15 ตอน ที่เดียวกัน
โดย ลิลิธ
อนาธิป...รู้สึกไม่ค่อยชอบใจที่จะอยู่ที่นี่มากนัก
ไม่รู้ด้วยเหตุอะไร เขาถึงต้องมาที่รีสอร์ตของเพื่อนคุณย่า และใช่...มันเกี่ยวกับการหาคู่ของวงตระกูลแน่นอน ไม่นานมานี่ เขาได้รับข้อความจากคุณย่าส่งมา ให้มาที่รีสอร์ตจังหวัดพัทยา เป็นงานเลี้ยงฉลองครบรอบเกือบสิบสี่ปีของรีสอร์ตที่เป็นที่นิยมอันดับต้น ๆ เชิญแขกระดับผู้ที่มีหน้าตาทางสังคม นักการเมือง และดาราเซเลบมากมาย คราแรกคุณหญิงสุริวงศ์จะมาด้วยตัวของท่านเอง แต่ดูเหมือนว่าเพราะคุณหญิงต้องไปดูงานที่ต่างประเทศ อนาธิปที่ดูเหมือนเป็นหน้าตาลูกหลานฝั่งตระกูลปภามหัทธนโชติต้องมาแทน
“มาแทนย่าหน่อย ย่าไม่ค่อยว่างเท่าไหร่ แกมาแทนน่ะดีที่สุด”
อุตส่าห์มีเวลาดี ๆ กับหนูแสนดีแล้วแท้ ๆ
รีสอร์ตอยู่ใกล้กับทะเล เป็นเหมือนโรงแรมพรี่เมี่ยมระดับดีเยี่ยม อนาธิปเองก็เคยได้ยินชื่อเสียงมานาน แต่ก็ไม่เคยเข้ามาเที่ยวที่นี่สักครั้ง ถ้าหากเขาได้มากับหนูแสนดีละก็ มันคงจะดีถ้าหากได้ใช้เวลาร่วมกัน ยามพระอาทิตย์อัสดงลาลับขอบฟ้า แล้วมีเราสองคนนั่งอยู่บนชายหาด มองภาพตรงหน้า คงจะเป็นความทรงจำที่ตราตรึงไม่น้อย
แต่ติดตรงที่ว่าภารกิจครั้งนี้แสนดีดันไม่ได้มาด้วยน่ะสิ!
น่าเสียดายเหลือเกิน
เหตุเพราะแสนดีติดประชุมสัมมนาที่ต่างจังหวัดที่ภาคเหนือและมันดันตรงกับวันนี้พอดีเหมือนล็อกเป้าเอาไว้ แค่เขาอยู่ที่นี่ ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็คงกลับ ไม่อยากใช้เวลาที่นี่นานมากนัก เขาขับรถใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะถึงและก็เป็นเวลาช่วงเย็นพอดี ผู้คนที่ถูกเชิญต่างเข้างานกันหลายคนแล้ว...และแขกที่ไม่อยากมาอย่างอนาธิปก็มาถึงแล้วเช่น
“อ้าว พ่อหนุ่มอนาธิปมาแล้ว”
คุณหญิงสมัยที่ต้อนรับอยู่หน้างานก็มาเดินมาต้อนรับคนของตระกูลปภามหัทธนโชติ อนาธิปยิ้มแล้วไหว้ตามมารยาทเมื่อเห็นคุณผู้หญิงของงานทักทาย
“สวัสดีครับคุณหญิงสมัย”
“คุณหญิงอะไรกัน เรียกป้าหรือไม่ก็แม่ดีกว่านะพ่อหนุ่มอนาธิป”
“ครับ...คุณป้า”
“เดินทางมาเหนื่อย ๆ เดี๋ยวเข้าไปในงานก่อนนะพ่อหนุ่ม ป้าเตรียมของดี ๆ ให้พ่ออนาธิปแล้ว นู้น การิน ลูกของป้ามาแล้ว เดี๋ยวถ้ามีอะไรก็ให้หนูการินของป้าจัดการให้นะจ๊ะ”
คุณหญิงสมัยเดินเข้าไปหาลูกสาวของตนที่กำลังคุยกับแขกอยู่ แล้วเรียกให้การินเดินเข้าไปหาแขกกิติมาศักดิ์ของงานนี่ ตระกูลปภามหัทธนโชติ โชติถือว่าเป็นตระกูลที่ช่วยเหลือของเจนกิจโสภณเป็นอย่างมาก คุณโชคชัยพ่อของการิน ผู้เป็นสามีของคุณหญิงสมัย หลังจากเสียชีวิตไป คุณหญิงก็เดินหน้ากิจการต่อจากผู้เป็นสามี ซึ่งแต่ก่อนเมื่อเกือบสิบกว่าปีก่อน คุณหญิงสุริวงศ์ของตระกูลปภามหัทธนโชติเคยยื่นมือเข้ามาช่วยโชคชัยในการผ่านวิกฤติที่เกือบทำกิจการล้มละลายให้ก้าวข้ามมาเป็นรีสอร์ตที่ติดลมบนยอมนิยมมาหลายปี
“นี่ เข้าไปคุยกับเขาหน่อย พี่ธิปอุตส่าห์มา”
คุณหญิงสมัยเข้าไปกระซิบข้างหูลูกสาวที่กำลังคุยงานกับชาวต่างชาติ
“เดี๋ยวก่อนสิแม่ คุยงานอยู่ ไม่เห็นเหรอ”
“เข้าไปคุย จะให้เขารอนานหรือยังไง”
“แม่ รอก็รอไปสิ คุยงานอยู่”
“ไปเดี๋ยวนี้ แม่จัดการต่อเอง”
เธอพูดตัดรำคาญ การินเลยไปตามคำสั่งของมารดา แม้ไม่ได้เต็มใจก็ตาม
“ก็ได้ ๆ รำคาญ!”
