27 ตอน บทที่ 27 น้องวีของพี่หนึ่งตลอดไป
โดย T.mines
บทที่ 27
น้องวีของพี่หนึ่งตลอดไป
Myrtle สัญลักษณ์ของการแต่งงานและความสุขในชีวิตคู่
สองเดือนต่อมา หลังจากการสู่ขอที่ปู่เขามัดมือชกทางบ้านนี้ หนึ่งพาคนรักของเขาย้ายออกไปอยู่ร่วมด้วยแบบกึ่งถาวร พ่อของเจ้าตัวน้อยเนี่ยสั่งให้พากันมานอนค้างบ้านนี้ทุก ๆ สองสัปดาห์ เพราะต้องดูความพฤติกรรมของลูกเขยว่าดูแลลูกชายเขาดีไหม ทุกครั้งที่มาบ้านหลังนี้ หนึ่งรู้สึกว่าเขาโดนแย่งน้องวีไป น้องมักจะไปอ้อนคุณแม่ ด้วยทั้งรักทั้งหลงและหวงน้องอย่างสุดหัวใจ เขาจึงหมดความอดทน
“พ่อครับแม่ครับ ผมมีเรื่องจะขอคำปรึกษาคือ ผมอยากแต่งงานกับน้องวีครับ” หนึ่งเอ่ยถามกลางโต๊ะกินข้าวในมื้อเย็น
ชายวัยกลางคน หัวหน้าครอบครัว และเป็นบิดาของชายหนุ่มที่ถูกพูดถึง รวบช้อนไว้กลางจาน หยิบทิชชูมาเช็ดปาก เงยหน้าพิจารณาชายหนุ่มตรงหน้า ไม่ใช่เขาไม่รับรู้ถึงความรักของพวกเขามีให้แก่กัน ทว่าเพียงไม่กี่เดือนการได้ใช้ชีวิตร่วมกับทั้งคู่ ชายหนุ่มตรงหน้าแสดงให้เห็นว่าเขารักลูกชายเพียงใด ไม่ว่าจะแววตาเวลามองกัน คำพูด รวมถึงการกระทำหลายอย่าง จนเขาสามารถวางใจให้ดูแลได้ แต่การจะแต่งงานมันเหมือนการผูกมัดคนนั้นด้วยพันธะทางสังคม แต่อีกนัยหนึ่งคือการบอกให้ทุกคนรับรู้ว่าคนนี้คือคนรักของเขาได้อย่างภาคภูมิ และเป็นการให้เกียรติแก่คนของเราด้วย แต่พ่ออย่างเขายังมองว่าเรื่องราวของพวกเขาทั้งสองเดินทางมาถึงจุดนี้มันยังเร็วเกินไป
“มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอหนึ่ง พ่อรู้ว่าเรารักน้องแต่น้องยังเรียนไปจบเลย”
“ใช่แล้วหนึ่ง รอน้องเรียนจบดีไหม?” มารดาของน้องน้อยเอ่ยแสดงความเห็นด้วยกับสามีเธอ
หนึ่งย้ายมือหนาไปจับมือน้อย บีบกันแน่นใต้โต๊ะ เขาหมุนแหวนของคนรักก่อนสอดนิ้วไปประสานกัน วีเอียงคอมองสบตากับคนรักของเขา
“ผมรู้ครับว่ามันเร็วไป ผมไม่ต้องการผูกมัดวีด้วยการแต่งงาน ผมแค่อยากทำให้มันถูกต้อง เพราะว่าหลังแต่งงานแล้วผมจะพาน้องไปจดทะเบียนสมรสยังต่างประเทศ ทรัพย์สินส่วนหนึ่งจะได้โอนเป็นของน้อง ผมอยากมีหลักประกันอนาคตไว้กับน้อง”
คนตัวเล็กมองคนพี่อยู่แล้วเบะปากคว่ำทันที “ทำไมพี่หนึ่งพูดแบบนี้ล่ะ หลักประกันอะไร?” วีถามออกไป ทั้งที่เขารู้ว่ามันหมายถึงอะไร
“...”
