากว่าที่เห็น พื้นหญ้าสีเขียว มีหอสูงห้าชั้นตรงกลางมีลานฝึกขนาดใหญ่  ข่ายฝานเห็นคนยิงธนูและฟันดาบเล็กๆยาวๆ ขาเล็กก้าวสะดุดเมื่อเห็นว่าเจ้าของโรงรั้วดำพยักหน้ารับการโค้งเคารพของพี่ๆชุดสีเทาเข้ม 

ไม่นานข่ายฝานก็เข้าไปในหอสูงๆ มีเก้าอี้ดำเรียงด้านหน้าและโต๊ะสีดำยาวมีพี่ๆชุดเทาเข้มเต็มไปหมด แต่ละคนนั่งอ่านหนังสือกระดาษสีซีดๆ ไม่ก็พูดคุยกันเบาๆ พอท่านฮุ่ยหมินเข้ามาทุกคนรีบลุกขึ้นแล้วประสานมือโค้งเคารพ ท่านฮุ่ยหมินพยักหน้าเหมือนเดิมก่อนจะเดินไปที่โต๊ะสีขาวที่เด่นที่สุด 

"ขอชุดให้เด็กทุนคนใหม่ ชื่อข่ายฝาน ห้องพักใหม่ ข้าวของด้วย"

เสียงนุ่มหูบอกสิ่งที่ตัวเองต้องการพี่สาวคนสวยหลังโต๊ะรับคำแล้วเดินไปหลังม่านมุกสีทอง ไม่นานมีข้าวของต่างๆในถุงย่ามขนาดใหญ่ มือขาวยื่นไปรับและส่งต่อให้ข่ายฝาน เด็กหนุ่มรับมาอุ้ม ชายชุดขาวที่ชื่อหลินอวิ๋นกระซิบอะไรบางอย่างให้ท่านฮุ่ยหมินฟัง ไม่รู้ว่าตาฝาดหรือเพราะเดินทางนานเลยเพลีย ข่ายฝานเห็นมือหนาของพี่หลินอวิ๋นจับชายแขนเสื้อท่านฮุ่ยหมินดึงไปมา คิ้วสวยขมวดดึงแขนตัวเองกลับอย่างรวดเร็ว 

สงสัยเพลียมากแน่ๆ ข่ายฝานพยักหน้าให้ตัวเอง

 

...

 

"อันนี้ชุดศิษย์ มีสามชุด อันนี้สมุดกระดาษ พู่กัน หมึกดำ แท่นฝนหมึก กระบี่อ่อเรียกว่ากระบี่นี่เอง"

ข่ายฝานในชุดน้ำตาลมอซอ นั่งจัดของในห้องตัวเอง เขาได้พักเรือนหลังที่ติดกับป่าไผ่ ที่นี่มีศิษย์ทุนแค่สี่คนแต่เป็นปีสูงไม่มีใครเป็นรุ่นราวคราวเดียวกันแต่พี่ๆก็ใจดีช่วยขนของให้ก่อนจะไปฝึก ตอนนี้ข่ายฝานหุบยิ้ม ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ชีวิตที่สูญเสียแม่ไปทำให้ว่างเปล่าไปหมด แม้จะดูตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้มาอย่างน่าอัศจรรย์ใจ แต่ความรู้สึกที่สูญเสียคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตไปยังคงหลงเหลือใต้จิตใจและใต้รอยยิ้ม มือเล็กจัดข้าวของให้เข้าที่ ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองรูปวาดที่เขาวาดให้บุพการี ไม่นานก็รู้สึกว่าภาพตรงหน้าช่างพร่าเลือน 

อ่า น้ำตานี่เอง

 

ภายนอกเรือนร่างโปร่งในชุดสีดำขลิบทองยืนกางร่มรับลมเอื่อยๆ ดวงตาสีดำเบือนไปมองท้องฟ้า 

'เด็กคนนี้เหมือนผมตอนสูญเสียพวกคุณเลยนะ พ่อครับ แม่ครับ'

 

...

 

รุ่งเช้า 

 

ฮุ่ยหมินที่แต่งตัวเรียบร้อยยืนตรงระเบียงมองศิษย์ที่ไม่ใช่ศิษย์ทุนเดินเข้ามาในโรงรั้วดำ ตอนเข้ามาครั้งแรกเด็กพวกนี้แม่งโคตรเหี้ยม ต่างเอาแต่ใจ แบ่งแยกชนชั้นตามคำสอนพวกผู้ใหญ่ที่ปลูกฝังแต่เด็ก ฮุ่ยหมินจัดการจนกลายเป็นเด็กที่เข้าใจโลกมากขึ้น จากเด็กน้อยกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียงที่โลกโบราณแห่งนี้อายุสิบเจ็ดสิบแปดถือว่าโตแล้ว อีกไม่กี่วันก็ต้องรับเด็กเข้ามาเพิ่มเพราะต้องหาเพื่อนให้พระเอกตัวน้อยแม้ว่าเนื้อเรื่องอีตาพระเอกจะไม่ค่อยสุงสิงกับใครก็เถอะ

"คิดอันใดอยู่ หื้ม" 

แรงรัดที่เอวและความอุ่นของร่างกายคนทาบลงแผ่นหลัง มือขาวหยิกหลังมือลูกเทพที่เนียนเป็นปลาไหล

"โอ้ย ทำร้ายสามีเป็นบาป"

บาปก็เหี้ยละ 

"เพ้อเจ้ออะไร เจ้าเอาพยัคฆ์ขาวไปไว้รึยัง"

