ตอนที่ 14 : งานเยอะแท้

 

 

สระบัว

 

ฮุ่ยหมินได้นั่งดื่มชาอย่างละเมียดละไม ใจเย็น ข้างๆมีหลินอวิ๋นที่หยิบขนมเตรียมป้อนเข้าปาก หลิวหยางกับข่ายฝานนั่งร่วมโต๊ะอีกฝั่ง 

"อาจารย์ฮุ่ยหมินเรียกหลิวหยางมา มีอะไรหรือขอรับ"

หลิวหยางเอ่ยถามเมื่อจิบชาเสร็จ

"อาจารย์จะให้หลิวหยางเป็นแม่งานรับสมัครเรียนปีนี้ ครั้งนี้ฮ่องเต้แคว้นทางใต้ส่งองค์ชายมาเสียเกือบสิบองค์ ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นคนเช่นไร"

ฮุ่ยหมินตอบกลับเสียงเรียบ 

"หลิวหยางเคยไปรักษาที่แคว้นทางใต้ คนทางใต้มีนิสัยโผงผาง ตรงไปตรงมา ไม่ยอมหักยอมงอ เห็นทีว่าอาจารย์ให้งานหนักเสียแล้ว"

หลิวหยางตอบกลับ แม้ใบหน้าจะนิ่งสงบแต่ในใจคิดหาวิธีรับมือองค์ชายแคว้นใหญ่ 

"ลำบากศิษย์รักแล้ว"

ฮุ่ยหมินหัวเราะในลำคอ อ้าปากรับขนมปะถ่องโก๊[๑๓]สีขาวนวลเข้าปาก หลินอวิ๋นเห็นอย่างนั้นรู้สึกหมั่นเคี้ยวจึงแสร้งทำเป็นเช็ดริมฝีปากอมชมพูนั้น แต่จริงๆแล้วแอบบีบกลีบปากล่างของฮุ่ยหมินเบาๆ 

คนโดนแกล้งจึงมองตาขวางใส่ทันที ฮุ่ยหมินกระแอมสองทีแล้วหันไปคุยกับหลิวหยางต่อ ไม่สนใจลูกเทพ

ข่ายฝานที่โดนทิ้งกลางบทสนทนาไม่รู้จะทำยังไงแค่จิบชาเรื่อยๆ จิ้มขนมเข้าปาก ไม่นานก็ใกล้เวลาพักฮุ่ยหมินเลยขอตัวพร้อมข่ายฝานทันที 

ร่างโปร่งชุดดำเดินนำพระเอกตัวน้อยไปยังโรงทานอาหารฟรี โรงรั้วดำมีโรงทานอาหารที่ไม่จำเป็นต้องซื้อเพราะแจกฟรี คุณภาพพอๆกันกับโรงเตี๊ยมชั้นสูง ศิษย์โรงรั้วดำส่วนใหญ่จึงไม่มีใครออกไปทานอาหารข้างนอกแม้จะไม่ใช่ศิษย์ทุนก็ตาม

ฮุ่ยหมินนัดข่ายฝานหลังพักที่ป่าไผ่ ก่อนจะปล่อยไปหาศิษย์เรือนเดียวกัน 

 

.....

 

 

ชายผ้าสีดำตัดกับสภาพแวดล้อมสีเขียวขจี เหล่าแมกไม้ต่างพากันหลบแหวกราวกับรู้ความ ฮุ่ยหมินกางร่มและใช้วิชาตัวเบากระโดดพุ่งไปตามทาง 

ไม่นานนัก จากแมกไม้สีเขียวกลายเป็นหินสีเทา ถ้ำขนาดใหญ่ที่มีหินปิดไว้ต่อให้ใช้ช้างสิบเชือกก็ไม่สามารถขยับหินยักษ์ได้ แต่ทว่าเพียงมือขาวสะบัดผ่านด้านหน้าหินก้อนนั้นก็เขยื้อนออก 