“ถ้าพี่หนึ่งจะแต่งกับวีเพราะเรื่องนั้น ได้เลย! คอยดูนะวีจะเอาเงินไปเปย์คนรักใหม่ให้พี่หนึ่งอกแตกตายอีกรอบเลย” เจ้าตัวน้อยถลึงตาดุใส่ พร้อมด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
“ได้เลยค่ะ ความสุขของหนูพี่ยอมได้หมดเลยค่ะ” หนึ่งคล้องคอโน้มตัวน้องวีมาหอมหัว ก่อนจะปล่อยให้นั่งแบบเดิม
คนพ่อยกยิ้มกับความรักของลูกทั้งสอง คนพี่ชอบแหย่ลูกชายเขามักจะตกหลุมและคล้อยตามเสมอ พ่ออย่างเขามองออกตั้งแต่ไอ้ลูกเขยเอ่ยปากถาม ส่วนลูกตัวเองน่ะอยากแต่งจะตาย
“น้องวี เราเล่นตอบตกลงไปกับพี่เขาแล้ว พ่อกำลังเล่นบทหวงลูกชายอยู่นะ เสียหน้าหมดเลยครับ” เขาใช้น้ำเสียงนิ่งบ่งบอกว่าไม่พอใจในคำพูดของบุตรชาย
วีตกใจนิ่งเงียบหน้าสลดลงทันที พี่สาวของบ้านนั่งเงียบฟังตั้งแต่แรกกลั้นขำเอาไว้ จนน้องชายตัวเองหลุดโป๊ะแตกแสดงอาการอยากแต่งจนออกนอกหน้า ทั้งที่พ่อและแฟนน้องชายพูดเรื่องจริงจัง ตามต่อด้วยการกลั่นแกล้งจากบิดาอีกเล็กน้อย
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เลิกแกล้งน้องได้แล้วพ่อ ดูดิจะร้องแล้วมั้ง”
เจ้าตัวน้อยของบ้านหันมองแต่คนพี่ขำส่วนคนรักของตัวเองนั่งอมยิ้มให้ “นี่แกล้งวีเหรอครับ ฮึ่ย!” เสียงถอนหายใจอย่างไม่พอใจ ยกมือกอดอกอย่างเด็กวัยสามขวบ
บิดายื่นมือไปลูบหัวลูกชายตัวน้อยอย่างเอ็นดู ความงอแงของเจ้าตัวน้อยหายไป กลับมาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังกับบิดาตัวเอง
“พ่อครับ วีไม่รู้ว่ามันเร็วไปไหม วีแค่รู้ว่าวีรักพี่หนึ่ง วีอยากอยู่กับพี่หนึ่ง น้องวีอยากบอกให้คนทั้งหมดรู้ว่านี่คือคนรักของวี”
สำหรับตัวเขาแล้ว การได้รับความรักจากพี่หนึ่งนั้นมันมากมายจนล้นทะลัก เขาอยากประกาศให้คนอื่นรู้ว่าเขาก็รักพี่หนึ่งเช่นกัน ถึงแม้ใครจะว่าเขายังไง ต่อไปนี้เขาไม่สนใจแล้ว เขาขอแค่ได้เคียงข้างก็เพียงพอ การแต่งงานและทะเบียนสมรสจะบ่งบอกว่าเขามีสิทธิหวงคนของเขาได้มากที่สุด
“ลูกชายพ่อกับแม่โตขึ้นมากแล้วเนี่ย พ่อกับแม่ฝากน้องด้วยนะลูก รู้จักหวงพี่เขาด้วยเนอะแม่เนอะ” หันไปขอความคิดเห็นจากภรรยาตัวเองเบะปากใส่ลูกชายพยักพเยิดหน้าเห็นด้วยกับคำพูดสามีตน
“พี่ก็ฝากน้องชายพี่ด้วยนะหนึ่ง แล้วก็อย่าตามใจเยอะล่ะ” วาชี้หน้าน้องชาย หรี่ตาจับจ้องเด็กน้อยที่เลี้ยงมากับมือ “รู้นะว่าอยากแต่งกับหนึ่งทำไม จะได้หวงเขาเต็มที่ล่ะสิ”
พอโดนจับได้ เจ้าน้องชายยกมือปิดหน้าด้วยความอับอาย หนึ่งโน้มคนรักของเขามาซุกอก “อือ...พี่วาน่ะ พ่อกับแม่ด้วย” ทั้งสี่คนหัวเราะและอมยิ้มในท่าทางอันน่ารักของคนที่พวกเขารัก
ช่วงเช้าเริ่มต้นของสัปดาห์ หนึ่งและวีต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ของกันและกัน หลังจากตัดสินใจจะแต่งงานกันในช่วงปิดภาคการเรียนนี้ ทำให้หนึ่งต้องเข้าไปเคลียร์งานก่อนจะหยุดยาวในช่วงนั้น รวมถึงหลังจากนั้นจนกว่าน้องจะเปิดเทอมภาคเรียน
“เจอกันตอนเย็นนะคะ” หนึ่งยืนหอมแก้มคนรักในอ้อมกอดก่อนจะปล่อยตัวมาขึ้นรถ โดยมีบอดี้การ์ดอย่างภพหนึ่งในทีมดูแลเขาโยกตัวไปคุ้มกันและติดตามดูแล รวมถึงขับรถไปรับส่งในเวลาเขาไม่ว่าง
“ครับ อย่าโหมงานเยอะครับ” วีหอมแก้มให้กำลังใจคนพี่คืนบ้าง
“...” บอดี้การ์ดสองคนเบือนหน้าหนีอย่างอิจฉา ตั้งแต่ตัดสินใจคบกันก็แสดงความรักไม่เกรงใจลูกน้องอย่างพวกเขา ไม่สงสารคนโสดบ้างเลยนะครับ
ไนน์โบกมือเรียกเพื่อนตัวน้อย “มานั่งนี่เลย ปู่กูเพิ่งเล่าให้ฟังว่า...จะมีคนแต่งงานว่ะ” ชายหนุ่มล็อกคอเพื่อนรักมายีหัวด้วยความมันเขี้ยว
ผัวะ! ฝ่ามือเรียวบางฟาดลงหลังไนน์ “เลิกแกล้งลูกค้ากูนะมึง” เมเปิ้ลแงะแขนของเพื่อนออก “น้องวีลูก หนูอยากได้ตีมงานแต่งแบบไหนคะ เพื่อนคนนี้จะเนรมิตให้เต็มที่เลยค่ะ ถ้าไม่ถูกใจ เรายินดีจัดใหม่อีกรอบ”
“หื้อ...” เพื่อนตัวน้อยร้องเสียงหลง
“ล้อเล่นจร้า...”
