3 ตอน เขาคนนั้น...ที่จะฟ้องฉัน
โดย ลิลิธ
ช่วงโปรเจกต์อันแสนเหนื่อยล้าได้ผ่านพ้นไป งานใหม่ของบริษัทก็ถาโถมเข้ามาเหมือนพายุกระหน่ำ มันแทบจะฉีกร่างของแสนดีเป็นชิ้น ๆ จนเกือบจะตายตอนสุดสัปดาห์ แสนดีนั่งอยู่บนรถไฟฟ้า เหมือนตาจะปิดอยู่รอมร่อเพราะมรสุมงานอยู่เกือบครึ่งเดือน เขาล่ะอยากที่จะเอากระดาษมาติดที่เสื้อของตัวเองเองว่าต้องถึงสถานที่ไหน เผื่อเวลาเขาเผลอหลับอาจจะมีคนใจดีช่วยปลุก
เสียงของโทรศัพท์ของแสนดีดังขึ้น เขาหยิบมันขึ้นมาดูเบอร์ที่โชว์ขึ้นมาบนหน้าจอ เป็นรูปของผู้หญิงวัยกลางคน ผมหยิก ใส่เสื้อคอกระเช้าและผ้าถุงลายดอก ขึ้นชื่อบนหน้าจอว่าแม่
“ว่าไงแม่ มีอะไรหรือเปล่า รอผมกลับถึงห้องก่อนนะ เดี๋ยวค่อยโทร. กลับ...”
ขณะที่มือกำลังจะกดวาง เสียงร้องจากมือถือที่แผดออกมาจนทำให้นิ้วเรียวต้องหยุดชะงัก รวมถึงทำให้คนรอบข้างก็ตกใจเช่นเดียวกัน แสนดีต้องเอาโทรศัพท์แนบหูอีกครั้ง แล้วป้องปากพูดเสียงเบาลงกว่าเดิมเพื่อไม่ให้คนรอบข้างต้องตกใจอีกรอบ
“แม่ จะตะโกนอะไรเสียงดังหนักหนา พูดเบา ๆ ก็ได้”
“จะให้แม่เบาได้ยังไง ก็น้องแสนจะตัดสายแม่”
น้ำเสียงของผู้เป็นแม่ดูร้อนรน นั่นทำให้ใจดวงน้อย ๆ ของแสนดีรู้สึกไม่สบายใจสักเท่าไหร่
“แม่ น้ำเสียงของแม่ ดูไม่สบายใจเลยนะ แม่มีเรื่องอะไรรีบร้อนหรือเปล่า”
“ก็มีน่ะสิ ลูก ลูกไปทำอะไรใครไว้หรือเปล่า ทำไมถึงมีจดหมายส่งมาที่บ้านเราแบบนี้ล่ะลูก”
น้ำเสียงเหมือนแทบจะร้องไห้ทำให้แสนดีรู้สึกใจสั่นมากขึ้น
“จดหมาย? จดหมายอะไรเหรอแม่”
“จดหมายเรื่องการฟ้องหมิ่นประมาท มันขึ้นเป็นชื่อของน้องแสนดี ทำไมน้องแสนดีถึงทำแบบนี้ น้องไปว่าใครหรือด่าใคร ใส่ร้ายคนอื่นหรือเปล่า”
“ฟ้องหมิ่นประมาท?”
แสนดีอุทานเสียงดังออกมาด้วยความตกใจ ผู้คนให้ความสนใจเสียงนั้น เมื่อแสนดีรู้ตัวว่าตัวเองเผลอพูดเสียงดังออกมาก็รีบพูดขอโทษคนรอบข้าง แล้วรีบเดินออกไปจากตัวรถไฟฟ้าเมื่อถึงสถานีที่จะต้องลง เขารีบเดินออกมามาหารถโดยสารเพื่อตรงที่คอนโดของตัวเองจนเมื่อมีรถเข้ามาเทียบจอด แสนดีไม่รีรอที่จะรีบเดินขึ้นรถโดยสารสีเหลืองคันนั้นไปทันที
“แม่ แค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวรอแสนดีถึงคอนโดก่อน แล้วเราค่อยคุยกัน”
คำถามมากมายผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดจนทำให้สติที่เลื่อนลอยกลับมามีสติสัมปชัญญะครบถ้วนอีกครั้ง ขณะที่รถโดยสารสีเหลืองกำลังวิ่ง เขาได้แต่คิดถึงสิ่งที่อยู่ในหัวของตัวเอง แสนดีจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองไปหมิ่นประมาทหรือดูถูกใครอะไรตอนไหน จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองไปตั้งศัตรูหมายร้ายใคร เพราะมนุษย์ที่ทำงานหามรุ่งค่ำอย่างเขาจะเอาเวลาที่ไหนไปว่าร้ายหรือใส่ร้ายใคร
มันไม่มีทางอยู่แล้ว
หรือว่ามีคนกำลังใส่ร้ายเขากันแน่!
