7 ตอน สาวคนนั้น?
โดย ลิลิธ
แสนดีไม่คิดว่าตัวเองจะอยู่ในชุดที่แพงขนาดนี้มาก่อน...
เขามองตัวเองที่อยู่ในกระจกในชุดสูทสีน้ำฟ้าครามทั้งตัวและราคาก็ใช่เล่นเสียที่ไหน แต่ที่แน่ ๆ ไม่ใช่เงินของแสนดีที่จะสามารถซื้อแบบไม่ต้องเช่าหรือต่อให่เช่าเขาก็ไม่มีเงินอยู่ดีนั่นแหละ
“ถ้าจะไป ผมอยากให้คุณแสนดีไปแบบดูดีที่สุดครับ”
อนาธิปบอกกับแสนดีแบบนั้น
แล้วหลังจากนั้น อนาธิปพาเขาไปซื้อสูทที่ช๊อปร้านค้าแบรนด์ที่ดีที่สุดในห้าง อันที่จริงเขาอยากเตรียมไปเองเสียมากกว่า เพราะพวกสูทที่เคยซื้อเอาไว้ มันราคาไม่แพงและเขาเอาไว้ใช้ไปพบปะลูกค้าหรือไปงานสังสรรค์ก็ยังพอมีอยู่ เป็นชุดสีดำและเป็นชุดที่เขาเอาไว้สมัครงานด้วย ถึงราคาจะไม่แรงและคุณภาพอาจไม่ดีมากแต่ก็ยังพอใช้แก้ขัดไปก่อนได้นะ แต่ก็เข้าใจได้เพราะงานคนใหญ่คนโต เราจะใส่ชุดธรรมดาได้ยังไง มันต้องจัดหนักจัดเต็มสิ แล้วยังไปในฐานะคนคุยหรือคนรักของอนาธิปด้วย จะให้เล่นน้อยก็ไม่ใช่เรื่องด้วย
แต่ทว่าปัญหาของแสนดีจริง ๆ ไม่ได้อยู่ตรงเรื่องราคาหรือสูทที่เขามีอยู่ ปัญหาจริง ๆ ของเขาคือตัวเองต้องจ่ายสูทสีฟ้าครามเนื้อผ้าดีแสนแพงนั้นหรือเปล่า
“ไม่ต้องห่วงนะครับ เรื่องค่าใช้จ่ายผมจัดการให้ทั้งหมด ไม่ต้องห่วงเลย”
“แล้วถ้าจบงาน...คุณธิปอยากได้เสื้อคืนไหมครับ”
“ไม่เลยครับ ผมให้เลย ถือว่าเป็นค่าที่มาช่วยผมงานนี้ก็แล้วกัน”
ไม่มีอะไรดีไปกว่าของฟรีอีกแล้ว!
อย่างน้อยไปพบลูกค้าที่เป็นทางการไม่ต้องใส่แต่ตัวเดิม ๆ ยังมีแบรนด์หรูดีเอาไว้พอดูมีฐานะ แม้ชีวิตจริงเงินในบัญชีไม่เหลือก็ตาม
หลังจากเช็ดสภาพตัวเอง ทั้งการแต่งตัว ใบหน้า ทรงผม และกลิ่นปากเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องเอาไอ้เจ้าสุดหล่อตัวแสบไปส่งให้กับฟ้า รุ่นน้องที่บริษัทช่วยเลี้ยงช่วยดูไปก่อน เจ้าเด็กน้อยจอมแสบถ้าหากไม่กำลังถูกคุมความประพฤติเขาอาจจะให้อิสระ แต่เจ้าตัวป่วนนี้ต้องใครสักคนช่วยคุมสักหน่อย...โทษของการทำให้พี่ชายคนนี้เดือดร้อนจนวายป่วง!
“พี่แสนดีจะไปไหน”
“พี่จะไปข้างนอกสักหน่อย เดี๋ยวพี่พาแกไปอยู่กับพี่ฟ้าก่อน แล้วค่อยไป”
“ผมอยู่คนเดียวได้”
“ไม่ได้ แกโดนคุมความประพฤติ ต้องมีคนดู พี่ดูแล้ว ถ้าหากกลับไม่ดึกมากพี่จะไปรับแก โอเคไหม”
“ก็ได้...”