ร่างโปร่งเก็บมือไว้ด้านหลังกางร่มค่อยๆเดินเข้าไปข้างในถ้ำ ความมืดมิดไม่สามารถทำอะไรแก่คนที่เดินอยู่ได้ ดวงตาสีดำมองตรงไปยังแท่นหินท่ามกลางความมืดมิด เพียงกระดิกนิ้วที่ถือร่มอยู่ไฟรอบถ้ำก็ถูกจุดบนตะเกียงเก่าที่ห้อยล้อมแท่นหิน

กระบี่สีดำแน่นิ่งไม่ขยับ ฮุ่ยหมินจึงเป่าลมใส่ทำให้จิตวิญญาณจอมอู้สะดุ้งตื่นเผลอกลายร่างจากกระบี่เป็นคนทันที

"ท่านฮุ่ยหมินอะ!"

เสียงทุ้มแหวดัง ภาพตรงหน้าฮุ่ยหมินคือชายผมสีดำในชุดจีนคอเต่า ผมปล่อยสยายเกือบจะยุ่ง ใบหน้าหล่อเหลามู่ทู่เมื่อเห็นคนที่ทิ้งตัวเองไว้ในถ้ำแห่งนี้

"ปิง เมื่อไหร่เจ้าจะเลิกนอนเป็นตายอย่างนี้ ห๊ะ รู้มั้ยว่าฉัน เอ๊ย ข้าพาพระเอกมาแล้วนะ อีกสองปีก็จะเข้ามาหาเจ้าในถ้ำนี้แล้ว นอนไม่รู้เรื่องรู้ราว ข้าจะให้ท่านพระยาก๊อตจิล่าออกมาสั่งสอนดีหรือไม่"

ปิง หรือ กระบี่ปิง กระบี่ที่ใช้ปราณน้ำแข็งในการต่อสู้ กระบี่ปิงเป็นกระบี่วิเศษที่ถูกทำจากเศษเสี้ยวสวรรค์ แต่เนื่องจากจิตวิญญาณกระบี่เป็นจิตที่ค่อนข้างรักการนอนหลับทำให้เทพสงครามเจ้าของคนเก่าคว้างลงบ่อจุติ และก็มาอยู่ในกำไลของฮุ่ยหมินแทน 

"โอ๊ยย อย่าบ่นข้าเลย ท่านฮุ่ยหมินช่างพูดเช่นนี้ท่านหลินอวิ๋นไม่เบื่อแย่หรือขอระ.. โอ๊ย เจ็บๆๆๆๆๆ"

ไม่ทันพูดตบดีใบหูขาวก็ถูกดึงลงอย่างแรง ชายหนุ่มหล่อเหลาเสียมาดนั่งคุกเข่ายกสองมือขึ้นทันที 

"ข้าขอยอมแพ้ อย่าทำข้าเลย"

หึ ให้มันรู้ซะบ้าง 

"เจ้านี้วันๆทำอะไรบ้างนอกจากนอน ถ้าสองปีข้างหน้าเจ้าเผลอหลับและทำให้พระเอกน้อยของข้าชวดกระบี่เจ้าละก็ ข้าจะให้หลินอวิ๋นมาจัดการ เข้าใจหรือไม่"

ฮุ่ยหมินพูดแทบลืมหายใจ มือขาวโบกไปทางชายหนุ่มจิตแห่งกระบี่ปิง กระบี่ก็คืนร่างเป็นอาวุธสีดำและนอนแน่นิ่งบนแท่นหินเช่นเดิม 

 

....

 

ป่าไผ่ 

 

ข่ายฝานนั่งยองเขี่ยมดที่เท้าตัวเองเล่น ระหว่างรอผู้ที่นัดแนะตน เด็กชายวัยสิบสองหนาวนับมดตรงหน้าตัวเองทีละตัว ใบหน้าที่เข้าทีทำให้พอรู้ว่าโตขึ้นจะกลายเป็นหนุ่มรูปงาม 

พรึ่บ

ข่ายฝานรู้สึกถึงลมที่พัดผ่านหน้าตัวเองไป เมื่อเงยหน้าจากมดก็เห็นฮุ่ยหมินที่ยืนกางร่มสีดำอยู่ พระเอกตัวน้อยปัดเสื้อผ้าของตนเองแล้ววิ่งไปหาคนตรงหน้า

"อาจารย์!"

