“ก็วันนี้คุณดูดีและน่ารักมากเลย ผมก็เลยมองแต่แฟนของผม ที่เวทีตรงนั้นก็มีคนชื่นชมมากพอแล้ว ผมขอชื่นชมและขอดูคนตรงนี้แค่คนเดียวก็แล้วกันนะ”

“ปากหวานนะครับ คนเป็นแฟนคุณตัวจริงคงจะหลงคุณธิปจนโงหัวไม่ขึ้นแน่เลย”

“นั่นสิครับ ผมก็อยากให้เป็นอย่างนั้นอยู่เหมือน...หลงจนโงหัวไม่ขึ้นเนี่ย”

แม้พูดอย่างนั้น อนาธิปก็ยังไม่หยุดจ้องมองที่แสนดี

แสนดีรู้สึกว่ามันชักจะร้อนอบอ้าวที่ใบหน้าของเขาแปลก ๆ

หลังการเดินแบบแฟชั่นจบลง ผู้คนมากหน้าหลายตาที่อยู่ในงานต่างพูดคุยกันอย่างครื้นเครงกันอีกครั้ง และแสนดีก็เลือกที่จะปลีกตัวออกมาที่ห้องน้ำเพื่อตั้งสติ บรรยากาศที่ต้องคุยกับคนมากมายที่ไม่รู้จักทำให้เขารู้สึกอึดอัด อย่างน้อยการอยู่ในห้องน้ำก็ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายความรู้สึกอึดอัดลงบ้าง...สักเล็กน้อยก็ยังดีจนกระทั่งแสนดีรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในห้องน้ำนานเกินไปก็ถึงเวลาที่จะต้องเดินออกไปสักที แสนดีลุกจากโถส้วมแล้วเดินออกมาล้างมือเสร็จ เขาเดินออกมาจากหน้าทางเข้าห้องน้ำจนกระทั่งมีเสียงของใครบางคนฉุดรั้งให้แสนดีหยุดเดินเสียก่อน

“เดี๋ยวก่อน...”

น้ำเสียงเรียบนิ่ง แสนดีไม่มั่นใจว่าเรียกเขา เพราะไม่มีใครอื่นเลย ก็เลยหันกลับไปมองผู้หญิงคนที่บอกให้เขาหยุดเดิน

“ผมเหรอครับ”

แสนดีชี้ไปหาตัวเองแล้วถามออกมา ไม่มีใครนอกจากเขาจริง ๆ

“ใช่ แล้วจะใครอีกล่ะ มีกันอยู่แค่นี้”

ไม่คิดว่าจะมีตัวละครลับเพิ่มมา...เขาไม่เคยรู้จักไม่เคยเห็นผู้หญิงมาก่อนด้วย ทำไมถึงมาเรียกเขา น้ำเสียงเรียบแบบนั้นเหมือนกับรู้จักกัน เธอเป็นผู้หญิงผมดำยาวสลวย ปากสีชมพูอ่อน ใบหน้าที่ถูกแต่งเติมจนดูดี มาพร้อมกับชุดเดรสสีชมพูหวาน รองเท้าก็ถูกเลือกมาให้เข้ากับชุดและสีปาก...น่ารักอ่อนหวาน...แต่สายตาที่มองเขา ช่างไม่เข้ากับชุดที่ใส่มาเหลือเกิน

“เอ่อ...แล้วมีอะไรหรือเปล่าครับ”

“ฉันอยากจะถามนายว่า นายคบกับพี่ธิปเหรอ”

ถามด้วยน้ำเสียงที่คนโดนถามอยากน่าตอบ แถมยังมาเรียกว่าพี่ธิปอีก...ใครเหรอเนี่ย?