หลินอวิ๋นอืออาในลำคอ ดวงตาสีม่วงจ้องเด็กๆที่เริ่มทยอยเข้ามาในโรงรั้วดำ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาเรียนแต่ไม่รู้หลิวหยางสั่งสอนยังไงถึงได้รักษาเวลากันอย่างดี ฮุ่ยหมินสะบัดทือทีหนึ่ง หนึ่งในแฝดสามโผล่มายืนตรงระเบียงข้างๆทันที 

"ไปตามหลิวหยางมาหาข้าที่สระ ข้ามีงานให้หมอเทวดาคนเก่ง"

ร่างสูงในชุดม่วงเกือบดำพยักหน้ารับแล้วหายไปทันที

"เจ้าฝึกแฝดสามนี่ยังไงนะ ทำไมดูเก่งกาจได้ขนาดนี้"

คนผมขาวไม่ตอบอะไรแต่ผละออกแล้วก็หายแวบไปทันที ฮุ่ยหมินไม่ได้พูดอะไรแต่สายตาจ้องไปที่เด็กตัวน้อยผมสีน้ำตาล พ่อพระเอกของเรื่องที่ทำหน้าเด๋อด๋าเดินตามคนอื่นไปเรียน ยังไม่เปิดเทอมสำหรับเธอเลยลูกเอ๊ย

 

...

 

ข่ายฝานเดินตามพี่ๆที่เรือนไปเรียนไม่ทันระวังก็ชนคนอื่นทำให้ล้มลง มีมือขาวยื่นมาเขาเลยจับพยุงตัวเองลุกแต่พอเงยหน้าก็สะดุ้งทันที รับประสานมือโค้งคำนับอย่างตกใจ

"ท่านฮุ่ยหมิน"

"ท่านอะไร เรียกอาจารย์สิ"

"เอ่อ..ขอรับ"

ข่ายฝานตะกุกตะกัก ไม่รู้วางมือไม้ไว้ที่ไหน พี่ๆก็หายไปไหนไม่รู้ มมีเพียงคนที่ไม่รู้จักต่างทำความเคารพฮุ่ยหมินอย่างสวยงามต่างจากเขา  

"มาสิ เราจะผ่านไปที่อื่น เจ้ายังไม่ต้องเข้าเรียน"

"ขอรับ"

ข่ายฝานรับคนที่กำลังกางร่มสีดำ 

"อาจารย์ขอรับ"

เมื่อเดินไปสักพักข่ายฝานก็เอ่ยปากทำลายความเงียบเพราะตอนนี้รอบข้างเงียบไปหมดมีเพียงเสียงลมพัดไปมา ราวกับว่าที่แห่งนี้ไม่เคยมีใครมาก่อน 

"หื้ม?"

"พวกเราจะไปที่ไหนกันหรือขอรับ"

ท่านฮุ่ยหมินยิ้มแต่ไม่ตอบอะไร เดินไปเรื่อยๆอ้อมลานฝึกข่ายฝานเห็นสวนหินที่มีโต๊ะหินสีขาว รอบข้างมีหินขาวแทรกด้วยต้นไม้แปลกตาสีเขียว สวนนี้ติดกับรั้วสีดำ ข่ายฝานผ่านเรือนไม้ขนาดใหญ่ 

"นั้นคือเรือนเพาะปลูกสำหรับพืชที่มีคุณสมบัติแก้พิษ เจ้าเห็นตรงนั้นหรือไม่ ตรงนั้นมีโรงหมอศิษย์คนแรกของข้า หลิวหยาง"

ข่ายฝานตาโต ทำมือโบกไปมา

"มะ..หมายถึงหมอเทวดาผู้นั้นหรือขอรับ"

ฮุ่ยหมินพยักหน้าแอบลอบยิ้มกับท่าทางของพระเอกตัวน้อย จู่ๆก็มีลมพัดเข้ามา

ตึง!

เสียงของกระแทกกันทำให้ร่างของเด็กน้อยกระเด็นออกจากพื้นที่ตรงนั้น ร่างโปร่งจับร่มปัดพัดสีขาวที่ถูกขว้างมาอย่างจับวาง ทิศทางของพัดไม่ได้บินมาตรงฮุ่ยหมินแต่ตรงมายังพระเอกตัวเล็กนี้ต่างหาก 

"ทำอะไรของเจ้า หลินอวิ๋น"

มือหนาเก็บพัดที่ถูกส่งกลับมา รอยยิ้มจางๆปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลา หลินอวิ๋นไม่ได้พูดอะไรแต่เดินตรงมาจับผมสีดำของอุ่ยหมินเท่านั้น 

"สงสัยไหน้ำส้มคงจะหกนะขอรับ"

เสียงหวานใสของเกอตัวน้อยเดินมาพร้อมข่ายฝานที่ถูกพัดไปไกล หลิวหยางในชุดสีม่วงเข้มใแขนมีตะกร้าสานสีน้ำตาลที่ภายในเต็มไปด้วยพืชผลดูน่ากินในสายตาคนอื่น 

"หลิวหยางเจ้ามาแล้วหรือ"

"ขอรับ ข้าเผลอเก็บผลไร้จิตนานไปหน่อย"

ฮุ่ยหมินพยักหน้ารับแล้วหันไปกระแทกร่มใส่คนตัวสูงที่เล่นพิเรนทร์เกือบทำพระเอกขาหัก

ไหน้ำส้มหกอะไร บ้าบอ 

 

 

 

_________________________

 

แหะๆ รอไม่นานเนอะ พอดีกักตัวนานอยากเป็นเชฟ กินเสร็จแล้วนอน 555555555555555555555 ช่วงนี้จนมาก อยากซื้อนิยายของนักเขียนท่านหนึ่ง แต่เงินไม่พอเศร้ามากค่ะ กำลังจะหาของขายละ นักอ่านก็สู้ๆนะคะ