สุดหล่อพูดเสียงหม่นหมอง แม้อยากจะดื้อแต่ก็ต้องจำยอมน้ำเสียงเด็ดขาดนั้นที่จะเดินตามพี่ชายของตัวเองออกไป
แสนดีพาน้องชายของตัวเองนั่งรถโดยสารที่ใช้แอพฯ ในมือถือจองเอาไว้ ดีที่บ้านของฟ้าอยู่ไม่ได้ไกลมากนักเท่าไหร่ ใช้เวลาไม่สามสิบนาทีก็ถึง แสนดีลงมารอที่หน้าบ้านสองชั้นหลังสีขาว ก่อนนิ้วเรียวยาวจะกดกริ่งที่ประตูรั้ว เรียกคนในบ้านออกมาให้มารับผู้เป็นน้องชายของเขาเข้าไปอยู่ด้วยชั่วคราว ใช้เวลาไม่นานนัก ฟ้าก็รีบตรงดิ่งออกมาจากหน้าประตูบ้านเพื่อรีบมาเปิดประตูรั้ว
“ไงสุดหล่อ มาอยู่กับพี่มา เร็ว”
“อย่าดื้อกับพี่ฟ้า เข้าใจไหมครับ”
แสนดีส่งตัวสุดหล่อให้กับฟ้าให้ดูแลช่วงที่ตัวของเขาไม่อยู่
“ฟ้า ถ้าหากพี่กลับช้ากว่าสี่ทุ่ม รีบให้น้องเขานอนเลยนะ”
“ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ หนูจะดูแลน้องพี่เป็นอย่างดี”
“ขอบคุณนะ เดี๋ยวถ้ามีโอกาสพี่จะเลี้ยงข้าวเธอนะ”
หลังจากพูดคุยกันเสร็จ แสนดีก็รีบตรงกลับไปที่รถโดยสาร มองดูเวลาที่หน้าจอมือถือก็พบว่า เป็นช่วงเวลาสองทุ่มเสียแล้ว แสนดีคำนวณเอาไว้แล้ว งานเริ่มที่ช่วงเวลาสองทุ่มครึ่ง เขายังพอมีเวลาและอาจจะยังพอไปงานทันเวลาอยู่ เขาขึ้นรถโดยสารสีเหลือง แล้วบอกให้โชเฟอร์รีบขับไปทันที ขณะที่รถยังคงแล่นอยู่บนท้องถนนไปได้ไม่ไกลนัก เสียงเรียกเข้าของมือถือแสนดีก็ดังขึ้นมา โชว์เบอร์ของคนที่แสนดีจะต้องควงแขนร่วมงานด้วย
คุณอนาธิป เจ้าหนี้
แสนดีกดรับสายทันที
“ครับ คุณธิป”
“คุณแสนดี ถึงไหนแล้วครับ”
“อ๋อ กำลังนั่งรถโดยสารไป น่าจะถึงทันเวลางานนะครับ”
“ครับ ผมก็ใกล้ถึงแล้ว ถ้าถึงรีบโทรฯมาเลยนะครับ ผมคิดถึงแฟนของผม”
“ครับ...”
และไม่พ้นการหยอดมุกใส่เช่นเคย เป็นอะไรมากหรือเปล่าผู้ชายคนนี้ ชอบแหย่อยู่นั้น เดี๋ยวเอาคืนหรอก!
