17 ตอน คำสัญญาที่ไม่สัญญา
โดย ลิลิธ
...มันจะเป็นการเปิดตัวผู้เป็นแฟนครั้งแรกของแสนดีและเขาคิดว่าแม่คงด่าอะไรหรอกที่วันหยุดยาวทั้งทีตัวเองพาแฟนมาเปิดตัวด้วย
คิดอย่างนั้นนะ
“แล้ว แม่หนูแสนดีเป็นคนยังไงคะ?”
อนาธิปถามขณะมือยังคงควบคุมพวงมาลัยโดยที่มีคนนำทางคือแสนดีที่นั่งข้างกัน
“ก็เป็นคนใจดีนะ ส่วนมากก็เป็นคนพุทธแท้สายปฏิบัติเลยแหละ ไปวัดทุกวันพระ ตอนเข้าพรรษาก็ไปจำศีลตลอดเลย แต่บางทีก็โหดโดยเฉพาะกับเจ้าแสนหล่อ รายนั้นตัวแสบใช่ย่อยเลย”
อนาธิปและแสนดีได้เดินทางกลับมาที่บ้านเกิดของแสนดีที่เพชรบูรณ์ เพราะหลังจากที่ตัดสินใจกึ่งคะยั้นคะยอของอนาธิปที่อยากจะมาเจอแม่ของแสนที่บ้าน...แม่ศรีสวย แม่ศรีสวยเป็นแม่ของแสนดีแฟนของเขาและแสนหล่อ...เด็กเก้าขวบที่ด่าว่าที่ของพี่เขยตัวเอง หมู่บ้านที่อาศัยอยู่เป็นหมู่บ้านที่ใกล้ตีนเขา เป็นหมู่บ้านที่ห่างไกลความเจริญสุด ๆ แม้ร้านสะดวกซื้อแทบจะไม่มีให้เห็น ถึงแม้ความเจริญจะเริ่มเข้ามามีบทบาทในชุมชนนิดหน่อยแล้ว
ทำอะไรให้มันคุ้มกับภาษีหน่อยสิโว้ย
“อีกหน่อยก็ถึงแล้ว”
อนาธิปขับรถยนต์เข้าหมู่บ้านตามทางลาดยาว มองบริเวณรอบ ๆ บ้านเกิดของแฟนตัวเอง มีทั้งป่าไม้ ผืนนาเขียวขจี บรรยากาศดูปลอดโปร่ง จนกระทั่งแสนดีชี้ไปที่รั้วบ้านไม้หลังหนึ่ง อนาธิปมองตามแล้วเห็นบ้านไม้หลังสีเขียวสองชั้น หลังคาสังกะสีที่ขึ้นสนิม ก่อนที่รถยนต์คันหรูจะเข้าไปจอดข้างในรั้วไม้นั้น ไม่นานนัก ทั้งสองคนก็ลงจากรถยนต์ แล้วมีหญิงวัยเกือบห้าสิบเดินมาต้อนรับ
“เป็นยังไงบ้างลูก เดินทางกันเหนื่อยไหม”
ขณะที่แม่ศรีสวยเดินเข้ามาอยู่นั้น มองเห็นชายแปลกหน้าเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มหล่อเหลา หัวใจของศรีสวยก็ใจเต้น แทนที่จะไปต้อนรับลูกชายตัวจริงกลับหันหน้าไปต้อนรับยิ้มแย้มกับลูกเขยเสียอย่างนั้น
“เป็นยังไงบ้างลูก แฟนของหนูแสนดีเหรอ หล่อนะเนี่ย”
“ครับ เดินทางมาเหนื่อยมากครับ”
“โอ๊ย เดินทางมาเหนื่อยมากเลยเหรอ เข้ามา ๆ ก่อน กินน้ำกินท่า”
แสนดีรู้สึกงอนอีกรอบ ที่คนเป็นแม่ไม่แม้แต่เข้ามาคุยกับลูกที่ไม่ได้เจอกันนาน แต่ไปคุยกับผู้ชายที่พึ่งเจอเมื่อสักครู่ แล้วยังหันหลังพาแฟนของลูกเข้าไปในบ้านโดยที่ไม่สนใจลูกตัวเองอีก อุตส่าห์คุยซะดิบดีว่าแม่ของตัวเองไม่หลงผู้ชายหล่อ...เดี๋ยวก็รู้กันหมดหรอกว่าลูกได้กรรมพันธุ์หลงคนหล่อมาจากใคร!