“จ่ายมาเลยพวกมึง” คิวแบมือกระดิกนิ้วเรียกเงิน เพื่อนคนอื่นเปิดกระเป๋าเงินหยิบแบงก์สีเทาจำนวนห้าใบมาวางบนมือชายหนุ่มลูกครึ่ง “กูบอกแล้ว ไม่เกินสองเดือนเพื่อนกูต้องได้แต่งงาน มีเงินใส่ซองแล้วโว้ย” คิวใช้นิ้วชี้ และนิ้วกลางชี้มาที่ดวงตาเขา และย้ายไปชี้ยังเพื่อนคนอื่นรอบวง “สายตาผู้ล่ามองไม่เคยพลาด”
“มึงลองพลาดดิ พวกกูรอซ้ำทันที จริงไหมโรม เฮ้ย! คีย์ เฮ้ย! ไนน์” หนุ่มเจโอยักคิ้วให้
ไนน์รอรับมุก “ถูกแล้วกูไนน์ มารงมาโรม...คีย์เคออะไรล่ะไอ้โอ” สองสาวและสองหนุ่มกลั้วยิ้มอย่างสะใจ ยกเว้นหนุ่มน้อยงุนงงว่าจะพูดถึงน้องชายของคิวทำไม
คนโดนรุมพับเงินยัดใส่กระเป๋า ชี้หน้าเพื่อนเรียงตัวเว้นน้องน้อยกัดฟันสบถด่า “พวกมึงมันเพื่อนเลว”
หนึ่งเดือนต่อมา ดอกไม้จำนวนมากจากไร่ดาหลาถูกย้ายจากโรงเรือนเพาะเลี้ยงมาประดับตกแต่ง จนเต็มลานบ้านพักของชายหนุ่ม ปรับพื้นที่รองรับงานในวันนี้ แม่งานใหญ่คงไม่พ้นคุณนายไร่ดอกไม้ แทบจะลงไปทำเองไปทุกอย่าง ดูแล้วดูอีกเยอะกว่าเจ้าบ่าวทั้งคู่ ดอกคาร์เนชันสัญลักษณ์การสารภาพรักของพี่หนึ่งและน้องวีประดับตกแต่งทั่วทุกมุม แซมด้วยดอกสีชมพู สีแดง สีส้มบ้าง
น้องวีของพวกเขาอยู่ในชุดไทยประยุกต์โจงกระเบน เสื้อท่อนบนเป็นทักซิโด้สีน้ำเงินอ่อน นั่งรอขันหมากเดินทางมาสู่ขออยู่ภายในห้องชั้นบน โดยมีสองสาวผลัดกันเติมหน้าให้เจ้าบ่าวตัวน้อย สองมัมหมีดูเป็นปลื้มอย่างมาก คล้ายส่งลูกชายสู่ฝั่งฝัน ต่างพากันช่วยซับน้ำตาทิพย์
สองสาวโอบกอดน้องน้อยในกลุ่ม “ไม่ให้พี่หนึ่งแล้วได้ไหม ยิ่งแต่งชุดนี้มัน...น่ารักมากกกก กอไก่ล้านตัวยังไม่พอเลยมึง ใช่ไหมมึง”
จัสมินหันมาถามเพื่อนซี้อย่างเมเปิ้ล “กูก็ไม่อยากยกให้แบบที่มึงบอกนั่นแหละ ปลุกปั้นมาตั้งแต่ตีนเท่าฝ่าหอย ตอนนี้ฮึ่ม...ใหญ่เท่ากว่าฝาหอย แต่คือมึงค่าจ้างงานนี้มันเยอะมาก กูต้องยอม”
“...” จัสมินยื่นปากอยากจะด่าเพื่อน ติดตรงที่ว่าวันนี้วันดีไม่ควรมีคำหยาบหลุดจากเพื่อนเจ้าสาวอย่างเธอ “จ้ะเพื่อนรัก เงินมันสำคัญเนอะ”
“ไม่ค่ะเพื่อนจัส หนูต้องเข้าใจนะคะ ว่าน้องน้อยกำลังจะมีความสุข มีคนที่รักและดูแลดีราวกับเจ้าชาย เพื่อนอย่างกูจะไม่ยอมยกให้ได้ไง”
“เลิกเถียงกันได้แล้ว พวงมึงมานี่ ช่วยคิดสิว่าจะแกล้งพี่มันยังไง พี่วาร่วมด้วยไหมครับ” เจโอเรียกรวมพลเฉพาะกิจ เห็นว่ายังมีเวลาเหลืออีกนิดหน่อยกว่าขันหมากจะแห่มาถึง
สามสาวสามหนุ่มยิ้มกระหยิ่มออกมาพร้อมกัน มองตาที่สื่อความหมายไปทิศทางเดียวกัน พวกเขามีสปายอย่างหนึ่งคือน้องชาย
เมเปิ้ล “ทอสอบความฟิต วิดพื้นไหมมึง”
ไนน์ “พี่กูเนี่ยนะมึง สภาพมัน” เขาส่ายหัว
จัสมิน “ตะโกนบอกรักสักห้าภาษา”
ไนน์ “มันพูดได้แปดภาษา”
วา “ร้องเพลงบอกรักไหม?
