8 ตอน บทที่ 8 ความโง่มักก่อเกิดอันตราย
โดย T.mines
บทที่ 8
ความโง่มักก่อเกิดอันตราย
ดอกสึบากิ (Tsubaki, 椿) หรือ “ดอกคาร์มีเลีย” เป็นดอกไม้ที่คนรักมักมอบให้แก่กันเพื่อแสดงถึงการให้เกียรติและฝากความหวังไว้กับอีกฝ่าย แต่ความหมายสำหรับซามูไร จะแปลว่า “โชคร้าย” เพราะดอกร่วงหล่นง่ายคล้ายโดนบั่นหัวในดาบเดียว
รถสปอร์ตคันหรูสีดำสนิท เข้ามาจอดยังรีสอร์ตที่กาญจนบุรี บรรยากาศอันเงียบสงบติดริมแม่น้ำ แถมห้องพักตามนัดหมายยังอยู่ห่างไกลจากแผนกต้อนรับอย่างมากแทบจะพูดว่าเป็นสถานที่ส่วนตัวมากกว่า ทันทีที่พวกเขาลงจากรถ ชายชุดดำโผล่พรวดพราดมาจากพื้นที่โดยรอบมาเพื่อเข้าล้อมพวกเขา
นานะเสมองไปยังบรรดาลูกน้องต่างพากันยกปืนขึ้นมาจ่อไปยังชายชุดดำดังกล่าว พี่ชายเขายืนหาวปากกว้างด้วยความเบื่อหน่ายเป็นอย่างมาก เธอส่ายหัวในความโง่ของกลุ่มคนเหล่านี้ ตอนแรกนั้นเธอเห็นสถานที่นัดก็เดาได้แล้วว่ามีอะไรรอต้อนรับอย่างแน่นอน หญิงสาวแสยะยิ้มให้พี่ชาย ก่อนจะพยักหน้าให้สัญญาณพร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาเพื่อยอมแพ้ พี่ชายอย่างหนึ่งยกมือขึ้นตามเช่นกัน เขาไม่รู้ว่าน้องสาวเขาวางแผนอะไรในหัว แต่ยอมเล่นตามเกมไปด้วย ถึงยังไงความไว้ใจระหว่างพี่น้องคือสิ่งสำคัญของพวกเขา
“จับพวกมันมัดเอาไว้ คลุมหัวผ้าด้วยสีดำ” เสียงสั่งการเป็นภาษาจีน แต่หนึ่งกับนานะที่ต้องติดต่อกับทางฝั่งประเทศจีนจะฟังไม่ออกเลยหรือไง รวมถึงบอดี้การ์ดประจำกายพวกเขาทั้งสองด้วย
ตอนนี้ทั้งสองพอจะรับรู้แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อาจจะเกี่ยวกับทางฮ่องกง ทางนั้นคงจะให้คนตามสืบเกี่ยวกับครอบครัวหญิงสาว หนึ่งพลอยติดร่างแหร่วมด้วยและต้องมาโดนจับมัดพร้อมกับผ้าสีดำคลุมหัวก่อนจะพาขึ้นรถ ส่วนลูกน้องคนอื่นโดนทิ้งไว้ที่เดิม พวกมันยังยิงยางรถคันที่เหลือเพื่อไม่ให้ได้ขับตามมาช่วยเจ้านาย
นานะและหนึ่งโดนจับไปไว้ที่โกงดังร้างไม่ไกลจากรีสอร์ตที่นัดหมาย หญิงสาวคาดการณ์เส้นทางที่พวกเขานั่งรถผ่านไม่ขรุขระ เธอเดาว่าคงอยู่ในพื้นที่มีรถสัญจรเข้าได้ง่าย
“พาพวกมันเข้าไป”
