แสนดียอมรับว่าตัวเองไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี?

หลังจบเรื่องราวอันแสนวุ่นวายจากร้านอาหาร อนาธิปก็ขับรถกลับมาส่งคนรักที่ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ว่าจะเรียกว่ากำมะลอหรือเปล่า แสนดีลงจากรถแล้วยิ้มกล่าวขอบคุณที่อุตส่าห์ขับรถมาส่ง...อีกครั้ง

“ขอบคุณนะครับที่มาส่ง”

“เดี๋ยวก่อน...”

อนาธิปรั้งมือของแสนดีเอาไว้แต่แสนดีไม่ได้สะบัดออกแต่เพียงแค่หันหน้ากลับมามองคนที่ยังอยู่ในรถด้วยสายตาตั้งคำถามเท่านั้น

“ครับคุณธิป”

“คือ...พรุ่งนี้คุณแสนดีว่างกี่โมงเหรอครับ”

“พรุ่งนี้เหรอครับ?” แสนดีทวนคำพูดแล้วนึกขึ้นมาได้ว่าพรุ่งนี้เป็นวันหยุดก่อนจะตอบออกไป “พรุ่งนี้เป็นวันหยุด คุณธิปมีอะไรหรือเปล่า”

“ไม่ได้อะไรนะครับ แต่ผมอยากชวนคุณแสนดีไป...เดทด้วยกัน”

แสนดีค้างเล็กน้อยก่อนจะถามออกมา “ครับ?”

“ถ้าหากพรุ่งนี้คุณแสนดีว่างผมอยากให้คุณแสนดีไปเดทด้วยกัน”

แสนดีก็ยังคงค้างอยู่...ความตกใจก็ส่วนหนึ่งแต่ทว่า แม่ เขาชวนหนูเอง อยากจะกรีดร้องด้วยความดีใ แสนดียิ้มอก้มปริ สีหน้าแดงระเรื่อ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่โดนชวนไปเดท หายใจไม่ทั่วท้อง แต่ทว่าแสนดีกลับตอบปฏิเสธออกไป

“พรุ่งนี้...ผมไม่ไปครับ”

นั้นทำให้คนที่มีสายตาคาดหวังหม่นลงเล็กน้อยแล้วยิ้มมาอย่างเข้าใจแต่ทว่าในใจเหมือนรู้สึกป่นปี้เหมือนโดนย่ำยีเละเทะแต่ขณะที่มือของเขาจะดึงกลับไป มือของแสนดีก็ไหวตัวรีบฉกมือของอนาธิปทันที แล้วพูดออกมาด้วยความจริงใจ...เป็นที่สุด

“แต่พรุ่งนี้ น้องผมไม่ได้อยู่คอนโด ไปเข้าค่ายลูกเสือ...ถ้าหากคุณธิปอยากจะมาคอนโดของผม ก็มาได้เลยครับ...ผมจะทำอาหารให้คุณธิปทานด้วย มันดีกว่าใช่ไหมครับ”

ชวนผู้ชายมาบ้าน...ดีกว่าไปทำอะไรประเจิดประเจ้อ!

 

ขณะที่เป็นคนชวนผู้ชายมาที่บ้านเองแต่แสนดีกลับมานั่งเครียด...เพราะไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ตัวเองควรจะทำตัวยังไงดี พอมานั่งคิดดูอีกทีก็รู้สึกเขินอายก็ไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป ได้แต่เอาหน้าซุกหมอนแล้วร้องกรี๊ดออกมาสุดเสียง เป็นครั้งแรกที่ชวนผู้ชายมาคอนโดห้องครั้งแรก...นึกถึงมโนภาพที่ตัวเองเผลอคิดลึกเกินกับคุณอนาธิปเหมือนช่วงที่เจอกันครั้งแรกก็เผลอมีอะไรกันจนเกินเลย...

“รู้สึกหน้าร้อน ๆ”

แสนดีไม่ทำให้เวลาเสียเปล่า เขาหยิบไฟล์ที่อนาธิปส่งให้เมื่อตอนครั้งก่อน ที่จะเอาไว้ใช้เผื่อตอนที่คุณย่าถามแต่ดันไม่ถามเข้าเลยสักข้อ อนาธิปดูเหมือนจะเป็นคนกินง่าย อยู่ง่าย ของโปรดของอนาธิปก็เป็นพวกข้าวผัด กะเพรา ต้มยำกุ้ง อาหารภาคกลางเป็นส่วนใหญ่ เป็นเมนูอาหารที่ยังไม่ถึงขั้นอินเตอร์ยากเกินความสามารถของแสนดีสักเท่าไหร่ แต่เท่าที่สังเกตมา...มันไม่มีขนมของหวานหรือขนมทานเล่นในรายละเอียดข้อมูลสักนิด