หลังจากกลับมาถึงคอนโดแล้ว แสนดีก็รีบตรงดิ่งเข้าห้องของตัวเองทันที แล้วต่อสายไปหาผู้เป็นแม่เพื่อคุยกับผู้แม่เรื่องนั้นต่อ ภายในห้องคอนโดเป็นห้องที่ไม่หรูหรามากนักด้วยราคาที่ไม่ได้สูง แต่ก็ทำให้ทั้งเขาแสนดีและแสนหล่อ ผู้เป็นน้องชายที่เขาได้รับมาเลี้ยงจากผู้เป็นแม่ เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ เป็นเด็กที่อายุกว่าแสนดีเกือบสิบปีกว่า ถึงแม้จะเป็นน้องแต่แสนหล่อก็เชื่อฟังและไม่ค่อยดื้อกับเขามากนัก ชอบติดออดอ้อนเขาเสียด้วยซ้ำ
“แม่...”
เมื่อแสนดีกำลังต่อสายถึงผู้เป็นแม่ติด สายตาของเขาก็เหลือบไปมองเห็นแสนหล่อผู้เป็นน้องชายกำลังหมกมุ่นทำอะไรสักอย่างอยู่บนโซฟา ใบหน้าดำคร่ำเครียด แสนดีจะไม่สนใจแล้วถ้าตัวเองจะไม่เหลือบไปเห็นแทบเล็ตของตัวเองที่มือของน้องชายของเขากำลังพิมพ์อะไรบางอย่าง แสนดีเหลือบไปเห็นตรงช่องข้อความที่ส่งไปแล้วแทบจะเบิกตากว้างออกมาด้วยความตกใจ
Sandee_17 : เป็นอะไรนักหนา คิดว่ากูจะกลัวมึงหรือยังไง ไปตายซะ ไอ้ควายยยยยยยยยยยยย
“เฮ้ย...เดี๋ยวก่อน”
เสียงของแสนดีทำให้คนที่กำลังพิมพ์ข้อความส่งไปในช่องแชทอยู่ เกิดความตกใจจนสะดุ้งโหยงหันกลับมามองแสนดีที่กำลังทำหน้าไม่พอใจอยู่
“พี่แสนดี มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมตกใจหมดเลย”
“เดี๋ยวนะ เมื่อกี้แกกำลังพิมพ์อะไรอยู่”
เป็นครั้งแรกที่แสนดีขึ้นเสียงดังขนาดนี้กับน้อง สายปลายทางเองก็ตกใจไม่ต่างจากแสนหล่อที่กำลังทำหน้าเหวอเพราะตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา แสนดีไม่เคยตะคอกเขาเสียงขนาดนี้มาก่อน ส่วนมากก็แค่ดุเล็กน้อย ตักเตือนหน่อยเท่านั้นเอง
“มีอะไรกันหรือเปล่าลูก”
“เดี๋ยวแสนดีโทรฯ กลับนะแม่”
พูดจบประโยคแสนดีก็วางสาย แล้วเดินอ้อมโซฟาเพื่อไปหาผู้เป็นน้อง แสนดีจับไหล่ผู้เป็นน้องเอาไว้ออกแรงบีบเล็กน้อยไม่ถึงกับเจ็บมาก แล้วเดินเข้ามานั่งที่โซฟาด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น แสนดีนั่งลงพยายามควบคุมสติและลมหายใจเพื่อไม่ให้ประสาทกินสมองไปมากกว่านี้หรืออาจจะต้องไปแก้ดวงจู๋ของตัวเองเพื่อไล่ปัดเป่าความโชคร้ายให้หมดสิ้นจะไม่ได้ไม่เจอเรื่องแย่ ๆ
“เอาล่ะ แสนหล่อ พี่ขอถามจริง ๆ เลยนะ อย่าโกหกพี่เข้าใจไหม”
แสนหล่อไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่พยักหน้าเท่านั้น
“แก ได้เอาไอดีในแทบเล็ตพี่ไปพิมพ์ด่าใครอะไร ยังไงหรือเปล่า”
แสนดีหมายถึงไอดีแอคเคาท์ของตัวเองที่เอาไว้ดูสตรีมเมอร์เกมในช่วงเวลาเบื่อ ๆ หลังจากทำงาน เขาจะเข้าแอปพลิเคชันเพื่อเข้าไปผ่อนคลายกายและจิตเพื่อดูเหล่าเกมเมอร์สตรีมเกม เขาติดตั้งแอปพลิเคชันและสมัครไอดีไว้ทั้งในแท็บเลต โทรศัพท์มือถือและแล็บท็อบของเขาเพื่อความสะดวกในการกดเข้าไปดู และไอดีที่เขาใช้สมัครแทบจะมีข้อมูลส่วนตัวของเขาครบถ้วนทั้งหมด
“ผม...”