เหยื่อทั้งสองโดนลากไปยังภายใน จับนั่งบนเก้าอี้ที่จัดเตรียมไว้ให้ ถุงผ้าสีดำที่คลุมบนหัวถูกดึงออก ทั้งสองหลับตาเพื่อปรับแสงนิดหน่อย ก่อนจะสบตากับแขกที่นั่งรอพวกเขาอยู่ นานะหันมามองสำรวจพี่ชายก่อนจะยักคิ้ว บ่งบอกว่าเดี๋ยวจัดการเอง ทำตัวสบายได้เลย หนึ่งหรี่ตามองน้องสาวและไหวไหล่ตอบกลับ
ท่าทีที่ไม่ตื่นกลัวแต่ทำกลับทำตัวสบาย ยิ่งเพิ่มความไม่พอใจให้กับชายในชุดสูท แต่งกายเหมือนในภาพยนตร์ เดินด้วยท่วงท่าสง่างามดูดีพอสมควรมายังหญิงสาว
“ได้เจอกังสักทีนะ อาคุงนานะ” เสียงภาษาไทยไม่ชัดเป็นสำเนียงจีนแปร่ง ๆ พร้อมด้วยสายตาและใบหน้าเหยียดหยามแก่หญิงสาว
“ถ้าจะให้ดีแนะนำตัวหน่อยได้ไหม ไม่คุ้นหน้าเลย” นานะขมวดคิ้วถามด้วยน้ำเสียงกวนอารมณ์และแถมส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย เธอพอคุ้นหน้าอยู่บ้าง ถ้าจำไม่ผิดคือลูกที่เกิดจากภรรยาคนสองของเจ้าพ่อหยาง ด้วยพี่ชายแฝดเกาทั้งสองไปเปิดคาสิโนในถิ่นนั้น ชื่อหยางอะไรสักอย่าง ช่างมันเถอะแค่คนไม่สำคัญไม่น่าจดจำสำหรับเธอ
“พวกมึงเอาโทรศัพท์มาถ่ายคลิปส่งไปให้พวกพี่ชายมัน”
ชายชุดดำหนึ่งในนั้นหยิบโทรศัพท์มาตามคำสั่งของนาย และชายในชุดสูทพยักหน้าให้ลูกน้องคนสนิทไปยังหญิงสาว ตามด้วยฝ่ามือตบเข้าที่หน้าของหญิงสาวทันที ผัวะ! นานะสัมผัสได้ถึงรสคาวเลือดในปาก ก่อนจะถุยน้ำลายปนเลือดลงพื้น ฝ่ามือกำลังจะตามมาอีกครั้ง และหยุดชะงักมือตามเสียงร้องโวยวายดังขึ้นจากตัวประกันทั้งสอง
“หยุด!!!”
“มึงให้เกียรติหนังหน้ากูหน่อย กูผู้หญิงนะ หน้าคือสิ่งสำคัญ ทุบตรงอื่นได้ไหมวะ” เสียงบอกแบบไม่จริงจังคร้านจะใส่ใจ เพียงแค่พูดขัดไปงั้น ๆ
“กูด้วย ต้องเอาเบ้าหน้าหล่อไปเจอแฟนกูนะ ไปแบบหมดหล่อแฟนกูจะว่ายังไง” หนึ่งร้องบอกด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะดูเกรงกลัวว่าหน้าจะช้ำมากกว่าเจ็บตัว
“ได้ เดี่ยวอั๊วจักให้”
ชายชุดดำทั้งสองรับไม้ขนาดพอเหมาะมือฟาดไปลงไหล่ และลำตัว แม้ทั้งนานะและหนึ่งจะโดนทำร้ายร่างกายแต่พวกเขาก็ไม่สนใจ เอาแต่ถกเถียงกันตลอดเวลา
“มึงกล้าพูดนะว่าแฟน ไปรับไปส่งตามต้อย ๆ จะมาบอกว่าเป็นแฟนหน้า ไม่อาย” น้ำเสียงเย้ยหยันส่งไปยังพี่ชาย
หนึ่งตีหน้าเศร้าเมื่อกี้พอโดนหยาม เปลี่ยนเสียงทันที “มึงรู้ได้ไงว่ายังไม่ได้เป็นแฟน หา!!”