รอยยิ้มสดใสเจิดจรัสแสงทำดาเมจให้แก่ผู้พบเห็น แค่กๆ หมายถึงดูดี 

"อย่าตะโกนโหวกเหวกเสียกิริยา ข่ายฝาน"

"ขออภัยขอรับ"

ข่ายฝานทำหน้าสำนึกผิด ทำเอาจิตใจของฮุ่ยหมินสะท้าน 

โอ้ยยย ลูกเอ๊ย แม่ใจบ่ดี 

"เอาละ อาจารย์เรียกเจ้ามาเพราะปราณของเจ้า เจ้ายังไม่ได้ฝีกปราณใช่หรือไม่"

ฮุ่ยหมินทำเสียงนิ่งกลบข้อความจากจิตใต้สำนึกในใจ

"ใช่ขอรับ"

"อืม จำไว้นะว่า ปราณของเจ้าเป็นปราณพิเศษ ข้าจะช่วยสอนเจ้าทุกวัน ในยามนี้จนกว่าจะเปิดรับศิษย์อีกครั้ง"

ข่ายฝานตาโตดีใจ รีบคุกเข่าโขกหัวตัวเองกับพื้นหลายครั้ง

"ขอบพระคุณมากขอรับ ศิษย์จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียนขอรับ"

"อืม ลุกขึ้นเถอะ"

 

....

 

เวลาผ่านไป ทุกยามเว่ย ข่ายฝานจะรีบมาที่ป่าไผ่เพื่อฝึกปราณและวิชากับฮุ่ยหมิน ตอนนี้ปราณของข่ายฝานเป็นปราณสามัญด่านสิบแล้ว แต่ปัญหาคือไม่สามารถไปยังปราณพลรบได้ ฮุ่ยหมินก็เร่งหาวิธีช่วยเหลือศิษย์ตัวเองจึงไปอ่านนิยายเอ๊ย หมายถึงเรื่องราวในหนังสือที่เคยอ่านอีกครั้ง ก็พบว่าที่พระเอกไม่สามารถขึ้นด่านพลรบได้เพราะปราณน้ำแข็งเจ้าปัญหามันดื้อเหลือเกิน ไม่ยอมทะลุจุดจินตันให้ เรื่องนี้พระเอกมันจะช่วยเหลือตัวเองไปก่อนละกัน ฮุ่ยหมินไม่มีปัญหาไปบังคับปราณใครได้ 

ในช่วงเวลานั้นก็เป็นช่วงรับศิษย์ใหม่เข้ามาเช่นกัน หลิวหยางหัวหมุนเพราะฮ่องเต้กดดันเพื่อที่เข้ามาดูข้างในโรงรั้วดำอย่างถือดี ฮ่องเต้แคว้นทางใต้เป็นพวกเถรตรง พยายามจะเข้าโรงรั้วดำให้ได้แต่ผ่านอาณาเขตลูกเทพหลินอวิ๋นไม่ได้สักที 

"เพ้ย เจิ้นต้องการเข้าไปดูความเป็นอยู่ของลูกชายเจิ้น เจ้ากล้าขัดเจิ้นหรือ"

หลิวหยางยืนเหงื่อตก ตอนนี้อาจารย์ฮุ่ยหมินไม่อยู่ที่โรงรั้วดำเพราะออกไปเยี่ยมพยัคฆ์ขาวที่เมืองหลวง มีเพียงอาจารย์หลินอวิ๋นเท่านั้น 

"..."