“ครับ ก็ใช่ ทำไมเหรอ”

“ฉันอยากจะบอกนะ ถ้าไม่อยากเจ็บ ให้เลิกกับพี่ธิปซะ พี่ธิปเขาไม่อยากได้แฟนแบบนายหรอก รสนิยมเขาไม่ใช่”

“เอ่อ นี้เรียกว่าการคิดแทนหรือเปล่าครับ”

“เขาชอบแบบที่ฉัน...ฉันกับพี่ธิปเรารักกัน และเขาก็รักคนอ่อนหวานแบบฉัน เชื่อเถอะ ว่าถ้าไม่อยากเจ็บ ให้ถอยออกไปจากเขา”

“พูดมาซะเป็นละครเลย พูดออกมาได้เนอะ เขาเรียกมั่นหน้าไม่ใช่มั่นใจครับ”

แสนดีเลือกที่จะไม่ตอบอะไรออกไป มีแต่เพียงสิ่งที่คิดอยู่ในใจ ได้แต่ยิ้มรับตอบครับเพียงคำเดียวสั้น แล้วเดินหันหลังให้ผู้หญิงที่แสนดีไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร

เสียงวี้ดร้องพยายามทำให้คนที่เดินกลับหันมาให้ฟังเธอคนนั้นพล่ามสิ่งที่อยากพูดให้จบให้จบแต่เขาก็เลือกที่จะไม่ทำตามและแสนดีก็รับรู้ได้เลยว่าตัวปัญหาไม่ได้มาเพียงแค่หนึ่ง แต่มาถึงสอง!

 

แสนดีใช้สายตาสอดส่องหาอนาธิปที่ตอนที่เขาเดินไปเข้าห้องน้ำ ก่อนที่จะไปดูเหมือนว่าอนาธิปจะคุยกับนักธุรกิจคนอื่นอยู่ และแล้วก็เจอผู้ชายคนนั้นกำลังยื่นจิบไวน์อยู่ แสนดีก็รีบจ้ำอ้าวเดินเข้าไปหาทันที เขาต้องรีบบอกเรื่องราวที่เจอเมื่อตอนที่อยู่หน้าห้องน้ำ

“คุณ ไปไหนมา ทำไมไปนานจัง”

อนาธิปทักถามที่พึ่งกลับมาจากห้องน้ำ

“ก็...ไม่มีอะไรหรอก แต่ผมมีเรื่องสำคัญที่จะบอกคุณ คุณอนาธิปแน่ใจใช่ไหม...ว่านอกจากคุณอลิซ่า ไม่มีคนคุยคนอื่นที่อยู่ในงานนี้”

“ครับ? คนคุยคนอื่นเหรอ” อนาธิปใช้สายตาสอดส่องไปทั่วบริเวณ เผื่อเจอคนคุ้นเคยที่ตัวเองเคยคุยด้วย แต่ก็ไม่เจอใครที่คิดว่าเป็นคนคุย แล้วหันกลับมาพูดกับคนที่อยู่ตรงหน้า “ก็ไม่น่ามีนะ ตามที่ผมบอก ก็ไม่น่าจะมีคนอื่นแล้ว อย่าบอกนะ ว่าคุณไปเจอใครมา บอกผมมาได้เลยนะ”

ขณะที่แสนดีกำลังจะบอกว่าเขาเจออะไร ก็โดนถูกขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงหวานของใครที่เดินเข้ามา

“คุณอนาธิป”

แสนดีมองไปทางด้านหลังของอนาธิป หญิงสาวอลิซ่าเดินมาพร้อมกับชุดฟินาเล่ที่เดินอยู่บนเวที เธอสวยสง่างามและยิ่งดูใกล้ ๆ ก็ยิ่งสวยบาดตาเหลือเกิน เธอเดินมาพร้อมกับรอยยิ้มหวานปานหยดน้ำผึ้งราวกับน้ำเสียงสักครู่

แสนดีรู้ตัวดีว่าตัวเองต้องรับศึกหนัก!