“โห...บอกจะไปกันไม่ให้มาจีบซูก้าของกู ดันไปจีบเขาแทน” ซูก้าเป็นคำที่นานะใช่เรียกน้องชายสุดรักอย่างไนน์
“แล้วที่กูทำไม่ดีตรงไหน มึงบอกมาสิ”
“กาก จีบตั้งนานป่านนี้ยังไม่ไปถึงไหนเลย”
“มึงแม่งกวนตีนกูนานะ ไอ้นี่จะตีอะไรหนักหนา กูจะเถียงกับมันไม่รู้เรื่อง สัส”
“Shut up!!!” เสียงตะโกนดังจากลูกชายเจ้าพ่อหยางให้เขาสองคนพี่น้องหยุดเถียงกัน ถึงแม้จะหยุดเถียงแต่ยังยื่นหน้ายื่นปากคล้ายต่อล้อต่อเถียงกันไม่หยุด
แฝดคนพี่ของนานะได้รับข้อความพร้อมคลิปวิดีโอที่ส่งมาข่มขู่ ‘ถ้าไม่อยากให้สองคนนี้เป็นอะไร ทำตามข้อเสนอที่ฉันเคยบอกไปก่อนหน้านี้’ แฝดพี่สะกิดแฝดน้องที่นั่งเรียนด้วยความง่วงอยู่ข้างๆ และยื่นโทรศัพท์ให้ดู
“ไร?” น้ำเสียงหงุดหงิดที่โดนปลุกจากภวังค์
“ไอ้หยางเฉินหรือเปล่าวะ ที่เราไปมีเรื่องคราวก่อน แม่งจับนานะกับไอ้หนึ่งไปว่ะ” แฝดพี่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมหลังจากแฝดน้องส่งโทรศัพท์กลับคืนมา
“น่าจะใช่มั้ง ให้นานะจัดการเลยแล้วกัน”
ฝาแฝดทั้งสองลุกออกไปจากห้องเรียนโดยไม่สนใจว่าอาจารย์จะสอนไปถึงไหน พวกเขามาเรียนแค่เอาวุฒิการศึกษาไปประดับฝาบ้าน ส่วนประสบการณ์ในการทำงานไม่ต้องพูดถึง ตอนนี้พ่อและแม่พวกเขาทั้งสามคนวางใจและยกให้พวกเขาจัดการเอง แค่มาสอบถามเป็นครั้งคราวเท่านั้น
โกดังร้าง
มาเฟียหยางเฉิน ยกโทรศัพท์ส่ายไปมาให้ตัวประกันทั้งสองดูว่ามีเบอร์จากคนที่เขาส่งข้อความไปหาโทรกลับมาแล้ว
“เห็นคลิปแล้ว ยอมตกลงแล้วใช่ไหม?”
[เปล่า แค่จะบอกว่า ขอให้โชคดีนะ ลาก่อน]
“!!!”