“...หรือว่าเขาไม่ชอบทานของหวานกันนะ”

 

กริ๊ง ๆ

เสียงกดกริ่งดังลั่นจนทำให้คนที่นอนอยู่รู้สึกตัว แสนดีลืมตาขึ้นมาแล้วพยายามปรับโฟกัสสายตาให้คงที่แล้วดันตัวเองให้ลุกขึ้นมานั่ง เขาหาวออกมาด้วยความรู้สึกที่ตัวเองยังง่วง ๆ อยู่เหตุเป็นเพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีก็เลยเผลอนอนดึกจน เกือบเที่ยงคืน แม้ดูไม่ดึกมากแต่สำหรับคนพนักงานประจำอย่างเขาก็ถือว่าเกินกำลัง สายตาเหลือบไปมองนาฬิกาดิจิตอลที่อยู่ข้างเตียง...วันนี้เป็นวันเสาร์ เขาตั้งนาฬิกาเอาไว้เกือบเก้าโมงแล้วเวลาพึ่งจะเจ็ดกว่า ๆ เอง แสนดีพยายามลุกขึ้นยืน...เสียงกริ่งที่หน้าประตูดังขึ้น อาจจะเป็นของที่เขาสั่งเอาไว้

มาอะไรตั้งแต่เช้า เท่าที่จำได้ของก็ไม่ได้สั่ง!

“ครับ ๆ มาแล้ว”

แสนดีพูดด้วยน้ำเสียงง่วง ๆ หัวยุ่งฟู ก่อนจะเดินไปเปิดประตูหลังจากเสียงกริ่งเงียบไปสักพักแล้ว

“สวัสดีครับคุณแสนดี...”

อนาธิปยืนที่หน้าประตูด้วยรอยยิ้มทรงเสน่ห์และเสื้อยืนกางเกงยีนสบายตา ผมปาดข้าง ส่วนคนที่พึ่งตื่นก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อนจะรีบปิดประตู ไม่ทันที่อนาธิปจะได้ทันเอ่ยอะไรออกมา...ก็เพราะไม่คิดว่าจะมาเร็วขนาดนี้ แสนดีรีบจัดทรงผมให้เข้าที่ จำระเบียบความเรียบร้อยบนร่างกาย เช็กว่ามีคราบน้ำลายติดปากไหม...หลังจากเรียบร้อยไปส่วนหนึ่ง แสนดีก็รีบเปิดประตูทักทายคนตรงหน้าทันที

“คุณอนาธิป...มาเร็วจังเลยนะครับ นี่พึ่งจะเจ็ดโมงเองนะครับ”

“ผมคิดถึงคุณแสนดี...ผมก็เลยรีบมา อาจจะใจเร็วไปหน่อยแต่ผมทนไม่ไหวจริง ๆ”

หัวใจของอนาธิปเต้นจนนอนไม่หลับตั้งแต่เมื่อคืน ยิ่งนึกถึงใบหน้าของแสนดีพูดท่าทีเรียบเฉยกับคำพูดที่ชวนมาเที่ยวคอนโด ทั้งคืนนั้นยิ่งทำให้อนาธิปนอนไม่หลับเลยทั้งคืน ก่อนที่จะมาเขาพึ่งจะได้นอนไม่กี่ชั่วโมง แล้วพอตื่นก็รีบบึ่งมาที่นี่ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขากำลังตื่นเต้นอะไรอยู่...คงเพราะคิดว่าจะได้ทำเรื่องเหมือนคืนแรกที่ทั้งสองเจอกัน แค่คิดก็หุบยิ้มไม่ได้แล้ว

“ถ้าอย่างเข้ามาก่อนนะครับ”

อนาธิปเดินเข้ามาสายตาสอดส่องไปทั่วบริเวณของห้องคอนโด แสนดีเชิญให้อนาธิปเข้ามานั่งที่โต๊ะทานข้าวใกล้กับโซนห้องครัวให้ห้อง อนาธิปไม่ได้เตรียมตัวอะไรมามากนัก จนลืมทานอาหารเช้ามาด้วย...และหนีไม่พ้นการที่แสนดีรับบทเป็นพ่อครัวมื้อเช้าให้...แต่ทว่าดูเหมือนพ่อครัวเองก็ยังไม่เตรียมพร้อมเช่นเดียวกัน แสนดีสอดส่องอาหารที่อยู่ในตู้...แทบจะไม่มีของสดเหลืออยู่เลยที่เหลือก็เป็นแค่หมูสับและผักเหลือสามสี่อย่าง

น่าจะพอทำได้แค่ข้าวต้ม

หรือว่าจะต้องออกไปซื้อ

“คุณธิปครับ ทานข้าวมาหรือยังครับ”

“ยังเลย พอดีผมอาจจะเผลอรีบมานิดหน่อย เลยลืม”

แบบนี้ไม่น่าเรียกว่านิดหน่อย!