ไนน์ “เออได้นะพี่วา แต่ว่าหนึ่งก็ร้องเก่งพอใช้ได้อยู่น้า”
เจโอ “เก็บไว้ แล้วมึงอันนี้ล่ะ ท่องคาถาบูชาเมีย”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
คิว “มึง พวกมึง ให้พี่มันบอกว่า ส่วนไหนของน้องวีเร้าใจสุด”
ผัวะ! ผัวะ! สองชายหนุ่มพร้อมใจประสานฝ่ามือลงท้ายทอยเพื่อนทันที “เรตนะมึง”
เจ้าบ่าวตัวน้อยนั่งบิดตัวเอียงอายในคำพูดกึ่งลามกของเพื่อน “อย่าแกล้งพี่หนึ่งเยอะนะ” ทุกคนหันไปตามเสียงพบว่าเจ้าน้องน้อยหน้าแดงแปร๊ด เม้มปากสนิท ทุกคนอดยิ้มในความน่ารักไม่ได้ พยักหน้าพร้อมกันว่าอันนี้น่าสน
คีนและภพสองบอดี้การ์ดเดินเข้ามาบอกว่าขบวนใกล้จะถึงแล้ว ให้เตรียมตัวได้แล้ว พวกเขาเดินออกไปทิ้งเจ้าตัวน้อยไว้กับช่างแต่งหน้า คอสตูม ช่างภาพและช่างกล้องที่คอยตามบันทึกทุกช่วงเวลา ก่อนออกไปไนน์พยักหน้าให้สองบอดี้การ์ดอยู่ร่วมด้วยเพื่อความปลอดภัยของเพื่อนเขา เพราะภายในไม่มีคนของพวกเขาเลย ถึงจะคัดกรองคนมาแล้วแต่ไนน์ก็ไม่ไว้ใจใคร
ขบวนขันหมากนำหน้ามาด้วยพี่น้องตัวท ทู ทรัว อาสาเป็นคนโห่หน้าขันหมาก ฝาแฝดยอซอทและทาซอทถือต้นกล้วย ฮาจิและจินถือต้นอ้อย ส่วนสองสาวของบ้านพานสินสอด ตามาด้วยพ่อและแม่ของชายหนุ่ม และสุดท้ายตามหลังด้วยเถ้าแก่อย่างเจ้าสัวชัช ส่วนบรรดาน้าชายและน้าสะใภ้คนอื่นช่วยเข้ามาถือของในขบวนจนครบหมด ส่วนหญิงสาวคนสำคัญของไนน์นมแย้ม เชิญมานั่งรออยู่ฝั่งหน้าบ้านแล้ว นี่คือการรวมคนทั้งตระกูลมาไว้จนหมด การรักษาความปลอดภัยบอดี้การ์ดทั้งหมดมารวมตัวกันที่นี่หมด
“ไอ้ไนน์ การ์ดบ้านมึงมีกี่คนวะ” คิวกระซิบถาม
“ไม่รู้วะ แต่ขนมาหมดแหละ” ไนน์ไหวไหล่ตอบแบบไม่ใส่ใจ
“มึงไม่ดูเหรอวะไอ้คิว ว่าแต่ละคนมีมูลค่าเท่าไหร่มารวมตัวกันที่นี่ ถ้าข่าวนี้รั่วไปถึงนักข่าวนะมึง ไร่ป้าไอ้ไนน์แตกแน่ ๆ ถึงเชิญมาได้แค่คนสนิทเท่านั้น อาวุธแต่ละคนครบมือ”
“พี่วาไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของวีนะครับ พวกนี้มืออาชีพ เราเลี้ยงกันดูแลกันเหมือนคนในครอบครัว ทำงานถวายหัวแน่นอน” ไนน์หันไปแยกเขี้ยวให้ไอ้เพื่อนปากดีทั้งสองที่ชวนคุยได้ถูกเวลาจริง เมื่อเห็นใบหน้าพี่สาวเพื่อนหน้าถอดสี
“...” คิวกับเจโอยิ้มแห้งให้เพื่อนไนน์ทันที
ขบวนขันหมากมาหยุดตรงหน้าทางเข้า ต้องเดินผ่านประตูเงินประตูทองตามธรรมเนียม สองสาวที่เป็นด่านแรกของการกั้นประตู หนึ่งเดินมาเจรจา “พี่ขอผ่านทางไปได้ไหมครับ”
จัสมิน “พี่หนึ่งมีอะไรมาแลกคะ เพื่อนหนูน่ารักขนาดนี้”
เมเปิ้ล “ใช่ค่ะ”
“ในซองนี้มีเช็คใบละหนึ่งแสนบาท เอากี่ซองกันดีคะ” หนึ่งในชุดแบบเดียวกับเจ้าบ่าวตัวน้อยปรับโทนสีชุดเข้มขึ้นมาอีกเฉด ยืนตีซองสีชมพูลงบนฝ่ามือ
