9 ตอน การเดินทาง...กับหนุ่มหล่อ
โดย ลิลิธ
แสนดียอมรับ...เขาไม่กล้าที่จะออกจากคอนโดตัวเองไปเจอสังคมข้างนอกพักใหญ่
เพราะความกร่างของตัวเองในงานเดินแบบวันนั้น...ก็กลัวว่าตัวเองจะโดนให้ใครจ้างมารุมทำร้ายหรือเปล่า ความจริงก็แอบกลัวอยู่แหละ เพราะหลังจากกลับมาที่ห้องคอนโดของเมื่อคืนนั้นแล้ว แล้วเสิร์ชหาข้อมูลของผู้หญิงทื่อ เวเนส ก็พบแต่ข่าวเสียหายที่เกี่ยวกับการตบตีแย่งผู้ชายทั้งนั้น... แต่ทว่าคนเราก็ต้องทำงาน ต้องกินต้องใช้เหมือนกับคนอื่น ๆ แสนดีก็เลยต้องลากตัวเองเข้ามาทำงานที่บริษัทจนได้หลังจากได้ลาหยุดทำงาน Work from Home ไปหลายวัน
“เป็นไงบ้างพี่ ดีขึ้นไหม เห็นหายไปหลายวัน”
ฟ้าถามไถ่รุ่นพี่หลังจากลาป่วยหลายวัน เอาจริงเหตุที่แสนดีแจ้งใบลาแล้วทำงาน Work from Home หลายวัน เพราะเขามีอาการป่วยจริง ๆ นั่นแหละ มีไข้นิด ๆ และมีใบรับรองแพทย์ด้วย ไม่อย่างนั้นลาไม่ได้หรอก
“ก็ดีขึ้นแล้ว...ฟ้าล่ะเป็นไงบ้าง เอ่อ พี่ลืมขอบคุณเลยที่มาส่งไอ้แสนหล่อวันนั้น”
ฟ้าเข้ามาส่งแสนหล่อในช่วงเช้าของวันแต่เพราะมีธุระต่อ เธอเลยต้องรีบออกไปเสียก่อน แสนดีที่ว่าจะชวนทานข้าวด้วยก็ไม่ทันเสียแล้ว
“ไม่เป็นไรพี่ เรื่องแค่นี้...แต่ว่าเสาร์นนี้พี่เตรียมตัวยัง”
“เสาร์นี้? ทำไมเหรอ เตรียมตัวอะไร”
“ก็เสาร์นี้...พี่ลืมได้ยังไง ก็เสาร์เนี่ย พี่ยอนจุนจะมาประเทศไทยครั้งแรกเลยนะ แค่คิดก็รู้สึกตื่นเต้นใจจะขาดแล้ว โอ๊ย พี่ก็ฝากฉันซื้อบัตรมาแล้ว”
แสนดีลืมไปเสียสนิท...วันเสาร์ที่จะมาถึงนี่ เป็นงานแฟนมีตติ้งของยอนจุนนักแสดงจากประเทศเกาหลี แสนดีชื่นชอบรอมานานกว่าจะมาจัดงานครั้งแรกที่มาจัดที่ไทยและวันที่จำหน่ายบัตร แสนดีก็ขอให้ตัวแม่อย่างการกดจองบัตรอย่างฟ้าช่วย...และก็ได้มาจริง ๆ แต่พอแสนดีเจอมรสุมของการโดนฟ้องก็ทำให้กินข้าวไม่ลง นอนไม่หลับ ลืมไปเสียสนิทเลยว่าตัวเองจองบัตรดาราที่ชื่นชอบเพื่อไปชมความหล่อของเขาเอาไว้...แสนดีรีบเช็กตารางของตัวเองเพราะดูเหมือนว่าวันหยุดสองวันนี่เขาจะมีนัดกับผู้ชายอีกคนเสียแล้ว
แสนดีต้องรีบเตรียมตัววันศุกร์นี้และวันเสาร์ก็ต้องออกเดินทางไปต่างจังหวัดอีกด้วย
“ขอโทษนะฟ้า พี่ว่าเสาร์นี้พี่ไม่ว่างแล้ว คงไปด้วยไม่ได้”
“อ้าว ก็นัดกันแล้ว พี่จะเทนัดเหรอ...แล้ววันเสาร์พี่นัดใครหรือว่าใครเป็นอะไรหรือเปล่า”