“เอ่อ ครับ สวัสดีครับคุณอลิซ่า”

“สวัสดีค่ะ ไม่ได้เจอกันนาน คุณอนาธิปสบายดีไหมคะ”

“สบายดีครับ แล้วคุณอลิซ่าก็คงสบายดีเหมือนกัน...ผมเห็นคุณอลิซ่าเดินแบบอยู่บนเวที สวยสง่า ผมเห็นแล้วชอบมาก คุณสวยมากจริง ๆ ครับ”

“ขอบคุณค่ะที่ชม เอ่อ แล้วนี่...”

“เขาชื่อแสนดีครับ เขาเป็น...” อนาธิปเว้นวรรคแล้วมองที่ใบหน้าของแฟนกำมะลอของเขา “แฟนของผมเองครับ”

“แฟนของคุณอนาธิปเหรอคะ...โอ้ ดูเป็นคู่ที่น่ารักจังเลยนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”

อลิซ่ายื่นมือมาเชคแฮนด์กับมือของแสนดี แสนดีก็รับไปตามมารยาทแต่ก็เริ่มที่จะงงงวยกับสถานการณ์ตรงหน้าเล็กน้อย...เหมือนจะไม่ใช่ผู้หญิงแรงร้ายเลยสักนิด นี่สินะ จะเชื่อใบหน้าที่ทำหยิ่ง ๆ ไม่ได้ ถ้าหากไม่ได้รู้จักตัวตนจริง ๆ ดูเหมือนจะเป็นผู้หญิงยิ้มเก่งและดูมีมิตรสัมพันธ์ที่ดีมากกว่า แสนดีก็เข้ากระซิบข้างหูกับอนาธิปแล้วพูด

“ไหนคนที่อนาธิปบอกว่าร้าย ๆ ไงครับ ผมยังไม่เห็นเลย”

“ผมก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วเหมือนกัน”

และแล้วตัวละครลับก็ปรากฏตัวขึ้นทันที

“สวัสดีค่ะ ทำอะไรกันอยู่ ไหนให้เวเนสอยู่ขอแจมด้วยคนสิคะ”

ผู้หญิงที่เจออยู่หน้าห้องน้ำ ก็เดินเข้ามาหาด้วยรอยยิ้มสวยน่ารักต่างจากที่ให้กับแสนตอนที่เจอกันครั้งแรก แสนดีถึงกับหุบยิ้มทันทีแล้วหันไปมองผู้ชายที่พาเข้ามาด้วย...ดูไม่ต่างกัน

“อ้าว ว่าไง เวเนสไปไหนมา ทำไมมาช้า รู้ไหมว่าพ่อถามหาเธอทั้งงาน ฉันโทรฯหาก็ไม่ติด”

“ก็อยู่นี่แล้วไง จะเอาอะไรนักหนา มาช้าแค่ไม่เท่าไหร่เอง”

แสนดีกระซิบถามอนาธิปที่สีหน้าไม่ดีต่างกับตัวเอง

“คุณอนาธิป นี่แหละที่ผมจะบอกคุณ เธอคือใครเหรอครับ”

อนาธิปรีบจับมือของแสนดีแล้วรีบพาเดินออกมาจากตรงนั้นแต่ก็ไม่ใกล้มากนัก แล้วตอบคำถามกับแสนดี....คำตอบเป็นสิ่งที่ตัวเองลืมคิดไปจริง ๆ ลืมไปเสียเลยว่า...เขาเคยคุยเล่น ๆ กับน้องสาวของอลิซ่าหรือจะเรียกเธอว่าเวเนส คนที่จำสลับสับผิด คนที่ร้ายแรงตัวจริงก็คือเวสต่างหาก

“ผมลืมไป...ผู้หญิงเมื่อกี้ น่าจะเป็นน้องสาว ผมเคยเจอนานแล้วและผมก็ลืมคิดไปเลยว่าตัวเองเคยเจอ ผมเคยคุยกับน้องสาวของอลิซ่า คนที่ร้าย ๆ ไม่น่าใช่อลิซ่า แต่น่าจะเป็นเวเนสที่ผมน่าจะเป็นคนคุยตัดสัมพันธ์เมื่อตอนนั้น”

“ตกลงคุณธิปมีคนคุยกี่คนกันแน่ครับ!”