สองสาวมีทีท่าลังเล คุณนายไร่ดอกไม้ปรี่เข้ามาเสริมทัพ เพราะอยากได้ลูกสะใภ้ใจจะขาดพอ ๆ ลูกชาย “แถมกระเป๋าชา...รุ่นล่าสุดอีกคนละใบดีไหมคะลูก พี่วาด้วยนะลูก”
เพื่อนสาวสวยผู้มีกระเป๋าใบสวยในหัว ยกนิ้วสองนิ้วและแบบมือรับซองสีชมพู พร้อมปล่อยที่กั้นให้เจ้าบ่าวผ่านแต่โดยดี ประตูชั้นที่สองโดยสองสีพี่น้องของแต่ละฝ่าย พี่สาวของวีและน้องชายของหนึ่ง
“วันนี้ไม่มีคำว่าพี่น้องครับ ไนน์ขออัญเชิญคาถาบูชาเมีย” ไนน์รีบขัดพี่ชายตัวดีก่อนจะยื่นขอเสนอให้เขาใจอ่อน
“พี่วาครับ กระเป๋าเพิ่มอีกสักสองสามไหมครับ ส่วนคนเก่งโมเดลหรืออุปกรณ์แต่งรถอีกสักคันดี”
ไนน์ไม่รอพี่สาวตอบเพราะกลัวไอ้พี่ชายตัวดีหลุดไปง่าย “หยุดติดสินบน คาถาครับท่องมา”
หนึ่งสูดลมหายใจ ขยับปากบอกประโยคที่คิดออก
“รักเมียต้องบูชาอย่าให้ขาด ชาเนล วิกตองค์ แบรนด์เนมหาให้ครบ
เมียอยากกินอะไรต้องรีบนำหามาโดยด่วน โอมากะเสะ ชาบู หมูกระทะ เมียอยากกินต้องได้กิน
เมียอยากเที่ยว จัดได้ทันที ตั๋วพร้อมที่พักมี บอกเช้าเย็นบิน
ทำงานหาเงินทุกวันเพราะรักเมียอยากให้เมียสุขสบาย ขอแค่เมียบอกผัวคนนี้จะรีบหามาถวาย รักเมียที่ชื่อว่าวีที่สุดในโลกครับ” ท่อนสุดท้ายหนึ่งตะโกนสุดเสียงบอกคนข้างในให้รับรู้
“.!!???” คนฟังมองหน้ากันสลับไปมา นี่มันใช่คาถาที่เคยได้ยินไหม หรือมันด้นสดเองเนี่ย
ฮิ้ว... ปี๊ดปิ้ว.. อ้าย...เสียงร้องแซว เป่าปากของคนในขบวนขันหมาก น้องชายอยู่ใกล้สุดตบหลังพี่ชายในความมั่นหน้า คนพูดยืดอกอย่างภาคภูมิใจ ญาติฝั่งเจ้าบ่าวตัวน้อยไม่เคยเจอความหน้าหนาแบบไม่อายใครกับการอวยคนรักของหนึ่งถึงกับหน้าแดงอายแทน
“คนเก่งครับ หนึ่งผ่านได้ยัง อยากเจอใจจะขาดแล้วเนี่ย” หนึ่งส่งสายตาน่าสงสารให้แก่น้องชายสุดที่รัก ย้ายไปส่งสายตาให้แก่พี่สาวของแฟนตัวเองอีกคน “พี่วาครับ...”
น้องชายแบมือรับซองค่าผ่านประตู ปลดที่กั้นออก ต่อไปประตูสุดท้ายของสองชายหนุ่ม
“คิวกับเจโอมีบททดสอบอะไรว่ามาเลยครับ พี่พร้อมทำตาม” หนึ่งรู้จักกับสองหนุ่มบ้าง แต่ยังไม่รู้จักกันแบบสนิทเท่าที่ควร
สองหนุ่มหรี่ตามองอย่างรู้ใจกัน “พี่หนึ่งช่วยบอกส่วนไหนของน้องวีเซ็กซี่ที่สุดครับ และส่วนไหนบนร่างกายโดนใจที่สุด” คิวยิ้มกะลิ้มกระเหลี่ย
หนึ่งยกคิ้วให้เพื่อนของคนรักเขา “ส่วนที่เซ็กซี่สุดของน้องวีคือความน่ารักครับ ส่วนที่พี่โดนใจที่สุดคือ...ทุกส่วนครับ วีคือคนที่พี่รัก ไม่ว่าตรงไหนหรือส่วนไหนถูกใจและเซ็กซี่ไปหมดครับ ตั้งแต่หัวจรดเท้าดีไปทุกส่วนครับ แก้มขาวอันหน้าหอม ริมฝีปากบาง ๆ อันน่าจูบ...”