อาจารย์หลินอวิ๋นเป็นคนไม่พูดเลยถ้าไม่เกี่ยวกับอาจารย์ฮุ่ยหมิน โอ๊ย หลิวหยางอยากจะร้องไห้ 

"เจ้า ไม่เคารพเจิ้น!"

"..."

"ทหาร!"

"ฮุ่ยเอ๋อร์บอกข้าว่า ถ้าไม่มีปัญญาฝ่าอาณาเขตบางๆ แล้วยังเรื่องมากก็โยนลูกของคนๆนั้นออกจากที่นี่ไป หลิวหยางไปเรียกลูกของเจ้าคน อืม ชุดทองนี่ออกไปซิ"

"เอ่อ.."

หลิวหยางอ้าปากค้าง ต่อให้เป็นเซียนที่ไหนก็ต้องมีการใช้คำราชาศัพท์แก่ราชวงศ์ อาจารย์หลินอวิ๋นนอกจากจะไม่ใช่แล้ว คำพูดคำจาทำเอาโรงรั้วดำชวนสะเทือนอย่างยิ่ง

"บังอาจ!!"

หลินอวิ๋นขยับเท้าเข้าไปใกล้อาราเขตตัวเอง ร่างสูงเกือบ 6 ฉื่อ[๑๔] เอามือขาวทาบอาณาเขตตัวเองพลันลมพายุพัดผ่านภายนอกอาณาเขตโรงรั้วดำอย่างแรงจนพระมาลาห้อยมุกของฮ่องเต้ตกหล่นบนพื้นทำให้ทั้งขุนนาง ชาวบ้าน คนที่ยืนออรอลูกหลานตนเองบริเวณนั้นตกใจอ้าปาก 

บริเวณโดยรอบเงียบสนิทไม่มีแม้กระทั่งเสียงหายใจ หลิวหยางกุมขมับตัวเองเอ่ยเรียกน้องชายตัวเอง

"เจี้ยง"

พรึ่บ 

หนุ่มชุดม่วงเกือบดำโผล่ออกมาข้างๆหลินอวิ๋น 

"ไปเรียกองค์ชายแคว้นทางใต้มาที สงสัยว่าองค์ชายคงไม่ได้ร่ำเรียนที่โรงรั้วดำของเราแล้วละ"

 

 

สงสัยอาจารย์หลินอวิ๋นโมโหที่อาจารย์ฮุ่ยหมินแอบหนีไปโดยไม่บอกแน่ๆ เฮ้อ กรรมของฮ่องเต้

 

 

 

_____________________________

 

[๑๓] ขนมปะถ่องโก๊ : ขนมปะถ่องโก๊ เป็นขนมที่ทำจากแป้งข้าวเจ้าและน้ำตาลทรายขาวหรือน้ำตาลทรายแดง นึ่งในถาด แล้วตัดเป็นชิ้นๆ เนื้อขนมมีลักษณะพรุน ไม่เนียน ไม่เรียบเป็นมันเท่าขนมเปียก แต่ไม่แห้งเท่าขนมถ้วยฟู เปียกประมาณขนมน้ำดอกไม้ เหนียวนิดๆ เคี้ยวหนึบๆ หากใช้น้ำตาลทรายขาวก็จะได้สีขาวบริสุทธิ์

Welcome to Phuket Data - ปาถ่องโก้ เปะถ่องโก้

[๑๔] ฉื่อ : 1 ฉื่อ = 10 ชุ่น (ราวๆ 1 ฟุต)

 

 

 

______________________________

 

 

พ่อหลินอวิ๋นเราสูง 183 นะคะเราปัดจุดขึ้น 5555555 เราพึ่งรู้นะคะว่าคนไทยเราเรียกปาท่องโก๋ผิดกัน แต่ขนมชนิดส่วนใหญ่ใช้ในงานศพกัน อ่อ เรากำลังคิดเรื่องฉอชแท๊กค่ะ แต่คิดไปคิดมาไม่คิดดีกว่า ขี้เกียจ 555 แต่ในหัวมีคำว่า #ลูกเทพโซน