“ว่าแม่เหรอ! นังลูกคนนี้”
ก่อนที่จะโดนแม่เขกกะบาลต่อหน้าแขก การินรีบเดินออกมาทันที สอดส่องสายตาที่แขกกิติมาศักดิ์ที่ผู้เป็นแม่อยากจะได้มาเป็นลูกเขยนักหนา แล้วเจอกับอนาธิปที่กำลังสอดส่องสายตาบางอย่างที่อยู่ด้านนอกของงานก่อนจะออกไป เธอก็รีบเดินออกไปทักทายชายหนุ่มคนนั้นทันที
“พี่...ธิป”
เธอเรียกชื่อของชายหนุ่มคนนั้น อนาธิปที่ได้ยินชื่อตัวเองก็ไปหันไปตามเสียงเรียกนั้น พบเห็นผู้หญิงร่างเล็กที่ยืนด้วยรอยยิ้ม
“เอ่อ สวัสดีครับ”
“พี่ธิป จำการินได้ไหม เด็ก...คนที่เคยไปบ้านพี่แต่ก่อนน่ะ”
อนาธิปย้อนความทรงจำสมัยเด็ก ครั้งที่ตัวเองยังเป็นเพียงเด็กห้าขวบ เขาจำได้ว่าเคยเล่นเป็นเพื่อนกับน้องผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ขี้มูกคนหนึ่ง เด็กผู้หญิงถักเปียที่มักร้องไห้เมื่อเขาแกล้ง ตอนนั้นน่าจะเป็นช่วงที่แม่ของเขาป่วยระยะหนึ่ง แล้วคุณหญิงสมัยเข้ามาเยี่ยมบ่อย ๆ แล้วเอาลูกหรือการินเข้ามาเล่นกับเขาด้วย แล้วพอแม่ของอนาธิปหายดีจากอาการป่วย เด็กสาวขี้มูกก็ไม่ค่อยได้มาที่บ้านของเขาเลย ก่อนที่เติบโตมา...เอาจริงเขาแทบจะลืมเรื่องราวนั้นแล้วด้วยซ้ำ
“อ้าว การิน...จำได้แล้ว เด็กน้อยขี้มูกโป่ง”
“นี้ ไม่ขี้โป่งแล้วนะ เฮ้อ พี่ยังฉันชอบแกล้งฉันตลอดเลยนะ”
“ใช่ ตอนนี้การินแตกต่างแต่ก่อนมากเลย ดูดีขึ้นมากเลยนะ”
“พี่ก็หล่อขี้น...ได้ข่าวว่า พี่มีแฟนแล้วนี่ ไหนแฟน ไม่พามาด้วยเหรอ”
“เขาไม่ค่อยว่างน่ะ ติดธุระ”
“อ้อ ถ้าอย่างนั้นพี่อยากได้อะไรก็บอกบริกรเลยนะ เดี๋ยวฉันขอไปคุยงานกับลูกค้าต่อก่อน ตามสบายเลย”
“อืม”
“ย้ายสถานที่? ไปไหน”
แสนดีเอ่ยถามรุ่นน้องด้วยความสงสัย...ประชุมสัมมนาที่เชียงใหม่ถูกย้ายมาที่รีสอร์ตของจังหวัดภูเก็ตแบบกะทันหัน แสนดีรู้สึกว่าหัวของตัวร้อนจนแทบจะไหม้ การเตรียมตัวที่จะไปรับความหนาวที่เชียงใหม่ถูกขยับย้ายมาภูเก็ตแล้วดันเป็นวันเดียวกันกับอนาธิปจะมาภูเก็ตอีกด้วย รถตู้ที่จะต้องมารับก็ต้องยกเลิกไป แถมจ่ายค่าเสียเวลาให้ด้วย...ด้วยการชดใช้ของลูกค้าที่เห็นใจพนักงานของบริษัทที่ตัวเองจ้าง ก็เลยส่งรถตู้จากรีสอร์ตให้เข้ามรับโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายสักบาท แถมยังจองห้องพักให้คนละห้องอีกด้วย