หยางเฉินยังงงคำพูดของอีกฝ่ายที่โทรกลับมาบอก ส่วนตัวประกันทั้งสองลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ โยนเชือกที่มัดมือทิ้ง สะบัดตัวยืดเส้นยืดสาย เสียงปืนดังมาจากทางด้านนอก หนึ่งยกนิ้วโป้งให้น้องสาว นานะตอบกลับด้วยการเบะปาก ตั้งแต่มาถึงหญิงสาวได้กดตัวส่งสัญญาณ GPS ฝังไว้บนร่างกายของคนในตระกูล แสดงสัญญาณไปยังลูกน้องคนสนิทและคนในครอบครัว แต่หากต้องตามหาตัวเมื่อได้รับอันตรายต้องเข้ารหัสในการสืบค้น รหัสนั้นรู้แค่คนภายในตระกูลรวมถึงบอดี้การ์ดคนสนิทเท่านั้น
แต่ครั้งนี้นานะได้เตรียมแผนการเรื่องนี้ไว้ก่อนหน้าแล้ว พร้อมกับสั่งลูกน้องว่าถ้าได้รับสัญญาณแล้วให้บุกเข้ามาเลยไม่ต้องสนใจความปลอดภัย บรรดาลูกน้องของเธอต่างยอมรับในความเก่งกาจและสิ่งหนึ่งคือการต้องทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด
นานะและหนึ่งกระโดดโจมตีไปยังชายชุดดำทั้งสองที่อยู่ใกล้ที่สุด ขาเรียวเล็กของหญิงสาวตวัดเข้าตรงต้นคอคนที่สูงกว่าเธอเกือบสิบเซน แรงฟาดหนักมากจนชายหนุ่มร่างสูงล้มลงไปกองทันที หญิงสาวก้มลงไปหยิบปืนกระบอกเดียวกับที่จ่อหัวเธอมาตรวจดูกระสุน ส่วนหนึ่งจับล็อกคอและบิดหมุนชายชุดดำร่วงลงอีกร่างแย่งหยิบปืนขึ้นมาทำเช่นเดียวกับน้องสาว
หนึ่งกำลังจะหันไปคุยกับน้องสาว พบว่าเธอวิ่งไปข้างหน้าเพื่อจับตัวมาเฟียหยางมีลูกล้อมหน้าล้อมหลังคุ้มกัน วิ่งหลบกระสุนของหญิงสาว สาดเข้าก็ไปโดนตัวลูกน้องแทน ต่างฝ่ายต่างตะลุมบอนกันอย่างเมามัน ส่วนเขาวิ่งไปหลบหลังกองไม้ผุ และยิงสวนกลับไปเช่นกัน จินบอดี้การ์ดประจำกายของชายหนุ่ม ให้บอดี้การ์ดหนึ่งในทีมยิงสกัดและลุยฝ่ามาหาเจ้านาย
“คุณหนึ่งโอเคนะครับ” จินถามขึ้น
“เออ กูโอเค แต่มึงไปลากตัวที่ต่อยหน้ากูมาด้วยกูจะกระทืบให้เละเลยแม่ง”
“ครับผม”
ลูกน้องมือขวาของนานะโยนปืนคู่ใจให้กับเจ้านาย หญิงสาวรับมาและยกขึ้นจ่อยิงและครั้งนี้ไม่พลาด กระสุนมุดเข้าตรงไหล่ตัวการและลำตัวอีกหนึ่งนัดล้มตัวลงไถลกับพื้น ลูกน้องของหญิงสาวเตรียมเอาไว้เข้าไปล้อมรอบปืนนับสิบหันปลายไปจ่อยังคนเจ็บ
บอดี้การ์ดคนสนิทสั่งลูกน้องคนอื่นให้จับฝ่ายตรงข้ามไปรวมกันตรงกลาง และให้เกียรติสำหรับคนอย่างหยางเฉินนั่งเก้าอี้ตัวที่นานะนั่งไปเมื่อครู่ แถมไม่มีการมัดมือหรือเท้าด้วย
หนึ่งเดินตามมาสมทบ เสียงแจ้งเตือนของระบบโทรศัพท์ดังมาจากเครื่องของเขา เป็นเสียงเตือนตั้งไว้สำหรับคนสำคัญอย่างน้องไนน์คนเก่ง ปู่ พ่อและแม่ ตอนนี้เพิ่มมาอีกหนึ่งคือน้องวี ส่วนอื่นเขาปิดแจ้งเตือนหมด หนึ่งยกยิ้มอย่างหน้าระรื่น ข้อความที่ส่งมาในตอนนี้ก็มีแค่คนเดียว เขาเตรียมกดเข้าไปอ่าน
ฉึก!! มีดสั้นปลายแหลมแทงเข้าบริเวณช่วงท้อง
ตุบ!! เสียงโทรศัพท์ร่วงลงสู่พื้น