“ก็ไม่มีอะไรมาก...ก็เสาร์นี้พี่ต้องไปค่ายปฏิบัติธรรมที่ต่างจังหวัด”
ฟ้าถึงกับต้องเอามือทาบหน้าอก...ไม่คิดไม่ฝันว่าประโยคนั้นจะหลุดออกมาจากปากของรุ่นพี่ที่ทำงาน
“พี่ทิ้งพี่ยอนจุนไปค่ายปฏิบัติธรรมเนี่ยนะ”
“พี่ก็ไม่ได้อยากทิ้งหรอกแต่ว่ามันต้องทำน่ะ มันเป็นอนาคตของพี่เลยนะ”
แสนดีจับบ่าของรุ่นน้องเอาไว้...พร้อมกับน้ำตาที่ไหลอยู่ข้างในสรวงอก เผื่อเธอจะเข้าใจ ฟ้าถึงกับไหว้อนุโมทนาบุญ เพราะคิดอนาคตของรุ่นพี่ที่ทำงานคงไม่พ้นการหลุดพ้นจากทางโลกเป็นแน่ คงละทิ้งกิเลสเหมือนละทิ้งผู้ชายหล่อที่มาไทยวันเสาร์นี้เป็นแน่แต่ฟ้าจะหารู้ไม่ว่า...ที่ไปปฏิบัติธรรมที่ค่ายธรรมะก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ชายหล่อ ๆ เช่นเดียวกัน!
จนเวลาที่ต้องเตรียมตัวเพื่อเดินทางไปต่างจังหวัด การเข้าค่ายธรรมะครั้งนี้เป็นครั้งแรกและแสนดีก็จำเป็นต้องหารีเสิร์ชข้อมูลจากชาวพุทธแท้อย่างแม่ของตัวเอง แสนดีโทรฯถามแม่ของตัวเองเพื่อหาถามสิ่งที่จะต้องเตรียมไป...ส่วนมากก็ไม่มีอะไรมากนักนอกจากต้องเตรียมชุดขาวกางเกงขาวเป็นสิ่งหลัก ๆ และเตรียมข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นอย่างอื่นพวกยาสระผม สระบู่ หนังสือธรรมะที่วัดน่าจะเตรียมให้แล้วแต่มีพกไปเผื่อไว้จะดีมาก เป็นต้น...และวันนี้เป็นวันศุกร์ที่ต้องเตรียมตัวเขาต้องออกเดินทางวันพรุ่งนี้วันเสาร์และคนที่จะมารับก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คนนั้นก็คือคุณเจ้าหนี้...อนาธิปนั่นเอง
และถึงวันเสาร์ ช่วงเวลาที่ต้องออกก็คือ ช่วงเช้า ๆ เวลาเก้าโมงแต่ก่อนหน้านั้นก็ต้องไปฝากน้องชายสุดที่รักของตัวเองไว้ที่รุ่นน้องที่ทำงานเสียก่อนและใช่...คนที่ไปงานแฟนมีตติ้งแทนแสนดีก็คือแสนหล่อ น้องชายสุดแสบ คงเพราะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด แสนดีก็เลยให้น้องเขาเสียสละไปแทนเขาเลย...แสนดีล่ะอยากสลับร่างกับผู้เป็นน้องชายเสียจริง อยากให้ผู้เป็นน้องได้ชดใช้และเรียนรู้กับสิ่งที่ต้องทำลงไปเสียบ้าง จะได้รู้ว่าการต้องมาตามใช้หนี้ต้อย ๆ แบบนี้มันช่างเหนื่อยมากแค่ไหน
“วันนี้แต่งตัวดูดีนะครับ”
อนาธิปที่จอดรถยนต์คันหรูอยู่หน้าคอนโด พอเห็นคนที่ตัวเองรอมาในสภาพนุ่งขาว ห่มขาวก็อดทักไม่ได้
“ครับ...”