แสนหล่ออึกอักไม่กล้าตอบ เด็กน้อยที่อายุสิบขวบกว่ารู้สึกไม่อยากพูดอะไรกับผู้เป็นพี่เพราะสายตาของคนเป็นพี่แทบจะฆ่าเขาอยู่ร่อมรอ เมื่อบรรยากาศเริ่มไม่เป็นใจให้ชวนสบายอารมณ์มากขึ้นจนแทบจะระเบิดอยู่ตรงนั้น แสนดีเมื่อเห็นน้องไม่กล้าที่จะพูดอะไร เขาก็รีบหยิบแท็บเล็ตเอามาเพื่อดูช่องแชทที่เด็กน้อยได้คุยพิมพ์กับใครสักคนในช่องแชท
“สวัสดีครับ ผมขอโทษที่เข้ามาเตือนคุณนะครับ เรื่องการพิมพ์คำหยาบบนช่องแชทสตรีมครับ”
“ผมจะขอเข้ามาเตือนเป็นครั้งสุดท้าย”
“ถ้าคุณยังล้ำเส้นผมอีก ผมจะขอทำการฟ้องเพื่อสิทธิของตัวเอง”
กับอีกข้อความมากมายที่เข้ามาตักเตือนเป็นครั้งสุดท้าย แต่พอแสนดีดูข้อความที่ตอบกลับไปมันทำให้เขารู้สึกช้ำใจจนเริ่มรู้สึกแทบจะนองน้ำตาออกมาเป็นเลือด
“นี้ แสนหล่อ น้องไปเอานิสัยแบบนี้มาจากใคร ทำไมต้องไปพิมพ์ด่าว่าเขาแบบนี้ด้วย”
แสนหล่อก้มหน้าลงไม่กล้าที่จะตอบ เขารู้ว่าตัวเองเป็นคนผิดและที่ทำไปครั้งนั้นก็เพราะเขาทำตามกระแสและประเด็นร้อนเรื่องที่ผู้ชายนักสตรีมเกมคนนี้ได้ไปวิจารณ์เกมที่แสนหล่อกำลังชอบเล่นอยู่และด้วยกระแสจากฝั่งของคนเล่นเกมนั้นที่เข้ามาต่อว่านักสตรีมเมอร์คนนี้หรือชื่อของเขาคือ ATP.GER เพิ่มพูนและล้ำเส้นมากขึ้นทำให้ ATP.GER ต้องทำเพื่อสิทธิของตัวเองโดยการไล่เรียงฟ้องคนที่เข้ามาต่อเสีย ๆ หาย ๆ ไม่มีเหตุผลไร้หลักการ
แสนดีปล่อยตัวลงนอนบนโซฟา เอามือก่ายหน้าผากของตัวเองด้วยความเครียดที่เพิ่มพูน สงสัยตัวเองก็คงต้องไปทำบุญหรือไม่ก็ไปแก้ดวงชงจริง ๆ แล้วแหละ
แสนดีกดเข้าเพื่อดูโปรไฟล์เพื่อดูกับคนที่เข้ามาฟ้องเขาแต่แล้วสายตาก็เบิกกว้างและเด้งตัวขึ้นมานั่งด้วยความตกใจทันที
คุณอนาธิป!
________________________________________________________________________________________________
อย่าลืมเข้ามาติดแท็กพูดคุย #บุพเพร้ายหมายรัก กันในทวิตเตอร์กันได้เลยนะค้าบ
Comments (0)