ในจังหวะชายหนุ่มเผลอตัวและคนอื่นกำลังวุ่นวาย ชายชุดดำลูกน้องของหยางเฉินดึงมีดจากที่ซ่อนไว้ในเข็มขัด และวิ่งเข้ามาแทง เขาก็ยังไหวตัวทันทิ้งของในมือและคว้าข้อมือของมือมีด ออกแรงกระแทกสวนกลับจนล้มลงและคนอื่นกรูเข้ามาจับตัวไว้ได้
“ไอ้ควาย!! มันใช่เวลาไหมเนี่ยไม่รู้จักระวังตัว!!” เสียงตวาดด่าอย่างหัวเสียของนานะ ที่เห็นพี่ชายตัวเองโดนแทงต่อหน้าต่อตา
“!!!!” ที่เหลือ
หนึ่งค่อย ๆ ประคองตัวเองลงไปนั่งบนเก้าอี้ที่ลูกน้องลากเอามาให้นั่ง แถมยังใช้สายตาปรายไปยังลูกน้องพยักพเยิดให้ไปหยิบโทรศัพท์ที่นอนกองบนพื้น ก่อนจะสะดุ้งกับใบหน้าน้องสาวที่มาพร้อมคำด่าทางสายตาว่า โง่
จิน บอดี้การ์ดประจำกายมองดูสภาพเจ้านาย เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนสะอาดสีขาวมาพับเป็นทบ ๆ วางไว้บนบาดแผลที่มีเลือดซึม และถอดเสื้อสูทของตัวเองพาดไปต้นขาและม้วนชายเสื้อขึ้นมาพับเป็นทบ ไปมัดรอบตัวเจ้านายช่วยห้ามเลือดเอาไว้ก่อน บอดี้การ์ดถึงกับถอนหายใจกับเจ้านายในช่วงนี้เป็นเอาหนัก ไอ้หนักคือหลงเด็กหนักน่ะ
มีกลุ่มคนเดินเข้ามาสมทบ ปืนย้ายไปยังกลุ่มที่เดินเข้ามาใหม่ พอรับรู้ว่าเป็นพวกเดียวกัน ปืนก็ย้ายกลับมายังจุดเดิม บอดี้การ์ดคนสนิทอีกคนของนานะ โยนชายวัยกลางคนที่โดนมัดมือมัดเท้าไปกองตรงหน้าหญิงสาว
เสี่ยวิทูร เจ้าของที่ดินที่ปู่มอบหมายให้พวกเขามาเจรจาซื้อขาย นานะให้คนสนิทไปติดตามอย่างไม่คาดสายตา หลังจากแจ้งสถานที่นัดหมาย เพราะเธอรู้ระแคะระคายว่ากลุ่มคนฝั่งฮ่องกงเดินทางเข้ามาในประเทศผ่านทางลูกพี่ลูกน้องของเธออย่างโฟร์อีกที และบอกว่าถ้ามีท่าทีจะบินหนีไปไหนให้รวบตัวไว้ก่อนและค่อยพามาวันนัดเจรจา
นานะใช้เท้าเหยียบใบหน้าไอ้คนกะล่อนที่บังอาจตลบหลังคนอย่างเธอ และตามด้วยฝ่าเท้ากระทืบไม่ยั้งอย่างหนัก บรรดาลูกน้องผู้เคยได้ชิมฝ่าเท้ามาแล้ว เบ้หน้าอย่างเจ็บปวดแทน เจ้านายพวกเขาน่ะ เท้าหนักยังกะอะไรดี
ส่วนหนึ่งปรายตาให้ลูกน้องลากตัวคนที่ชกเขาออกมา ก่อนขยับตัวลุกขึ้นแผลแค่นี้ไม่ระคายร่างกายหรอกแต่อย่าให้แม่รู้เท่านั้น
ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ! เสียงกำปั้นกระทบใบหน้าอย่างแรงจนมีรอยปูดบวมและคราบเลือด เมื่อพอใจเขารับผ้าสะอาดมาเช็ดคราบเลือดที่เลอะมือและนั่งลงที่เดิม
นานะให้ลูกน้องลากเสียวิทูรขึ้นมากดพาดตัวบนโต๊ะ โดยบนโต๊ะนั้นมีเอกสารสัญญาซื้อขายที่ดินพร้อมระบุราคาที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่รอบแรกกางรอ
“เสี่ยกล้ามากนะคะ ที่ตลบหลังพวกเรา และยังร่วมมือกับพวกมันเป็นศัตรูกับศิริกิจวัชรโชติ” นานะถามน้ำเสียงด้วยความเป็นมิตรพร้อมใบหน้าอันยิ้มแย้มแต่ในคำพูดนั้นเคลือบด้วยยาพิษ
“กูไม่เซ็นถึงตายกูก็ไม่ยอมเซ็น!”