แสนดีลงจากรถโดยสารที่นั่งมา เมื่อมาถึงโรวแรมตามนัดหมายเอาไว้แล้ว เข้าดูเวลาในโทรศัพท์แล้วพบว่ามาทันงานพอดิบพอดี เขารีบก้าวย่างเดินลงจกรถ แล้วมองหาไปทั่วบริเวณ ที่จัดงานเหมือนจะจัดในโรงแรมตามที่อนาธิปบอก แถมยังเป็นโรงแรมที่ราคาแพงที่มนุษย์เงินเดือนอย่างแสนดีไม่อาจเอื้อมเข้าถึงได้ ได้แต่อิจฉาเล็กน้อย ถ้าหากเขามีเงินบ้าง เขาจะเหมาโรงแรมเอาไว้ให้ตัวเองและครอบครัวพักกันแค่สามคนแม่ลูกเลย
ส่วนพ่อของแสนดี เสียไปตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ ไม่มีโอกาสได้เจอเพราะดันเกิดอุบัติเหตุกับท่านเสียก่อน
แสนดีใช้สายตามองหาไปทั่ว แล้วก็เจออนาธิปที่ยืนรอเขาอยู่ที่หน้างาน เขารีบเดินไปหาผู้เป็นแฟนกำมะลอทันที จนกระทั่งเดินเข้ามาใกล้แล้วเห็นความหล่อของผู้เป็นแฟนกำมะลออย่างชัด ๆ ทรงผมปาดไปด้านซ้ายกับชุดสูทสีดำดูดีเข้ากับใบหน้าเหลือเกิน แสนดีเห็นแล้วอดยิ้มไม่ได้...ไม่ว่ามองมุมไหนก็หล่อไปหมดจริง ๆ หัวใจของแสนดีเต้นไม่เป็นจังหวะจนเขาต้องเอามือกุมที่หน้าอกเอาไว้ อนาธิปที่เห็นทำท่าแปลก ๆ ด้วยความเป็นห่วงกลัวจะเป็นอะไรเลยเข้ามาดู
“คุณแสนดี เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
“แพ้คนหล่อ...” แสนดีไม่ได้พูดออกไปได้แต่พูดอีกประโยค “พอดีเมารถนิดหน่อยน่ะครับ”
“ครับ...อืม หรือว่าเห็นความหล่อผม แล้วใจเต้นไม่เป็นจังหวะครับ หืม”
แสนดีเกลียดนัก คนรู้ทันกับรอยยิ้มบาดจนใจเจ็บนั่น
“เอ่อ เปล่าครับ ผมว่ารีบเข้างานกันดีกว่า เดี๋ยวงานเริ่มแล้ว เราเข้าไปไม่ทันงาน”
แสนดีเปลี่ยนเรื่องก่อนจะผายมือให้อนาธิปเป็นคนเดินนำไปก่อน อนาธิปเดินนำแสนดีไปจนถึงเข้างานมา แสนดีมองไปรอบ ๆ งาน เป็นครั้งแรกที่เขาเข้างานสังคมที่มีผู้คนมากหน้าหลายตาขนาดนี้ แอบตื่นเต้นที่ตัวเองไม่ใช่ผู้จัดงาน แต่ดันเป็นแขกเสียเองแต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้มาคนเดียว...อย่างน้อยก็มากับคุณอนาธิป เขายังพอหายกังวลใจ ที่นี่มีแต่นักธุรกิจมากหน้าหลายตา เจ้าเก่าเจ้าใหม่ปะปนกันไป...ในงานแสนดีแทบไม่รู้ใครเลยและคงไม่มีใครรู้จักเขาด้วย ส่วนมากมีแต่คนเข้าไปทักอนาธิป ขณะที่เขารับไหว้แล้วพูดคุยแสนดีได้แต่ยืนอยู่ด้านหลังของเขา เพราะไม่รู้จักใครแสนดีก็เลยรู้สึกเกร็ง
“แล้วนี้ พาใครมาด้วยล่ะ”
หลังจากมีการทักแสนดีที่ยืนอยู่ด้านหลัง อนาธิปก็ทำรูปปากกระซิบให้แสนดีเดินขึ้นมายืนเคียงข้าง แสนดียิ้มรับ แล้วเดินขึ้นมาเคียงข้างด้วยสีหน้าอึดอัดเล็กน้อย แต่จู่ ๆ อนาธิปก็ควงแขนแสนดีเอาไว้ แล้วพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มออกมา
“แฟนของผมครับ เขาชื่อ แสนดี ทำความรู้จักกับเขาสิครับ”
“สวัสดีครับ...”