แสนดีคิดว่ามันก็ยังดีที่เขาพยายามทำเพื่อชดใช้แต่ถ้าหากเขารู้ก่อน เขาคงมากับผู้เป็นขึ้นแฟนอย่างเป็นทางการไม่ใช่แค่แฟนกำมะลอหรอก
พวกเขาเดินทางจากบริษัทในช่วงเช้าค่ำของวัน แล้วมาถึงในช่วงบ่ายแดดจ้า ใช่เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะจบวาระการประชุมอย่างเป็นทางการซึ่งเป็นช่วงเย็นของวัน อย่างน้อยทั้งแสนดีและทีมงานของบริษัทก็ยังคงไม่รีบร้อนที่จะกลับเพราะมาภูเก็ตทั้งทีแล้ว ได้พักรีสอร์ตแล้วตื่นเช้ามาก็เล่นน้ำทะเลให้ชุ่มหัวใจก่อนจะกลับไปลุยงานที่กรุงเทพฯ ต่อ โดยที่แทบไม่เสียค่าใช้จ่ายเลยสักนิด...จะเสียก็แค่ของกินจิปาถะกับของฝากเท่านั้น
“เราพักกันอยู่ชั้นไหนนะ”
แสนดีถามฟ้าที่เดินมาหลังจบการประชุมเสร็จ รู้สึกเหน็ดเหนื่อยกว่าจะจบงานได้ แต่ก็ผ่านมันมาจนได้ ได้ไปอาบน้ำชำระล้างความเหนื่อยมันก็คงจะดี
“เหมือนจะชั้นGน่ะ ดูตรงบัตรสิพี่ แต่เดี๋ยว...ดูตรงห้องโถงนั่นสิ เหมือนมีงานเลี้ยงอะไรเลย”
“ใช่...”
ฟ้าที่เห็นพนักงานของโรงแรมมาพอดี เธอเลยเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ตรงห้องนี้มีงานอะไรเหรอ”
“อ้อ ตรงนี้เป็นงานฉลองครบรอบสิบสี่ปีของโรงแรมค่ะ ต้องเป็นคนที่ถูกเชิญเท่านั้นถึงจะเข้าได้ค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
จู่ ๆ แสนดีก็นึกขึ้นได้พอดี งานเลี้ยงฉลอง...หรือว่าจะเป็นรีสอร์ตตรงเดียวกันที่อนาธิปจะมากัน ด้วยความสงสัย ถ้าหากมองจากหน้างานใกล้ ๆ น่าจะพอมองเห็นอีกฝ่ายหรือว่าเขาอาจต้องโทร. ดูก่อน แสนดีรีบหยิบมือถือออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วรีบกดเบอร์โทร. คนที่ตัวเองคิดว่าน่าจะอยู่ในงาน ใช้เวลาไม่นานนัก คนที่คิดถึงแสนดีเช่นเดียวกันก็รับสาย
“ครับหนูแสนดี”
“พี่ธิป อยู่ไหนครับ”
“ยังอยู่ในงานเลี้ยงอยู่เลย เป็นยังไงบ้าง วันนี้เหนื่อยไหมครับ”
“ก็...ยังเหนื่อยนิดหน่อยครับ พึ่งเสร็จเลย เอ่อ พอดีผมมีเรื่องที่อยากจะถามนิดหน่อยน่ะ พอดีว่า ผมบอกพี่ธิปว่าผมจะไปประชุมที่เชียงใหม่ ตอนนี้ย้ายมาแล้วนะ”
“ย้าย? ไปไหนเหรอครับ”
“มาที่ภูเก็ต ตอนนี้อยู่ที่รีสอร์ต ผมคิดว่าน่าจะเป็นที่เดียวกับพี่ ลองเดินออกมาดูสิครับ”
________________________________________________________________________________________________
Comments (0)