“ผมก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วเหมือนกัน”

เวเนสเดินเข้ามาด้านหลัง...เธออยากรู้ว่าสองคนที่เดินปลีกตัวออกมาคุยอะไรกันแค่สองคน ทำไมไม่ชวนเธอเลยสักนิด

“คุยอะไรกันเหรอคะ? เวเนสอยากรู้ด้วยจังเลย”

ทั้งสองคนที่คุยกระซิบกระซาบกันอยู่ถึงกับสะดุ้ง แล้วรีบหันไปมองผู้หญิงที่มาพร้อมกับรอยยิ้มเคลือบยาพิษ อลิซ่าที่เดินตามเวเนสก็รีบเข้ามาห้ามปราบทันที เพราะเธอเองก็รู้ว่านิสัยของน้องสาวตัวเองนิสัยเสียมากแค่ไหน...และดูจากสายตาของผู้เป็นน้องเมื่อสักครู่เหมือนมีคำว่าอยากได้อะไรก็ต้องได้หลุดมาจากสายตาคู่สวยของน้องสาวตัวเอง

“เวเนส หยุดเลยนะ มานี่เลย จะไปยุ่งกับเขาทำไม”

“พี่ ไม่ต้องมาห้ามเลยนะ ไม่รู้อะไรก็อย่ามายุ่งให้มันเข้าเรื่อง” เวเนสเหมือนนางร้ายละครหลังข่าว เธอเดินเข้ามาใกล้อนาธิปแล้วยื่นมือของตัวเองจับมือของอนาธิปเอาไว้เหมือนกับความเคยชินที่สมัยก่อนเมื่อหลายปีตอนที่ยังเป็นคนคุยกันอยู่ ตั้งแต่เลิกคุยกันไป อนาธิปก็ไม่ได้ติดต่อเธอมาอีกเลย...เพราะเธอเป็นคนเลือกที่จะตัดความสัมพันธ์เพราะความน่ารำคาญที่อีกฝ่ายทำแต่งานและเล่นแต่เกมจนไม่มีเวลาให้เธอเหมือนเมื่อเริ่มคุยกันใหม่ ๆ เวเนสจึงเลือกหาคนคุยใหม่ไปเรื่อย...จนหลายปีผ่านมานี้ ในที่สุด...เวเนสก็หวนคิดถึงของเล่นของเธออีกครั้ง และเมื่อมีโอกาสได้เจอก็อย่าหวังจะคิดว่าเธอจะปล่อยมันไปอย่างง่าย ๆ

“รู้ไหมคะ ว่าตั้งแต่เราเลิกคุยกันไป เวเนสเอาแต่คิดถึงพี่ขนาดไหน...”

“ปล่อยมือพี่”

“ไม่...”

“ปล่อยมือเขานะครับ”

“คะ? เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ”

“ผมบอกว่า ให้ปล่อยมือ...จากแฟนของผมเดี๋ยวนี้”

ทำไม คุณแสนดี น่ารักขนาดนี้นะ

คนที่แกะมือไม่ใช่ใครที่ไหน...แสนดีรีบแกะมือที่เกาะผู้ชายของเขาออกทันที แล้วแสดงความเป็นเจ้าของผู้ชายนี้โดยการควงแขนต่อหน้า พลางโชว์ความหวานด้วยการหยิกแก้มทันที เมื่อโดนบังคับจ้างมาก็ต้องเล่นให้ถึงที่สุดสิ แสนดีรีบสวมบทบาทแฟนเพื่อปกป้องอนาธิปทันที