“ครับพี่ ซองครับ พวกผมยอมแล้วครับ” เจโอเบรกพี่ชายเพื่อนก่อนจะมากกว่านี้ เขากะจะแกล้งเพื่อนตัวเล็กให้อาย แต่พี่หนึ่งเล่นอวยจนเขาและคนอื่นเอียนความหวานไปตามกัน
ขบวนขันหมากเดินทางเข้าสู่ภายในบ้าน สินสอดทองหมั้นนับพอเป็นพิธี และเข้าถึงการไปรับตัวเจ้าบ่าวน้อยของคนพี่ที่ตอนนี้ออกอาการเขินอย่างเห็นได้ชัด เพราะเจ้าคนตัวน้อยไม่ยอมลงชุดวันแต่งงานให้เขาดู เพียงแค่บอกว่าชุดคล้ายกัน
หนึ่งก้าวขึ้นไปยังชั้นบนห้องนอนของเขาที่เตรียมไว้เป็นห้องหอ ประตูบานไม้สักเปิด แสงแดดในยามเช้าส่องลอดผ่านบานหน้าต่าง สายลมพัดผ้าม่านสีขาวไปมา ห้องที่ตกแต่งด้วยพุ่มดอกไม้สีชมพู คนรักของเขานั่งรอส่งยิ้มหวานมอบแก่เขา หนึ่งก้าวเดินไปยังคนตรงหน้า คุกเข่าลงหนึ่งข้างยื่นมือไปตรงหน้า
“พี่มารับแล้วครับ”
ชายหนุ่มยืนมือวางลงทับกับมือ คนคุกเข่าโน้มตัวลงไปจูบหลังมือ ก่อนสอดประสานกัน จับจูงลงมายังทางด้านล่างมีแขกเหรื่ออยู่ครบครันจนล้นออกไปยังทางด้านนอก หนึ่งพาน้องวีมานั่งบนพื้นตรงกลางบ้าน พิธีกรนำพาเข้าสู่พิธีสวมแหวนแต่งงาน
“พี่หนึ่งสวมแหวนให้น้องลูก” มารดาของชายหนุ่มสะกิดบอกลูกชายตัวเองมัวแต่จ้องเจ้าบ่าวของตัวเองอย่างไม่วางตา และไม่ใส่ใจพิธีการอะไรเลย
เขาปล่อยมือบางมาหยิบแหวนบนพาน แหวนหมั้นสวมใส่ครั้งก่อนถอดมาร่วมพิธีในวันนี้ คราวแรกเขาจะหาแหวนใหม่มาใช้ ไม่อยากให้แหวนอันนั้นออกจากนิ้วเรียวบางของหนูวี กลับเป็นว่าน้องหนูวีขัดและบอกเขาว่าไม่อยากให้มีแหวนของเราหลายวง หนูจะใช้แหวนวงนี้ไปจนแก่เฒ่ากับพี่หนึ่ง เขาต้องตามใจสิครับ
หนึ่งสวมแหวนให้วีด้วยมือสั่นนเบาจากความตื่นเต้นและตื้นตันใจ น้องวีก้มลงกราบบนแผ่นอก หนึ่งลูบหัวจนคนน้องผละตัวออก ขยับตัวไปหยิบแหวนวงมาบรรจงสวมใส่ให้คนพี่เช่นกัน
“กราบเลย กราบเลย กราบเลย กราบเลย” เสียงเชียร์จากน้องตัวแสบทั้งหลาย เสียงเชียร์เริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ และไม่มีทีท่าจะหยุดลง หนึ่งตวัดสายตาไปยังกลุ่มน้องตัวเอง ค่อยดันตัวเองขยับออก และก้มลงกราบบนตักน้องวีของเขา
“พี่หนึ่ง...” เจ้าตัวน้อยก้มลงไปรับและรีบดันตัวคนพี่ขึ้นมา
“แม่ง! คนจริงโว้ย!!!” ทูน้องชายคนรองตะโกนยกนิ้วยอมรับในความเคารพเมียของพี่ชายเขา “รักเมียหลงเมีย สุด ๆ เลยนะมึง...”