แสนดียิ้มแห้ง ๆ ไม่ค่อยมั่นใจกับตัวเองและดูอีกฝ่ายแอบหัวเราะ ดูก็รู้ว่ากลั้นขำสภาพของเขาที่จริงจังขนาดนี้เสียมากกว่า
จริงจังแค่ไหน ถามใจเธอดู
“ขึ้นรถกันดีกว่าครับ เดี๋ยวถ้าเราออกตอนนี้ น่าจะถึงวัดประมาณช่วงบ่ายจนเกือบเย็นเลย”
ทั้งสองเตรียมตัวกันขึ้นรถกัน ขณะที่แสนดีกำลังคาดเข็มคัด ก็ถามสิ่งที่ตัวเองสงสัยขึ้นมาทันที
“คุณธิป แล้วทำไมเราไม่พักโรงแรมกันครับ...คือ ผมคิดว่าถ้าหากเราพักโรงแรมกันมันน่าจะสะดวกกว่าการพักในวัดน่ะครับ แล้วครั้งนี้เราก็แค่ร่วมด้วยช่วยกันสมทบทุนช่วยวัดกันแค่นี้เอง เราไม่ต้องจริงจังกันขนาดนั้นที่ว่าต้องปฏิบัติธรรมกันจริง ๆ ก็ได้นะครับ”
นอกจากจะมีการปฏิบัติธรรมเพื่อช่วยสงบจิตแล้ว ยังมีการทอดผ้าป่าสมทบทุนช่วยเหลือวัด และแสนดีก็ได้ยินข่าวมาว่าตระกูลของอนาธิปสมทบทุนช่วยวัดในครั้งนี้ เยอะมากเลยทีเดียว
“ผมก็อยากจะพักโรงแรมกันนะ ถ้าไม่ติดว่า วัดมันเป็นวัดป่า แล้วมันห่างไกลจากพวกโรงแรมอะไรพวกนี้มาก เราก็เลยต้องจำใจพักกันที่วัดนั่นแหละครับ ไม่ต้องห่วง ผมจะไม่ให้มีอันตรายเกิดขึ้นกับคุณโดยเด็ดขาดแล้ว”
“แล้วมันจะมีผีหรือเปล่าครับ เป็นวัดป่าด้วย"
สายตาหวาดระแวงของแสนดี เผลอทำให้คนที่แอบสังเกตเผลอหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู
“ไม่รู้สิครับ...อาจจะมี ผีผ้าห่ม”
“อย่าพูดให้กลัวสิครับ!”
แสนดีเคยดูและเคยฟังพอดแคสต์เกี่ยวกับเรื่องผีวัดป่า ใคร ๆ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันเฮี้ยนจะตายไป แต่ทว่าผีผ้าห่มที่อนาธิปหมายถึงมันคนละความหมายกับสิ่งที่แสนดีคิดน่ะสิ
แสนดีเข้าใจได้ทันที ความยากลำบากของการเดินทาง...
ทั้งสองกว่าจะเข้าตัวของจังหวัดก็หลายชั่วโมงจนถึงช่วงบ่ายสองกว่า ๆ และด้วยความที่เป็นวัดป่า การขับรถยนต์เข้าผ่านภูเขาก็ไม่ง่ายเลยสักนิด ทั้งต้องผ่านภูเขาลาดชันและพื้นดินที่แสนทุรกันดารเกินกว่าจะมาขับมา และแสนดีก็รู้สึกดีที่อย่างน้อยอนาธิปนำรถที่มาขับเป็นรถกระบะราคาหลายล้าน เหมาะกับการลุยเป็นที่สุด...แต่ทว่าสิ่งที่เป็นปัญหาจริง ๆ ก็คือสิ่งที่มันจะเกิดต่อจากนี้ต่างหาก
“ทางลำบากมากเลยนะครับ คุณธิป”
“ครับ...ผมก็พึ่งรู้ว่ามันต้องลำบากขนาดนี้”
“คุณอนาธิป ไม่เคยมาก่อนเหรอครับ”
“ครับ...ก็ไม่เชิงหรอก ผมเคยมาเมื่อหลายปีก่อน ไม่คิดเลยว่าเส้นทางจะเละขนาดนี้และไม่แน่ใจด้วยต้องผ่านมาทางนี้หรือเปล่า ตอนที่ผมมาครั้งล่าสุด ก็มีผู้ใหญ่ที่พอจะจำทางมาด้วย แล้วเขาไม่ว่างมาด้วย ผมก็เลยต้องขับมาเอง”
อนาธิปหยิบแผนที่ที่ของผู้เป็นญาติห่าง ๆ ของตัวเองขึ้นมาดูความถูกต้องว่าตัวเองมาถูกที่หรือเปล่า...แต่ยิ่งดูเหมือนยิ่งจะสับสนมากกว่าเดิมเสียอีก ดูจากทิศทางแล้วมีแววที่จะหลงมาแต่ไกล!