เวเนสที่เห็นก็ถึงกับตาลุกโชนเป็นไฟที่กล้ามาพูดกับหล่อนแบบนี้

“ผมว่าผมก็บอกชัดอยู่นะ อย่าบอกนะว่าหูไม่ได้ยินหรือว่าคุณประสาทกลับ”

“นี่ แกคิดว่าแกเป็นใครที่ทำแบบนี้กับฉัน”

เมื่อเริ่มมีการเสียงดัง ผู้คนก็เริ่มให้ความสนใจจากรอบทิศ อลิซ่าที่เห็นน้องตัวเองเริ่มอาละวาดก็รีบเข้าไปห้ามให้น้องสาวควบคุมอารมณ์ของตัวเองทันที

“นี่ ทำอะไร คิดอยากจะทำให้งานของพ่อพังหรือยังไง”

อลิซ่าที่พยายามดึงแขนแล้วพาน้องสาวไปหาที่สงบอารมณ์แต่เวเนสก็ดูเหมือนจะไม่ยอมลงง่าย ๆ เธอสะบัดแขนพี่สาวออก แล้วชี้หน้ามาพร้อมกับน้ำเสียงเกรี้ยวกราด

“แก แกเล่นผิดคนแล้ว...”

เวเนสมองหาสิ่ง ๆ ที่พอจะทำให้คนข้างหน้าเจอดี เธอหยิบเอาไวน์ในมือของพี่สาวตัวเอง...ในนั้นพอมีน้ำไวน์เหลืออยู่ เธอรีบสาดเข้าที่ใบหน้าของแสนดีแล้วมันยังกระจายไปโดนเสื้อสูทสีฟ้าจนเปียกชุ่มไปทั่ว อนาธิปที่เห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดีมากขึ้น สายตาทั้งหลายก็รุมจับจ้อง ตอนนี้เขาต้องปกป้องคนรักของตัวเองเสียก่อน เขารีบก้าวมายืนด้านหน้าเพื่อปกป้องแสนดี

“นี่ มันชักจะมากเกินไปแล้วนะ”

“มันชักจะมากอะไรคะ ก็มันแย่งพี่ไปจากฉัน มันทำตัวกร่างในงานของพ่อ แล้วจะให้ทำยังไง”

“มันไม่มีใครแย่งพี่ไปจากเวเนส และก็นะ...ก็ตอนนั้นเวเนสเป็นคนทิ้งพี่ไปเอง เริ่มจมปลักไปกับอดีตแล้วเดินต่อสักที เราออกจากงานกันดีกว่ากันครับที่รัก ผมว่าคุณอยู่ไปก็เสียสุขภาพจิตเปล่า ๆ และผมคิดว่าตัวเองก็คงเหมือนกัน...เสียสุขภาพจิตจากคนแบบนี้”

“ทำไมพี่ทำกับเวเนสแบบนี้ พี่เปลี่ยนไป”

“พี่ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยเวเนส พี่ยังคงเป็นพี่คนเดิมและตอนนี้เวเนสก็ควรจะให้เกียรติแฟนของพี่รวมถึงพี่ด้วย”

อนาธิปจับมือของแสนดีเอาไว้ แล้วพาเขาเดินไปจากงานที่ดูไม่น่าใช่งานเปิดตัวเดินแบบ แต่เป็นงานพาผู้คนมารุมกันแย่งผู้ชาย แสนดีที่กำลังถูกจูงมือเดินไปจากงานก็หันหลังมายิ้มเยาะให้หนึ่งครั้งแล้วโบกมือบาย ๆ เหมือนผู้ชนะเพราะรู้สึกได้ถึงความสวยของตัวเอง...และสายตาของเขาก็บ่งบอกว่า

“ผู้ชายเขาเลือกฉัน...ฉันคือผู้ชนะจ๊ะ”

“คุณต้องเดือดร้อนเพราะผมเลย ขอโทษด้วยนะครับ”