สุดท้ายแสนดีก็ต้องแบกของเข้ามาในบ้าน อนาธิปที่เห็นแฟนถือกระเป๋าและของฝากหนัก ก็กำลังจะเดินเข้าไปช่วยแต่ทว่าก็ถูกแม่ศรีสวยรั้งเอาไว้เสียก่อน
“แสนดีแข็งแรงจะตาย ไม่ต้องไปช่วยมันหรอก”
“แม่ ผมเป็นลูกแม่นะ”
“แม่มีลูกชายคนใหม่แล้ว!”
“นั้นเป็นคนที่จะฟ้องผมเลยนะ”
“ก็ลูกเขยแม่หล่อ”
“ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าความคลั่งผู้ชายแบบนี้มาจากใคร!”
แสนดีรู้สึกหมั่นไส้เสียจริง ส่วนคนที่เหมือนจะมาช่วยดันยิ้มกริ่มใส่เขาเสียอีก ทำเอาแสนดีหัวเสียตั้งแต่มาถึงเลย งอนตุบป่องอีกรอบแล้วเดินขึ้นบ้านอย่างอารมณ์เสีย หลังจากแสนดีหลับตาไปแล้ว ผู้เป็นแม่ยายก็ถามไถ่ทันที
“เดินทางมาตั้งหลายชั่วโมง คงเหนื่อยมากใช่ไหม เดี๋ยวแม่โทรฯ บอกไอ้แสนหล่อให้ไปซื้อน้ำแข็งใสให้ บ้านตรงข้ามบ้านแม่มันเปิดร้านขายมันแข็งใสด้วย”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เอ่อ เห็นแสนดีบอกว่าแม่ชอบทุเรียนมาก ผมเลยซื้อมาเป็นลูกให้ไม่แน่ใจว่า...”
ไม่ทันไรที่อนาธิปจะทันได้พูดจบประโยค น้ำเสียงจริงจังของคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาก็เอ่ยขึ้น
“ธิป รักลูกแม่จริงใช่ไหม”
น้ำเสียงจริงจังกับสีหน้าจริงจังทำให้อนาธิปรู้สึกได้ถึงบางอย่างจากผู้หญิงเกือบวัยห้าสิบคนนี้ คล้ายกับเห็นน้ำตาคลอเบ้าใส ๆ หลังได้ยินคำถามนั้นอนาธิปก็ตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังเช่นเดียวกัน...ว่าเขารักคนที่ชื่อแสนดีมากเหลือเกิน
“ครับ ผมรักแสนดี รักมาตั้งแต่แรกพบแล้วครับ”
แม่ศรีสวยกุมมือของอนาธิปเอาไว้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นคลอที่มาจากความรู้สึกข้างใน เธอรู้ว่าอนาธิปเป็นคนที่ฟ้องแสนดี...แต่มันก็จบลงด้วยความรักที่ทั้งลูกของเธอที่มีให้กับผู้ชายคนนี้ เธอเพียงแค่ต้องการไม่ให้ใครเข้ามาทำร้ายลูกอีก แม่ศรีสวยรู้มาตลอดว่าลูกของตัวเองต้องผ่านอะไรหลายอย่างและแสนลำบากแค่ไหนกว่าจะมีชีวิตมาถึงตรงนี้ เธออยากให้ลูกมีความสุขกับความรักที่ดี มีความสุขที่ให้ลูกของตัวเองได้ทำตามความฝันของตัวเอง
ถ้าหากความรักครั้งนี้เป็นเรื่องล้อเล่นเธอคงใจสลายเหมือนกับลูก
“ดูแลลูกของแม่ด้วยนะ ลูกของแม่เจ็บปวดจากหลายสิ่ง แม่อยากให้ลูกของแม่มีความสุขกับความรักตามที่ฝันสักที”
“ผมสัญญาจากใจจริงของผม ผมอาจสัญญาไม่ได้ว่าผมจะไม่ทำให้เขาเจ็บ แต่สิ่งเดียวที่ผมสัญญาได้และคิดว่าที่สุดคือผมจะพยายามทำความรักของเราออกมาให้มันดีที่สุด...ให้เขาได้มีความสุขมากที่สุด”
อนาธิปจะจริงจังกับความรักครั้งนี้ เขาจะพยายามให้คนที่ตัวเองรักต้องเสียใจแน่นอน
“รู้สึกคิดถึงจัง เราไม่ได้เจอกันนานแค่ไหนแล้วนะ”
แสนดีรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้กลับมานานมาก น่าจะสองปีที่แล้ว กว่าจะหาวันหยุดยาวเพื่อกลับมาหาคนที่รักได้มันช่างลำบากแค่ไหน เขายังคงจำเถียงนาที่ไร่นาของตัวเองได้ เป็นเหมือนกระต็อบเล็ก ๆ ที่มีตั่งแล้วหลังคาหุ้ม ทั้งหมดทำมาจากไม้ไผ่...เขายังจำได้ว่าเถียงนาหลังนี้อยู่ตั้งแต่เขาอายุเพียงไม่กี่ขวบ จนกระทั่งเขาอายุยี่สิบกว่าเข้าวัยทำงาน เถียงนาหลังเล็กที่มองดูไร่นาได้ทั่ว กับลมเย็นสบายที่พัดพาผ่านเข้ามาให้ชื่นปอด
เขาล้มตัวนอนกับพื้นเถียง แม่ศรีสวยของเขามักจะเข้ามาทำความสะอาดและดูแลเถียงนี้อยู่ตลอด และเถียงนาหลังนี้ก็มีหมอนอันเล็กเอาไว้หนุนหนึ่งใบ แสนดีจับหมอนวางรองศีรษะ เขานอนตะแคงแล้วสูดบรรยากาศกลิ่นอายธรรมชาติสักพัก จู่ ๆ ดวงตาเขาก็ค่อย ๆ ปิดลงด้วยความง่วง....