“คุณธิปหิวหรือยังครับ”

“ก็นิดหน่อยครับ” 

“ถ้าอย่างนั้น ผมทำข้าวต้มรองท้องไปก่อนแล้วกัน เพราะในตู้เย็นผมก็เหลืออยู่แค่หมูสับกับผักเหลือ ๆ”

“ทำอะไรมาก็ได้ครับ ผมทานหมด ขอแค่มาจากคุณแสนดี ให้ใส่ยาพิษ ผมก็ทานครับ” อนาธิปพูดอ่อย ๆ แล้วก็ไม่วายโดนว่าใส่

“เว่อร์ไปแล้วนะครับคุณธิป” แม้พูดแบบนั้นแต่ก็อดยิ้มไม่ได้

“จริง ๆ นะ” แสนดีเริ่มเบื่อกับพ่อยิ้มเก่งเสียแล้ว

แสนดีเลิกสนใจกับคนชอบหยอดปล่อยให้นั่งรออยู่ตรงนั้น ก่อนจะลงมือทำข้าวต้มเป็นอาหารเช้าเบา ๆ ไปก่อน ขณะที่แสนดีทำไปด้วย ขณะอนาธิปก็ชวนคุยไปเรื่อยเปื่อยแถมมีหยอดจีบพ่อครัวทำให้แสนดีพอหน้าแดงพอเป็นพิธี ใช้เวลาไม่นานนัก ข้าวต้มร้อน ๆ ของพ่อครัวคนโปรดก็ถูกเสิร์ฟลงบนโต๊ะอาหาร กลิ่นหอม ๆ อวล ๆ ลอยฟุ้ง

“แค่นี้ ก็น่ากินแล้ว”

“ทานไปก่อนนะครับ...เดี๋ยวถ้าอยากทานอะไรเป็นพิเศษ เดี๋ยวผมทำให้”

“อยากกินคุณแสนดี คุณแสนดีจะปรุงตัวเองให้ผมกินเปล่าครับ”

ข้าวต้มคำแรกที่ลงคอก็แทบจะพุ่งออกมา แสนดีสำลักข้าวออกมาด้วยความตกใจ รู้สึกแสบ ๆ เหมือนว่าจะออกทางจมูกด้วย อนาธิปที่เห็นแสนดีสำลักออกมาก็รีบยื่นแก้วน้ำของเขาให้ทันที

“ขอโทษนะครับ คุณแสนดี”

“ไม่เป็นไรครับ อึก”

แสนดีอยากบอกแม้มีน้ำตาไหลลงก็ตามที

“รู้สึกดีนะครับ ที่มีคนทำอาหารเช้าให้กินตลอดแบบนี้ทุกวัน ถ้าคุณแสนดีไปทำอาหารที่บ้านผมทุกวันแบบนี้ก็ดีเลยนะครับ ว่าไหม”

แหนะ ยังไม่หยุดหยอดอีก ไม่เข็ดที่เห็นเขาเขินแทบเป็นแทบตายหรือยังไง

 

และแผนการสยบผู้วันนี้ แสนดีได้จัดตารางเรียบร้อยเสร็จหมดแล้ว...ช่วงเช้าทานข้าวหลังจากนั้นก็ดูหนัง ช่วงเที่ยงก็ทานข้าวกันอีกรอบ แล้วก็กลับมาดูหนังช่วงบ่าย...มีแต่โปรแกรมซ้ำซากมีหวังผู้เบื่อตายพอดี แต่ถ้าชวนเขามาห้องแล้วจะให้ทำอย่างไรอีกเล่า นอกจากดูหนังหรือ...จะชวนอนาธิปทำกิจกรรมบนเตียงดีนะ

น่าตื่นเต้นดีแฮะ แต่ไม่ได้ จะรีบร้อนทำไม พึ่งจะบ่ายเอง!