หลังจากนั้นพิธีการเริ่มพาเจ้าสู่พิธีในขั้นต่อไป หนึ่งลุกขึ้นประคองเจ้าบ่าวตัวน้อยของเขาไปยังโต๊ะส่วนที่เตรียมไว้ผูกข้อไม้ข้อมือตามพิธีทางเหนือ พิธีกรเชิญผู้ใหญ่เริ่มจากเจ้าสัวชัชอาวุโสสุด ตามมาด้วยพ่อและแม่ของทั้งสองฝ่าย
“ปู่ขอให้หลานทั้งสองรักกันให้มาก ดูแลกันให้สมกับที่ได้มีกันและกัน เจ้าหนึ่ง! ขอน้องจากพ่อกับแม่เขามาแล้วต้องรับผิดชอบน้องไปตลอดชีวิตนะ และปู่ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนโลกใบนี้คุ้มครองความรักของหลานทั้งสองตลอดไป”
“ขอบคุณครับปู่ น้องคือชีวิตผมตลอดไปครับ”
“ขอบคุณครับปู่” และทั้งสองยกมือไหว้รับคำอวยพร
“พ่อคงไม่มีอะไรจะสอนเราสองคน ขอให้รักกันนานลูก ดูแลกันและกันตลอดไป”
“แม่ก็เหมือนกัน พอเห็นเราสองคนรักกัน แม่ก็อดปลื้มใจไม่ได้ รักและทะนุถนอมกันและกันนะลูก แม่ฝากน้องด้วยนะพี่หนึ่ง”
“ครับแม่ ขอบคุณที่ยอมยกน้องให้ผมดูแล”
“...” สองเจ้าบ่าวยกมือไหว้น้อมรับคำอวยพร
“หนึ่งจำไว้นะลูกกว่าจะได้น้องมา พี่หนึ่งต้องพยายามแค่ไหน ดูแลให้สมกับความรักที่น้องให้มา หนูวีพ่อฝากดูแลพี่หนึ่งด้วยนะลูก พ่อไม่รับคืนแล้วนะ” พ่อของชายหนุ่มโบกมือไล่ยกให้ เจ้าตัวน้อยอมยิ้มหัวเราะเล็กน้อย
มารดาของหนึ่งยกมือวางบนหัวลูกชายทั้งสอง มองทั้งสองด้วยน้ำตาคลอด้วยความดีใจ เธอไม่คิดว่าจะมีวันนี้วันที่ลูกชายของเธอจะแต่งงาน “แม่ดีใจ ในที่สุดพี่หนึ่งก็มีคนรักและคนที่รักพี่หนึ่ง รักกันให้เหมือนวันแรกเริ่มรักกัน ที่เหลือแม่ไม่ห่วง เพราะเมื่อเชื่อมั่นในความรักของเราทั้งสอง”
พิธีสำคัญเสร็จสิ้นลง พิธีกรเชิญทั้งสองมาตรงกลางบ้านเพื่อสัมภาษณ์เพิ่มสีสันในงานแต่งครั้งนี้
“พิธีการเสร็จสิ้นหมดแล้วครับ ผมขอสัมภาษณ์เส้นทางรักของเจ้าบ่าวทั้งคู่ ก่อนจะให้ทุกคนสนุกสนานกันต่อไปนะครับ เอาเจ้าบ่าวคนนี้ก่อนแล้วกันครับ” พิธีกรยื่นไมค์ให้วี
“ครับ คือสำหรับวีแล้ว ไม่รู้ว่าวีรักพี่หนึ่งตอนไหน รับรู้แค่ในทุก ๆ วันจะมีผู้ชายคนนี้มาวนเวียนรอบตัว คอยดูแลและเอาใจใส่ตลอดเวลา พี่หนึ่งไม่เคยล่วงเกินวีให้เกียรติเสมอ พี่หนึ่งยื่นมือมาช่วยเหลือในเวลาที่วีลำบาก จนวันหนึ่งเราจูบกัน ถึงรู้ว่าหัวใจดวงนี้ไม่ใช่ของวีแล้ว วีรักผู้ชายคนนี้อย่างสุดหัวใจ” เจ้าตัวน้อยประสานสายตากับคนรักของเขาระหว่างบอกกล่าวความในใจ
มีเสียงตะโกนแซวจากน้องชายทั้งหลาย “มันร้าย” “แผนมันทั้งนั้น” “มันไม่ใช่คนดีขนาดนั้น”
ร่างบางเม้มปาก สนิทหลุบหลบสายตาลงด้วยความเขิน ย้ายสายตาไปมองเพื่อนสนิททุกคนยกยิ้มให้แก่เขา ค่อยหันกลับมามองผู้เป็นสามี ยกมือเช็ดน้ำตา หนึ่งโผกอดคนรักของเขา ซบหน้าลงบ่าร้องไห้สะอื้น เจ้าตัวน้อยได้แต่ยิ้มยกมือขึ้นมาลูบหัวปลอบ
“เชี่ย!!! พี่กูร้องไห้ด้วยโว้ย!!!” เสียงตะโกนจากนานะน้องสาวคนเล็กของบ้าน น้องคนอื่นเป่าปากพร้อมกับหัวเราะด้วยความสะใจ และเรื่องนี้ต้องถูกขายไปอีกนานสำหรับคนอย่างพวกเขา ที่รักพี่ชายอย่างสุดชีวิต (กัดฟัน)