แต่ทว่าแสนดีก็รู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวของอะไรบางอย่างที่เข้ามาใกล้ เพราะเป็นเถียงไม้ มีอะไรขยับหรือสะเทือนนิดหน่อย คนที่อยู่บนตั่งก็รู้แล้ว
แต่มันดันขยับมาตอนที่เขาง่วงกำลังจะหลับพอดีนี่สิ
แสนดีลืมตาขึ้น...ก่อนจะเห็นใบหน้ายิ้มแย้มของใครบางคนที่นอนตะแคงหันข้างมาหาเข้า ใบหน้าแทบใกล้ชิดกัน แสนดีตกใจก็รีบลุกขึ้นทันที
“ไอ้มะยม...มาได้ไงเนี่ย”
มะยม...เด็กในหมู่บ้านที่อายุห่างกับแสนดีหลายปี เป็นเด็กในหมู่บ้านที่แสนดีเห็นมาตั้งแต่ยังเล็ก เพราะบ้านไอ้มะยมมันอยู่ถัดจากบ้านเขาไปไม่เท่าไหร่ แต่ก่อนมะยมชอบมาเล่นกับเขาอยู่ประจำตอนที่แสนดียังคงเรียนมัธยมปลายที่นี่จนกระทั่งแสนดีสอบชิงทุนแล้วย้ายจากหมู่บ้านที่เพชรบูรณ์เขาไปเรียนในตัวเมือง แสนดีก็ไม่ค่อยได้คุยหรือได้เจอกับมะยม ก็จะมีแต่ตอนที่เขากลับมาเยี่ยมบ้านช่วงปิดเทอมนั่นแหละที่ทำให้พอได้เจอกันบ้าง
หรือช่วงทำงานที่แสนดีได้เจอกับเด็กคนนี้ล่าสุดเมื่อปีก่อน
“พี่แสนดี...”
มะยมยังคงไม่หยุดยิ้มเมื่อเจอกับใบหน้าของแสนดี...พี่แสนดีที่น่ารักของเขา
“มะยม เป็นยังไงบ้าง ไม่ได้เจอกันนานเลย สบายดีไหม”
“สบายดีสิครับ พี่แสนดี ผมได้ข่าวว่าพี่กลับมา ผมก็รีบมาหาพี่เลย”
มะยมที่ได้ยินแม่ของตัวเองโทร. ไปหาเขาที่โรงเรียน ว่าแสนดีได้กลับมาที่เยี่ยมบ้านหลังไม่ได้กลับมานานในระยะสองปี หัวใจของมะยมก็เต้นตึกตัก เขาเลือกที่จะโดดเรียนในช่วงคาบบ่ายเพื่อมาหาพี่แสนดีที่น่ารักของเขาเลย
ก่อนที่จะมาเจอกับข่าวร้าย...
“อืม...”
“ผมคิดถึงพี่แสนดีมากเลยนะ”
ดูจากใบหน้ายิ้มตื่นเต้นขนาดนี้ ใครก็ดูออกทั้งนั้น
“เอ่อ ฉันรู้แล้ว แล้วนี่ใส่ชุดนักเรียนมาทำไม มีอะไรหรือเปล่า”
“ก็เลิกเรียนมา ผมก็รีบมาหาพี่เลย แม่ศรีสวยบอกว่าพี่อยู่เถียงนา”
“แล้วกี่โมงแล้ว”
แสนดีที่กำลังจะหยิบมือถือมาดูเวลาแต่คนที่ยังคงจ้องหน้าแสนดีไม่หยุดก็ชิงตอบก่อน
“บ่ายสองพี่”
“เดี๋ยวนะ โรงเรียนเลิกช่วงบ่ายสองบ่ายสามไม่ใช่เหรอ มาทำอะไรที่นี่ตอนนี้!”