“เฮ้ย...ทำไมคุยยากแบบนี้” เธอหยิบปากกาขึ้นมาเคาะลงแก้มตอบก่อนจะลงมือฟาดด้วยแรงทั้งหมดจนขึ้นริ้วสีแดง
“โอ๊ย!!” เสียงร้องด้วยความเจ็บปวด
หญิงสาวหมดความอดทนใช้มือกดลงบนศีรษะ ตามด้วยเสียงกดต่ำอย่างเกรี้ยวกราด “เสี่ยคิดว่าไอ้คนที่มันเสนอจะให้เสี่ยเข้าไปเล่นในนั้นโดยไม่ต้องเสียเงิน แถมยังมีส่วนแบ่งในรายได้นั้นอีก และบอกว่าจะคุ้มครองครอบครัวเสี่ยแลกการร่วมมือครั้งนี้ ดูพวกมันตอนนี้” นานะจับให้หันไปมองกลุ่มคนที่โดนจับเอาไว้ “ลูกสาวทั้งสองและเมียเสี่ยที่อยู่เยอรมัน บ้านเลขที่เท่าไหร่ไม่เอาดีกว่า จุ๊ จุ๊ เอารูปทั้งสามคนไปเดินชอปปิ้งมาให้ดูดีกว่า”
ภาพถ่ายในสถานที่ต่าง ๆ ถูกหยิบมาวางตรงหน้าชายวัยกลางคนทีละใบ ใบหน้าอันสวยสดใสและเต็มไปด้วยรอยยิ้มของทั้งสามคนบนภาพถ่าย
“กะ แก ระ รู้ได้ไง” เสียงถามตะกุกตะกักเต็มไปด้วยความหวาดกลัว หยดเหงื่อผุดขึ้นมาจากความกลัวเต็มไปทั่วแผ่นหลัง “ยะ ยอมแล้ว ยอมเซ็นแล้ว ยะ อย่าทำอะไรพวกเขานะ” เสียงบอกอย่างอ้อนวอนและพ่ายแพ้
ลูกน้องผู้รู้งาน ยกตัวเสี่ยวิทูรขึ้นทันที แฟ้มเอกสารกางตรงหน้า พร้อมกับยัดปากกาใส่ในมือพร้อมกับจับวางในช่องลงลายเซ็น
“ก็แค่นี้เอง ส่งเสี่ยไปอยู่กับลูกเมียให้ถึงที่นะ เออ! เสี่ยการพนันน่ะเบาลงหน่อยก็ดีนะ จะได้เหลืออะไรไว้ให้ลูกเมียบ้าง”
นานะไม่รอให้อีกคนตอบอะไร โบกมือให้ลูกน้องลากตัวเสี่ยออกไป หันมาหาจัดการธุระต่อ
“หนึ่งเอาไงดีวะ” ถามความคิดเห็นพี่ชายร่วมชะตากรรมและเป็นคนที่เจ็บตัวกว่าเธอ
“จะปล่อยให้ตายแล้วส่งคืนก็ใจร้ายไป จะส่งไปแบบไร้รอยขีดข่วนก็ใจดีไป เอาแบบหักแขนหักขา แถมฝากรอยแผลของกูไปด้วยน่าจะพอแล้วมั้ง” หนึ่งตอบด้วยเสียงกำลังพูดถึงเรื่องสนุกในระหว่างที่ตัวเองควงมีดพับสวิสเล่น
“เอาแบบนั้นก็ดี มึงคนเจ็บตัวนี่ แต่คราวหน้าอย่าโง่แบบนี้อีก” น้ำเสียงถากถางไปอีกหนึ่งดอก และยังปรายตามองเหยียดร่วมด้วย