อนาธิปและแสนดีนั่งอยู่บนโซฟา แสนดีใช้รีโมทเลื่อนเลือกภาพยนตร์ที่คิดเอาไว้ว่าจะดูวันนี้ ทีวีจอแบนยักษ์ที่แสนดีใช้ชิงโชคชิงมันมา เป็นของรางวัลที่ราคาแพงและแต้มบุญของเขาก็หมดลงทันที เพราะหลังจากนั้นก็โดนฟ้องจากผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างกัน

“เราดูหนังเรื่องนี้กันไหมครับ”

“แล้วแต่คุณแสนเลยครับ”

“ถ้าอย่างนั้น เราดูหนังเรื่องนี้แล้วกันเนอะ” แสนดีกดรีโมทคอนโทรลแล้วเลือกหนังที่ตัวเองอยากดู

ภาพยนตร์ที่แสนดีเลือกเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผีสางนางไม้และต้องดูช่วงเช้าเท่านั้นและถึงแม้ว่าแสนดีจะเป็นคนกลัวผีมากแค่ไหนแต่เขาก็กลับชอบดูหนังผี ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่นิสัยเสียคือชอบเก็บเอาไปหลอนตอนกลางคืนคนเดียว แถมยังเก็บแอบไปฝันเป็นฝันร้ายอีก...แต่ส่วนมากดูคนเดียวไม่ก็หาเพื่อนไปดูด้วยกันที่โรง วันนี้ก็แค่ผู้ชายมานั่งดูด้วยเฉย ๆ

“มันเป็นหนังผีไม่ใช่เหรอครับ” อนาธิปถามด้วยความสงสัย เพราะเห็นอีกฝ่ายกลัวผี “คุณแสนดีไม่ได้กลัวผีหรอกเหรอ”

“กลัวครับแต่ก็ชอบดู มันอาจจะตอบอะไรไม่ได้ แต่ผมชอบดูจริง ๆ”

“ถ้าอย่างนั้นเนี่ย” อนาธิปไม่พูดเปล่าเขาเอื้อมมือของเขาโอบไหล่ของแสนดีเอาไว้ ก่อนจะเขยิบเข้าไปใกล้จนร่างของทั้งสองใกล้ชิดกันมากขึ้น ใบหน้าที่หันเข้าหากันด้วยระยะประชิดเพียงไม่กี่คืบ ก่อนที่อนาธิปพูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่นและเบ่ง ๆ ว่า “ผมจะอยู่ปกป้องคุณแสนดีของผมเอง”

“ใครเป็นคุณแสนดีของคุณกัน อย่ามาทำเป็นจีบ คุณอนาธิปคงหว่านเสน่ห์ใส่คนอื่นไปทั่วแล้วสิ”

“น่าเศร้านะ ที่อุตส่าห์หวังดีและผมแสดงออกว่าจีบขนาดนี้ยังไม่รู้ตัวอีก เดี๋ยวพ่อก็จัดการหรอก มันเขี้ยวนัก”

อนาธิปโผเข้ากอดแสนดีเอาไว้ทั้งตัว แต่เพราะแสนดีแกล้งทำขัดขืน ก็ทำให้ทั้งสองคนเผลอล้มตัวใหญ่ ๆ ของอนาธิปก็ล้มทับตัวของแสนดี ปลายจมูกของเขาทั้งสองก็ชนกัน ดวงตาทั้งคู่ก็ประสานเชื่อมเข้ากันอย่างอัตโนมัติ แสนดีปล่อยให้อนาธิปสบตาอย่างนั้น หัวใจที่เต้นแรงมันสั่นสะเทือนไปทั่ว แสนดีเองก็สัมผัสได้ว่าของอนาธิปเองก็ใจเต้นแรงแบบเดียวกับเขาแทบไม่ต่างกันเลย รอยยิ้มผุดขึ้น มือซุกซนของอนาธิปก็เลื่อนไปใกล้กับหัวใจของแสนดีที่เต้นถี่แล้วพูดออกด้วยรอยยิ้มกวน ๆ

“หัวใจของคุณแสนดีเต้นแรงจังเลย หน้าก็แดง ๆ ด้วย ไม่ต้องห่วงนะ ผมรู้ว่าผมหล่อคุณแสนดี”

“น่าจะเป็นอาการหลงตัวเองมากกว่า ไหน หัวใจของคุณธิปก็เหมือนกัน หัวใจของคุณธิปมันเต้นแรงจนเหมือนจะเด้งออกมาเลย”

“น่ารักจังเวลาพูดเนี่ยเรา...”

ทั้งสองสบตากันได้สักพัก ก็คล้ายกับเหมือนมีแรงดึงดูดของกันและกัน อนาธิปจับโครงหน้าของแสนดีเอาไว้ด้วยสองมือ หลับตาลง ก่อนจะเคลื่อนริมฝีปากลงประทับกับปากสีชมพูอ่อนของแสนดี มือที่จับโครงหน้าเอาไว้ก็เลื่อนลงมากระชับไหล่เอาไว้แน่น ริมฝีปากบดเบียดเข้าหากันด้วยความต้องการ...แสนดีไม่แน่ใจว่านี้คือจูบแรกของตนกับอนาธิปหรือไม่

________________________________________________________________________________________________

อย่าลืมคอมเมนต์ ติดแท็กให้กำลังใจไรเตอร์ด้วยนะครับ