“ครับ สวัสดี”
แสนดีไหว้ตามมารยาทไป ผู้ชายอีกคนที่เขาเองก็ไม่รู้จักก็รับไหว้ไปอย่างนั้น แต่ดูสายตาที่แสนจะงงเหมือนจะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นแสนดีด้วยและผู้ชายคนนี้น่าจะรู้ด้วยว่าเมื่อก่อนอนาธิปคุยแต่กับผู้หญิงส่วนมาก แค่มองตาก็รู้แล้วว่าเขาคิดยังไง คำนั้นคงใช่ได้กับแสนดี...สายตาเหยียดเพศขนาดที่พูดออกมาได้คงพูดออกมาแล้ว...นั้นทำให้แสนดีอึดอัดกว่าเดิมเสียอีก
ทำไมต้องมาเจอคนแก่โรคจิตหัวโบราณด้วยก็ไม่รู้!
จนกระทั่งไม่กี่นาทีต่อมา ดูเหมือนว่างานแฟชั่นโชว์เดินแบบกำลังจะเริ่มแล้ว ผู้คนต่างพุ่งความสนใจไปที่เวทีโชว์ ได้ยินมาว่าสไตล์ลิสต์ก็คืออลิซ่า เป็นนางแบบที่มีความสามารถจนแสนดีชื่นชมจริง ๆ และธีมของงานก็ดูเหมือนจะเป็นแนวธรรมชาติป่าต่าง ๆ เพราะแสนดีเห็นนางแบบคนแรกเดินออกมาด้วยท่าทีมั่นใจและสไตล์ของชุดก็มีเครื่องประดับสร้อยเพชรที่เหมือนมีใบไม้พันรอบและชุดบาง ๆ ที่ตกแต่งและประดับด้วยดอกไม้หลากสีสันสวยงาม สวมเสื้อผ้าบางสีเขียวธรรมชาติ...ดูดีกันจริง ๆ เลย
ผู้คนต่างตบมือให้กับนางแบบคนแรก...และคนต่อไป นางแบบที่ถูกให้ออกมาโชว์มีทั้งหมดเก้าคนและราชินีของงานก็ปรากฏตัวเป็นฟินาเล่คนสุดท้ายก็เฉิดฉายออกมา และไม่ต้องเดาว่าใคร อลิซ่าเจิดจรัสมาพร้อมกับสายตาคมเข้มและรอยยิ้มแสนที่งดงามประดับเอาไว้ที่ใบหน้าสวย เธอย่างเท้าออกมาพร้อมกับร้องเท้าแก้วและชุดราตรีอันงดงามปักดอกไม้สีสันเข้ากับชุดราตรีและมงกุฎที่มีเพชรประดับเอาไว้บนศีรษะ เสียงเชียร์และร้องตะโกนให้กับราชินีของงานดังลั่นไปทั่ว...แสนดีเองก็เช่นกัน เขาตบมือและชื่นชมให้กับความสวยของอลิซ่าเช่นเดียกัน
แต่ทว่าแสนดีกลับรู้สึกว่ามีใคแอบมองอยู่ ก็เห็นอนาธิปที่มองเขาพร้อมกับตบมืออยู่เช่นเดียวกัน
“คุณอนาธิปครับ ทำไมมองมาที่ผมแล้วตบมือล่ะ เวทีอยู่ทางด้านนู้นนะ หันไปดูสิครับ
________________________________________________________________________________________________
ขอขอบคุณรีดเดอร์ที่น่ารักจริง ๆ เลยนะครับ ผมอ่านคอมเมนต์ของคุณรีดเอร์แล้งใจฟู นุบนิบ ผมรู้สึกดีใจมากที่คุณรีดเอร์ต่างใจดีกับผมแบบนี้ สัญญาเอาไว้เลยครับว่าจะแต่งจนจบ แน่นอน เรื่องนี้ผมแต่งดองเก็บดเอาไว้พักหนึ่งแล้วค่อยเริ่มปล่อยกันมาทีละนิด แล้วตอนนี้ก็แต่งใกล้ถึงความจริงแล้ว!
เรื่องนี้เป็นเรื่อวสั้น อาจไม่ยาวมากเท่าไหร่นะครับ น่าจะไม่ถึงยี่สิบตอน
อย่าลืมติดแท็ก #บุพเพร้ายหมายรัก
ชื่อของตอนนี้สปอยด์ตอนหน้าฮะ
Comments (0)