อนาธิปพูดขณะที่สองมือกำลังขับบังคับพวงมาลัย แสนดีไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะได้นั่งรถเบนซ์กับคนอื่นเขาด้วย และคนที่อาสามาส่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน อนาธิปเองนั่นแหละที่เป็นคนอาสามาส่งเขาแทนที่จะเรียกรถโดยสาร ตอนกาอนจะมาที่งานเลี้ยงก็เช่นเดียวกันแต่แสนดีเลือกที่จะปฏิเสธเพราะต้องไปส่งเจ้าตัวแสบด้วย เขาเลยไม่อยากรบกวนอีกฝ่ายให้ลำบากใจ...แค่วีรกรรมตอนที่ด่าจนตัวแสนดีโดนฟ้องผู้เป็นน้องก็แทบมองหน้าไม่ติดแล้ว

และแสนดีก็คิดว่าดีเหมือนกันที่ตอนนี้มันเลยเวลาที่จะต้องไปรับแสนหล่อ...ไม่อย่างนั้นอดได้กลับไปพร้อมผู้ชายเป็นแน่

“ไม่เป็นอะไรเลยครับ ผมก็ไม่คิดว่าจะเจอแบบนี้เหมือนกัน สงสัยต้องไปหาวิธีซักคราบไวน์แล้ว”

“ถ้าไม่รบกวน ผมจัดการให้ พอทางร้านเสร็จ แล้วเดี๋ยวผมจัดส่งให้คุณเลย คุณแสนดีจะไม่ได้ต้องเสียเวลาซักเอง"

"ไม่เป็นอะไรหรอกครับ เรื่องแค่นี้เอง ผมคิดว่าตัวเองจัดการเองดีกว่า”

หลังสิ้นบทสนทนา บรรยากาศในรถคันหรูก็เข้าสู่ความเงียบ ไม่ได้ทิ้งความอึดอัดอะไรเอาไว้ จนกระทั่งอนาธิปเห็นว่าใกล้จะถึงจุดปลายทางตึกคอนโดของคนที่นั่งอยู่ข้างตัวเองแล้ว อนาธิปก็เริ่มถามคำถามที่มันค้างคาใจมานาน

“คุณแสนดี...ที่งานเลี้ยงตอนนั้น ตอนที่เวเนสเข้ามาจับมือผม แล้วคุณก็เข้ามาแกะ...ตอนนั้น คุณหึงผมเหรอ แบบว่าหึงจริง ๆ”

แสนดีที่ได้ยินคำถามก็รู้สึกเขินขึ้นมาแปลก ๆ ยอมรับว่าที่ทำไปตอนนั้นก็ทำไปเพื่องานและอาจจะรวมถึงความหึงหวงที่กล้าเข้ามาแตะผู้ชายของตนด้วย

“ก็ใช่ครับ ผมก็ต้องทำเพื่องาน...ก็ต้องแสดงออกแบบนั้นก็ถูกแล้ว”

“น่าเสียดายจัง ผมนึกว่าคุณแสนดีคิดจริงเสียอีก ผมอยากให้เป็นแบบนั้น สายตาของคุณก็ดูคิดจริง...หรือผมอาจจะคิดไปเอง”

แสนดีก็ไม่รู้ว่าทำไมช่วงเวลาแบบนี้ต้องมาติดไฟแดง ขณะที่รถยนต์หยุดล้อหมุน อนาธิปที่นั่งฝั่งคนขับ ก็โน้มหน้าเข้าใกล้ใบหน้าของแสนดีที่ตอนนี้ทำตัวไม่ค่อยถูก เพราะสายตาเจ้าเล่ห์ที่มองมานั้น

“เพราะเวลาที่คุณแสนดีหึงผม คุณแสนดีน่ารักมาก น่ารักจนเหมือนจะขยี้ใจผมเลย”

________________________________________________________________________________________________