ชายหนุ่มจัดการฝากรอยแผลแทงตรงหน้าท้องและเลือกไม่ให้เข้าจุดสำคัญ ส่วนนานะเป็นคนลงมือหักแขนและขาเอง ส่วนลูกน้องติดตามมาด้วยพวกเขาไม่สามารถกลับได้อีก ขอเอาชีวิตแทนลูกน้องบางคนที่พวกเขาเสียไป พวกเขาปล่อยให้ลูกน้องจัดการต่อ นานะแยกไปขึ้นรถอีกคันเพื่อพาลูกชายเจ้าพ่อหยางไปส่งให้ถึงมือด้วยตัวเองยังฮ่องกง ส่วนหนึ่งก็ไปขึ้นรถที่บอดี้การ์ดคนสนิทเป็นคนขับไปยังโรงพยาบาลเพื่อเย็บแผล
หนึ่งกลับมายังคอนโดหลังน้อยในเย็นวันถัดมา หลังจากไปหาหมอและเย็บแผล เนื่องจากแผลไม่ลึกและไม่เข้าจุดสำคัญพร้อมสั่งให้นอนดูอาการหนึ่งคืน แต่เขาเองอยากกลับไปหาคนตัวเล็กใจจะขาด พยายามข่มขู่บังคับหมอให้เขาออกจากโรงพยาบาล แต่จินบอดี้การ์ดส่วนตัวเขาเปรยบอกว่า ถ้าหากไม่ยอมนอนคงต้องโทรแจ้งกับมารดา
ชายหนุ่มเดินผ่านตรงส่วนกลางเหลือบเห็นป้ายประกาศว่า เจ้าหน้าที่ป่วยกระทันหันเนื่องจากอาการครรภ์เป็นพิษและขอลาหยุดอย่างไม่มีกำหนด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ชายหนุ่มยกยิ้มกว้างวางแผนการในหัวเพื่อจะใกล้ชิดคนตัวเล็ก คีย์การ์ดประจำห้อง 1208 ย้ายลงไปยังถังขยะอย่างไม่แยแส เขายกดูเวลาใกล้ที่เจ้าของห้องตรงข้ามจะกลับมาแล้ว และพาตัวเองไปนั่งรอตรงหน้าห้อง
ตึ่ง! เสียงประตูลิฟต์เปิดออกมาพร้อมกับคนตัวเล็ก เจ้ากระต่ายน้อยเห็นเขาก็ยกยิ้มต้อนรับ ไม่รู้ว่าดีใจที่เจอเขาหรือจะตรงมาต่อว่า ด้วยความซุ่มซ่าม หนุ่มน้อยในชุดนักศึกษา ถลาพุ่งชนเข้ากับร่างสูงล้มลงกระแทกลงแผล
“โอ๊ย!!!” เสียงร้องด้วยความเจ็บที่คูณเพิ่มไปอีก 2 เท่า
“พี่หนึ่ง!!” วีเรียกชื่ออีกคนด้วยความตกใจเช่นกัน กระวีกระวาดดันตัวเองลุกอย่างเร็ว เอ่ยถามต่อมาด้วยเสียงรู้สึกผิด “วีขอโทษ พะ พี่หนึ่งเลือด...เลือดไหล..ฮื่อ...” นิ้วที่สั่นชี้ไปยังแผลเลือดไหล พร้อมกับน้ำตาไหลซึมมาอย่างไม่รู้ตัว
“คะ ครับ อึก” คนขี้สำออยแกล้งเจ็บเข้าไปอีก มือหนากุมกดแผลแอบออกแรงกดลงเพื่อให้เลือดมันซึมออกมาอีก ในใจลอบอย่างมีแผน เจ็บตัวครั้งนี้ก็ไม่แย่นะ แถมจะwfhมากกว่าที่วางแผนเอาw;hอีก...
To be continued…