แสนดีถึงกับเบิกตาโพลง เขาไม่คิดเลยว่าเหตุการณ์มันจะเป็นแบบนี้...นี่ตัวเขาจะไม่ต้องกลายเป็นผีหลงทางเฝ้าหรอกหรือเนี่ย
“มีชาวบ้านด้วย เดี๋ยวเราลองไปถามเขากันดูไหมครับ”
ขณะที่กำลังสิ้นหวัง แสนดีก็เหลือบสายตามองไปเห็นชาวบ้านที่ขี่จักรยานผ่านมาพอดี ผู้หญิงใส่ชุดที่เหมือนชุดทำไร่ทำนาแล้วสวมหมวกเอาไว้ แสนดีรีบเปิดประตูรถแล้วเดินออกมาโบกมือ เพื่อเรียกให้ชาวบ้านที่พึ่งขี่จักรยานมาได้จอดรอให้เขาได้ถามทางเสียก่อน ชาวบ้านที่เหมือนจะเป็นผู้หญิงวัยกลางคน ผิวคล้ำ เมื่อเห็นคนแปลกหน้าที่พึ่งลงจากรถโบกมือให้เธอหยุด...ก็จอดเบรกจักรยานเอาไว้เสียก่อน แต่ก็ยังมีท่าทีระแวง คนจากไหนก็ไม่รู้ หล่อนไม่ค่อยไว้ใจ
“เอ่อ พี่ครับ คือพอดีผมจะมาถามไปวัดน่ะครับ วัดที่ชื่อวัดป่าศาลาธรรมรัตน์น่ะครับ มันต้องไปทางไหน”
“วัดป่า...อ้อ ต้องไปทางเส้นทางนี้เลยจ้ะ ขับไปตามทางเลย เดี๋ยวมันจะมีทางแยก ก็ให้เลี้ยวขวา ก็จะเจอแล้ว วัดอยู่หลืบหน่อยนะ หายากหน่อย...นี้จะมาปฏิบัติธรรมกันใช่ไหม”
“ก็ เอ่อ ประมาณครับ พอดีจะมาทำบุญช่วยอุดหนุนวัดด้วยน่ะครับ”
“ไม่แน่ใจว่าพวกคุณตัดสินใจถูกหรือเปล่านะ...”
“ตัดสินใจถูก...” แสนดีนึกถึงเรื่องผีเป็นอันดับแรก เมื่อได้ยินคำพูดตัดสินใจถูกหรือเปล่า เขานึกถึงเรื่องหล่อนที่มักฟังตอนกลางคืนก่อนนอนเกี่ยวกับผีวัดป่า น่ากลัวจนนอนไม่หลับยันเช้า ได้แต่ถามกลับเสียงสั่น ๆ “มันคือเรื่องอะไรเหรอครับ”
“ไม่มีอะไรหรอก ก็ปฏิบัติธรรม นอกจากชาวบ้านที่เขาไปปฏิบัติกันอยู่แล้ว ปีนี้ไม่ค่อยมีคนในเมืองเข้ามากันเลย อาจจะไม่ค่อยคึกคักกันเท่าไหร่นะ”
“อ้อ...ครับ ขอบคุณครับ”
แสนดีโล่งใจที่ว่าเรื่องไม่ได้เกี่ยวกับกุ๊กกู๊หรือผีสางอะไรหรอกนะ
แต่ถ้าหากว่า...คนในเมืองไม่ค่อยเข้ามา ความคิดบางอย่างก็ผุดเข้ามาในหัวของแสนดีทันที
แล้วคนที่ชื่อการินอะไรนั่นจะมากันหรือเปล่านะ
________________________________________________________________________________________________
อย่าลืมเล่นแท็ก #บุพเพร้ายหมายรัก เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์ด้วยนะครับ
Comments (0)