หนึ่งสงบสติอารมณ์หยุดร้องไห้ เขาไม่เคยคิดว่าแค่คำพูดของเจ้าตัวน้อยประกาศออกไปกับคนอื่นมันอุ่นวาบภายในอก จนกลั้นน้ำตาไม่ไหว วีช่วยซับน้ำตาให้คนพี่ก่อนออกกล้อง
“ความรักของผมกับน้องเริ่มต้นมาจากผู้ชายที่อยู่ตรงนั้นครับ น้องชายสุดที่รักของผม” หนึ่งผายมือไปยังบุคคลที่เขากล่าวถึง “วันที่ผมต้องไปเจอไนน์ก็ได้พบกับผู้ชายตัวเล็ก ผิวขาว แก้มแดงเพราะแดด เดินตามหลังมา จนมาหยุดตรงหน้า ใบหน้าอันแสนหวานและน่ารักในคราวเดียวกัน มันหยุดสายตาผมไม่ให้มองไปไหนได้เลย และหลังจากวันนั้นใบหน้าอันนี้จะลอยวนเวียนในหัวผมตลอดเวลา ทุกครั้งภาพน้องวีมาปรากฏตรงหน้า ใจผมเต้นอย่างแรงจนมันแทบทะลุอก นั่นทำให้ผมมั่นใจว่ารักแรกพบในชีวิต การเฝ้าใฝ่ฝันอยากมีคนนี้ในชีวิตผมเริ่มต้นขึ้น ผมทำทุกวิถีทางให้พาตัวเองไปอยู่ใกล้น้องให้มากที่สุด ทุ่มเททุกอย่างที่ผู้ชายคนนึงจะทำได้ วีคือความรักของผมอยากทะนุถนอมและใช้ชีวิตทั้งชีวิตเพื่อรอคอยสิ่งนั้น จนวันที่น้องยอมมอบหัวใจให้ผม นั้นคือวันที่ผมยอมศิโรราบแก่คนคนนี้ พี่หนึ่งรักน้องวีสุดหัวใจค่ะ”
ทั้งสองหันมาจุมพิตหอมหวานความรักและอันลึกซึ้งให้แก่กันและกัน หนึ่งก้มลงแนบหน้าผากกับศรีภรรยาของเขา
“รักนะคะน้องวีของพี่หนึ่งตลอดไป”
“รักเหมือนกันครับ วีจะเป็นน้องวีของพี่หนึ่งตลอดไปเช่นกัน”
จบบริบูรณ์
แนบท้าย
“พี่หนึ่งขา วันนี้เข้าห้องหอ พี่หนึ่งไม่ทำเหรอคะ” เสียงหวานจากคนตัวเล็กถามคนพี่จับเขาใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย
“หนูเหนื่อยมาทั้งวันแล้วนะคะ ต้องตื่นมาแต่งหน้า แต่งตัวตั้งแต่เช้า นอนพักก่อนนะคะ”
“แต่...”
ร่างสูงก้มลงเลียปากเจ้าตัวเล็กที่ยังเจื้อยแจ้วช่วยคนใจบาปอย่างเขาไม่หยุด “หนูต้องพักเอาแรงก่อนนะคะ” ลิ้นลากลงไปเสียหู ขบกัดหยอกติ่งหู ตามด้วยเสียงกระซิบ “พี่ไม่อยากหยุดทำเพราะหนูหลับ รอหนูตื่นมาก่อนค่ะ พี่จะพาหนูทัวร์รอบบ้าน ทุกที่ทุกท่า เอาให้เสียงครางดังลั่นไร่ดาหลาไปเลยค่ะ”
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ถึงรี๊ดที่น่ารักทุกท่าน ขอบคุณที่ติดตามอ่าน #เขตพื้นที่รัก มาจนจบนะคะ เรื่องนี้ใช้เวลาเขียนนานมากสำหรับไรท์เพราะอยากเขียนให้ออกมาดูหวานละมุน หลังจบแล้วจะทำการรีไรท์และปรับสำนวนที่อ่านแล้วติดขัดรวมถึงคำผิดต่างๆนานา ที่พยายามหาจนตาแตกก็ยังหลุดมา ต้องขอโทษด้วยนะคะ เราขอสัญญาว่าจะกลับไปปรับปรุงและพัฒนาการเขียนให้ดีขึ้นในเรื่องต่อไป ช่วยอยู่ให้กำลังใจกันด้วยนะคะ เราจะเป็นนักเขียนที่ดีขึ้นให้ได้ค่ะ ทักทายติชมที่ทวีตเตอร์ได้ตลอดเลยนะคะ
พบกันอีกทีในตอนพิเศษ และจะหนีไปพักสักระยะหนึ่ง อาจจะกลับมาพร้อมนิยายเรื่องใหม่ ยังไงฝากติดตามเราด้วยนะ และขอบคุณ คุณรี๊ดที่มอบสติกเกอร์เป็นกำลังใจแก่เราอย่างมาก ใจฟูมากนะคะ แบบว่าตื้นตันสุด ๆ ขอกราบขอบคุณมาก ๆ สำหรับนักเขียนอย่างเรา
T.mines
TW @TYokmanee