ว่าแล้วแสนดีก็ฟาดไปที่ไหล่ของคนที่อายุน้อยกว่า แม้ไม่เจ็บมาก แต่คนที่โดนก็แกล้งเจ็บเพื่อให้อีกฝ่ายเห็นใจเขาบ้าง
“ก็ผมตื่นเต้นที่พี่มา ถ้าหากผมรู้มาก่อนนะว่าพี่มา บอกเลย ผมรอพี่ทั้งวันแล้ว”
“จะมารอทำไม ให้ตายเถอะ เด็กคนนี้”
และไม่ต้องทายก็ดูออกว่ามะยมนะ ชอบพี่แสนดีมากแค่ไหน
พี่แสนดีของเขาเป็นคนที่น่ารักที่สุดในหมู่บ้าน!
“ก็ผมอยากเจอพี่นิ อยากเจอมาก ๆ ด้วย แล้ว...พี่ยังจำสัญญาที่พี่สัญญากับผมได้ไหม”
พอพูดจบมะยมก็ยื่นมือตัวเองมากุมมือของแสนดีเอาไว้ แล้วทวงถึงคำสัญญาที่ตัวเองเคยฝากเอาไว้กับพี่แสนดีเมื่อสองปีก่อน แสนดีทวนคำพูดด้วยสีหน้าที่ไม่รู้เรื่อง “คำสัญญา...” ก่อนจะนั่งนึกว่าตัวเองเคยสัญญากับเด็กคนนี้ว่าอะไรตอนไหน ทำไมเขาถึงยังจำไม่ได้
“ใช่ ก็พี่เคยสัญญากับผมน่ะ พี่จำไม่ได้เหรอ”
สัญญาอะไรวะ?
“พี่เคยสัญญาอะไรไว้กับแก พี่จำไม่เห็นได้เลย”
แสนดีถามไปตามตรงก็สัญญา เพราะเขาจำคำสัญญากับเด็กคนนี้ไม่ได้จริง ๆ แต่เมื่อเห็นน้ำตาคลอเบ้าไม่รู้ว่าแกล้งทำเพื่ออ่อยหรือรู้สึกจริงกันแน่แต่มันก็ทำให้แสนดีรู้สึกไม่ดีทันที
“ก็ผมสัญญากับพี่เอาไว้ว่า...”
ย้อนกลับไปช่วงหน้านั้นเมื่อสองปีก่อน เป็นช่วงที่แสนดีได้ลิ้มลองรสเหล้าของไทยครั้งแรก แค่เพียงแก้วเหล้าแก้วเล็กครั้งเดียว ก็ทำให้พนักงานเงินเดือนน้อยอย่างเขาเป๋เมาเละเทะได้ ทั้งลุกขึ้นเต้น ทำท่าประหลาด น่าอายที่สุด ดีที่อย่างน้อยไม่มีใครถ่ายคลิปเอาไว้ แสนดีกับวงเหล้ามหาชนของหมู่บ้านก็นั่งดื่มกันสักพัก ไม่นานนัก มะยมก็เดินเข้ามาในวงเหล้าเพื่อตามแสนดีกลับบ้านไปพักผ่อนเพราะพรุ่งนี้แสนดีต้องกลับไปที่กรุงเทพฯ แล้ว ถ้าหากต้องมานั่งดื่มเหล้าอยู่แบบนี้อีก พรุ่งนี้ตื่นไม่ไหวแน่
และใช่...คนในหมู่บ้านรู้ทั้งนั้น ว่าเวลาเมาหัวราน้ำทีไร แสนดีชอบทำตัวประหลาดอยู่ตลอด
“พี่แสนดีกลับบ้าน”
“อืม...”
แสนดีโดนคนที่ตัวโตกว่าแบกขึ้นแล้วกลับบ้านเพราะดูสภาพเมาไม่รู้เรื่อง ขณะที่กำลังจะก้าวเท้าเดินกลับ มะยมก็พูดถึงสิ่งที่อยู่ในใจของตัวเองมาตลอด ก่อนที่แสนดีจะกลับไปทำงานแล้วไม่ได้เจอกันอีกนานแน่ ๆ
“พี่...”
“หืม?”
“สัญญาได้ไหม”
“อืม”
“พี่รอผมอีกสองปีนะ ผมจะมาขอพี่เป็นแฟน รอผมอีกแค่สองปี”
“อืม...”
________________________________________________________________________________________________
Comments (0)